เฉินมู่หยางรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่แขนเสื้อของตนที่นางนอนหนุน นี่นางร้องไห้หรือ ฝันร้ายหรืออย่างไรก่อนจะขยับ ตัวนางไม่ร้อนเท่าไหร่แล้ว เหลือเพียงอุ่นๆเท่านั้น เขาจึงคลายอ้อมกอดแล้วลุกไปอุนยาให้นางอีกครั้ง เมื่อเรียบร้อยก็ยกมาให้นาง เฉินมู่หยางปลุกคนตัวเล็ก
"จ้าวเฟยเฟย ตื่นมากินยาได้แล้ว"
ฮืม"
"จ้าวเฟยเฟยกินยาได้แล้ว"
ร่างบางตื่นขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าคนตัวโต หนวดเครายามเฟิ้มอัปลักษณ์จริงๆ ตาแก่นี่ไม่รู้จักมีดโกนหนวดหรือไงนะ จากนั้นนางก็ลุกขึ้น รู้สึกแสบๆ ที่บริเวณหน้าอก จ้าวเฟยเฟยคลำดูก็สะดุดเข้ากับบางอย่าง เมื่อนางก้มมองก็เห็นจี้หยกของคุณแม่สวมอยู่ที่คอ มันติดมาด้วยตอนที่เธอรถคว่ำหรือ แต่ดูเหมือนเขาไม่เห็น
เฮ้อ...ต้องยอมรับจริงๆ ว่าเธอทะลุมิติมาแล้ว ร่างเดิมมีสามีที่มีลูกติดวัยห้าขวบสองคน ให้ตายสิพับผ่าฉันล่ะเกลียดยายแม่เลี้ยงนั่น แต่สุดท้ายกลับต้องมาเป็นแม่เลี้ยงเสียเองจริงๆหรือนี่ จ้าวเฟยเฟยฮึกฮัดก่อนจะบ่นพวกคนแก่ที่นั่งเล่นหมากอยู่ข้างบนตามความเข้าใจของนาง
"พวกตาเฒ่าที่อยู่ข้างบนฟังดีๆ นะ ทางที่ดีอย่าให้แม่ได้ขึ้นสวรรค์ล่ะ ถ้าเจอนะแม่จะเตะเรียงตัวเลย เทพชะตาอะไรเจ๊ไม่สนหรอกส่งมาก็ไม่หาที่ดีๆ ให้อยู่ ยากจนแทบจะแย่งข้าวหมากินอยู่แล้ว"
เฉินมู่หยางไม่เข้าที่นางเอ่ยสักเท่าไหร่ หรือว่าป้าสะใภ้ใหญ่ตีหัวนางจนเพี้ยนไปแล้ว เฉินมู่หยางส่งชามยาให้กับนาง จ้าวเฟยเฟยมองหน้าเขา ความทรงจำบางอย่างย้อนเข้ามา เขากรอกยานางเมื่อคืนนี้ด้วยปากของเขา แหม่โว้ยไอ้บ้านี่ปลุกดีๆก็ตื่นแล้วไหมวะ ก่อนที่เสียงของเขาจะปลุกนางจากภวังค์
"เจ้ารู้ไหม...โม่หวายลุกมาต้มยาให้เจ้าเองกับมือ กินซะ"
"เหอะ...ข้าร้องขอหรือไง"
"จ้าว เฟย เฟย เจ้าติดหนี้ข้าสิบห้าตำลึง หากพูดมากข้าจะขายเจ้าเสีย"
"รู้แล้วๆ...นอกจากขู่ข้าไปวันๆเจ้ายังทำอะไรได้อีก เห่าเก่งนักนะเจ้าเนี่ย โฮ่งๆๆ โฮ่งๆๆ"
"จ้าว เฟย เฟย พูดจาให้ดีๆข้าคือสามีของเจ้านะ กินยาซะ"
น้ำเสียงเขายังคงราบเรียบแต่เข้มดุ แววตาจับจ้องราวกับจะเฝ้าดูว่านางจะฝืนดื้อดึงอีกไหม จ้าวเฟยเฟยไม่อยากเถียง ตอนนี้ยังมึนจากพิษไข้อยู่ ออกแรงตีคนบ้านใหญ่ไปเยอะ ต้องเอาแรงหน่อย หากวันนี้มีใครมาหาเรื่องนางอีกจะไล่กระทืบคนไม่ไหวเดี๋ยวเสียเปรียบ รอเจ๊ก่อนเถอะหายดีเมื่อไหร่แม่จะทุบให้นิ่มยิ่งกว่าแป้งโดเสียอีก
นางสาบานในใจด้วยความเดือดดาลที่ยังคุกรุ่น ข้าจะเอาคืนให้เจ้าเองนางหนู จะเอาให้คลานเข่าเลยทีเดียว จ้าวเฟยเฟยรับชามยามาก็ยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดจด นางแอบเห็นศีรษะน้อยๆ ของเจ้าเด็กแสบขยับ
( “หืมไอ้เด็กเปรตนั่น... ลุกมาต้มยาให้ข้าเลยหรือนี่ ไม่ใส่ยาพิษให้ข้าดื่มก็นับว่าสวรรค์เมตตาข้าแล้ว!”)
