เธอ... คือคนที่เขาเคยตั้งใจว่าจะไม่รัก แต่สุดท้ายกลับรักหมดใจโดยไม่รู้ตัว
View More"สวัสดีค่ะ รับชานมหรือนมสดดีคะวันนี้?"
"ขอนมสดดีกว่าค่ะ คืนนี้อยากหลับสบายๆ หน่อย"
"ได้เลยค่ะ รอสักครู่นะคะ"
สิ้นเสียง อันดาก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มกับพี่ลูกพรุน ลูกสาวเจ้าของร้านผู้รับหน้าที่ชงเครื่องดื่มตามออเดอร์
"ร้อนหรือเย็น" น้ำเสียงห้วนจัดดังขึ้นทันที ราวกับอารมณ์ของเธอกำลังขุ่นมัวเต็มที ใบหน้าเคร่งเครียดแบบที่ทำเอาใครก็เดาได้ ว่าเธอน่าจะอารมณ์ไม่ดีมาตั้งแต่เช้า
"ลูกค้าประจำค่ะ นมสดเย็นนะคะ" อันดาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้ถือโทษโกรธเคือง เธอรู้หน้าที่ของตัวเองดี ว่ามาที่นี่เพื่อทำงาน ไม่ใช่เอาอารมณ์มาแลกเปลี่ยน
ไม่นานนัก แก้วนมสดเย็นก็ถูกส่งต่อมาด้วยสีหน้าท่าทางของคนชงที่ยังไม่คลายความหงุดหงิดแม้แต่น้อย
"นมสดเย็นได้แล้วค่ะ" อันดาบอกพร้อมวางแก้วตรงหน้าลูกค้าขาประจำ
"ขอบใจจ้ะ" อีกฝ่ายยิ้มรับ แล้วหยิบหลอดขึ้นมาดูดอย่างสบายใจ ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนไปทันที
"เอ๊ะ ทำไมมันจืดขนาดนี้! นี่คือน้ำล้างขวดนมหรือยังไง?"
เสียงอุทานด้วยความไม่พอใจดังลั่นจนคนในร้านหันมองกันเป็นตาเดียว
อันดาซึ่งยังเดินไปได้ไม่ไกล รีบหันกลับมาทันทีที่ได้ยิน
"ขอโทษนะคะ เครื่องดื่มมีปัญหาใช่ไหมคะ?" เธอเอ่ยถามอย่างสุภาพ
"ใช่สิ! มันจืดเหมือนน้ำเปล่าเลย เปลี่ยนให้ใหม่เดี๋ยวนี้!"
อันดาพยักหน้ารัว รับแก้วจากมือลูกค้ามาอย่างเร่งรีบ ก่อนจะตรงไปที่เคาน์เตอร์เพื่อแจ้งเปลี่ยนเครื่องดื่ม
“พี่ลูกพรุนคะ ลูกค้าบอกว่านมมันจืดไปน่ะค่ะ ขอเปลี่ยนแก้วใหม่ค่ะ”
"ฉันก็ชงตามสูตร เธอแอบกินแล้วเอาน้ำเปล่าใส่แทนหรือเปล่า ถึงได้มาโทษคนชงแบบนี้!" เสียงตวาดดังลั่นขึ้นในร้าน
ลูกค้าที่กำลังทานอาหารพากันหยุดหันมามองอีกครั้งด้วยความตกใจ
“ดาจะไปทำแบบนั้นได้ยังไงคะ พี่เพิ่งส่งมา ดาก็เอาไปเสิร์ฟทันทีเลยค่ะ” อันดาพูดอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ ลึกๆ ในใจก็รู้สึกอับอายไม่น้อยที่ถูกตำหนิเสียงดัง จนคนมองขนาดนี้
“เธอมันนิสัยไม่ดี จะมาทำร้านฉันเสียชื่อใช่ไหม! ฉันบอกแม่แล้ว ว่าอย่ารับเธอเข้ามาทำงาน เธอมัน... ลูกโจร!”
อันดาเบิกตากว้าง ความตกใจตีขึ้นจุกลำคอ ไม่คิดเลยว่าจะถูกพูดจาใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนขนาดนี้
“ฉันไล่เธอออก!!” ลูกพรุนตวาดเสียงแข็ง
ความจริงคือเธอไม่เคยชอบอันดาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตั้งแต่แม่เริ่มชมเด็กคนนี้ให้ฟังต่อหน้าคนอื่นว่า มารยาทดี หน้าตาก็สดใส มีน้ำใจ ไม่เหมือนเธอที่ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ตั้งใจทำงาน และชอบทำให้ร้านเสียบรรยากาศ
และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เธอเผลอลืมใส่ไซรัปไปเพราะมัวเหม่อ พอเครื่องดื่มออกจืด กลัวโดนแม่ดุ เธอจึงรีบหาแพะรับบาปขึ้นมาทันที... และใครล่ะจะเหมาะไปกว่าอันดา?
