Share

บทที่ 9 สอบถามความชอบ

last update Last Updated: 2025-10-24 13:33:28

ยามนี้เสิ่นหลานกำลังล้มลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น ใบหน้าของเขาซีดขาว ขาข้างที่กำลังจะยกขึ้นมาเยียบมือนางได้ถูกตัดจนขาด โลหิตพุ่งกระฉูดออกมาจากขาของเขาราวสายน้ำไหล เมิ่งอ้ายเยว่ยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าตนแล้วเอามาดู เมื่อเห็นว่ามันคือเลือด นางก็รู้สึกผะอืดผะอมขึ้นมา

"กฎของแคว้นเยี่ยมีอยู่ว่า ผู้ใดรังแกข่มเหงสตรีต้องถูกลงโทษอย่างหนัก เจ้าคิดจะเยียบมือนาง และยังอวดอ้างบารมีของบิดาตนมาข่มเหงคนที่ต่ำต้อยกว่า นับว่าไม่ถูกต้อง ในเมื่อมีขาแล้วไม่เอาไว้เดินดีดี ก็ตัดทิ้งไปซะเถอะ!"

เมิ่งอ้ายเยว่รู้สึกว่าเสียงนี้ช่างฟังดูคุ้นหูยิ่งนัก จึงรีบหันขวับมามอง

"น้องชาย!"

ซือหม่าอี้เฉินละสายตาจากเสิ่นหลานและหันมาสบตากับเมิ่งอ้ายเยว่ ก่อนจะเอ่ยทักทายนางด้วยน้ำเสียงสดใส

"พี่สาว เราพบกันอีกแล้วนะ โอว เลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่บนหน้าท่านช่างดูดีเหลือเกิน ท่านในยามนี้ช่างเหมือนกับเทพธิดาปีศาจที่จำแลงกายมายังแดนมนุษย์เลย งามนัก! เป็นเช่นไร? ข้าสั่งให้คนตัดขาไอ้เวรนั่นให้แล้ว ท่านพอใจหรือไม่ ดูนั่นสิ ขาข้างที่ขาดของเขากระเด็นตกไปในแม่น้ำแล้ว ท่านอยากเห็นหรือไม่ ข้าจะให้คนลงไปงมขึ้นมาให้ท่านชม?"

เมิ่งอ้ายเยว่"..."

น้องงมขึ้นมาชมเองเถอะจ๊ะ!

เมิ่งอ้ายเยว่รู้สึกขนลุกขนชันนัก นางรีบใช้มือวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าอย่างรวดเร็ว ด้านซือหม่าอี้เฉินก็หันไปสั่งให้คนหามเสิ่นหลานไปโยนทิ้งเอาไว้ที่หน้าโรงหมอ เพราะรำคาญเสียงร้องโหยหวนของเขา อย่างไรเจ้าเวรนั่นก็ไม่เคยเจอหน้าเขา ต่อให้ไปฟ้องบิดาก็หาตัวคนทำไม่พบ ถึงพบแล้วอย่างไรเล่า?

ชายหนุ่มยิ้มเยาะหยัน จากนั้นก็เดินตรงมาหาเมิ่งอ้ายเยว่ทันที

“เหตุใดจึงไม่ขึ้นมาเล่า หรือท่านอยากจะลองเป็นปลาในน้ำ พอดีเลย ข้าก็อยากลองเป็นปลาดูเหมือนกัน รอสักครู่ ข้าจะกระโดดลงไปเล่นด้วย”

เมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับกุมขมับ เด็กนี่ทั้งแสบทั้งซน เห็นทุกอย่างเป็นเรื่องสนุกหมดทุกอย่าง นางรีบยกมือขึ้นปรามเขาอย่างรวดเร็ว

“ช้าก่อน ข้าขึ้นไม่ได้ เสื้อข้าบางมาก ยิ่งโดนน้ำ ยิ่ง เอ่อ.”