คิดดังนั้นแล้วนางก็ล้มตัวลงนอนต่อ เฉินมู่หยางทอดกายลงข้างๆ เพื่อจะกอดนางอย่างเคย แต่ร่างบางกลับตัวแข็งทื่อก่อนจะเอ่ยขึ้น
"ท่านทำอะไรตาเฒ่า?"
เสียงนางเต็มไปด้วยความสงสัยระคนไม่พอใจ
"ก็เจ้าบอกว่าหนาว ผ้าห่มก็ไม่พอ ข้าก็เลยกอดเจ้าเอาไว้ อีกทั้งเจ้ายังร้องไห้เหมือนกำลังฝันร้าย ข้าก็เลยอยากปลอบเท่านั้น"
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่จ้าวเฟยเฟยไม่อยากถูกเอาเปรียบ ถึงเขาจะบอกว่านางละเมอเพราะพิษไข้ก็เหอะจึงบอกเขาว่านางไม่หนาวแล้ว
"ไม่หนาวแล้ว ข้าร้อนแล้ว ท่านไม่ต้องกอด!"
จ้าวเฟยเฟยดันเขาออกอย่างแรง แต่คนตัวโต้กลับไม่ยอมปล่อยมือ เฉินมู่หยางไม่ได้พิษวาสนางนักหรอก เขาก็แค่เห็นว่านางน่าแกล้งเท่านั้นเอง เขาแกล้งพูดจาดูแคลน
"ข้าไม่สนใจเจ้าหรอกน่า ตัวเจ้านี่เอาไปชั่งถึงสองตำลึงหรือไม่ก็ยังไม่รู้"
จ้าวเฟยเฟยสะอึก แหม่แค่ไฟหน้าคู่เดียวก็300ccแล้วย่ะไอ้คนตาไม่มีแวว ถึงจะผอมแห้งแต่อะไหล่คู่หน้ายายหนูนี่ ส้มโอเลยนะก่อนจะเอ่ยกลับไป
“งั้นกอดให้แน่นเข้าไว้ ข้าจะเอากระดูกแห้งๆ ของข้าทิ่มอกเจ้าให้ทะลุเลย ตาแก่ใจแคบ!”
นางตอบโต้กลับด้วยน้ำเสียงฮึดฮัด แต่ไม่ทันที่เฉินมู่หยางจะเอ่ยอะไร นางก็ฟุบหลับไปเพราะฤทธิ์ยาเสียก่อน เขาหัวเราะเบาๆ ในลำคออย่างอารมณ์ดี ก่อนจะกระชับอ้อมแขนอีกนิดอย่างไม่รู้ตัว ราวกับว่าการมีนางอยู่ในอ้อมกอดเป็นเรื่องที่สบายใจสำหรับเขา
เด็กทั้งสองเคี้ยวอาหารจนหมดปากจึงเอ่ยกับบิดา คู่แฝดเอ่ยชมอาหารที่จ้าวเฟยเฟยทำไม่ขาดปาก เฉินมู่หยางคิดว่าการค้าครั้งนี้เมียเขาคงได้แล้ว หากเป็นหลินอ้าวเขาเชื่อใจที่จะให้ติดต่อค้าขายกับภรรยามากกว่าคนอื่น บิดาที่รักบุตรเช่นนี้ไม่สนใจสตรีอื่นให้ปวดหัวแน่นอนเสียงด้านนอกมีคนมา ไม่นานสตรีใบหน้างดงามก็เดินมาหลังร้านก่อนจะเอ่ยเรียกหลินอ้าว"เถ้าแก่หลิน ข้านำมื้อเช้ามาฝากเด็กๆเจ้าค่ะ"เซียวฮวนฮวนเอ่ยน้ำเสียงอ่อนหวานแก่หลินอ้าว เด็กทั้งคู่หันไปหานางก่อนจะลุกมาหาเรียกนางว่าท่านแม่"ท่านแม่มาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านแม่มาทานข้าวกับซินซินสิเจ้าคะ ท่านอามู่หยางนำของอร่อยมาให้ตั้งมากมาย"เซียวฮวนฮวนหน้าแดง หลินอ้าวสู่ขอนางเมื่อหลายวันก่อน จากนั้นเขาก็บอกเด็กทั้งคู่ว่านางจะมาเป็นท่านแม่ เด็กๆดีใจที่จะมีท่านแม่ ยามใดที่เซียวฮวนฮวนมาหาจะดีใจกันมากนัก เฉินมู่หยางเอ่ยทักทายนางก่อน"คุณหนูเซียวพบกันอีกแล้ว""คุณชายเฉิน...ไม่เจอเสียนานเลยเชียวท่านสบายดีหรือไม่ ท่านพ่อมิได้ออกกองคาราวานแล้วข้าจึงไม่ได้พบท่านอีก""สบายดีขอรับ เราพบกันเมื่อหลายวันก่อนท่านคงจำข้าไม่ได้""เขาคือหลานชายเฉินหยวน
เฉินมู่หยางขับเกวียนมาจนถึงประตูเมืองเขาจ่ายค่าเข้าให้กับไป๋เซิงและบิดาก่อนจะนัดมาเจอกันอีกที เกวียนวัวผูกไว้ยังที่รับฝากจอด เฉินมู่หยางถือตะกร้าที่คลุมด้วยผ้าฝ้ายขาวสะอาดตา เดินไปทางร้านขายยาก่อนจะนำใบรายการสมุนไพรที่เมียเขียนให้มาส่งให้คนดูแลร้านพร้อมกับบอกรายละเอียด"หลงจู๊..รบกวนท่านจัดตามรายการนี้ อันไหนที่บอกให้บดเป็นผงก็รบกวนท่านช่วยบดให้ด้วย จัดเตรียมเรือบดยาให้ข้าสามอัน นี่เป็นเงินมัดจำ อีกหนึ่งชั่วยามข้าจะกลับมาเอาขอรับ""เอ่อ..นายพรานเฉิน แม้ว่ายาเหล่านี้จะราคาไม่แพง แต่บางอย่างไม่สามารถใช้ด้วยกันได้นะ""ภรรยาของข้านางจะเอาไปดับกลิ่นคาวของเนื้อน่ะ ข้าเองก็ไม่รู้หรอก นางเป็นแม่บ้านนางเข้าครัวมากว่าข้าเสียอีกขอรับ""อ้อ..เช่นนั้นข้าจะจัดการให้ แต่อย่างละสิบชั่งนี่มันไม่เยอะเกินไปหรือ""ข้าเองก็ถามนางแล้ว นางบอกว่าไม่พอด้วยซ้ำท่านจัดการตามที่นางสั่งเถอะขอรับเดี๋ยวข้าไปธุระก่อน"จากนั้นเขาก็เดินไปทางตรอกของร้านขายของชำของเถ้าแก่หลิน ร้านตรงข้ามที่มีปัญหากันยังไม่เปิดร้าน แต่หบินอ้าวเปิดแล้ว ร่างสูงของหลินอ้าวกำลังจัดร้านเปิดแต่เช้าเชียว เฉินมู่หยางมาถึงก็เอ่