“พี่ลูกพรุนคะ แต่อันดาไม่ได้…”
“อย่ามาเถียง! หรือจะโยนว่าฉันเป็นคนทำล่ะ?”
“เปล่าค่ะ แค่... ดาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
“เธอหมายความแบบนั้นนั่นแหละ! เพราะเธอเป็นลูกโจร เหมือนแม่เธอ!”
คำพูดนั้นแทงเข้าหัวใจอันดาจังๆ น้ำตาคลอเบ้าในทันที
เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องครอบครัวที่เธอไม่เคยเลือกได้จะกลับมาทำร้ายเธอแบบนี้ ทั้งที่เธอพยายามเปลี่ยนตัวเองทุกอย่าง ทำงานสุจริตทุกวันเพื่อเลี้ยงน้องชาย และย่าที่นอนป่วยอยู่ที่บ้าน
เธอกลืนน้ำตาลงไป พยายามสะกดอารมณ์สุดหัวใจ
"ดาขอคุยกับคุณพริมก่อนนะคะ"
"แม่ฉันไม่อยากคุยกับใครที่มีประวัติแบบเธอหรอก"
“ถ้าพี่จะไล่ดาออก ดาก็ยอมออกค่ะ แต่... อย่าใส่ร้ายกันเลยนะคะ”
“นี่ไม่ใช่การใส่ร้าย ฉันพูดความจริง! ออกไปซะ ก่อนที่ลูกค้าจะหายหมดร้าน!”
อันดาพยักหน้า กลั้นใจ พาตัวเองเดินออกจากร้านไปอย่างเงียบงัน แม้ภายในจะปั่นป่วนราวพายุเฮอร์ริเคนก็ตาม
เธอยอม... ไม่ใช่เพราะเธอผิด แต่เพราะเธอไม่อยากให้ร้านที่เจ้าของเคยมอบโอกาสให้เธอได้มาทำงานที่นี่ ต้องเสียชื่อจากเรื่องทะเลาะกันในร้านเช่นนี้
สายตาคมคู่หนึ่ง จับจ้องตามแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินออกไปจากร้าน
ชนกันต์กระตุกยิ้มเย็น ริมฝีปากเอ่ยคำหนึ่งออกมาราวกับไม่ต้องคิด
“โง่”
“คุณกันต์… หมายถึงฉันเหรอคะ” เอมอมรถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ
แม้จะคบกันมาสองปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่กล้าทำอะไรตามใจตัวเองเวลาที่อยู่ต่อหน้าเขา
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ไม่พอใจที่คำพูดของตนถูกโยงไปหาคนละเรื่อง
"ถ้าเธออยากจะรับ ก็รับไปเถอะ" เขาตอบเสียงนิ่ง ก่อนจะลุกขึ้น วางแบงก์ห้าร้อยไว้บนโต๊ะ แล้วเดินออกไปโดยไม่หันกลับมา
เห็นเขาลุกจากโต๊ะเดินออกไป เอมอมรจึงรีบลุกตาม ก่อนจะสาวเท้าไวๆ เพื่อไปให้ทันเขา
"ขอโทษนะคะ ถ้าเอมทำอะไรให้คุณกันต์ไม่พอใจ..." เธอพูดขึ้นเบาๆ เมื่อสามารถเดินเคียงข้างเขาได้ในที่สุด
ชนกันต์หยุดเดินกะทันหัน ก่อนจะหันมาพูดเสียงแข็งอย่างไม่ปิดบังความหงุดหงิด
"ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว ว่าฉันไม่ชอบคำขอโทษแบบนี้"
เขาเคยพูดแบบนี้กับเธอหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้ก็ยังเหมือนเดิม …เขาไม่พอใจ และเธอก็ไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรผิดอีกแล้ว
"ขอโทษค่ะ..." เธอหลุดพูดออกมาโดยอัตโนมัติ
"นั่นไง ขอโทษอีกแล้ว... เธอนี่น่ารำคาญจริงๆ กลับไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะให้ 'นาวิน' ไปส่ง"
คำพูดนั้นบาดใจเหมือนมีดกรีดเบาๆ
"...ค่ะ" เอมอมรตอบเบาๆ พร้อมกับก้มหน้าลงอย่างผิดหวัง
นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน ที่เขายอมมาเจอเธอ แต่ก็ยังจบลงเหมือนเดิม …เขาหงุดหงิด ส่วนเธอก็ได้แต่โทษตัวเองในใจ เธออยากจะตีความโง่ของตัวเองให้หายไปเหลือเกิน...
นาวินถึงกับอ้าปากค้าง พลางกระซิบกับตัวเอง “สวย... เกินคาดมาก” เมื่อเห็นอันดาปกติอันดาก็จัดว่าเป็นคนหน้าตาดีอยู่แล้ว แต่เพราะมักไม่แต่งหน้าแต่งตัว เลยดูเรียบง่าย แต่พอได้รับการดูแลจากช่างฝีมือระดับสูงแบบนี้ เธอกลับดูราวกับเป็นคนละคนชนกันต์ยังคงจ้องเธอไม่วางตา เขารู้ดีว่าเธอเป็นคนสวย แต่ไม่เคยคิดเลยว่าพอได้รับการปรุงแต่งแล้ว จะกลายเป็นหญิงสาวที่งดงามได้ขนาดนี้...“เอ่อ... สวยจริงเหรอคะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยชินเลยค่ะ” อันดาถามเสียงเบาอย่างไม่มั่นใจนัก ปกติแล้วเธอไม่เคยแต่งตัวเปิดเผยเรือนร่าง หรือแต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มแบบนี้มาก่อนเลย“สวย” คำตอบสั้นๆ แต่หนักแน่นหลุดออกมาจากปากของชนกันต์ อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่คิดว่าจะพูดคำนั้นออกไปอันดาอมยิ้มอย่างเขินอายโดยไม่รู้ตัว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ เพียงแค่ได้ยินคำชมนั้นจากเขา ตอนแรกเธอนึกว่าเขาคงจะพูดแซวประมาณว่า ไปส่องกระจกดูก็รู้แล้วมั้ง ซะอีกนาวินที่ยืนฟังอยู่เงียบๆ ถึงกับหลุดยิ้มเมื่อได้ยินเจ้านายพูดเช่นนั้น เขาจึงขอตัวออกไปข้างนอก ปล่อยให้เจ้านายของเขาได้อยู่ตามลำพังกับ ‘คู่ควง’ ที่ดูเหมือนจะเริ่มกลายเป
อันดานึกสงสารคุณพิเชษฐ์อยู่บ้าง แต่สิ่งที่เขาทำก็เกินให้อภัยจริง ๆ อย่างที่ชนกันต์บอก หากหยุดตอนนี้ ทุกอย่างอาจยังพอมีทางกลับตัวได้ แต่ถ้ายังไม่ยอมหยุด... ก็คงต้องปล่อยให้ผลกรรมจัดการเองทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถตู้หรู อันดาก็หันมายกนิ้วโป้งสองข้างให้ชนกันต์ พร้อมกับรอยยิ้มกว้างสดใส“สุดยอดเลยค่ะ!” เธอบอกอย่างตื่นเต้น เขาเก่งมากจริง ๆ และวันนี้เขาก็ทำให้เธอประทับใจจนไม่รู้จะพูดอย่างไรดีชนกันต์เสมองไปทางหน้าต่าง เหมือนไม่สนใจ แต่ในใจกลับรู้สึกแปลกไปจากทุกครั้งที่ผ่านมาปกติแล้ว ผู้หญิงที่เข้าหาเขามักจะเอ่ยคำชมหวานหู เช่น‘คุณกันต์เก่งจังเลยค่ะ’‘คุณกันต์ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง ฉันประทับใจคุณจริง ๆ’‘ถ้าเราได้คบกันจริง ๆ คงดีไม่น้อยเลยนะคะ ที่จะได้มีคนดีๆ แบบคุณคอยปกป้อง’แต่คำพูดพวกนั้น เขาฟังแล้วก็ลืม เพราะไม่รู้ว่าอันไหนจริง อันไหนเสแสร้งทว่า... คำชมจากอันดาไม่ได้มาในรูปคำพูดเลิศหรู หากแต่เป็นท่าทางตรงไปตรงมา ซึ่งทำให้เขาเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวรู้สึกตัวอีกทีก็รีบหุบยิ้มลง แล้วหันมามองเธอด้วยท่าทีเฉยเมยเหมือนเดิม เพราะในความจริง เขากับเธอก็ไม่น่าจะมีอะไรเกินกว่านี้ ฐานะก็ต่างกัน นิสัยเธอก
