/ รักโบราณ / นางกลับมาเพื่อร่ำรวย / บทที่ 4 ภาพสะท้อนในม่านน้ำตก

공유

บทที่ 4 ภาพสะท้อนในม่านน้ำตก

last update 최신 업데이트: 2025-08-20 21:34:37

ยามนี้ในบ้านสกุลฉินกำลังคึกคัก ด้วยเพราะท่านตาฉินกงจื่อทำหน้าที่เป็นหมอยาประจำหมู่บ้าน และวันนี้ก็มีแขกจากในหมู่บ้านเข้ามารับการรักษาโรคบางอย่าง

ภายในเรือนรักษาเก่าแก่ซึ่งอยู่ข้างห้องขายสมุนไพร บนเตียงไม้ไผ่ที่ทำไว้อย่างประณีต เด็กหนุ่มวัยสิบหกคนหนึ่งกำลังนอนเหงื่อโชกทั้งตัว ใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นแดงจัด ดวงตาฉ่ำแดงคล้ายมีไฟลุกจากภายใน ผื่นแดงกระจายตามลำคอและแผ่นอก

“ลิ้นเจ้าหนุ่มนี่แดงจนเงาเลือดสะท้อน ชีพจรก็เต้นผ่าวเร็ว ใต้ฝ่ามือมีไอร้อนพุ่งขึ้นไม่หยุด…” เสียงท่านตาซึ่งทุกคนต่างเรียกว่าหมอฉินเอ่ยแผ่วเบา ขณะวางมือลงบนข้อมือผู้ป่วยเพื่อจับชีพจร ฉินกงจื่อหลับตาลงชั่วครู่ ก่อนจะลืมขึ้นอย่างหนักแน่น “เป็นพิษร้อนแทรกจู่โจม ร้อนจากภายใน พิษนี้กำเริบจนถึงเลือด” กล่าวจบก็หันกลับมาพบฉินอี้หนิงกับเจ้าแมวโต๋วเปายืนอยู่ด้านหลังพอดี

“เสี่ยวหนิง เขียนใบสั่งยาแล้วก็เตรียมยาให้ตาที”

“เจ้าค่ะท่านตา” เด็กหญิงรับคำ นางลอบมองดูชายหญิงวัยกลางคนซึ่งน่าจะเป็นพ่อแม่ของชายหนุ่มคนนี้ แล้วก็สตรีอายุไล่เลี่ยกันอีกหนึ่งคนที่น่าจะเป็นภรรยาของเขา ก่อนจะรีบไปหากระดาษกับพู่กันมาจดเทียบยา

“ให้ใช้จินอิ๋นฮวาแปดเหรียญ เหลียนเฉียว [1] ห้าสลึง ผูกงอิง [2] หนึ่งกำมือใหญ่ เคี่ยวรวมกับน้ำพุเขียวจากลำธารเชิงเขา ให้ดื่มเช้าเย็น”

เด็กหญิงรีบจดตามคำสั่ง แล้วกระซิบถามเสียงเบา

“ท่านตา ท่านจะให้ใช้ตำรับสำเร็จหรือไม่เจ้าคะ?”

หมอหลี่พยักหน้าช้าๆ “ยิ่นเฉียวซ่าน [3] เป็นตำรับขับพิษชั้นเลิศในฤดูร้อน หากได้ยาทั้งสามรวมกัน ร่างจะขับพิษร้อนออกทางเหงื่อและปัสสาวะ ภายในสามวันไฟในอกจะมอด ผื่นจะหาย ฝีจะไม่ลุกลาม”

ว่าจบท่านตาก็ลุกขึ้นเดินไปเปิดหน้าต่าง ปล่อยให้ลมเย็นๆ จากภูเขาพัดโชยเข้ามาภายในห้องรักษาแห่งนี้

“พิษร้อน แม้ไร้รูปร่าง แต่มักแฝงมากับแสงแดดและอารมณ์หงุดหงิด เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้อาจทำงานกลางแสงแดดแรงๆ มากเกินไป จึงเปิดทางให้ธาตุไฟรุกเข้าได้ง่าย”

