/ วาย / คำขอจากเฮียคินทร์ (mpreg) / ตอนที่ 4 ขนมจากเฮียคินทร์

공유

ตอนที่ 4 ขนมจากเฮียคินทร์

작가: Chenaimei
last update 최신 업데이트: 2025-07-30 18:19:37

เสียงกริ่งดังขึ้นเมื่อถึงเวลาพักเที่ยง ทันทีที่ร่างเล็กก้าวขาออกมาจากห้องเรียนก็เจอกับสองพี่น้องยืนรออยู่

คีนกระโดดเข้ามาเกาะแขนพลางยิ้มแป้นให้กันอย่างที่ชอบทำ ผิดกับเคนที่แค่เดินเข้ามาหานิ่ง ๆ พร้อมเอ่ยปากบอกกับสมาชิกอีกคนที่ตนมายืนรอ ก่อนจะเดินนำออกไป

“ไปกินข้าว หิวแล้ว”

ระหว่างทางเดินมาโรงอาหารคีนยังไม่ปล่อยแขนน่านน้ำให้เป็นอิสระทั้งยังพูดเจื้อยแจ้วถึงการเรียนในช่วงเช้า

คีนเป็นนักเรียนมัธยมชั้นปีที่หนึ่งที่ดูตัวโตเกินวัย ส่วนเคนเป็นพี่มอหกปีสุดท้ายที่จะได้เรียนที่นี่ แม้อายุของเคนกับน่านน้ำจะห่างกันแค่ปีเดียวแต่เพราะตอนอายุสิบหกช่วงเข้ามอสี่น่านน้ำจำเป็นต้องหยุดเรียนเพราะป้าษาไม่ได้ทำเรื่องส่งเขาเข้าเรียนต่อ จึงได้มาเรียนมอสี่ตอนอายุใกล้จะสิบเจ็ดอีกแค่ไม่กี่เดือนหลังจากหยุดเรียนไปหนึ่งปี

สายตาหลายคู่จับจ้องมายังสองพี่น้องหน้าตาดี ผู้ถูกขนานนามไปทั่วทั้งโรงเรียน เป็นที่รู้จักของนักเรียนทุกระดับชั้น ต่อให้เขาจะเดินอยู่ข้าง ๆ คีน ทว่าไม่ต่างจากอากาศหรือสิ่งกีดขว้างที่บดบังใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มข้าง ๆ

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารรู้สึกน่าอึดอัดไม่น้อย นั่นอาจเป็นเพราะสายตาที่จับจ้องมาที่พวกเขาอยู่ตลอด

น่านน้ำอยากจะลุกออกไปนั่งหลบมุมทานคนเดียวเงียบ ๆ แต่หากทำแบบนั้นคีนคงไม่ยอม เห็นเคนเงียบ ๆ แบบนี้เจ้าตัวก็คงไม่ยอมเหมือนกัน

ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่อยู่บ้านเดียวกัน น่านน้ำพอจะรู้นิสัยของทั้งสองคนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจเกือบห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็คือทุกคนที่บ้านวิรุฬห์โยธินมองว่าน่านน้ำเป็นคนในครอบครัว แม้ว่าตัวเขาเองจะยังไม่ยอมรับในจุดนั้นก็ตาม

“พี่น่านกินเยอะ ๆ นะ คีนแบ่งหมูกรอบให้”

เด็กหนุ่มข้างกายตักหมูกรอบในจานของตัวเองใส่จานของน่านน้ำตามที่พูด เช่นเดียวกับเคนที่แม้จะไม่พูดอะไรแต่กลับตักไก่ให้เขา

“ขอบคุณนะ” เมื่อเป็นผู้รับแล้วก็ควรเป็นผู้ให้ด้วย น่านน้ำเอ่ยขอบคุณพร้อมกับตักไข่ดาวในจานให้กับคีน ก่อนจะตักแตงกวาให้กับเคน เพราะเขารู้ว่าคนอายุมากชอบทานผัก ส่วนน้องเล็กอย่างคีนเป็นคนไม่ทานเผ็ด

จริง ๆ แล้วเขาอาจจะรู้จักทุกคนมากกว่าที่คิดก็ได้ เพราะหลายต่อหลายครั้งที่น่านน้ำคอยสังเกตพฤติกรรม การใช้ชีวิต รวมถึงอาหารการกินของแต่ละคนในบ้าน

