เพียงได้สัมผัสท่อนเอ็นอันแข็งแกร่ง กัสถึงกับอดใจไม่ไหวจึงอยากร่วมรสสวาทในครั้งนี้อย่างมาก
“ถอดกางเกงให้หน่อย” กัสรู้สึกเรี่ยวแรงหายไปพอสมควร
เป็กไม่รอช้าเมื่อโอกาสมาถึง ถอดไม่มีเหลือสักชิ้นรวมทั้งเสื้อด้วย เมื่อร่างกายเปลือยเปล่าของเป็กเผยโฉมตรงหน้ากัส เขาก็ไม่รอช้าอีกเช่นกันจับท่อนเอ็นได้ใช้ริมฝีปากรูดขึ้นลงทันที ไม่มีการค่อยๆ ทำรีบรูดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ได้สร้างความเสียวซ่านแกเป็กอย่างมาก สยิวไปทั่วลำท่อนเอ็น ยิ่งกัสดูดเป็นพักๆ ยิ่งทำให้เสียวเป็นช่วงๆ
“โอ๊ย อ่า อ่า ซี๊ด” เป็กหลับตาพริ้มครางออกมาอย่างสุดอารมณ์ถวิลหา
ริมฝีปากยังรูดท่อนเอ็นเหมือนเดิม ส่วนมือพร้อมจับพวงสวรรค์เล่นอย่างมันมือ ยิ่งสร้างความกระสันอยากให้เป็กอย่างมาก
“พอก่อน เดี่ยวทำบ้าง”
“ไม่ต้องเดี่ยวทำเอง” กัสพูดหลังจากถอนริมฝีปากออกมาจากท่อนเอ็นอันใหญ่ยาว
ด้วยความเมาขาดสติกัสจึงทำตามใจอยากอย่างที่ต้องการ และคิดไปว่าเป็นพีคเขาจึงมอบบทรักอย่างสุดฝีมือ เมื่อได้ถอนท่อนเอ็นแล้วต้อมจึงลุกขึ้นคร่อมร่างส่วนกลางลำตัวของเป็กโดยหันหลังให้ ต่อด้วยจับท่อนเอ็นจ่อช่องทางรัก แล้วค่อยๆ ดันเข้าไปจนสุดโคน ถึงจะรู้สึกเจ็บบ้างแต่ก็พอทนได้ หลังจากนั้นหยุดรอให้ช่องทางรักขยายสักพัก
เมื่อถึงเวลาที่ต้องการกัสจึงค่อยๆ ขย่มทันทีแต่ไม่ไวจนเกินไป แล้วมาค่อยๆ เร่งเครื่องต่อด้วยความเร็วขึ้นทีละน้อยๆ ละน้อยๆ ขย่มแรงๆ รัวๆ จนเป็กหายใจแท่บไม่ทัน และกลัวท่อนเอ็นหักคาช่องทางรักของกัส เขาจึงเสยท่อนเอ็นสวนขึ้นไปอย่างแรง
“โอ๊ย เจ็บ ๆ เสียว อ่า” กัสครางออกมาด้วยความเสียวซ่านและเมา จึงไม่ได้มีความอายแต่อย่างใด ซึ่งตรงนี่สร้างความพึงพอใจแก่เป็กอย่างมาก
กัสหยุดทุกอย่างไว้ปล่อยให้เป็กจัดการอย่างเต็มที่ ยิ่งเป็กเสยขึ้นกัสเสียวหนักกว่าเดิมหลายเท่า แต่ท่อนเอ็นของตัวเองไม่ได้แข็งขยายแต่อย่างใด เป็กรัวๆ เสยขึ้นบนอยู่พักหนี่ง เป็กจึงอยากเปลื่ยนท่าบ้าง เขาจึงพยุงร่างลุกขึ้นนั่งและผลักด้านหลังของกัสเพื่อให้โก้งโคง ส่วนตัวกัสเหมือนรู้ว่าต้องทำท่าไหน เขาจึงโน้มตัวไปข้างหน้า ใช้สองมือยันพื้นไว้ส่วนก้นก็กระดกขึ้นสูง ในขณะเดียวกันเป็กลุกขึ้นตามโดยไม่ให้ท่อนเอ็นนั้นหลุดออกไปจากช่องทางรัก
ท่าพร้อมเป็กจึงจับเอวของกัสไว้ แล้วโยกสะโพกเข้าออกอย่างเร็วและเน้นหนักๆ จนเสียงดังสนั่นลั่นทั่วห้อง
“ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ” เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังอย่างต่อเนื่องและยาวนาน
เป็กรู้สึกเบื่อท่าเดิมๆ เขาจึงเปลือยจากคุกเข่า ดึงท่อนเอ็นออกมาและยืนขึ้นอ้าขากว้างย่อตัวเล็กน้อยพร้อมกันจับท่อนเอ็นดันเข้าไปในช่องทางรัก ส่วนสองมือจับหลังไว้พร้อมกับกระดกก้นแทงท่อนเอ็นลึกๆ เน้นๆ สักพักใช้สองมือยันพื้นข้างลำตัวกัสไว้ ส่วนบั้นท้ายยังกระดกขั้นลงอย่างต่อเนื่องรัวๆ ซอยยิกๆ
