บทที่ 1
โดย : meowmao @หน้าโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง “พี่ไม้! เรียกอะไรดังขนาดนี้เล่า!” คนถูกเรียกเอ็ดกลับด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ขณะกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาอย่างรีบร้อน มือยังยกขึ้นกดกระโปรงนักเรียนไม่ให้ปลิวเพราะลมแรง “อะไรเล่า ก็เห็นเดินช้าจะไปเรียนสายอยู่แล้วเนี่ย” ใบไม้ยักไหล่ตอบหน้าตาย พร้อมยื่นถุงกระดาษขนาดกลางมาให้ “แล้วพลอยล่ะ? ไม่ออกมารับเองเหรอ?” ใบไม้มองซ้ายขวาหาคนที่เป็นเจ้าของของที่เขาเอามาให้ “ยุ่งอยู่ ซ้อมดรัมหนักมากกก” ใบชาตอบ พลางพยักเพยิดหน้าไปทางอาคารเรียนด้านใน “ไหนของล่ะ?” เธอแบมือเร่งเร้า “นี่แน่ะ…ของสำคัญเลยนะ ห้ามหล่นเด็ดขาด” เขายื่นกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ให้ด้วยท่าทางจริงจัง “ในนี้มีเครื่องสำอางของโปรดพลอยที่พี่สั่งให้มาใหม่ ถ้าตกแตกนะ แกจบเลย” “โอ้โห ของพลอย แต่ให้ฉันหอบแทนเนี่ยนะ? ไหนล่ะค่าฝาก!” ใบชาทำหน้าทะเล้นทันที มือยังไม่รับกล่องเสียที “ยัยเด็กแสบ…” ใบไม้บ่นงึมงำ ก่อนจะล้วงกระเป๋าแล้วหยิบแบงค์ห้าร้อยบาทออกมา แล้วยื่นให้กับใบชาอย่างเอือมในความง๊กของน้องสาวตัวแสบ “เอาไป ๆ ขนาดนี้ยังจะต่อมั้ย?” “จ่ายมาแบบนี้ก็ค่อยพูดกันรู้เรื่องหน่อย!” ใบชารับเงินก่อนจะคว้ากล่องของพลอยมาอย่างว่องไว “ช้าแล้ว! ชามีเรียนต่อนะ ไปละ!” เธอหันหลังกลับทันที วิ่งปรู๊ดไปยังอาคารเรียน “อย่าทำหล่นนะเว้ย ไอ้ชา!” เสียงตะโกนไล่หลังของใบไม้ยังดังตามมา “รู้แล้วน่า!!” ใบชาตอบกลับเสียงดังลั่น โดยไม่หันกลับมาเลยแม้แต่น้อย @สนามหญ้ากลางโรงเรียน “พลอยยย~” เสียงเล็กใสของใบชาเอ่ยเรียกเพื่อนด้วยน้ำเสียงสดใสปนตื่นเต้น ราวกับสายลมเช้าในวันอากาศดี พลอยแก้ว สาวน้อยหน้าหวานที่ควบตำแหน่งดาวโรงเรียน หันตามเสียงเรียกอย่างอ่อนโยน ก่อนจะคลี่ยิ้มละมุนออกมาอย่างน่ารักจนคนรอบข้างต้องแอบเหลียวมอง “อ้าวชา~ มาหาเราได้ยังไงเนี่ย? ชาไม่มีเรียนเหรอ?” เสียงหวานของพลอยแก้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจปนดีใจ ก่อนจะวางไม้ดรัมเมเยอร์ในมือพิงกับสแตนด์อย่างเบามือ แล้วเดินตรงมาหาเพื่อนด้วยท่าทีเรียบร้อยน่าเอ็นดู “มีสิ~ แต่แฟนเธอดันเอาของมาให้ ชาเลยต้องรีบวิ่งออกจากห้องมากะทันหันแบบนี้แหละ” ใบชาพูดพลางทำหน้าบูดใส่เพื่อนสาวอย่างน้อยใจ แต่พลอยแก้วกลับเพียงยิ้มหวานให้ ราวกับเอ็นดูท่าทีงอน ๆ ของน้องสาวแฟนสุดที่รักคนนี้ “ตอนจีบก็ใช้ชา ตอนคบกันก็ยังใช้ชาอีก นี่กะไม่ให้ชาพักหายใจเลยใช่มั้ยพี่ไม้เนี่ย!” ใบชาบ่นอุบอิบอย่างไม่จริงจังนัก ท่าทางขี้บ่นปนขี้เล่นของเธอเรียกเสียงหัวเราะจากพลอยแก้วได้อย่างง่ายดาย “พลอยหัวเราะชาเหรอ?” ใบชาหรี่ตาใส่พลอยแก้วอย่างจับผิด ริมฝีปากเม้มแน่นเหมือนจะเอาเรื่อง แต่ดวงตากลับแพรวพราวไปด้วยความขี้เล่น “เปล่านะ ๆ เราแค่เอ็นดูชาเฉย ๆ” พลอยแก้วรีบยกมือโบกไปมา พลางส่ายหน้าปฏิเสธแทบจะพร้อมกันอย่างลุกลี้ลุกลน