คิดถึง
หว่าหวาเล่าทุกอย่างให้ฉันกับภิสิงห์ฟังว่า เธอได้ให้ ร.ป.ภ บอกกับเทมโปว่าภิสิงห์ไปอังกฤษ เพราะคิดว่าเขาต้องไปหาพี่ชายของเธอที่บริษัทเพื่อถามเรื่องของฉันแน่ และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ เทมโปไปที่บริษัทภิสิงห์จริง ๆ และก็หลงกลไปตามฉันที่อังกฤษ ที่สำคัญเขาไปที่นั่นถึงสองเดือนเลยทีเดียว
"ทำไมหว่าหวาถึงคิดว่าเขาจะตามหาแกนล่ะ" พอเล่าจบ ฉันก็เอ่ยถามขึ้นทันที
"...." หว่าหวาไม่ตอบเลือกที่จะหันไปยิ้มกับภิสิงห์
"พี่กับหว่าหวาคิดว่า จริง ๆ แล้วเทมโปรักแกน...."เป็นภิสิงห์ที่พูดขึ้นเขาลอบหายใจเบา ๆ แล้วพูดต่อว่า
"...นายนั่นแค่ไม่รู้ใจตัวเองเท่านั้น" ว่าจบ ภิสิงห์ก็หันมาที่ฉันด้วยสายตานิ่ง ๆ
"ถ้าเทมโปเจอแกนแล้วขอร้องให้แกนกลับไป แกนจะ...."
"เรื่องระหว่างแกนกับเขามันจบแล้วค่ะ"ฉันแทรกตอบกลับก่อนที่ภิสิงห์จะพูดจบ แล้วก้มลงมองที่ท้องป่อง ๆ ของตัวเอง
"ตอนนี้แผลที่อยู่ในใจของแกนมันเริ่มหายดีแล้ว แกนไม่อยากให้เขากลับมาสร้างแผลใหม่ให้อีก"
"แกนไม่รัก...เทมโปแล้วเหรอ"หว่าหวาเอ่ยขึ้นแล้วมองหน้าฉันสลับกับหน้าท้องที่นูนออกมา
"...."ฉันคลี่ยิ้มเบา ๆ แล้วตอบกลับในใจว่า ยังรัก แต่มันอาจจะน้อยลง ตอนนี้ฉันกลับมารักตัวเองและลูกทั้งสองที่กำลังจะออกมาลืมตามากกว่า
"เฮ้อ.กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้วสินะเทมโป"ภิสิงห์พึมพำเบา ๆ พอได้ยิน
แม้ว่าทั้งภิสิงห์และหว่าหวาจะบอกว่าเทมโปก็รักฉัน แต่แค่เขาอาจจะไม่รู้ใจตัวเอง ถึงจะเป็นแบบที่สองพี่น้องพูด ในเมื่อฉันตัดสินใจออกไปแล้วคงไม่คิดจะกลับไปอีก เพราะก็ไม่รู้ว่าเขารักฉันจริง ๆ หรือต้องการแค่ให้ฉันกลับไปในสถานะเพื่อนที่สามารถมีอะไรกันได้อย่างที่ผ่านมา ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้นอีก
TemPo
ครืนนน ครืนนนน เสียงโทรศัพท์หรูราคาแพงดังเตือนหลายรอบจนชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของต้องพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ก่อนจะตัดสินใจกดรับ
"ฮาโหล"
(ไอ้น้องเวร! มึงมัวทำอะไรอยู่ทำไมไม่เข้ามาดูผับ)เสียงปลายสายตวาดใส่เสียงดังจนเขาต้องเอาโทรศัพท์ออกจากหู
"พี่รณ ผมฝากดูให้ก่อนได้ไหม"เทมโปเอ่ยเข้าไปในสายด้วยน้ำเสียงอ่อนแฝงความเห็นใจ
(เฮ้อ....)คนเป็นพี่ถอดถอนหายใจเสียงดังจนได้ยิน
(....แล้วมึงอยู่ไหน ไปหาแม่หรือยัง)
"ผะ ผม...ผมอยู่หน้าบ้านออร์แกน"
(ไอ้เทมโป! นี่มึง...) รณยังพูดไม่จบประโยคเทมโปน้องชายก็แทรกพูดขึ้น
"ผมต้องคอยเฝ้าไว้ เผื่อออร์แกนจะกลับมา"
(เฮ้อ..ไอ้น้องเวร! อย่าบอกนะว่าที่กูไปหาที่คอนโดไม่เจอก็เพราะว่ามึงมาเฝ้ารอออร์แกน?)คนเป็นพี่พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูหนักใจแฝงความเอือมระอาน้องชาย
"ครับ"เทมโปขานรับสายตาจ้องไปที่รั้วบ้านของหญิงสาวที่เขาเคยรังแกทั้งร่างกายและจิตใจมาตลอด แท้จริงแล้ว เขารักเธอ และรักเธอมาตลอด แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะสายไปหรือเปล่าที่เพิ่งจะรู้หัวใจตัวเอง
เทมโปขับรถมาจอดเฝ้ารอออร์แกนที่หน้าบ้านของเธอมาร่วมอาทิตย์ โดยไม่ขยับไปไหน เพราะกลัวว่าถ้าหญิงสาวกลับมาจะไม่เจอเขา
(นี่เป็นคำสั่ง! กลับบ้านเดี๋ยวนี้)
"ผมไม่กลับ" เทมโปสวนกลับราวกับเด็กดื้อรั้น
(ถ้ามึงไม่กลับ กูจะให้คน....) ติ๊ด คนเป็นพี่ยังพูดไม่จบประโยค คนน้องก็กดวางสายซะก่อน
"พี่ไม่เข้าใจผมหรอก"แล้วพึมพำกับหน้าจอโทรศัพท์
เทมโปกดหน้าจอโทรศัพท์เลื่อนไปยังรูปออร์แกนตั้งแต่สมัยที่เขาสองคนรู้จักกันใหม่ ๆ ภายในหัวของเขาก็นึกถึงวันวานที่ได้ใกล้ชิด พูดคุยกับเธอ ทำให้เขาคลี่ยิ้มให้กับรูปภาพในจอพร้อมกับหยดน้ำตา
"กลับมาได้ไหม กลับมาให้ฉันได้บอกว่า ฮึก...."
