Share

บทที่ 12

Author: หออักษร
การที่ฉินหมิงบุกรุกเข้าพระราชวังโดยพลการ เรื่องนี้จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ จะว่าเล็กก็เล็ก

ความเร็วในการแพร่กระจายข่าวสารในวังนั้นรวดเร็วมาก

ฉินหมิงเพิ่งจะเข้าสู่พระราชวัง

ขันทีหวังเป่าก็ได้รับข่าวแล้ว รีบเดินเข้าไปในตำหนักไท่เหอ

ที่นี่คือสถานที่ที่เซียวซูเฟยเตรียมตัวก่อนเข้าร่วมงานเลี้ยง

ขณะนี้ นางกำลังให้สาวใช้สองสามคนช่วยสวมเสื้อผ้าและแต่งหน้าทำผม เตรียมจะเข้าร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้พร้อมกับฮ่องเต้เฉียน

“พระสนม ฉินหมิงก็มาเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยเพคะ”

“เจ้าเด็กคนนี้ช่างเหมือนวิญญาณตามหลอกหลอนไม่เลิกจริง ๆ !”

เซียวซูเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย

เรื่องวุ่นวายที่ฉินหมิงก่อขึ้นในช่วงสองสามวันมานี้ นางได้ยินมาบ้างแล้ว

หลังจากที่ได้ทราบว่าฉินหมิงได้ค่ายทหารอู่เวยไปแล้ว ในใจของนางก็เต็มไปด้วยความระแวดระวัง

“ไปแจ้งจางหมิง อย่าให้ฉินหมิงเข้ามา”

“เพคะ!”

จางหมิงเป็นหัวหน้าหน่วยองครักษ์อวี่หลิน มีลูกน้องอยู่ภายใต้บังคับบัญชาไม่น้อย

เนื่องจากประจำการอยู่ในวังตลอดทั้งปี แน่นอนว่าเขาก็ต้องหาที่พึ่งพิง

ผู้อยู่เบื้องหลังที่เขาหาก็คือเซียวซูเฟย

หลายปีมานี้ที่ทำงานให้เซียวซูเฟย เขาก็ได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย

หลังจากที่คำสั่งของเซียวซูเฟยถูกถ่ายทอดลงไป

ไม่นานนักฉินหมิงก็ถูกขวางไว้ที่ใต้กำแพงวัง

“องค์ชายโปรดหยุดก่อน!”

จางหมิงปรากฏตัวขึ้นที่หน้ารถม้าของฉินหมิง

“จางหมิง?”

ฉางไป๋ซานขมวดคิ้วเล็กน้อย ในอดีตจางหมิงเคยเป็นลูกน้องของเขา

เพียงแต่ภายหลังไปช่วยงานเซียวซูเฟย ก็ค่อย ๆ ตีตัวออกห่างจากเขาไป

“แม่ทัพฉาง ไม่ได้พบกันเสียนาน”

จางหมิงโค้งตัวเล็กน้อย ประสานมือคารวะ ท่าทีเช่นนี้ไม่มีความเคารพต่อฉางไป๋ซานเลยแม้แต่น้อย

เมื่อมองลูกน้องที่ค่อย ๆ ห่างเหินไปจากตนเองผู้นี้ ฉางไป๋ซานก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“พวกเรามาเข้าร่วมงานเลี้ยง เจ้ามาขวางรถไว้ทำไม”

“ตำแหน่งในงานเลี้ยงมีจำนวนจำกัด มีเพียงโต๊ะไม่กี่ตัวนั้น พวกท่านได้รับคำเชิญแล้วหรือ?”

“การค้ากับกองคาราวานสินค้าหนานหยางครั้งนี้ องค์ชายเป็นผู้เจรจาสำเร็จ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็สมควรที่จะให้องค์ชายเข้าไป”

ฉางไป๋ซานโต้เถียงอย่างมีเหตุผล

จางหมิงกลับทำหน้าดูถูก กล่าวอย่างเรียบเฉย

“ใคร ๆ ก็รู้ว่าองค์ชายได้ออกจากราชสำนักไปแล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้ยังจะหน้าด้านกลับมาขอเข้าร่วมงานเลี้ยงอีก ไม่กลัวคนอื่นจะนินทาเอาหรือ?”

