LOGINเขา...ไม่อาจหยุดไฟแค้นที่จะทำลายหัวใจเธอได้ และเธอ...ก็ไม่อาจหยุดหัวใจรักเขา แม้ถูกแผดเผาจนเหลือเพียงเถ้าธุลีด้วยเพลิงเสน่หา
View Moreไอแดดบางเบาลอดผ่านม่านเมฆที่คลี่ตัวอยู่เหนือแผ่นฟ้าสีครามในยามสาย ร่างบอบบางในชุดกระโปรงผ้าชีฟองเนื้อเบาหิ้วกระเป๋าเดินทางใบเล็กเดินเลียบไปตามเส้นทางซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและโรงแรมในย่านการท่องเที่ยวริมหาดนพรัตน์ธารา ที่ซึ่งหญิงสาวมุ่งตรงมายังจังหวัดกระบี่อย่างตั้งใจหากก็ไร้จุดหมายอันแน่นอน เรือนผมยาวเหยียดตรงสีน้ำตาลถูกมุ่นไว้ด้านหลังภายใต้หมวกปีกกว้าง
ดวงตากลมโตหลังแว่นกันแดดกรอบใหญ่มองไปข้างหน้าราวกับยังมองไม่เห็นสิ่งที่คาดหวัง บ่อยครั้งที่หญิงสาวเสียสมาธิหันไปมองของฝากสวยงามภายในร้านริมทางพลางคิดไปเรื่อยเปื่อย เมลิดาเฝ้าบอกตัวเองว่าตอนนี้เธอไม่ใช่นางแบบชื่อดังที่เจ้าของงานโชว์ตัวและงานเดินแบบเที่ยวตามหากันให้ควั่ก ทั้งยามนี้เธอก็ห่างไกลจากบ้านมาอยู่ในสถานที่ ๆ ดูเหมือนสงบสุขไกลจากเมืองหลวงและไกลจากความต้องการไร้สาระของทั้งบิดาและมารดาซึ่งยืนกรานให้เธอเข้าพิธีวิวาห์กับผู้ชายที่เธอไม่เคยเห็นหน้าค่าตา ไม่เคยแม้แต่จะได้ยินชื่อ เพียงรู้ว่าเป็นเจ้าของบริษัททำเหมืองทองคำและเจ้าของไร่องุ่นกว้างใหญ่ที่ต่างจังหวัด
“เขาชื่อ ทศภาค ภควัตณ์ เป็นเจ้าของเหมืองทองและไร่ภควัตณ์ที่ใหญ่มาก ๆ พ่อกับแม่ไม่ขออะไรเมย์นะลูก แค่รับปากว่าจะแต่งงานกับเขาเท่านั้นเอง”
“อะไรนะคะพ่อ!”
เมลิดายังได้ยินเสียงแหลมสูงของตนเองที่ตั้งคำถามกับสมพงษ์ผู้เป็นบิดาอย่างไม่เชื่อหูในสิ่งที่ได้ยินอยู่ในความคิด
“ตลกหรือคะพ่อ?.....เมย์ไม่รู้ว่าคุณพ่อล้ออะไรเมย์เล่น นี่มันเรื่องสำคัญนะคะ จะให้เมย์แต่งงานกับผู้ชาย...ชื่ออะไรนะคะ?....ทศภาค เมย์ไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อน หน้าก็ไม่เคยเห็น จู่ ๆ คุณพ่อจะให้หนูแต่งงานกับเขา ถึงเมย์จะเป็นนางแบบ ใช้ชีวิตสมัยใหม่ แต่เมย์ถือความรักเป็นเรื่องใหญ่ ไม่เคยทำตัวง่ายเรื่องผู้ชายนะคะพ่อ”
“เมย์ฟังเหตุผลของคุณพ่อก่อนสิลูก”
ปานระวีมารดาของเธอรีบเข้ามาไกล่เกลี่ยเมื่อเห็นว่าเมลิดาเริ่มฉุนเรื่องการแต่งงาน
“คุณพ่อก็มีเหตุผล อยากให้ลูกมีคนคอยดูแล แม่ว่า....มันก็ไม่ได้เลวร้ายหรอกนะ คุณทศภาคเป็นถึงเจ้าของบริษัททำเหมืองทองคำ ไร่ภควัตณ์ก็ใหญ่โตมาก เขายินดีที่จะ....เอ้อ...รับเมย์เป็นเจ้าสาว”
“ไม่ค่ะแม่!....คุณทศภาคอะไรของแม่นั่นน่ะเป็นประเภทเสี่ยหื่นกามหรือเปล่า อาจจะเห็นว่าเมย์เป็นนางแบบเลยอยากดัง พวกเศรษฐีเดี๋ยวนี้เขาชอบดารา แต่เมย์ไม่เอาด้วยนะคะ ยังไงเมย์ก็ไม่แต่ง เมย์เกลียดคนพวกนี้ที่สุด มีเงินก็ชอบใช้เงินซื้อผู้หญิง เมย์รับไม่ได้ค่ะ”
“แต่แกต้องแต่งงานกับเขา ยัยเมย์!”
