공유

บทที่ 53 ความยินดี

작가: BigM00N
last update 최신 업데이트: 2025-05-23 21:26:21

ผิงกั๋วกงกลับจวนย่อมทำให้ทุกคนภายในจวนมีความสุข ไม่เพียงเฉียวซื่อที่มาที่เรือนฝูอันของฮูหยินผู้เฒ่า แม้แต่สตรีในเรือนของบ้านรองและบ้านสามก็ล้วนพากันมารวมตัวกันที่นั่น ยิ่งเมื่อได้รู้ว่าอีกไม่กี่วันบุรุษในเรือนของตนก็จะกลับมาถึงทุกคนก็ยิ่งทวีความยินดีกันทั่วหน้า

“เจ้าจะกลับมาเหตุใดจึงไม่ส่งข่าวมาก่อนแม่จะได้จัดเตรียมข้าวปลาอาหารไว้รอรับเจ้า” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดหยาดน้ำตาแห่งความยินดี

“พอทางข้าได้ข่าวว่าที่จวนในเมืองหลวงมีเรื่องกับสกุลจ้าวข้าก็ร้อนใจ ไม่ได้รอให้ฝ่าบาททรงตอบรับคำขออนุญาตเข้าเมืองหลวงก็รีบเร่งเดินทางกลับมาก่อน ระหว่างเดินทางมาใกล้ถึงเมืองหลวงแล้วก็สวนทางกับคนส่งสารพอดี พอรู้ว่าฝ่าบาททรงพระราชทานกระแสรับสั่งอนุญาตให้คนของจวนเรากลับเข้าเมืองหลวงได้ข้าก็รีบเร่งเดินทางเข้าเมืองมาเลย” ผิงกั๋วกงเอ่ยพลางจ้องมองมารดาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึง

“นี่เจ้าจะบอกว่ายังไม่ทันได้รับอนุญาตก็เร่งเดินทางกลับเข้าเมืองหลวงมาก่อนหรือ นี่ออกจะผิดระเบียบมากเกินไปแล้ว”

“ข้าถึงได้กลับเข้าเมืองหลวงมาเพียงลำพังอย่างไรเล่าขอรับ” เมื่อผิงกั๋วกงเอ่ยเช่นนี้ฮูหยินผู้เฒ่าก็ทำได้แค่เพียงส่ายหน้า

“ท่านแม่โปรดวางใจข้าเข้าเมืองหลวงมาไม่มีผู้อื่นรับรู้ ขอเพียงทุกคนไม่เอ่ยถึงย่อมไม่มีผู้อื่นรู้แน่ว่าข้ากลับเข้าเมืองมาก่อนแล้ว รอเพียงเจ้ารองและเจ้าสามกลับเข้าเมืองมาข้าค่อยปรากฏตัวพร้อมพวกเขาก็เป็นอันใช้ได้แล้ว” เมื่อผิงกั๋วกงเอ่ยเช่นนี้เฉินเจียวเจียวก็ได้แต่ลอบปาดเหงื่ออยู่ในใจ

‘จะไม่มีผู้อื่นรู้ได้อย่างไรกันเจ้าคะ เมื่อครู่นี้องค์รัชทายาทก็รู้เห็นแล้วมิใช่หรือว่าท่านกลับเข้าเมืองมาก่อนที่คนนำกระแสรับสั่งของฝ่าบาทจะเดินทางไปถึงชายแดนทางเหนือเสียอีก’ เฉินเจียวเจียวได้แต่ลอบนินทาบิดาอยู่ในใจ

ผิงกั๋วกงเฉินคังเหมือนจะคาดเดาความคิดของบุตรสาวได้เขารีบหันไปมองเฉินเจียวเจียวแล้วเอ่ยถามออกมาด้วยสีหน้าอึมครึม

“ว่าแต่เจียวเจียว เหตุใดเจ้าจึงได้ยกเลิกการหมั้นหมายกับโซ่วอ๋องแล้วกลายเป็นว่าที่พระชายาขององค์รัชทายาทเข่นนี้กันเล่า” ในน้ำเสียงมีร่องรอยของการตำหนิอยู่ไม่น้อยทำให้เฉียวซื่ออดร้อนใจแทนลูกเลี้ยงมิได้

