Share

บทที่ 10

Author: คุณชายสายฝน
วันต่อมา

เจียงซู่ตื่นขึ้นมาพร้อมด้วยดวงตาที่มีอาการบวม

ข้าง ๆ ที่นอนเรียบและไร้ความอบอุ่น ชัดเจนว่าโจวซือเหย่ไม่ได้กลับบ้านตลอดทั้งคืนอีกแล้ว

เธอตื่นขึ้นมาแล้วใช้น้ำแข็งประคบตา เพราะเป็นวันอาทิตย์ เจียงซู่จึงอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน

ตอนเที่ยง เธอได้รับโทรศัพท์จากแม่สามี บอกว่ามีเรื่องให้เธอไปที่บ้านใหญ่ น้ำเสียงของเธอดูไม่ดีนัก

เจียงซู่ไม่กล้าถามอะไรมาก และขับรถไปทันที

โจวหว่านซินก็อยู่ที่บ้านด้วย ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้น แต่ยังมีผู้หญิงแปลกหน้าอีกสองคน ซึ่งเจียงซู่ไม่เคยเจอมาก่อนเลย

เจียงซู่พูดอย่างนอบน้อม “แม่คะ”

เวินเหยาฉินเปิดปากถามทันที “วันประชุมผู้ปกครองของซินซิน เธอไปทำร้ายใครหรือเปล่า?”

เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงซู่ก็หันไปมองโจวหว่านซิน และเห็นว่าเธอมีสายตาที่ยั่วยุ ราวกับกำลังดูละครสนุก ๆ

เมื่อมองดูผู้หญิงแปลกหน้าสองคนนั้น เจียงซู่ก็จำเด็กสาวคนนั้นได้ทันที เธอคือนักเรียนที่ทำให้เจียงซู่มีเลือดออก

เจียงซู่ไม่ได้ปฏิเสธ “ใช่ค่ะ”

เรื่องนี้เธอไม่ปฏิเสธ

“ฉันทำไปเพราะมีเหตุผล...”

เธอยังอธิบายไม่ทันจบ ก็ถูกผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เด็กสาวคนนั้นขัดขึ้น “ฉันไม่สนว่าเธอจะมีเหตุผลอะไร ทำร้ายเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เธอก็ผิดแล้ว!”

ผู้หญิงคนนี้คือคุณแม่เหยาที่โจวหว่านซินบอกว่าจัดการได้ยาก

“ลูกสาวของฉันอายุแค่สิบห้าปี เธอจะไปทำเรื่องเกินเลยอะไรกับเธอได้? คุณเป็นผู้ใหญ่แท้ ๆ ไม่ทำตัวเป็นแบบอย่างไม่ว่า แต่กลับผลักเด็กลงไปในทะเลสาบจนเกือบจมน้ำตาย เธอรู้ไหมว่าเธอกำลังฆ่าคน!?”

พูดจบ แม่เหยาก็หันไปมองเวินเหยาฉิน “คุณนายโจวคะ ฉันกับสามีมีลูกสาวคนเดียวเท่านั้น เรารักและทะนุถนอมอย่างกับไข่ในหิน ปกติก็กลัวว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว คุณดูสิ เธอนั่งเรียนในโรงเรียนดี ๆ แต่กลับเกือบถูกลูกสะใภ้ของคุณฆ่าตาย แบบนี้มันไม่เท่ากับเอาชีวิตฉันกับสามีเหรอคะ!”

ใคร ๆ ก็บอกว่าเด็กนิสัยเสียที่แสดงความยโสโอหังได้ก็เพราะมีพ่อแม่ที่แย่กว่าและบ้าคลั่งกว่าหนุนหลัง คำพูดนี้ไม่ผิดเลยสักนิด

“เธอเป็นคนลงมือก่อน”

พูดจบ เจียงซู่ก็เสยผมขึ้น เผยให้เห็นบาดแผลที่ซ่อนอยู่ในผม

คำว่าสำนึกผิดหรือละอายใจเป็นต้น ดูเหมือนจะไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของบางคนเลย

ยกตัวอย่างเช่นแม่เหยาที่อยู่ตรงหน้าเธอ

เธอยังคงเชิดหน้าชูคอ “ก็แค่เด็กเล่นกันแล้วบังเอิญทำเธอบาดเจ็บ เธอมาบอกฉันก็ได้ ฉันจะชดเชยให้เธอ แต่เธอผลักเด็กตกน้ำ เธอผิดเต็ม ๆ!”