ถังจื่อหยวนอุ้มร่างบางเดินไปทางลำธารสายเล็กที่ทางด้านนั้นไม่มีใครเดินผ่านก่อนจะวางร่างบางลง ไป๋เหยียนรู้สึกว่าคนตรงน่าเวลานี้นากลัวยิ่งนัก นางพยายาออกจากอ้อมกอดของเขาแต่ถังจื่อหยวนกลับโอบเอวนางเอาไว้ มืออีกข้างจับปลายคางนางไม่ให้ดิ้นหนี ก่อนจะแนบริมฝีปากตนเองลงไปหา ไป๋เหยียนเม้มปากแน่น แต่เขามีวิธีให้นางยอมเปิดปาก"ต่อต้านหรือ เจ้าแน่ใจนะหากพี่ไป๋เซิงรู้ว่าครึ่งเดือนก่อนเจ้าเอาไป๋ฮวาไปเที่ยวแล้วยังพานางไปเล่นพนันกัดจิ้งหรีดอีกด้วย เจ้าว่าพี่ชายเจ้าจะว่าอย่างไรกัน แม่ตัวแสบ"ไป๋เหยียนตาโตเขารู้ได้อย่างไรกัน วันนั้นนางพาหลานสาวไปเที่ยวหมู่บ้านข้างเคียงเพราะตามท่านพ่อไปซื้อยาให้ท่านแม่ แค่แวะวงพนันแป๊บเดียวยังไม่ได้ลงเล่นเลย ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อย"ท่านต้องการอะไรถ้าไม่พูดเรื่องนี้""เปิดปากเจ้าออก อย่าต่อต้านทำได้ไหม"ไป๋เหยียนกลืนน้ำลายก่อนจะพยักหน้าแล้วทำตาม ถังจื่อหยวนจูบนางอย่างนุ่มนวล ลิ้นร้อนชื้นเกี่ยวลิ้นเล็กควานหาความหวาน มือบางยกขึ้นโอบรอบท้ายทอยหน้า กลิ่นบุรุษเพศที่นางเพิ่งได้ใกล้ชิดเป็นครั้งแรกทำเอาท้องไส้ปั่นป่วน กระทั่งเขาถอนริมฝีปากออกมาสบตานางแล้วเอ่ย
จ้าวเฟยเฟยไปเก็บผลซานจามาทำถังหูหลู่แจกเด็กๆและชาวบ้าน หากอยากค้าขายต้องมีสินค้าทดลองก่อน ในยุคที่ไม่มีสื่อโซเชี่ยลปากต่อปากคือการประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุด เด็กๆต่างรู้ดีว่าเดินตามท่านป้าจ้าวย่อมมีของอร่อยให้กิน ไป๋ฮวารีบปล่อยมืออาหญิงทันทีที่เห็นหลินเฉินอี้ นางวิ่งมาหากางแขนให้อุ้ม"พี่เฉินอี้ อุ้มฮวาฮวาด้วยเจ้าค่ะ"เด็กหนุ่มก้มลงอุ้มแม่หนูน้อยขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้ ไป๋ฮวากอดคอเขาใบหน้าเล็กๆซุกซอกคอพี่ชายอย่างออดอ้อน หลินเฉินอี้อมยิ้มกับท่าทางของแม่ตัวเล็กที่เชื่องเหมือนลูกแมวตัวน้อย (ที่ในอนาคตนางจะเปลี่ยนจากลูกแมวน้อยเป็นแม่เสือหากนางบอกไปทางซ้ายเขาก็ไม่กล้าก้าวเท้าขวา) ส่วนเฉินผิงผิงมารดาอุ้มนางเองท่านอาไปเรียนหนังสือกับพี่ชายแล้ว ไม่นานก็ถึงบริเวณที่มีต้นซานจาขึ้นอยู่หลายต้น ทุกคนช่วยกันเก็บแต่จ้าวเฟยเฟยเอ่ยออกมาก่อน"วันนี้ที่มาเก็บข้าจะทำขนมให้พวกเจ้ากิน แต่ไม่ได้รับซื้อเหมือนลูกท้อเช่นคราวก่อนนะเข้าใจไหม""ขอรับท่านป้าจ้าว""เจ้าค่ะท่านป้าจ้าว"จ้าวเฟยเฟยกลอกตามองบนก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม"ใครเรียกป้าอีกวันนี้อดกินถังหูหลู่""ขอรับพี่สาว""เจ้าค่ะพี่สาว""น่าร้ากกก เอาล่