ด้วยแรงที่มากกระแทกไม่ยั้งกระหน่ำเต็มที่ จนทำให้ร่างของกัสย่อต่ำลงจนนอนราบกับพื้น ส่วนเป็กก็โน้มตัวต่ำตามร่างของกัสที่นอนราบกับพื้น ส่วนบั้นท้ายยังทำงานอย่างต่อเนื่องกระดกขึ้นลงอย่างรัวๆ และเน้นๆ กระแทกแรงๆ แทงลึกๆ
“อืม อ่า โอว์” กัสครางออกมาด้วยความเสียวกระสันแต่ท่อนเอ็นยังไม่แข็งอยู่เหมือนเดิมถึงมีทุกแรงกระแทกก็ตาม
เป็กรัวถี่ๆ กระแทกไม่ยั้งโหมกระหน่ำอย่างหนักหน่วง จนกระทั่งความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วท่อนเอ็น เป็นผลให้เป็กทนต่อความกระสันไม่ไหว จึงโหมกระหน่ำกระแทกทิ่มแทงตอกลึกๆ เร็วๆ ไม่ยั้งอยู่หลายครั้ง จนน้ำในท่อนเอ็นพุ่งกระฉูดใส่ช่องทางรักอย่างต่อเนื่องกว่าน้ำในกายจะหมดก็พักใหญ่ แต่ก็ยังขยับบั้นท้ายอย่างช้าๆ ไม่ยอมหยุดจนกว่าจะหมดความเสียว หลังจากความเสียวหมดสิ้น เป็กจึงถอนท่อนเอ็นออกจากช่องทางรักของกัส และนอนแผ่หลาหมดแรงข้างๆ กัสที่กำลังพลิกร่างนอนหงายและหันตะแคงด้านข้าง พร้อมโอบกอดเนินอกของเป็กอย่างแนบแน่น ส่วนเป็กไม่กล้าขยับไปไหน มีเพียงแต่หยิบผ้าห่มมาปิดกายของพวกเขาทั้งสอง ช่วงเวลาไม่นานทั้งคู่ก็ได้หลับไล่เลี่ยกันอย่างมีความสุข
ช่วงสายๆ กัสเริ่มรู้สึกตัว เพราะมวนท้องอย่างบอกไม่ถูก เขาจึงลืมตาขึ้นทีละน้อยและมองไปข้างๆ ทีแรกกัสนึกว่ากอดหมอนข้าง เมื่อมองถนัดอีกทีเป็นเป็กไปได้ไง กัสตกใจมากจึงรีบลุกขึ้นนั่งทันที ทำให้เป็กรู้สึกตัวด้วยเช่นกัน
“เป็นอะไร” เป็กเอ่ยขี้นเมื่อเห็นสีหน้าที่เปลื่ยนของกัส
“เมื่อคืนนายทำอะไรเรา”
“ลองสำรวจดูสิว่าเจ็บตรงไหนบ้าง ถ้าเจ็บก็ทำตรงนั้นแหละ” เป็กอมยิ้มอย่างมีความสุข
เพียงกัสขยับร่างกายนิดหน่อยเขารู้สึกได้ทันทีว่าเจ็บตรงนั้น เมื่อเจ็บตรงนั้นจึงเป็นอย่างอื่นไมได้นอกจากเป็กทำอะไรเขาจากตรงนั้นนั่นเอง
“นายมันบ้าที่สุด” กัสหยิบหมอนข้างได้มาฟาดกลางลำตัวได้ทีแรก ส่วนทีสองเป็กจับไว้ได้และขว้างทิ้งลงพื้นข้างๆ เตียง
“นายนั่นแหละเป็นบ้าอะไร เมื่อคืนเป็นคนเริ่มก่อนแท้ๆ พอสางเมามาหาว่าเราทำอะไรนาย” เป็กลุกขึ้นนั่งข้างๆ กัส
“ไม่ต้องมานั่งตรงนี้เลย ออกไปจากห้องเราได้แล้ว ยังจะมายิ้มอีกเจ้าของห้องไล่ยังไม่ไปนั่งอยู่ได้” กัสมีสีหน้าที่โมโหอย่างเด่นชัด
“ดูดีๆ สิว่าห้องใคร”
กัสมองไปรอบๆ ห้องซึ่งแปลกตาสำหรับเขาอย่างมาก เพราะเป็นห้องที่ใหญ่แน่นอนไม่ใช่ห้องของกัสแต่อย่างใด
“นี่ที่ไหน”
“คอนโดเราเอง”
“นายพาเรามาที่นี่ทำไม” กัสนั่งครุ่นคิดเหตุการณ์เมื่อคืน แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก
“ทำเป็นลืม นายนั่นแหละให้เราพามานี่ อ้วกแตกอ้วกแตนไปหมด นั่นยังไม่เท่าไรเราต้องแบกนายขึ้นมายังคอนโดมันเหนื่อยมากนะ เรื่องเมื่อคืนถือว่าเป็นการตอบแทนเราก็แล้วกัน ถ้าเราไม่พานายมานี่ป่านนี่รถขยะน่าจะเก็บนายไปแล้วก็ได้มั้ง” เป็กหัวเราะนิดๆ ด้วยความสะใจ
กัสไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรมากเมื่อพลาดท่าเสียตัวให้เป็ก เพราะก่อนหน้านี้เขาก็ได้มีอะไรกับเสือเข้มมาสองครั้ง จึงทำให้ความรู้สึกอายหรือเสียใจนั้นแท่บไม่มีเลยแม้แต่น้อย
“เราจะกลับบ้านแล้ว เดี่ยวเราไปอาบน้ำก่อนนะ”
“ได้เราแล้วทิ้งเหรอเนี่ย” เป็กพูดเสียงดัง เพราะเขารู้สึกดีเป็นครั้งแรกที่ได้พาหนุ่มๆ มานอนที่ห้องแล้ว มีท่าทีเย็นชาไม่เร้าหรือเอาใจและขออยู่ต่อ กระทั่งบางคนของเงินก็มีแต่เป็กไม่ปฏิเสธที่จะให้
“เราจำอะไรไม่ได้ถือว่าเจ๊ากันไปก็แล้วกัน”
“มีแบบนี้ด้วยนายนี่แปลกคนดีเหมือนกัน ตอนปกติเงียบๆ ติ๋มๆ พออยู่บนเตียงโสเภณีดีๆ นี่เอง พอมีอะไรเสร็จทิ้งผู้ชายเฉยเลย ทำอย่างกับเราเป็นดอกไม้ริมทาง”
“ไม่ต้องมาสัมบัติสัมนวนเลย ไปหยิบผ้าเช็ดตัวให้เราหน่อย เราไม่ได้ใส่เสื้อผ้า”
“ขนาดนี้ไม่ต้องอายหรอก”
ถึงจะพูดประชดกัสแต่เป็กก็ไม่ปฏิเสธที่จะทำตามคำขอ เขาจึงดึงผ้าห่มออกและลงจากเตียงนอนใสสภาพเปลือยเปล่าเห็นทุกสัดส่วน กัสถึงกับมองตาค้างเพราะไมคาดคิดว่าสิ่งที่กวักแกว่งไปมาด้านหน้ากลางลำตัวของเป็ก จะเสร็จเขาเมื่อคืนนี้กัสยิ่งคิดยิ่งขนลุกตั้งชูชัน
“เป็นอะไร” เมื่อเป็กเดินมาถึงตรงหน้าและยื่นผ้าเช็ดตัวให้
มือนั้นหยิบผ้าเช็ดตัวแต่ดวงตามองท่อนเอ็นห้อยอยู่ตรงหน้าสักพัก หลังจากนั้นเงยหน้ามองเป็กที่ยืนยิ้มอย่างไม่อายฟ้าดินแม้แต่น้อย
“ไม่ได้เป็นอะไรหรอก เอาเป็นว่าเดี่ยวเราเข้าไปอาบน้ำก่อนนะ แล้วนายค่อยอาบทีหลังเราก็ได้”
“อาบน้ำพร้อมกันไม่ได้เหรอ ไหนๆ เราก็เป็นของกันแล้ว”
“นายเป็นคนเดียวเถอะ เราไม่ได้อยากเป็นอะไรกับนายสักหน่อย” กัสขยับตัวบนเตียงเพื่อนุ่งผ้าเช็ดตัว
“เป็นกับเราคนเดียวสมหวังนะ อย่าไปหวังกับพี่พีคนั่นเลย นอกจากเพื่อนของนายที่เป็นคู่แข่งแล้ว ยังมีหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักคนนั้นอีก ขนาดเรายังอยากฟัดสักทีเลย ยังดีที่มีนายเราเลยหักห้ามใจตัวเองได้”
“นายไม่ต้องมายุ่งเรื่องของเราเลย” กัสมองค้อนด้วยความไม่พอใจ ก่อนลุกขึ้นและลงจากเตียง เพื่อเดินไปยังห้องน้ำที่ใหญ่โตมีเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงครบครัน
เป็กยืนยิ้มมองกัสเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างมีความสุข เขารู้สึกชอบตัวตนของกัสมากขึ้น ยิ่งกัสคนเดิมนั้นถึงจะไม่มีเสน่ห แต่มีความแปลกที่แตกต่างจากคนอื่น ส่วนกัสอีกค
นก่อนหน้านี้ก็น่าสนใจเชิดๆ หยิ่งๆ แต่น่ารักและฉลาดมาก ไม่ว่าจะเป็นคนไหนเป็กชอบหมดทั้งสองแบบ
ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี
ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่
กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา
เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ
กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง
ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว