Beranda / รักโบราณ / ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม / ตอนที่ 2 ชิงเหมย เด็กหญิงผู้อาภัพ

Share

ตอนที่ 2 ชิงเหมย เด็กหญิงผู้อาภัพ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-22 11:04:31

ณ หมู่บ้านซานฉี เมืองถิงฮวา แคว้นเจียงโจว

“ขนมจ้า…. แวะมาชิมแวะมาอุดหนุนกันก่อนสิจ๊ะ ขนมของยายข้านั้นรสหวานอร่อยหาผู้ใดในเมืองนี้เทียบเคียงมิได้เลยเจ้าค่ะ” เสียงเล็กกำลังร้องเรียกลูกค้าที่กำลังเดินเลือกซื้อสินค้าในตลาดซานฉี ให้แวะเวียนมาซื้อขนมหวานในร้านเล็กๆ ของท่านยาย

เด็กหญิงวัยสิบปีที่กำพร้าทั้งบิดามารดาตั้งแต่นางยังเยาว์วัย นางอาศัยอยู่กับยายที่มีอาชีพทำขนมขายในตลาดเมืองถิงฮวา แม้จะอยู่กันเพียงสองยายหลาน ซุนฉีก็ไม่เคยปล่อยให้หลานสาวเพียงคนเดียวอย่างชิงเหมยอดอยาก แม้นว่านางยังเยาว์วัยแต่ก็รู้ความนัก คอยช่วยเหลือผู้เป็นยายขายขนมทุกวัน

“เหมยเอ๋อร์… มาดื่มน้ำสักนิดเถิดลูก เสียงของเจ้าแหบแห้งหมดแล้ว”

ซุนฉีบอกหลานสาวเพียงคนเดียว ชิงเหมยหันกลับไปมองใบหน้าของท่านยายแล้วส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปภายในร้านขนม มือเล็กหยิบถ้วยน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหาย

ลูกค้าเริ่มแวะเวียนกันเข้ามาเลือกซื้อขนมของซุนฉีที่มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนมเซาปิ่ง ขนมกุ้ยฮวา และหมั่นโถวอุ่นร้อน ร้านของซุนฉีแม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็เป็นที่รู้จักของชาวบ้านซานฉีแห่งนี้ ลูกค้าหลายคนต่างรู้สึกเอ็นดูสงสารหลานสาวของนางที่ต้องอาภัพตั้งแต่เยาว์วัย หากบิดาที่เป็นขุนนางยังมีชีวิตอยู่ เด็กหญิงก็คงกลายเป็นคุณหนูของตระกูลนั้น ตระกูลที่ร่ำรวยไม่แพ้ตระกูลใดในเมืองถิงฮวา

“ชิงเหมย ไปเล่นกับข้าเถิด” เด็กชายตัวน้อยวิ่งมาจากร้านขายผ้าไหมของบิดาเพื่อชวนเด็กหญิงไปเล่นด้วยกัน

“ไม่ล่ะ วันนี้ข้าต้องช่วยท่านยายขายขนมให้หมดก่อน”

ชิงเหมยปฏิเสธ วันนี้นางรู้สึกว่าตนเองไม่มีพละกำลังจะไปให้สหายที่ร่ำรวยกว่าเช่นเจ้าพวกนี้รังแก นางรู้สึกอ่อนเพลียอย่างบอกไม่ถูก

“ชิ!!! ข้าอุตส่าห์มาชวน แต่ก็ช่างเถิด… เพราะวันนี้ข้ามีสหายใหม่ที่เพิ่งย้ายมา พวกข้าจะไปเล่นกับนางแทน”

หวงซู่กล่าวออกมาก่อนที่จะเดินจากไปด้วยท่าทางขุ่นเคือง เพราะชิงเหมยนั้นมีสถานะต่ำต้อยกว่าผู้ใด เขากับสหายหลายคนในเมืองถิงฮวาจึงกลั่นแกล้งนางได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด

“เหตุใดเจ้าถึงไม่ไปเล่นกับคุณชายหวงล่ะเหมยเอ๋อร์ ขนมก็ใกล้จะหมดแล้ว… ยายไม่ดุด่าเจ้าหรอกหนา” ซุนฉีถามหลานสาว หลังจากได้เห็นว่าบุตรชายของเจ้าของร้านผ้าไหมที่อยู่ติดกับโรงเตี๊ยมหงอวี้แวะมาหานาง

“หลานไม่อยากไปเป็นคนรับใช้ให้เจ้าพวกนั้นหรอกเจ้าค่ะท่านยาย พวกนั้นบอกว่าข้าน่ะต่ำต้อย เหมาะแก่การเป็นคนรับใช้มากกว่าสหายของพวกเขา”

เพราะเคยออกไปด้วยความดีใจว่าจะมีสหายเช่นผู้อื่น ทว่าพอไปแล้วกลับกลายเป็นนางต้องคอยรับใช้คุณชายคุณหนูเหล่านั้น ทุกคนก็เอาแต่กลั่นแกล้งรังแกนาง

“โถ่!! หลานยาย เจ้ามิได้ต่ำต้อยไปกว่าผู้ใดหรอกหนา ท่านพ่อของเจ้าเป็นถึงวีรบุรุษสงคราม หากท่านย่าของเจ้ายอมรับเจ้าเพียงสักนิด เจ้าคงมิต้องมาอยู่ในที่เช่นนี้ คงจะได้ไปสำนักศึกษาเฉกเช่นคุณชายและคุณหนูตระกูลนั้น”

ซุนฉีดึงหลานสาวเข้ามากอดด้วยความสงสาร ครั้นได้รู้ถึงเหตุผลที่หลานสาวไม่อยากออกไปเล่นกับพวกบุตรชายร้านขายผ้าไหม

“ข้าไม่เป็นอันใดเจ้าค่ะท่านยาย ขอเพียงข้าได้รับความรักความเอ็นดูจากท่านยายก็เพียงพอแล้ว”

ชิงเหมยกอดท่านยายของนางเช่นกัน หากท่านพ่อของนางยังมีชีวิตอยู่ ชีวิตของนางจะเปลี่ยนไปจากยามนี้หรือไม่ นางก็มิอาจจะจินตนาการได้ แต่ในเมื่อตระกูลนั้นมิได้ต้องการหลานที่เกิดจากหญิงสาวชาวบ้านเช่นมารดา นางก็มิมีเหตุผลที่จะต้องเสียดายที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลนั้น

“เหมยเอ๋อร์… เหตุใดร่างกายของเจ้าถึงได้ร้อนรุ่มนัก” ซุนฉีเอ่ยถามหลานสาวออกมาด้วยน้ำเสียงตระหนกตกใจพลางยกมือขึ้นมาใช้หลังมือสัมผัสหน้าผากเล็กดู

“ท่านยาย… ข้ารู้สึกไร้เรี่ยวแรงเหลือเกินเจ้าค่ะ"

เสียงเล็กแผ่วเบาลงพร้อมกับเปลือกตาของนางที่ค่อยๆ ปิดลง ร่างกายก็อ่อนเปลี้ยจนซุนฉีต้องโอบประคอง และตะโกนร้องเรียกหลานสาวออกมาราวกับว่ากำลังเสียสติ

“เหมยเอ๋อร์!!! เจ้าเป็นอันใดไป เหมยเอ๋อร์!!! หลานยาย ฟื้นขึ้นมาสิลูก” นางรีบอุ้มชิงเหมยไปโรงหมอที่อยู่ไม่ไกลจากร้านขายขนมของนางทันที

ท่านหมอสวีที่รู้จักกับสองยายหลานมานานรีบให้การช่วยเหลือเด็กหญิงผู้น่าสงสารทันที ชีพจรของนางนั้นแผ่วลงจนน่าประหลาดใจ เขาไม่เคยพบเจออาการเช่นนี้มาก่อน สีหน้าของเขาแสดงความเคร่งเครียดออกมาทันที ก่อนที่จะสั่งให้คนงานในร้านไปต้มยา