ปลายยามโหย่วแล้วเฉินมู่หยางอาบน้ำให้บุตรชายเรียบร้อยแล้ว ส่วนเฉินผิงผิงท่านแม่อาบให้ตั้งแต่ยามเซินจากนั้นก็ล้อมวงกันกินมื้อค่ำ เฉินโม่หวานกำลังคีบเห็ดโคนยำขึ้นมาก่อนมองมันแล้วก้มมองเป้ากางเกงของตัวเอง แล้วเขาก็วางลงไม่แตะมันเลย แต่เฉินผิงผิงกับเฉินเหว่ยต่างก็ไม่วางตะเกียบ กระทั่งใกล้หมดเจ้าตัวแสบอยากลองแต่กินได้สามคำก็ไม่มีแล้ว"ท่านแม่ เห็ดนี่เรียกเห็ดอะไรหรือขอรับ""เรียกว่าเห็ดโคนน่ะ อร่อยหรือไม่ เอาไว้ถ้าฝนตกแม่จะไปเก็บมาอีก""ลูกไปช่วยนะขอรับ มันอร่อยมากเหนียวๆหนึบๆเหมือนกินเนื้อไก่เลยขอรับ""ได้..ลูกรู้ไหมเห็ดมีประโยชน์มากนัก แม้ว่าไม่ใช่เนื้อสัตว์แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากว่าเนื้อสัตว์เสียอีก ในเมื่ออร่อยทำไมทีแรกลูกไม่ยอมกินเล่า"เด็กน้อยหน้าแดง แต่เฉินมู่หยางกลับคีบดอกใหญ่ที่สุดในจานขึ้นมาก่อนจะบอกนางว่า"พี่ไม่โกหกนะใหญ่กว่านี้หลายสิบเท่า พิสูจน์ได้นะเมียข้า""ท่านพี่เดี๋ยวเถอะ กินๆไปเลยนะไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้จะต้มผักป่าใส่เกลือให้ท่านกินแทนคนบ้า"เด็กๆ ไม่รู้ว่าท่านแม่เป็นอะไรได้แต่มองหน้ากัน ส่วนคนตัวโตหลังจากแหย่เมียสำเร็จก็เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ เมื่อมื้อค่ำเรียบร้อยเฉินม
เฉินมู่หยางอุ้มบุตรสาวเอาไว้ ชาวบ้านไปตามหลี่เจิ้งมาแล้ว พวกเขาอยากจัดการสามคนนี้แต่ก็ไม่อาจยื่นมือเพราะเป็นดองของเฉินมู่หยาง กระทั่งเฉินกั่วต้งมาถึงเห็นสภาพหัวแตกหน้าบวมของจ้าวคังกับจูไห่หรงก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ย"นี่จ้าวคัง นางจู ตอนนั้นพวกเจ้ายกเสี่ยวเฟยให้กับมู่หยางพวกเจ้าลั่นวาจาว่าจากนี้ไปไม่เกี่ยวข้องกันอีก ห้ามนางกลับไปขอความช่วยเหลือใดๆ ห้ามนางเหยียบบ้านเดิม แล้วยามนี้พวกเจ้าทำไมพวกเจ้าเป็นฝ่ายผิดสัญญาเสียเล่า"ท่านผู้นำ ข้าเป็นพ่อมันนะ มันกล้าฟ้องร้องข้าเอาสมบัติมาหมด มันกะจะให้พวกเราอดตายมันยังเป็นคนหรือไม่""ใช่เจ้าค่ะ ตอนนี้พวกเราแทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้อแล้ว เงินที่เคยมีก็ถูกนางคนอกตัญญูนี่เอาไปหมด"สองผัวเมียชิงฟ้องเพื่อให้ชาวบ้านที่นี่รังเกียจและต้องการให้เฉินมู่หยางเห็นความเลวของนางจะได้ขอหย่า แต่กลับเป็นเสียงของเฉินมู่หยางที่ดังมาแทน"เดิมทีข้าอยากเรียกเจ้าว่าท่านพ่อตาสักหน่อย แต่ดูเหมือนเจ้าจะปฏิบัติกับเมียข้าเหมือนกับนางมิใช่สายเลือด เช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจอีกแล้ว ต่อไปหากมาหาเรื่องเมียข้าอีกข้าจะทำให้เจ้าหายสาบสูญไปจากหมู่บ้านเถาฮวาเสีย จ้าวคัง จ