“นั่นย่อมเป็นเพราะโซ่วอ๋องทำผิดต่อเจียวเจียวก่อน ไม่เพียงลักลอบนัดพบกับสตรีอื่นยังยกย่องนางต่อหน้าผู้อื่นอย่างไม่ให้เกียรติเจียวเจียวเลยสักนิด ท่านพี่ท่านกลับมาเหนื่อยๆ ทานอาหารร้อนๆ อาบน้ำอุ่นๆ พักผ่อนให้เต็มที่เสียก่อนแล้วข้าจะเล่าถึงเรื่องนี้ให้ท่านฟังเองเจ้าค่ะ” คำพูดของเฉียวซื่อทำให้เขาขมวดคิ้วในใจก็คิดว่าที่แท้ก็มิใช่บุตรสาวของเขาที่ทำผิดต่อผู้อื่นก่อน แต่เป็นผู้อื่นที่ทำผิดต่อบุตรสาวของเขาเมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงได้พลันผ่อนคลายความคิดไม่ดีก่อนหน้านี้ลง แล้วย้ายความไม่พอใจไปที่โซ่วอ๋องผู้นั้นแทน

“ที่สะใภ้ใหญ่เอ่ยมาล้วนถูกต้องแล้ว เรื่องนี้มิใช่เจียวเจียวที่เป็นคนผิดเรื่องนั้นล้วนจบด้วยดีเจ้าไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องรายละเอียดเอาไว้หลังจากเจ้านอนพักผ่อนสักตื่นแล้วค่อยให้สะใภ้ใหญ่เล่าให้เจ้าฟังก็แล้วกัน” เมื่อมารดาเอ่ยเช่นนี้ผิงกั๋วกงก็พยักหน้า หลังจากนั้นทุกคนในจวนผิงกั๋วกงก็พลันแยกย้ายกันไปพักผ่อนมีเพียงเฉินเจียวเจียวที่ถูกบิดากำชับเรื่องปิดประตูหน้าต่างให้แน่นหนาอีกครั้งแล้วจึงได้แยกย้ายกันกลับเรือนพักของตนเอง

ทางฝ่ายองค์รัชทายาทหลี่ไท่หลงหลังจากออกจากจวนผิงกั๋วกงมาได้แล้วก็ได้แต่ตำหนิตนเองอยู่ในใจ หลายวันมานี้ไม่ค่อยจะได้พบยอดฝีมือเท่าใดนัก ทำให้การระมัดระวังตนลดลงไปมาก ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะเคยถูกกระบี่พาดคอเช่นนี้ นี่จะถือว่าเขาคือผู้ที่ประสบภัยเพราะหญิงงามก็คงจะได้กระมัง

“เหตุใดผิงกั๋วกงเข้าเมืองมาพวกเจ้าจึงไม่รู้” หลี่ไท่หลงเอ่ยกับเซียวอวิ๋นหยวนด้วยสีหน้าดุดันเมื่อตนเองสามารถกลับถึงตำหนักบูรพาได้อย่างปลอดภัยแล้ว

“ผิงกั๋วกงผู้นี้ทั้งวรยุทธ์ยอดเยี่ยมทั้งวิชาตัวเบาล้ำเลิศ ขี่ม้าสะกดรอยตามเขาว่ายากแล้ว ยามที่เขาสละม้าแล้วใช้วิชาตัวเบาติดตามก็ยิ่งยากเข้าไปอีก กว่าจะรู้ว่าเขาสามารถหลบหลีกเวรยามหลบเข้ามาในเมืองได้ก็สายไปเสียแล้ว” เมื่อเซียวอวิ๋นหยวนเอ่ยเช่นนี้องค์รัชทายาทหลี่ไท่หลงก็พลันมีสีหน้าบึ้งตึง

“แล้วอีกอย่างต่อให้กระหม่อมห้ามพระองค์ทรงเคยเชื่อฟังถ้อยคำของกระหม่อมด้วยหรือ กระหม่อมก็พูดแล้วว่าช่วงนี้จวนผิงกั๋วกงนอกจากจะมีการคุ้มกันหนาแล้วยังเสี่ยงต่อการที่คนในจวนของนางจะพบเห็น อย่าว่าแต่ผิงกั๋วกงเลยแม้แต่ฮูหยินสามจวนผิงกั๋วกงที่มาจากสกุลโม่ผู้นั้นก็ไม่อาจจะละเลย” เมื่อเซียวอวิ๋นหยวนเอ่ยเช่นนี้ว่าที่บุตรเขยของฮูหยินสามจวนสกุลโม่อย่างหยวนอี้ก็พลันมีสีหน้าอึดอัดขึ้นมาในทันที