"...ฉันรักเธอจนหมดใจ"
เทมโปเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียจนกระทั่งเขาได้สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเคาะกระจกรถ พอลืมตาขึ้นก็พบกับพี่ชายคนรองที่ยืนเคาะกระจกด้วยสีหน้าเข้มดุ
"เปิดประตู"เสียงคำสั่งดังแว่วเข้ามาในรถ ทำให้เทมโปตัดสินใจเปิดประตูก้าวขาออกมาจากรถ แต่ทว่าด้วยความอ่อนล้า ร่างกายที่อดอาหารมาหลายวันทำให้เขาฟุ่บหมดสติลง รณจึงรีบคว้าตัวน้องไว้แล้วสั่งลูกน้องช่วยพาเทมโปไปยังโรงพยาบาล
ชายหนุ่มผมทองค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเห็นเพดานสีขาวก่อนจะกวาดสายตาไปรอบ ๆ ก็พบว่า เรอา ผู้เป็นแม่นั่งอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าเป็นห่วงแฝงความสงสารลูกชายที่เป็นคนเล็กของบ้าน ส่วนอีกมุมก็เป็น ทอร์ช ผู้เป็นพ่อนั่งอยู่บนโซฟาพูดคุยอยู่กับรณคนเป็นพี่ด้วยสีหน้าตึงเครียด
"เทมโป" เรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจเมื่อเห็นว่าลูกชายฟื้น ในขณะที่เทมโปพยายามหยัดกายลุกขึ้นแล้วกำลังจะดึงเข็มที่ปักอยู่ออก
"จะทำอะไร" เสียงทุ้มดุของผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นเดินมาที่เตียงพร้อมกับลูกชายคนรอง
"ผะ ผมจะไป...."
"พอได้แล้ว หยุดได้แล้ว.." ทอร์ชแทรกพูดด้วยสีหน้าเข้มดุ แล้วตวัดสายตาไปที่เรอา
"...ไม่สงสารตัวเองก็สงสารแม่แกบ้าง" ในขณะที่คนเป็นแม่นั่งมองลูกชายด้วยน้ำตาคลอเบ้า ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความรัก และเป็นห่วงเป็นใย
"แม่..."เทมโปเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แล้วโผเข้ากอดมารดาที่เป็นที่รัก
"...ผะ ผมขอโทษครับ" เรอาลูบหัวลูกชายที่ร้องไห้เหมือนกับตอนที่เขายังเด็กที่เคยทำความผิดแล้วต้องรีบขอโทษมารดา ทำให้คนเป็นแม่น้ำตาไหลออกมา
"ตัดใจซะนะลูก" ลูกชายคนเล็กผละจากกอดด้วยน้ำตาอาบแก้ม
"ผะ ผมรักออร์แกนครับแม่"
"บอกเอาตอนนี้ก็สายไปแล้วเทมโป...ออร์แกนไปจากแกแล้ว" ทอร์ชเอือมมาลูบหัวลูกชายด้วยความรู้สึกสงสาร
"เฮ้อ...ทำตัวเองแท้ ๆ" พี่คนรองบ่นพึมพำให้น้องชายแล้วส่ายหน้า
"ออร์แกนเลือกที่จะเดินไปข้างหน้าแล้ว...."
"...ปล่อยเธอไปเถอะนะลูก"
"ส่วนแกก็ปรับเปลี่ยนนิสัยตัวเองซะ จะได้ไม่มาเสียใจ และเจ็บปวดแบบนี้อีก"พอแม่พูดจบ คนเป็นพ่อก็พูดเสริมขึ้น
"ยังไงผมก็คงลืมออร์แกนไม่ได้"
ทั้งคนเป็นพ่อ แม่ และพี่ชายคนรองต่างพากันพ่นลมหายใจออกมา แล้วมองไปยังชายหนุ่มที่ยังมีสีหน้าเศร้าราวกับคนสิ้นหวัง ในใจก็ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือจะสมน้ำหน้าลูกชาย น้องชายคนเล็กของบ้านดี
เทมโปมีอาการไข้สูง ทำให้เรอาต้องเป็นคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะรู้ดีว่าเทมโปไม่กินยาชนิดเม็ด จึงต้องบอกกับพยาบาล ให้จัดยาชนิดน้ำให้กับลูกชาย เมื่อชายหนุ่มจ้องไปที่ยา ภาพวันที่เขาไม่สบายซึ่งตอนนั้นมีออร์แกนคอยดูแลก็ผุดขึ้นมาในหัว เขารับยามาจากแม่ของตนพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า
"คิดถึง" เทมโปพึมพำเบา ๆ แล้วยกกระดกยาชนิดน้ำกิน
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา