เสียงฝักบัวที่ไหลรินช่วยปลอบประสาทใบบุญให้ผ่อนคลายจากความกังวลในใจทว่า ความสงบกลับถูกทำลายลงในพริบตา เมื่อเธอได้ยินเสียงแปลกจากด้านนอกที่ฟังคล้ายกิจกรรมส่วนตัวของชายหญิงที่ไม่น่าฟังเอาเสียเลย หัวใจเธอกระตุกวาบเมื่อคิดว่ารติภพอาจพาผู้หญิงอื่นมานอนด้วย ทั้งที่เธอยังอยู่ในห้องเดียวกัน จากความอายกลายเป็นความโกรธ ใบบุญจึงตัดสินใจเปิดประตูออกด้วยแรงของอารมณ์ ทว่า สิ่งที่ปรากฏตรงหน้ากลับไม่ใช่ภาพที่เธอจินตนาการไว้ รติภพนอนเอกเขนกบนเตียง กำลังชมภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ด้วยท่าทีสบายเกินหน้าเกินตา เธอกรีดร้องลั่น ทั้งตกใจ ทั้งเสียหน้า และไม่รู้จะอับอายให้กับสถานการณ์ตรงหน้า หรือให้กับความเข้าใจผิดของตัวเองก่อนดี และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครตั้งใจ แต่กลับกระตุกหัวใจให้สั่นสะเทือนทั้งสองฝ่ายตั้งแต่วันแรกที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกัน
ดูเพิ่มเติมครอบครัวของใบบุญ รุจิธารา เป็นครอบครัวขนาดเล็กที่มีฐานะปานกลาง คุณนพคุณ ผู้เป็นบิดา รับราชการในกรมป่าไม้ ส่วนคุณบุหงา มารดา เป็นครูสอนระดับอนุบาลถึงประถมในโรงเรียนใกล้บ้าน ซึ่งอยู่ติดกับวัด ด้วยความผูกพันจากวัยเยาว์ที่มารดามักพาไปตักบาตรเป็นประจำ ใบบุญจึงสวดมนต์ได้คล่องแทบทุกบท และเติบโตขึ้นในบ้านที่อบอวลด้วยความรักและความอบอุ่น
ปัจจุบันเธอสำเร็จการศึกษาด้านศิลปกรรม และทำงานอิสระในฐานะศิลปิน โดยเฉพาะงานวาดภาพเกี่ยวกับพุทธศาสนา เธอมีฝีมือจนได้รับความไว้วางใจจากกรมศิลป์ให้เข้าร่วมซ่อมแซมจิตรกรรมฝาผนังในวัดต่าง ๆ เป็นประจำ
บ้านของใบบุญเป็นเรือนไม้สองชั้นสีครีม ขอบหน้าต่างและเชิงชายทาสีน้ำตาล มีสวนรอบบ้านปลูกไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ห้องนอนของเธออยู่ชั้นบนด้านหน้า มีระเบียงเล็ก ๆ พร้อมกระถางไม้ประดับจัดวางเป็นระเบียบ ภายใต้ร่มเงาจากต้นไม้ที่ปลูกไว้ติดกำแพง ซึ่งช่วยกรองแสงแดดยามสายได้เป็นอย่างดี
ทุกวันอาทิตย์ ใบบุญจะหยุดรับงาน เพื่อใช้เวลาไปวัดกับพ่อแม่เช่นที่เคยทำมาแต่เล็ก ส่วนวันพระ เธอจะไปสวดมนต์ทำวัตรเย็น ถ้ามีงาน เธอจะกลับมาสวดที่บ้านในตอนกลางคืนแทน
และเช้าวันนี้ หลังกลับจากวัด เธอมีนัดสำคัญกับเพื่อนสาว มนัสยา วานิชกุล เพื่อเดินทางไปตรวจงานซ่อมแซมภาพฝาผนังในโบสถ์วัดเก่าแก่ที่อยุธยา ภารกิจสำคัญที่เธอรักและภาคภูมิใจ
หลังกลับจากวัดในเช้าวันอาทิตย์ ใบบุญจึงเอ่ยกับมารดาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า
คุณบุหงาหันมาถามด้วยความห่วงใย
