ตอนที่ 5
"ราชาปีศาจ เป็นท่านจริง ๆ ด้วย" ปีศาจจิ้งจอกแดงสองตัวผัวเมีย คุกเข่าเอามือสองทั้งสองข้างแตะที่หน้าผากก้มคาราวะ ให้กับราชาปีศาจเฉาเฟิงด้วยความดีใจ "ท่านราชา ท่านกับมาแล้ว พวกเราดีใจยิ่งนัก ในที่สุดท่านก็ออกมากจากผนึกได้แล้ว หลายหมื่นปีมานี้ไม่มีท่านอยู่พวกเราต่างลำบากกันยิ่งนัก" "ลุกขึ้นเถอะ ข้าแค่จะถามอะไรพวกเจ้าหน่อย" "ถามมาได้เลยครับ กระผมยินดีตอบทุกอย่าง " " ทำไมพวกเจ้าถึงมาอยู่ที่ เผ่ามนุษย์" "เรื่องนี้ตั้งแต่ที่ท่านราชาถูกผนึก เผ่าปีศาจไร้ที่พึงพิง พวกเราต่างหาวิธีเอาชีวิตรอด จึงต้องมาแฝงกายอยู่ปะปนกับพวกมนุษย์ เพราะทรัพยากรของเผ่ามนุษย์มีมากมายพื้นดินอุดมสมบูรณ์มีพืชพันธ์ธัญญาหารให้พวกกระผมได้ทำมาหากินตลอดทั้งปีครับ" "แล้วที่เผ่าปีศาจล่ะ" "ปัจจุบันนี้ที่เผ่าปีศาจกลายเป็นที่แห้งแล้ง เพราะพวกเผ่าเทพได้ทำม่านอาคมกั้นเขตแดนขวางแม่น้ำศักดิ์สิทธิเอาไว้" "แต่แม่น้ำศักดิ์สิทธินี้เป็นของเผ่าปีศาจมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล พวกเผ่าปีศาจจะดำรงอยู่ได้พวกเราต้องอาศัยน้ำในแม่น้ำศักดิ์สิทธินั้น" "ใช่ขอรับ หลายหมื่นปีก่อนที่จะเกิดสงครามใหญ่ครั้งนั้น ผมแบะพ่อแม่พวกเราอาศัยอยู่แถบเขตชายแดนก็มีพวกเผ่าเทพ เข้ามารุกลานทั้งที่พวกผมไม่ได้ทำอะไรผิด หลายครั้งหลายคร่า" "เรื่องนั้นข้ารับรู้มาตลอด ข้าจึงหาวิธีที่จะจัดการเผ่าเทพ แต่กับกลายเป็นสงครามใหญ่ ข้าคิดว่าต้องมีคนอยู่เบื้องหลังที่อยากให้เกิดสงครามใหญ่เช่นนี้ เอาเถอะเรื่องนี้ข้าจะสืบเอง พวกเจ้าใช้ชีวิตตามปกติเถอะ" "แล้วท่านราชาจะกับไปที่เผ่าปีศาจไหมครับ ที่นั้นยังมีพวกปีศาจบางกลุ่มอาศัยอยู่ ไป่รุ่ยก็ยังคงอยู่ที่นั้นครับ" "ใช่ข้าต้องกับไป เพราะที่นั้นคือบ้านของข้า แต่ตอนนี้เจ้าสองคนกลับไปก่อนเถอะข้ามีคำถามเพียงเท่านี้ " "ขอรับ พวกเราขอตัวก่อนถ้ามีอะไรท่านเรียกใช้พวกเราได้เลยขอนับ” "อืม" จิ้งจอกสองตัวผัวเมียหันหลังคืนร่างเป็นจิ้งจอกหางแดงวิ่งหายไปในความมืด "ออกมา " เฉาเฟิงกล่าวทั้งที่ยังไม่ได้หันหลังกับไป เขารู้มาสักพักแล้วว่ามีคนแอบฟังอยู่ด้านหลัง คนนั้นก็คือชีเหนียงเอง "เจ้า ออกมาทำไม" เฉาเฟิงถาม "คือ ฉันแค่จะมาสูดอากาศ" เฉาเฟิงหันกับมามองแล้วเดินผ่านร่างบาวไป ระหว่างที่ผ่านร่างบางนั้นเขามองนางด้วยหางตาแล้วพูดขึ้นว่า "ยืนอยู่ด้านนอกคนเดียวมืด ๆ ระหว่างเจอปีศาจนะ" ชีเหนียงสะดุด หันรีหันขวา " นี้คุณ จะพูดทำไม แต่คุณก็ปีศาจนะ " เฉาเฟิงยังคงเดินเข้ามาในตัวบ้านต่อ ชีเหนียงรีบวิ่งตามมาจนชนเข้ากับแผ่นหลังของเฉาเฟิงจนเซ "โอ้ย หยุดเดินทำไมไม่บอก" "แล้วเจ้าจะเดินตามข้ามาทำไม" "ฉันก็จะเดินเข้าบ้าน" เฉงเฟิงยกคิ้วหนึ่งข้างทำหน้าสงสัยแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วหันหน้าเดินต่อจนมาถึงห้องครัว เขาหยุดเดินอีกครั้ง "โอ้ย หยุดเดินทำไมอีก" เป็นชีเหนียงที่ชนกับหลังของเฉาเฟิงอีกครั้ง "เจ้าอยากจะถามอะไร ถึงได้ตามข้าตลอดอย่างนี้" " เปล่า " (เสียงสูง) "เจ้าอยากรู้เรื่องที่ข้าคุยกับจิ้งจอกสองผัวเมียนั้น " ชีเหนียงจองหน้าเฉาเฟิงกระพริบตาปริบๆ "แอบฟังตั้งนานสองนานยังอยากรู้อะไรอีก" " ก็บอกว่าเปล่า ฉันแค่หิวเลยจะเดินมาที่ห้องครัว ว่าจะมาหาไก่ทอดกินสักหน่อยเผื่อยังมีไก่ทอดอยู่" ~โครก คราก ~ เฉงเฟิงเอามือจับท้องและยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ชีเหนียงยกยิ้มขึ้น "ไก่ทอด" ~ โครก คราก ~ เสียงท้องของเฉาเฟิงก็ร้องอีกครั้ง พร้อมกับเสียงหัวเราะของชีเหนียง ชายหนุ่มเอามือปิดปากนางเอาไว้ จนชีเหนียงหยุดหัวเราะแล้ว จึงปล่อยมือออก "คุณหิวหรอ" "ไม่" ไก่ทอด" เสียงชีเหนียงที่พูดขึ้นมาอีกครั้ง ~โครก คราก ~ "เจ้า หยุดเดี๋ยวนี้นะ" "ยังจะปากแข็งอีก หิวก็บอกมาสิ" "อืม ข้าหิว" "ก็แค่เนีย แต่…" "แต่อะไรอีก" "ฉันอยากรู้ว่า ที่คุณคุยกันเรื่องเผ่าเทพที่ชอบมารุกรานเผ่าปีศาจของคุณ และยึดครองแม่น้ำศักดิ์สิทธิ เผ่าเทพเป็นคนทำจริงหรอ พวกเผ่าเทพที่ค่อยช่วยเหลือมนุษย์และทุกสรรพสิ่งไม่ใช้รึ ทำไมถึงทำเรื่องให้ผู้อื่นเดือนร้อนแบบนี้ได้" "มนุษย์อย่างเจ้ายังมีทั้งดีเลวปะปนกัน เผ่าเทพก็เหมือนกันแม้กายเป็นเทพ แต่จิตใจเลวร้ายกว่าปีศาจอย่างข้าก็มี" ชีเหนียงรับฟังและคิดตาม "แล้วคุณล่ะ" "ถึงข้าจะเป็นปีศาจ แต่ข้าก็ไม่เคยทำเรื่องอันใดให้คนในเผ่าของข้าเดือนร้อน ข้าดูแลราชษฏรในเผ่าให้อยู่เย็นเป็นสุข ขอแค่พวกเขาไม่อดยาก อยู่กันพร้อมหน้าครอบครัว