Share

บทที่ 1 ทะลุมิติ มาเกิดใหม่

last update Huling Na-update: 2025-02-13 15:31:38

บทที่ 1

ทะลุมิติ มาเกิดใหม่

“แม่! คุณฟื้นแล้ว!”

แม่! ซ่งเจียซินที่ได้ยินเจ้าซาลาเปาน้อยหน้าประตูเรียกขาน ก็ถึงกับอ้าปากค้างไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง แค่เธอทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นสตรีร้ายกาจจนถูกสามีหมางเมินก็ยากจะทำใจยอมรับแล้ว ตอนนี้ยังมีลูกอีกหนึ่งคนมาให้เลี้ยงเพิ่ม...

สวรรค์พวกท่านว่างมากหรือไง ถึงได้เล่นตลกกับชีวิตคนเช่นนี้

เพียงแต่ตรงหน้ามีเด็กชายเพียงหนึ่งคน แต่ภาพในหัวของซ่งเจียซินกลับปรากฏเด็กชายสามถึงคน เด็กชายอีกสองคนเป็นใครกัน เพราะใช้ความคิดมากเกินไป ซ่งเจียซินจึงมีอาการปวดหัวจนต้องหลับตาขมวดคิ้วแน่น 

“จื่อหมิง! จื่อชิง! พวกนายอยู่ไหน แม่ฟื้นแล้ว จื่อหมิง! จื่อชิง!"

นี่คือจื่อหมิง จื่อชิง จื่อรั่ว ลูกชายของผม

เสียงแนะนำลูกๆ ทั้งสามของหลี่อี้โจวในวันแต่งงานปรากฏขึ้นในความคิด พร้อมกับภาพที่เจ้าของร่างเดิมแสร้งปั้นหน้าแสดงท่าทางเอ็นดูรักใคร่เด็กๆ ก่อนจะเปลี่ยนไปในทันทีที่หลี่อี้โจวเดินออกจากห้องแต่งตัวไป

“แม่ คุณสวยมาก พวกเรา... โอ๊ย!

เด็กชายตัวเล็กที่สุดในกลุ่มเดินเข้าจับแขนของเสวี่ยชิงหยวน พร้อมกับเจรจาเสียงสดใส ทว่าหญิงสาวกลับมองรอยยิ้มของเขาอย่างดูแคลนกาอนจะสลัดเขาออกจากตัว จนคนตัวเล็กกระเด็นล้มลง

“ฉันแต่งงานเพื่อเป็นภรรยาของพ่อพวกนาย ไม่ได้แต่งมาเป็นแม่ให้พวกนาย วันหน้าฉันกับเขาก็จะมีลูกด้วยกัน ลูกที่ไม่มีใครต้องการอย่างพวกนายก็จงเจียมตัวเอาไว้ให้มาก”

“หญิงใจร้าย! คุณกล้าทำร้ายจื่อรั่ว ผมจะสู้ตายกับคุณ”

เมื่อได้ยินว่าเด็กชายตรงหน้าคิดจะสู้ตายกับตนเสวี่ยชิงหยวนก็ยกมือขึ้นกอดอกแค่นยิ้มขบขัน

เด็กอย่างนายน่ะเหรอจะทำร้ายฉัน ไม่เจียมตัวจริงๆ”

หลี่จือชิงแฝดคนรองขบกราม กำหมัดแน่น ก่อนจะพุ่งเข้าใส่หญิงใจร้ายตรงหน้า แต่กลับถูกนางผลักจนเสียหลักล้มลงมากองรวมกับน้องชาย

กล้าทำร้ายฉันเหรอ ไอ้เด็กเหลือขอ ไม่มีใครเอา นิสัยเสียเหมือนแม่พวกแกไม่มีผิด”

“ห้ามว่าแม่ของพวกเรานะ”

หลี่จือชิงได้ยินอีกฝ่ายตำหนิมารดาผู้ให้กำเนิด ก็หยัดตัวลุกขึ้นสู้อีกครั้ง เพียงแต่กลับถูกพี่ชายฝาแฝดคนโตจับแขนรั้งเอาไว้