“บังอาจ!”

ฉางไป๋ซานตะโกนลั่นด้วยความเดือดดาล กำลังจะพุ่งลงไปโจมตีเขา

แต่ทหารโดยรอบได้พุ่งเข้ามาแล้ว ล้อมรถม้าของฉินหมิงไว้อย่างแน่นหนา

จางหมิงยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน กล่าวด้วยท่าทีที่เหนือกว่า

“แม่ทัพฉาง ท่านและองค์ชายต่างก็เป็นคนมีหน้ามีตา ข้าก็ไม่อยากจะทำให้เรื่องราวมันดูน่าเกลียดเกินไป”

“พวกท่านไปเองเถิด ข้าก็จะถือว่าทั้งสองท่านไม่เคยมาที่นี่เลย ดีหรือไม่?”

ฉางไป๋ซานถูกล้อมไว้ เมื่อเผชิญหน้ากับฝูงชนที่จ้องมองอย่างเอาเรื่อง เขาก็กัดฟันแล้วกล่าวว่า

“จางหมิง เจ้าช่างเป็นคนเนรคุณจริง ๆ !”

“ก็แค่ต่างคนต่างรับใช้นายของตน ท่านพูดเช่นนี้ก็ใจแคบเกินไปแล้ว”

จางหมิงไม่รู้สึกว่านี่มีปัญหาอะไร ตรงกันข้าม กลับทำหน้าเย้ยหยันแล้วสั่งสอนฉางไป๋ซาน

ฉางไป๋ซานโมโหอย่างยิ่ง แต่ในตอนนี้ข้างกายของเขามีองครักษ์ชุดเกราะยืนอยู่หลายสิบคน

ชั่วขณะหนึ่งจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

“จางหมิง เจ้าช่างเป็นสุนัขรับใช้ที่ดีจริง ๆ เซียวซูเฟยคงจะให้ผลประโยชน์แก่เจ้าไม่น้อยเลยกระมัง?”

ในตอนนี้ เสียงหนึ่งก็พลันดังมาจากในรถม้า

ฉินหมิงเปิดม่านรถม้า แล้วกระโดดลงมา

จางหมิงถูกด่าต่อหน้าลูกน้องมากมายขนาดนี้ ใบหน้าก็พลันเขียวทีขาวที

บรรยากาศโดยรอบเย็นเยียบลงจนถึงจุดเยือกแข็ง

“องค์ชาย พวกเราเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในวัง”

จางหมิงกัดฟันพูด ในใจเริ่มคำนวณแล้วว่าอีกสักครู่หลังจากที่ขับไล่ฉินหมิงไปแล้ว จะหัวเราะเยาะเขาอย่างไรดี

“ปฏิบัติตามคำสั่งหรือ?”

มุมปากของฉินหมิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มดูแคลน

“วันนี้ข้าจะเข้าไปให้ได้ แล้วจะทำอย่างไรเล่า?”

“หากท่านอยากจะให้เรื่องไปถึงฝ่าบาท จางหมิงไม่มีความสามารถอื่นใด แต่พร้อมจะอยู่เป็นเพื่อนท่าน”

“ไป!”

ฉินหมิงกวักมือเรียก นำฉางไป๋ซานเดินเข้าไปในพระราชวังต่อไป

ท่าทียั่วยุเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการจะทะเลาะกับจางหมิงจนเรื่องไปถึงท้องพระโรง

จางหมิงแค่นเสียงเย็น ในใจแอบหัวเราะเยาะฉินหมิงที่ไม่รู้จักสถานการณ์

ฮ่องเต้เฉียนมีทัศนคติต่อฉินหมิงอย่างไร ทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แล้ว

เขายังจะกล้าให้เรื่องไปถึงฮ่องเต้เฉียนอีกหรือ?