แต่พวกเผ่าเทพก็รุกรานไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้คนในเผ่าของข้าเดือนร้อน" นางนิ่งเงียบฟังและคิดตาใที่เฉาเฟิงพูด "เจ้าคงไม่เชื่อข้า" " คือไม่ใช่แบบนั้น ตั้งแต่ฉันโตมาที่เคยเห็นก็มีแต่คนที่กราบไหว้บูชาเทพต่าง ๆ และผู้คนต่างพูดว่าปีศาจเป็นสิ่งชั่วร้าย ฉันก็เลยยังไม่รู้จะเชื่อแบบไหนดี คุณเข้าใจฉันไหม" "ไม่ แต่ที่รู้คือเจ้าเป็นข้ารับใช้ของข้า เจ้าต้องเชื่อฟังคำสั่งข้าถึงจะถูก " "ฉันไม่อยากเป็น ฉันจะตัดสินใจเองว่าสิ่งไหนถูกหรือผิด และตอนนี้ฉันรู้จุดอ่อนของคุณแล้ว " ชีเหนียงพูดจบแล้วกำลังจะเดินออกไปจากครัว "นี้เจ้า จุดอ่อนอะไร แล้วไหนไก่ทอดข้ายังไม่ได้กินเลยเจ้าจะไปไหน " เฉาเฟิงคว้าแขนของชีเหนียงไว้ให้หยุดเดินเค้าบีบข้อมือของนางจนแน่ "คุณก็ใช้พลังปีศาจของคุณทำไก่ทอดเองสิ คุณเป็นราชาปีศาจที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ไม่ใช้หรือไง" "มันใช้ได้ที่ไหน" "เมื่อตอนที่จับปีศาจจิ้งจอกน้อยตัวนั้นคุณยังทำได้อยู่เลย" "ตอนนี้ข้าใช้พลังไม่ได้ และไม่มีใครเขาใช้พลังทำไก่ทอดกันด้วย" "ทำไมคุณถึงใช้พลังไม่ได้ล่ะ ที่เห็นเมื่อหัวค่ำนั้นมันอะไร" "ใช่นั้นคือพลังของข้า แต่มันมาๆ หายๆ ข้าก็ยังไม่รู้สาเหตุ" "มีงี้ด้วย ปล่อยฉันเลยนะ" เฉาเฟิงยังคงไม่ปล่อยและกำข้อมือของนางไว้แน่น "ไม่ปล่อยใช่ไหม ได้ ไก่ทอด!!" ~โครก คราก ~ "ซี๊ดดด เจ้า" เฉาเฟิงออกมืออีกจับท้องของตนไว้อีกมือก็ยังจับข้อมือชีเหนียงไม่ปล่อย "ไก่ชุปแป้งทอดกรอบๆหอมๆ อร่อย ๆ" ~โครก คราก ~ ~ โครก คราก ~ เฉาเฟิงจำต้องปล่อยมือของชีเหนียงให้นางหลุดรอดไป "โอ้ย ทำไมข้าต้องมาเผชิญกับหิวด้วยนะมันช่างทรมารจริง ๆ "ตอนพิเศษ สี่ปีผ่านไปทั้งสามเผ่าต่างอยู่กันอย่างสงบสุข แต่จะมีอยู่สถานที่หนึ่ง "ท่านอา" "ท่านอาหลิงเฮ่อต้องให้ข้าก่อน" "ท่านอา ให้นางไปก่อนก็ได้ขอรับข้าเป็นผู้ชาย ที่แข็งแกร่งย่อมต้องเสียสละให้สตรีก่อน" เสียงเจือยแจ้วขององค์ชายปีศาจน้อยวัยสามขวบกว่านามว่า " ลู่เฟย" "ใช่เจ้าค่ะท่านอา ต้องให้ข้าก่อนสิเจ้าค่ะ" เสียงองค์หญิงปีศาจน้อย "ลู่เอิน" จอมเอาแต่ใจ ปีศาจน้อยฝาแฝดชายหญิง วัยสามขวบกว่า ๆ ตัวอ้วนกลมแก้วยุ้ย น่ารักน่าชังตามติดหลิงเฮ่อที่มีศักดิ์เป็นอา