นั่นคงเป็นเพราะน่านน้ำคิดว่าสักวันเขาอาจจะทำอะไรเพื่อตอบแทนทุกคนในแบบที่อีกฝ่ายชอบและไม่รู้สึกอึดอัด

หลังทานข้าวเสร็จยังมีเวลาเหลืออยู่อีกนิดหน่อยก่อนเข้าเรียนช่วงบ่าย คีนลากเคนกับน่านน้ำมานั่งเล่นที่โดมกระจก ซึ่งเป็นพื้นที่กว้างมีที่นั่งพักผ่อนสำหรับนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียน

“ปล่อยให้น่านเขาไปอยู่กับเพื่อนบ้างก็ได้คีน”

เคนเอ่ยดุน้องชายที่ตามติดอีกคนแจ ทั้งที่เป็นเวลาพักก็ไม่ยอมปล่อยให้น่านน้ำได้ไปอยู่กับเพื่อน โดยที่เคนไม่รู้เลยว่าจริง ๆ แล้วน่านน้ำไม่ได้มีเพื่อนอย่างที่คิด หากกลับขึ้นห้องเขาก็คงไปนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ คนเดียวอย่างเคย ต้องขอบคุณคีนด้วยซ้ำที่ลากเขามานั่งด้วยกัน อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่เหงา..

“ไม่ได้อยู่ด้วยกันที่โรงเรียนแบบนี้ทุกวันสักหน่อย คีนก็แค่อยากเล่นกับพี่น่าน ทำไมเฮียเคนต้องทำเสียงดุ เหมือนเฮียคินทร์ไม่มีผิด”

เด็กหนุ่มบ่นกระปอดกระแปด ไม่ว่าจะพี่คนโตหรือพี่คนกลางต่างก็เอาแต่ดุตนเรื่องน่านน้ำ เขาก็แค่อยากเล่นกับน่านน้ำก็เท่านั้น

“เฮียเบื่ิอจะคุยกับคีน” คนพูดถอนหายใจหนักพลางเบือนหน้าไปทางอื่น

“คีนก็เบื่อเฮีย คนอะไรชอบทำหน้าเบื่อโลก ชิ!”

คนถูกบ่นไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไรนัก ปล่อยให้น้องชายตั้งแง่ตั้งงอนอยู่ฝ่ายเดียว

สามพี่น้องที่เกิดมาจากท้องเดียวกันช่างต่างกันอย่างเห็นได้ชัดจริง ๆ

น่านน้ำไม่มีส่วนออกความคิดเห็นใด ๆ ในเรื่องนี้ สำหรับเขายังไงก็ได้ หากคีนอยากให้อยู่ตรงนี้เขาก็จะอยู่ หรือถ้าอยากให้ไปเขาก็จะไป การอยู่กับสองพี่น้องไม่ได้น่าอึดอัดเท่าการถูกสายตาคนอื่นจับจ้อง

เวลาล่วงเลยมานับสิบนาทีน่านน้ำได้รู้จักรุ่นน้องเพิ่มมาคนหนึ่ง เป็นเพื่อนของคีนซึ่งเรียนอยู่ห้องเดียวกัน จากที่ดูเผิน ๆ คงจะสนิทกันระดับหนึ่ง เจ้าเด็กพูดเก่งแนะนำน่านน้ำให้เพื่อนได้รู้จักโดยบอกไปว่าน่านน้ำเป็นพี่ชายของตนเอง

ไม่ได้อธิบายเรื่องราวส่วนตัวใด ๆ บอกกล่าวเพียงเท่านั้นเพื่อให้รู้จักกันก็เป็นอันจบ

“อีกเดี๋ยวต้องเข้าเรียนแล้ว.. พี่ว่าเราแยกกันกลับห้องเลยดีไหม”

เสียงหวานเอ่ยอ้อมแอ้มคล้ายเกรงใจ ทว่าเคนรีบตอบตกลงเห็นด้วยโดยไม่ต้องคิดให้นาน ต่างจากคีนที่ทำหน้าเซ็ง ๆ

“อือ แยกกันเลยดีกว่า”