ท่าทางดูทั้งน่าเอ็นดูและน่าหยิกในเวลาเดียวกัน “แล้วไป… อะ นี่ของที่พี่ไม้ฝากมาให้” ใบชาว่า พลางยื่นกล่องเล็ก ๆ ตรงหน้าให้เพื่อนสาวด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่สายตากลับซ่อนความล้อเลียนเอาไว้ พลอยแก้วรับกล่องนั้นไปอย่างแผ่วเบา ก่อนจะก้มหน้ายิ้มบาง ๆ อย่างขัดเขิน “เขินจัง…” เสียงหวานเอ่ยเบา ๆ ขณะสองแก้มเริ่มขึ้นสีระเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่ “งั้นชาไปก่อนนะ รบกวนพลอยนานแล้ว” ใบชาว่าพลางยกมือขึ้นโบกเบา ๆ ให้เพื่อนสาวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ พลอยแก้วเองก็ยิ้มหวานตอบ ก่อนจะโบกมือกลับอย่างอ่อนโยน ดวงตายังเปล่งประกายอ่อนละมุนเหมือนจะบอกว่า “ขอบคุณนะ” โดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยคำใด @ห้องเรียน “ไปไหนมาเนี่ย ครูใกล้จะเช็กชื่อแล้วนะ!” เสียงขมิ้นเอ่ยถามขึ้นทันที เมื่อเห็นเพื่อนสาววิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาในห้องเรียนด้วยท่าทางเร่งรีบ “เอาของไปให้พลอยมาน่ะ” ใบชาตอบพลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง ก่อนจะหยิบหนังสือเรียนออกมาวางบนโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว นิ้วเรียวกรีดเปิดหน้าหนังสือไปยังบทเรียนของวันนี้ด้วยความเคยชิน “อีกแล้วเหรอ?” ขมิ้นเอ่ยถามพร้อมกับทำสีหน้าเซ็งจัด เหมือนจะชินกับบทบาท “คนกลาง” ของเพื่อนสนิทเข้าไปทุกที “แล้วพี่คีย์ล่ะ? เขาได้ติดต่อแกมามั้ย?” คำถามของขมิ้นที่เอ่ยชื่อหนึ่งขึ้นมา ทำให้ใบชาชะงักไปทันที… ชื่อที่เธอพยายามหลีกเลี่ยง ชื่อที่เธอแทบจะลืมไปแล้วว่าเคยมีอยู่ในความทรงจำของเธอด้วยซ้ำ “ก็ตั้งแต่ปีก่อน…ก็ไม่มีการติดต่อมาอีกเลยนะ” ใบชาตอบเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงมองหนังสือตรงหน้า ราวกับต้องการซ่อนบางอย่างไว้ใต้เงาตัวอักษร ทันทีที่พูดจบ ภาพในอดีตก็ย้อนกลับเข้ามาในหัว หลังจากวันนั้นวันที่ใบไม้กลับมาจากไปหาคีย์ เขาไม่ได้พูดถึงพี่คีย์อีกเลย และที่หนักไปกว่านั้นคือคำพูดเด็ดขาดที่บอกให้เธอเลิกพูดถึงชื่อของเขาอีก แค่คิดถึงวันนั้น หัวใจก็หนักอึ้งขึ้นมา แววตาของใบชาหม่นลงอย่างห้ามไม่อยู่ แม้เธอจะพยายามเก็บอารมณ์ไว้มากแค่ไหน แต่กับขมิ้น เพื่อนสนิทที่รู้จักกันดียิ่งกว่าใคร ไม่มีทางหลุดพ้นสายตาไปได้แน่นอน “แกอย่าโทษตัวเองเลยนะ ชา…” เสียงของขมิ้นแผ่วลงเมื่อเห็นเพื่อนสนิทเงียบไปอีกครั้ง ดวงตาคู่นั้นหม่นเศร้าจนเธอเองยังรู้สึกหน่วงในใจไปด้วย “พลอย…เขาเป็นคนเลือกเอง เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของแกเลยสักนิด แกช่วยพี่คีย์มาก็ตั้งเยอะแล้วนะ” คำพูดของขมิ้นไม่ได้กล่าวขึ้นมาลอย ๆ แต่เต็มไปด้วยความจริงใจจากคนที่เฝ้ามองเรื่องราวทั้งหมดอย่างใกล้ชิด ปีกว่าแล้ว…ที่พลอยแก้วเริ่มคบกับใบไม้ ปีกว่าแล้ว…ที่ ‘คีย์’ หายไปจากชีวิตของใบชา และใบไม้อย่างไร้ร่องรอย ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ทั้งสามคนแทบไม่เคยแยกจากกันเลย