“จื่อชิง! อย่าไปยุ่งกับเธอ”

“นับว่านายยังมีหัวคิด รีบไสหัวออกไปให้หมดอย่ามาอยู่เกะให้ฉันรำคาญตา”

ซ่งเจียซินค่อยๆ ลืมตาขึ้น ภาพความร้ายกาจของเจ้าของร่างเดิมที่ปรากฏในความคิดทั้งหมดทำให้เธออดที่จะโมโหไม่ได้จริงๆ

“เสวี่ยชิงหยวน! สตรีร้ายกาจ ทำร้ายได้แม้กระทั่งเด็ก ฉันจะจุดธูปสาปแช่งวิญญาณของเธอ”

ซ่งเจียซินสบถด่าเจ้าของร่างเดิม แต่เมื่อคิดดูอีกทีในตอนนี้  เสวี่ยชิงหยวนก็คือเธอ นี่ไม่เท่ากับเธอกำลังด่าตัวเองหรือไง  หญิงสาวถอนหายใจยาวอีกครั้ง ก่อนจะปรายตามองไปยังคนบนโซฟา เป็นพ่อประสาอะไร แม้แต่ลูกของตนเองก็ไม่รู้จักปกป้อง เธอนึกกร่นบ่นในใจแล้วถอนหายใจยาว หลับตาลงอีกครั้งเพื่อทบทวนความทรงจำต่างๆ ของเจ้าของร่างเดิมต่อ...

ที่แท้เสวี่ยชิงหยวนผู้นี้เป็นถึงลูกสาวของเสวี่ยตงฉินเจ้าของกิจการอัญมณีและเครื่องเพชรที่ใหญ่ที่สุด แต่เพราะมีนิสัยเอาแต่ใจตนเองจนเลื่องลือไปทั่วทำให้อายุยี่สิบแล้วก็ยังไม่มีใครมาสู่ขอหมั้นหมาย เมื่อสหายเก่าอย่างจ้าวเสิ่นหมิงผู้เป็นมารดาของหลี่อี้โจวไปทวงเงินที่เขาเคยหยิบยืมเมื่อสิบปีก่อน เขาจึงยกข้ออ้างที่ระบุในสัญญาว่าจะใช้หนี้เป็นตัวคนมาบังคับให้หลี่อี้โจวยอมแต่งกับ

เสวี่ยชิงหยวน

ในขณะที่จ้าวเสิ่นหมิงนั้นก็ไม่ใช่สตรีหัวอ่อนไร้เดียง ย่อมรู้ทันความคิดของสหายเก่าเจ้าเล่ห์ แต่เมื่อคำนวณดูแล้วพบว่าเสวี่ยชิงหยวนผู้นี้เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลเสวี่ยน ในอนาคตแน่นอนว่าสมบัติทั้งหมดของบ้านเสวี่ยนย่อมต้องส่งต่อให้นาง ดังนั้นจึงยอมรับข้อตกลงแต่งงานนี้

ซ่งเจียซินที่รำลึกถึงเรื่องราวเหล่านี้ ได้แต่ถอนหายใจส่ายหน้าไปมาอย่างนะอาใจ ช่างเป็นบุรุษหมาป่าสตรีจิ้งจอกจริงๆ

ยิ่งคิดถึงอดีตเจ้าของร่างที่เพียงได้เห็นหน้าหลี่อี้โจวก็หลงใหลในรูปร่างหน้าตาของเขา ไม่คิดสงสัยเรื่องใดตอบตกลงรับคำขอแต่งงานของตระกูลหลี่โดยทันที สุดท้ายได้ครอบครองตัวแต่กลับไม่อาจยึดครองใจ ในคืนเข้าหอไม่เพียงถูกหลี่อี้โจวทอดทิ้งเอาไว้ลำพัง วันถัดมาเขายังหลบหนีเจ้าสาวกลับเข้ากองกรม สร้างความโกรธแค้นอับอายให้เสวี่ยชิงหยวนจนล้มป่วยไปถึงหนึ่งเดือน