เถียงข้าง ๆ คู ๆ ก็ไม่ต่างจากนี้หรอก

“คุณนายโจวคะ เจียเจียตกใจมากหลังจากกลับจากโรงเรียน ต้องนอนให้น้ำเกลือหนึ่งวันเต็ม เธอเป็นลูกสะใภ้ของคุณ และเราก็เป็นหุ้นส่วนกัน คุณจะเข้าข้างญาติแต่ไม่เข้าข้างความจริงไม่ได้นะ”

การข่มขู่ที่ชัดเจนขนาดนี้ ไม่มีใครไม่เข้าใจหรอก

กิริยาท่าทางของคุณนายเวินเหยาฉินยังคงดูสูงศักดิ์ เธอจิบชาแล้ววางถ้วยลง “เจียงซู่ ไปรินชาให้คุณนายเหยา”

รินชา ขอโทษ

ความลำเอียงของเวินเหยาฉินนั้น เห็นได้ชัดเจนในทันที

เจียงซู่รู้ดีว่าเธอไม่มีสถานะอะไรในตระกูลโจว แต่วินาทีที่ถูกทอดทิ้งจริง ๆ เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าในใจ

ว่ากันว่าการจะตีสุนัขก็ต้องดูเจ้าของด้วย แต่ดูเหมือนเธอจะสู้ไม่ได้แม้แต่สุนัขตัวหนึ่ง

เมื่อเห็นเธอนิ่งไม่ขยับ เวินเหยาฉินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างยากที่จะสังเกตเห็น แต่สีหน้าของเธอแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน

เจียงซู่ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เพราะเธอไม่อยากขอโทษในเรื่องนี้

แม่เหยาหัวเราะเยาะ “คุณนายเวิน ลูกสะใภ้ราคาถูกของคุณคนนี้หัวแข็งไม่เบาเลยนะ”

เรื่องที่โจวซือเหย่แต่งงานเพื่อแก้เคล็ด ก็เป็นที่รู้กันในแวดวงของพวกเขาอยู่บ้าง และบังเอิญแม่เหยาก็เป็นหนึ่งในนั้น

การที่แม่เหยามาหาเรื่องถึงบ้าน ไม่ใช่เวินเหยาฉินว่าจะไม่มีอคติ แต่การต่อต้านของเจียงซู่ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเสียหน้าอย่างรุนแรง

สำหรับฐานะของพวกเธอแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออะไร?

คือศักดิ์ศรี!

เวินเหยาฉินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เจียงซู่ นี่เธอไม่ฟังคำพูดของฉันแล้วใช่ไหม?!”

โจวหว่านซินเติมเชื้อไฟ “แม่คะ อย่าเป็นแบบนี้เลย พี่สะใภ้ก็มีศักดิ์ศรีนะคะ”

หล่อนมีศักดิ์ศรี แล้วเธอไม่มีเหรอ?

ยิ่งพูดแบบนี้ เวินเหยาฉินก็ยิ่งโกรธ

โจวหว่านซินพูดว่า “ซ้อคะ รีบขอโทษเถอะค่ะ อย่าทำให้แม่โมโหจนไม่สบายเลยนะคะ พี่ชายหนูรักแม่ที่สุด ถ้าเขารู้ว่าซ้อทำให้แม่ไม่สบาย เขาต้องตำหนิซ้อแน่ ๆ”

เธอรู้ดีว่าเจียงซู่รักพี่ชายของเธอมาก ถึงขนาดยอมทำอย่างเพื่อพี่ชายของเธอ

เมื่อก่อน เมื่อเจอเรื่องแบบนี้ เธอจะยอมก้มหัวให้เพื่อโจวซือเหย่ แต่ตอนนี้ เธอไม่อยากทำแล้ว

เมื่อเห็นเจียงซู่ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ โจวหว่านซินก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

อ้าว แปลกแฮะ

เธอไม่กลัวพี่ชายเธอจะทิ้งเธอไปจริง ๆ เหรอ?

หรือว่าเธอกำลังเปลี่ยนวิธีการเพื่อดึงดูดความสนใจของพี่ชายเธอ?

โจวหว่านซินคิดว่าต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ

เพราะแฟนเก่าของพี่ชายเธอกลับมาแล้ว ตัวปลอมอย่างเธอก็เลยรู้สึกไม่มั่นคง

เมื่อเห็นเจียงซู่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เวินเหยาฉินก็ไม่สนใจคนนอกแล้ว “ในเมื่อคำพูดของฉันใช้ไม่ได้ งั้นก็ให้คนไปตามคุณย่าของเธอมา”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 128

    หลังจากออกจากกั่งรุ่ย เจียงซู่ก็รีบตรงกลับไปโรงพยาบาลทันทีคุณย่ายังไม่ฟื้น เธอก็ไม่สบายใจส่วนทางโจวซือเหย่นั้น หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วงเช้า เขาก็เปิดดูโทรศัพท์ แต่เจียงซู่ไม่ได้ติดต่อมาสีตาคมมืดมิด ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับตระกูลเจียงเท่าไหร่เวิงอี๋เห็นโจวซือเหย่เหม่อลอยจึงอดไม่ได้ตะโกนว่า “พี่ซือเหย่…”เมื่อได้ยินเสียง โจวซือเหย่ถึงมีสติกลับมา ถามว่า “มีอะไรเหรอ?”เวิงอี๋กัดริมฝีปาก: “ฉันบอกว่าคุณหมอเหมี่ยวให้ฉันไปรับผลตรวจค่ะ”สายตาของโจวซือเหย่กวาดมองไปที่หน้าอกของเธอ ก่อนเอ่ยว่า “ฉันจะไปเป็นเพื่อน”เวิงอี๋พูดอย่างเกรงใจ่วา “จริง ๆ ฉันไปเองได้ค่ะ”โจวซือเหย่พูดตรง ๆ ว่า “ฉันจะไปขับรถ”เมื่อรู้สึกว่าตัวเองได้รับความสำคัญ ดวงตาของเวิงอี๋ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจที่โรงพยาบาลเจียงซู่จ้องมองคุณย่าอี้ที่ยังคงหมดสติอยู่ด้วยความหนักใจ เพราะคุณหมอบอกว่าการหมดสติครั้งนี้เป็นเหมือนการซ้ำเติมร่างกายที่อ่อนแอของคุณย่าให้แย่ลงไปอีกหลังจากออกมาจากห้องตรวจของหมอ เจียงซู่ก็ขาอ่อนแรง เซถลาเกือบจะล้ม แต่โชคดีที่คว้ากำแพงไว้ได้ทันในเวลานั้นเอง เธอพลันได้ยินเสียงของโ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 127

    “คุณย่า—”เจียงซงหวาเห็นดังนั้นก็เตรียมจะเดินเข้าไป แต่แม่เจียงกลับรั้งเขาไว้ ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันมาหลายสิบปี แค่มองตากันก็เข้าใจความหมายของกันและกันเจียงซู่พูดอย่างร้อนรน “พ่อคะ รีบพาคุณย่าไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ”ระหว่างผลประโยชน์กับความกตัญญู เจียงซงหวาเลือกอย่างแรก“หาทางให้โจวซือเหย่หยุดให้ได้”“พ่อ!”เจียงซู่มองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?ความน่าเกลียดของมนุษย์ เธอมองเห็นได้อย่างชัดเจนในตัวเจียงซงหวาเจียงซู่กัดฟันกรามแน่น พูดว่า “ได้ หนูสัญญา!”หลังจากการนำตัวคุณย่าอี้ส่งโรงพยาบาล ท่านก็ได้รับการช่วยชีวิต แต่จะฟื้นเมื่อไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเองเจียงซงหวาเร่งเร้า “ย่าของแกไม่เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้แกไปขอร้องโจวซือเหย่ซะ”เจียงซู่ไม่ได้ลุกขึ้น “รอคุณย่าฟื้นก่อนค่ะ”เจียงซงหวาพูดว่า “ฉันให้เวลาแกคืนหนึ่ง พรุ่งนี้ไม่ว่าจะฟื้นหรือไม่ก็ตาม แกต้องไปขอร้องโจวซือเหย่ให้ได้”เขาทิ้งท้ายคำพูดแล้วทำท่าทางราวกับรังเกียจความอัปมงคล ไม่อยากจะอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว เดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยวเจียงซู่กุมมือที่เหี่ยวย่นของคุณย่าไว้ ในใจเต็มไปด้วยความเจ็บปว

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 126

    กิ๊กของเจียงเจียเหวินกลับไปแล้ว เหลือเพียงคนในตระกูลเจียงอยู่ในห้องวีไอพีเท่านั้นเสียงสะอื้นของเจียงเจียเหวินและเสียงหายใจหอบถี่ของเจียงซงหวาทำให้ความกดอากาศในห้องลดลงถึงจุดเยือกแข็งเมื่อละครตลกที่ไร้สาระนี้จบลง เจียงซู่ก็ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้วเธอประคองคุณย่าเพื่อจะเดินออกไป ทว่าเธอเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เจียงซงหวาก็เรียกไว้ “หยุดเดี๋ยวนี้!”เจียงซู่เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “มีอะไรอีกไหมคะ?”เจียงซงหวาใช้อำนาจความเป็นพ่อสั่งว่า “เรื่องนี้แกจะจัดการยังไง?”เจียงซู่: “พ่อคะ พ่อถามผิดคนแล้วล่ะ”ตั้งแต่เกิดขึ้นเรื่องจนกระทั่งจบลง เรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลยสักนิดใบหน้าแก่ ๆ ของเจียงซงหวาดูไม่สู้ดีนัก “แกหมายความว่ายังไง? ตอนนี้โจวซือเหย่ยังคงเล่นงานตระกูลเจียงอยู่ แกคิดจะยืนดูเฉย ๆ ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างนั้นเหรอ? แกยังเป็นคนในตระกูลเจียงอยู่ไหม? อย่าลืมนะ ถ้าไม่มีฉัน แกอดตายไปนานแล้ว!”“อะไรกันเนี่ย นังลูกอกตัญญู”เจียงซู่: “ก่อนห้าขวบ แม่หนูเป็นคนเลี้ยงหนูค่ะ หลังห้าขวบ คุณย่าเป็นคนเลี้ยงหนูจนโต”เจียงซงหวา: “ถ้าไม่มีเงินของฉัน พวกเขาจะเอาอะไรมาเลี้ยงแก?!”เจียงซู่: “

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 125

    เจียงซงหวาพูดเสียงหนัก “ลูกในท้องเหวินเหวิน เป็นลูกของนายแน่นอน!”“ผมไม่ได้แตะต้องลูกสาวคุณแม้แต่ปลายก้อย” โจวซือเหย่กล่าวเย้ยหยัน “ลูกสาวคุณมีความสามารถแบบนั้นจริง แต่ตระกูลโจวเราไม่เคยคิดจะเลี้ยงลูกให้คนอื่น”กล่าวจบ นอกจากโจวซือเหย่ ทุกคนต่างมีหน้าแตกต่างกันไป แม้แต่เจียงซู่เองยังเบิกตากว้างเขาหมายความว่ายังไง?เธอเห็นพวกเขานอนด้วยกันกับตาแท้ ๆ...เจียงซงหวาโกรธจัดทันที “นายไม่คิดจะรับผิดชอบงั้นเหรอ?”โจวซือเหย่: “ไม่ใช่ลูกผม ทำไมผมจะรับ?”จังหวะนั้นเอง ผู้ชายที่โจวซือเหย่ให้คนพาเข้ามาก็เปิดปากพูด “เจียงเจียเหวิน ทำไมเธอถึงให้ลูกของฉัน เรียกคนอื่นว่าพ่อล่ะ?! เธอทำแบบนี้ไม่ละอายใจต่อฉันบ้างเหรอ?”แม่เจียงถลึงตาพลางตะคอกใส่เขา “พูดเพ้อเจ้ออะไร? ถ้ายังใส่ร้ายลูกสาวฉันอีก ระวังฉันจะแจ้งตำรวจจับแก!”ผู้ชายคนนั้นสวนกลับทันควัน “ผมพูดเพ้อเจ้อหรือไม่ ก็ถามลูกสาวคุณดูก็รู้เอง! ผมกับเธอไม่รู้ว่านอนด้วยกันมากี่ครั้งแล้ว คืนนั้นที่โจวซือเหย่เมามาก ไม่ได้แตะเธอเลยด้วยซ้ำ เธออยากแสดงให้สมจริงและให้ตรงกับช่วงเวลาที่จะตั้งท้อง คืนนั้นเธอยังจงใจมาหาผม คืนนั้น เราเอากันตลอดทั้งคืน”“เจียงเ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 124

    โจวซือเหย่ยังคงนิ่งสงบ ราวกับกำลังคุยกันว่า คืนนี้จะกินอะไรดีเจียงเจียเหวินกลับไม่ใจเย็นแบบนั้น ถึงกับหัวใจสั่นวูบเมื่อโดนสายตาเย็นเฉียบของเขามองมา เธอกลืนน้ำลายที่ไม่มีอยู่จริง จู่ ๆ ดวงตาเริ่มแดงก่ำขึ้น “พี่เขย ถึงเรื่องนี้จะผิดต่อพี่เค้า แต่พี่จะปฏิเสธลูกของตัวเองไม่ได้นะ พี่พูดแบบนี้ พี่กำลังอยากบีบให้พวกเราสองแม่ลูกไปตายนะคะ”แม่เจียงเห็นลูกสาวช้ำใจก็รู้สึกสงสาร “ซือเหย่ เป็นผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับหน่อยสิ จะได้แล้วทิ้งแบบนี้ไม่ได้นะ!”เจียงเจียเหวินกัดฟันแน่น “ถ้าพี่จะไม่ยอมรับ ฉันก็จะพาลูกไปตายด้วย!”พูดจบ เธอก็ทำท่าจะวิ่งออกไปแม่เจียงเห็นดังนั้นก็รีบคว้าไว้ทันที “เหวินเหวิน! คนดีของแม่ ลูกพูดอะไรออกมาน่ะ? อะไรคือตายไม่ตาย? ถ้าลูกตาย แล้วแม่กับพ่อจะอยู่ยังไง? ลูกเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่นะ!”สองแม่ลูกร้องไห้ฟูมฟาย ทำตัวราวกับกำลังแสดงละครโศกนาฏกรรมแม่เจียงกอดเจียงเจียเหวินแน่น แล้วหันไปจ้องโจวซือเหย่ “ถ้านายไม่ยอมรับเด็กคนนี้ล่ะก็ ฉันจะไปหาคุณท่านโจว! นี่เป็นเหลนคนแรกของท่านนะ! ฉันไม่เชื่อว่าคนใจดีแบบท่าน จะปล่อยให้นายบีบลูกสาวฉันไปตาย!”เจียงซงหวาขัดภรรยาได้จังหวะเหมา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 123

    แม่เจียงรีบเสริมทันที “ฉันบอกแล้วว่าเด็กคนนี้มันอกตัญญู โตมาก็เลี้ยงไม่เชื่อง ตอนนั้นคุณควรทิ้งมันไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว แถมยังเสียเงินมากมายไปกับมันเปล่า ๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาเลยสักนิด!”ทั้งครอบครัวเป็นใจเดียวกัน ต่างรุมประณามเจียงซูไม่เว้นคำเจียงซงหวาถึงกับไปหาความช่วยเหลือจากภายนอกพอได้รับโทรศัพท์จากคุณย่า เจียงซู่ถึงรู้ว่าพวกเขาลากเรื่องทั้งหมดไปกดดันผู้ใหญ่ท่านแล้วที่โรงพยาบาลคุณย่าอี้จับมือเธอไว้แน่น พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสาร “ลำบากหนูมากแล้ว”พอได้ยินประโยคนั้น จมูกของเจียงซู่ก็แอบร้อนผ่าวขึ้นมา ตั้งแต่เรื่องเกิดจนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนสนใจความรู้สึกของเธอจริง ๆโจวซือเหย่มองว่าเธอคิดร้ายตระกูลเจียงคิดว่าเธอไม่สำนึกบุณคุณแต่ไม่มีใครคิดเลยว่าเธอต่างหากที่เจ็บหนักที่สุดในเรื่องนี้คุณย่าอี้ถอนหายใจ “เป็นความผิดของย่าเอง ที่สอนพ่อของหนูไม่ดี”ความจริงคุณย่าอี้เป็นคนมีการศึกษา สมัยสาว ๆ เป็นถึงครูสอนหนังสือ ในยุคสมัยของท่าน ผู้หญิงน้อยคนนักที่จะได้เรียนหนังสือคนมีการศึกษา แต่กลับเลี้ยงลูกชายออกมาเป็นพวกเห็นแก่ได้แต่งงานครั้งแรกเป็น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status