“ว่าแต่ว่าองค์รัชทายาททรงหัวเสียเช่นนี้คงจะไม่ได้ปะทะกับผิงกั๋วกงเข้ากระมัง” หยวนอี้เอ่ยถามออกมาตามตรง

“ยังไม่ทันได้ปะทะหรือประมืออันใดกันทั้งสิ้น แค่คิดขยับตัวหนีก็พลันมีกระบี่มาพาดคอเสียแล้ว” เมื่อองค์รัชทายาทเอ่ยเช่นนี้หยวนอี้ก็พลันมีสีหน้าจืดเจื่อน

“ก็ยังดีที่พระองค์ยังทรงสามารถหลบหนีออกมาได้โดยไร้ร่องรอยขีดข่วน ข้าได้ยินมาว่าคุณหนูใหญ่เป็นเสมือนแก้วตาดวงใจของผิงกั๋วกง หากเขารู้ว่าองค์รัชทายาททรงปีนกำแพงเข้าไปหาบุตรสาวของเขาย่อมยากที่จะยินยอมปล่อยองค์รัชทายาทได้อย่างง่ายเช่นนี้” คำพูดของเซียวอวิ๋นหยวนทำให้หลี่ไท่หลงพ่นลมหายใจออกมา

“หนีมาได้ที่ไหนกัน ต้องขอบคุณเฉินเจียวเจียวที่ช่วยออกหน้าให้ข้า” เมื่อหลี่ไท่หลงเอ่ยเช่นนี้หยวนอี้ก็พลันยิ้มออกมา

“เหตุใดกระหม่อมจึงได้กลิ่นของความยินดีโชยออกมาจากองค์รัชทายาทกันเล่า” เมื่อถูกยั่วเย้าเช่นนี้หลี่ไท่หลงก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“คอยังอยู่บนบ่าย่อมจะต้องรู้สึกยินดีเป็นธรรมดา” องค์รัชทายาทหลี่ไท่หลงเอ่ยออกมาพลางเดินไปหาสุรารสแรงมาดื่มเพื่อสงบสติอารมณ์ เขาไม่มีทางยอมรับอย่างเด็ดขาดว่าตนเองรู้สึกดีที่มีสตรีผู้หนึ่งออกหน้าช่วยปกป้อง หยวนอี้หันไปสบตากับเซียวอวิ๋นหยวนแต่เมื่อเห็นว่าเขายังคงมีสีหน้าปกติหยวนอี้จึงทำได้แค่เพียงทอดถอนใจออกมาพลางคิดในใจว่า ‘คงมีเพียงข้าที่เป็นปกติดี’

“อวิ๋นหยวน ในเมื่อผิงกั๋วกงลักลอบเข้ามาเช่นนี้ย่อมไม่อาจจะปล่อยให้ผู้อื่นรู้ว่าเขากลับมาแล้วโดยเฉพาะคนสกุลจ้าว”

“กระหม่อมย่อมจะระมัดระวังเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพียงแต่ไม่รู้ว่าผิงกั๋วกงกลับมาคราวนี้จะกระทบต่อภารกิจขององค์รัชทายาทหรือไม่” เซียวอวิ๋นหยวนเอ่ยออกมาพลางขมวดคิ้วด้วยสีหน้ากังวล

“ย่อมต้องรอดูกันไปก่อน ที่สำคัญยามนี้ผิงกั๋วกงคงจะระแวงในตัวข้าอยู่ไม่น้อย ดูจากสีหน้าของเขาแล้วไม่มีความยินดีเลยสักนิดที่จะได้ข้าเป็นบุตรเขย”

“ผู้ใดจะมีสีหน้ายินดีได้หากพบว่ามีบุรุษผู้หนึ่งลักลอบปีนกำแพงเข้าหาบุตรสาวยามวิกาล ต่อจากนี้พระองค์คงจะต้องสำรวมให้มากขึ้นอีกสักหน่อยแล้ว” เซียวอวิ๋นหยวนเอ่ยเตือนด้วยสีหน้าเยือกเย็นแต่คราวนี้องค์รัชทายาทหลี่ไท่หลงกลับพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“คราวนี้ข้าย่อมเชื่อฟังเจ้า วางใจเถิดต่อจากนี้ข้าไม่มีทางป่ายปีนเข้าไปหาเฉินเจียวเจียวอีกแล้ว”

