“ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น”
“ไม่คิด แต่ก็ทำอยู่”
“แต่ผู้หญิงทุกคนรวมถึงคุณเมลิสา ต่างก็คบกับผมโดยที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่มีใครเอาเปรียบใคร มันเป็นข้อตกลงของเราสองคน”
“คุณพูดเหมือนไม่เคยรักใคร เพราะถ้าคุณรักใครคุณก็คงจะเข้าใจว่าทำไมฉันบอกว่าคุณใจร้าย”
เลอองหัวเราะอีก
“ความรักน่ะหรือ...ไร้สาระน่า คุณนี่ไร้เดียงสากว่าที่ผมคิดอีกนะ”
“ความรักเป็นเรื่องไร้สาระงั้นหรือคะ”
“ก็ไม่เชิง...แค่ผมไม่สนใจ”
ลลิลแสร้งถอนหายใจอย่างหนักหน่วง มองเขาเหมือนเห็นใจอย่างสุดซึ้ง
“ฉันสงสารผู้หญิงของคุณจังเลย ที่ต้องคบหากับผู้ชายที่ไม่รู้จักความรัก เพราะผู้หญิงพวกนั้นก็คงจะไม่มีวันได้รับความรักจากคนอย่างคุณ”
เลอองยังยิ้ม แต่แววตากระด้างขึ้น เขาชะโงกหน้ามากระซิบ
“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงที่คบหากับผมเขาต้องการความรัก...สิ่งที่ผมให้กับพวกเธอเหล่านั้นมันสำคัญแล้วก็...เร้าใจ...ยิ่งกว่าความรักเสียอีก ถ้าพูดขนาดนี้แล้วคุณยังไม่เข้าใจ ไว้สักวันผมจะสาธิตให้ดูเอาไหมล่ะว่าอะไรที่มันน่าสนใจกว่าความรักเพ้อ ๆ ที่คุณว่ามานั่น”
ลลิลอึ้ง เขาจงใจกวาดสายตามองเธอเหมือนจะให้ทะลุเข้าไปในเนื้อผ้า
“ทุเรศ น่ารังเกียจ!”
“ไม่เคยมีใครบอกว่าผมน่ารังเกียจ ยกเว้นคนที่ไม่เคยได้สัมผัส”
“หยาบคาย!”
ลลิลลุกขึ้นแต่เลอองคว้าแขนไว้แน่น...เขาเองก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะหยาบคายได้ขนาดนี้เหมือนกัน...แต่ความฉุนโกรธก็ทำให้เขาพูดและทำออกไปแล้ว...
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
ลลิลกัดฟันบอกเพราะไม่อยากเอะอะให้คนในร้านกาแฟหันมาสนใจ
เลอองส่งยิ้มเหยียดๆ ให้อีกครั้งก่อนจะยอมคลายมือที่แข็งราวคีมเหล็กนั้นออก หญิงสาวลูบแขนตัวเองป้อย ๆ มองเขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วสะบัดหน้าออกไป ชายหนุ่มเจ้าของโรงแรมเดอวีแลลมองตามด้วยแววตารู้สึกผิดนิด ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาจึงได้ลืมรักษากิริยามารยาท และพูดกับเธออย่างนั้นออกไปด้วย แถมยังแตะตัวเธออีก ดีแค่ไหนแล้วเธอไม่ร้องโวยวายว่าเขากำลังล่วงละเมิดทางเพศเธอในที่สาธารณะแบบนี้ เลอองถอนหายใจให้ความไร้สติของตัวเองก่อนก้มมองหนังสือพิมพ์ที่เปิดค้างตรงหน้าประกาศรับสมัครงาน ผู้หญิงคนนี้คงคิดจะหางานใหม่... แต่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขานี่นา ชายหนุ่มสรุปกับตัวเอง * * * * *“ลิล...คืนนี้เตรียมตัวไปงานเลี้ยงด้วยนะ คุณเลอองเขาเชิญ”
เมลิสาเอ่ยสั้น ๆ กับผู้ช่วยระหว่างทางกลับบ้าน
“ลิลขอตัวนะคะคุณเม อยากพักผ่อนน่ะค่ะ”
“ไปเถอะ คุณเลอองเขาชวนแล้ว พี่ดาด้ากับคุณแม่ก็ได้รับเชิญด้วย”
“แต่ว่า...”