ตลอดเพราะหลิงเฮ่อเลี้ยงมาตั้งเเต่เล็กค่อยตามใจและชอบหาของเล่นแปลก ๆ มาให้เจ้าปีศาจน้อยทั้งสอง "พอแล้วไม่ต้องแยกกัน อามีสองอัน นี้!! เห็นไหม" "เย้ เย้" เย้ เย้" เสียงปีศาจน้อยทั้งสองร้องอย่างดีใจ และเล่นอย่างสนุกสนาน หลิงเฮ่อใช้มือบีบแก้มเด็กทั้งสองเบา ๆ อย่างเอ็นดู "เจ้าก้อนแป้งของอา อาให้เล่นอีกหนึ่งชั่วยาม เสร็จเเล้วเราจะมาฝึกวิชาต่อจากเมื่อวาน ถ้าวันนี้ฝึกก้าวหน้าอาจะพาไปเที่ยวเผ่ามนุษย์" "เย้ เย้ ข้าอยากไปขอรับ" ลู่เฟยกระโดดร่างที่ตุ้ยนุ้ยดีใจ "อยากไปเดี๋ยวเจ้าต้องตั้งใจฝึกนะ" "ขอรับ" "ลู่เอิน เจ้าไม่อยาก
ตอนที่ 38 เฉาเฟิงกลับมาถึงเผ่าปีศาจ ไป่รุ่ยจึงจัดการทำแผลให้เจ้านาย ที่เอาแต่นิ่งเงียบใบหน้าเรียบเฉย ตั้งแต่ออกมาจากเผ่าเทพแล้ว "นายท่านบาดแผลไม่ลึกมากขอรับ" "ข้ารู้แล้วเจ้าออกไปเถอะ" "ขอรับ" ชายหนุ่มตอบองค์รักษ์ด้วยน้ำเสียงเงียบเฉยที่คนฟังแล้วก็ดูออกว่า เขากำลังโศกเศร้าอยู่ ไป่รุ่ยจึงปล่อยให้เฉาเฟิงได้อยู่คนเดียวก่อน ทว่าขณะที่ออกมาจากห้องบรรทม ก็พบกับครอบครัวของชีเหนียงที่มาไถ่ถามถึงชีเหนียงด้วยความเป็นห่วง ไป่รุ่ยได้แต่อึกอักไม่กล้าที่จะตอบ จึงเกิดเสียงเอะอะขึ้น ราชาปีศาจได้ยินดังนั้น เขาก็เปิดประตูออกมา "นางปลอดภัยดี เดี๋ยวข้าจะพาไปพบนาง" (พาครอบครัวนางไปนางอาจจะจำอะไรได้) เฉาเฟิงคิดในใจ เหตุการณ์เอะอะเมื่อครู่นี้จึงสงบลง เฉาเฟิงเลยเดินไปหาหลิงเฮ่อต่อ ก็เจอกับเฟยอวี่พอดี "นายท่านหลิงเฮ่อ ฟื้นแล้วขอรับ" เฟยอวี่แจ้งเฉาเฟิงด้วยความดีใจ เฉาเฟิงได้ยินดังนั้นจึงรีบเดินให้เร็วขึ้น เมื่อเปิดประตูเข้าไป เฉาเฟิงก็เห็นคนที่พึ่งจะฟื้นยืนอยู่ จึงรีบเดินไปประคองส่งกับไปยังเตียงนอน "ท่านพี่ข้าหายแล้ว" "หายแล้วก็อย่าขยับมากเดี๋ยวแผลจะปริออกได้" "ขอรับ ข้ารู้แล
ตอนที่ 37 เผ่าเทพซีฮ่าวกลับถึงเผ่าเทพ รีบไปรายงานต่อองค์เง็กเซียนทันที ระหว่างที่กำลังจะเดินเข้าไป เทพสงครามเยวหมีนางก็เดินสวนออกมา "ท่านเทพสงครามเยว่หมี" ซีฮ่าวเอ่ยเรียกสตรีที่ดูท่าทางองอาจเบื้องหน้า นอกจากรูปร่างหน้าตา ก็คือบุคลิกที่สามารถดูออกได้ว่านางคือคนละคนกัน "เจ้าคือเทพสองครามซีฮ่าว ข้าจะไปพักที่ตำหนักเจ้า ขอตัวก่อน" นางพูดจบก็เดินกลับไปทันที ซีฮ่าวได้รายงานเรื่องราวต่าง ๆ แก่องค์เง็กเซียนทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน รวมถึงเรื่องที่หญิงมนุษย์คนนั้นก็คือเทพสงครามเย่วหมี "นางเล่าให้ข้าฟังทุกอย่างแล้ว นางจำทุกอย่างได้แม้ตอนที่เป็นเศษเสี้ยวดวงจิต" "ขอรับ แต่หญิงคนนั้น นางคือคนรักของราชาปีศาจเฉาเฟิงขอรับ" "......" องค์เง็กเซียนไม่ได้กล่าวอันใดออกมา ได้แต่เอามือลูบเครายาวๆ และยิ้มออกมา ซีฮ่าวกลับมายังตำหนัก ได้พบกับเทพสงครามเยว่หมี จึงได้พูดคุยกัน เยว่หมีจึงได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ มากมายรวมถึงหลิงเฮ่อ น้องชายของราชาปีศาจที่ตามหาดวงจิตนางเพื่อปลดผนึก "แล้วตอนนี้ชีเหนียงนางตายแล้วหรือขอรับ" "นางก็อยู่นี้ไง" เยว่หมี่ใช้นิ้วชี้จิ้มมาที่ตนเอง ใบหน้าซีฮ่าวบงบอกถึงความงุน
ตอนที่ 35 "ข้ารักเจ้า" นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา เเล้วทุกอย่างก็มืดสนิท ชีเหนียงรู้สึกว่าตัวนางเองยืนอยู่ที่ไหนสักแห่ง มันว่างเปล่าไปหมด "นี้ข้าตายแล้วใช่ไหม" นางพูดคนเดียวแล้วทรุดเข่านั่งลงกับพื้น น้ำตาเริ่มรินไหลออกมา ไหล่บางสั่นไหวสะอื้นไห้ นึกภาพดวงตาที่แดงกร่ำของเฉาเฟิงเมื่อครู่นี้ได้ดี ท่ามกลางความเงียบในที่มืดแห่งนั้นนอกจากเสียงร่ำไห้ กับมีเสียงฝีเท้าคนเดินใกล้เข้ามา จนมาหยุดอยู่เบื้องหน้านาง ชีเหนียงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมอง "ท่าน…" "รอข้า" สิ้นคำพูดนางทุกอย่างสว่างจ้า ร่างโชกเลือดของชีเหนียงจู่ๆ ก็ลอยขึ้นมาพร้อมปราณพลังหมุนอยู่รอบกาย บาดเเผลที่โดนแทงนั้นเริ่มจางหายไป เสื้อผ้าอาภรณ์เปลี่ยนใหม่กลายเป็นชุดประจำตัวของนาง "เทพสงครามเย่วหมี" นางชูกระบี่ขึ้นฟ้าฉับพลันเกิดสายฟ้าวิ่งไปมาอยู่ที่ปลายดาบ นางฟาดกระบี่ใส่มารทั้งสอง จนเกิดแสงสว่างวาบไปทั่ว เมื่อเเสงสว่างนั้นดับลง มารทั้งสองเจ็บปวดราวถูกทัณฑ์อัคนีสักร้อยสาย นางหันใบหน้ามาทางราชาปีศาจ "ใช้ พลังไฟโกันต์ของเจ้าเเผดเผามันให้สิ้นซาก" เฉาเฟิงไม่รอช้าปล่อยพลังไฟโลกันต์ทำลายล้างไอมารและแผดเผาจื่อหยา