"ค่ะ หนูนัดกับมีตางค์ไว้ จะไปดูภาพจิตรกรรมในโบสถ์วัดที่อยุธยา ทางกรมศิลป์เขาจะให้เรารับงานซ่อมแซมค่ะ"
"อย่างนั้นก็ต้องเดินทางไปอยุธยาสินะ"
เธอบอกเล่าอย่างสั้น ๆ ก่อนจะเตรียมตัวออกเดินทาง งานของใบบุญบ่อยครั้งต้องไปต่างจังหวัด บางทีก็แค่วันเดียว บางครั้งก็ต้องค้างแรมเป็นสัปดาห์ หรือแม้กระทั่งเป็นเดือน แล้วแต่ขนาดและสภาพของงานจิตรกรรมที่ต้องซ่อม แม้งานจะหนักและต้องเดินทางไกล ใบบุญกลับไม่เคยรู้สึกเหนื่อยหรือเบื่อหน่าย เพราะนี่คืองานที่เธอรัก
หญิงสาวร่างเล็ก ผิวพรรณผ่องนวล ดวงตากลมโต ริมฝีปากบางเฉียบ จมูกโด่งรั้น เผยให้เห็นถึงนิสัยมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว เธอสวมเสื้อเชิ้ตแขนพับสีเหลืองอ่อนคู่กับกางเกงยีนส์สีเข้ม รองเท้าผ้าใบสีขาวเรียบง่าย เหมาะสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่โบราณที่ต้องใช้ความคล่องตัว
ใบบุญเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นประจำ เพราะความสะดวกสบายต่างจากสมัยเรียนที่ต้องเบียดเสียดกับผู้โดยสารบนรถเมล์ทุกเช้า เคยเหน็ดเหนื่อยเพียงเพื่อไปถึงมหาวิทยาลัยให้ทันเรียน วันนั้นมีแต่เหงื่อเปียกกาย แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป
เธอมาถึงบ้านของมนัสยา—หรือมีตางค์ เพื่อนสนิทร่วมสถาบันในช่วงมหาวิทยาลัย ที่หลังเรียนจบก็ยังได้ทำงานด้วยกัน ทั้งคู่รู้ใจกันแทบไม่ต้องเอ่ยคำ เพียงสบตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร
มนัสยาเป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก พ่อของเธอเป็นนักธุรกิจมีฐานะ จึงซื้อบ้านในกรุงเทพฯ ให้ลูกสาวอยู่ระหว่างเรียน พร้อมจ้างญาติห่าง ๆ มาคอยดูแล
แม้ฐานะของทั้งสองจะต่างกัน แต่ใบบุญและมนัสยาไม่เคยถือเรื่องนี้เป็นอุปสรรคในการคบหา พวกเธอผูกพันกันด้วยนิสัย ความจริงใจ และความรักในงานศิลปะ
เมื่อใบบุญมาถึง ก็พบว่าเพื่อนสาวยังอยู่ในชุดนอนจนอดถอนใจไม่ได้ มนัสยาคือคนที่ขึ้นชื่อเรื่อง “สายเสมอ” จนใคร ๆ เรียกเธอว่า “เต่าสองพันปี” แต่ถึงจะช้าอย่างไร ไม่มีหนุ่มคนไหนไม่รู้จักดาวคณะผู้เคยเป็นทั้งเชียร์ลีดเดอร์และขวัญใจมหาวิทยาลัย
โชคดีที่วันนี้มนัสยาแต่งตัวเร็วผิดปกติ คงเพราะไม่อยากฟังคำบ่นจากเพื่อนสาว เธอปรากฏตัวในเสื้อเชิ้ตสีเขียวสดคู่กับกางเกงยีนส์สีซีด มือหนึ่งถือกุญแจรถพร้อมออกเดินทาง
รถญี่ปุ่นคันเล็กที่บิดาซื้อให้หลังเรียนจบกลายเป็นพาหนะประจำของทั้งคู่ และในวันนี้ก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จุดหมายของการทำงานที่ทั้งคู่รอคอย
