: ธารน้ำ
ตึก ตึก ตึก เสียงส้นเท้าหนักตามฉันลงจากตึกมาติดๆ ฉันเดาได้ว่าคงจะเป็นหมอกนั่นแหละเพราะทั้งตึกมันเหลือแค่ฉันกับเขาในตอนนี้ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ทั้งที่งานตัวเองเสร็จยังนั่งเฝ้าจนรอฉันทำงานเสร็จ ตอนแรกส้มกับหมวยก็อาสาอยู่เป็นเพื่อนทว่าเพียงแค่หมอกไล่คำเดียวทั้งคู่ก็พากันเก็บของกลับอย่างรวดเร็ว ตาบ้านี่คงมีอิทธิพลต่อเพื่อนจริงๆ กึก! เท้าฉันหยุดชะงักไปเมื่อมองเห็นร่างสวยของมี่ยืนกอดอกมองมาทางเราอย่างหาเรื่อง เธอหัวเราะราวกับไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น เพียงเท่านี้ฉันก็เข้าใจได้ทุกอย่าง... หมอกเขาไม่ได้รอฉันเขาแค่ต้องการทำให้แฟนที่มารอเขาเข้าใจผิด ...มากเกินไปแล้ว... ฉันหันไปมองจิกคนด้านหลังอย่างไม่พอใจและหันยิ้มให้มี่นิดหน่อย ก่อนจะเดินหลบออกมาเพื่อเอาตัวรอด แต่ยังไม่ทันจะเดินได้ไกลผมของฉันก็ถูกกระชากจากด้านหลังอย่างแรงจนฉันต้องหยุดเดิน เมื่อฉันหันไปมองก็พบว่าเป็นฝีมือของมี่นั้นเอง "ทำแบบนี้ทำไม"ฉันถามเธออย่างไม่เข้าใจ คนที่เธอควรทำร้ายต้องเป็นแฟนเธอสิ "เธอเพิ่งย้ายมาก็มาแย่งแฟนคนอื่นเลย ร้ายไม่เบา"มี่เชิดหน้าทำเอาฉันถึงกับหัวเราะออกมา และเมื่อเห็นเธอไม่ปล่อยผมฉันเสียทีฉันจึงฟาดลงไปที่ท้องแขนเล็กนั้นจนเธอสะดุ้งปล่อยผมฉันให้เป็นอิสระ "นี่...เธอตัดสินอะไรง่ายไปไหมมี่ หน้าเธอก็สวยนะแต่ทำไมคิดได้แค่นี้? ฉันเพิ่งมาได้สองสามวันผู้ชายที่ไหนจะเปลี่ยนใจง่ายขนาดนั้นเว้นแต่เขาคิดจะเลิกกับเธออยู่แล้ว และฉันดันซวยถูกใช้เป็นเครื่องมือ!" ฉันพูดเสียงเรียบพลางมองไปยังตัวต้นเหตุที่ยังคงยืนลอยหน้าลอยตามองเหตุการณ์ทั้งหมดโดยไม่คิดจะทำอะไร ฉันเกลียดชะมัดผู้ชายแบบนี้ "เธอด่าฉันเหรอ?" "ด่าเธอน่ะสิ บอกไว้ก่อนนะว่าอย่ามายุ่งกับฉันเพราะคนที่ทำให้ความรักเธอเป็นแบบนี้คือเขา"ฉันชี้ไปที่หมอกก่อนจะพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้โมโหไปมากกว่านี้ "ทุกอย่างมันเพราะเธอ เพี้ยะ!" ดูเหมือนมี่จะไร้เหตุผลกว่าที่ฉันคิดไปมาก เธอไม่เพียงแต่จะไม่ใช่สมองขบคิด ยังใช้กำลังในการแก้ปัญญาโดยการตบเข้าที่หน้าฉันอย่างแรง แต่ถ้าคิดว่าฉันจะยอมคงคิดผิด! ผลัก! ฉันตอบกลับด้วยการผลักอกเธอแรงจนเธอเซล้มลงกับพื้นก่อนที่ฉันจะพ่นน้ำลายที่ตอนนี้ปนไปด้วยความเค็มคาวของเลือดลงบนพื้นเฉียงตัวของมี่ไป "เรื่องปัญญาอ่อน" ฉันทิ้งท้ายก่อนจะหันไปสบตาเข้ากับหมอกที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาฉัน แวบหนึ่งฉันเห็นว่าเขาดูตกใจและเหมือนจะเป็นห่วง แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะเขาตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้อยู่แล้วละ และเมื่อเห็นว่าเขาเข้าใกล้มาเรื่อยๆ ฉันก็ตัดสินใจจะวิ่งหนีออกมาไม่ใช่เพื่อหนีเขาแต่ฉันไม่อยากให้ตัวเองต้องไปพัวพันมากกว่านี้ เมื่อวิ่งออกมาไกลจนถึงสวนกล้วยไม้ของอีกตึกฉันก็ทรุดตัวลงนั่งบนพื้นก่อนจะปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างไม่ต้องอายใคร ที่ฉันร้องไห้มันไม่ใช่เพราะเจ็บที่ถูกตบ แต่มันเป็นเพราะฉันมีเรื่องอีกแล้ว ฉันเข้าไปยุ่งเรื่องความรักของคนอื่นอีกแล้ว... คิดถึงจุดนี้ก็อดนึกถึงเรื่องที่ทำให้ฉันต้องย้ายมหาวิทยาลัยไม่ได้ ครั้งนั้น...สาเหตุมันเกิดมาจาก'ธน'เขาเป็นเดือนคณะที่ชอบมาแกล้งฉันบ่อยจนน่ารำคาญแต่ที่มากไปกว่านั้นแฟนของเขาเข้าใจผิดว่าฉันเป็นชู้จนตามมาตบกลางห้องเรียน และทุกคนก็ตราหน้าฉันไปแบบผิดๆ ไม่มีใครคบฉันเป็นเพื่อน ทุกคนรุมแกล้งฉันด้วยความสนุกและสะใจตอนนั้นฉันโดดเดี่ยวมากจนแทบไม่อยากไปเรียน โชคดีที่พี่ธารใสไม่รู้เรื่องนี้และไม่มีใครทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่พี่ธารใสจึงเข้าใจว่าที่ฉันยอมย้ายเป็นเพราะถูกแกล้ง ไม่คิดเลยว่าพอมาเรียนที่ใหม่มันก็จะเกิดเรื่องแบบนี้อีกทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้เป็นคนเดินเข้าไปในความสัมพันธ์ของใครสักครั้งเลยแท้ๆ โถ่เอ้ย! ฉันได้แต่ตีอกชกต่อยตัวเองซ้ำๆ อย่างไม่เข้าใจโชคชะตา แต่ในระหว่างที่กำลังร้องไห้จนตามัวแขนของฉันก็ถูกกระชากด้วยมือหนาของคนคนหนึ่งจนร่างทั้งร่างปลิวไปชนกับอกนั้น เมื่อเช็ดน้ำตาแล้วเงยหน้ามองใบหน้านั้นชัดๆ ก็พบว่าเป็นหมอกนั้นเอง เขาก้มมองฉันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแดงทั้งสองแก้ม ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงถูกตบมาเหมือนกัน "ทำบ้าอะไร"เขาถามเสียงเข้มพร้อมขมวดคิ้วแน่นจนเป็นปม "..."ฉันไม่พูดแล้วพยายามแกะมือนั้นออกโดยทั้งใช้เล็บทั้งจิกทั้งข่วนจนเลือดสีแดงเริ่มซึมออกมาจากผิวของเขา แต่ทว่าเขาก็ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ยอมปล่อยจนฉันต้องถลึงตาใส่ "อย่าปัญญาอ่อนอีกคนได้ไหม"คำพูดของเขาทำฉันนิ่งไปเลย ใครกันแน่ที่ปัญญาอ่อนมันก็เขาไม่ใช่หรือไง "ต้องการอะไรอีก บอกว่าอย่ามายุ่งกับฉัน" "ร้องไห้เพราะเจ็บหรือเพราะโกรธ" "ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ โอ๊ย!"เขาเลือกที่บังคับฉันด้วยการบีบที่แขนแรงขึ้น"มันเจ็บนะ" "ก็แค่พูดว่าโกรธแค่นั้นก็จบ...กลับเถอะ" เขาพูดเสียงเรียบแล้วดึงแขนฉันให้เดินตามออกมาที่รถคันหรู ฉันพยายามจะดิ้นให้หลุดแต่กลับถูกเขาเอาแขนแกร่งนั้นกอดเข้าที่เอวแล้วอุ้มฉันพาดบ่าราวกับว่ายกหมอนเบาๆ และไม่ว่าฉันจะดิ้นแรงขนาดไหนตัวเขาก็ไม่มีท่าทีจะวางฉันลงเลย ปึก ร่างฉันถูกเหวี่ยงเข้าไปในรถก่อนที่เขาจะรวมมือทั้งสองข้างของฉันเข้าหากัน ปลดเข็มขัดของตัวเองออกแล้วใช้มันมัดเข้าที่ข้อมือของฉันแน่จนบาดเนื้อ ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยไม่แสดงถึงความรู้สึกใดๆ ถึงแม้จะถูกฉันด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายมากขนาดไหน ผิดกันฉันที่ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างเต็มที่ ถึงเขาไม่ฟังมันฉันก็จะด่าจนเข้าหูเอง! ...จบธารน้ำ... ร่างของธารน้ำถูกหมอกช้อนตัวอุ้มเข้ามาในห้องของตัวเองก่อนที่เขาจะวางเธอลงบนเตียงแรงๆ เพราะเริ่มรู้สึกรำคาญเสียงโวยวายของหญิงสาวเต็มที เขาลุกขึ้นไปหยิบกล่องยาในลิ้นชักหัวเตียงก่อนจะนั่งลงข้างธารน้ำที่กำลังพยายามคลานหนีจนกระโปรงนักศึกษาถลกขึ้น "กำลังอ่อยหรือไง" "อ่อยบ้านนายสิ" ธารน้ำเมื่อเห็นสายตาที่หมอกมองมาที่ต้นขาก็รีบเด้งตัวลุกแล้วใช้สองมือดึงกระโปรงตัวเองลงอย่างทุลักทุเล จนหมอกที่เห็นต้องถอนหายใจ เขาลุกขึ้นมากดตัวธารน้ำให้นั่งลงบนเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มสีเทามาปกปิดส่วนล่อแหลมไว้ และเมื่อธารน้ำพยายามขยับตัวหนีอีกครั้งมือหนาของหมอกก็คว้าเข้าที่ท้ายทอยของเธอแล้วดึงเข้าหาจนต้องตกใจ มือของเขาแค่ข้างเดียวก็กำคอเธอได้อยู่หมัดเลย ทั้งสองสบสายตากันเงียบๆ ก่อนที่ธารน้ำจะเป็นฝ่ายยอมแพ้หลบสายตาคมนั่นก่อน หมอกได้ทีจึงยื่นมือไปลูบที่รอยแดงบนใบหน้าของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา ดูเหมือนเจ้าตัวเองจะไม่รู้ว่าได้รับบาดเจ็บจากเล็บยาวๆ ของมี่เข้าให้ เขาจึงหันไปบีบยาลงที่ปลายนิ้วแล้วป้ายลงที่แก้มเนียนนุ่มนั้นเบามือ ภายในใจก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่ลากเธอเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ ตอนนั้นเขาคิดเพียงว่าจะต้องทำให้มี่รู้สึกแย่ให้ได้ต้องเจ็บไม่น้อยไปกว่าเขา แต่เขาลืมคิดไปว่าธารน้ำไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเธอคงรู้สึกเจ็บไม่น้อยเพราะเมื่อครู่เขาเองก็ถูกมี่ตบมาเหมือนกันเธอแรงเยอะพอตัวเลยละ "ทำแบบนี้ทำไม"ธารน้ำเอ่ยเสียงสั่นเรียกสติที่เลื่อนลอยของชายหนุ่มให้หันมาสนใจ "คิดว่าเธอมีประโยชน์" "ใช้ประโยชน์พอแล้วละมั้ง"เธอยิ้มประชดดวงตาใสนั้นเริ่มมีน้ำใสปริ่มออกมา "ขอบคุณที่ช่วยและขอโทษด้วย" "อืม" คำตอบสั้นของธารน้ำทำให้หมอกรู้สึกหวิวในใจ...เขาคิดว่าเธอจะด่าเขากลับแรงๆ หรือไม่ก็ทำร้ายเขาแบบที่เวลาผู้หญิงโกรธชอบทำกัน แต่ธารน้ำกับนิ่งสงบแถมตอนนี้สายตาเธอก็ไม่มีความรู้สึก มันว่างเปล่าจนเขาตกใจ... เมื่อเขาเห็นเธอไม่พูดอะไรและไม่มีท่าทีต่อต้านจึงค่อยๆ แก้มัดให้เธออย่างเบามือก่อนจะต้องตกใจกับรอยแดงจากการถูกเข็มขัดขูด เขาไม่คิดว่าตัวเองจะมือหนักถึงขนาดออกแรงรัดจนแขนของหญิงสาวเป็นห้อเลือด "ขะ-" "ถ้าจะพูดว่าขอโทษช่วยเปลี่ยนเป็นต่างคนต่างอยู่แทนแล้วกัน" เขายังไม่ทันพูดจบธารน้ำก็พูดขัด เธอลุกขึ้นยืนแล้วปัดเนื้อตัวราวกับว่าเพิ่งสัมผัสสิ่งสกปรก ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองหมอกที่ยังคงมองตามหลังเธอจนสุดสายตา ร่างของธารน้ำชะงักไปเมื่อข้อมือของเธอถูกคว้าโดยหมอกอีกครั้ง เธอหันไปมองเขานิ่งเพื่อรอฟังสิ่งที่เขาอยากจะพูดแต่เขาก็มีท่าทีอึกอักอาจจะเพราะตกใจรอยที่ข้อมือเธอ "ถ้าจะพูดว่าขอโทษ ช่วยทำตามที่ฉันขอ...อยู่ให้ห่างเพราะแม้แต่คำว่าเพื่อนฉันก็จะไม่ให้นาย" ธารน้ำกลั้นใจสะบัดแขนแรงๆ เพื่อหลุดจากการเกาะกุมและมันก็สำเร็จถึงแม้จะเจ็บข้อมือมากกว่าเดิมก็ตาม เธอเดินออกจากห้องของเขาตรงกลับไปห้องตัวเองด้วยใจที่เจ็บปวด ตอนนี้เธออยากจะย้ายไปให้ไกลจากเรื่องที่เจอ แต่ถ้าทำแบบนั้นมันก็เท่ากับเธอหนีปัญหาอีกครั้งทั้งที่เหลือเวลาไม่นานเธอก็จะเรียนจบแล้ว ...ทำไมต้องเกิดกับฉัน... ธารน้ำล้มตัวนอนลงบนเตียงของตัวเองสายตาก็มองที่รอยช้ำที่ข้อมืออย่างปวดใจ ผู้ชายคนนั้นมันเกินความว่ามนุษย์จริงๆ เขาทั้งหลอกให้เธอเดินเข้ามาเป็นหมากในเกมทั้งทำร้ายเธอ สาบานเลยว่าต่อจากนี้เธอจะอยู่ให้ห่างจากเขา:วันออกบูธธารน้ำแต่งตัวเสร็จก็ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัด เธอมองสำรวจตัวเองผ่านกระจกเงาเพื่อตรวจเช็กความเรียบร้อย วันนี้ธารน้ำเลือกใส่ชุดเอื้อมยีนสีซีดกับเสื้อสีขาวเพื่อให้สะดวกในการลุกนั่งหรือขายของ ส่วนรองเท้าหญิงสาวยังคงลังเลใจระหว่างรองเท้าผ้าใบสีขาวแบบเชือกกับรองเท้าผ้าใบสีขาวแบบสวม"สวมแล้วกัน"หลังจากเลือกได้ธารน้ำหันไปหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองแล้วเดินออกมานอกห้องเพื่อจะเดินทางไปที่ถนนคนเดิน