“แล้วยังไงครับ โลกนี้เป็นของคนที่มีอำนาจ คนที่ให้ผลประโยชน์ได้มากก็เป็นผู้ชนะอยู่วันยังค่ำ ต่อให้เธอไม่เต็มใจ ผมก็จะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่” พิเชษฐ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเย็น เขาลุกขึ้นยืน หมายจะเดินเข้าไปฉุดอันดาขึ้นจากเก้าอี้ โดยไม่สนว่าอยู่ต่อหน้าใคร เพราะมั่นใจในอำนาจของตนว่าไม่มีใครกล้าขัด…แต่เขาคิดผิดทันทีที่แขนของเขาเอื้อมไปใกล้หญิงสาว กลับถูกมือหนาของชนกันต์คว้าหยุดไว้ ก่อนจะบิดข้อมืออีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ล็อกตัวไว้แน่น แล้วผลักออกห่าง"ผมว่า ถึงเวลาต้องจบเรื่องนี้ได้แล้ว" ชนกันต์เอ่ยเสียงเย็น แล้วปล่อยหมัดซัดเข้ากลางใบหน้าพิเชษฐ์เต็มแรง ตามด้วยเท้ากระแทกซ้ำจนอีกฝ่ายล้มลง"ผมอุตส่าห์พยายามหลับหูหลับตา เฉยชากับนิสัยคนอย่างคุณ แต่คุณก็ยังกล้าทำเรื่องต่ำทรามแบบนี้ต่อหน้าผม!" เขาคำราม ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่เท้า และมือนั้นยังระดมกระหน่ำใส่พิเชษฐ์ไม่หยุด“คุณกันต์! พอเถอะครับ พอได้แล้ว!” นาวินรีบเข้ามาห้าม จนตัวเองโดนผลักกระเด็นเล็กน้อย ก่อนที่ชนกันต์จะยอมหยุดเขาสูดลมหายใจลึก ดึงชายเสื้อสูทที่หลุดลุ่ยกลับเข้าที่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ดวงตายังวาวโรจน์ด้วยไฟโทสะ
ชนกันต์เริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศผิดปกติในโต๊ะอาหารนี้ เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมาคุยธุรกิจ หรือมาหาเรื่องและสิ่งที่คุณพิเชษฐ์พูดต่อมา... ก็เกินขอบเขตของความอดทนโดยสิ้นเชิง“เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ผมจะพูดตรงๆ ... ผมถูกใจเลขาคนใหม่ของคุณมาก คุณก็คงผ่านมาก่อนแล้วไม่รู้กี่ครั้ง งั้นถือว่าแบ่งปันกันบ้างเถอะครับ ขอแค่คืนเดียว แลกกับลายเซ็นในสัญญา ผมว่าคุณคงไม่ขาดทุนหรอก จริงไหม?”มือของชนกันต์กำแน่น เส้นเลือดที่ขมับปูดเด่น...สายตาเขานิ่งเหมือนเดิม แต่ภายใต้ความนิ่งนั้นเต็มไปด้วยคลื่นความโกรธที่แทบจะปะทุการดูถูกผู้หญิงคนหนึ่งต่อหน้าเขาแบบไม่ไว้หน้าเช่นนี้ ไม่เพียงแค่ล่วงเกินศักดิ์ศรีของเธอ... แต่มันคือการเหยียบย่ำความเป็นมนุษย์เขารู้ว่าคุณพิเชษฐ์เป็นคนอย่างไร ประวัติเสือผู้หญิงของอีกฝ่ายไม่ใช่เรื่องลับในแวดวงธุรกิจ แต่ไม่คิดว่าจะกล้าล้ำเส้น... กล้าพูดอะไรแบบนี้กับเขา ต่อหน้าเขาอันดาต้องพยายามข่มอารมณ์โกรธเช่นกัน เธอจับจ้องไปยังทีท่าของชนกันต์ หวังว่าเขาจะลุกขึ้นช่วยเหลือเธอ ไม่ใช่เลือกที่จะเพิกเฉยเพียงเพราะผลประโยชน์ หากเขาทำเช่นนั้น เธอจะถือว่าบุญคุณที่เคยมีต่อกันสิ้นสุดลง และหลังจากนี้... ก
