共有

บุกปล้นยามวิกาล

作者: zuey
last update 最終更新日: 2025-11-04 13:03:46

เงาที่ถูกยิงส่งเสียงร้อง อึก!! เพียงเท่านั้นจากนั้นจึงล้มลง เงาเหล่านั้นเมื่อเห็นพรรคพวกของตนถูกสังหารพวกมันก็ตกใจหันรีหันขวางอย่างร้อนรน จากนั้นธนูดอกที่สองสามสี่ก็ตามมา เหล่าเงาที่ต้องการเข้าไปในเรือนของนางล้มลงไปกองที่พื้นดั่งใบไม้ร่วง

ซีหยวนไห่หนานกับเหล่าองครักษ์ที่ซ่อนตัวอยู่อีกมุมหนึ่ง เพื่อเฝ้าดูว่าเจ้านกน้อยของเขาจะจัดการกับคนเหล่านั้นอย่างไร ท่าทางของเขาดูคึกคักจนออกนอกหน้าทำให้จื่อรุ่ยที่อยู่ด้านหลังแอบกลอกตาให้กับความสนุกที่ไม่ดูเวลาของเจ้านาย ไม่ยอมช่วยนางแล้วยังมาแอบดูอีก หากนางรู้เข้าคงเอาธนูนั่นยิงแสกหน้านายท่านแน่นอน

ลูกธนูสิบดอกของนางถูกยิงออกไปจนหมด เจิ้งซูอี้ทิ้งคันธนูไปจากนั้นจึงกระโดดลงมาจากต้นอู๋ถงประจันหน้ากับเงาเหล่านั้น นางดึงมีดสั้นออกมาจากเอวจากนั้นพุ่งเข้าใส่แขกที่ไม่ได้รับเชิญยามวิกาลพวกนี้ ดูเหมือนว่าในเหล่าชายฉกรรจ์พวกนั้นจะยังมีคนที่พอมีฝีมืออยู่บ้าง

เขาใช้ดาบใหญ่เข้าปะทะมีดสั้นของนาง ทั้งสองต่อสู้กันหลายกระบวนท่า เสียงการต่อสู้ของพวกเขาเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านที่เข้านอนไปแล้วเริ่มออกจากเรือนมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เจิ้งซูอี้ใช้มีดสั้นฟันแขนของชายร่างใหญ่จนดาบหลุดออกจากมือเขาจากนั้นนางจึงถีบไปที่หน้าอกทำให้ร่างของเขาลอยเข้าไปปะทะกับต้นอู๋ถงเสียงดัง

“พี่ใหญ่ท่านไม่ได้บอกว่าพวกเขามียอดฝีมือคอยอารักขานี่นา นางสังหารพี่น้องของเราไปจนเกือบหมดแล้ว”

ชายร่างเตี้ยผู้หนึ่งที่ยืนถือดาบคอยคุมเชิงอยู่ไม่ไกลพูดออกมาด้วยเสียงอันสั่นเทา ชายที่ถูกเรียกว่าพี่ใหญ่คว้าดาบในมือเขาย่างสามขุมมาที่เจิ้งซูอี้ทันที

“หลีกไป”

เสียงทุ้มต่ำของเขาทำให้เจิ้งซูอี้รู้สึกคุ้นเคย เหมือนนางเคยได้ยินเสียงนี้ที่ไหนสักแห่ง แต่ช่วงเวลานี้นางไม่มีเวลามาคิดถึงเรื่องไร้สาระพวกนั้น ยังเหลืออีกเกือบสิบคนที่นางต้องจัดการ

เจิ้งซูอี้หยิบดาบของชายร่างใหญ่ที่กระเด็นไปกระแทกต้นอู๋ถงขึ้นมา มีดสั้นของนางไม่ได้ทำด้วยเหล็กชั้นดีดังนั้นตอนนี้หากใช้มันต่อสู้เกรงว่ามันคงจะทนไม่ไหวอีกต่อไป นางจับดาบในมือให้มั่นจากนั้นจึงพุ่งเข้าใส่ชายร่างยักษ์ทันที

เจิ้งซูอี้ต้องสู้กับคนเกือบสิบคนทำให้นางทั้งเหนื่อยล้าและบาดแผลตามร่างกายก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ฝั่งชายฉกรรจ์นั้นเลวร้ายยิ่งกว่า ตอนนี้คนเกือบยี่สิบเหลือเพียงสองคนเท่านั้น แต่ไม่ใช่สองคนที่สมบูรณ์เพราะพวกเขาเองก็บาดเจ็บจากคมดาบของนางเช่นกัน

เจิ้งซูอี้ใช้ดาบใหญ่พยายามพยุงร่างของตนเองเอาไว้ นางกดบาดแผลให้ตนเองรู้สึกเจ็บจะได้ไม่หมดสติไปก่อนที่จะสังหารพวกมันทั้งหมด ไม่เช่นนั้นครอบครัวของหลิวอันอันจะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน

“ข้ายอมรับว่าเจ้าเก่งกาจจริงๆ ที่สามารถสังหารพี่น้องของข้าได้เกือบทั้งหมด แต่ตอนนี้เจ้าเสียเลือดมากอีกไม่นานเจ้าจะต้องหมดสติแน่ ข้าจะยังไม่ฆ่าเจ้าตอนนี้แต่ข้าจะให้เจ้าได้ดูข้าเล่นกับคนในครอบครัวของเจ้าทีละคน”

เมื่อพูดจบชายร่างยักษ์ก็หัวเราะออกมาเสียงดัง เจิ้งซูอี้หรี่ตามองพวกเขาด้วยสายตาอำมหิต หมดสติอย่างนั้นหรือไม่มีวันหรอก นางใช้นิ้วจิกไปที่ต้นแขนที่ถูกฟันจนเป็นแผลฉกรรจ์ จากนั้นใช้แรงเฮือกสุดท้ายต่อสู้กับชายร่างใหญ่ทั้งสอง เจิ้งซูอี้สามารถสังหารพวกเขาได้หนึ่งคน แต่ชายร่างยักษ์ที่นางรู้สึกคุ้นเสียงนั้นนางไม่สามารถฆ่าเขาได้ เจิ้งซูอี้ค่อยๆ ทรุดลงนางไม่เหลือแรงที่จะยกดาบขึ้นได้อีกแล้ว

ชายร่างยักษ์เมื่อเห็นว่าเป็นโอกาสของตน เขาจึงค่อยๆ ย่างสามขุมเข้าหานาง เจิ้งซูอี้พยายามดิ้นหนีเพื่อไม่ให้เขาเข้าใกล้ตนเอง แต่ชายร่างยักษ์ที่บาดเจ็บน้อยกว่านางเข้าถึงตัวเจิ้งซูอี้ก่อน เขาจิกผมนางขึ้นมาจากนั้นจึงมองใบหน้าที่เปรอะไปด้วยเลือดของนางด้วยสายตาอำมหิต

ชายร่างยักษ์ที่คิดว่าตนเองเป็นผู้ชนะแล้วเมื่อเห็นสตรีใต้ร่างของตนเสียเลือดมากจนอ่อนแรงร่างทรุดไปกับพื้นจึงไม่ทันได้ระวังตัว เจิ้งซูอี้อาศัยตอนที่ชายร่างยักษ์ลดการป้องกันตัวลง นางใช้มีดสั้นที่ซ่อนเอาไว้จ้วงแทงไปที่ใต้คางของเขาจนมิดด้าม

 

ชายร่างยักษ์เบิกตาโตส่งเสียงอึกอัก เขาไม่คิดว่าสตรีผู้นี้จะยังมีพิษสงหลงเหลือจนกระทั่งเขาได้สัมผัสมันด้วยตนเองในวาระสุดท้าย ก่อนสิ้นใจดวงตาของเขาเบิกโพลงด้วยความไม่ยินยอม

 

เจิ้งซูอี้เองก็ทนไม่ไหวแล้วเช่นกันนางไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะผลักร่างของชายร่างยักษ์ที่ล้มทับตนเองออก ก่อนที่จะหมดสตินางเหมือนเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของใครบางคน เขาเดินเข้ามาเตะชายร่างยักษ์ออกไปจากนาง จากนั้นจึงช้อนอุ้มร่างที่เต็มไปด้วยเลือดของนางเอาไว้ในอ้อมแขน เขากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูนางว่า เจ้าสอบผ่านแล้วตั้งแต่วันนี้ไปเจ้าเป็นของข้าโดยสมบูรณ์