เมิ่งอ้ายเยว่ไม่รู้ว่าจะอธิบายเช่นไรดี นางกระอักกระอ่วนยิ่ง ซือหม่าอี้เฉินเมื่อเห็นเช่นนั้นก็พอเข้าใจความทุกข์ของนางได้ จึงดึงตัวนางขึ้นจากน้ำด้วยมือเดียวจากนั้นก็รีบถอดเสื้อคลุมของตนมาคลุมตัวนางเอาไว้ เขาทำทุกอย่างรวดเร็วยิ่ง เมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับรู้สึกทึ่งในใจ เขาดึงตัวนางขึ้นจากแม่น้ำด้วยมือเดียวได้ ต้องแข็งแรงปานใดกัน

"ขอบคุณมากนะอาอี้"

ซือหม่าอี้เฉินพยักหน้าอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ แล้วจึงเอ่ยถามนางด้วยความสงสัย

"หากข้าไม่บังเอิญผ่านมาทางนี้ พี่สาวจะทำเช่นไร?"

"กลั้นใจตายในน้ำ กลายเป็นอาหารของปลา"

ซือหม่าอี้เฉิน "..."

อยู่ๆ เขาก็หัวเราะชอบอกชอบใจออกมาจนเมิ่งอ้ายเยว่พูดไม่ออก ตอนนี้นางเริ่มจะหนาวสั่นขึ้นมาเสียแล้ว เมื่อครู่ตอนแช่อยู่ในน้ำยังไม่รู้สึก พอขึ้นจากน้ำจึงพบว่าร่างกายสั่นเทาน้อยๆ ซือหม่าอี้เฉินมองนางหนหนึ่งแล้วจึงเอ่ยถาม

“หนาวหรือ พี่สาว”

“นิดหน่อย ข้าว่าจะไปร้านผ้าแถวนี้ หาซื้อเสื้อผ้ามาเปลี่ยนสักชุดแล้วค่อยกลับจวน”

นางเอ่ยเสียงสั่น แล้วจึงเดินจากมาอย่างทุลักทุเล แต่เพิ่งจะเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็รู้สึกเหมือนร่างกายตนเองกำลังลอยหวืดขึ้นกลางอากาศ รู้ตัวอีกทีก็พบว่าตนเองกำลังถูกใครบางคนอุ้มขึ้นพาดบ่าเสียแล้ว

“พี่สาว ไปโรงหมอกันเถอะ”

“ช้าก่อน ให้ตายเถอะ เจ้าแบกข้าเช่นนี้ไม่ได้ ชายหญิงไม่ควรชิดใกล้”

“อ้อ แต่พวกเราคือพี่สาวและน้องชาย ไม่นับๆ”

เมิ่งอ้ายเยว่หมดคำจะกล่าว น้องชาย พวกเราไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ สวรรค์! คอนเท้นต์พี่สาวน้องชายวิ่งเข้าใส่นางอีกแล้ว!

เมิ่งอ้ายเยว่หมดคำจะกล่าว นางยกมือขึ้นปิดหน้าตนเพื่อไม่ให้ผู้อื่นจำได้ แต่ไม่รู้ว่าวิธีนี้จะได้ผลหรือไม่

ซือหม่าอี้เฉินพานางมาที่โรงหมออย่างรวดเร็ว ซึ่งโรงหมอแห่งนี้คือที่เดียวกันกับที่นางเคยพาสองแม่ลูกมารักษา เขาสั่งให้คนหาชุดมาให้นางเปลี่ยน และยังเอาน้ำขิงร้อนๆ มาให้ดื่มอีกด้วย แล้วยังกำชับท่านหมอว่าให้ตรวจดูนางอย่างละเอียด

เมื่อเห็นว่านางไม่เป็นอันใดมากแล้ว เขาก็วางใจได้ ชายหนุ่มพานางมานั่งผิงไฟที่ด้านหลังโรงหมอ ท่านหมอเองก็นำชาชั้นดีและขนมมาให้นางกินรองท้อง ก่อนจะกลับไปตรวจคนไข้ต่อ เมื่อท่านหมอไปแล้วยามนี้จึงเหลือนางและเขาเพียงสองคน

“เจ้าคงคุ้นเคยกับโรงหมอแห่งนี้มากเลยนะ ถึงเข้าออกได้ตามใจชอบ”

“อืม ก็คุ้นเคยอยู่ไม่น้อย ว่าแต่ท่านเป็นเช่นไรบ้าง ดีขึ้นหรือไม่?”