ห้องทำงานรองประธานบริษัท PNSP“เข้ามาทำไมไม่เคาะประตู! รู้จักคำว่า ‘มารยาท’ บ้างไหม? เรื่องพื้นฐาน... ไม่รู้เลยหรือไง” เสียงเย็นชา และเฉียบขาดของเจ้าของห้องดังขึ้นทันทีที่ประตูถูกเปิดโดยไม่ทันเคาะ อันดาถึงกับสะดุ้ง“ขอโทษค่ะ” เธอรีบตอบ แล้วหมุนตัวถอยหลังออกไป ปิดประตูอย่างเรียบร้อยชนกันต์เหลือบตามองประตูอย่างหงุดหงิดเล็กๆ ขัดจังหวะงาน แล้วยังเปิดประตูโครมเข้ามาอีก แต่อีกไม่กี่วินาทีต่อมา... เสียงเคาะเบาๆ ก็ดังขึ้นก็ยังดี... เธอยังรู้จักแก้ไข แต่ก็เหมือนจะกวนประสาทประตูเปิดออกอีกครั้ง ร่างระหงของอันดาโผล่พ้นเข้ามาพร้อมรอยยิ้มอารมณ์ดี“บอสคะ” เสียงหวานเจือความทะเล้นเล็กๆ เอ่ยขึ้น“ที่นี่ไม่มีใครเรียกผมว่าบอส” เขาพูดเรียบๆ“แหม... ยังไงซะฉันก็เป็น ‘คู่ควง’ ของคุณนะคะ ขอเรียกพิเศษกว่าคนอื่นหน่อยจะเป็นอะไรไป แถมเรียกแบบนี้เวลาออกงานก็เนียนขึ้นด้วย”“อยากเรียกอะไรก็เรียก” เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าจากเอกสาร“ค่ะ” เธอตอบรับ ยิ้มยังคงไม่หายจากใบหน้า“แล้วนี่เข้ามาทำไม มีเรื่องอะไร?”อันดาสูดหายใจเข้าเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ“บอสคะ... ขอเบิกเงินล่วงหน้าได้ไหมคะ?”คำถามนั้นทำให้บรรยากาศใ
“เอกสารที่ต้องเซ็นค่ะ คุณลองอ่านดูก่อนนะคะ ฉันเพิ่งเริ่มงานวันแรก ยังไม่ค่อยรู้ระบบเท่าไหร่” อันดาวางแฟ้มลงบนโต๊ะของเจ้านายหนุ่ม พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ“ไม่รู้ก็ไม่ต้องทำ” ชนกันต์ตอบเรียบเย็นโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง “อยากนั่งเล่น เดินเล่น หรือจะไปช็อปปิ้งก็เชิญ ผมไม่อยากเสียเวลากับคนทำงานไม่เป็น”อันดานิ่งไปชั่วครู่ มองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างอดกลั้น ก่อนจะขมวดคิ้วน้อยๆ“คุณปล่อยให้คุณนาวินทำงานคนเดียว ทั้งที่เขางานล้นมือ ไหนจะต้องขับรถให้คุณ แล้วก็ไปดูแลคนนู้นคนนี้อีก ถ้าคุณไม่สอนฉัน แล้วใครจะช่วยเขาคะ?”“มันใช่หน้าที่เธอหรือไง?”“ก็... ไม่ใช่ค่ะ” เธอยอมรับเสียงเบา“แล้วจะมายุ่งทำไม?”“มันเรียกว่า ‘น้ำใจพื้นฐาน’ ของคนค่ะ” เธอยิ้มบางแต่ชัดเจน สู้สายตานิ่งเฉยของเขาอย่างไม่ยอมแพ้เขาขมวดคิ้วแน่นทันที ประโยคเมื่อครู่... ฟังคุ้นๆ ใช่สิ เมื่อหลายวันก่อนเขาเพิ่งพูดประโยคนี้กับเธอเอง แล้วนี่เธอเอามาย้อนเขาเหรอ?“เอาเป็นว่าสอนฉันเถอะค่ะ” เธอพูดต่อด้วยรอยยิ้มจริงใจ “คุณจะได้มีลูกน้องรู้ใจเพิ่มอีกหนึ่ง ฉันหัวไว เรียนเร็ว ไม่ต้องกลัวว่าจะช้าหรือเสียเวลาค่ะ ไหนๆ ก็จ้างฉันมาด้วยเงินเดือนที
Comments