“ท่านหมอสวี… เหมยเอ๋อร์เป็นเช่นไรบ้าง” ซุนฉีเอ่ยถามท่านหมอออกมาด้วยความร้อนใจ

“ช่วงนี้นางได้มีอาการแปลกๆ หรือไม่”

ซุนฉีส่ายหน้าไปมาน้ำตาคลอ หากนางต้องสูญเสียหลานสาวอันเป็นที่รักผู้เป็นตัวแทนลูกสาวเพียงคนเดียวของนางไป นางก็คงจะไม่อยากมีชีวิตอยู่เช่นกัน

“อาการของนางนั้นช่างประหลาดนัก ข้ารักษาผู้คนมาตั้งมากมายยังมิเคยพบเจอผู้ใดมีชีพจรเช่นนางมาก่อนเลย” เขาบอกถึงอาการของชิงเหมยอย่างไม่ปิดบัง และนั่นยิ่งทำให้ซุนฉีร้องไห้ฟูมฟายออกมา

“ฮือๆๆ เหมยเอ๋อร์… เจ้าต้องฟื้นนะหลานยาย ยายมีเจ้าเป็นดั่งดวงใจ หากยายสูญเสียเจ้าไปอีกคนยายคงมีชีวิตต่อไปอีกไม่ได้”

“ทำจิตใจให้เข้มแข็งเข้าไว้เถิด ถึงเยี่ยงไรข้าก็จะรักษานางให้สุดความสามารถของข้า” ท่านหมอสวีบอกแก่ซุนฉีด้วยน้ำเสียงจริงจังแม้ภายในใจจะไม่มั่นใจก็ตามที ทำให้หญิงวัยกลางคนมองหน้าเขาอย่างมีความหวัง

“ให้นางนอนพักที่โรงหมอของข้าก่อนเถิด ให้ข้าดูอาการนางให้แน่ชัดเสียก่อน” ซุนฉีพยักหน้าพลางใช้ผ้าเช็ดน้ำตาของตน

“นางถึงมือข้าแล้ว เจ้ามิต้องเป็นห่วง กลับไปเก็บร้านก่อนแล้วค่อยกลับมาที่นี่เถิด”

เขาบอกนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ซุนฉีเป็นสหายเก่าของเขาและถึงยามนี้ก็ยังเป็นอยู่ มีหรือที่นางมีเรื่องลำบากแล้วเขาจะไม่ยื่นมือไปช่วย

“ถ้าเช่นนั้นข้าขอฝากเหมยเอ๋อร์ไว้กับท่านที่นี่สักหนึ่งชั่วยาม แล้วข้าจะขอพานางกลับไปที่เรือน” ท่านหมอสวีพยักหน้า ซุนฉีจึงออกจากเรือนพักคนไข้ของโรงหมอสวีกลับไปเก็บของและปิดร้านของตน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 68 - 1 เพราะสวรรค์เมตตาให้เกิดมาได้ครองคู่ (End)