เจิ้งซูอี้ไม่รู้ว่าตนเองสลบไปนานเท่าใด แต่เมื่อนางฟื้นคืนสติกลับมาห้องเล็กๆ ที่นางเคยอยู่ก็ได้เปลี่ยนแปลงไป ความคุ้นเคยนี้ทำให้นางตกใจนึกว่าตนเองกลับคืนมาร่างเดิมได้แล้ว เจิ้งซูอี้พยายามลุกขึ้นด้วยตัวเอง แต่บาดแผลตามร่างกายที่มากมายของนางทำให้นางต้องกลับลงไปนอนที่เตียงเช่นเดิม

“ดูเหมือนเราจะคิดไปเองสินะ”

เจิ้งซูอี้พึมพำกับตนเอง หากนางกลับร่างเดิมได้แล้วนางคงจะไม่มีบาดแผลเต็มตัวมากมายขนาดนี้ เจิ้งซูอี้ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ แล้วสรุปว่านางอยู่ที่ไหนกันแน่ ห้องนอนหรูหรากับเตียงหลังใหญ่ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะที่อยู่ในห้องล้วนทำจากไม้เนื้อดี ต่างจากเรือนหลังเล็กที่ทุกอย่างดูธรรมดาของนาง

เสียงเปิดประตูห้องเข้ามาทำให้เจิ้งซูอี้หันไปมอง สาวใช้แต่งตัวด้วยชุดหรูหราบ่งบอกว่าที่นี่คือจวนของคนใหญ่คนโตของใครบางคน แล้วสรุปที่นี่เป็นจวนของใครนางอยู่ที่ไหนกันแน่ หรือว่านางเสียเลือดมากจนกำลังฝันเรื่อยเปื่อย แต่ความเจ็บนี้มันเป็นของจริงนี่นา

สีหน้าของเจิ้งซูอี้ที่กำลังนอนอยู่บนเตียงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทำเอาสาวใช้ที่เข้ามาดูแลนางถึงกับทำตัวไม่ถูก เจิ้งซูอี้หันไปมองสาวใช้ที่กำลังเตรียมน้ำให้นาง

“ที่นี่คือที่ไหน”

เจิ้งซูอี้ถามสาวใช้นางนั้น นางละมือจากอ่างล้างหน้าจากนั้นจึงหันมาย่อตัวทำความเคารพนาง

“เรียนแม่นางที่นี่คือตำหนักของรุ่ยอ๋องเจ้าค่ะ”

สาวใช้ตอบเสียงนุ่มนวล เจิ้งซูอี้ขมวดคิ้วมุ่นนางไม่รู้จักรุ่ยอ๋องแล้วนางมาอยู่ที่ตำหนักของเขาได้อย่างไร

“ใครพาข้ามาที่นี่หรือ แล้วข้าหลับไปนานเท่าใดแล้ว”

ก่อนที่สาวใช้นางนั้นจะทันได้ตอบคำถามของเจิ้งซูอี้ ใครบางคนก็เดินเข้ามาในห้องซะก่อน เมื่อนางได้เห็นผู้มาใหม่เต็มตานางก็ต้องเบิกตาโตด้วยความตกใจ

“เหตุใดถึงเป็นเจ้า!!”

ซีหยวนไห่หนานโบกพัดในมือสาวใช้ก็ย่อตัวทำความเคารพจากนั้นจึงถอยออกจากห้องไป

“เจ้ากำลังอยู่ที่ตำหนักของข้า และเจ้าก็หลับไปครึ่งเดือนหรือก็คือสิบห้าวันนับจากวันที่เจ้าต่อสู้กับโจรป่าเหล่านั้น ออลืมบอกไปตอนนี้ข้าคือรุ่ยอ๋องแล้วนะดังนั้นเจ้าควรเรียกข้าว่ารุ่ยอ๋อง หรือเจ้าจะเรียกข้าว่าคุณชายเหมือนเดิมก็ได้ตามใจเจ้าเลย”

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • ทวงชะตา ชายาอ๋องตัวร้าย   เจ้าสอบผ่าน