“ยังอยากนั่งเล่นกับพี่น่านอยู่เลย”

“น้อย ๆ หน่อยคีน เลิกเรียนก็ได้เจอกัน กลับบ้านก็เจอกัน จะโอดครวญอะไรนัก”

พี่ชายคนกลางเอ็ดน้องชายเสียงเข้ม ไม่ได้พูดเสียงดัง ทว่าถอยคำที่เอ่ยออกมาหนักแน่นมากพอที่จะทำให้คีนเถียงไม่ออก

“ไม่เห็นต้องดุเลย..” เด็กหนุ่มเอ่ยพึมพำเสียงเบานึกน้อยใจพี่ชายที่เดี๋ยวนี้เอาแต่ดุเขากันทั้งสองคน

“อย่าดุน้องเลยครับเฮียเคน” เมื่อเห็นสีหน้าไม่ดีของคีนคนกลางอย่างเขาก็พยายามทำให้ทุกอย่างโอเคที่สุด “เดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่ห้อง.. โอเคไหม”

“รบกวนพี่น่านหรือเปล่า”

เพราะถูกพี่ชายสองคนพูดกรอกหูอยู่บ่อยครั้งว่าตนรบกวนน่านน้ำมากเกินไป แต่เพราะมีน่านน้ำคอยให้ท้าย ไม่เคยกล่าวโทษว่ารบกวน คีนเลยไม่ได้เก็บเอาคำพูดพวกนั้นของเฮียคินทร์มาใส่ใจ ทว่าครั้งนี้คนที่ดุเป็นเฮียเคน เขาจึงรู้สึกเกรงกลัวมากกว่า อาจจะเพราะท่าทางและใบหน้าเรียบนิ่งสายตาจริงจังที่มองมา น้ำเสียงเย็นเยือก เขาถึงได้ฉุกคิดขึ้นมาจึงได้เอ่ยถามออกไป

“ไม่รบกวนเลย เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ”

“ครับ”

น่านน้ำยกยิ้มให้เด็กหนุ่มข้างกายเพื่อคลายความกังวล เคนไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ยืนมองนิ่ง ๆ ก่อนจะปลีกตัวเดินกลับไปที่ตึกเรียนของตนเอง

เช่นเดียวกับคีนที่น่านน้ำอาสามาส่งถึงห้องเรียน เด็กหนุ่มกอดแขนคนพี่เอาไว้หลวม ๆ ก่อนจะเอ่ยขอบคุณในน้ำใจ จากนั้นถึงจะเข้าห้องไปพร้อมกับเพื่อน

น่านน้ำเดินกลับมาที่ห้องเรียนเพียงลำพัง นั่งประจำที่ของตัวเอง พร้อมหยิบหนังสือวิชาต่อไปขึ้นมาตั้งไว้บนโต๊ะ ใบหน้าจิ้มลิ้มเบือนหน้าออกมองนอกหน้าต่าง เพราะไม่รู้ว่าควรเอาสายตาไปไว้ตรงไหน

.

.

หลังเลิกเรียนคินทร์มารับน่านน้ำกับคีนอย่างที่บอกเอาไว้ ส่วนเคนแยกออกไปกับเพื่อน

เดินเล่นมาได้สักพักทั้งสามคนก็พากันไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่น เพราะน้องเล็กอยากทาน ไม่รู้เป็นเพราะหิวหรือเมนูแต่ละอย่างน่าทานจนเลือกไม่ถูก คีนถึงได้สั่งมาเยอะเกินจำนวนคนทั้งสามจะทานหมด

“กินได้หรือเปล่า จะสั่งอย่างอื่นที่น่านอยากกินก็ได้นะ”

“พอแล้วครับ แค่นี้ก็เยอะแล้ว”

แม้ว่าเมนูส่วนใหญ่ที่สั่งมาจะเป็นจำพวกปลาดิบ ซึ่งน่านน้ำไม่ทานมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทว่าจะให้สั่งเพิ่มก็เกรงใจ แค่บนโต๊ะที่มีอยู่ก็ไม่รู้จะทานหมดหรือเปล่าด้วยซ้ำ อย่างนั้นจึงเลือกแค่ที่ตัวเองทานได้ก็พอ

คินทร์คอยสังเกตเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นระยะ คอยเติมน้ำให้เมื่อเห็นว่าพร่องลงไปเกือบหมดแก้ว พร้อมกับได้รอยยิ้มแทนคำขอบคุณจากอีกฝ่าย

เจ้ามือมื้อนี้เป็นพี่ใหญ่อีกตามเคย คีนลูบท้องตัวเองป้อย ๆ หลังจากกินอิ่มจนแทบไม่มีที่ว่างให้ยัดอะไรลงไปได้อีก

“อิ่มมาก! พี่น่านอิ่มหรือเปล่า คีนเห็นพี่น่านกินนิดเดียวเอง”

“อิ่มแล้ว”

ปกติไม่ใช่คนกินเยอะอยูู่แล้ว ยิ่งอาหารญี่ปุ่น น่านน้ำเลือกกินจำพวกข้าวเสียส่วนใหญ่ เลยไม่แปลกที่อิ่มเร็ว

เดินเลือกซื้อของต่ออีกนิดหน่อยก็พากันกลับบ้าน เด็กวัยกำลังโตอย่างคีนพอกินอิ่มหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน ครั้นลงจากรถก็รีบเข้าบ้านขึ้นห้องไปนอนทันที น่านน้ำช่วยคินทร์ถือถุงของกินของใช้ที่ซื้อมาตั้งไว้ที่โต๊ะทานอาหาร

“งั้นน่านขอตัวไปอาบน้ำทำการบ้านก่อนนะครับ”

เสียงหวานเอ่ยพูดอ้อมแอ้ม เมื่อไม่มีอะไรให้ทำแล้ว เขาก็ควรกลับขึ้นห้องไปจัดการหน้าที่ของตัวเองบ้าง

“เดี๋ยวก่อน”

ไม่ทันได้เดินไปคินทร์ก็เรียกไว้เสียก่อน น่านน้ำมองอีกคนด้วยความสงสัย รอฟังว่าคนพี่ต้องการจะพูดอะไรกับตน ทว่าคินทร์หันไปหยิบถุงสีน้ำตาลใบเล็กส่งมาให้แทน

“ครับ?”

“ขนมเค้กหน้ามะพร้าวอ่อน เฮียไม่รู้ว่าน่านชอบหรือเปล่า แต่ตอนเดินผ่านหน้าร้านเฮียเห็นว่าน่าทานดีเลยซื้อมาให้” ครั้นเห็นว่าเด็กตรงหน้ายังไม่ยอมรับขนมในมือก็เกรงว่าตัวเองอาจทำให้คนน้องอึดอัดจึงเอ่ยออกไปอีกครั้ง “แต่ถ้าน่านไม่ชอบทานก็ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวเอาใส่ตู้เย็นไว้ก็ได้”

“น่านชอบครับ ขอบคุณนะครับเฮียคินทร์”

น่านน้ำชอบกินเค้กเป็นชีวิตจิตใจ ทว่ามันเป็นเพียงความชอบในอดีตเท่านั้น.. อาจเป็นเพราะมันคืออีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เขาหวนคิดถึงเรื่องราวที่เจ็บปวด ถึงอย่างนั้นให้ปฏิเสธน้ำใจก็ไม่กล้า

เด็กหนุ่มรับถุงขนมเค้กมาถือไว้ ก่อนจะค้อมหัวให้คนอายุมากกว่าเล็กน้อย

“น่านขึ้นห้องก่อนนะครับ”

“ครับ”

คินทร์ยืนมองน่านน้ำเดินขึ้นบันไดจนลับตา หลังจากนั้นจึงเก็บของบนโต๊ะไปไว้ให้เข้าที่ด้วยตัวเอง

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • คำขอจากเฮียคินทร์ (mpreg)   บทส่งท้าย

    แสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาแยงตาคนที่ยังคงสะลึมสะลืออยู่บนเตียง ร่างกายเล็กค่อย ๆ ขยับกายทว่ารู้สึกได้ถึงแรงกอดรัดบริเวณเอว ดวงตาบวมช้ำพยายามลืมขึ้นเพื่อมองช่วงล่าง ท่อนแขนแข็งแรงของชายหนุ่มร่างใหญ่ที่นอนซ้อนหลังกอดเขาเอาไว้ไม่ปล่อย น่านน้ำจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ แต่ไม่คิดว่าคินทร์ยังคงอยู่ที่นี่ นึกว่ากลับไปแล้วเสียอีก ทั้งที่ปกติชายหนุ่มไม่ใช่คนขี้เซาแต่เช้านี้กลับยังไม่ตื่น อาจเป็นเพราะเพิ่งจะได้นอนเมื่อตอนตีห้า เพราะเมื่อคนนี้น่านน้ำนอนละเมอเกือบทั้งคืน กว่าจะหลับสนิทดีก็ตีสี่กว่าแล้ว น่านน้ำนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน คิดถึงสิ่งที่เพลงขิมบอกเมื่อคืนนี้ เรื่องทั้งหมดในวันนั้นเป็นเพียงการเข้าใจผิดที่ถูกจัดฉากขึ้นมาเพียงเพราะพ่อของเพลงขิมต้องการที่จะเกี่ยวดองเรื่องธุรกิจ ส่วนคินทร์ต้องก้มหน้ารับผิดเพราะจำไม่ได้จึงไม่แน่ใจว่าตัวเองทำลงไปจริง ๆ หรือเปล่า อีกทั้งความใจร้อนของเขาที่เชื่อสิ่งที่ตาเห็นโดยไม่ได้ถามอะไรให้ได้ความชัดเจนก่อน กลายเป็นว่าเขาเองที่เชื่อใจคินทร์ไม่มากพอ เพราะความโง่เง่าของเขาเองที่ถูกปั่นหัวได้ง่าย ๆ แทนที่จะหนักแน่นให้มากกว่านี้ คนที่ทำผิดพลาดมากที

  • คำขอจากเฮียคินทร์ (mpreg)   ตอนที่ 39 เคลียร์จบทุกปัญหา

    ตั้งแต่เช้าเมื่อวานจนถึงวันนี้คินทร์ยังคงวิ่งวุ่นเรื่องดำเนินคดีความเรื่องที่ตนไปแจ้งจับพ่อของเพลงขิม หลังจากสืบสวนแล้วถึงรู้ว่าสุรินทร์ก่อเหตุเอาไว้หลายกระทง แต่ถูกปกปิดทั้งหมด นั่นเพราะผู้กำกับคนเก่าซึ่งเป็นเส้นสายของตนเองช่วยเอาไว้ หลังจากรังสรรค์รู้เรื่องทุกอย่างจากลูกชาย ก็ช่วยอย่างเต็มที่เพราะเขาเองก็ใช่ว่าจะไม่มีเส้นมีสาย แอบตำหนิไปเล็กน้อยที่เพิ่งมาบอกกัน ที่ผ่านมารังสรรค์คิดว่าตัวเองจัดการทุกอย่างเรียบร้อยตั้งแต่สิบปีก่อนแล้ว ทว่าความจริงคนผิดที่อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุการตายของพ่อแม่น่านน้ำตัวจริงคือสุรินทร์ ส่วนคนที่ถูกจับเป็นแค่แพะรับบาปที่รู้ทุกอย่าง เป็นคนที่ยอมสารภาพผิดเพราะคำขู่ของสุรินทร์ สาเหตุที่สุรินทร์ได้จ้างคนให้จัดการพ่อแม่น่านน้ำมาจากความแค้นส่วนตัวในอดีต รวมถึงธุรกิจที่กำลังจะไปได้ดีแซงหน้าตนความอิจฉาของสุรินทร์เพิ่มพูนขึ้นจนกลายเป็นบันดาลโทสะ รังสรรค์ไม่คิดเลยว่าจะพลาดท่าเชื่อคำสารภาพของชายคนนั้นเมื่อสิบปีก่อน ไม่คิดว่าตัวเองจะโง่ได้ถึงเพียงนี้ ทว่าความลับที่ถูกปกปิดเอาไว้ก็กระจ่าง แก้แค้นให้เพื่อนรักตอนนี้ก็ยังไม่สาย เพลงขิมเพิ่งรู้สิ่งที่พ่อของตนเอง