    หลังจากเฉียวจูจ้านและซูฉีเดินทางออกจากจวนกลับไปได้ไม่นาน เยว่อู๋ชางก็กลับมาจากในวังหลวง เพราะภรรยาตั้งครรภ์อ่อนๆ เขาจึงได้รับพระกรุณาจากองค์รัชทายาทให้กลับมาค้างที่จวนในทุกค่ำคืน จนกว่าครรภ์ของนางจะมั่นคง ถึงค่อยให้เขากลับไปดูแลพระองค์อย่างใกล้ชิดอีกครา“ท่านพี่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ” เสียงหวานทักทายสามีที่กำลังเดินเข้ามาภายในศาลากลางน้ำ“อื้ม…แล้วนี่น้องหญิงกำลังทำสิ่งใดอยู่รึ”เขาเดินไปนั่งลงเคียงข้าง แล้วยกร่างบางขึ้นมานั่งบนตัก จากนั้นจึงหอมแก้มนางไปหนึ่งที สองสาวรับใช้คนสนิทและสาวรับใช้ที่อยู่คอยรับใช้นายหญิง ต้องรีบพากันหลุบตามองต่ำ“ท่านพี่!!! พวกสาวรับใช้อยู่กันเยอะแยะ ข้าอายพวกนางนะเจ้าคะ”ชิงเหมยกระซิบเสียงดุใส่สามี สองแขนเรียวโอบล้อมรอบลำคอของเขาเพราะกลัวตกเซียงซุนและหยวนเวยพากันยิ้มออกมา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเพียงใด ความรักที่นายท่านมีต่อนายหญิงหาได้ลดน้อยลงไม่ ทว่ามีแต่จะเพิ่มขึ้นในทุกวัน ยิ่งนายหญิงมีครรภ์เช่นนี้ นายท่านก็ดูจะทะนุถนอม และรักใคร่นายหญิงยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ความสัมพันธ์ของสามีภรรยากลมเกล

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 68 เพราะสวรรค์เมตตาให้เกิดมาได้ครองคู่ (End)

    หลังจากนอนค้างที่จวนตระกูลซิ่วได้เพียงหนึ่งคืน เช้านี้ชิงเหมยจำต้องติดตามผู้เป็นสามี เดินทางกลับเข้าเมืองหลวง ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบของเขา ทำให้นางมิอาจเอาแต่ใจตนเองได้ ก่อนเดินทางออกจากจวน นางและสามีก็ได้กินมื้อเช้าพร้อมหน้าพร้อมตา มีท่านย่า ท่านยาย และพี่น้องตระกูลซิ่วของนาง ท่านยายเล็ก ท่านลุง ท่านป้าสะใภ้และลูกๆ ทั้งสองของท่านลุงนั้น ได้เดินทางกลับจวนตระกูลซุนไปตั้งแต่พิธีแต่งงานเสร็จสิ้นแล้ว ในวันที่นางกลับมาเยี่ยมบ้านเดิมจึงมิได้พบกับพวกเขา“เดินทางปลอดภัย ขอให้เจ้าจงรักษาตัวให้ดี หากมีเวลาก็กลับมาเยี่ยมยายบ้าง”ซุนฉีกล่าวในขณะที่นางออกมาส่งหลานสาวอยู่ที่ด้านหน้าจวน ยามนี้ขบวนขนสัมภาระและผู้ติดตามของหลานเขยกับหลานสาวเตรียมพร้อมหมดแล้ว รอเพียงแค่ให้ชิงเหมยได้ร่ำลาครอบครัวก่อนออกเดินทางก็เท่านั้น“เจ้าค่ะท่านยาย ท่านเองก็อย่าลืมรักษาสุขภาพให้ดี รอหลานกลับมาเยี่ยมนะเจ้าคะ”ชิงเหมยกล่าวออกมา น้ำเสียงข่มความอาลัยเอาไว้อย่างมิดชิด เพื่อไม่ให้ท่านยายเป็นห่วงนางมากนัก ครานี้เป็นคราแรกที่นางจะต้องห่างไกลจากท่านยายจริงๆ หาใช่เพียงแค่ไปไม่กี่

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 67 - 1 หยินหยางสอดประสาน

    หลังจากที่เยว่อู๋ชางเดินออกจากห้องหอไปได้ไม่นานนัก สองสาวรับใช้คนสนิทของชิงเหมยก็เข้ามาด้านใน ร่างระหงนั่งสัปหงกอยู่บนเก้าอี้ หยวนเวยจึงรีบไปเตรียมน้ำให้นางอาบ ส่วนเซียงซุนรับหน้าที่เข้าไปปัดกวาดเตียงนอน ครั้นได้เห็นร่องรอยของการร่วมหอในค่ำคืนที่ผ่านมา ใบหน้างามของสาวรับใช้ที่ยังไม่เคยออกเรือนก็ถึงกับร้อนผ่าว ในใจพลันรู้สึกยินดี ที่ท่านเขยและคุณหนูใหญ่ ไม่ได้ปล่อยให้คืนเข้าหอผ่านไปอย่างไร้ค่า“ข้าน้อยเตรียมน้ำเสร็จแล้วเจ้าค่ะคุณหนู อุ๊ย!!! ฮูหยินเล็ก”หยวนเวยกลับเข้ามาภายในห้องพลางกล่าวรายงาน ก่อนที่นางจะปิดปากครั้นรู้ตัวว่านางเรียกขานสถานะเดิมของชิงเหมยที่เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลซิ่ว แล้วจึงเปลี่ยนคำเรียกขานคุณหนูใหญ่ของนางใหม่ ยามนี้คุณหนูใหญ่ก้าวผ่านค่ำคืนของการเป็นผู้ใหญ่มาแล้ว หมายความว่าบัดนี้ชิงเหมย นางได้กลายมาเป็นฮูหยินเล็กสกุลเยว่เต็มตัวแล้ว"ฮูหยินเล็ก อืม… ใช่แล้วล่ะ สถานะข้าในยามนี้กลายเป็นฮูหยินของพี่ชางแล้วสินะ" ใบหน้างามปรากฏคลื่นแห่งความสุขออกมา แม้จะยังคงง่วงงุนแต่ทว่าใบหน้าของนางกลับอิ่มเอิบ“เช้านี้ท่านเขยดูอารมณ์ดียิ่ง

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 67 หยินหยางสอดประสาน

    ท่ามกลางความเงียบสงบจากภายนอก ภายในห้องหอกลับมีเสียงครางทุ้มหวานของคู่บ่าวสาว ดังสอดประสานกันขึ้นมาเป็นระยะ คราแรกที่ความแข็งแกร่งของชายหนุ่มรุกล้ำเข้าไปภายในกลีบบุปผางามของนาง ชิงเหมยก็แทบจะปิดบังบังความเจ็บปวดเอาไว้ไม่อยู่ นางแสดงออกมาผ่านทางสีหน้าและแววตา ปลายหางตามีหยาดน้ำเปียกชุ่มอยู่เพียงเล็กน้อย แต่ทว่านางกลับไม่กล้าเอ่ยปากขัดขวางอารมณ์ที่เร่าร้อนของเขามือบางกอบกุมผ้าปูเตียงเอาไว้แน่น ก่อนที่นางจะค่อยๆ ผ่อนคลายลง ความรู้สึกเจ็บปวดในคราแรก จึงแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกวาบหวาม เร่าร้อน เข้ามาแทนที่ ยามนี้ผิวกายของนางและเขาต่างร้อนผ่าว ทุกคราที่เขาขยับโยกกาย ก่อให้เกิดความรู้สึกหลากหลาย สิ่งนี้น่ะหรือที่พวกผู้ใหญ่เรียกว่า หยินหยางสอดประสาน ชิงเหมยเพิ่งได้รู้ซึ้งก็ในวันนี้นี่เอง ความรู้สึกที่มีทั้งสุขและทุกข์ผสมผสานกันไป ทว่าความทุกข์นั้นกลับกลายเป็นสิ่งที่หอมหวานชวนลุ่มหลง“น้องหญิง…เจ้าเจ็บหรือไม่”ชายหนุ่มเหนือร่างงามหาได้ทำตามแต่ใจตนเองผู้เดียวไม่ เขาหยุดจังหวะการรุกล้ำ แล้วเอ่ยถามความรู้สึกของผู้เป็นภรรยาออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แม้อารมณ์ใคร่