เด็กหนุ่มครางเสียงแผ่ว ดวงหน้าซีดเผือดจากพิษไข้ ท่านหมอเฒ่าฉินเดินกลับมาลูบเส้นผมของเขาเบาๆ ขณะที่ฉินอี้หนิงนำห่อสมุนไพรซึ่งจัดเตรียมตามคำสั่งมามอบให้บรรดาญาติทั้งสามคน

“พักเถิด เจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว เพราะข้าให้โอสถเทพจากดอกจินอิ๋นฮวาไว้ พรุ่งนี้เช้าจะรู้ว่าความร้อนแพ้ธาตุเย็นเสมอ”

“ขอบคุณท่านหมอจริงๆ เจ้าค่ะ” เป็นภรรยาของเด็กหนุ่มวัยสิบหกที่ก้มตัวลงขอบคุณท่านตาฉินเสียจนหน้าผากแนบพื้นไม้ “เพียงแต่ตอนนี้ครอบครัวของข้ายังไม่มีเงินมากพอ…”

หญิงวัยกลางคนผู้เป็นมารดาของเด็กหนุ่มควักถุงผ้าใบเก่าขนาดเล็กจากอกเสื้อ พลางค่อยๆ หยิบเหรียญเงินสามเหรียญวางลงบนถาดไม้บนมือของฉินอี้หนิง

“ข้าขอจ่ายแทนก่อน” หญิงวัยกลางคนเอ่ยอย่างเหนื่อยล้า เป็นเหตุให้ลูกสะใภ้หันไปมองนางด้วยดวงตาที่เคล้าน้ำตา

“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่”

“โอสถขับพิษแรง ถึงจะไม่ใช่ยาหายากจากแคว้นอื่น แต่ฤทธิ์ยาแหลมคมนัก” หมอฉินกล่าวเรียบๆ พลางกวาดตามองเหรียญที่มีรอยสึกหรอที่บริเวณข้างขอบ

หญิงชราโค้งคำนับเล็กน้อย “ท่านหมอฉิน…ข้าขอรับยาก่อนสองชุด พรุ่งนี้ข้าจะนำเงินอีกส่วนมาเพิ่มให้นะเจ้าคะ”

ท่านตาหมอฉินนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ “สำหรับข้าโอสถไม่ใช่ของแลกเปลี่ยน ไม่ต้องเร่งหาเงินจ่ายจนตนเองต้องรู้สึกเครียด จะจ่ายช้าจ่ายเร็วก็ได้ทั้งนั้น รอให้เจ้าหนุ่มคนนี้หายดีก่อนก็ยังได้ เพราะหากคนยังอยู่โอกาสหาเงินจ่ายทีหลังย่อมยังมี” กล่าวจบชายชราก็หันไปเรียกหลานสาวบุญธรรมเบาๆ “เสี่ยวหนิง ไปจัดยาเพิ่มให้แม่นางผู้นี้เถิด จัดสามชุด…แยกตามวันที่ตาสั่ง”

เด็กสาวพยักหน้าเบาๆ รีบหยิบห่อกระดาษสีน้ำตาล ห่อด้วยใบไม้แห้งหอมกรุ่น รัดด้วยเชือกปอเส้นเล็ก

“ยาสมุนไพรสามชุดตามคำสั่งจัดเสร็จแล้วเจ้าค่ะ ท่านน้าเจ้าคะ สมุนไพรตำรับยิ่นเฉียวซ่านนี้ ต้องต้มให้ผู้ป่วยดื่มเช้าดื่มเย็น ก่อนอาหารหนึ่งเค่อ เวลาต้มอย่าใช้ไฟแรงนัก ทำเพียงค่อยๆ เคี่ยวให้ตัวยาละลายจนน้ำกลายเป็นสีเหลืองทองก็พอ” เสียงหวานเอ่ยอย่างชัดเจนและเน้นหนัก

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” หญิงวัยไล่เลี่ยกันยื่นสองมือมารับไว้ น้ำเสียงของนางสั่นเครือเล็กน้อย “ขอบพระคุณท่านหมอ ขอบพระคุณจริงๆ เจ้าค่ะ…”