“ไปเถอะ ไปเปิดหูเปิดตา คุณเลอองเขาเป็นเจ้าภาพนะ เซบาสเตียน...ช่างภาพที่มาถ่ายฉันวันนี้เขาเป็นเพื่อนของเลอองน่ะ ก็เลยมีงานเลี้ยงเป็นการภายใน”
เมลิสาพูดอย่างปลาบปลื้มที่ได้ร่วมงานกับช่างภาพแฟชั่นระดับโลกและเลอองยังเลี้ยงขอบคุณทีมงาน...เหมือนจะประกาศเป็นนัยว่าเขาให้ความสำคัญกับเธอมากแค่ไหน
“ไปเตรียมตัวก็แล้วกัน รถจะมารับตอนหกโมงเย็น”
“อ่า...ก็ได้ค่ะ”
ลลิลรับคำเบา ๆ ทั้งที่ไม่คิดอยากไปร่วมงานแม้แต่น้อย
ถึงกระนั้น เมื่อถึงเวลานัดหมาย หญิงสาวก็มารอในห้องนั่งเล่นอย่างตรงเวลาเพราะไม่อยากให้ใครต้องรอ มาลินีแม้จะได้รับเชิญด้วย แต่เพราะนางมีอาการเหมือนเป็นหวัดจึงอ่อนเพลียจนไม่อยากออกจากบ้านไปไหน ปล่อยให้ลูกสาวไปกับผู้จัดการและผู้ช่วยส่วนตัวแทน“พี่ว่าเขาคงจะรักจริงหวังแต่งกับน้องเมมากเลยนะ ดูสิ...เอาอกเอาใจกันสารพัด”
ศักดาริณพูดอย่างร่าเริงเมื่ออยู่บนรถแวนหรูราคาหลายล้านที่เลอองส่งมารับ
“ก็ไหนพี่ด้าบอกว่าอย่างเลอองเขาเป็นเพลย์บอยยังไงล่ะคะ ควรจะเตือนเมไม่ให้เหลิงสิถึงจะถูก”
“แหม...จำแม่นจริงเลยนะคะ”
หนุ่มใหญ่หัวเราะ ลลิลที่จำเป็นต้องฟังเพราะนั่งอยู่ในรถด้วยกัน ลอบถอนหายใจเบา ๆ พลางมองออกไปนอกหน้าต่าง
นี่หมายความว่าคุณเมลิสาก็รู้อยู่เต็มอกแล้วสินะว่าเลอองไม่ใช่ผู้ชายที่จะหวังจริงจังด้วยได้...และที่คบกันก็เป็นเพราะความพึงพอใจภายในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้หวังความสัมพันธ์ที่ยืดยาว
มิน่า...นายเลอองถึงได้ทำท่าเยาะเย้ยเธอนัก คงจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงโง่เง่าที่พูดถึงความรักที่จับต้องไม่ได้ล่ะสินะ...แต่จะคิดอย่างไรก็เรื่องของเขา อีกไม่นานเมื่อคุณมาลินีหาผู้ช่วยคนใหม่มาแทนเธอได้ เธอก็จะไปจากวงการนี้และคงจะไม่ต้องได้เจอกับเขาอีก เขาจะคิดหรือมองเธออย่างไรจึงไม่มีความหมายต่อเธอทั้งนั้น และหากเธอจะเคยชื่นชอบในรูปลักษณ์ของเขามันก็เป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบที่หายวับไปหมดแล้วก็เท่านั้นเอง...