บิดาของเธอลั่นเสียงใส่ทำให้เมลิดาถึงกับสติขาดกระเด็น เธอร้องไห้ออกมาและขึ้นเสียงตอบอย่างไม่ลดละ
“เมย์ไม่แต่งค่ะพ่อ!...อย่ามาบังคับเมย์!”
“แกคิดว่าชีวิตแกเหมือนเมื่อก่อนรึไง ถ้าฉันพูดออกไปแกอาจไม่เชื่อ ครอบครัวเรากำลังติดลบ ทุกอย่างที่มีกำลังจะกลายเป็นศูนย์ แกมันดื้อนัก แค่รับปากว่าจะแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งแกคงไม่ถึงกับต้องตาย แกก็ดีแต่ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า ไม่เคยรู้ว่าตอนนี้ครอบครัวเราเป็นยังไง ถึงยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับคุณทศภาค เพราะเขาเตรียมงานทุกอย่างไว้หมดแล้ว!”
เมลิดาไม่รู้ว่าป่านนี้บิดาของเธอจะเป็นเช่นไรบ้างหลังจากยื่นคำขาดและเธอก็ตัดสินใจให้ตัวเองอย่างเด็ดขาดเช่นเดียวกันว่าเธอจะไม่เข้าพิธีวิวาห์กับผู้ชายคนนั้น คนที่เธอไม่เคยรู้จัก และไม่อยากรู้จักไปตลอดชีวิต
“อุ๊ย!”
ความคิดของหญิงสาวต้องสะดุดลงเมื่อไหล่บางไปกระแทกกับร่างหนาของใครคนหนึ่งที่เดินสวนมาจนกระเป๋าในมือหล่นลงบนพื้น
“ขอโทษครับ....ผมเดินไม่ดูเอง”
เสียงทุ้มหนักทำให้เมลิดามองลอดผ่านแว่นกันแดดอันโตเพื่อดูหน้าเจ้าของเสียงชัด ๆ เขาเป็นชายร่างสูง ใบหน้าคมคาย นัยน์ตาเข้ม หนวดเคราบาง ๆ ขับเน้นความหล่อเหลาแม้ยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตแขนยาวและกางเกงยีนส์สีซีด รอยยิ้มจาง ๆ ระบายบนเรียวปากหนาได้รูปและเรือนผมดำขลับยาวระต้นคอขับเสน่ห์ของความเป็นบุรุษจนเธอสงสัยว่าใยลึก ๆ จึงรู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างประหลาด ชายหนุ่มก้มลงหยิบกระเป๋าให้เธอก่อนจะพูดขึ้น
“ไม่ทราบว่าคุณมาจากไหนหรือครับ....พลัดหลงกับคณะทัวร์หรือเปล่า?”
“เมย์มาเที่ยวค่ะ....มาคนเดียว ไม่เคยมาที่นี่หรอกค่ะ ว่าจะหาที่พักสักหน่อย แต่....ไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหน เมย์ไม่รู้จักใครเลย คือ...เมย์อยากหาที่พักสักระยะหนึ่งค่ะ”
เขาเงียบไปชั่วครู่และหันไปมองรอบ ๆ สถานที่ ๆ มีผู้คนเดินผ่านไปมาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
“ผมชื่อภูมินะครับ...อืม....ถ้าคุณ....”
