LOGIN“อ๊ะ” เธอมองคนทำ ปากก็เอ่ยขอ “คุณปล่อยฉันไปได้ไหม?”
ไหน ๆ เขาก็ช่วยเธอมาครึ่งทางแล้ว แต่แทนที่เขาจะฟังกลับพูดว่า
“คุณรู้ไหมว่าผมเสียไปเท่าไรกับการตามหาคุณทั้งสัปดาห์ ถ้าคิดเป็นมูลค่าก็มหาศาล คุณคิดว่าจะชดใช้ให้ผมได้หมดไหม”
ใครใช้ให้คุณมาเสียเวลาตามหาฉันล่ะ ยังมีหน้าจะมาทวงเงิน กันอีก อย่างไรเธอก็ไม่ยอมเด็ดขาด
“ฉันไม่ได้ใช้ให้คุณตามหาเสียหน่อย แล้วทำไมถึงได้มาโทษว่าเป็นความผิดฉัน อีกอย่างปกติคุณก็มีผู้หญิงมาบริการถึงเตียงอยู่แล้ว จะสนใจอะไรฉันนักหนา”
นั่นสินะ เขาสนใจอะไรเธอ คงเพราะท่าทางไม่ประสีประสาและความบริสุทธิ์ที่เธอเอามาใช้กับเขาในคืนนั้นคงพิเศษพอจะทำให้เขาสนใจ
แต่ว่ากันตามตรง เธอก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปที่พอถอดผ้าออกก็แค่ปล่อยไปตามอารมณ์ จบแล้วก็ต่างคนต่างไป แต่ทำไมเขาไม่ปล่อยวาง
“มาเป็นผู้หญิงของผม”
แอนนาส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว เขาทำหน้าไม่พอใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหวังว่าจะได้ออกจากห้องนี้”
คนถูกขู่หันมองรอบห้อง “คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน”
“คุณเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเช่นกัน ดังนั้นถ้าผมไม่อนุญาต คุณก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
เขาบ้าไปแล้ว ยิ่งขู่ยิ่งห้าม คิดหรือว่าเธอจะยอม แต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะเสียเปรียบ “รู้แล้ว รู้แล้ว คุณปล่อยฉันก่อน ฉันเจ็บ”
เธอจำต้องทำเป็นโอนอ่อนตามเขา เมื่อเห็นว่าเธอเชื่อฟัง เขาจึงยอมปลดเนกไท แอนนาผลักเขาออกแล้วลุกขึ้นนั่ง รีบติดกระดุมเสื้อที่ถูกปลดจนเห็นชุดชั้นใน ก่อนจะพิจารณาผลงานที่เขาทำไว้
“คุณทำฉันเจ็บ” เธอทำหน้าแง่งอนแล้วค้อนใส่ เขาจึงลุกขึ้นไปหยิบยาแก้ฟกช้ำ
“ทำแค่นี้เป็นรอย ทีคืนนั้นพวกเรา...”
แอนนายกมือปิดปากเขา เราจะไม่พูดถึงคืนนั้นเด็ดขาด ยิ่งเขาพูดเธอก็ยิ่งเห็นภาพซึ่งมันไม่ดีแน่ บรรยากาศยิ่งชวนทำเรื่องอย่างว่าอยู่ด้วย
ไม่ปลอดภัย ยังไงก็ไม่ปลอดภัย
คนถูกปิดปากกัดมือเธอ แอนนารีบปล่อย เขาก็โน้มตัวมาหา อีกรอบ
“พอก่อน” เขาจะรุกจนเธอหายใจไม่ทันแบบนี้ไม่ได้ เธอผลักอกเขา ทว่ารอบนี้ชายหนุ่มคงไม่คิดจะปล่อยเธอแล้ว
“พวกเราเสียเวลามามากพอแล้ว”
เธอถอนหายใจ หมดหวังที่จะหาหนทางหนี
เสียงประตูเปิดทำให้ทั้งสองหันไปมอง คนของเขายกมือขึ้นแล้วเอ่ย “ขอโทษที่ขัดจังหวะครับ แต่พอดีเรามีเรื่องด่วน”
สีหน้าคนมาตามกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่วนคนได้ยินทำหน้าเหมือนอยากยกปืนยิงคนเข้ามาขวาง “เฝ้าเธอไว้”
สิ้นเสียงเขาก็ออกจากห้องไป ปล่อยให้เธอมองหน้าคนที่เข้ามาขัดจังหวะ
“ผมลูคัส”
“ฉันแอนนา”
พวกเราแนะนำตัวจากนั้นก็บังเกิดความเงียบอยู่นาน คิดว่าถ้ามีเข็มตกก็คงได้ยิน
“คุณทำงานกับเขามากี่ปีแล้ว”
คนถูกถามมองผู้หญิงตรงหน้าแล้วตอบ “สิบปี”
นั่นนานมากสำหรับคนที่มีอำนาจมืดแบบพวกเขา แสดงว่าอีกฝ่ายคงไว้ใจเขามาก ฉะนั้นเลิกคิดแผนที่จะให้เขามาเป็นพวกแล้วยอมปล่อยเธอไปเสียเถอะ ชาตินี้อย่าหวังเลย
“ฉันขอไปนั่งกับเพื่อนด้านนอกได้ไหม”
คนตรงหน้าเงียบอยู่ครู่หนึ่ง “พวกเขากลับกันนานแล้ว”
เอาจริงสิ สรุปพวกเขาทิ้งเธอเพื่อเอาตัวรอดซะงั้น แล้วทำไงต่อดี โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ เธอต้องกลายเป็นของเขาจริง ๆ สินะ
เธอรอคอยอีกฝ่ายอยู่ครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่โผล่หน้ามา จู่ ๆ เสียง มือถือของบอดี้การ์ดหน้าประตูก็ดังขึ้น
ลูคัสรับสายแล้วรับคำเพียงคำเดียว “ครับ” เมื่อปิดมือถือเขาก็เปิดปากคุยกับเธอ
“ตามผมมา”
เธอจะได้กลับบ้านใช่ไหม? ไม่ต้องถามหรอก เพราะคิดว่าคงไม่มีวัน ทันทีที่เปิดประตูเธอก็พบกับบอดี้การ์ดหน้าเหี้ยมอีกหลายคน พวกเขาล้อมหน้าล้อมหลังก่อนจะยัดเธอใส่รถที่กระจกติดฟิล์มสีดำแล้วขับออกไป
“เขาไปไหน?”
“ไปธุระเรื่องสำคัญ คืนนี้คุณมาร์โกให้คุณไปพักผ่อนที่บ้านก่อน”
นั่นบ้านเขาไม่ใช่บ้านฉัน “ถ้าหมายถึงบ้านฉันก็ควรไปทางนี้” เธอชี้ไปทางซ้ายมือแยกข้างหน้า แต่คิดหรือว่าจะได้ผลเมื่อรถที่เธอนั่งขับตรงไปแล้วเลี้ยวเข้าบ้านที่มีรั้วสูงสองเมตรเหมือนคุก
ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม แถมยังมีคนคอยคุ้มกันอยู่รอบบ้าน ถ้าเธอจะหนีคงต้องกลายร่างเป็นแมลงสาบเท่านั้นถึงจะหนีพ้น
เมื่อคิดว่าทางไหนก็ไม่รอดเธอจึงยอมลงไปแต่โดยดี บรรยากาศภายในบ้านชวนสยองขวัญราวกับอยู่ในบ้านผีสิง
“ถามจริง เจ้านายพวกคุณไม่มีปัญญาจ่ายค่าไฟใช่ไหม ถ้าไม่บอกว่านี่คือบ้านคน ฉันจะคิดว่าคือบ้านผีสิง”
ลูคัสหันมองแสงไฟสลัวกับคำเปรียบเทียบของหญิงสาวก็นึกขำ ในใจ เขาไม่เคยฉุกคิดมาก่อนจริง ๆ
“เจ้านายไม่ชอบ อีกอย่างบรรยากาศแบบนี้ทำให้เห็นศัตรูได้ง่าย”
ถามจริง ศัตรูเขาใส่ชุดสีแดงมาหรือไง เธอไม่ถามเรื่องบรรยากาศแปลก ๆ แล้ว หันมาสนใจห้องที่เธอต้องอยู่ดีกว่า
เหมือนจะไม่ได้แย่เท่าไร แต่ไอ้ประตูที่สองนั่นคือ? ดูเหมือนลูคัสจะเข้าใจสายตาเธอจึงตอบให้เธอดีใจกว่าเดิม
“ห้องนี้สามารถทะลุไปยังห้องเจ้านายได้ครับ”
นั่นไง เธอดีใจจนตัวสั่นแล้ว ขนแขนลุกชัน มันคือหายนะชัด ๆ มองไปทางไหนเธอก็หนีเขาไม่พ้นอยู่ดี
“แล้วถ้าสมมุติว่ามีศัตรูบุกรุกเข้ามาฉันจะทำยังไง”
ลูคัสชี้ไปด้านบน แอนนาเพิ่งสังเกต โอ้แม่เจ้า อภิมหากล้องจับผิด “ไม่มีใครเข้ามาได้หรอกครับ แค่หนูสักตัวยังเล็ดลอดไปได้ยาก”
สายตาเธอเหมือนซาบซึ้งกับระบบความปลอดภัย ขณะที่ในใจนึกอยากเป็นแมลงสาบจะได้คลานหนีออกไปได้ แต่คิดว่าชาตินี้จะได้เป็นไหม อย่าพูดถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
“เสื้อผ้าของใช้บางอย่างยังไม่เรียบร้อย คุณแอนนาใช้ที่มีอยู่ไปก่อนนะครับ” สั่งจบก็ออกจากห้องไป
แอนนามองกล้องล้านแปดตัวแล้วถอนใจ เอาจริง ๆ แค่เธอถอนหายใจพวกเขาก็ขยับตัวแล้ว อย่าคิดว่าจะทำอะไรไปมากกว่านี้ได้ถ้าเขา ไม่ยอมปล่อยเธอไป
เธอหยิบมือถือมาส่งข้อความหาเพื่อนรักที่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ยูยังไม่ตายใช่ไหม? ใช่ยูจริง ๆ ไหม?”