    ซีหยวนไห่หนานพูดอย่างอารมณ์ดีเพราะตอนนี้เจ้านกน้อยที่หลับใหลมาอย่างยาวนานได้ฟื้นคืนสติแล้ว เจิ้งซูอี้ยังไม่หลุดจากภวังค์นางพยายามเรียบเรียงเรื่องราวที่เขาบอกภายในหัว ดูเหมือนเขาจะไม่ใช่องค์ชายห้าอีกต่อไปแล้วตอนนี้เขาคือรุ่ยอ๋อง นางหลับไปเพราะบาดเจ็บหนักถึงสิบห้าวัน แล้วครอบครัวของนางล่ะ“คนในครอบครัวของข้าเป็นอย่างไรบ้าง ศพพวกนั้นอีก”เจิ้งซูอี้เมื่อนึกขึ้นได้จึงรีบถามเขาอย่างร้อนรน นางไม่ต้องการให้ครอบครัวของนางต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้“ศพพวกนั้นได้ถูกจัดการอย่างถูกต้องจากคนของทางการ บิดามารดาและน้องชายของเจ้าก็ปลอดภัยดีพวกเขายังอยู่ที่เดิมแต่ไม่ต้องห่วง ข้าจัดการตัวปัญหาของครอบครัวของเจ้าให้เจ้าเรียบร้อยแล้วเช่นกัน”จากนั้นซีหยวนไห่หน่านก็เล่าเรื่องราวหลังจากที่นางสลบไปให้ฟัง เจ้าหน้าที่ทางการเดินทางมาหมู่บ้านตระกูลสือเพื่อยืนยันศพที่นางสังหารและพบว่าพวกมันคือโจรตามใบประกาศจับที่ทางการต้องการตัวมาช้านานจากนั้นมีคนไปแจ้งเบาะแสว่าเห็นหลิวฟู่เฉิงติดต่อกับกลุ่มโจรเหล่านี้เขาจึงถูกจับตัวไป แม่เฒ่าจางเองก็ถูกจับไปข้อหารับเงินจากกลุ่มโจรเช่นกัน หลักฐานคือเงินหนึ่งร้อยตำลึงที่พบในเรือนข

  • ทวงชะตา ชายาอ๋องตัวร้าย   บุกปล้นยามวิกาล

    เงาที่ถูกยิงส่งเสียงร้อง อึก!! เพียงเท่านั้นจากนั้นจึงล้มลง เงาเหล่านั้นเมื่อเห็นพรรคพวกของตนถูกสังหารพวกมันก็ตกใจหันรีหันขวางอย่างร้อนรน จากนั้นธนูดอกที่สองสามสี่ก็ตามมา เหล่าเงาที่ต้องการเข้าไปในเรือนของนางล้มลงไปกองที่พื้นดั่งใบไม้ร่วงซีหยวนไห่หนานกับเหล่าองครักษ์ที่ซ่อนตัวอยู่อีกมุมหนึ่ง เพื่อเฝ้าดูว่าเจ้านกน้อยของเขาจะจัดการกับคนเหล่านั้นอย่างไร ท่าทางของเขาดูคึกคักจนออกนอกหน้าทำให้จื่อรุ่ยที่อยู่ด้านหลังแอบกลอกตาให้กับความสนุกที่ไม่ดูเวลาของเจ้านาย ไม่ยอมช่วยนางแล้วยังมาแอบดูอีก หากนางรู้เข้าคงเอาธนูนั่นยิงแสกหน้านายท่านแน่นอนลูกธนูสิบดอกของนางถูกยิงออกไปจนหมด เจิ้งซูอี้ทิ้งคันธนูไปจากนั้นจึงกระโดดลงมาจากต้นอู๋ถงประจันหน้ากับเงาเหล่านั้น นางดึงมีดสั้นออกมาจากเอวจากนั้นพุ่งเข้าใส่แขกที่ไม่ได้รับเชิญยามวิกาลพวกนี้ ดูเหมือนว่าในเหล่าชายฉกรรจ์พวกนั้นจะยังมีคนที่พอมีฝีมืออยู่บ้างเขาใช้ดาบใหญ่เข้าปะทะมีดสั้นของนาง ทั้งสองต่อสู้กันหลายกระบวนท่า เสียงการต่อสู้ของพวกเขาเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านที่เข้านอนไปแล้วเริ่มออกจากเรือนมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เจิ้งซูอี้ใช้มีดสั้นฟันแขนของชายร่างให

