Share

ตอนที่ 4 บังอาจนัก

Author: Bunmeebooks
last update Last Updated: 2025-06-17 07:21:28

“บังอาจนัก กล้าสาปแช่งให้องค์หญิงให้มีอันเป็นไปรึ”

ชิงชิงตวาดขึ้นด้วยความโมโห นางและองค์หญิงเดินมายังไม่ทันจะถึงท้องพระโรงก็ได้ยินบทสนทนาอันแสลงหูนี้

เมื่อเห็นว่าคนที่กล่าวเป็นเพียงนางกำนัลข้างกายองค์เท่านั้น สนมฉิงเฟยจึงขึ้นเสียงตอบกลับว่า

“ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยเช่นนั้น เจ้าคงจะหูฝาดไปเอง”

“ถ้าเจ้าบอกว่านางหูฟาด ก็เท่ากับว่าข้าหูไม่ดีด้วยงั้นรึ เพราะถ้อยคำเมื่อครู่ข้าก็ได้ยิน !”

องค์หญิงปิงหลินตวาดเสียงกร้าว

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่านางสนมต่างก้มหน้าตัวสั่นงันงกไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากขึ้นแก้ตัว

“ดี ในเมื่อไม่มีใครกล้ายอมรับผิด ทหาร ! ตบปากพวกนาง ห้าสิบที โทษฐานที่บังอาจว่าข้าหูไม่ดี”

สิ้นคำองค์หญิงปิงหลินก็เชิดหน้าขึ้น แล้วเดินจากไปปล่อยให้ทหารเหล่านั้นทำโทษ ในเมื่อพวกนางไม่อยากยอมรับ ก็จงลิ้มรสความเจ็บปวดเสียบ้าง

เพี๊ยะ !

“โอ๊ย องค์หญิงโปรดเมตตา  กระหม่อมไม่กล้าอีกแล้ว  โอ๊ย โอ๊ย”

ใบหน้าสวย ๆ ของเหล่านางสนมเริ่มบวมแดง ริมฝีปากบวมเจ่ออย่างน่าสงสาร

เพี๊ยะ !      เพี๊ยะ !        เพี๊ยะ !

เสียงตวาด เสียงฟาดมือลงกระทบเนื้อ และเสียงร้องโอดโอยดังเป็นระยะ ๆ นั้น ทำให้ หยางจง แม่ทัพใหญ่หยุดมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นห่าง ๆ ร่างสูงสง่าองอาจราวกับเทพสงครามลงมาจุติยืนนิ่งประดุจหินผา ใบหน้ามีหนวดเคราขึ้นรกนั้นแลเห็นเพียงดวงตาดำสนิทลึกล้ำเท่านั้นที่วูบไหวคล้ายน้ำกระเพื่อมเพียงชั่วครู่ก็จางหาย

เขาเร่งรีบเพื่อจะไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้แต่บังเอิญเห็นเหตุการณ์ที่น่าสังเวชเข้าพอดี เขาแลเห็นสตรีผู้มีความงามล้ำเลิศ บนศีรษะประดับด้วยมงกุฎหงส์เลอค่าซึ่งบ่งบอกสถานะอันสูงสุดของวังหลัง ใครเล่าจะไม่รู้ว่าสตรีผู้นั้น คือ องค์หญิงปิงหลิน แม้เขาจะอยู่ห่างไกลถึงชายแดน แต่ยามใดที่กลับเข้ามาในวังหลวงมักจะได้ยินความร้ายกาจขององค์หญิงปีศาจอยู่บ่อยครั้ง นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าใบหน้างดงามเพียงนั้น แต่จิตใจกลับอัปลักษณ์ยิ่งนัก !

เมื่อ 10 ปีก่อนเขายังจดจำความร้ายกาจองค์หญิงปิงหลินได้ไม่มีวันลืม.....

วันนั้น เขาในฐานะบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูลแม่ทัพอันดับหนึ่งแห่งแคว้นฉู่ จึงได้มีโอกาสติดตามบิดาเข้าพบพระสนมหยางกุ้ยเฟยซึ่งเป็นน้องสาวของบิดา

ในระหว่างที่บิดากำลังสนทนากับหยางกุ้ยเฟยที่ดูเหมือนว่าจะยืดยาวมากขึ้นทุกที เขาจึงแอบหนีออกมาเดินเล่นในอุทยานวังหลังด้วยความซุกซนตามประสาเด็ก

“ฮ่า ๆ หยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้าลาโง่ มาให้ข้าเฆี่ยนเสียดี ๆ”

“โอ๊ย ๆ พอแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเจ็บไปหมดแล้ว”

เสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานบนความทุกข์ของผู้อื่นนั้น ทำให้ร่างเล็กของหยางจงวิ่งเข้าไปดูที่มาของเสียงนั้น แล้วเขาก็ประจักษ์แก่สายตาตนเองว่า เด็กหญิงผู้หนึ่งตัวเล็กกว่าเขาเสียด้วยซ้ำแต่กำลังถือกิ่งไม้ไล่เฆี่ยนตีขันทีแก่ ๆ สองคนอย่างสนุกสนาน พวกเขาถูกบังคับให้คลานสี่เท้าราวกับวัวควาย นางกำนัลสองคนได้แค่ส่งสายตาเวทนา แต่กลับไม่มีผู้ใดเอ่ยห้าม หรือสั่งสอนนางแม้แต่น้อย

“นี่มัน เด็กปีศาจชัด ๆ”

หยางจงส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เมื่อพิจารณาดูจากสถานการณ์แล้ว เด็กหญิงคนนี้ต้องมีฐานะสูงศักดิ์มากพอที่จะทำเช่นนั้นได้ หยางจงฉลาดพอที่จะไม่หาเรื่องใส่ตนเองจึงรีบหันหลังกลับหมายจะหลบเลี่ยงออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แต่แล้วเสียงตวาดลั่นอย่างวางอำนาจก็ดังขึ้น

“หยุดนะ !”

องค์หญิงน้อยวิ่งมุ่งหน้ามายังเด็กชายอย่างว่องไว

หยางจงเหลียวมองไปดูด้านหลังเพียงแวบเดียว แต่ไม่ยอมชะลอฝีเท้า เขาจึงได้ยินเสียงตะโกนตามหลังมาอีกครั้งว่า

ทหาร ! จับลูกสุนัขตัวนั้นมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ !

องค์หญิงน้อยตะโกนสั่งหน้าดำหน้าแดง ไม่เคยมีใครขัดคำสั่งของนางเช่นนี้มาก่อน

ร่างเล็กของหยางจงวิ่งเต็มฝีเท้า แต่ก็ยังไม่สามารถหนีพ้นมือทหารองครักษ์ที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดี ร่างเล็กของเขาจึงถูกหิ้วปีกเข้าไปคุกเข่าต่อหน้าเด็กหญิงตัวเล็ก

“ข้าไม่ใช่ลูกสุนัข !”

หยางจงตะคอกเด็กหญิงผู้นั้นด้วยความโมโห นางถือดีอย่างไรมากล่าวหาว่าเขาเป็นลูกสุนัข

องค์หญิงน้อยถลึงตาใส่เด็กชาย นอกจากเขาจะไม่หมอบลงถวายความเคารพนางเหมือนคนอื่น ๆ แล้วเขายังบังอาจมาตะคอกใส่นาง

“เจ้าลูกสุนัข ข้าจะให้เจ้าเป็นลูกสุนัข เจ้าก็ต้องเป็น”

ใบหน้าเล็ก ๆ เชิดขึ้น พร้อมกับกอดอกอย่างยโส

“ข้าไม่เป็น”

หยางจงตอบกลับอย่างหนักแน่น

องค์หญิงน้อยเม้มปากเข้าหากันอย่างขัดใจ นางเล่นกับขันทีและนางกำนัลเบื่อเต็มทน เมื่อเห็นเด็กชายเข้ามาในเขตวังหลังจึงอยากจะชวนเขามาเล่นด้วยกัน แต่ท่าทีของเขากับไม่เป็นมิตรต่อนางเสียเลย

“ข้าเป็นองค์หญิง ทำไมจะสั่งให้เจ้าเป็นลูกสุนัขไม่ได้ ข้าจะสั่งให้เจ้าเป็นลูกสุนัขแล้วมาเล่นกับข้า”

“ข้าไม่เล่นกับเด็กนิสัยไม่ดี !”

หยางจงโพล่งออกมา นางกำนัลแลขันทีที่ยืนอยู่ ณ บริเวณนั้นต่างลมหายใจสะดุดไปตาม ๆ กัน เกรงว่าลมหายใจเด็กชายผู้นี้จะรักษาไว้ไม่ได้แล้ว

“เจ้ากล้าด่าข้ารึ เจ้าลูกสุนัข !”

เสียงเล็กตวาดขึ้น พร้อมกับชี้หน้าเด็กชาย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่31 ข้าเป็นอะไรไปนี่

    ณ ประตูประจิมยามเหมา....ช่วงเวลานี้ ที่ประตูประจิมพ่อค้าจากตลาดสดจะนำผักผลไม้สดมาส่งที่วังหลวง ด้วยเหตุนี้ จึงมีคนงานในโรงครัวเดินเข้าเดินออกสำรวจสิ่งของ และขนผักผลไม้อยู่ตลอดเวลาองค์หญิงเหยียนชิงจึงแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มบ่าวรับใช้เพื่อไม่ให้ทหารยามซึ่งเฝ้าประตูจับนางได้วันนี้ ทหารมีเพียงแค่ 2 นายเท่านั้น เพราะกำลังทหารรักษาวังหลวงถูกเรียกตัวให้ไปรักษาความปลอดภัยในพระราชพิธีส่งเจ้าสาวขึ้นเกี้ยวที่ลานหน้าพระที่นั่งเมื่อองค์หญิงเหยียนชิงก้าวพ้นเขตประตูวังหลวง นางก็เดินตรงไปยังรถม้าที่จอดนิ่งอยู่ในมุมค่อนข้างลับตา บนรถม้ามีบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ สวมอาภรณ์สีดำตลอดทั้งตัว อีกทั้ง ยังสวมหมวกที่มีผ้าโปร่งอำพรางใบหน้าเอาไว้“นี่ท่าน.... ท่านใช่คนขับรถม้าของเหมยชิงหรือไม่”นางส่งเสียงถามออกไปเบา ๆ ดวงตายังคงมองซ้ายแลขวาอย่างระแวดระวัง กลัวว่าจะมีข้ารับใช้จำนางได้บุรุษชุดดำบนรถม้าส่งเสียงตอบรับ “อืม”ดวงตาคมกริบภายใต้ผ้าโปร่งสีดำมองหญิงสาวอย่างพิจารณา แม้ว่านางจะสวมชุดข้ารับใช้ อีกทั้ง ยังใช้ผ้าปกปิดใบหน้าจนเห็นเพียงแค่ดวงตา แต่ความงามของนางกลับฉายชัดออกมาจนยากจะปิดบัง“หากใช่ ก็รีบไปกันเถิด อย

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่30 วุ่นนักรักองค์หญิงตัวแสบ

    ปลายยามอิ๋นช่วงเวลานี้ หากเป็นยามปกติ องค์หญิงชิงอี้คงยังมุดอยู่ภายใต้ผ้าห่ม ซุกไซ้ตัวกับเตียงนุ่ม ๆ ในห้องบรรทมแต่วันนี้นางกลับต้องลุกขึ้นผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ สวมมงกุฎหงส์แห่งแคว้นเป่ย เพื่อขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทนพี่สาวต่างมารดา“น้องชิงชิง ขอบใจเจ้ามาก บุญคุณครั้งนี้ข้าจะไม่ลืมเลย”องค์หญิงเหยียนชิง กอบกุมมือขององค์หญิงชิงอี้เอาไว้ นางมองน้องสาวในชุดเจ้าสาวสีแดงด้วยใบหน้าเศร้าหมอง ดวงตาแดงก่ำ“ท่านพี่ อย่าทรงกันแสงสิเพคะ น้องไม่ได้ถูกส่งไปประหารเสียหน่อย น้องแค่ไปอภิเษกแทนท่านพี่ก็เท่านั้น”องค์หญิงชิงอี้ยังคงยิ้มทะเล้นให้พี่สาว นางกับองค์หญิงเหยียนชิงอายุห่างกันเพียงหนึ่งพรรษาจึงสนิทกันมากองค์หญิงเหยียนชิงลูบมือน้องสาวเบา ๆ “ข้าก็หวังว่าองค์ชายรัชทายาทแคว้นหนานจะดีต่อเจ้า”นางรู้สึกว่าชิงอี้ยังเด็กนัก และคงไม่รู้ความหมายของการแต่งงาน ว่ามันคือ ทั้งชีวิตของสตรี หากพบพานกับสามีไม่ดี ก็เท่ากับตกนรกทั้งเป็นเมื่อหลายวันก่อน ฮ่องงเต้ทรงมีรับสั่งว่าจะส่งตัวองค์หญิงเหยียนชิงไปอภิเษกกับองค์ชายรัชทายาทแคว้นหนานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีนางทราบข่าวเช่นนั้น ก็รู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแต่งง

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่29 คืนเข้าหอ

    หลินหลินรีบลุกขึ้นด้วยความดีใจ แต่เพราะร่างกายยังไม่หายดี นางจึงโงนเงน หยางจงจึงรีบสะอึกเข้ามาประคองร่างของนางเอาไว้ได้ทัน“หลินหลิน เจ้าระวังหน่อยสิ เจ้าเพิ่งฟื้นจากความตายมานะ จะแกล้งให้พ่อเสียใจอีกรอบหรือไง”ฮ่องเต้ส่งเสียงดุด้วยความห่วงใย“ลูกคิดถึงท่านพ่อ”หลินหลินน้ำตารื้นขึ้นมา“ลูกพ่อ เจ้าจะออกเรือนอยู่แล้วยังร้องหาพ่อเหมือนเด็ก ๆ ไปได้”ฮ่องเต้เอื้อมมือออกไปเกลี่ยน้ำตาบนแก้มเนียนออกอย่างรักใคร่เอ็นดู“เชิญนายท่าน นั่งก่อน”หยางจงผายมือเชื้อเชิญทุกคนในฐานะเจ้าของบ้าน วันนี้ไม่มีฮ่องเต้ ไม่มีองค์หญิง หรือแม่ทัพ มีเพียงคนในครอบครัวกันเมื่อนั่งลงแล้ว ฮ่องเต้จึงเอ่ยขึ้นว่า“เห็นหยางจงดูแลเจ้าอย่างดี ข้าเองก็สบายใจ เขาเป็นบุรุษองอาจกล้าหาญที่เจ้าจะฝากชีวิตให้เขาดูแลได้”“ท่านพ่อเอ่ยเช่นนี้หมายความว่า.....”หลินหลินเอ่ยแผ่วเบา ความดีใจนั้นทำให้นางไม่กล้าแม้จะเอ่ยให้จบประโยค เพราะกลัวว่าจะผิดหวังอีกครั้ง“หมายความว่า ถ้าหยางจงยอมสละตำแหน่งแม่ทัพ แล้วมาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนการทหาร พ่อก็จะยกเจ้าให้เขา”ฮ่องเต้ต่อประโยคให้ เรื่องนี้เขาได้คิดมาหลายวันแล้ว เขาไม่อยากทำลายความสุขของลูกส

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่28 ไม่มีทางอื่นอีกแล้วรึ

    หยางจงได้ยินดังนั้น หัวใจเขาแทบจะสลายลงไป มองไปยังใบหน้าหญิงอันเป็นที่รัก ซึ่งบัดนี้ซีดขาวราวกับซากศพ ลมหายใจรวยรินยิ่งนัก เขาจะปล่อยให้นางตายไม่ได้“หมอหลวง ไม่มีทางอื่นอีกแล้วรึ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ข้าก็พร้อมจะทำเพื่อช่วยนาง”เขาเอ่ยเสียงเครือ ปล่อยมือจากเสื้อของหมอหลวง ค่อย ๆ ถอยออกไปทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงองค์หญิงปิงหลินเช่นเดิมหมอหลวงเห็นเช่นนั้นแล้วจึงตัดสินใจเอ่ยขึ้นว่า“หากไม่มียาถอนพิษ มีอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถขับพิษออกจากร่างกายได้”ดวงตาของหยางจงเบิกโพล่งขึ้น ถลาเข้าจับไหล่ทั้งสองข้างของหมอหลวงเขย่า แล้วเอ่ยว่า“รีบบอกมา ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยองค์หญิงได้”“ใช้เลือดถ่ายเลือด”“เลือดถ่ายเลือด”หยางจงชะงักค้าง ฮ่องเต้ที่นั่งอยู่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย หมอหลวงจึงรีบอธิบายว่า“วิธีเลือดถ่ายเลือดนี้ คือ การนำเลือดดีของอีกคนหนึ่งเข้าสู่ร่างกายของคนที่ถูกพิษ จากนั้นก็รีดเอาเลือดที่มีพิษออก ซึ่งเป็นวิธีที่ข้าศึกษาในตำราโบราณแต่ยังไม่ได้ทดลองใช้จริง เกรงว่าจะมีโอกาสถึงแก่ชีวิตทั้งคู่”“ข้ายอม ! รีบถ่ายเลือดของข้าให้องค์หญิงเร็วเข้าเถอะ ก่อนที่พิษจะแพร่กระจายเข้าสู่อวัยวะสำคัญ”หยางจงรีบ

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่27 ตวาดเสียงสั่น

    “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร สารภาพอะไร ขอโทษอะไร ข้าไม่เข้าใจ”เหยากุ้ยเฟยหน้าซีดขาว ตวาดเสียงสั่น นักพรตผู้นี้สื่อสารกับวิญญาณได้จริง ๆ รึ“ข้าก็ไม่ทราบ แต่วิญญาณที่ยืนอยู่ตรงนี้กล่าวเช่นนั้น”นักพรตใช้แส้ชี้ไปที่เสาข้างเตียงบรรทมของกุ้ยเฟยสนมกุ้ยเฟยถึงกลับผงะโผ่เข้ากอดนางกำนัลคนสนิทด้วยความหวาดกลัว ละล่ำละลักถามว่า“วิญญาณขององค์หญิงปีศาจยืนอยู่ที่นี่รึ”“ข้ามิทราบว่านางเป็นผู้ใด แต่วิญญาณตนนี้อาฆาตท่านนัก แล้วพูดย้ำ ๆ ว่า ...สารภาพออกมา... ...สารภาพออกมา... ...สารภาพออกมา...”กรี๊ดดดดดดดดดดดสนมกุ้ยเฟยกรีดร้องออกมาราวกับคนเสียสติ ในหูนางเหมือนได้ยินเสียงเย็นยะเยือกกล่าวเช่นนั้นจริง ๆ ปากของนางจึงรีบเอ่ยขึ้นว่า“ขะ ข้าสารภาพแล้ว ข้าสารภาพแล้ว ข้าเป็นคนสั่งให้นางกำนัลนำพิษไปใส่ไว้ในอาหารขององค์หญิงปิงหลิน เพราะข้าอยากให้นางตาย เพื่อใส่ร้ายหวงกุ้ยเฟย ฮือ ๆ ข้าสารภาพแล้ว อย่าหลอกหลอนข้าอีกเลย”ปัง !ประตูห้องบรรทมถูกผลักออกเต็มแรง ผู้ที่ปรากฏกายขึ้นระหว่างช่องประตูนั้นสวมอาภรณ์สีทองลายมังกร ใบหน้าเคร่งขรึม ขบกรามแน่นจนขึ้นเป็นสัน“ฝะ ฝ่าบาท”เหยากุ้ยเฟยอุทานออกมาอย่างแผ่วเบา ถึงกับทรุดตัวลงบ

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่26 ไม่พอใจ

    “เอ๊ะ นางกำนัลของสนมกุ้ยเฟย ทำไมมาแย่งของที่ข้าให้แก่เด็ก ๆ เหล่านี้ด้วยเล่า”หัวหน้าแม่ครัวเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ“ทำไม ข้าจะยึดของต้องห้ามเหล่านี้ เจ้ามีปัญหาอะไรไหม ? ที่สำคัญเมื่อครู่ข้าได้ยินเจ้าสนทนากันกล่าวถึงองค์หญิงปิงหลินในทางเสียหาย หากข้านำไปทูลพระสนมกุ้ยเฟยเรื่องต้องถึงหูฝ่าบาทแน่ ๆ ต่อให้พวกเจ้ามีสิบหัวก็ไม่พอให้ตัด !” นางกำนัลของสนมกุ้ยเฟยข่มขู่ นางกำนัลเล็ก ๆ เหล่านั้นจึงได้แต่เงียบเสียง ส่วนหัวหน้าแม่ครัวก็ได้แต่กัดฟันข่มอารมณ์ เพราะตำแหน่งของนางไม่มีเจ้านายคุ้มหัวเหมือนตำแหน่งของนางกำนัลข้างกายสนม“ในเมื่อไม่มีผู้ใดกล่าวอันใด ก็แสดงว่ายอมรับ ของนี่ข้าจะเอาไปทำลายเอง พวกเจ้าไปทำงานได้แล้ว”นางสั่งเสียงเขียวเมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว นางกำนัลผู้นั้นจึงเร่งฝีเท้ากลับไปยังตำหนักกุ้ยเฟย“พระสนมกุ้ยเฟยเพคะ”นางกำนัลคนสนิทยอบตัวลง พลางส่งสายตาให้นายตนเองคล้ายกับมีเรื่องสำคัญกลับมารายงาน เมื่อเหยากุ้ยเฟยเห็นท่าทีเช่นนั้นจึงเอ่ยกับข้ารับใช้ที่อยู่ในตำหนักว่า“พวกเจ้าออกไปก่อน”ทันทีที่ข้ารับใช้คนสุดท้ายก้าวพ้นประตูออกไป นางกำนัลคนสนิทก็รีบไปปิดประตูลงแล้วกลับมารายงานต่อส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status