ขอเพียงแค่ไปถึงแล้ว ไม่ใช่แค่จางหมิงกับฮ่องเต้เฉียนเท่านั้น

เซียวซูเฟยก็อยู่ที่นั่นด้วย

รับรองได้เลยว่าจะทำให้เขาไม่ได้อยู่ดี ๆ แน่!

“ท่านแม่ทัพ พวกเรา...”

ลูกน้องสองสามคนเดินเข้ามาอย่างลังเล ถามจางหมิงว่าควรจะลงมือหรือไม่

จางหมิงโบกมือแล้วเอ่ยขึ้น

“เอาละ ไม่ต้องสนใจ ในเมื่อเขาอยากจะก่อเรื่อง พวกเราก็อยู่เป็นเพื่อนเขาก่อเรื่อง ทำให้เรื่องราวมันใหญ่โตขึ้นจะดีที่สุด!”

เช่นนี้แล้ว ฉินหมิงภายใต้การ “คุ้มกัน” ของจางหมิง ก็เดินทางมาถึงนอกตำหนักอย่างรวดเร็ว

เซียวซูเฟย ฮ่องเต้เฉียน และเหล่าขุนนางต่างรอคอยการเข้ามาของกองคาราวานสินค้าหนานหยางอยู่ที่นี่นานแล้ว

แต่กองคาราวานสินค้าหนานหยางยังไม่มา ก็ได้เห็นเงาของฉินหมิงเสียก่อน

ฮ่องเต้เฉียนขมวดพระขนง

“ใครให้เขาเข้ามา?”

เฉินซื่อเม่าและเฉียนไฉต่างก็ประหลาดใจอยู่บ้าง

เซียวซูเฟยจ้องมองจางหมิงด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร ดูเหมือนกำลังตำหนิเขาว่าทำงานไม่ได้เรื่อง

จางหมิงรีบเดินเข้าไปข้างหน้า กล่าวเสียงเบาว่า

“ฝ่าบาท องค์รัชทายาทยืนกรานจะเข้ามาให้ได้ กระหม่อมได้ขัดขวางหลายครั้งหลายคราแล้ว แต่ก็ขวางไว้ไม่อยู่...”

เซียวซูเฟยเลิกคิ้วขึ้น ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงเจตนาของจางหมิง

นางรีบส่งสายตาให้บัณฑิตไท่ฉางชิวปิงอวิ๋นทันที

ชิวปิงอวิ๋นก้าวออกมาข้างหน้าแล้วเอ่ยขึ้น

“ฝ่าบาท การที่ฉินอ๋องจะเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ กระหม่อมเห็นว่าไม่ค่อยเหมาะสมพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้เฉียนก็ทรงคิดเช่นนั้น

“ฉินหมิง เจ้ามาที่นี่ทำไม?”

เหล่าขุนนางต่างก็มองฉินหมิงด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากฟังว่าเขาจะพูดว่าอย่างไร

ฉินหมิงกล่าวอย่างเรียบเฉย

“เสด็จพ่อ การค้าขายของกองคาราวานสินค้าหนานหยางก็เป็นลูกที่เจรจาได้สำเร็จ เหตุใดเมื่อจัดงานเลี้ยง กลับไม่มีใครเรียกลูกเลย?”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา สีหน้าของทุกคนก็ดูแปลกประหลาดอย่างยิ่ง

เรื่องเช่นนี้ยังจะต้องพูดออกมาให้ชัดเจนอีกหรือ?

ฉินหมิงมิใช่องค์รัชทายาทแล้ว เรื่องของกองคาราวานสินค้าหนานหยางก็ได้ให้ผลประโยชน์แก่เขาเพียงพอแล้ว

ตามหลักแล้วราชสำนักกับเขาก็ไม่ติดค้างอะไรกัน

ในตอนนี้ที่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ หรือว่าเขาต้องการจะมาทวงบุญคุณต่อ?