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 66 - 1 วันคืนแห่งความสุข

    ขบวนสินเดิมของเจ้าสาวยาวเกือบหนึ่งลี้ ถือว่าไม่น้อยหน้าสมกับเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่ ผู้คนต่างพากันนึกอิจฉานางขึ้นมา ด้วยไม่คิดว่าสตรีที่เกิดจากตระกูลธรรมดาอย่างซุนฉี จะสามารถมอบสินเดิมให้กับหลานสาวมากมายถึงเพียงนี้ แม้ผู้คนจะรู้ดีว่ามิใช่ของตระกูลซุนเพียงตระกูลเดียว แต่ก็รู้สึกนับถือซุนฉี ที่อีกฝ่ายคอยเก็บสะสมทรัพย์สินมากมาย เพื่อให้หลานเป็นสินเดิมติดตัวไปยามออกเรือน“คุณหนูเจ้าคะ หิวหรือไม่เจ้าคะ ข้าน้อยเตรียมขนมมาให้ หากคุณหนูหิวก็กินรองท้องไปก่อนหนาเจ้าคะ ดูจากการเคลื่อนขบวนแล้ว ข้าน้อยคิดว่ากว่าจะถึงจวนตระกูลเยว่ก็คงอีกสองเค่อ” เซียงซุนเปิดม่านเกี้ยวแล้วบอกคุณหนูของนางด้วยความห่วงใย เพราะวันนี้คุณหนูหาได้กินสิ่งใดลงไม่ อาจจะเป็นเพราะความตื่นเต้น“อื้อ…”ชิงเหมยมองออกไปผ่านผ้าคลุมหน้าก็เห็นว่าข้างทางมีชาวบ้านมากมาย ใบหน้าทุกคนต่างยิ้มแย้มออกมาด้วยความยินดี ทำให้นางรู้สึกประทับใจยิ่งนัก ไม่คิดว่างานแต่งงานของนางจะทำให้ผู้คนสนใจมาชื่นชมมากมายถึงเพียงนี้และก็เป็นอย่างที่เซียงซุนบอก เพราะกว่าจะถึงจวนตระกูลเยว่ก็ใช้เวลานานเกือบสองเค่

  • ชิงเหมย...บุปผาซ่อนคม   ตอนที่ 66 วันคืนแห่งความสุข

    หนึ่งปีต่อมาวสันตฤดูเวียนมาถึง นั่นก็หมายความว่า กำหนดการพระราชทานสมรสระหว่างคุณชายรองสกุลเยว่กับคุณหนูใหญ่สกุลซิ่วก็มาถึงเสียที ชิงเหมยต้องไปออกเรือนที่ตระกูลซิ่ว ทำให้ซุนฉี ซุนเฉียว เหลียงจง หลิวเวย และลูกๆ ทั้งสองของนาง ต้องเดินทางจากจวนตระกูลซุน ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านซานฉี เข้าเมืองถิงฮวาไปพำนักที่ตระกูลซิ่วชั่วคราว ก่อนที่จะถึงวันวิวาห์ เพื่อร่วมกันส่งหลานสาวออกเรือน“ข้ารู้สึกใจหายยิ่งนัก หลังจากเหมยเอ๋อร์ออกเรือนไปแล้ว ข้าจะทำเยี่ยงไร” ซุนฉีนึกใจหายขึ้นมา หลานสาวอาศัยอยู่กับนางมาตั้งแต่เกิด จนมาถึงวัยสิบแปดปี วัยที่เหมาะสมแก่การออกเรือน“ท่านกล่าวอันใดเยี่ยงนั้น ท่านไม่อยากเห็นเหมยเอ๋อร์มีความสุขหรอกรึ” ผิงหลันแสร้งถามออกมาทั้งๆ ที่ใจนางเองก็ไม่ต่างจากซุนฉีแม้แต่น้อยหลังจากหลานสาวกลับจากเยี่ยมบ้านเดิมตามธรรมเนียม ชิงเหมยก็ต้องออกเดินทางเข้าเมืองหลวงทันที เพราะว่าที่หลานเขยของนางต้องทำงานรับใช้ราชวงศ์ ไม่อาจลางานนานได้ และเพราะหน้าที่ของเขา ทำให้ไม่สะดวกต่อการเดินทางไกล จวนของเขาที่เตรียมไว้ยามนี้ตกแต่งไว้รอนายหญิงของจวนเรียบร้อยแล

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status