เป็นเหมือนเงาของกันและกัน เป็นเพื่อน เป็นครอบครัว…และมากกว่านั้นสำหรับใครบางคน ขมิ้นมองเพื่อนสนิทตรงหน้า แม้ใบชาจะไม่พูดอะไรอีก แต่ความเงียบของเธอ กลับพูดแทนใจได้มากกว่าคำใด ๆ ทั้งสิ้น “ขมิ้นก็รู้นี่ว่าเรา…ทำอะไรลงไป” เสียงของใบชาเบาลงแทบกลืนหายไปกับลมหายใจ “ถ้า…วันนั้นเราเลือกที่จะช่วยพี่คีย์ มากกว่าพี่ไม้… บางที พลอยอาจจะเลือกพี่คีย์ก็ได้” คำพูดนั้นเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่สายตาของใบชากลับไม่ละจากหนังสือเรียนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อยราวกับพยายามหลบสายตาเพื่อนสนิท และซ่อนบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ในหัวใจมานาน ขมิ้นมองหน้าเพื่อนสนิท ก่อนจะถอนหายใจอย่างแผ่วเบาเธอรู้จักใบชาดี ดีพอจะเข้าใจทุกถ้อยคำ แม้เพื่อนจะไม่พูดออกมาตรง ๆ ก็คบกันมาตั้งแต่อนุบาล ขมิ้นไม่จำเป็นต้องถาม เพราะเธอรู้อยู่เต็มอกว่า… เพื่อนของเธอคิดอย่างไรกับ ‘คีย์’ คนที่เคยเป็นทั้งเพื่อนสนิทของพี่ชาย และ…บางทีอาจจะเป็นมากกว่านั้นสำหรับหัวใจของใบชา “ชา ฟังฉันนะ…” ขมิ้นพูดพลางเอื้อมมือไปแตะที่ไหล่เพื่อนสนิทอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงจริงจังและเต็มไปด้วยความห่วงใย “แกไม่ผิดเลย อย่าโทษตัวเองอีกได้มั้ย” เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะพูดต่อในสิ่งที่เพื่อนควรได้ยิน “แกแค่…รักพี่คีย์ ก็แค่นั้น มันไม่ผิดสักนิดที่แกเลือกจะช่วยพี่ไม้มากกว่า เพราะตอนนั้นแกเองก็เจ็บนี่ชา เจ็บที่ต้องเห็นคนที่ตัวเองรัก ไปชอบคนอื่น และต้องคอยช่วยทั้งพี่ไม้กับพี่คีย์ให้เขาได้ใกล้ชิดกับพลอย ทั้ง ๆ ที่หัวใจแกมันแหลกมาตลอดหลายปีแล้ว” เสียงของขมิ้นแผ่วลงเล็กน้อย ทว่ากลับแน่นหนักด้วยความรู้สึก เธอมองใบหน้าที่เศร้าหม่นของใบชาอย่างปวดใจ “ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ แกก็เป็นแบบนี้ตลอด…” เธอว่าต่อเบา ๆ “แกโทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เป็นความผิดของแกเลยสักนิดเดียว” “ถ้าวันนั้นเราช่วยพี่คีย์…” ใบชาเอ่ยเสียงเบา น้ำเสียงสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะกัดริมฝีปากแน่น “บางที…พี่คีย์อาจจะยังอยู่ตรงนี้ก็ได้…” เธอเงยหน้าขึ้นมองเพดานราวกับจะกลั้นหยาดน้ำตาที่เริ่มคลอในดวงตา “ไม่ใช่…หายไปแบบนี้ ย้ายโรงเรียนแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่แม้แต่จะบอกลากันสักคำ…” น้ำเสียงของเธอแผ่วลงเรื่อย ๆ ก่อนจะเอ่ยปิดท้าย “ถ้าเรารู้จักยับยั้งชั่งใจกว่านี้… รู้จักคิดให้รอบคอบกว่านี้… เรื่องพวกนั้นคงไม่เกิดขึ้นหรอก” “พี่คีย์น่ะ… ชอบพลอยก่อนพี่ไม้แท้ ๆ” เสียงของใบชาขาดห้วงเล็กน้อยเมื่อพูดถึงชื่อที่เธอพยายามลืม เธอหลุบตามองต่ำ ก่อนจะพึมพำประโยคถัดมาอย่างแผ่วเบา “แต่สุดท้าย… คนที่ได้หัวใจพลอยไป กลับไม่ใช่พี่คีย์…” ดวงตาคู่นั้นคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ความเจ็บที่เก็บงำไว้ไม่อาจปิดบังได้อีก “ถ้าวันนั้นเราไม่ยุ่งอะไรเลย… ปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมัน… บางทีทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้” “พอแล้ว ฉันไม่คุยเรื่องนี้แล้วนะ มันคืออดีต… ปล่อยให้มันเป็นอดีตไปน่ะ ดีแล้ว” ขมิ้นพูดพลางบีบมือเพื่อนเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มปลอบใจ “ตอนนี้เรามาตั้งใจเรียนกันดีกว่า อีกไม่กี่อาทิตย์ก็ต้องเริ่มเตรียมสอบแล้วนะ แกจำได้ใช่มั้ยว่าเราสองคนต้องติดคณะเดียวกัน สาขาเดียวกัน มหาลัยเดียวกันให้ได้! เค๊?” น้ำเสียงหนักแน่นแต่แฝงความห่วงใยทำให้ใบชาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ “อื้อ…” เสียงตอบรับเบา ๆ จากใบชาแทนคำสัญญา เธอไม่พูดอะไรอีกต่อไป เพียงแค่หยิบปากกาขึ้นมาเปิดหน้าหนังสือให้ตรงกับบทเรียน ก่อนจะพยายามตั้งสมาธิกับสิ่งที่ครูสอนอยู่ด้านหน้า แม้ในใจยังคงเจ็บแปลบอยู่บ้าง… แต่อย่างน้อย ก็ยังมีเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ เสมอ สองอาทิตย์ต่อมา “โห้ยยย! ข้อสอบโคตรจะยาก!” เสียงบ่นอุบของขมิ้นดังลั่นทันทีที่ก้าวพ้นประตูห้องสอบ สีหน้าบูดเบี้ยวอย่างไม่ปิดบังอารมณ์ ทำเอาใบชาที่นั่งฟังเพลงอยู่ล่างตึกต้องถอดหูฟังออกทันที “เฮ้ย แก! เป็นไรรึเปล่า ขนาดนั้นเลยเหรอ?” ใบชาถามพร้อมลุกขึ้นยืนมองเพื่อนสนิทที่เดินหน้าหงิกเข้ามาใกล้ “ไม่ใช่แค่ยากอะ มัน ยากมากกกกกกกก! ตัวเลือกก็หลอกตลอด กว่าจะเลือกได้แต่ละข้อหัวแทบแตก!” ขมิ้นโอดครวญพลางฟุบหน้าลงกับไหล่ใบชาอย่างหมดแรง “โอ๋ ๆ แกเก่งอยู่แล้วน่า อย่างน้อยก็ทำเต็มที่แล้วใช่มั้ยล่ะ?” ใบชาพูดปลอบใจพลางลูบหลังเพื่อนเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เต็มที่สิ…แต่ไม่เต็มคะแนนอะดิ ฮืออออ” ขมิ้นยังไม่วายประชดตัวเอง พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ไม่เป็นไรน่า ยังมีอนาคตให้สู้ต่อเว้ย!” ใบชาตบไหล่เพื่อนเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ “เอ้อ แล้วนี่สอบเสร็จแกมีไปไหนต่อปะ?” ขมิ้นที่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ก็รีบเอ่ยถามเพื่อนทันที สีหน้ากึ่งมีเลศนัย “ก็ว่าจะกลับไปนอนพักเอาแรง ทำไมอะ แกมีอะไร?” ใบชาตอบเพื่อนพลางเอามือเท้าคางนึกถึงหลายวันที่ผ่านมา เหมือนสมองจะยังไม่ฟื้นจากความเหนื่อยล้าหลังสอบเสร็จใหม่ ๆ แต่เสียงของขมิ้นก็ดึงเธอกลับมา “โนค่ะ! ยังไม่ถึงเวลาพัก เพราะฉันอยากไปเซอร์เวย์ห้างแถวมหาลัยที่เราจะไปยื่นกันเร็ว ๆ นี้” ขมิ้นพูดพลางกอดอกอย่างภูมิใจ ราวกับว่าตัวเองสอบติดเรียบร้อยแล้ว “โอ้โห… ยังกะขึ้นทะเบียนนักศึกษาปีหนึ่งแล้วอะ” ใบชาหัวเราะออกมาเบา ๆ แต่แววตาก็เต็มไปด้วยความเอ็นดูในความมั่นใจของเพื่อน “แน่นอนค่ะ! คนจะดัง ต้องวางแผนชีวิตให้เป๊ะ!” ขมิ้นเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างขำ ๆ ก่อนจะเดินเอามือโบกไปมาอย่างนางงาม “ก็ได้ ไปเซอร์เวย์ห้างก็ไป แต่ขอแวะกินของหวานก่อนนะ หิว!” ใบชาลุกขึ้นยืนบิดตัวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปยิ้มร้าย ๆ ใส่เพื่อนสนิท “เออ! เห็นด้วย! พรุ่งนี้ค่อยกลับมานอยด์เรื่องสอบ วันนี้กินให้สุดก่อน!” ขมิ้นตอบพลางคว้าแขนใบชาไว้ แล้วทั้งคู่ก็เดินออกจากตึกเรียนไปพร้อมเสียงหัวเราะเบา ๆ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นย่ำของเย็นวันสอบที่เพิ่งจบลง “ว่าแต่แกมั่นใจจังเนอะว่าเราสองคนจะติดที่มหาลัยนี่น่ะ” ใบชาถามพลางเดินออกมาที่หน้าโรงเรียนอย่างครุ่นคิด ก็แหม…มหาวิทยาลัยที่เธอกับขมิ้นเล็งไว้น่ะ ขึ้นชื่อเรื่องสอบเข้ายากสุด ๆ แทบจะทุกคณะ เพราะเป็นหนึ่งในสถาบันอันดับต้น ๆ ของประเทศ ยิ่งคณะที่เธอกับเพื่อนสนิทอยากเข้าด้วยแล้วล่ะก็ ว่ากันว่าเป็นคณะที่มีอัตราการแข่งขันสูงเป็นอันดับสองของมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว “โถ่ชา~ แกเชื่อเซ้นส์ฉันหน่อยสิ เซ้นส์ฉันไม่เคยพลาดนะ!” ขมิ้นพูดอย่างมั่นใจ พร้อมกับยื่นมือมาหยิกแก้มเพื่อนสนิทเบา ๆ เพื่อคลายความกังวลของอีกฝ่าย “ยังไงเราสองคนก็ต้องสอบติดนิติศาสตร์มอนี้ได้แน่นอน! ขนาดพี่ไม้ของแกยังสอบติดหมอที่นี่ได้เลย แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ล่ะ?” แม้คำพูดของเพื่อนจะฟังดูปลุกใจและให้ความหวัง แต่ในใจของใบชากลับอดคิดไม่ได้ว่า เธอไม่ได้เก่งเหมือนพี่ชายสักหน่อย… “โอ๊ย! เจ็บนะ ยัยบ้า!” ใบชาร้องออกมาพลางปัดมือเพื่อนออกเบา ๆ ก่อนจะลูบแก้มตัวเองป้อย ๆ ด้วยสีหน้าบูดบึ้งแบบแกล้ง ๆ “สรุปว่ายังไงแน่ ไปจริงใช่ไหมเนี่ย?” ขมิ้นหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันมาถามย้ำกับเพื่อนอีกครั้งด้วยแววตาเป็นประกาย “ก็ไปสิ! ขี้เกียจกลับบ้านด้วย กลับไปก็ไม่มีใครอยู่ด้วยนี่นา” ใบชาพูดพร้อมกับพยักหน้ารัว ๆ อย่างมั่นใจให้กับเพื่อนสนิท “พี่ไม้พาพลอยไปเที่ยวอีกแล้วแน่ ๆ” ขมิ้นพูดพร้อมกับทำหน้าเบื่อ ๆ เหมือนเจอเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ของพี่ชายเพื่อน “แล้วจะรออะไรล่ะ ก็ช่วงนี้พลอยว่างพอดีด้วย แบบนี้คงยาวแน่ ๆ เลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่านักศึกษาแพทย์ปี 2 เค้าไม่เรียนกันจริง ๆ หรือไง ถึงได้เที่ยวกันบ่อยขนาดนี้” ใบชาบ่นพลางทำหน้าเซ็งปนหงอยเล็กน้อย ความน้อยใจที่เก็บไว้ในใจค่อย ๆ เผยออกมาผ่านสีหน้าและน้ำเสียง ก่อนหน้านี้เธอเคยเป็นคนที่พี่ไม้พาไปเที่ยวบ่อย ๆ ไม่ว่าจะร้านอาหาร ร้านหนัง คาเฟ่ หรือแม้แต่ทริปเล็ก ๆ ก็มักมีเธอร่วมอยู่เสมอ แต่ตั้งแต่พี่ชายสอบติดหมอ ชีวิตก็เปลี่ยนไป เธอเริ่มถูกปล่อยให้อยู่คนเดียวบ่อยขึ้น และทุกครั้งที่พอมีเวลา พี่ไม้ก็มักเลือกใช้มันกับพลอยแก้วแทน “ช่างเขาเถอะ คนกำลังมีความรักอะเนอะ” ขมิ้นพูดพร้อมยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับแขนเพื่อนเบา ๆ “แกไปกับฉันก็ได้ เค๊? อย่างน้อยก็ยังมีฉันอยู่ตรงนี้นะ” ขมิ้นพูดพร้อมบีบแขนเพื่อนเบา ๆ อย่างปลอบใจ “จ้าจ้า แล้วตกลงจะไปกันกี่โมงล่ะ?” ใบชาตอบกลับพร้อมแกล้งทำเสียงประชดเล็กน้อย ก่อนจะเป็นฝ่ายเปลี่ยนเรื่องไปเอง เพราะเธอรู้ดีว่าไม่ควรเก็บเรื่องเก่า ๆ มาคิดให้เปลืองใจอีกต่อไป “ถ้ากินขนมกันเสร็จแล้ว งั้นไปเลยดีมั้ย?” ขมิ้นเอ่ยพลางหันมามองเพื่อนด้วยแววตาตื่นเต้นเล็ก ๆ “ก็ดีนะ” ใบชาพยักหน้าทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนดูพร้อมเต็มที่อยู่แล้ว “งั้นปะ ไปกันนน~” ขมิ้นพูดพลางเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น ราวกับกลัวว่าร้านขนมเจ้าประจำหน้าโรงเรียนจะปิดหนีหายไปเสียก่อน “รีบขนาดนี้ เดี๋ยวก็ลื่นล้มหรอก แม่คนติดขนม!” ใบชาตะโกนแซวเพื่อนที่เร่งฝีเท้าไปข้างหน้า ก่อนจะหัวเราะคิกกับท่าทางกระตือรือร้นราวกับเด็กของขมิ้น “ขนมร้านนี้คือกำลังใจของชีวิตเลยนะเว้ย!” ขมิ้นหันมาตอบทั้งรอยยิ้มตื่นเต้นในแววตา พลางชูสองนิ้วประกอบท่าทางอย่างภาคภูมิใจ ใบชาส่ายหัวพลางยิ้มมุมปาก รู้ดีว่าไม่มีอะไรจะหยุดขมิ้นกับของหวานได้เลยจริง ๆ End partบทที่ 7โดย : meowmaoไม่รู้ว่าใบชาทำเวรทำกรรมอะไรถึงต้องมาลงเอ่ยอยู่ที่อยู่ที่แคมป์ต้อนรับนิสิตเข้าใหม่ที่ถูกจัดขึ้นโดยรุ่นพี่หลากหลายคณะเป็นคนจัดขึ้น“โถ่ ชา… แกจะงอแงงทำไมมม เนี่ยยไอ้เสือยังไม่บ่นซักกกคำเลยนะ” ขมิ้นพูดก่อนจะโอบกอดเพื่อนรักอย่างง้องอน“ใครว่า มันบ่นฉันนี่ นู่นหน้าบูดเป็นตูดไก่อยู่นั่น” พราวว่าก่อนจะนั่งลงตรงข้าม และเสือเองที่ทำหน้าหงิกก็นั่งลงข้าง ๆ พราวอย่างเซ็ง ๆ“เอาน่าพวกแกก ถือซะว่ามาเที่ยวพักผ่อนไง เนอะๆ ” ขมิ้นว่าก่อนจะทำท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู แต่สำหรับใบชา และเสือนั้นคงน่าเอือมระอามากกว่า“แกรู้ใช่มั้ย ใครจัดงานนี้” ใบชาพูดก่อนจะที่ขมิ้นจะหันมายิ้มแหย่ ๆ ให้ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ“โน่นเลยคนอยากมา” ขมิ้นพูดก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางพราว ทั้งใบชาและเสือต่างก็หันมามองพราวเป็นตาเดียวพราวเองก็ได้แต่ยิ้มเยาะ ๆ“เก๊าเองง แงง คือแบบเราอยากมาอะ พวกแกจะทิ้งฉันมาคนเดียวจริงหรอออ?” ราวว่าก่อนจะทตาปริบ ๆ อย่างต้องการให้คนมองเห็นอกเห็นใจ“ฉันรู้แต่แบบ ฉันไม่อยากเจอพี่คีย์…” เมื่อพูดถึงบุคคลที่เป็นประเด็นเมื่อหลายวันก่อนทั้งโต๊ะก็เริ่มกลับมาเงียบอีกครั้ง ตอนนี้ทั้งเสือ
บทที่ 6โดย : meowmaoด้าน คีย์เสียงฝีเท้าดังสม่ำเสมอบนพื้นทางเดินหินอ่อนของอาคารเรียน กลุ่มชายหนุ่มห้าคนในชุดนักศึกษาสีขาวสะอาดตากำลังเดินเข้ามา พวกเขาคือ “กลุ่มดาวเด่น” ประจำคณะบริหาร ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม ทั้งหน้าตา ฐานะ และเสน่ห์ที่สะกดทุกสายตารอบข้างให้หันมามองแต่ในกลุ่มนั้น คนที่เดินนำหน้าอย่างเยือกเย็นที่สุด…คือเขา คีย์ หรือ อัครเดช นันทวัฒน์ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ดวงตาคมกริบเย็นชาที่เคยอ่อนโยนเมื่อในอดีต ตอนนี้กลับกลายเป็นเหมือน “กระจกที่ไร้แววสะท้อน” ไม่หลงเหลือแม้เศษเสี้ยวของผู้ชายอบอุ่นที่เคยเป็นและในไม่กี่วินาทีต่อมาปึก!เขาสะดุดเล็กน้อยเมื่อใครบางคนชนเข้าที่ตัวเขาโดยไม่ได้ตั้งใจหญิงสาวร่างเล็กเซไป ล้มลงกับพื้นทันทีพร้อมเสียงหอบเบา ๆ ที่หลุดออกมาคีย์หยุดเดิน…แววตาเย็นเฉียบก้มลงมองเธออย่างนิ่งงัน ไม่ได้รีบช่วย ไม่ได้ถามไถ่…เพียงแค่มองเธอเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนในพริบตา’ใบชา‘ชื่อของเธอผุดขึ้นในหัวแบบอัตโนมัติ แม้เขาจะพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาหญิงสาวที่เขาเคยไว้ใจที่สุด คนที่เขาเคยฝากความรู้สึกทุกอย่างไว้ โดยไม่คิดจะปิดบังเธอดูตกใจ ตกใจ
บทที่ 5โดย : meowmaoหนึ่งอาทิตย์ต่อมาเวลาผ่านไปไวราวกับโกหก นี่ก็ครบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ใบชาเริ่มต้นชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย หลังจากวันแรกจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่เคยเจอคีย์อีกเลย แม้บางครั้งจะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเขาผ่านหูมาบ้างก็ตาม“ชา” เสียงเรียบนิ่งตามสไตล์ของเสือ หนุ่มพูดน้อยผู้กลายมาเป็นเพื่อนใหม่ของใบชา ดังขึ้นข้างหลังขณะเธอกำลังนั่งรอเพื่อนอยู่ที่โต๊ะใต้อาคารเรียน“มาแล้วเหรอเสือ? คนอื่นยังไม่มาเลยนะ” ใบชาหันไปทัก พลางยิ้มบาง ๆ ให้เขา“อื้อ เห็นแล้ว” เสือตอบสั้น ๆ ตามแบบฉบับของเขา ทั้งคู่ต่างคุ้นชินกับการมาสายของขมิ้นและพราวจนไม่รู้สึกแปลกใจอะไรอีกแล้ว“พักนี้ขมิ้นเริ่มจะหนักข้อขึ้นทุกที” ใบชาว่าพลางถอนหายใจเล็กน้อย เธอเองก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ หลังจากที่ขมิ้นเริ่มติดใจการเที่ยวผับบาร์กับพราวมากขึ้น จนส่งผลให้มาสายแทบทุกวัน“อย่าคิดมากเลย ปล่อยให้เขาได้ใช้ชีวิตในแบบที่เขาชอบบ้าง” เสือพูดเรียบ ๆ พร้อมกับหยิบขนมจากในกระเป๋ายื่นให้เธอครึ่งหนึ่งตามเคยใบชารับขนมมาทันทีโดยไม่ต้องเอ่ยปากขอบคุณ เสือเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันที่สองที่รู้จักกัน—เขามักแบ่งขนมให้เธอเสมอ และเธอ
บทที่ 4 โดย : meowmao “ไม่อยากให้เปิดเทอมเลยอ่ะ ชา…” ขมิ้นพูดเสียงออดอ้อน ขณะเดินเข้ารั้วมหา’ลัยด้วยท่าทางห่อเหี่ยวผิดกับเมื่อวานลิบลับ เมื่อวานยังยิ้มร่า วิ่งวุ่นอยู่แทบทั้งวันอย่างกับมีพลังเหลือล้น แต่พอต้องเริ่มเรียนจริงจังกลับกลายเป็นบ่นไม่หยุดตลอดทางเสียอย่างนั้น… น่าหมั่นไส้ชะมัด “ไม่ต้องมาเลย ขมิ้นน…” ใบชาว่าพลางหัวเราะเบา ๆ “เมื่อวานรีบแทบตาย สุดท้ายก็หาเพื่อนไม่ได้สักคน” เธอส่ายหน้ายิ้ม ๆ เมื่อนึกย้อนถึงความวุ่นวายของเมื่อวาน ทั้งที่เดินวนไปทั่วซุ้ม เจอเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันนับไม่ถ้วน แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครได้คุยกันนานพอจะเรียกว่า “รู้จัก” ได้เลย ทั้งเธอทั้งขมิ้นก็เลยยังคงวนเวียนอยู่ในโลกของกันและกันเหมือนเดิม คนละชมรมก็จริง แต่ก็ยังไม่มีใครใหม่มาแย่งตำแหน่ง “เพื่อนสนิท” ไปได้อยู่ดี “โธ่… ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าการเข้าหาคนอื่นมันจะยากขนาดนี้” ขมิ้นบ่นพลางทำหน้าบูด เซ็งจนเห็นได้ชัด แม้ภายนอกจะดูร่าเริง เข้าถึงง่าย พูดเก่ง และดูไม่มีอะไรต้องกลัว แต่ในความเป็นจริง… ขมิ้นกลับกลัวการเริ่มต้นบทสนทนาใหม่ ๆ อยู่เสมอ เธออาจจะเดินเข้าไปหาใครก่อน เป็นคนเริ่มทักทาย หรื