“ร้ายกาจไม่พอ ยังโง่งม และหยิ่งผยอง”

แต่เรื่องโง่งมใดที่เสวี่ยชิงหยวนทำก็ไม่ร้ายแรงเท่าเรื่องในคืนวันเกิดของจ้าวเสิ่นหมิง ผู้เป็นมารดาสามี

ในคืนนั้นหลี่อี้โจวออกจากกรมเดินทางกลับบ้านมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของมารดา แต่เสวี่ยชิงหยวนไม่เพียงไม่กตัญญูช่วยเหลือจัดงาน ยังฉกฉวยโอกาสใส่ยาปลุกเร้าอารมณ์กำหนัดในแก้วเหล้าของตนเองแล้วลอบสับเปลี่ยนกับเขา หลังจากที่หลี่อี้โจวดื่มเข้าไปไม่นาน ใบหน้าของเขาก็แดงก่ำในกายเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เร่าร้อน

เพียงแต่สิ่งที่หลี่อี้โจวทำกลับไม่ใช่การพาภรรยาเช่นเสวี่ยชิงหยวนเข้าห้องสานสัมพันธ์ร่างกาย แต่กลับเป็นเร่งกลับเข้ากรมทหารเพื่อรับยาแก้ ทำให้เรื่องที่เสวี่ยชิงหยวนถูกสามีหมางเมินจนต้องพึ่งพายาปลุกอารมณ์เล่าลือไปทั่ว และเป็นเหตุให้เสวี่ยชิงหยวนคับแค้นจนตัดสินใจดื่มยาพิษดอกลำโพงเพื่อประชดอย่างโง่งม โดยไม่คิดว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้ลงมือทำเรื่องเช่นนั้น

“เสวี่ยชิงหยวน ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะอายุสั้นแค่ยี่สิบสองปี”

ซ่งเจียซินถอนหายใจยาวอีกครั้ง พลางหันหน้ามองไปรอบ ๆ ตัว ห้องนี้แม้ดูเรียบง่ายแต่ของตกแต่งทุกชิ้นกลับมีราคาสูง เพียงแค่เตียงนอนกับตู้ไม้สองชิ้นนี้ก็มีมูลค่ายากที่จะประเมินราคาแล้ว

ดวงตากลมมองกวาดสังเกตสิ่งต่างๆ พลางวิเคราะห์ ก่อนที่สายตาหวานจะหยุดตรงตัวเลขระบุปีปฏิทินบนผนังห้อง 

คศ.1980!!

............................................

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 60 งานเลี้ยงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

    ซ่งเจียซินมองดูบัตรเชิญที่ตงซางยื่นให้แล้วขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย“สมาคมฟู่หลันอย่างนั้นหรือ ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“เป็นสมาคมที่ตระกูลฟู่ก่อตั้งขึ้นครับ เห็นว่าก่อตั้งมาเพียงสามปีก็ได้รับความนิยมจากผู้คนจำนวนมาก มีทุนสนับสนุนหมุนเวียนปีละหลายล้านหยวนเลยทีเดียว”ทุนสนับสนุนหมุนเวียนปีละหลายล้านหยวน จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ที่จะมีคนบริจาคเงินสนับสนุนด้วยงบประมาณที่สูงถึงเพียงนั้น เว้นแต่ว่ากิจการสมาคมนี้เบื้องหลังจะไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อผลประโยชน์ทางการกุศลเพียงอย่างเดียว ทว่าตระกูลฟู่นี้ทำไมจึงรู้สึกคุ้นหูนัก“ตระกูลฟู่... ทำไมฉันถึงได้คุ้นหูจัง”“อาจเป็นเพราะนายท่านตระกูลฟู่ ก็คือบิดาบุญธรรมของคุณเจียงครับ”“บิดาบุญธรรมของเจียงชิงชุน?”“ครับ ตระกูล เป็นผู้ประกอบกิจการรายใหญ่ของประเทศ ผลิตอุปกรณ์และยาทางการแพทย์ครับ”“กิจการของตระกูลเสวี่ยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลฟู่ดังนั้นงานเลี้ยงนี้คงไม่เหมาะสมที่จะไป”ในเมื่อไม่มีเหตุผลทางธุรกิจ และไม่มีความจำเป็นในความสัมพันธ์ส่วนตัวซ่งเจียซินก็คิดว่าเธอไม่ควรสอดมือเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่น่าไว้วางใจนี้ มือเรียวจึงวางบัตรเชิญ

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 59 ผู้หญิงของเจียงชิงชุน

    ซ่งเจียซินแทบจะสำลักข้าวต้มเมื่อหลี่โจวอี้แจ้งข่าวว่าตนเองทำเรื่องย้ายกลับเข้าเมืองได้สำเร็จแล้ว และนับจากวันนี้ไปเขาจะอยู่ที่บ้านทุกวัน“คุณหลี่ เมื่อครู่คุณบอกว่ายังไงนะคะ”“ผมบอกว่าตอนนี้ผมทำเรื่องย้ายมาสังกัดในเมืองได้แล้ว ต่อไปก็สามารถอยู่กับลูกและคุณได้ทุกวัน”อยู่ได้ทุกวัน เพียงแค่คิดซ่งเจียซินก็รู้สึกว่าเส้นเลือดที่ขมับปูดโปนขึ้นมา สบดวงตาคมที่จ้องมองแล้วยิ้มแห้ง ทว่ายังไม่ทันพูดอะไรเสียงรถคันหนึ่งก็ขับมาจอดที่หน้าประตูรั้ว“คุณไป๋ชิงหลันมาพบคุณหลี่ค่ะ”หูหลันอิงเข้ามารายงานด้วยท่าทางสงบนิ่งหากแต่หางตาลอบมองผู้เป็นนายสาวด้วยความห่วงใย ซ่งเจียซินตวัดสายตามองชายหนุ่มหัวโต๊ะแล้วถอนหายใจยาว ช่างเป็นบุรุษมากเสน่ห์จริงๆ“อย่างนั้นคุณก็คุยกับเพื่อนสนิทไปก่อนก็แล้วกันนะคะ วันนี้ฉันจะไปส่งเด็กๆ เอง”พูดจบซ่งเจียซินก็ลุกขึ้น ไม่ต้องเอ่ยชวนเด็กชายทั้งสามก็ลุกขึ้นลงจากเก้าอี้ตามมารดาเลี้ยงในทันที“พ่อใจร้าย”หลี่จื่อรั่วพูดเสียงน้อยใจก่อนเดินออกไป ตามด้วยพี่ชายทั้งสองสีหน้าและแววตาชัดเจนว่าไม่พอใจคนเป็นพ่อเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน“เดี๋ยวก่อน ผมไม่ได้...”“โจวอี้...”หลี่โจวอี้พูดไม่ทันจบประโย

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 58 ความลุ่มหลงของภรรยา

    ข่าวเรื่องลูกค้าระดับแบล๊กโกล์ดคลาสของร้านเพชรเสวี่ยจะได้เลือกชมตัวอย่างแบบร่างเครื่องเพชรของนักออกแบบอันลู่ซือก่อนผู้อื่นทำให้บรรดาสมาชิกผู้ถือบัตรต่างพากันเข้าซื้อสินค้าในร้านเพชรเสวี่ยเพื่อเพิ่มระดับบัตรสมาชิกของตัวเอง เพียงระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์สร้างรายได้ให้กับร้านเสวี่ยมากกว่าสามล้านหยวน ทำลายยอดสถิติหลายปีที่ผ่านมาของเสวี่ยกรุ๊ปจนบรรดาผู้ถือหุ้นทั้งหลายต่างพากันตกใจและเมื่อถึงกำหนดส่งบัตรเชิญจำนวนลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิกระดับแบล๊กโกล์ดคลาสจากสิบกว่าคนก็เพิ่มยอดเป็นสามสิบคน คิดคำนวณดูแล้วเพียงแค่กลุ่มลูกค้านี้ก็สร้างรายได้ให้ร้านเสวี่ยถึงสามล้านหยวนแล้ว“ไฉ่หงทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”“เรียบร้อยดีค่ะ”ซ่งเจียซินที่มาตรวจสอบความเรียบร้อยของการจัดงานสอบถามกวนไฉ่หง โดยวันนี้เธอได้มอบหมายให้ตงซางเข้าไปต้อนรับสมาชิกและดูแลความเรียบร้อยด้านใน แต่หากมีเรื่องผิดพลาดหรือปัญหาใดๆ เกิดขึ้นตัวเธอก็จะรอจัดการอยู่ที่ด้านนอก“ยอดการสั่งจองเป็นอย่างไรบ้าง”“แบบร่างทั้งหกสิบแบบที่จะผลิตในปีนี้ถูกสั่งจองไว้ทั้งหมดแล้วค่ะ”“ดี!”และเพราะแบบร่างทั้งหกสิบแบบที่อันลู่ซือออกแบบไว้ก็ถูกสั่งจองไปจนหมด ทำให้ที

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 57 สถานะที่ไม่อาจครอบครอง

    หลังจากงานเลิก ซ่งเจียซินก็พาเด็กชายทั้งสามแยกตัวออกจากงาน อาจเพราะเป็นเวลาที่ดึกมากแล้วดังนั้นขึ้นรถมาได้ไม่นานทั้งสามคนก็เอนหลับ ดวงตากลมมองศีรษะเล็กของหลี่จื่อรั่ว และ หลี่จื่อชิงที่นอนซบอยู่บนตักนุ่ม ขณะที่หลี่จื่อหมิงนั่งนิ่งแผ่นหลังตรงราวกับยังมีสติครบ เพียงแต่ดวงตาที่ปิดสนิทกับลมหายใจที่สม่ำเสมอก็ทำให้ซ่งเจียซินรับรู้ได้ว่าเขาเองก็หลับแล้วเช่นกัน“คุณชายทั้งสามยังเด็ก ออกงานครั้งแรกมีปัญหาอะไรไหมคะ”“ไม่มี”เมื่อตอบจูหลินอิงไปแล้วซ่งเจียซินก็อดคิดถึงภาพสามคุณหนูที่ถูกเด็กชายทั้งสามลงมือไม่ได้“ถึงมีฉันก็จะปกป้องพวกเขาเอง”“คุณหนูดีกับคุณชายน้อยทั้งสามคนขนาดนี้ คุณหลี่ก็ยังคิดมอบใบหย่าคุณอีก ช่างเป็นบุรุษที่ใจร้ายจริงๆ”ในรถพลันเงียบลงในทันทีจูหลินอิงที่รู้ว่าตนเองพูดเรื่องที่ไม่สมควรออกมาก็รีบกล่าวขอโทษแล้วหันกลับไปนั่งนิ่งไม่พูดอะไรอีกซ่งเจียซินปวดหนึบในใจ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่แต่เธอรู้สึกรักและผูกพันจนไม่อยากจากเด็กชายทั้งสามไปเลย ดวงตากลมเสมองไปนอกหน้าต่างเพื่อขับไล่ความรู้สึกในอก จึงไม่เห็นมือเล็กของหลี่จื่อหมิงที่กำแน่นเข้าหากันบิดาของเขาคิดจะมอบใบหย่าให้มารดาเลี้ยงอย่า

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 56 ลูกที่ดีย่อมต้องเชื่อฟังพ่อแม่