แล้วครอบครัวชายนาก็เดินทางกลับบ้านไปโดยมีผู้ป่วยนอนอยู่บนเกวียน ทว่าหลังจากพวกเขาไปก็เกิดเป็นบรรยากาศเงียบงัน ท่านตาฉินกงจื่อไม่ได้พูดอะไรต่อ ส่วนฉินอี้หนิงก็ทำเพียงรับเหรียญเงินมาใส่ลงไปในกล่องไม้ตรงมุมห้อง เสียงเหรียญในนั้นกระทบกันเบาๆ ทว่าดังชัดในบรรยากาศเงียบงัน

“ท่านตาไม่ให้เขานอนพักรักษาตัวอยู่ที่นี่ก่อนหรือเจ้าคะ?”

“ข้าใช้เวลาทั้งเช้าขับพิษไข้ ตอนนี้อาการเจ้าหนุ่มนั้นทรงตัวแล้วจึงให้กลับ ที่เห็นเป็นแบบนั้นก็เพราะการฝังเข็มต่างหาก”

ฉินอี้หนิงทำเสียงอ้อ

“วันนี้หนิงเอ๋อร์กับท่านยายเก็บของป่ามาเยอะแยะ ขอตัวไปทำอาหารก่อนนะเจ้าคะท่านตา”

“ต้องให้ตาไปช่วยหรือไม่?” คนชราถาม

“เจ้าค่ะ เพราะได้ไก่ฟ้าหลังเทามา ท่านยายเลยให้หนิงเอ๋อร์กับโต๋วเปามาเรียกท่านตาไปถอนขนแล้วก็เตรียมเนื้อไก่เจ้าค่ะ”

“ภายในเวลาแค่สามเดือน เสี่ยวหนิงของเราก็กลายร่างเป็นนายพรานเต็มตัวแล้วเหรอเนี่ย” ชายชราอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อเด็กหญิง พร้อมกับก้มลงอุ้มเจ้าแมวอ้วนขึ้นมาไว้ในอ้อมอก จนหลี่โต๋วเปาต้องส่งเสียงแง้วๆ ประท้วง

“ก็ท่านตาเคยพูดว่า คนเราสามารถเป็นได้ทุกอย่าง แล้วแต่การฝึกฝนนี่เจ้าคะ”

“เฮ้อ~ เรื่องนั้นคำว่าพรสวรรค์ก็มีผลอยู่สามส่วนเชียวล่ะ ใช่มั้ยโต๋วเปา”

เมี้ยวววว~

ชายหนุ่มพยายามส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปที่ฉินอี้หนิง ทว่ากว่ามันจะได้ผล ตาแก่ฉินผู้นี้ก็จับหลี่โต๋วเปาโยนลงกองใบไม้เปียกๆ เสียแล้ว แน่นอนว่าเขาโดนฉินอี้หนิงดุไปยกใหญ่ ก่อนที่นางจะเป็นผู้พาหลี่โต๋วเปาไปเช็ดทำความสะอาดขนระหว่างการล้างเห็ดช่วยท่านยายฉิน

“เจ้าแมวตัวนี้มันแปลกนัก ไม่เคยเห็นมันเลียทำความสะอาดขนเลยสักครั้ง” ท่านยายเอ่ย น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงความเอ็นดูไว้อย่างชัดเจน

ไม่เพียงแต่ฉินอี้หนิงที่เห็นด้วยกับคำพูดของท่านยาย เพราะบรรดาผู้ชมสตรีมทั้ง 30k ก็เห็นด้วยเช่นกัน เจ้าแมวขาวตาสีฟ้าตัวนี้มันเป็นแมวแสนสะอาดที่มีนิสัยแปลกจริงๆ

[ฟรานซิสสส : เริ่มไม่เนียน]

[เศรษฐีโดโด้ : ถ้าสตรีมเมอร์เหมียวเลียขน ผมยอมโดเนทให้คุณเลย 1,000 ดวงดาว]

หลี่โต๋วเปาคิ้วกระตุกหงึกๆ เพราะดูเหมือนขนบนตัวเขามันจะไปหนักศีรษะคนอื่นเสียจริงๆ แต่โดเนทมาก็ดี ธุรกิจสกุลหลี่จะได้รุ่งเรืองกว่าเดิม

แผลบบบบ

เพราะแค่เลียขนมันไม่น่าอันตรายอะไร หลี่โต๋วเปาจึงทำแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

[เศรษฐีโดโด้ : หลงกลแล้ว เอาไปตัดคลิปล้อเลียนดีกว่า อิอิ]

….

[บาย ไอ้สตรีมเมอร์แมวโง่]

ชิบแล้วไง

เพราะชายหนุ่มดันเจอเกรียนคีย์บอร์ดเข้าเสียได้ แต่มีหรือเขาจะยอมปล่อยมันให้ลอยนวล และแล้วคำสั่งตามตัว บวกกับคำสั่งทำให้ฝ่ายนั้นอับอายที่สุด ก็ถูกส่งออกไป…

ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าคนที่กล้าแหยมกับอดีตจอมพลหลี่ต้องเตรียมตับไตไส้พุงไว้เจอกับอะไรบ้าง

เพียงไม่กี่นาทีต่อมา แจ้งเตือนโดเนทจากไอดีชื่อเศรษฐีโดโด้ก็เข้ามาถึง 2,000 ดวงดาว ครั้งแรกคือการทำตามที่เจ้าของไอดีได้พูดเกริ่นไว้ ส่วนอีก 1,000 ดวงดาวที่แถมมา คือโดเนทที่มาพร้อมคำขอโทษยาวเหยียดราวกับเรียงความหนึ่งฉบับ

 

 

[1] ผลแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Forsythia suspensa (Thunb.) Vahl วงศ์ Oleaceae.

[2] รากแดนดิไลออนจีน

[3] ตำรับยาโบราณจีน มีมาตั้งแต่ยุคราชวงศ์ชิงตอนต้น มีชื่อเสียงมากในกลุ่มยาสมุนไพรจีนสำหรับแก้ไข้หวัดร้อน และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจระยะต้น

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 21 ทวงคืนภรรยาที่ถูกพรากไป (จบบริบูรณ์)

    กลับมาที่สถานการณ์ในปัจจุบัน…สิ้นเสียงเหี้ยมกับประโยคไร้มารยาทนั้น เมื่อหลี่หยางหนิงอันหันไปสบสายตากับอีกฝ่าย สิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นไม่ใช่เพียงใบหน้าที่ดูคล้ายเขาราวกับแกะ แต่เป็นโทสะและความเหี้ยมเกรียมในแบบที่เขารู้จักดี“เจ้ากล้ามาก ที่มาแตะต้องภรรยา และแตะต้องลูกของข้า” เสียงของหลี่โต๋วเปานิ่งงัน แต่ทุ้มต่ำจนเหมือนจะสามารถสะเทือนผนังหินของตำหนักได้อย่างง่ายดายหลี่หยางหนิงอันเลิกคิ้วเล็กน้อย “ข้ากำลังจะสั่งให้หมอหลวงเอาเด็กในท้องนางออกพอดี แต่เพราะต้องพักฟื้นร่างกายนาน เลยคิดว่าจะพาขึ้นเตียงทั้งที่ยังท้อง คงให้อารมณ์แปลกใหม่ไม่น้อย” ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันจงใจยั่วโมโหฝ่ายนั้น “เช่นนั้นเจ้าคงคิดจะฆ่าข้าสินะ?”ชายหนุ่มในชุดซอมซ่อสีเทาไม่ตอบ มือข้างหนึ่งยกขึ้นช้าๆ ดวงตาของเขาเรืองแสงวาบสีฟ้าอความารีนแผ่วเบา คล้ายกระจกจักรวาลที่สามารถสะท้อนแรงโน้มถ่วงให้ย้อนคืนได้ฉับพลันที่อากาศรอบตัวเริ่มสั่นสะเทือน แรงกดดันไร้รูปประหนึ่งกำปั้นพลังจิตกระแทกเข้าที่กลางอกของจักรพรรดิหนุ่มหลี่หยางหนิงอัน จนเจ้าตัวต้องยกมือขึ้นป้องกันอันตรายที่มองไม่เห็น“อย่าคิดว่าต่อจากนี้เจ้ายังจะสามารถอยู่หายใจได้อีก…”

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 20 ไม่ให้อดีตซ้ำรอยเดิม

    หนึ่งเดือนกับอีกสามสัปดาห์ที่หลี่โต๋วเปายังไม่กลับมา ฉินอี้หนิงนั่งจิบชากุหลาบอยู่ที่ชายเรือนสกุลฉิน ลมยามบ่ายพัดกรูจากทิศตะวันออก พาเอาใบไผ่ที่ลู่ลมอยู่บนเนินเตี้ยหล่นเกลื่อนทั่วลานทว่าเสียงกีบม้านับสิบและฝีเท้าเกราะเหล็กที่ดังกึกก้องยิ่งกว่าเสียงพายุ กลับทำให้หมู่บ้านฮุ่ยฟางที่เคยเงียบงัน เกิดความสนันหวั่นไหวราวกับมีเงามรณะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมทั่วผืนดินรถม้าขนาดใหญ่สลักลายมังกรดำขอบทอง เคลื่อนมาหยุดลงบริเวณหน้าบ้านสกุลฉิน ก่อนที่บรรดาทหารสวมเกราะดำประทับตราจักรพรรดิหลี่จะวิ่งเข้ามารายล้อมรอบบ้านเอาไว้ ตามมาด้วยเสียงแม่ทัพหนุ่มผู้หนึ่งตวาดดังแทรกเสียงใบไม้ปลิว“เรามารับตัวหรันฝูหรง สตรีอายุสิบเก้าหนาวที่ซ่อนตัวในหมู่บ้านแห่งนี้!”ท่านตาฉินที่กำลังสานกระด้งไม้ไผ่รีบก้าวออกมาจากเรือน ร่างชราภาพฝืนฝ่าแนวทหารเข้ามาขวาง“ขออภัยด้วย ที่นี่ไม่มีใครชื่อเช่นนั้นหรอกขอรับ ข้าไม่รู้จัก! ส่วนสตรีที่อายุสิบเก้า ที่นี่ก็มีเพียงบ้านสกุลหลาน สกุลซ่ง สกุลกั๋ว และหลานสาวของข้า…นางชื่อฉินอี้หนิง”แม่ทัพผู้นั้นกระตุกยิ้มมุมปาก พร้อมทั้งจ้องมองฉินอี้หนิงอย่างเย้ยหยัน“เช่นนั้นข้าก็มาถูกแล้วล่ะ เพราะนามเ

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 19 ความวุ่นวายในยุคจักรวรรดิอวกาศ

    ยุคจักรวรรดิอวกาศ ภายในสถานีวิจัยหลักของตระกูลหลี่ ชั้นบัญชาการพลังงานควอนตัม ความวุ่นวายกำลังเกิดขึ้นเมื่อคนที่หายตัวไปกลับเข้ามาสั่งงานจนกองพะเนิน“โธ่เอ๋ย…ครั้งแรกผมก็นึกว่าท่านประธานหลี่ของเราหลุดเข้าไปอยู่ในปฏิกรณ์ชีวภาพจนแยกโมเลกุลไม่ออกเสียแล้ว ที่แท้…ก็แค่ติดภรรยาเท่านั้น”ร่างสูงของหลี่โต๋วเปายืนพิงกรอบประตู มือซุกกระเป๋าเสื้อโค้ตสีเทาเรียบทว่าหรูหรา ไม่มีคำเถียงใด มีเพียงรอยยิ้มมุมปากที่เจือแววอ่อนโยนบางอย่าง…คล้ายไม่คิดปฏิเสธความจริงข้อนั้น“ก็แค่ใช้เวลาให้คุ้มกับชีวิตบ้าง คุณต้องลองไปปลูกฟักทองดูสักครั้งสิ แล้วจะเข้าใจว่าทุกเช้าในทุ่งหมอกนั้นมีค่ามากกว่างานวิจัยที่เขียนมาพันปีเสียอีก”หลี่เฮ้าถงกลอกตาเล็กน้อยขณะมองหลายชายเพียงคนเดียว ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆ“อา…ฟักทองยังไม่เท่าไร แต่ถ้าประธานหลี่ของเราหายหน้าไปอีกสามเดือน ผมอาจจะกลับเข้าไปลักพาตัวภรรยาของท่านมาขังไว้ที่นี่แทน แล้วให้ท่านประธานเข้าออกห้องทดลองตลอดยี่สิบชั่วโมงเสียเลย”“แบบนั้นก็เป็นความคิดที่ดีนะ” หลี่โต๋วเปาพึมพำ พร้อมกับหยิบซาลาเปาไส้เห็ดหอมออกมาจากถุงเล็กๆ ในมือ ก่อนจะยื่นให้ฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่รีบร้อน “ข