“เมลิดาค่ะ....เรียกเมย์ก็ได้”
“ถ้าคุณเมย์ไม่รังเกียจ ผมรู้จักเจ้าของที่พักริมหาดฝั่งโน้น เขามีบังกะโลให้เช่า คุณอาจขอเช่าเป็นรายเดือน ถ้าคุณสนใจ”
เมลิดาถอดแว่นออก วินาทีนั้นเธอจึงเห็นประกายตาของชายหนุ่มตรงหน้ามองมาราวตกตะลึงไปชั่วขณะและเธอก็มองเห็นใบหน้าคมคายนั้นชัดเจน หญิงสาวมิอาจปฏิเสธได้เลยว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดูดีมากแค่ไหนทั้งก็รู้สึกถูกชะตาเจ้าของร่างสูงใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดความรู้สึกนี้กับใครมาก่อน หญิงสาวเดินตามผู้ชายที่ยินดีให้เธอเรียกเขาว่า ภูมิ ไปตามถนนที่ทอดยาวตามแนวชายหาดซึ่งไปบรรจบกับแนวสันเขาและมีหาดเล็ก ๆ ซ่อนตัวห่างออกไปจากหาดด้านนอกที่คำคล่ำไปด้วยรถราและผู้คน
เมลิดารู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ลมทะเลหอบเอากลิ่นหอมของผืนน้ำสีเขียวและหาดทรายสีนวลอาบไล้บนผิวขาวละมุนซึ่งโผล่พ้นชุดกระโปรงผ้าชีฟองบางเบา เธอรู้สึกยิ่งผ่อนคลายตัวเองลงจากความวุ่นวนภายในจิตใจที่เห็นชายหนุ่มแปลกหน้าทว่าดูอัธยาศัยดีช่วยหิ้วกระเป๋าจนไปถึงที่หมายซึ่งเป็นบังกะโลหลังเล็กริมหาด
เขารู้สึกว่าเธอยังมีไข้ต่ำ ๆ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงการตอบสนองของคนที่กำลังหลับใหลเมื่อแขนเรียวราวลำเทียนก่ายกอดเขาตอบ แม้ความเกลียดชังฝังแน่นมากเพียงใดหากเพียงชั่วขณะความกำซาบซ่านกลับหยั่งลึกลงไปถึงก้นบึ้ง แม้เพียงชั่วครู่ที่ความอบอุ่นฉายวาบขึ้นมาเหนือจิตสำนึกทว่าชายหนุ่มกลับยินดีต่อความรู้สึกของตัวเองยามได้อยู่แนบชิดร่างกายของคนที่เขาเพียรย้ำเตือนกับหัวใจว่ามิมีความผูกพันไดจะยึดเหนี่ยวเขาไว้ได้แสงแรกของวันใหม่ทำให้ร่างอรชรที่นอนสงบนิ่งอยู่ใต้ร่างสูงใหญ่เริ่มบิดกายไปมารับความรู้สึกซึ่งเริ่มตื่นตัวจากนิทรารมย์เมื่อพ้นห้วงราตรีมาบรรจบกับอีกวัน เมลิดารึกว่าผิวเนื้อของเธอเสียดสีกับผิวกร้านบนร่างล่ำสันกระทั่งเธอลืมตาเต็มที่และรับรู้ว่าร่าหนักอึ้งของทศภาคกำลังทาบทับอยู่บนตัวเธอ หญิงสาวพยายามดันตัวออกทว่าน้ำหนักของเขามิใช่น้อยกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ถูกแขนหนาใหญ่ทั้งสองรัดรึงจนเธอเขยื้อนตัวไม่ได้ทศภาคยังดูเหมือนงัวเงียเพราะใบหน้าของเขายังแนบอยู่บนแก้มของเธอ เมลิดาไม่ขยับตัวอีกเมื่อนึกได้ว่าเมื่อคืนเจ้าของร่างกายที่กดทับเธออยู่นี้ได้รับบาดแผลจากคมมีดที่เธอคิดว่าจะช่วยป้องกันตัวเองได้ ซึ่งก็เปล
พยาบาท...ฝังลึก ชายหนุ่มขบกรามจนนูนเป็นสัน เขาเห็นความแน่วแน่ในแววตาคู่นั้น แต่มือที่จับมีดของหญิงสาวยังไม่มั่นคงพอ “ผมรู้ว่าคุณไม่โกหก เมลิดา...คุณก็โหดเหี้ยมเหมือนพ่อคุณนั่นแหละ ฆ่าคนได้โดยไม่คิดปราณีแม้เพียงสักนิด พวกคุณมันเลือดเย็นเหมือนกันหมด!” “คุณต่างหากที่เลือดเย็น คุณทศภาค! คุณต่างหากที่ชอบทำร้ายคนไม่มีทางสู้ คุณมีความสุขเวลาเห็นคนที่คุณทำร้ายเสียใจ ฉันเกลียดคุณ!” “ถ้าอย่างนั้นคุณจะรออะไรอีกเมลิดา...