* * * * *
เมื่อมาถึงงานเลี้ยงที่จัดภายในเดอวีแลลโฮเทล เมลิสาก็เดินเฉิดฉายเข้าไปหาเลอองทันที ศักดาริณก็เข้าไปทักทายคนนั้นคนนี้ที่เขารู้จัก
ลลิลที่ไม่ชอบสุงสิงกับใครมากนัก ตักอาหารแบบบุฟเฟ่ต์มายืนหลบมุมกินคนเดียวเงียบ ๆ ไกลจากเวทีที่มีนักร้องเพลงแจ๊สขับกล่อมอยู่
“ลิล ทำไมมายืนอยู่คนเดียวล่ะ”
ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาค่อนข้างดีเดินเข้ามาทัก ลลิลยิ้มทันทีที่เห็นเขา พี่อั๋นหรืออรรณพเป็นผู้ช่วยช่างภาพประจำนิตยสารแห่งหนึ่งและมีโอกาสได้พบปะกับลลิลเป็นประจำ
“สวัสดีค่ะพี่อั๋น ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”
“นั่นสิครับ ก็ช่วงนี้เมลิสาได้งานใหญ่นี่...ไม่มีเวลามาเป็นแบบให้พวกพี่เลย แต่งานนี้โชคดีนะได้เซบาสเตียนมาถ่ายให้เอง พี่เลยได้เห็นการทำงานของฝีมือระดับโลกไปด้วย”
“ดีใจด้วยนะคะ คุณเมเองก็ปลื้มมากเหมือนกัน”
“เห็นว่าเป็นเพราะเครดิตของมิสเตอร์วีแลล เซบาสเตียนเลยยอมมาทำงานนี้ให้”
“ก็คงจะอย่างนั้นมั้งคะ”
ลลิลตอบ ไม่ค่อยอยากจะพูดถึงผู้ชายเจ้าของโรงแรมคนนั้นเท่าไร โชคดีที่อรรณพก็ไม่เอ่ยถึงเลอองอีก แต่ชวนคุยเรื่องอื่นซึ่งส่วนมากก็เป็นเรื่องของตัวลลิลเอง
ช่างภาพหนุุุ่มรู้สึกต้องตาต้องใจหญิงสาวเรียบร้อยและพูดน้อยอย่างลลิลมานานแล้ว อาจเพราะเธอตรงข้ามกับความหวือหวาที่เขาต้องพบเจออยู่เป็นประจำในชีวิตประจำวัน...
#โรมานซ์ #อีโรติก #จ้างรักเมียบำเรอ #ลิขิตา
“มิสเตอร์เดอวีแลล!”พนักงานและบอดี้การ์ดกระโจนเข้าชาร์จตัวหญิงสาวทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากหลังกระถางต้นไม้ต้นหนึ่งหน้าโรงแรม เลอองหันขวับแล้วก็เห็นคนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น“ลลิล!”เท้าลลิลแทบจะถูกหิ้วสูงจากพื้นด้วยฝีมือของบอดี้การ์ดร่างใหญ่ เธอดิ้นแทบไม่ได้ด้วยซ้ำแต่ก็ยังพยายามฮึดฮัดต่อสู้“ปล่อยฉันนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้!”“ปล่อยเธอ...”ชายหนุ่มสั่ง บอดี้การ์ดทั้งสองจึงยอมปล่อยมือ แววตาของเลอองแสดงอาการยินดีอย่างปิดไม่อยู่ รอยยิ้มกว้างของเขาเตรียมพร้อมที่จะทักทายเธอแต่รอยยิ้มนั้นก็ชะงักค้างทันทีเมื่อลลิลเดินอาด ๆ มาผลักเขาเต็มแรงท่ามกลางความตกตะลึงของทุกสายตาที่มองอยู่แน่นอนว่าเลอองไม่สะเทือนไหวกับแรงผลักนั่นแม้แต่น้อยนิด เขาก้มลงมองคนตรงหน้าที่หน้าตาเหมือนไปกินรังแตนที่ไหนมาด้วยความงุนงง“คุณถือดียังไงมาฝากงานให้ฉัน คุณมายุ่งเรื่องฉันทำไม ไอ้คนทุเรศ!”