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 18 ข้อเสนอปลอมๆ จากขุนนางสวี่

    หลังเกี่ยวและตากข้าวจนเสร็จสรรพ ครอบครัวสกุลฉินก็เว้นช่วงเวลาสำหรับหยุดพักผ่อน ด้วยเพราะร่างกายที่ชราภาพของท่านตาท่านยาย พอทำงานไร่นานานเข้าจึงปวดเมื่อยมากกว่าปกติส่วนหลี่โต๋วเปาและฉินอี้หนิงก็ใช้เวลาส่วนมากอยู่กับการดูแลสวนผัก ขึ้นเขาไปล่าสัตว์มาขาย และใช้เวลาร่วมกันในฐานะสามีภรรยาทว่าวันนี้ แขกผู้มาเยือนกลับเป็นอดีตขุนนางผู้ต้องสูญเสียบ้านให้หลี่โต๋วเปาอย่างสวี่อี้เจิน“คารวะผู้อาวุโส”เสียงทุ้มของหลี่โต๋วเปาเอ่ยช้าๆ ดวงตาเรียวคมสังเกตท่วงท่าการเดินของฝ่ายตรงข้าม รู้สึกคุ้นเคยนัก ทว่านี่ไม่ใช่ท่าทีของผู้อาวุโสสวี่อี้เจินที่เขาเคยประลองหมากล้อมด้วยอย่างแน่นอน“เจ้าน่ะใช้ชีวิตได้ดี กลายเป็นผู้เยาว์ที่สร้างครอบครัวอบอุ่นจริงเชียว” ชายชรามองสำรวจทั่วทุกมุมบ้านราวกับไม่เคยเห็น ก่อนที่สายตาจะพลันมาหยุดลงที่ร่างบอบบางของฉินอี้หนิงซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นสาวงามเต็มตัวไปเสียแล้ว “โอ้~ นี่คือฉินอี้หนิงคนนั้นรึ…” ชายชรายิ้มอย่างสดใสพลางมองสำรวจใบหน้างามอย่างชื่นชม“เชิญผู้อาวุโสสวี่นั่งพักก่อนเจ้าค่ะ ข้าจะไปเอาชาอวิ๋นอู้ [1] ที่ได้จากภูเขาหลูซานมาให้” เสียงหวานกล่าวอย่างอ่อนโยน ขณะเดินหายเข้าไป