แทงผมให้ตาย คุณก็จะได้เป็นอิสระ คุณอยากได้มันนักไม่ใช่หรือ แต่คุณระวังตัวให้ดี ตีงูอย่าให้หลังหัก เพราะมันจะกลับมากัดคุณจนตายเหมือนกัน!” เสียงเข้มของทศภาคสั่นไหวประสาทของหญิงสาวจนแตกกระเจิง เธอถอยหลังไปชนตู้เสื้อผ้าขณะที่เขาก้าวเข้ามาใกล้อย่างไม่นึกหวาดหวั่น เมลิดามือสั่นคล้ายกำลังจับโลหะแหลมคมนั้นไว้ไม่อยู่ แท้จริงเธอไม่กล้าแม้แต่จะมองคมมีดตรงหน้า และแท้จริงเธอคือผู้พ่ายแพ้ในการเดิมพันอันตรายนี้ “ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าระหว่างคุณกับผม ใครมันจะเลือดเย็นยิ่งกว่ากัน!”ดวงตากลมโตคู่นั้นเบ
หากเขาล่วงรู้สิ่งที่ครอบครัวของเธอทำไว้กับครอบครัวของเขา แทนจะเกลียดเธอได้เท่า ๆ กับพี่ชายของเขาที่ฝังความโกรธแค้นไว้ในหัวใจด้านชาดวงนั้นหรือไม่ เมลิดาโคลงศีรษะไปมาเพื่อสลัดความมึนงงจากพิษไข้ แต่แล้วสายตาคู่นั้นกลับเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างตกอยู่บนพื้นหญ้าที่ถูกตัดจนเหี้ยนเตียนมือเรียวบางเอื้อมไปหยิบของสิ่งนั้นขึ้นมาและเห็นว่ามันเป็นมีดพกสองคมแบบพับได้ เป็นมีดพกเนื้อดีที่ค่อนข้างหนักแต่กระชับมือ อาจเป็นของแทนทำหล่นไว้ก่อนเขาจะเดินออกไป เธอต้องเอาไปคืนเขา....แต่อย่าเพิ่งดีกว่าเมลิดา หญิงสาวกำมีดไว้ในมือ เธอน่าจะเก็บมันเอาไว้กับตัว มันอาจมีประโยชน์กับเอได้บ้าง คิดแล้วจึงสอดมันไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับไปยังไร่ซึ่งคนงานยังคงเก็บเกี่ยวผลองุ่นกันอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย “คุณเมย์ทานข้าวน้อยจัง คุณเมย์กลัวอ้วนใช่ไหมคะ?... ถ้าคุณเมย์อ้วนคุณภาคจะไม่รักคุณเมย์ใช่ไหมคะ?” เมลิดายกแก้วขึ้นจิบน้ำหลังจากวางช้อนในจานที่ยังมีข้าวเกือบเต็มก่อนจะหันมายิ้มให้น้ำตาล เด็กน้อยช่างสงสัยซึ่งอยู่ในชุดนอนสีหวาน “ฉันอิ่มแล้วล่ะน้ำตาล ทานอะไรไม่ค่อยลงด
ทศภาคเดินจากไปราวไม่แยแสต่ออาการป่วยไข้ของเมลิดา หญิงสาวมองตามแผ่นหลังกว้างของบุรุษผู้ทิ้งรอยเจ็บช้ำไว้บนไหล่ของเธอ เขาใจร้ายไม่พอยังใจดำทำอย่างกับเธอไม่มีความสำคัญอะไรเลย ซ้ำวันนี้ยังอุตส่าห์เดินมาที่นี่กับหญิงสาวแสนสวยดูเรียบร้อยคนนั้นเพียงเพื่อใช้วาจาเหยียดหยันเยาะเย้ยความอ่อนแอของเธอเขาจะรู้บ้างไหมว่าเมื่อคืนเธอนอนไม่หลับทั้งคืนแม้เขาจะกอดเธอไว้เช่นนั้น และเช้านี้ช่างเป็นเช้าที่แสนทรมานเพราะหญิงสาวเจ็บร้าวไปหมดจากรอยแผลอันเกิดจากความเกลียดชังของเขา เมลิดายกแขนข้างนั้นไม่ขึ้นและเพียงบอกนายช่วงว่าเป็นไข้ด้วยไม่กล้าบอกใครว่าเธอถูกเจ้าของไร่ภควัตณ์ทำร้ายอย่างไรบ้าง “เธอชื่อกีรติ ครับ เป็นลูกสาวท่านผู้หญิงรัสสิกาเจ้าของที่ดินติดกับไร่ของเรา” “คุณกีรติหรือคะ? เธอสวยน่ารักดีนะคะ ดูเรียบร้อยเป็นกุลสตรีมาก ๆ “ เมลิดาหันมากล่าวกับแทนก่อนที่ทั้งสองจะนั่งลงบนผืนหญ้าใต้โคนไม้อีกครั้ง ชายหนุ่มมองใบหน้าซีดทว่ายังดูงดงามของหญิงสาวแล้วปล่อยลมหายใจดังพรืด “ไม่ใช่แค่กุลสตรีนะครับ ผู้ดีจ๋า เนี้ยบไปทุกกระเบียดอย่างกับออกมาจากในวัง อืม...