เขาเอ่ยถามพลางเทน้ำขิงร้อนส่งให้นางอีกถ้วย เมิ่งอ้ายเยว่รับมาดื่มและพยักหน้าเล็กน้อย

“อืม ดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณมากนะ”

นางค่อยๆ ดื่มน้ำขิงอย่างไม่รีบไม่ร้อน เดิมทีนางอยากจะกลับจวนเลย แต่เร่งรีบไปก็เท่านั้น เอาเถอะ หากเถียนฮูหยินอยากด่าก็เชิญด่าไปเลย

“อาอี้ เจ้าทำร้ายบุตรชายขุนนางเช่นนี้ จะไม่เป็นอันใดจริงหรือ?”

นางเอ่ยถามเขาด้วยความเป็นห่วง นางไม่อยากให้เขาต้องมาเดือดร้อนเพราะนาง แต่ดูเหมือนชายหนุ่มตรงหน้าจะไม่ได้หวาดเกรงเลยแม้แต่น้อย

“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เป็นอันใดหรอก ท่านต่างหากที่ต้องระวังให้มากกว่านี้ ต่อไปถ้าจะช่วยคน ควรต้องคำนึงถึงตนเองก่อน อย่าช่วยคนอื่นจนตนเองลำบาก คนบางคนน่ะ นอกจากจะไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งแล้ว กลับจะมองท่านเป็นตัวน่าขบขันเสียด้วยซ้ำ"

เมิ่งอ้ายเยว่มองซือหม่าอี้เฉินด้วยแววตาวูบไหว วันนี้เด็กนี่พูดจามีสาระดี บางคราก็เหมือนเด็กดื้อจอมเสเพล แต่มันกลับทำให้คนรู้สึกหลงใหลอย่างน่าประหลาด

“จะมองอีกนานหรือไม่ มองข้าด้วยสายตาลึกซึ้งปานนี้ อยากได้ข้าเป็นสามีหรือ”

เมิ่งอ้ายเยว่แทบจะสำลักน้ำชาทันที

“เหลวไหล”

ซือหม่าอี้เฉินรู้สึกขบขันไม่น้อย เขาหมุนถ้วยชาในมือเล่นไปมาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสนทนากับนาง

“ได้ยินว่าฮ่องเต้ทรงพระราชทานของรางวัลให้ท่าน ชอบหรือไม่?”

เมิ่งอ้ายเยว่นิ่งงันไปชั่วครู่แล้วจึงเงยหน้ามามองเขา

“เจ้ารู้ได้เช่นไร?”

“เมืองหลวงก็แคบออกปานนี้”

เมิ่งอ้ายเยว่ที่ได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้าช้าๆ

“ชอบ”

“ชอบสิ่งใดที่สุด?”

“เตียงกับของกิน”

“อย่างอื่นไม่ชอบหรือ?”

“ก็ชอบ ว่าแต่เจ้าจะถามซักไซ้ข้าไปทำไมกัน?”

นางเอ่ยถามเขากลับไปด้วยความสงสัย แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับมองนางด้วยสายตาที่ล้ำลึก

“ข้าเพียงอยากรู้ หากท่านชอบเหตุใดไม่ใช้ของพวกนั้นเล่า ข้าได้ยินว่ามีทั้งผ้าแพรชั้นดีที่สามารถเอาไปตัดชุดงามๆ ได้ แล้วยังมีเครื่องประดับสวยงามอีกมากมายเลยมิใช่หรือ?”

