เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเอง ที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียว งานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก… “พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด” เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขา เขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคน วัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา “สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…” โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำเล่ากันนะ!! ทำไมไม่เป็นเขาที่เจ็บปวดแทนคนที่เขารักสุดหัวใจทั้งสองคน “บางที เราอาจจะต้องเริ่มทำอะไรสักอย่าง..” เลโอกล่าวโดยที่สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่เบลล่า เราทุกคนต่างก็โทษตัวเองโดยเฉพาะโคลด์เพราะเขาเป็นคนส่งแก้วนั้นให้เบลล่ากับมือ ตัวของเลโอเอง เขาก็ยืนอยู่ข้างเธอ แต่กลับไม่ทันได้ระวังภัยอันตรายที่จะมาถึง… “นางว่ายังไง สาวใช้ผู้นั้น?” เอซกล่าวถามเพราะที่กางเกงและรองเท้าของเลโอมันมีคราบเลือดที่แห้งเกรอะกรังอยู่เต็มไปหมด “นางชิงกัดลิ้นตัวเอง ข้าเลยให้นางเขียนลงกระดาษ นางก็ไม่ยอมเขียน แต่ข้าคิดว่านางคงจะทนทรมานได้อีกไม่นาน” “ไม่ใช่ฝีมือขององค์รัชทายาทมาเดลีนแน่นอน เพราะพระองค์อยู่กับข้าและองค์จักรพรรดิตลอดเวลา” “ข้ารู้แล้วเอซ มันเป็นฝีมือของใครไปไม่ได้หรอก นอกจากฝีมือของเมเบโล่” เลโอกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นมามองหน้าเอซและโคลด์ “ข้าไม่เคยยอมเสียศักดิ์ศรีมาก่อน แต่ในครั้งนี้ข้าจะละทิ้งศักดิ์ศรีแล้วขอความช่วยเหลือจากองค์รัชทายาทมาเดลีนเป้าหมายไม่ใช้เพียงฆ่าทุกคนในเมเบโล่ แต่คือทำลายทุกอย่างที่เป็นของเมเบโล่ให้หมด!” เอซถอนหายใจ เขามองไปที่เบลล่าก่อนจะหลับตาลง “ข้าจะไปคุยกับองค์รัชทายาทมาเดลีนเอง ตอนนี้สิ่งที่เราควรจะทำคือการรวบรวมข้อมูลของเมเบโล่ให้มากที่สุด” โคลด์มองไปที่เอซและเลโอ เขาลุกขึ้นเดินไปตบไหล่เอซเบาๆ “ท่านแม่ของเบล ก็เป็นเมเบโล่ข้อมูลที่คนอื่นไม่รู้ นางอาจจะให้คำตอบที่ดีกับเราก็ได้” “เบลตื่นรึยังคะท่านพี่?” โคลด์เดินไปหาคิร่า เขาส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้น้องสาว แล้วยกมือขึ้นมาลูบหัวนางเบาๆ “เบลปลอดภัยแล้ว ตอนนี้เพียงแค่รอให้นางฟื้น” “โล่งอกไปที…อย่างน้อยพระเจ้าก็ไม่ใจร้ายกับข้ามากเกินไป” คิร่ายกยิ้ม พร้อมกับดวงตาที่ชื้นไปด้วยน้ำตา “หากเจ้าอยากร้องพี่จะคอยปลอบเจ้าเอง วัลโด้ต้องลงไปด้านล่าง อย่าน้อยใจที่เขาไม่ได้มากอดปลอบใจเจ้า เขาในตอนนี้แทบจะไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินแล้ว แต่เขาก็ต้องทำท่าว่าตัวเองแข็งแกร่งเพื่อปกป้องพวกเราทุกคน” “ข้ารู้ค่ะ ข้ารู้ดี แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มิอาจห้ามความเจ็บปวดได้….” โคลด์ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของคิร่าอย่างแผ่วเบา นี่อาจจะเป็นเพราะเขาแข็งแกร่งไม่พอสินะ เขาไม่อาจปกป้องคนที่เขารักได้เลย ราวกับว่าตัวของเขามันไร้ประโยชน์ที่ทำได้เพียงเช็ดน้ำตาบนหน้าของคิร่า “พี่ จะลองดูสักครั้ง” “….” คิร่ามองหน้าพี่ชายของเธอด้วยสายตาแห่งความสูญเสียและผิดหวัง “อย่าน้อยพี่ก็เป็นหนึ่งในสภาอาวุโส พี่อยากให้เจ้าเข้มแข็งในเร็ววัน พี่ยังต้องพึ่งพาอำนาจของเจ้าในการแก้แค้นครั้งนี้” คิร่าพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่เธอจะหลับตาลง อาเชอร์เดินเข้ามาพร้อมกับโพชั่นสามขวด “วางใจเถอะครับ นางพ้นขีดอันตรายแล้ว เพียงแค่นางอ่อนเพลียจากการเสียเลือดมากก็เท่านั้น..” เขาส่งโพชั่นในมือให้เลโอ “หากนางฟื้นขึ้นมาก็ให้นางดื่มยาพวกนี้ อาการข้างเคียงหลังจากดื่มยา นางจะง่วงนอนช่วงนี้ก็ให้นางพักผ่อนไปก่อนอย่าให้นางออกไปไหน..” อาเชอร์กล่าวกับเลโอแล้วก็เดินมาหาคิร่า “กระหม่อมได้นำองค์หญิงน้อยไปทำพิธีที่วิหาร และฝั่งร่างขององค์หญิงเอาไว้ที่ด้านหลังของวิหาร หากองค์จักรพรรดินีหายดีแล้ว เสด็จไปหาองค์หญิงได้ตลอดนะครับ” เขาจงใจเลือกจุดฝั่งร่างของเด็กน้อยที่เป็นเนินด้านหลัง เพราะตรงนั้นสามารถมองเห็นทุ่งดอกไม้ที่งดงามได้ “ขอบคุณมากอาเชอร์ ข้าจะไม่ลืมความดีความชอบในครั้งนี้ของเจ้าเลย” โคลด์กล่าวพร้อมกับมองที่อาเชอร์อย่างขอบคุณ “ข้าทำทุกอย่าง เพราะเบลครับ นางช่วยข้าเอาไว้มากจริงๆ และจักรพรรดินีก็คือเพื่อนคนสำคัญของนาง ข้าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่เชื่อเหลือเกินว่าในตอนที่นางรู้ว่าในน้ำนมมีพิษนางหันไปปัดแก้วขององค์จักรพรรดินีก่อนที่จะห่วงตัวเองด้วยซ้ำ หากว่านางตื่นขึ้นมาองค์จักรพรรดินีจะต้องส่งยิ้มให้นางแทนการร้องไห้นะครับ” คิร่ายกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเองเอาไว้ ก่อนที่นางจะร้องไห้อย่างหนักจนไหล่ทั้งสองข้างสั่นเทา โคลด์ลุกขึ้นไปดึงคิร่ามากอดพร้อมกับลูบหลังเบาๆ “ฤดูกาลใหม่กำลังจะผลัดเปลี่ยน ขอพวกท่านทุกคน รักษาสุขภาพด้วยครับ ข้าจะไม่อยู่ที่นี่เป็นเวลาสามปี น่าเศร้าที่ข้ามิได้กล่าวคำลากับเบล ได้แต่ฝากท่านไปกล่าวลานาง…” เขาส่งกุญแจในกระเป๋าเสื้อให้เลโอ “ฝากมอบให้นางด้วยนะครับ นางจะรู้เองว่านี่คือกุญแจห้องอะไร” อาเชอร์มองที่เบลล่า เขายกยิ้มเศร้าๆ ให้นาง แล้วเดินออกมาจากห้อง หวังว่าเจ้าจะสามารถเปลี่ยนอนาคตในนิมิตที่ข้าเห็นได้นะเบล หวังว่าในตอนที่เราพบกันอีกครั้ง เจ้าจะให้อภัยข้า… ……… เบลล่านอนมองฝนที่กำลังตกอย่างหนักผ่านหน้าต่างห้องนอนของเธอ นี่ก็ผ่านมาเดือนหนึ่งแล้วหลังจากเธอถูกพิษ มันน่าหงุดหงิดที่ร่างกายของเธอมันดันง่วงนอนตลอดเวลา โดยปกติแล้วเธอไม่ใช่คนที่ชอบอยู่เฉยๆ การมานอนบนเตียงเช่นนี้มันน่าหงุดหงิดชะมัด!! ตอนนี้เธออยากจะไปที่กิลข้อมูลเพื่อหาข้อมูลทั้งหมดของเมเบโล่ และอาร์ชดยุคกูเรี่ยน คนสารเลวพวกนั้นกล้าเล่นสกปรกเช่นนี้ได้ยังไงกัน!! หนังสือพิมพ์ที่กองอยู่บนโต๊ะก็เป็นข่าวเดิมมาครึ่งเดือนแล้ว คือการสูญเสียของราชวงศ์ จักรพรรดินีไม่สามารถรักษาสายเลือดดวงอาทิตย์ของจักรวรรดิได้ คิร่ามาเยี่ยมเธอมากเท่าที่นางมีเวลาว่าง เอซมาไม่ได้แต่เขาส่งจดหมายมาหาเธอตลอด เลโอตอนนี้กำลังนอนบนเตียงกับเธอ คนที่เปลี่ยนไปชนิดที่เบลล่าคาดไม่ถึงก็คือโคลด์ เขากำลังเปลี่ยนเคนเนดี้ให้เป็นตระกูลมหาอำนาจ เบลล่าถอนหายใจ เธอหันไปโอบกอดเลโอที่กำลังหลับ ใบหน้าของเลโอนั้นราวกับว่าเขาอดนอนและดูซูบผอมกว่าเดิมมากทีเดียว เธอยกมือขึ้นจับผมของเลโอขึ้นมาจูบเบาๆ ทำงานหนักอะไรกันนะ…ไม่มีใครเล่าให้เธอฟังเลยว่าพวกเขากำลังทำอะไรกัน “…เหตุใดไม่นอน?” “ขอโทษที่ทำให้ตื่นค่ะ ข้านอนทั้งวันแล้ว…จะให้หลับลงได้ยังไง” เลโอยกมือขึ้นมาโอบกอดเบลล่าเอาไว้ “ข้าดีใจที่ได้โอบกอดเจ้าเช่นนี้…” “ท่านจ่ายเงินให้อาเชอร์รึเปล่าคะ หากไม่ได้เขาข้าก็คงจะไม่ได้มานอนกอดท่านเช่นนี้” “จริงสิ! เขาฝากกุญแจเอาไว้ให้เจ้า พอดีก่อนหน้านี้เจ้าเอาแต่หลับข้าก็เลยยังไม่ได้บอกกับเจ้า” เลโอลุกขึ้นพร้อมทั้งส่งกุญแจให้เบลล่า “เขาบอกว่าหากเจ้าเห็นกุญแจ เจ้าจะรู้เองว่าเป็นที่ไหน” เบลล่ามองกุญแจในมือ… อาเชอร์ไปไหนกันนะ สามปีเลยงั้นหรือ? “เลโอ ข้าเคยบอกกล่าวกับท่านไปรึยังว่าอาเชอร์สามารถมองเห็นอนาคตได้?” เลโอส่ายหน้าเบาๆ “เจ้าบอกกับข้าเพียงแค่ว่าเขาเป็นพระเอกของเรื่องนี้..เบลนี่มันแปลกเกินไปรึเปล่า?” เบลล่าหลับตาลง ในตอนนี้หัวใจของเธอมันกำลังเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ หากว่าเดาไม่ผิดนี่คือกุญแจห้องทำงานของอาเชอร์ที่วิหาร อาเชอร์…ที่นั่นมีความลับอะไรอยู่ แล้วในอนาคตข้างหน้าเจ้ามองเห็นอะไรกันแน่ถึงได้ทิ้งข้าเอาไว้เพียงลำพังเช่นนี้!!
เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