บทที่ 3 โดย : meowmao สองอาทิตย์ต่อมา “กรี๊ดดด!!! เราสอบติดจริง ๆ ด้วย!!” เสียงร้องดังลั่นจนแทบทำแก้วหูแตก ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน นอกจากขมิ้นที่ตอนนี้แทบจะกระโดดออกนอกหน้าต่างห้องของใบชาเพราะความดีใจจนล้นปรี่ “เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้น!?” ใบไม้รีบวิ่งพรวดเข้ามาในห้องน้องสาวด้วยความตกใจ หลังได้ยินเสียงกรีดร้องเมื่อครู่ “พี่ไม้!!! ขมิ้นกับชาสอบติดนิติมอพี่แล้วนะ!!” ขมิ้นที่ตื่นเต้นจนแทบระงับความรู้สึกไว้ไม่อยู่ รีบบอกข่าวดีกับพี่ชายของเพื่อนทันที “จริงเหรอ?!” ใบไม้ถึงกับอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น เมื่อได้ยินข่าวน่ายินดีนั้น “จริงสิพี่! ขมิ้นเพิ่งเช็กจากเว็บมหา’ลัยมาเมื่อกี้เลย!” ขมิ้นยังคงกระโดดโลดเต้นอยู่กลางห้อง ใบชานั่งยิ้มกว้างอยู่ที่ปลายเตียง แม้จะไม่ได้แสดงออกมากเท่าเพื่อน แต่แววตาของเธอก็เปล่งประกายไม่แพ้กัน “สุดยอดเลยว่ะ! เก่งมากทั้งคู่!” ใบไม้เดินเข้าไปตบไหล่ขมิ้นเบา ๆ แล้วหันมายิ้มให้ใบชา “ยินดีด้วยนะชา ภูมิใจในตัวพวกเธอจริง ๆ” “ขอบคุณค่ะพี่ไม้” ใบชาเอ่ยตอบเบา ๆ แต่เต็มไปด้วยความตื้นตัน “แล้วนี่จะฉลองกันยังไงดีล่ะ?” เขาหันไปถามด้วยสีหน้าระริกระรี้ “ข้าว
บทที่ 2 โดย : meowmao @ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง “โห… ที่นี่ใหญ่มาก! มีร้านดังแทบจะครบทุกแบรนด์เลยอะ ใหญ่กว่าห้างแถวโรงเรียนอีกแน่ะ!” ขมิ้นพูดตื่นเต้น ดวงตาเปล่งประกายขณะหันซ้ายหันขวาสำรวจทุกมุมของห้างใหม่ “คอยดูนะ ฉันจะมาทุกวันเลย!” ใบชาเพียงเดินเคียงข้างเงียบ ๆ พลางฟังเพื่อนสาวบ่นเจื้อยแจ้วโดยไม่ได้พูดตอบกลับอะไร… แววตาเธอทอดมองไปไกล ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ “นี่ชา แกไม่คิดจะตื่นเต้นกับฉันเลยเหรอ?” ขมิ้นหันมาทำหน้ามุ่ยใส่เพื่อนสนิททันทีเมื่อเห็นอีกคนเงียบกริบไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ใบชาเหลือบตามองเพื่อนอย่างเหนื่อยใจ ‘‘อะไรอีกล่ะเนี่ย…’ เธอได้แต่คิดในใจอย่างเอือมระอา กับนิสัยขี้น้อยใจของขมิ้นที่แค่เธอไม่กรี๊ดกร๊าดด้วยก็ทำท่าเหมือนโลกจะถล่ม “ก็ตื่นเต้นแหละ…มั้ง” ใบชาพูดพลางยักไหล่เบา ๆ ก่อนจะปรายตามองเพื่อนสนิทที่ทำหน้าบูดอยู่ข้าง ๆ แล้วส่งยิ้มจาง ๆ ไปให้แบบคนเอือมแต่ก็ยังรักอยู่ดี “จะให้กรี๊ดบ้านแตกเหมือนแก ฉันก็ทำไม่ได้นะเว้ย” ใบชาพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ “เชอะ! เอ้ะ!” ขมิ้นกำลังจะงอนเดินหนี แต่กลับหยุดชะงักทันทีเมื่อสายตาไปสะดุดกับร่างสูงของใครบางคนที่เดินผ่