“เจ้านี่รู้ดีไปเสียทุกอย่างเลยนะ เป็นเทพเซียนหรือ เห้อ เดิมทีข้าก็ชอบทุกอย่างนั่นแหละ อาอี้ เจ้าอย่าไปบอกผู้ใดเชียว ข้าเห็นว่าเจ้าเป็นสหายสนิทจึงยอมเล่าให้เจ้าฟัง คือว่าท่านแม่ของข้าน่ะ นางบอกว่าจะเก็บของพวกนั้นเอาไว้ให้ข้า ข้าปฏิเสธไม่ได้ จึงยอมๆ นางไป แต่ข้าก็เลือกผ้าแพรและเครื่องประดับที่ข้าชอบมาเก็บเอาไว้ไม่น้อยเลยนะ ส่วนที่เหลือก็ช่างมัน หากนางอยากได้ก็เอาไปเถอะ ข้าไม่ได้โลภมากปานนั้น”

ซือหม่าอี้เฉินฟังจบก็ส่งเสียงหัวเราะหึหึในลำคอ

“อ้อ ท่านใจกว้างดีนี่”

“ไม่ใจกว้างได้หรือ ข้าว่าเจ้าคงจะรู้เรื่องราวของข้ามาไม่น้อยกระมัง ข้าเพียงอาศัยบ้านเขาอยู่ สิ่งใดยอมได้ข้าก็ไม่อยากมีปัญหา เอาล่ะ ข้าต้องกลับจวนแล้ว ไว้พบกันใหม่ วันนี้ขอบคุณเจ้ามาก อ้อ เจ้าอย่าเอาเรื่องนี้ไปเล่าต่อที่ใดเล่า เป็นความลับของเราสองคนนะน้องชาย”

“ได้สิ”

เมิ่งอ้ายเยว่ยิ้มให้เด็กหนุ่มอีกหน เมื่อหายหนาวแล้วนางจึงขอตัวจากไปทันที ซือหม่าอี้เฉินมองตามนางไปอย่างไม่ลดละ แววตาของชายหนุ่มฉายแววเย็นชาขึ้นมาเล็กน้อย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 50 จบบริบูรณ์

    หลังจากพิธีฉลองการอภิเษกสมรสผ่านพ้นไปแล้ว ทุกคนก็กลับไปใช้ชีวิตเฉกเช่นปกติตามเดิม หลังจากที่ซือหม่าอี้เฉินแต่งงานกับอวี๋อ้ายเยว่ได้ไม่นาน ซือหม่าตงและอวี๋ลู่เหลียนก็เข้าพิธีแต่งงานกันทันที หลังจากผ่านงานแต่งงานมาแล้วคนทั้งสองก็เดินทางเข้าวังหลวงมาเพื่อสนทนาพูดคุยกับซือหม่าอี้เฉินและอวี๋อ้ายเยว่อวี๋อ้ายเยว่และอวี๋ลู่เหลียนนั้นนั่งสนทนากันกันอยู่อีกมุมหนึ่งของตำหนัก ส่วนซือหม่าอี้เฉินและซือหม่าตงก็นั่งสนทนากันอยู่ที่โต๊ะทรงอักษรไม่ไกลจากสตรีทั้งสองมากนัก"อาตงข้าจะมอบตำแหน่งชินอ๋องให้กับเจ้า"ซือหม่าตงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับพ่นชาร้อนออกจากปากทันที เขาวางถ้วยชาลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองพี่ชายตนอย่างหมดอาลัยตายอยาก"เสด็จพี่ ข้าไม่อยากเป็นชินอ๋องท่านก็รู้นี่ ข้าไม่อยากทำงานในราชสำนัก ข้าไม่อยากร่วมประชุมยามเช้า ข้าอยากอยู่แต่กับเมียข้า""ค่าจ้างเป็นชินอ๋องเดือนละหนึ่งพันตำลึง ไม่ต้องประชุมยามเช้า อยากไสหัวไปทำอันใดก็ไป เพียงแค่เป็นชินอ๋องหุ่นเชิดให้ข้าก็พอ ไม่เช่นนั้นคนนอกจะหาว่าข้าตระหนี่แม้กระทั่งตำแหน่งชินอ๋องที่ควรจะเป็นของน้องชาย ข้าไม่อยากถูกคนเอาข้าไปนินทาว่าไม่รักพี่รักน้อง"ซือห