“ถึงจะพยายามป่ายปีนก็คงจะเข้าไปได้ยากแล้ว ทรงสำรวมได้นับเป็นเรื่องดี” เซียวอวิ๋นหยวนเอ่ยพลางทอดถอนใจออกมาพลางคิดในใจว่า 'เมื่อไหร่ภารกิจของข้าจะเสร็จสิ้นเสียที'

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 72 บทส่งท้าย

    หลังเสร็จสิ้นงานเลี้ยงเฉินฮองเฮาจึงได้ปลีกตัวกลับตำหนักอันหนิงไปก่อนเหลือเพียงหลี่ไท่หลงฮ่องเต้ที่ทรงเรียกน้องชายเข้ามาตักเตือนเป็นการส่วนพระองค์โดยมีองค์ชายทั้งสองประทับอยู่ด้วย“จนถึงยามนี้แล้วเจ้าก็ยังคิดไม่ได้อีกหรือ น้องรองพระชายาของเจ้าผู้นี้แม้ว่าจะไม่ได้งดงาม รูปร่างก็ใหญ่โตแต่สิ่งที่นางมีเหนือผู้อื่นก็คือความจริงใจ แม้ว่าจะดุดันและไม่ช่างเอาอกเอาใจแต่เจ้าก็ไม่ต้องคอยระมัดระวังตัวและคอยคาดเดาอารมณ์ของนาง นางโกรธเจ้าก็รู้ นางโมโหเข้าก็แค่ถูกด่าหลังจากถูกโบยตีไม่กี่ทีนางก็กลับไปเป็นปกติแล้ว” หลี่ไท่หลงฮ่องเต้ทรงตรัสพลางถอนพระปัสสาสะออกมา“ในขณะที่คนงามส่วนใหญ่กลับซับซ้อนมากกว่านั้นภายใต้สีหน้ายิ้มแย้มของพวกนางมีความคิดมากมายซุกซ่อนอยู่ภายในใจ ข้าเชื่อว่าเจ้าไม่มีทางจะคาดเดาความคิดของนางได้แน่ น้องรองเจ้าโชคดีแล้วที่ได้โม่หลันเป็นพระชายา อย่าได้คิดหาเศษหาเลยแล้วทำให้ชีวิตของตนเองต้องตกต่ำอีกเลย” เมื่อหลี่ไท่หลงฮ่องเต้ทรงตรัสเช่นนี้โซ่วอ๋องที่คุกเข่าขอรับผิดอยู่ตรงหน้าก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ“เสด็จพี่! แล้วพระองค์ทรงไม่เคยหวั่นไหวบ้างเลยหรือ มีคนงามมาอยู่ตรงห

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 71 บัวขาวอีกหนึ่งดอก

    เฉินฮองเฮาแห่งแคว้นต้าเยียนทรงสิริโฉม เต็มเปี่ยมไปด้วยสติปัญญา ได้รับความรักและความให้เกียรติจากสวามีจนสตรีทั่วแคว้นต่างโจษจันกันไปจนทั่ว สตรีทุกนางล้วนริษยาในความพรั่งพร้อมและสมบูรณ์พูนสุขของพระนางนาง พระนางประสูติพระโอรสสองพระองค์พระธิดาหนึ่งพระองค์แม้ว่าจะทรงมีพระชันษามากแล้วความงามของพระนางก็ยังคงเป็นที่กล่าวขานถึง“นี่ใช้คำว่ารักและให้เกียรติได้อย่างไรกัน ต้องใช้คำว่ารักและเคารพมากกว่า” หลี่เทียนหลงองค์รัชทายาทแคว้นต้าเยียนเอ่ยกับพระอนุชาด้วยสุรเสียงแผ่วเบา“รักหรือไม่ข้าไม่แน่ใจ แต่เคารพและเกรงกลัวข้าขอยืนยันว่าเป็นความจริง เสด็จพี่ทรงทอดพระเนตรดูขุนนางที่ไม่รู้จักตายนั่นสิ พยายามจะยัดเยียดบุตรสาวโฉมงามให้เสด็จพ่อ แถมยังโอ้อวดว่าทั้งร่างกายและจิตใจบุตรสาวของเขาล้วนงดงามพิสุทธิ์หาผู้ใดเทียม ช่างไม่ดูเสียบ้างว่ายามนี้สีพระพักตร์ของเสด็จพ่อซีดเซียวเสียยิ่งกว่าไก่ในโถน้ำแกงเสียอีก” หลี่เทียนเฮ่าผู้เป็นองค์ชายรองเอ่ยกับพระเชษฐาด้วยน้ำเสียงซุกซน โดยไม่สนพระทัยหลี่เทียนหรูพระขนิษฐาพระองค์เล็กที่ในยามนี้หลบไปนั่งอยู่กับบรรดาสตรีในจวนผิงกั๋วกงแล้ว ค่ำคืนนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองเทศกาลหยวนเซี

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 70 เพลิงโทสะ

    หลังจากเสร็จสิ้นพิธีอภิเษกไปเพียงไม่กี่วัน เฉินเจียวเจียวก็ต้องสวมชุดไว้ทุกข์ให้แก่จ้าวไทเฮา แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่คาดเดาได้อยู่แล้ว แต่เพลิงพิโรธของหลี่เซียวหลงฮ่องเต้ผู้เป็นราชบิดาของสามีก็ยังทำให้นางอดใจสั่นไม่ได้“เจ้าลูกเลว! หากเจ้าไม่ส่งคนไปบอกยามนี้พระนางก็คงจะยังทรงดำเนินชีวิตได้ตามปกติ” พระสุรเสียงที่ทรงตรัสออกมาทำให้เฉินเจียวเจียวที่คุกเข่าอยู่ทางด้านข้างขององค์รัชทายาทไม่กล้าเงยหน้าขึ้น“ลูกก็แค่คิดว่าไม่ควรจะหลอกลวงพระนางอีกต่อไป”“ยังไม่สำนึกอีก! หลี่ไท่หลงนางคือเสด็จย่าของเจ้านะ นางคือแม้แท้ๆ ของข้า และก็เป็นนางที่ผลักดันจนข้าได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้จวบจนทุกวันนี้” ถ้อยคำนี้ของหลี่เซียวหลงฮ่องเต้ทรงเต็มไปด้วยกระแสอารมณ์อันเศร้าโศกและโกรธเกรี้ยว เฉินเจียวเจียวที่ก้มหน้าอยู่อดเหลือบมองสวามีของตนเองที่ยามนี้เงยหน้าขึ้นไปทุ่มเถียงกับพระราชบิดาของตนเองไม่ได้“แต่ก็เป็นพระนางที่วางแผนปลิดชีพพระมารดาของลูก เป็นพระนางที่ยึดครองพระราชอำนาจของเสด็จพ่อไปตั้งนานหลายปี แล้วก็เป็นพระนางที่สนับสนุนสกุลจ้าวให้ทะเยอทะยานและก้าวล้างพระราชอำนาจของเสด็จพ่ออยู่หลายครั้ง ลูกเข้าใจในความรักความผูกพัน

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 69 พระชายาองค์รัชทายาท

    พิธีอภิเษกขององค์รัชทายาทและคุณหนูใหญ่จวนผิงกั๋วกงถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ บุรุษของจวนผิงกั๋วกงเดินทางเข้าเมืองหลวงพร้อมกันอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมในพิธีครั้งนี้ เฉินเจียวเจียวแต่งกายอย่างดงามสวมมงกุฎหงส์และผ้าคลุมหน้าที่ปักลวดลายอันวิจิตรนั่งเกี้ยวเข้าวังหลวงอย่างยิ่งใหญ่ การแต่งงานในชาตินี้นับว่าเป็นการแต่งงานที่ยิ่งใหญ่กว่าในชาติที่แล้ว คนที่รอรับนางลงจากเกี้ยวก็ไม่ใช่คนเดิม นางจึงไม่กล้าตั้งความหวังต่อชีวิตการแต่งงานเท่าใดนัก ไม่คาดหวังก็ย่อมจะไม่ผิดหวัง เรื่องนี้นางสามารถเรียนรู้มาจากชาติที่แล้ว ในชาตินี้ชีวิตของนางจึงถูกเติมเต็มไปด้วยความสุข“ฮู่ว ในที่สุดก็ได้พบหน้ากันโดยไม่ต้องปีนกำแพงเสียที” องค์รัชทายาทเอ่ยหลังจากที่ใช่คันชั่งเปิดผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว เขาจ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่งด้วยสายตาอันแวววาว แล้วจึงได้เอ่ยถ้อยคำชื่นชมออกมาอย่างที่ควรจะเป็น“เจ้างามมาก” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้นางอดยิ้มออกมาไม่ได้ฝ่าบาททรงประทานงานเลี้ยงฉลองให้แก่ผู้มาร่วมงานภายในวัง แต่เพราะเขามีฐานะเป็นถึงองค์รัชทายาทจึงไม่ต้องออกไปคารวะสุรามงคลให้แก่ผู้ใด ยามนี้ภายในห้องหอจึงมีเพียงเขาและนางเพียงเท่านั้น