เสียงอุทานและคำรามดังขึ้นเบา ๆ จากเหล่าบอดี้การ์ดทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นของหญิงสาว ติดที่ว่าเลอองยืนขวางไว้ไม่อย่างนั้นหญิงสาวคงถูกหิ้วปีกออกไปโยนกองบนถนนเป็นแน่ เลอองยังยืนนิ่ง แต่แววตาดีใจหายไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่
เลอองหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างเหนื่อยอ่อนพลางยุดมือหญิงสาวไว้ก่อนที่จะเลื่อนลงต่ำไปกว่านั้น“คุณนี่ร้อนแรงกว่าที่ผมคิดเยอะเลยนะ เมลิสา”“เฉพาะกับคุณเท่านั้นแหละค่ะ”นางแบบสาวบอก เอียงหน้าซบไหล่เขา"คุณมีเสน่ห์มากเลยนะคะเลออง มาก...จนเมกลัวว่าเมจะหลงคุณจนโงหัวไม่ขึ้น”“แสดงว่าคุณยังไม่หลง”“แล้วอยากให้เมหลงมั้ยล่ะคะ”น้ำเสียงบอกว่าจริงจัง ชายหนุ่มกลับหัวเราะเห็นเป็นเรื่องตลก“ผู้หญิงอย่างเมลิสา พอร์ตแมน ไม่จำเป็นต้องลดตัวลงมาหลงใหลผู้ชายคนไหนหรอก เชื่อผมสิ”เลอองบอก แล้วพลิกตัวจูบหน้าผากเธอแรง ๆ อีกครั้งก่อนจะผละตัวออก ก้าวลงจากเตียง เดินเปลือยกายเข้าห้องน้ำไปนางแบบสาวร้อนผะผ่าวที่ขอบตา หญิงสาวฉลาดพอที่จะรู้ว่านี่คือการปฏิเสธอย่างสุภาพจากเขา...ผู้ชายที่เธอพลาดตกบ่วงเสน่ห์เข้าแล้วทั้งตัวและหัวใจ เมลิสาไม่ใช่คนเข้าใจอะไรยากและรู้ตั้งแต่ต้นว่าเธอกับเลอองจะจบลงอย่างไร แต่เมื่อถึงเวลานี้จริง ๆ ก็อดใจหายไม่ได้...“เมขออนุญาตสูบบุหรี่ได้ไหมคะ”นางแบบสาวเอ่ยถามเมื่อชายหนุ่มเดินกลับออกมาจากห้องอาบน้ำพร้อมผ้าขนหนูพันท่อนล่างหลวม ๆ เลอองบอกเธอว่าตามสบาย เขาเดาว่าเมลิสาคงกำลังหาทางทำใจของตัวเองอยู
“หนูลิล หมู่นี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า พี่ว่าเธอดูเครียดๆ นะ”ศักดารันทร์ถามอย่าห่วงใยระหว่างที่นั่งรอเมลิสาทำงานในตอนสายของวันหนึ่ง“พี่ดาด้าว่าอะไรนะคะ”“พี่ว่าเธอมีปัญหาอะไรกลุ้มใจหรือเปล่า หมู่นี้ดูเครียด ๆ เหม่อ ๆ”“อ่า...พี่ด้าสังเกตเห็นด้วยหรือคะ”“ต๊าย...เธอเห็นพี่เป็นคนใจจืดใจดำขนาดไหนกันล่ะจ๊ะ ก็ต้องสังเกตเห็นสิ คนเจอกันทุกวี่ทุกวัน” ลลิลยิ้มฝืด“ขอบคุณนะคะพี่ด้า ลิลแค่กำลังคิดเรื่องหางานใหม่น่ะค่ะ”“งานใหม่?”ศักดารันทร์ท่าทางตกใจ แม้จะได้เจอกันทุกวันแต่ลลิลก็ไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ยิ่งจะมาปรับทุกข์เรื่องการทำงานยิ่งไม่เคยได้ยิน จนหลายครั้งเขายังเผลอคิดว่าหญิงสาวคงเป็นคนที่ปราศจากความทะเยอทะยานโดยสิ้นเชิงและคงจะอยู่ทำงานกับเมลิสาไปจนกว่านางแบบสาวจะลาวงการไปเอง...การที่จู่ ๆ ลลิลพูดเรื่องงานใหม่ จึงอยู่เหนือความคาดหมายของศักดารันทร์อย่างมาก “นี่พูดจริงหรือเปล่า หรือแค่อารมณ์ชั่ววูบเพราะเหนื่อย เบื่อ น้อยใจ หรือว่ามีปัญหาอะไรที่พี่ไม่รู้""เปล่าหรอกค่ะพี่ด้า ลิลแค่อยากใช้วิชาความรู้ไปทำงานอื่นที่...เอ่อ...ท้าทายกว่านี้บ้าง”หญิงสาวตอบอย่างขัดเขิน ก็คำว่า 'งานที่ท้าทาย
ใช้เวลาอยู่หลายวันกว่าลลิลจะทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติได้ เธอพยายามคิดว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุ เธอแค่เดินไปชนกับผู้ชายมักง่ายนิสัยแย่อย่างนายเลอองที่คงจะไม่มีสติสำนึกรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ฝรั่งเศสที่จะเที่ยวได้จูบใครไปทั่วแบบนั้น สัปดาห์นี้เมลิสาไปถ่ายแบบที่ปารีสพอดีและงานนี้นางแบบสาวบอกว่าไม่จำเป็นต้องมีเธอไปด้วย มีแค่ศักดารัณไปคนเดียวก็พอแล้ว ผู้ช่วยสาวจึงเหมือนได้พักไปในตัว และวันนี้เธอก็ตั้งใจว่าจะไปเดินห้างเพื่อซื้อของใช้จำเป็นกำลังจะเดินออกจากเรือนหลังเล็กซึ่งเป็นที่พัก ชายหนุ่มร่างสูงเกินมาตรฐานชายไทยเจ้าของดวงตาสีฟ้าสดใส ก็ปรากฎตัวขึ้นบนทางเดินหินหน้าเรือนนั้น ลลิลกระพริบตาถี่ ๆ ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองในตอนแรก เมื่อแน่ใจว่านี่คือตัวเป็น ๆ ไม่ใช่เธอคิดไปเอง หัวใจหญิงสาวก็เต้นโลดขึ้นมาทันที"อรุณสวัสดิ์...กำลังจะออกไปข้างนอกหรือ"เลอองถอดแว่นตากันแดดออก เขาอยู่ในชุดกึ่งลำลองโทนสีเทาหล่อเหลาตามเคย"คุณมาที่นี่ทำไม คุณเมลิสาไม่อยู่หรอกนะ ไปถ่ายแบบที่ปารีสอาทิตย์นึง""ผมรู้แล้ว"เลอองตอบก่อนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เรือนพักไม้ทาทับด้วยสีขาว มีต้นไม้ทั้งพืชสวนครัว ไม้ดอกไม้ประดับ ทั้งที่
ลลิลสะบัดฝ่ามือใส่ใบหน้าขาว ๆ ก่อนผลักเขาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีและผลุนผลันผลักประตูหนีไฟออกไป เลอองไม่รู้สึกระคายอะไรกับรอยตบนั่นเลย แต่กลับยกมือแตะริมฝีปากตัวเองแผ่วเบาไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่ดูธรรมดาไปทั้งเนื้อตัวคนนั้นจะกลับมีริมฝีปากที่ให้ความรู้สึกสดและหวานขนาดนี้ ให้ตายสิ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ตอนแรกเขาคิดอยากจะช่วย ต่อมาก็อยากจะแหย่...แต่ทำไมกลายเป็นตัวเขาเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้มีอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้ที่เย้ายวนเขาอย่างนั้นหรือ...ไม่มีหรอก! ไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียว! เลอองเถียงกับตัวเอง เมื่อเทียบกับผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมาและผ่านไปในชีวิต หรือแม้กระทั่งกับเมลิสาที่เขากำลังคบหาอยู่ ผู้ช่วยสาวคนนั้นช่างห่างไกลจากเธอเหล่านั้นราวฟ้ากับเหว... ที่ผ่านมาเขาชอบผู้หญิงผอมบางรูปร่างนางแบบ แต่ลลิลก็แค่ผู้หญิงรูปร่างสมส่วนค่อนไปทางเนื้อนมไข่ เขาชอบผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง นวลเนียน ดูเซ็กซี่ยามที่พวกเธอเหล่านั้นเนื้อตัวฉาบไปด้วยน้ำมันบำรุงผิว แต่ลลิลคนนี้ผิวขาวเหลืองเหมือนอย่างสาวเอเชียทั่วไป เขาชอบผู้หญิงที่โครงหน้ามีเอกลักษณ์ ดูเก๋และโฉบเฉี่ยว แต่ลลิลคนนี้มีโครงหน้ารูปห
“ช่วงนี้พี่อั๋นก็งานยุ่งมากเลยสินะคะ”“ก็ประมาณนั้นแหละ แล้วลิลล่ะ เป็นยังไงบ้าง”“ลิลก็เรื่อย ๆ ค่ะ แต่ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะลองหาอะไรใหม่ ๆ ทำดู”“ฮ้า...จริงหรือเปล่า หมายถึงงานใหม่หรือ” “ยังไม่แน่ใจค่ะ พี่อั๋นอย่าเพิ่งบอกใครนะคะ ห้ามเด็ดขาดเลย”“ได้สิ เรื่องของลิล พี่ไม่บอกใครหรอก”แววตาคมจ้องมองมาตรง ๆ และค้างนิ่งอยู่อย่างนั้น ตอนแรกหญิงสาวก็ยิ้มขอบคุณแต่วินาทีต่อมาเริ่มสัมผัสได้ว่าอรรณพมองเธอด้วยสายตาวาววามแปลก ๆ“ลิล สุดสัปดาห์นี้พอจะว่างบ้างมั้ย พวกพี่กับเพื่อนจะไปปาร์ตี้วันเกิดกันที่หัวหิน แต่พี่ไม่อยากไปคนเดียว กำลังหาเพื่อนไปด้วย”ลลิลอึกอัก ไม่รู้จะตอบเขาไปอย่างไร“อย่าคิดมากนะ พี่แค่หาคนไปด้วยจะได้ไม่เหงา พวกเพื่อน ๆ มันก็ควงแฟนกันไปหมด พี่ยังไม่มีใคร ไปคนเดียวก็ตะหงิด ๆ เราจะอยู่ในงานกันสักพักก็ได้ แล้วถ้าลิลอยากไปเที่ยวหรือไปกินอะไรเป็นพิเศษ พี่ค่อยพาไป...”อรรณพมองลลิลอย่างคาดหวัง จะว่าไปเขาก็เลียบเคียงหญิงสาวมานานแล้วแต่เธอไม่เคยรู้ตัว เห็นทีหนนี้ต้องแสดงออกไปให้ชัด ๆ จะได้รู้ว่าเขาสนใจเธอ“คือว่าลิล...”“อ้าว! คุณ...มาอยู่นี่นี่เอง คุณดาด้าเขาตามหาคุณอยู่น่ะ”เสียงดังทรง