  • ทวงชะตา ชายาอ๋องตัวร้าย   สัญญาณเตือน

    “คุณชายขอรับท่านกำลังหาอะไรอยู่หรือ”จื่อรุ่ยเอ่ยถามจากทางด้านหลัง ซีหยวนไห่หนานหันกลับมามองเขา จากนั้นทำนิ้วประกบกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม“ข้าต้องการกล่องที่งดงามสักหน่อย ขนาดเท่านี้”จื่อรุ่ยเข้าใจในทันที เขาเดินออกไปด้านนอกสักพักจากนั้นกลับมาพร้อมกล่องไม้สลักลวดลายดอกไห่ถังบนฝากล่องยื่นให้ผู้เป็นนายดู“กล่องขนาดเท่านี้ได้หรือไม่ขอรับ”ซีหยวนไห่หนานรับกล่องมาดูจากนั้นนำหยกพกที่เอววางลงไป จื่อรุ่ยตกใจจนตาโตเขาไม่นึกว่าองค์ชายจะลงทุนยกหยกประจำตัวที่สลักคำว่าไห่หนานให้เป็นของขวัญแก่หญิงสาวชาวบ้านธรรมดา“คุณชายแน่ใจว่าจะใช้หยกนี้จริงๆ หรือขอรับ”จื่อรุ่ยถามนายเหนือหัวอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ซีหยวนไห่หนานพยักหน้าจื่อรุ่ยได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ ช่างเถอะ แม้แต่ฮ่องเต้ที่เป็นถึงผู้ครองแคว้นยังห้ามองค์ชายห้าผู้นี้มิได้ เขาที่เป็นเพียงองครักษ์เล็กๆ เท่านั้นจะทำได้อย่างไร หลิวซีฮันที่ยังยืนอยู่ในห้องมองคนนั้นทีคนนี้ทีแต่ก็ไม่มีใครสนใจเขา เมื่อรู้สึกเบื่อเขาจึงอุ้มเสี่ยวหลงเดินกลับเรือนไปหลังจากที่หลิวซีฮันกลับมาที่เรือนแล้ว จากนั้นไม่นานซีหยวนไห่หนานเองก็มาที่นี่ด้วยเช่นกัน ครอบครัวของหลิวตงจ

  • ทวงชะตา ชายาอ๋องตัวร้าย   การกลับมาของหลิวฟู่เฉิง

    คนสกุลหลิวต่างตกใจไม่คิดว่าจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาเช่นนี้ อาหารการกินที่มีสำหรับพวกเขาสกุลหลิวยังแทบจะไม่พอ นี่ยังจะเพิ่มชายร่างใหญ่ผู้นี้เข้ามาอีกเห็นทีพวกเขาจะอยู่ไม่พ้นหน้าหนาวแน่“อาเฉิงหลานช่วยมาคุยกับย่าสักหน่อยได้หรือไม่”แม่เฒ่าจางเดินไปหาหลานชายอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะข้างกายเขามีชายร่างใหญ่เหมือนยักษ์ปักหลั่นยืนอยู่ แม่เฒ่าจางดึงแขนหลานชายเข้ามาคุยในห้องของนาง“เฉิงเอ๋อย่าไม่ว่าอะไรหรอกที่หลานจะมีผู้ติดตามเพราะอีกหน่อยหากหลานได้เป็นขุนนางในราชสำนักหลานจะมีคนติดตามมากมายแน่นอน แต่ตอนนี้ครอบครัวของเราเกรงว่าจะไม่สามารถเลี้ยงดูเขาได้....หลานช่วยคิดดูอีกครั้งได้หรือไม่”หลิวฟู่เฉิงนึกว่าแม่เฒ่าจางมีปัญญาหาเรื่องฟู่เถี่ยโถวที่ติดตามเขามาเสียอีกที่แท้ก็เรื่องเงิน หลิวฟู่เฉิงหยิบถุงเงินออกมาจากแขนเสื้อวางไว้ด้านหน้าของนาง“นี่คือเงินหนึ่งร้อยตำลึงขอรับท่านย่า ทีนี้คงไม่มีใครมีปัญหากับการที่ฟู่เถี่ยโถวอยู่ที่นี่แล้วนะขอรับ”หลิวฟู่เฉิงพูดกับแม่เฒ่าจางทั้งยังบอกผู้ที่แอบฟังอยู่นอกห้องให้รับรู้โดยทั่วกัน แม่เฒ่าจางรีบตะครุบถุงเงินทันที นางไม่เคยจับเงินมากมายเช่นนี้มาก่อนในชีวิต แม่เฒ่าจาง