    “ชิงหยวน เป็นอย่างไรบ้าง”อวี้ซูซินเห็นลูกสาวของตนเองเดินกลับออกมาก็เอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวล เช่นเดียวกับเสวี่ยตงฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ“ลูกไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพ่อจะสนับสนุนลูกเอง”“ขอบคุณค่ะ”เพราะยังไม่แน่ใจว่าสิงฉู่หรันจะช่วยเหลือจากใจจริงหรือไม่ ซ่งเจียซินจึงทำได้เพียงหมุนตัวไปทางเวทีด้านหน้า พลันแสงไฟในงานก็ดับลง เหลือเพียงแสงที่สาดขึ้นบนเวทีซ่งเจียซินจดจ้องบนลานเดินที่บรรดานางแบบกำลังทยอยเดินออกมา บนตัวของพวกเธอแต่ละคนต่างสวมเครื่องเพชรหรูหรา โดยมีพิธีการชายหญิงคอยอธิบายถึงคุณสมบัติต่างๆ ของผลงานแต่ละชิ้น“และในลำดับต่อไปเป็นเครื่องเพชรจากร้านเสวี่ยครับ”สิ้นเสียงของพิธีกรสิงฉู่หรันในชุดสีดำวาวก็เดินออกมายังเบื้องหน้าเวที ด้วยรูปลักษณ์และใบหน้าที่โดดเด่น อีกทั้งท่วงท่าสง่างาม แน่นอนว่าเธอย่อมเป็นจุดสนใจของผู้คนในทันทีที่ปรากฏตัว“นั้นคุณสิงฉู่หรัน ดาราดังไม่ใช่หรือ”“ได้ยินว่าเธอไม่รับงานเดินแบบนี่นา ไม่คิดเลยว่าร้านเสวี่ยจะสามารถเชิญเธอมาเดินแบบให้ได้”เสียงผู้คนดังขึ้น เสวี่ยชิงหยวนจ้องมองไปบนเวทีด้วยหัวใจที่สั่นระรัว สองมือข้างลำตัวกำแน่นด้วยความกังวล ก่อนจะสัมผัสได้ถึง

  • ทะลุมิติมาเป็น มารดาเลี้ยงแฝด3 ในยุค80   บทที่ 55 ชดใช้คืนให้

    “คุณหนูเสวี่ยครับเกิดเรื่องแล้ว”“เรื่องอะไร”“นางแบบที่จะสวมชุดเครื่องเพชรของร้านเราขึ้นเวทีเป็นลมหมดสติไปกะทันหันครับ”ซ่งเจียซินขมวดคิ้วเรียวแน่น ในแววตามีความกังวลและสงสัยเกิดขึ้นทันทีที่ฟังคำรายงานของตงซางจบ เพียงแต่ตอนนี้สิ่งสำคัญไม่ใช่การหาสาเหตุการเกิดปัญหา แต่คือการหาวิธีแก้ไขปัญหา“คุณแม่คะ ฉันฝากเด็กๆ ไว้สักครู่นะคะ”“ได้!แม่จะดูแลพวกเขาเอง ลูกไปจัดการธุระเถอะ”“แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะดูแลน้องๆ เอง”หลังจากได้รับคำตกลงจากมารดา และคำมั่นจากหลี่จื่อหมิงซ่งเจียซินก็วางใจเร่งเดินไปที่ห้องด้านหลังเวทีในทันที“คุณเสวี่ย พวกเราจะทำยังไงดี”อันลู่ซื่อถามด้วยความร้อนใจ บรรยากาศในห้องแต่งตัวเวลานี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด แม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นเหตุสุดวิสัย และทางสมาคมหมิงหลันไม่ได้ตำหนิพวกเธอร้านเสวี่ย แต่สำหรับซ่งเจียซินแล้วนี่กลับเป็นการขาดทุนมหาศาลหากไม่ได้ขึ้นเวทีเครื่องเพชรของเธอก็จะไม่ได้ถูกนำเสนอ ชื่อร้านเสวี่ยก็จะไม่มีการประกาศ เช่นนี้แล้วทุกอย่างที่ลงแรงไปก็เท่ากับศูนย์เปล่า“นางแบบเป็นยังไงบ้าง พาไปโรงพยาบาลหรือยัง”“เรียบร้อยแล้วครับ”ในสถานการณ์เช่นนี้ซ่งเจียซินไม่ไ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status