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 49 แต่งงาน

    เมื่อสงครามจบสิ้นลง บ้านเมืองก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง คนชั่วถูกปราบปรามจนสิ้นซากไม่เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว เหล่าช่าวบ้านต่างกู่ร้องยินดีกันถ้วนหน้าซือหม่าอี้เฉินทิ้งทหารเอาไว้ที่ชายแดนทางทิศเหนือหลายหมื่นนายเพื่อคอยดูแลความปลอดภัยของชาวบ้าน ส่วนราษฎรแคว้นฉีนั้นต่างยอมสวามิภักดิ์ต่อเขาอย่างไม่มีข้อแม้ อีกทั้งยังบอกว่าซือหม่าอี้เฉินเปรียบเสมือนเทพเซียนมาโปรด ที่ช่วยสังหารฉีอ๋องจนตกตายไปได้ เพราะที่ผ่านมาฉีอ๋องเอาเปรียบราษฎรไม่หยุดหย่อน อีกทั้งยังทำชั่วเอาไว้มาก ที่ผ่านมาก็ปกครองบ้านเมืองด้วยความอำมหิต เมื่อฉีอ๋องตกตายไป พวกเขาก็ถือว่าได้หลุดพ้นจากนรกขุมนี้เสียทีเมิ่งอ้ายเยว่รู้สึกดีใจยิ่งนักที่สงครามครานี้จบลงด้วยการที่แคว้นเยี่ยเป็นฝ่ายกุมชัยชนะ เมฆหมอกดำได้ผ่านพ้นไปจนหมดสิ้นแล้ว ยามนี้ได้เวลาเริ่มต้นใหม่เสียทีเมื่อสะสางเรื่องที่ชายแดนจบสิ้น ซือหม่าอี้เฉินและเมิ่งอ้ายเยว่ก็เดินทางกลับเมืองหลวงในทันที เมื่อกลับมาถึงเขาก็ปูนบำเหน็จให้กับเหล่าขุนนางที่มีความดีความชอบอย่างสมเกียรติ ส่วนขุนนางที่ได้รับผลกระทบก็ได้รับการปลอบประโลมเช่นเดียวกัน ไป๋จิ่งหยวนและหลี่หรงได้รับการปูนบำเหน