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 68 ฝันร้ายของโซ่วอ๋อง

    พิธีปักปิ่นของคุณหนูใหญ่ของจวนผิงกั๋วกงถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ในฐานะว่าที่พระชายาองค์รัชทายาท ย่อมมีเจ้าหน้าที่จากกรมพิธีการมาช่วยเหลือในการดำเนินพิธี เฉินเจียวเจียวนั่งอยู่ท่ามกลางเหล่าฮูหยินผู้เต็มไปด้วยโชคลาภทั้งหลายด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม พวกนางช่วยหวีผมให้พร้อมคำอวยพรอันเป็นมงคลปิ่นแรกที่ปักลงมาบนมวยผมคือปิ่นพระราชทานจากเฉียวกุ้ยเฟย ตามมาด้วยปิ่นของพระนางเต๋อเฟย และบรรดาพระสนมที่เฉินเจียวเจียวเคยพบ ฮูหยินผู้เฒ่าจวนผิงกั๋วกงและฮูหยินผู้เฒ่าจวนสกุลหยวนนำปิ่นมาปักลงบนมวยผมของเฉินเจียวเจียวด้วยตนเอง ต่อมาก็เป็นสตรีอาวุโสในจวนและสตรีอาวุโสที่มีความสัมพันธ์กันดีกับจวนผิงกั๋วกงเมื่อเสร็จสิ้นพิธีปักปิ่นเฉินเจียวเจียวก็ลูกขึ้นคารวะขอบคุณอย่างเต็มพิธีการสามครั้งแล้วจึงเข้าสู่งานเลี้ยง เฉินเจียวเหม่ยและเฉินเจียวมี่ที่ได้รับหน้าที่ถือพานใส่หวีและปิ่น ต่างรีบจับจูงนางกลับเรือนด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม มีคุณหนูจากหลายจวนที่มีความสัมพันธ์อันดีมาร่วมแสดงความยินดีด้วย แน่นอนว่าคนที่มาย่อมขาดหวังฮุ่ยหลิงและองค์หญิงเก้าหลี่ถังหรูไม่ได้เหตุการณ์ปราบกบฏสกุลเจ้าเกิดขึ้นเร็วกว่าในชาติที่แล้ว ในชาตินี้เซียว

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 67 พบหน้า

    เมื่อบ้านเมืองสงบสุขชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประชาก็กลับมาดำเนินไปตามปกติ เกิดแก่เจ็บตายล้วนเป็นไปตามยถากรรมของโลก ในเมื่อหลินชิงเหมยไม่สามารถทนรับความบอบช้ำของร่างกายไม่ไหว นางจึงได้ตายจากไปในที่สุด ในตอนที่นางจะตายนางยังเคยอดสงสัยไม่ได้ว่า หากนางไม่ทะเยอทะยาน หากนางไม่คิดจะร่วมมือกับสกุลจ้าวชีวิตของนางจะต้องจบลงเช่นนี้ไหม น่าเสียดายที่ต่อให้นางสงสัยมากเพียงใดก็ไม่อาจจะทำอันใดได้แล้วแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นแต่นางกลับรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่า การตายเช่นนี้กลับดีมากแล้ว เพราะในความฝันของนาง นางเคยต้องเผชิญกับความตายที่น่ากลัวกว่านี้ ทั้งถูกทุบตี ทั้งถูกรุมย่ำยีแถมยังถูกทารุณกรรมจนไม่เหลือสภาพความเป็นคน อยากตายก็ไม่ได้ตาย ลืมตาขึ้นมาในแต่ละวันต้องร้องไห้ทุกครั้งที่พบว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่ การถูกโบยจนตายน่าจะเป็นการตายที่สวรรค์ปรานีสำหรับนางมากแล้ว นี่คือความคิดสุดท้ายในห้วงความนึกคิดของนาง ตอนที่โซ่วอ๋องมารับร่างที่ไร้ลมหายใจของนางจึงได้เห็นว่าแม้ในยามหลับบนใบหน้าของนางก็ยังมีรอยยิ้มประดับอยู่หลินชิงเหมยตายแล้ว โซ่วอ๋องจะทุกข์ใจหรือไม่เฉินเจียวเจียวไม่ได้ให้ความสนใจอีกแล้ว เรื่องราวในกาลก่อนราวกับ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status