ตอนที่ 36 ฮวนชินค่อยๆ ลุกเขารวบรวมพลังทั้งหมดยกกระบี่ขึ้น อาศัยจังหวะที่เฉาเฟิงกำลังต่อสู่อยู่ไม่ทันได้สังเกต พุ่งกระบี่เข้าหาเฉาเฟิงทันที "ระวัง !!" เป็นจังหวะเดียวกับที่ซีฮ่าว เห็นฮวนชินพุ่งกระบี่ไปด้วยความเร็ว เขาจึงตระโกนอย่างสุดเสียง แต่จากจุดที่ซีฮ่าวอยู่ไกลจากตรงนั้นมากนักจึงไปขวางฮวนชินไม่ทัน หลิงเฮ่อเห็นเข้าพอดีจึงรีบเอาตัวเข้ามารับกระบี่แทน กระบี่ของฮวนชินแทงทะลุอกของหลิงเฮ่อทันที เฉาเฟิงเห็นหลิงเฮ่อถูกแทงต่อหน้าต่อตา เขาตกใจเป็นอย่างมาก รีบเข้าไปรับตัวหลิงเฮ่อเอาไว้แล้วใช้ไฟโลกันต์ฟาดใส่ฮวนชินเต็ม ๆ ซีฮ่าวจึงรีบมาต่อสู่ขัดขวางมารจื่อหยางต่อ "หลิงเฮ่อ !! หลิงเฮ่อ " เฉาเฟิงประคองเรียกน้องชายไม่หยุดปาก เลือดสดๆ เริ่มไหลทะลักออกจากบาดแผล พร้อมกับสติที่ใกล้จะเลือนลาง "ท่านพี่ข้าไม่เป็นไร" น้ำเสียงแผ่วเบาที่เล็ดลอดผ่านริมฝีปากที่ปนเลือดออกมา รอยยิ้มที่อ่อนแรงลง ส่งให้พี่ชายที่ตนรักและเคารพ "เจ้าต้องไม่เป็นอะไร เชื่อพี่ " เฉาเฟิงปลอบใจหลิงเฮ่อ ขณะที่เฟยอวี่องค์รักษ์ของหลิงเฮ่อมาถึงพอดี "ดูแลน้องข้าให้ดี" เฉาเฟิงออกคำสั่งต่อเฟยอวี่ เขาลุกขึ้นยืนเตรียมตัวออกไปสู่ต่อ
ตอนที่ 34 รุ่งเช้าวันใหม่ชีเหนียง ตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยขบไปทั่วร่างกายพร้อมร่องรอยรักสีกุหลาบที่ชายหนุ่มทิ้งไว้บนเนินอกอิ่มทั้งสองข้าง นางหันมองหาคนที่นอนข้าง ๆ แต่พบกับความว่างเปล่า "เขาหายไปไหนนะ นี้ยังเช้าอยู่เลย" นางลุกจากเตียงนอนชำระร่างกายจนสะอาดเลือกสวมอารมณ์ชุดใหม่สีหวานขับผิวเนียนแลดูงดงาม ชีเหนียงออกจากห้องเดินตามหาเฉาเฟิงจนมาถึงโถงว่าการ "ไปไหนนะ ไหนบอกให้ข้าอยู่ในสายตา แต่ตัวเองดันหายไป" นางเดินเข้ามาในโถงว่าการกับพบแต่ความว่างเปล่า มีทหารปีศาจเฝ้าอยู่แค่สองคน นางกำลังจะเอ่ยถาม แต่แล้วกับได้ยินเสียงฝีเท้าคนกำลังเดินเข้ามา นางจึงหันไปทางต้นเสียงนั้น "พี่ชีเหนียง" เสียงเจ้าแฝดอาฉี อาเฟย ที่กำลังเดินเข้ามาหานาง โดยด้านหลังของทั้งสองยังมีลุงเกาที่กำลังเดินมาอีกคน "ลุงเกา อาฉี อาเฟย มาได้ยังไง"ชีเหนียงเอ่ยเรียกทั้งสามคนด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขแฝงไปด้วยความคิดถึง ทั้งสองฝ่ายเดินเข้าหากันจนถึงตัวก็กอดกันกลมและถามสารทุกข์สุขดิบตามปกติเหมือนที่เคยทำ"นี้มากันได้ยังไง""ก็สัตว์ปีศาจของพี่เฉาเฟิงไง" ชีเหนียงมองตามมือที่อาเฟยชี้ไปที่ทหารปีศาจคนหนึ่งที่พึงเดินตามหลั