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 48 -2 สงครามใหญ่

    กลางดึกเขาสั่งให้คนลอบไปเผาคลังเสบียงในค่ายทหารของฉีอ๋อง ทั้งค่ายพลันวุ่นวายขึ้นมาทันที ซือหม่าอี้เฉินจึงใช้โอกาศนี้ไปแย่งชิงตัวซือหม่าตงกลับมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ง่ายนัก กว่าจะแย่งตัวคนมาได้ ฉีอ๋องก็รู้ตัวเสียแล้ว และได้ส่งทหารจำนวนหนึ่งออกมาจัดการกับซือหม่าอี้เฉิน ซือหม่าอี้เฉินรีบสั่งให้คนพาซือหม่าตงกลับเข้าชายแดนแคว้นเยี่ยโดยเร็วส่วนเขาและหลี่หรงก็รับมือกับทหารของฉีอ๋องเพื่อถ่วงเวลาให้น้องชายกลับเข้าเมืองไปได้อย่างปลอดภัยเมิ่งอ้ายเยว่และอวี๋ลู่เหลียนที่รออยู่ก่อนแล้วเมื่อเห็นว่าซือหม่าตงถูกช่วยกลับมาได้แล้วจึงสั่งให้คนตามท่านหมอมารักษาเขาทันที ด้านซือหม่าตงและหลี่หรงก็อาศัยโอกาสนี้โจมตีฉีอ๋องไม่หยุด ยามนี้ทหารของฉีอ๋องถูกสังหารไปไม่น้อย อีกทั้งคลังเสบียงก็มาถูกไฟเผา ฉีอ๋องจึงโกธรแค้นมาก และประกาศก้องว่าจะออกรบสังหารซือหม่าอี้เฉินและหลี่หรงด้วยตนเอง!ซือหม่าตงถูกพาตัวมารักษาโดยมีอวี๋ลู่เหลียนคอยจับมือเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ซือหม่าตงแม้จะเจ็บหนักแต่ยังพอมีสติอยู่บ้าง เขาหันมามองอวี๋ลู่เหลียนและยิ้มให้นางอย่างอ่อนล้า"ลู่เหลียน""ข้าอยู่นี่แล้ว ฮึก เจ้าอย่าเพิ่งพูดอันใดให้มากความเลย

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 48 -1สงครามใหญ่

    เมื่อมีเรื่องดี ย่อมต้องมีเรื่องร้ายตามมายามนี้ชายแดนทางเหนือกำลังเกิดสงครามประทุขึ้นอย่างหนัก ส่วนชายแดนทางใต้ก็มีคนของอู่อ๋องที่รอดชีวิตจากสงครามหลายปีก่อนกำลังก่อความไม่สงบหมายจะช่วงชิงชายแดนคืน ซือหม่าอี้เฉินที่แต่ไหนแต่ไรมักทำตัวตามสบายมาโดยตลอด กลับมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาเรียกให้ขุนนางฝ่ายบุ๋นเข้าร่วมประชุมอย่างเร่งด่วนมาหลายวันติดแล้ว แม่ทัพใหญ่หลี่และไป๋จิ่งหยวนแทบจะกินนอนอยู่ในวังหลวง หลังจากปรึกษาหารือกันอย่างดุเดือดในที่สุดก็ได้ข้อสรุปเสียทีซือหม่าอี้เฉินเห็นชอบให้ไป๋จิ่งหยวนนำกำลังทหารหลายแสนนายไปทำสงครามที่ชายแดนทางทิศใต้ และปราบปรามสุนัขรับใช้ที่เหลืออยู่ของอู่อ๋องให้สิ้นซาก ไป๋จิ่งหยวนรับคำและเร่งระดมพลออกค้นหาทันทีว่ามีคนของอู่อ๋องหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่ หากมีก็ให้สังหารทิ้งให้สิ้นซาก จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังชายแดนทางใต้อย่างรวดเร็วส่วนซือหม่าอี้เฉินและหลี่หรงเดินทางไปยังชายแดนทิเหนือเพื่อต่อสู่กับกองทัพของฉีอ๋อง วันที่พวกเขาออกเดินทางมีชาวบ้านมายืนส่งตลอดทางและอวยพรให้พวกเขากลับมาพร้อมชัยชนะส่วนเมิ่งอ้ายเยว่และอวี๋ลู่เหลียนก็ติดตามซือหม่าอี้เฉินไปด