  • คำขอจากเฮียคินทร์ (mpreg)   ตอนที่ 38 น้องคุณช่วยคุณพ่อ

    ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นวันว่างของคินทร์และน่านน้ำ จึงตกลงกันว่าจะพาลูกออกไปเที่ยวด้วยกัน เพราะผ่านมานานมากแล้วที่เราไม่ได้ใช้เวลาครอบครัวร่วมกัน ในตอนแรกน่านน้ำก็คิดที่จะปฏิเสธปล่อยให้สองพ่อลูกได้ไปกันสองคน ส่วนตนจะขออยู่ที่ห้อง เก็บกวาดเช็ดถู เนื่องจากตลอดสัปดาห์ต้องไปทำงาน ไม่ได้มีเวลาหยิบจับอะไรให้เข้าที่เข้าทางสักเท่าไร ทว่าพอมานึกดูแล้ว เขาเองก็มีเวลาให้ลูกได้ไม่เต็มที่ตั้งแต่เข้าทำงานประจำที่บริษัท อีกทั้งลูกชายยังออดอ้อนให้มาด้วยกัน สุดท้ายก็ใจอ่อน คินทร์ลอบมองอดีตคนรักแทบจะทุกห้านาที สังเกตสีหน้าว่าอีกคนยินดียินร้ายอย่างไรที่มาด้วยกัน สิ่งหนึ่งที่คิดไม่อยากให้เกิดขึ้นระหว่างเราคือความอึดอัดใจ หลายครั้งที่คำพูดของป๊าผุดขึ้นมาในหัว “แต่ลูกรู้ใช่ไหมว่าถ้าวันหนึ่งต้องเลิกรากัน หากจะกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมมันเป็นไปได้ยาก” เพิ่งจะรู้ซึ่งก็ตอนนี้ว่ามันจริงอย่างที่ป๊าเตือนเอาไว้ ทั้งที่เราไม่ได้โกรธเกลียดอะไรกัน แต่ไม่สามารถกลับมาเป็นพี่น้องอย่างเดิมได้อีก สถานะของเขาและน่านน้ำ คืออดีตสามีภรรยา รวมถึงพ่อและแม่ของมีคุณ หรือต่อให้กลับมาเป็นพี่น้องกันได้อีกครั้ง คินทร์ก

  • คำขอจากเฮียคินทร์ (mpreg)   ตอนที่ 37 ความคิดถึงที่มีอยู่ล้นอก

    “เฮียจะมาที่ร้านเหรอ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความสงสัย ครั้นพี่ชายบอกจะเข้ามาหาที่ร้าน เพราะโดยปกติแล้วรายนั้นเอาแต่ทำงาน เคยแวะมาที่ผับที่บาร์แบบนี้ซะที่ไหน ตั้งแต่เคนเปิดร้านมาสองปีย่างเข้าปีที่สามคินทร์ยังไม่เคยแวะเข้ามาดูด้วยซ้ำ [อืม เดี๋ยวเฮียไป] “ครับ” สายถูกตัดไป ทิ้งไว้เพียงความงุนงงให้กับเคน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนแทบจะพันเป็นเลขแปด ก่อนจะส่งข้อความไปหาน้องชายคนเล็กให้ตามมาที่ร้านอีกคน “ปล่อยพลับได้ยัง!?” เสียงหวานเอ่ยถามพร้อมสีหน้าที่ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนัก หลังจากที่ถูกเรียกให้มาหาด้วยเหตุผลที่โคตรของโคตรไร้สาระ “ถ้าคืนนี้ฉันเห็นเธอไปยุ่งกับไอ้เสี่ยนั่นอีก ฉันจะไล่ออก” “ก็นั่นมันงานของพลับ คุณเคนเป็นเจ้านายก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรือไง” “คำไหนคำนั้น เธอน่าจะรู้นะว่าฉันทำจริง” เคนทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาพร้อมกับปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ เอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งที่คนมองมองยังไงก็กวนประสาทกันอยู่ชัด ๆ รู้ทั้งรูว่างานที่เขาทำคือการบริการลูกค้า แล้วมาห้ามไม่ให้ไปยุ่งกับลูกค้า แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน “เอาสิ ถ้าคุณเคนไล่พลับ พลับจะไปทำงานที่ร้านคุณย้งก็ได้ ยังไงที่นั่นเขาก็ต

  • คำขอจากเฮียคินทร์ (mpreg)   ตอนที่ 36 คืนสุดท้ายของเราสองคน

    ใบหน้าหล่อเปื้อนน้ำตาซบแผ่นหลังเล็กไม่คิดจะผละออก โอบกอดเอวบางเอวไว้แน่น คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เขาจะได้อยู่กับน่านน้ำ เขาจึงยอมหน้าด้านขอใช้เวลาคืนนี้ด้วยกันก่อนที่อีกคนจะย้ายออกไปจากที่นี่ คินทร์พาลูกไปฝากไว้กับป๊าม๊า เพื่อที่จะได้อยู่กับน่านน้ำสองคน เขาอยากใช้ช่วงเวลานี้ตักตวงความสุขให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เวลาเกือบครึ่งปีที่เราทั้งคู่แยกกันนอนคนละห้อง เขาไม่ได้กอดน่านน้ำเลยสักครั้ง เฝ้าแต่คิดถึงและบอกตัวเองให้อดทนอยู่ทุกเช้าค่ำ เพราะหากทำอะไรรุ่มร่ามไปคนน้องอาจจะอึดอัดใจได้ คินทร์ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ภายในห้องนอนสีเหลี่ยมถูกปิดไฟมืดสนิทไม่มีแม้แต่เสียงเล็ดลอดใด ๆ เข้ามา ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศหนาวสะท้านเข้าถึงหัวใจ รู้สึกเจ็บจนชาไปทั่วทั้งอก เราทั้งสองคนต่างปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา จะมีก็แต่เสียงพึมพำของคินทร์ที่ดังแผ่วเบาอยู่ตรงแผ่นหลัง คินทร์ไม่กล้าแม้แต่จะข่มตานอน กลัวว่าตื่นมาแล้วจะไม่ได้เจอน่านน้ำอีก แอบร้องไห้เงียบ ๆ ไม่ให้คนน้องรู้ พร่ำบอกรักเบา ๆ ซ้ำไปซ้ำมา “เฮียรักน่าน ..รักน่านแค่คนเดียว” แม้ว่าน่านน้ำจะนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนคล้

  • คำขอจากเฮียคินทร์ (mpreg)   ตอนที่ 35 ก่อนที่เราต้องแยกกัน

    2 เดือนต่อมา ผ่านมาสองเดือนกว่ามีคุณได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนเตรียมอนุบาลแห่งหนึ่ง เป็นการตัดสินใจร่วมกันของน่านน้ำและคินทร์ ทั้งสองคนยังอยู่บ้านหลังเดียวกันตามที่อีกฝ่ายได้ขอเขาไว้ด้วยเหตุผลที่คินทร์ให้ไว้ว่าเพื่อลูกของเรา แต่เห็นทีคราวนี้น่านน้ำคงไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เพลงขิมยังคงแวะเวียนมาที่บ้านหลังนี้ตลอด แม้ว่าคินทร์จะห้ามปรามจนมีปากเสียงกันทุกครั้ง เพลงขิมก็ยังคงทำเป็นทองไม่รู้ร้อน บังเอิญน่านน้ำได้ยินเรื่องที่ทั้งคู่คุยกันอยู่ครั้งหนึ่ง เท่าที่จับใจความได้เหมือนว่าคินทร์จะไม่ยอมรับผิดชอบอะไรสักอย่าง เพียงเท่านั้นน่านน้ำก็เดินออกไปเพราะไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้ น่านน้ำเริ่มหางานใหม่ทำหลังจากหยุดทำงานฟรีแลนซ์มาสักพัก สมัครไปหลายบริษัท ตั้งตารอว่าจะมีที่ไหนเรียกตัวบ้างหรือเปล่า หลังจากส่งลูกชายที่โรงเรียนเสร็จน่านน้ำก็แวะมานั่งเล่นที่ร้านขนมที่พลับจีนทำงานอยู่ เขาไม่เคยคิดเลยว่าร้านขนมเล็ก ๆ ข้างมหา’ ลัยจะพัฒนามาเป็นร้านใหญ่โตในวันนี้ ซึ่งพลับจีนก็ยังคงทำงานที่นี่อยู่ จากเด็กเสิร์ฟในวันนั้น วันนี้ได้ขึ้นมาเป็นผู้จัดการ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status