เช่นนั้นแล้วการกระทำนี้ก็ช่างไร้ซึ่งมารยาทเสียจริง

เซียวซูเฟยเอ่ยปาก

“ฉินอ๋องกล่าวล้อเล่นแล้วเพคะ วันนี้ราชสำนักจัดเลี้ยงกองคาราวานสินค้าหนานหยาง และขุนนางที่เกี่ยวข้อง”

“ท่านกำลังจะเดินทางไปรักษาการณ์ชายแดนที่หลิ่งหนาน ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ การมาร่วมงานเลี้ยงอีก เกรงว่าจะไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง?”

ฉินหมิงพยักหน้า

“ท่านพูดถูกแล้ว ครั้งนี้ข้าก็มิได้มาเพราะราชสำนักจริง ๆ ”

“ว่ากระไรนะ?”

ทุกคนต่างมองเขาด้วยความสงสัย

ในตอนนี้เอง ตัวแทนหลายร้อยคนจากกองคาราวานสินค้าหนานหยาง ก็ได้เดินทางมาถึงที่นี่แล้ว

พวกเขาเอ่ยปาก

“ฝ่าบาทแห่งต้าเฉียน ฉินอ๋องเป็นคนที่พวกเราเชิญมาด้วยกัน”

“การประชันบทกวีและประลองยุทธ์ในวันนี้ พวกเราได้เชิญฉินอ๋องมาช่วยสักหน่อย คงจะไม่มีปัญหากระมัง?”

...

ฮ่องเต้เฉียนและเซียวซูเฟยต่างก็เงียบไป

จางหมิงที่เมื่อครู่ยังโหวกเหวกโวยวายจะให้เรื่องไปถึงฮ่องเต้เฉียน ในตอนนี้สีหน้าก็ดูย่ำแย่อย่างยิ่ง

เขาคิดถึงความเป็นไปได้มากมาย

แต่กลับไม่เคยคิดเลยว่า วันนี้ฉินหมิงจะเข้ามาในฐานะตัวแทนของกองคาราวานสินค้าหนานหยาง

อันที่จริงนี่ก็เป็นเรื่องปกติมาก

คนของกองคาราวานสินค้าหนานหยาง เดิมทีก็มีความไม่พอใจต่อราชสำนักต้าเฉียนอยู่หลายประการ

และฉินหมิงก็มีบารมีสูงส่งอย่างยิ่งในหมู่พวกเขา

จึงยืมตัวฉินหมิง เพื่อแสดงความไม่พอใจในการค้าขายครั้งนี้ของพวกเขา

“ดี ดี... ในเมื่อเป็นที่นั่งของกองคาราวานสินค้าหนานหยาง เช่นนั้นก็เชิญนั่งเถิด”

ฮ่องเต้เฉียนจ้องมองฉินหมิงอย่างเย็นชา ในดวงตาเต็มไปด้วยความพิโรธ

วันนี้ฉินหมิงต่อให้ต้องอาศัยที่นั่งของกองคาราวานสินค้าหนานหยาง ก็จะต้องเข้ามาในตำหนักให้ได้

เห็นได้ชัดว่ามีแผนการบางอย่าง

ขุนนางไม่น้อยในที่นั้น ต่างได้กลิ่นที่ไม่ปกติบางอย่างแล้ว

ดูเหมือนว่างานเลี้ยงในวันนี้ คงจะต้องวุ่นวายขึ้นมาอีกแล้ว...
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว   บทที่ 100