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 47-2 กลับสู่ฐานะเดิม

    "ฝ่าบาท บุญคุณครานี้กระหม่อมจะไม่มีวันลืมเลย"ซือหม่าอี้เฉินเข้ามาประคองราชครูอวี๋ให้ลุกขึ้น ก่อนจะเอ่ย“สำนึกบุญคุณก็ดี ตาแก่อวี๋ หากอยากตอบแทนบุญคุณข้า ก็ยกบุตรสาวเจ้าให้แต่งกับข้า เป็นอย่างไร ได้ข้าเป็นลูกเขย เจ้านี่ทำบุญมาดีจริงๆ”ราชครูอวี๋ลอบเบ้ปากคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย"ฝ่าบาท เช่นนั้นกระหม่อมขอพาตัวบุตรสาวกลับจวนได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมอยากพานางไปทำความคุ้นเคยกับบ้านของนาง และกลับไปดูเรือนของแม่นาง แล้วกระหม่อมจะพานางกลับมาส่งให้ฝ่าบาท""ได้ ไปเถอะ คิดซะว่าชดเชยช่วงเวลาที่ไม่ได้พบเจอหน้ากันมานาน""ขอบพระทัยฝ่าบาท"เมื่อซือหม่าอี้เฉินอนุญาต เมิ่งอ้ายเยว่จึงติดตามราชครูอวี๋กลับจวน ซือหม่าอี้เฉินเพียงยิ้มเล็กน้อย เดิมทีเขาอยากตามนางไปด้วย แต่คิดอีกทีเขาไม่ไปดีกว่า อย่างไรควรจะให้สองพ่อลูกได้ใช้เวลาร่วมกันจะดีกว่าราชครูอวี๋พาเมิ่งอ้ายเยว่มาที่จวนของตนทันที เมื่อเข้าจวนมาแล้วเมิ่งอ้ายเยว่ก็พบว่าการตกแต่งของจวนราชครูอวี๋ช่างงดงามมากนัก แต่เพราะนางอยู่ในวังจนเคยชิน เห็นความงดงามมามากนัก จึงไม่ได้แสดงท่าทีตื่นเต้นจนเกินงาม"เรือนนี้เป็นเรือนของแม่เจ้า พ่อปิดตายเอาไว้ไม่ให้คน

  • ข้าคือปลาน้อยขี้เซาของฮ่องเต้ทรราช   บทที่ 47-1 กลับสู่ฐานะเดิม

    ท้ายที่สุดคนตระกูลเมิ่งก็ถูกประหารตกตายไปตามกัน ของมีค่าทั้งหมดถูกยึดเข้าท้องพระคลังหลวง ข้ารับใช้ถูกขายไปที่โรงขายทาส ความชั่วที่พวกเขาเคยกระทำถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชน สร้างความเกลียดชังให้แก่เหล่าชาวบ้านไม่น้อยเลยวันที่พวกเขาถูกประหารเมิ่งอ้ายเยว่ไม่ได้ไปร่วมดูด้วย นางเพียงนอนหลับพักผ่อนอยู่ในตำหนักมังกรสวรรค์ โดยมีซือหม่าอี้เฉินนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆหลังจากจบสิ้นเรื่องของตระกูลเมิ่ง ก็มีเรื่องใหม่อีกเรื่องหนึ่งที่สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้คนไปทั่วทั้งเมืองหลวงก่อนเดินทางไปชายแดนองค์รักษ์ลับที่ซือหม่าอี้เฉินส่งไปสืบเรื่องราวภูมิหลังของเมิ่งอ้ายเยว่เมื่อหลายเดือนก่อนก็กลับมารายงานงานผลลัพธ์ที่ได้แท้จริงแล้วเมิ่งอ้ายเยว่คือบุตรสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาเอกของราชครูอวี๋ที่ถูกโจรป่าลักพาตัวไป คนของซือหม่าอี้เฉินสืบลึกลงไปอีกจนหาตัวสาวใช้ของอดีตฮูหยินนามว่าอาหลวนพบ ยามนี้นางเริ่มอายุมากแล้ว และยังแต่งงานกับชาวนาผู้หนึ่งและใช้ชีวิตอยู่ในชนบท นางบอกว่าตนเองและฮูหยินหนีตายไปด้วยกัน และยังเล่าความจริงทั้งหมดว่าย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ภรรยาเอกของราชครูอวี๋ถูกโจรป่าลักพาตัวไป ยามนั้นฮูหยินกำล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status