มนัสยาเป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก เมื่อต้องมาเรียนในกรุงเทพฯ บิดาของเธอซึ่งมีฐานะดีพอสมควรจึงตัดสินใจซื้อบ้านเพื่อให้ลูกสาวพักอาศัย แทนการอยู่หอพัก และยังว่าจ้างญาติห่าง ๆ มาช่วยดูแลใกล้ชิด
ฐานะของมนัสยาอาจดูแตกต่างจากครอบครัวของใบบุญซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง แต่ทั้งสองไม่เคยปล่อยให้ความต่างนั้นเป็นอุปสรรคในการคบหา มิตรภาพของพวกเธอแน่นแฟ้นจากความเข้าใจ ความชอบ และทัศนคติที่คล้ายกัน
เมื่อใบบุญมาถึงบ้าน เพื่อนสาวของเธอยังอยู่ในชุดนอน ทำให้ใบบุญถึงกับถอนหายใจด้วยความเอือมระอา มนัสยาเป็นคนไม่เคยตรงเวลานับตั้งแต่สมัยเรียน จนได้ฉายาว่า “เต่าสองพันปี” แต่ถึงจะช้าแค่ไหน ก็ไม่มีหนุ่มมหาวิทยาลัยคนใดไม่รู้จักดาวคณะผู้เป็นอดีตเชียร์ลีดเดอร์มากฝีมือ ที่เคยโดดเด่นตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงปีสาม ก่อนจะถอนตัวในปีสุดท้ายเพื่อมุ่งมั่นเรื่องการเรียน
วันนี้ มนัสยาแต่งตัวรวดเร็วผิดวิสัย คงเพราะกลัวเสียงบ่นจากเพื่อนสาว ใบบุญจึงนั่งรอเพียงสิบห้านาที เธอปรากฏตัวในเสื้อเชิ้ตสีเขียวสดกับกางเกงยีนส์สีซีด มือหนึ่งถือกุญแจรถพร้อมออกเดินทาง รถญี่ปุ่นคันเล็กที่บิดาซื้อให้หลังเรียนจบกลายเป็นพาหนะคู่ใจ และเป็นพาหนะของใบบุญโดยปริยาย
ปริตรส่ายศีรษะเบา ๆ พลางนึกขำเพื่อนรักที่ทำตัวราวกับเด็กวัยสิบสี่อีกครั้ง ราวกับเป็นท่อนหนึ่งในเพลงดัง ความเพ้อฝันในสายตาของรติภพนั้นช่างชัดเจนเกินต้าน จนเจ้าตัวหลุดหัวเราะออกมาโดยไม่ตั้งใจใครจะไปคิดว่า ผู้ชายที่สาว ๆ ทั้งไทยทั้งเทศหมายปองอย่างรติภพ จะลงทุนขับรถตามผู้หญิงไปจนรู้บ้านอย่างที่เพื่อนเขาทำในวันนี้หลังจากวันนั้น วันที่เขาตามสองสาวมาจนถึงหน้าบ้านไม้สองชั้นแสนน่ารักของใบบุญ รติภพก็ใช้วันหยุดทุกอาทิตย์ในการสืบข่าวของหญิงสาวที่เขาหมายปองเขาเริ่มต้นด้วยการทำตัวเป็นชายหนุ่มผู้แอบรัก และบอกใครต่อใครในละแวกนั้นว่าตนเองมีใจให้ใบบุญมานานแล้ว อยากทำทุกอย่างเพื่อให้เธอประทับใจ และต้องการเพียงโอกาสสักครั้งได้ใกล้ชิดกับเธอหนึ่งในแหล่งข่าวสำคัญที่เขาใช้เวลาจนสามารถตีสนิทได้ก็คือ “เจ๊แป๋ว” แม่ค้าส้มตำเจ้าเด็ดประจำปากซอย แม้ในตอนแรกจะมองเขาด้วยสายตาหวาดระแวง เพราะกลัวว่าเขาจะเป็นพวกโรคจิตที่ตามสะกดรอยใบบุญ แต่สุดท้าย เจ๊แป๋วก็ยอมเปิดใจให้วันนี้เขาก็ไม่พลาดที่จะมาเยือนอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มละลายใจ“หวัดดีครับพี่แป๋ว” รติภพทักทายด้วยรอยยิ้มละมุน“ตายจริง คุณภพ พี่กำลังคิดถึงอยู่พอดี ว่าวัน