    “กระไรนะ?!”เมื่อเว่ยกว่างซวินลองคิดดู ก็พบว่ามีความเป็นไปได้นี้จริงๆเดิมหานหมิงรุ่ยก็ถูกปลดลงมาจากราชสำนักจะรู้จักฉินอ๋องก็ไม่แปลกที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!ซุนเฉิงคาดเดาต่อไปว่า“ท่านยังจำได้หรือไม่ ครั้งก่อนตอนที่ฉินอ๋องพบว่าพวกเราหาคนมาช่วย ก็ไม่ตระหนกแม้แต่น้อย”“ใช่แล้ว ที่แท้พวกเขารู้จักกันอยู่ก่อนแล้วนี่เอง”ภายในใจของเว่ยกว่างซวินเย็นยะเยียบขึ้นมาดูท่ามีแต่พวกเขาสองพี่น้อง ที่ถูกปั่นหัวอยู่เล่นอยู่ในเงื้อมมือผู้อื่น“เรื่องนี้อย่าได้พูดถึงอีก วันหลังพวกเราให้ถือเสียว่าไม่เคยเสียเปรียบเพราะฉินอ๋องแล้วกัน”เว่ยกว่างซวินได้วิธีการรับมืออย่างรวดเร็วซุนเฉิงก็พยักหนักอย่างหนักเช่นกันอย่างรวดเร็ว ความไม่พอใจแต่เดิมที่มีต่อฉินหมิงก็ถูกพวกเขาเก็บซ่อนไปเป็นอย่างดีภายหลังจากจินตนาการเรื่องราวออกมามากมาย พวกเขาสองคนก็รีบตามไปอย่างว่าง่ายมิได้สร้างปัญหาใดอีก…… ในฐานะผู้ที่ชักนำให้เกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ฉินหมิงนั้นไม่รู้ว่าซุนเฉิงและเว่ยกว่างซวินพูดคุยสิ่งใดกันเพียงพบว่าหลังพวกเขาทั้งสองเดินเข้ามา ก็ต่างมองเขาด้วยรอยยิ้มที่เบิกบานราวดอกไม้บนใบหน้าก็ไม่พบร่องรอยความ

  • ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว   บทที่ 99

    หานหมิงรุ่ยเป็นหนึ่งในรองผู้บัญชาการทหารท้องถิ่นดังนั้นคำพูดของเขา ย่อมแสดงถึงท่าทีของทางการฉินหมิงจึงมิได้ถกเถียงกับเขา แต่กล่าวอย่างแย้มยิ้มว่า“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ กลับเป็นข้าที่ไม่เข้าใจสถานการณ์แล้ว”“ไม่หรอกพ่ะย่ะค่ะ ทรงมีเจตนาดี เพียงแต่บรรดาทหารในกองทัพก็ต้องการความสมดุลระหว่างหน้าที่และการพักผ่อนเช่นกันมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ”เพราะอยากเล่นพนัน ท่าทีในการพูดจาของหานหมิงรุ่ยต่อฉินหมิงในยามนี้จึงดีขึ้นไม่น้อย“เช่นเดียวกันกับกระหม่อม ยามปกติก็ชอบเล่นตาสองตา การพนันเล็กๆ น้อยๆ ช่วยเพิ่มพูนความสุขและความสัมพันธ์ได้อย่างไรล่ะพ่ะย่ะค่ะ”หานหมิงรุ่ยมิได้มีชื่อเสียงมากนัก ดังนั้นยามเกิดเรื่องในตอนนั้น ผู้ที่รู้จึงมีไม่มากยกตัวอย่างเช่นพวกเฉาชวน คนเหล่านี้ล้วนไม่รู้เลยโชคดีที่ครอบครัวของกวนเยว่กับเยว่โส่วเจียงเป็นเพื่อนเก่ากันมานานปกติแล้ว เมื่อแม่ทัพระดับสูงอย่างพวกเขาพูดคุยกันในยามว่าง ถึงจะมีการเปิดเผยข้อมูลบางอย่างออกมาด้วยเหตุนี้ จนถึงตอนนี้หานหมิงรุ่ยจึงยังคงคิดว่า เรื่องของตนนั้นที่นี่น่าจะมีคนรู้ไม่มากดังนั้นต่อหน้าพวกฉินหมิง ตนจึงสามารถแสร้งแสดงเป็นผู้ทรงคุณธรรมไ

  • ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว   บทที่ 98

    พวกเขาสวมเครื่องแบบทหาร ปลอมตัวเป็นทหารที่กำลังพักผ่อนเล่นไพ่โกวกันอยู่ที่นี่เมื่อเห็นฉินหมิงเดินเข้ามา เหล่ามืออาชีพที่กำลังนั่งไข้วขาอยู่บนพื้นก็ให้ความร่วมมืออย่างมาก“ย๊าก! กิน!”“เพิ่มร้อยยี่สิบแปดเท่า! จ่ายเงินมา!”หานหมิงรุ่ยชะงักเท้าลงจริงๆ สายตาเหลือบมองไปที่การเรียงไพ่ด้านล่างอย่างอดไม่ได้ฉินหมิงไม่ค่อยเข้าใจวิธีการเล่นของเจ้าสิ่งนี้นักรู้เพียงว่าไพ่โกวของต้าเฉียน มีรูปร่างหน้าตาคล้ายไพ่นกกระจอก ปกติเป็นแผ่นไม้ เพียงแต่รูปร่างจะแบนกว่ายาวกว่าในขณะที่กำลังกังวลว่าพวกเขาจะแสดงมากเกินไปจนโป๊ะแตกหานหมิงรุ่ยซึ่งเหลือบมองเพียงครั้งเดียวก็เห็นไพ่โกวที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ก็พยักหน้าแล้วพึมพำว่า“ร้อยยี่สิบแปดเท่า เล่นใหญ่ขนาดนี้เชียว…”ดูจากท่าทางแล้ว ต้องคันไม้คันมือขึ้นมาแล้วเป็นแน่ฉินหมิงสบตากับซ่งติ้งเซิงคราหนึ่ง คนทั้งสองล้วนสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของหานหมิงรุ่ยแต่การตกปลานั้นจะต้องมีความอดทนฝีเท้าของฉินหมิงมิได้หยุดชะงักลงแม้แต่น้อย กระทั่งยังหันศีรษะไปมองหานหมิงรุ่ยที่รั้งท้ายอยู่ด้านหลังด้วยหานหมิงรุ่ยก็รู้ตัวว่าพลาดไป มองเกมไพ่เบื้องล่างทีหนึ่งอย

  • ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว   บทที่ 97

    ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมของหานหมิงรุ่ยขาดความซื่อสัตย์ ผู้ที่รู้ถึงการกระทำในอดีตของเขาล้วนไม่มีทางมอบหมายงานสำคัญและเป็นเพราะอาศัยผลงานทางทหารที่สั่งสมมานานหลายปี เขาถึงสามารถดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการในหลิ่งหนานได้ทว่าเมื่ออยู่ในค่ายทหาร การมีตัวตนของเขายังคงประดุจสุนัขที่ไร้ผู้เหลียวแลเมื่อเวลาผ่านไป หนังหน้าหนาของเจ้าตัวนี้จึงหนาขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ไร้ยางอายถึงขึ้นปล่อยตัวปล่อยใจอย่างเหลวแหลกเสียเลยเพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดสนใจ แบบใดสบายใจก็ทำแบบนั้น เห็นผู้ใดไม่ถูกใจก็ชักสีหน้าก็เหมือนกับตอนนี้ ที่แม้แต่ฉินหมิงเขาก็ไม่เห็นอยู่ในสายตานี่ค่อนข้างคล้ายพวกระดับผู้นำในองค์กรต่างๆ ที่ผ่านไปนานหลายปีก็ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งอยู่บ้างซึ่งพวกเขาเองก็รู้ว่า อนาคตไร้หนทางก้าวหน้าแล้วจึงคร้านที่จะเสแสร้งอีก ทำตามอำเภอใจเสียเลยเฉาชวนมองความไม่สบอารมณ์ของฉินหมิงออก จึงเป็นตัวแทนเขาเริ่มเข้าไปพูดคุยกับหานหมิงรุ่ยแทน“ยากนักที่ท่านแม่ทัพหานจะมาเยือนสักครั้ง นั่งลงสนทนากันก่อนเถอะขอรับ”“คุยอะไร? ท่านอ๋อง เรื่องนี้เดิมก็เป็นพวกท่านที่ทำไม่ถูก”หานหมิงรุ่ยเบะปาก สีหน้าเต็มไปด้วยความ

  • ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว   บทที่ 96

    ซ่งติ้งเซิงเดินไปที่ข้างกายฉินหมิงแล้วกล่าวว่า“ท่านอ๋อง ทรงไม่ต้องสอนพวกเขาดอกพ่ะย่ะค่ะ”“คนกลุ่มนี้ล้วนเป็นพวกฝีมือแก่กล้ามากประสบการณ์ หากต้องการวางแผน พวกเขาสามารถทำได้เอง ไม่แน่ว่าผลงานที่ออกมายังอาจทำได้ดีกว่าที่ทรงกำกับอีกพ่ะย่ะค่ะ”“ที่แท้เป็นเช่นนี้”มุมปากของฉินหมิงกระตุก เดิมคิดจะเตือนพวกเขาว่าควรเล่นอย่างไรตอนนี้ดูไปคงไม่จำเป็นแล้ว“งั้นก็ไปเถอะ อีกครู่เจ้ามอบผลประโยชน์ให้พวกเขาหน่อย ให้คนปิดปากให้สนิทขึ้น”“พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อกลับมาถึงค่ายทหารอู่เวย ฉินหมิงก็ให้พวกเขาใส่เครื่องแบบทหาร แล้วนั่งอยู่ในบริเวณที่สะดุดตารอเหยื่อมาติดกับในเวลาเดียวกัน ฉินหมิงยังเรียกหลิวฉ่วงมาด้วย“เหล่าหลิว เจ้าพาคนจำนวนหนึ่งไปลาดตระเวนในค่ายทหาร”เรื่องอื่นไม่พูดถึง หากต้องการลงไม้ลงมือแล้วล่ะก็ หลิวฉ่วงนั้นเป็นพวกสายลุยตัวจริงมีบางครั้งหากไม่ทันระวัง เขากระทั่งทุบตีคนจนตายได้เมื่อเรียกแม่ทัพผู้ดุดันคนนี้มาเข้าร่วม ฉินหมิงก็ถือว่าได้ทำประกันเพิ่มให้ตนเองอีกชั้นหลิวฉ่วงรู้จักฉินหมิงเป็นอย่างดี เห็นเขาท่าทางมีลับลมคมใน จึงบ่นพึมพำอยู่ด้านข้างว่า“ท่านอ๋อง ท่านเรียกกระหม่อมมาต้องไ

  • ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว   บทที่ 95

    “สร้างกับดักหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ใช่แล้ว เจ้ากินก่อนเถอะ กินเสร็จแล้วค่อยออกมา เราไปทำธุระกันสักหน่อย”“พ่ะย่ะค่ะ!”ซ่งติ้งเซิงดื่มโจ๊กข้าวกล้องหมดภายในไม่กี่คำ สวมชุดขุนนางเสร็จ ก็สาวเท้าออกจากประตูใหญ่ทันทีฉินหมิงที่รออยู่บริเวณมุมกำแพง กระซิบเล่าเรื่องประสบการณ์ชีวิตของหานหมิงรุ่ยแก่เขาหลังฟังจบ ซ่งติ้งเซิงก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงพรึงเพริดในเวลาเดียวกัน เขาก็ถอนใจอย่างอดไม่ได้ เรื่องสกปรกในราชสำนักช่างมีมากมายเสียจริงเขาถูกมือไปมา แล้วถามอย่างสงสัยว่า“ท่านอ๋อง กระหม่อมมีคำถามข้อหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”“คำถามอะไร?”“หานหมิงรุ่ยผู้นั้น คืนเงินท่านแม่ทัพเย่แล้วหรือยังพ่ะย่ะค่ะ?”“ไร้สาระ ย่อมไม่น่ะสิ เจ้าคนไร้เมียนั่นตอนนี้แม้แต่ตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอด ยังจะหวังให้เขาคืนเงิน?”ฉินหมิงค้อนเขาทีหนึ่งโลกนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีคุณธรรมจริยธรรมแม้น ‘ติดหนี้ต้องชดใช้’ จะเป็นหลักการแห่งฟ้าดินที่ถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ก็ยังมีอีกคำกล่าวที่ว่า ‘เหาเยอะไม่กลัวคัน’ ด้วย“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ อย่างนั้นหากพวกเรายังเล่นงานเขาเช่นนี้อีก มิเท่ากับไร้คุณธรรมอย่างยิ่งหรือพ่ะย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status