  • ทวงชะตา ชายาอ๋องตัวร้าย   ยั่วยวนคุณชายรูปงาม

    “ฝากเจ้าไปขอบใจพี่ใหญ่แทนข้าด้วยนะ เมื่ออาเฉิงสอบได้จีว์เหรินเมื่อใดรับรองว่าตระกูลหลิวจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้แน่”นี่เป็นสิ่งที่จางเมิ่งเสวี่ยอยากได้ยิน เมื่อพี่ฟู่เฉิงสอบได้จีว์เหรินท่านปู่ก็จะมาคุยเรื่องแต่งงานของนางกับเขา ถึงแม้สองตระกูลจะรู้กันเรื่องนี้อยู่แล้วก็ตามแต่นางก็อยากประกาศให้ใครต่อใครรู้ว่าพี่ฟู่เฉิงเป็นของนาง แม่พวกดอกท้อที่หวังจะมาเป็นสะใภ้ตระกูลหลิวจะได้เลิกล้มความคิดนั้นซะจางเมิ่งเสวี่ยอยู่คุยกับแม่เฒ่าจางสักพัก เมื่อรู้ว่าวันนี้ตนไม่สามารถพบหน้าพี่ฟู่เฉิงได้นางจึงไม่อยากอยู่ต่อ จางเมิ่งเสวี่ยขอตัวลาแม่เฒ่าจางจากนั้นจึงเดินออกจากตระกูลหลิวไป นางเดินยังไม่ถึงหน้าหมู่บ้านสายตาก็ไปสะดุดบางสิ่งเข้า ชายหนุ่มรูปงามในชุดขาวกำลังยืนชมบรรยากาศยามเช้าที่กำลังมีหมอกลงหนาอย่างเพลิดเพลินเมื่อก่อนนางคิดว่าหลิวฟู่เฉิงเป็นบุรุษที่หล่อเหลาที่สุดเท่าที่นางเคยพบมา แต่หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มผู้นั้น หลิวฟู่เฉิงเทียบไม่ติดเลยสักนิดเดียว เหตุใดหมู่บ้านตระกูลสือถึงได้มีชายหนุ่มรูปงานเกลื่อนกลาดเช่นนี้จางเมิ่งเสวี่ยแสร้งเดินไปใกล้ชายหนุ่มผู้นั้นจากนั้นจึงแสร้งล้มลงใกล้ๆ กับที่

  • ทวงชะตา ชายาอ๋องตัวร้าย   หลานสาวแม่เฒ่าจาง

    “นี่ท่านป้าสือท่านบอกว่าจะไปหาบ้านของชายหนุ่มมาให้ข้าเลือกไม่ใช่หรือ ผ่านไปหลายวันแล้วเหตุใดท่านยังไม่มาหาข้าสักที”หลิวตงจิ้นถามแม่สื่อแซ่สือที่ทำหน้าที่เป็นผู้หาบ้านชายหนุ่มหญิงสาวที่เหมาะสมให้แต่งงานกัน นางเป็นคนที่เชื่อถือได้ในหมู่บ้านตระกูลสือและหมู่บ้านใกล้เคียง หากถึงเวลาที่บุตรสาวหรือบุตรชายแต่งงานแล้วล่ะก็ไม่ว่าบ้านไหนก็ล้วนมาหานาง แม่สื่อสือที่อายุราวห้าสิบกว่าถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ“ไม่ใช่ว่าข้าไม่หา แต่ละแวกหมู่บ้านใกล้เคียงไม่มีใครต้องการแต่งงานกับบุตรสาวเจ้าเลยสักคน”หลิวตงจวิ้นขมวดคิ้วมุ่นด้วยท่าทางไม่เข้าใจ“ก็เรื่องที่บุตรสาวของเจ้ามีวิญญาณร้ายคอยตามติด บ้านฝ่ายชายบ้านไหนก็ไม่กล้าแต่งบุตรสาวเจ้าเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ พวกเขาบอกว่ามันเป็นลางไม่ดี”แม่สื่อสืออธิบายเสียงอ่อย“เหลวไหลทั้งเพ ท่านไปได้ยินเรื่องพวกนี้มาจากที่ไหน”หลิวตงจวิ้นโพลงออกมาด้วยความโมโห จริงอยู่ที่บุตรสาวของเขาเคยฝันเห็นท่านพ่อของเขา แต่ท่านพ่อหาใช่วิญญาณร้ายอย่างที่พวกเขาลือกัน“จะที่ไหนซะอีกก็ทุกที่ที่ข้าไปน่ะสิ เรื่องของลูกสาวเจ้าเล่าลือกันไปหลายหมู่บ้านแล้วไม่รู้หรือ เห็นทีครั้งนี้ข้าคงจะช่วยเหลือเจ้

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status