แต่แล้วเธอก็ต้องถอนหายใจทิ้งเมื่อเปิดประตูมาเห็นว่าหมอกยืนรอเธออยู่หน้าประตูอีกแล้ว ครั้งนี้ธารน้ำทำเสมอว่าไม่เห็นเขาแล้วรีบเดินหนีตรงไปกดลิฟต์ทันที โดยที่หมอกก็ยังมองแผ่นหลังเล็กนั้นด้วยความเหนื่อยใจ เขาไม่คิดว่าธารน้ำจะเมินเขาขนาดนี้ด้วยซ้ำ"หือ?"ธารน้ำแปลกใจเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกพบว่ามีชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านใน เขาคือคนที่อยู่บนรถแดงวันนั้น ซึ่งเป็นคนที่หมอกไม่ชอบและบอกให้เธออยู่ให้ห่าง ตอนนี้ชายคนนั้นกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอในคอนโดเดียวกัน"เข้ามาหรือเปล่า"ชายคนนั้นถามเรียกสติด้วยน้ำเสียงอบอุ่น เขาแอบขำเล็กน้อยกับสีหน้าใจของธารน้ำเมื่อครู่"เข้าค่ะ เข้า"ธารน้ำเดินเข
รถแล่นเขาจอดที่จอดรถของคอนโดเมื่อหมอกมองผ่านกระจกไปยังด้านหลังก็พบว่าหญิงสาวหลับคอพับไปแล้วด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์เสียแล้ว หมอกจึงลงจากรถอ้อมมาเขย่าแขนธารน้ำเบาๆ หวังเรียกสติ แต่ไม่ว่าจะเพิ่มแรงเขย่ามากขึ้นเท่าไหร่คนตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าจะตื่น"ฉันจะอุ้มขึ้นไปนะ"หมอกกระซิบบอกธารน้ำเพื่อเป็นการขออนุญาตโปก! หัวของธารน้ำชนเข้ากับประตูเมื่อหมอกพยายามจะช้อนอุ้มเธอออกมาแต่ดันเป็นจังหวะเดียวกันกับธารน้ำที่ขยับตัว ทำเอาคนอุ้มถึงกับตกใจจนตาเบิกกว้าง แต่ก็อดขำกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่ได้"อือออ จะ เจ็บ"ธารน้ำทิ้งน้ำหนักตัวในอ้อมแขนก่อนจะเขย่าตัวเองไปมาทั้งที่ตายังไม่ลืมราวกับเด็ก"ขอโทษ"หมอกก้มลงกระซิบข้างใบหูของคนงอแงแผ่วเบา"เจ็บอีกแล้ว เป็นแผลหัวแตก"ธารน้ำงอแงทำท่าจะร้องไห้เสียอย่างนั้น"เว่อร์จริงๆ" หมอกเอ่ยพร้อมเป่าลมอุ่นจากริมฝีปากลงบริเวณที่ถูกกระแทกนั้นพอทำให้หญิงสาวเริ่มคล้ายปมคิ้วออกบางเมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดสงบแล้วเขาจึงพาเธอขึ้นมาส่งถึงห้อง ระหว่างทางธารน้ำก็เอาแต่นอนซบอกเขาแล้วละเมอว่าอุ่นไม่หยุด ทำเอาหมอกถึงกับเผลอหน้าแดงไปกับสัมผัสของเธอ...ขี้อ้อนเสียจริง...หมอกคิดในใจเธอช่างต่างก
หมอกสอดสายตามองหาโต๊ะของเพื่อนอย่างร้อนใจ ความรู้สึกอึดอัดมันทำให้เขาอารมณ์เสียมากกว่าเดิมหลายเท่าไม่คิดเลยว่าพอยิ่งดึกคนก็จะยิ่งเยอะขนาดนี้ นี่แค่รอเข้าร้านก็ปาไปหลายสิบนาทีพอเข้ามาได้ก็ต้องเบียดตัวกับผู้คนมากมายอีกหมอกต้องคอยหลบเหล้าเสือสาวที่พยายามลูบตามเนื้อตัวเขาจนเหนื่อยก่อนสายตาจะไปสะดุดเข้ากับร่างเล็กในเสื้อครอปครึ่งตัวที่กำลังเต้นเริงร่าอยู่ท่ามกลางกองเชียร์ของเพื่อนๆ และที่ทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจนักคงจะเป็นชายคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จักกำลังโอบประคองเธอจากด้านหลังโดยที่เพื่อนๆ ของเขาไม่มีใครห้ามเลยสักคนเดียว!นั้นทำให้หมอกรีบตรงเข้าไปดึงมือนั้นออกอย่างแรงจนเจ้าของมือหันมาจ้องเขาอย่างเอาเรื่อง แต่พอชายคนนั้นได้มองหน้าเขาดีๆ ชายคนนั้นก็รีบก้มหน้าแล้วเดินกลับออกไปโดยดี อาจจะเพราะหมอกขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายที่โหดคนหนึ่งในกลุ่มเด็กมหาวิทยาลัย การที่เขาแสดงความไม่พอใจคงเป็นคำตอบได้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังยุ่งผิดคน"หูยยย มาจริงว่ะ ไหนใครบอกมันไม่มาจ่ายเงินด้วยนะเว้ย"ทามเอ่ยพร้อมชี้หน้าเพื่อนๆ แต่ต้องชะงักไปเมื่อถูกเติ้ลตบ
"ปล่อยฉันได้แล้ว"ธารน้ำเตือนหมอกเมื่อทั้งคู่จับมือกันเดินมาใกล้ถึงห้องเรียน หมอกเมื่อดึงสติได้จึงปล่อยธารน้ำให้เป็นอิสระ เขาหันไปมองใบหน้าสวยนั้นราวกับอยากจะเอ่ยคำขอโทษที่เธอต้องมารับรู้ แต่เพียงแค่เขาเริ่มอ้าปากธารน้ำก็เลือกที่จะเดินหนีเขาไปทันที เขาเพียงแต่ต้องยอมรับการกระทำของตัวเองเพราะเรื่องนี้ยังไงเขาก็ผิดเต็มๆ เมื่อเดินเข้ามาในห้องธารน้ำก็ต้องชะงักไปเมื่อเพื่อนทุกคนมาถึงกันหมดแล้วทั้งที่มันยังเช้าอยู่ แถมทุกคนยังดูยุ่งเสียจนเธอไม่กล้าเอ่ยถาม ส้มที่เห็นธารน้ำดูสับสนก็เลยเดินเข้ามาอธิบาย"พรุ่งนี้มีงานถนนคนเดินวัวลาย* พวกเราจะไปออกบูธน่ะ ขายของหาเงินเข้าเอกอะไรแบบนั้น วันนี้เรามีเรียนแค่ช่วงเช้าก็เลยนัดกันมาเตรียมของ""ใช่แล้ว เพราะเรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญ"หมวยเสริมมือก็แพ็กจานรองแก้วไปด้วย"แล้วไม่มาทำตอนบ่ายละ บ่ายเราว่างนี่"ธารน้ำถามพร้อมเดินเข้าไปช่วยทุกคนแพ็กอีกแรง"วันนี้วันศุกร์ต้องกลับไปนอนเอาแรงอีกอย่างวันนี้เราจะไปเที่ยวกัน วันนี้เธอต้องไปด้วยนะ"เติ้ลบอกอย่างตื่นเต้น"ไปไหน?"ธารน้ำถามอย่างสงสัยเพราะเที่ยวที่เพื่อนว่านั้นมันตีความได้หลายแบบ"ไปท่าช้าง*ถือเป็นการต้อน
"โอย..."ธารน้ำส่งเสียงครางออกมาเบาๆ เมื่อลืมตัวเผลอหยิบนาฬิกามาใส่ด้วยความชิน เธอได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเอานาฬิกาเก็บลงกล่อง เธอไม่ได้ออกจากห้องมาหลายวันเพราะข้อมือมันช้ำมากจนกลัวว่าหากไปเรียนแบบนั้นจะถูกถามเอาได้ดูท่าวันนี้จะต้องใส่เสื้อแขนยาวไปเรียนเสียแล้วเพราะบริเวณข้อมือของเธอมันช้ำเลือดไปทั้งสองข้างโชคดีที่วันนี้อากาศค่อนข้างเย็นคงไม่มีใครสงสัย…ขอให้ต่อจากนี้มีชีวิตที่สงบ…ถึงหญิงสาวจะภาวนาเช่นนั้นแต่แล้วมันกลับไม่เหมือนที่เธอคิด ธารน้ำนิ่งไปเมื่อเปิดประตูออกมาพบว่าหมอกยืนพิงกำแพงรอเธออยู่พร้อมกับถุงครัวซองในมือ ใบหน้าของเขายังไร้ซึ่งอารมณ์เช่นเคย เขามองมาที่ข้อมือเธอเป็นอันดับแรกก่อนจะหลบสายตาแล้วยื่นถุงครัวซองมาให้ เธอหรี่ตามองเขาอย่างไม่ชอบใจนักแล้วเลือกจะเดินผ่านเสมือนกับว่าเขาไร้ตัวตน ตึก ตึก ตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้าหนักตามหญิงสาวมาติดทุกจังหวะการเดินจนถึงชั้นหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเดินแซงหน้าไปแล้วเปิดประตูรถคันหรูรอเชิญชวนให้หญิงสาวเข้าไปนั่ง ธารน้ำเองก็ได้แต่ขมวดคิ้วแน่นเธอจำได้ว่าพูดไว้ชัดเจนมากพอแล้วแต่ดูท่าเขาจะไม่เข้าใจ"ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก ขอแค่ไม่มายุ่งกันอีกจนเรี
: ธารน้ำตึก ตึก ตึกเสียงส้นเท้าหนักตามฉันลงจากตึกมาติดๆ ฉันเดาได้ว่าคงจะเป็นหมอกนั่นแหละเพราะทั้งตึกมันเหลือแค่ฉันกับเขาในตอนนี้ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ทั้งที่งานตัวเองเสร็จยังนั่งเฝ้าจนรอฉันทำงานเสร็จ ตอนแรกส้มกับหมวยก็อาสาอยู่เป็นเพื่อนทว่าเพียงแค่หมอกไล่คำเดียวทั้งคู่ก็พากันเก็บของกลับอย่างรวดเร็ว ตาบ้านี่คงมีอิทธิพลต่อเพื่อนจริงๆ กึก!เท้าฉันหยุดชะงักไปเมื่อมองเห็นร่างสวยของมี่ยืนกอดอกมองมาทางเราอย่างหาเรื่อง เธอหัวเราะราวกับไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นเพียงเท่านี้ฉันก็เข้าใจได้ทุกอย่าง... หมอกเขาไม่ได้รอฉันเขาแค่ต้องการทำให้แฟนที่มารอเขาเข้าใจผิด...มากเกินไปแล้ว...ฉันหันไปมองจิกคนด้านหลังอย่างไม่พอใจและหันยิ้มให้มี่นิดหน่อย ก่อนจะเดินหลบออกมาเพื่อเอาตัวรอดแต่ยังไม่ทันจะเดินได้ไกลผมของฉันก็ถูกกระชากจากด้านหลังอย่างแรงจนฉันต้องหยุดเดิน เมื่อฉันหันไปมองก็พบว่าเป็นฝีมือของมี่นั้นเอง "ทำแบบนี้ทำไม"ฉันถามเธออย่างไม่เข้าใจ คนที่เธอควรทำร้ายต้องเป็นแฟนเธอสิ"เธอเพิ่งย้ายมาก็มาแย่งแฟนคนอื่นเลย ร้ายไม่เบา"มี่เชิดหน้าทำเอาฉันถึงกับหัวเราะออกมา และเมื่อเห็นเธอ