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 17 ฤดูเกี่ยวข้าว

    วันเวลาผ่านเลยไปจากวันกลายเป็นหนึ่งเดือน ยามนี้สายลมปลายเดือนเปลี่ยนผิวทุ่งนาหน้าบ้านให้กลายเป็นสีทองอร่าม ลำต้นข้าวโน้มลงตามแรงน้ำหนักของรวงเมล็ดที่สุกงอม ท่ามกลางแสงอาทิตย์อุ่นอ่อนในยามเช้า เสียงเคียวเกี่ยวข้าวเสียดสีเบาๆ สะท้อนชัดอยู่กลางนาหลี่โต๋วเปาค้อมตัวใช้เคียวไม้ด้ามสั้นในมือเกี่ยวรวงข้าวอย่างระมัดระวัง ท่วงท่าของเขาแม้ยังไม่คล่องแคล้วนัก แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ มือทั้งสองที่แกร่งอยู่แล้วบัดนี้ยิ่งแกร่งขึ้นซึ่งเป็นผลจากการจับจอบ ขุดหลุม และหาบน้ำทุกวัน จนรอยด้านปรากฏชัดที่ฝ่ามือ“เจ้าหนุ่มจากเมืองหลวง เจ้าน่ะก้าวหน้ากว่าที่ข้าเคยคิดไว้มากจริงๆ”เสียงของท่านตาดังมาจากอีกฟากของแปลงข้าว ใต้หมวกฟางเก่าคร่ำ ดวงตาของชายชรายังสะท้อนความชื่นชมไม่เสื่อมคลายหลี่โต๋วเปาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก แล้วหัวเราะเบาๆ ชายหนุ่มย้อนนึกถึงตอนที่เขาอยู่ในตำแหน่งจอมพล ถ้าตอนนี้อยู่ในยุคจักรวรรดิ เขาคงสามารถสั่งคนให้ขุดหลุมปลูกข้าวได้เป็นพันหลุม แต่เพิ่งรู้ว่าสิ่งที่ยากที่สุด คือการเกี่ยวข้าวแค่เพียงมัดเดียว“ฮ่าๆๆ เจ้ารู้วิธีปลูกและเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว เช่นนั้นก็ถือว่าสำเร็จไปครึ่งหนึ่งของชีวิต” ท่านต

  • นางกลับมาเพื่อร่ำรวย   บทที่ 16 หนึ่งยามในคืนวสันต์ มีค่าดั่งพันทอง

    หลังผ่านพ้นค่ำคืนของการร่วมหอ ร่างงามก็ซุกตัวอยู่ในอ้อมอกแกร่งไม่ไปไหน หลี่โต๋วเปาไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะกว่าเขาจะเสร็จกิจแต่ละรอบก็ใช้เวลานานเสียจนตัวเขาเริ่มนอนไม่หลับ ได้แต่กอดฉินอี้หนิงไว้ ขณะมองใบหน้าขาวนวลในยามนิทราบนโต๊ะข้างเตียงมีกะละมังไม้ใส่น้ำอุ่นที่เริ่มจะเย็นชืด พร้อมด้วยผ้าขาวที่ถูกใช้แล้ววางพาดอยู่ แน่นอนว่าเป็นหลี่โต๋วเปาที่นำมันมาเพื่อเช็ดผิวกายให้ภรรยาตัวน้อย อาจเพราะเขาไม่ได้ปลดปล่อยตนเองมานานหลายปี เจ้าของเหลวสีขาวขุ่นเหล่านั้น จึงมีมากเสียจนอาจทำให้ฉินอี้หนิงนอนหลับแบบไม่สบายตัวนัก ซึ่งในฐานะผู้กระทำ เขาจึงต้องทำความสะอาดให้นางทุกครั้งแพขนตาหนาที่เริ่มขยับน้อยๆ ทำให้หลี่โต๋วเปาอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจุมพิตบนเปลือกตาของนาง ไล่เรื่อยลงไปจนถึงหน้าอกนุ่มที่เต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบฉินอี้หนิงที่เพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมา เผลอทำหน้าอิดออดน้อยๆ เมื่อส่วนล่างของนางมันทั้งบวมและเจ็บระบมอย่างที่ไม่เคยเป็น ค่ำคืนเข้าหอนี้ผ่านไปอย่างยากลำบากจริงๆ ยิ่งเมื่อผู้เป็นสามีไม่ยอมจบดังที่ควรเป็นใต้ผ้าห่มมีบางอย่างขยับอยู่ เคลื่อนจากหน้าอกสู่ส่วนล่างอย่างเชื่องช้า ทว่าทุกการสัมผัสล้วนเต็มไป

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status