เมื่อสองสาวอิ่มอาหารเป็นที่เรียบร้อย ทั้งคู่ก็เลิกให้ความสนใจกับชายหนุ่มโต๊ะเยื้อง ๆ ที่ยังคงนั่งสนทนาอย่างสบายใจ พวกเธอเรียกพนักงานมาเก็บเงิน และรีบออกจากร้านโดยไม่ได้เอะใจเลยว่า ตนเองกำลังตกอยู่ในสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่งตลอดเวลาทันทีที่สองสาวลุกขึ้นและเดินออกจากร้าน รติภพก็รีบจ่ายค่าอาหารก่อนหันไปพูดกับเพื่อนอย่างรวดเร็ว“จะทำอะไรของแกวะ ไอ้ภพ?” ปริตรเอ่ยถามเสียงต่ำ“ก็ตามสาวไง ยังไงก็กลับกรุงเทพฯ เหมือนกันอยู่แล้ว” เขาตอบหน้าตาเฉย“แล้วถ้าเธอไม่ได้กลับกรุงเทพฯ ล่ะ แกจะทำยังไง?”“ไม่รู้โว้ย แต่ตอนนี้เธอต้องกลับแน่!”ปริตรได้แต่ส่ายหัวอย่างระอา ราวกับกำลังดูหนุ่มวัยรุ่นเพิ่งหัดจีบหญิง ทั้งที่รู้กันดีว่า รติภพไม่ใช่คนแบบนั้น เขาไม่เคยเห็นเพื่อนของตนจะออกอาการตามติดผู้หญิงคนไหนขนาดนี้มาก่อนโดยเฉพาะกับเด็กสาวที่ดูอายุน้อยกว่าน้องสาวของรติภพเสียอีก รริสา น้องสาวของเขาอายุห่างจากพวกเขาราวสามปี และหากจะให้เดา ใบบุญคนนั้นก็คงเด็กกว่ารริสาสักหนึ่งถึงสองปี ซึ่งหมายความว่า เธออาจเด็กกว่าพวกเขาราวสี่ถึงห้าปีเป็นอย่างน้อยรติภพขับรถตามรถของมนัสยาในระยะห่างพอสมควร ทำให้สองสาวไม่ได้สังเกตเลยว่ามี
“ปล่อยฉันนะ”“ผมแค่กลัวว่าคุณจะล้มเท่านั้นเอง”เสียงทุ้มนุ่มคลอหัวเราะเบา ๆ ขณะค่อย ๆ คลายวงแขนที่โอบรัดร่างเล็กออกอย่างอ้อยอิ่ง รติภพรู้สึกเสียดายกลิ่นหอมละมุน และสัมผัสบางเบาจากร่างหญิงสาวที่เพิ่งผลักเขาเต็มแรงชายหนุ่มยิ้มกว้าง ดวงตาเจ้าชู้ทอดมองอย่างหยอกล้อ ต่างจากสายตาของเธอที่วาวโรจน์ไปด้วยเพลิงโทสะ ราวกับเปลวไฟพร้อมเผาเขาทั้งเป็นเธอถามเสียงแข็งว่าเขาตั้งใจชนใช่ไหม เขาปฏิเสธหน้าตาเฉย พร้อมสวนกลับว่าเธอเป็นฝ่ายเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเสียเองท่าทางฮึดฮัดนั้นกลับยิ่งทำให้เขาเอ็นดู รติภพเผลอเรียกเธอว่า ‘ตัวเล็ก’ สรรพนามที่เขาเคยใช้กับน้องสาวเสมอ แต่หญิงสาวตรงหน้ากลับน่ารักเกินห้ามใจพอ ๆ กัน ดวงตาคู่สวยจ้องเขาอย่างไม่ยอมแพ้ จมูกรั้นที่เชิดขึ้นด้วยท่าทีขัดใจยิ่งทำให้เขายิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมกระทั่ง...“ใบบุญ มีอะไรกันเหรอ?”เสียงของมนัสยาเพื่อนสาวดังขึ้น เมื่อเธอเดินมาตามเพื่อนที่หายไปนาน และทันเห็นภาพที่เพื่อนรักของเธอกำลังยืนโต้เถียงกับชายแปลกหน้าร่างสูงใหญ่ หน้าตาคมเข้มราวนายแบบต่างชาติใบบุญไม่ตอบ เธอรีบคว้าแขนมนัสยาแล้วเดินหนีออกจากบริเวณนั้นทันที สีหน้าบึ้งตึง บ่งบอกอารมณ์ได้ชัดเจ
เมื่อทุกอย่างพร้อม ทั้งคู่จึงมุ่งหน้าสู่อยุธยา ขับรถเพียงชั่วโมงเศษก็เข้าสู่เขตอำเภอเมือง ถนนสองข้างทางเรียงรายไปด้วยวัดจำนวนมาก จังหวัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องจำนวนวัดที่แทบจะอยู่ห่างกันไม่ถึงห้าร้อยเมตร โดยเฉพาะในเขตเกาะเมืองที่เต็มไปด้วยวัดร้าง วัดเก่า และโบราณสถานคู่บ้านเมือง กระจายตัวอยู่ทั่วทุกมุมสมศักดิ์ศรีเมืองมรดกโลกไม่นานรถก็เลี้ยวเข้าลานดินหน้าวัดแห่งหนึ่งซึ่งค่อนข้างกว้าง บริเวณนี้มีหญ้าขึ้นแซมบาง ๆ ตัววัดถูกถนนสายหนึ่งตัดผ่านกลาง แบ่งพื้นที่ออกเป็นสองฝั่ง ด้านหนึ่งเป็นโบสถ์เก่าสมัยกรุงศรีอยุธยา ผนังอิฐแดงเผยให้เห็นร่องรอยของเปลวไฟจากเหตุการณ์ถูกเผาทำลาย ด้านหน้าโบสถ์มีโต๊ะไม้สำหรับพระภิกษุและลูกศิษย์วัดจำหน่ายดอกไม้ ธูป เทียน และสังฆทานสำหรับผู้มาทำบุญอีกฟากของถนนลูกรังคือทางเดินเข้าสู่กุฏิไม้เก่า ๆ ที่ดูทรุดโทรมแต่เปี่ยมเสน่ห์แห่งกาลเวลาใบบุญและมนัสยายกมือไหว้พระภิกษุอย่างนอบน้อมก่อนก้าวเข้าไปในบริเวณโบสถ์ ซึ่งมีสองหลังตั้งอยู่ติดกัน โบสถ์หลังแรกประดิษฐานพระพุทธรูปสีขาว ส่วนอีกหลังไม่ไกลนักเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อทององค์ใหญ่ผนังของทั้งสองโบสถ์ประดับด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่แม
ครอบครัวของใบบุญ รุจิธารา เป็นครอบครัวขนาดเล็กที่มีฐานะปานกลาง คุณนพคุณ ผู้เป็นบิดา รับราชการในกรมป่าไม้ ส่วนคุณบุหงา มารดา เป็นครูสอนระดับอนุบาลถึงประถมในโรงเรียนใกล้บ้าน ซึ่งอยู่ติดกับวัด ด้วยความผูกพันจากวัยเยาว์ที่มารดามักพาไปตักบาตรเป็นประจำ ใบบุญจึงสวดมนต์ได้คล่องแทบทุกบท และเติบโตขึ้นในบ้านที่อบอวลด้วยความรักและความอบอุ่นปัจจุบันเธอสำเร็จการศึกษาด้านศิลปกรรม และทำงานอิสระในฐานะศิลปิน โดยเฉพาะงานวาดภาพเกี่ยวกับพุทธศาสนา เธอมีฝีมือจนได้รับความไว้วางใจจากกรมศิลป์ให้เข้าร่วมซ่อมแซมจิตรกรรมฝาผนังในวัดต่าง ๆ เป็นประจำบ้านของใบบุญเป็นเรือนไม้สองชั้นสีครีม ขอบหน้าต่างและเชิงชายทาสีน้ำตาล มีสวนรอบบ้านปลูกไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ห้องนอนของเธออยู่ชั้นบนด้านหน้า มีระเบียงเล็ก ๆ พร้อมกระถางไม้ประดับจัดวางเป็นระเบียบ ภายใต้ร่มเงาจากต้นไม้ที่ปลูกไว้ติดกำแพง ซึ่งช่วยกรองแสงแดดยามสายได้เป็นอย่างดีทุกวันอาทิตย์ ใบบุญจะหยุดรับงาน เพื่อใช้เวลาไปวัดกับพ่อแม่เช่นที่เคยทำมาแต่เล็ก ส่วนวันพระ เธอจะไปสวดมนต์ทำวัตรเย็น ถ้ามีงาน เธอจะกลับมาสวดที่บ้านในตอนกลางคืนแทนและเช้าวันนี้ หลังกลับจากวัด เธอมีนัดสำคัญก
ความคิดเห็น