เพื่อนรักกันจริง ๆ ทิ้งกันได้อย่างรวดเร็ว “ทำไมไม่ช่วยฉัน”
“ถามหน่อย มือเปล่าจะสู้ปืนสิบกระบอกได้ไง”
มันก็จริง ถ้าสู้ได้เธอคงไม่มาอยู่ตรงนี้ในสภาพนี้แน่
“แล้วฉันควรทำไง”
“ยูก็ว่านอนสอนง่าย ถ้าเขาเบื่อยู ยูก็ถูกปล่อยเองแหละ”
“งานก็คือเงิน ถ้ารู้จักทำงานก็มีเงินกินข้าว” พูดจบเธอก็เดินไปหยุดหน้าลูคัส “ส่วนนาย ตอนนี้นายมีงานใหม่แล้ว”ฮื้อ แม้แต่ลุงลูคัสยังถูกขวางไม่ให้ช่วยเธอ เจด้าได้แต่ร้องในใจ สุดท้ายเธอก็ถูกไล่ออกจากบ้านมาอยู่ห้องเช่าใกล้มหา’ลัยที่มีนักศึกษาพักอยู่ทั้งตึกแถมพอเปิดประตูก็พบกับผู้หญิงอีกคน หญิงสาวในห้องหันมองแล้วรีบแนะนำตัว “ฉันชื่อเจน ฝากตัวด้วยนะ เธอชื่ออะไร”แม่นะแม่ ให้เธอออกมาอยู่ข้างนอกไม่พอ ยังให้มาอยู่ร่วมกับคนอื่นอีก เธอจะทำยังไงดี หันมองข้าวของที่อีกฝ่ายเอามาไม่เยอะอย่างที่คิด เจด้าหน้าบูดบึ้ง เดินไปที่เตียงของตัวเองแล้วก้มหน้ากรี๊ดใส่หมอนเพื่อระบายอารมณ์หลังจากกรีดร้องจนพอใจแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนร่วมห้องหนึ่งเดียว “ฉันชื่อเจด้า”อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้เจนจิราได้รู้ว่าอนาคตที่จะอยู่ร่วมห้องกันต้องสนุกแน่“เธอเรียนคณะไหน?”เจด้าบอกชื่อคณะของตน จึงรู้ว่าอีกฝ่ายก็เรียนคณะเดียวกัน เซคเดียวกันด้วย แต่เจด้าผู้ซึ่งไม่สนใจใครจำใครไม่ได้“ไปกินข้าวกันไหม” พอเจนจิราทัก ท้องเจด้าก็ร้องขึ้นมาทันที จึงพยักหน้ารับแล้วลุกไปหยิบกระเป๋าแบรนด์เนมมาคล้องแขน“กระเป๋าใบนี้
ปอฝ้ายหันมามอง ทำไมคนที่หน้าตาเหมือนฝรั่งถึงได้พูดไทยได้ ยังไม่ทันได้ตอบ อีกฝ่ายก็ปิดประตูใส่หน้าคืนเธอยกแขนขึ้นกอดอก ชักจะโมโหจนลืมคิดไปว่าที่เขาพูดก็ถูกแล้ว และเพราะเธอยังยืนอยู่ทำให้ได้ยินเสียงถ่ายหนัก ที่แท้ก็โมโหเพราะปวดหนักนี่เอง เสียงปู้ดป้าดยิ่งทำให้ปอฝ้ายกลั้นขำผ่านไปสิบนาทีมาร์กัสก็ออกมา เด็กสาวยังยืนอยู่“เธอมาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไร”“ก็ตั้งแต่นายเข้าไปนั่นแหละ ได้ยินอะไรดี ๆ เยอะเลย” จากนั้นก็ทำเสียงปู้ดป้าดล้อเลียน“เธอนี่มัน” เขากำหมัดแน่น แต่เมื่อคิดว่าต่อไปคงไม่ได้เจอกันอีกเลยพยายามควบคุมอารมณ์หลังจากแกล้งจนพอใจ ปอฝ้ายก็ถามชื่ออีกฝ่าย “นายชื่ออะไร”เป็นมาร์กัสที่แปลกใจกับอารมณ์ของเด็กสาว “เธอจะรู้ไปทำไม”“เราชื่อปอฝ้ายนะ”มาร์กัสไม่คิดจะบอก ปอฝ้ายก็เหมือนเด็กสาวดื้อรั้นทั่วไปจึงก้าวไปขวาง “ไม่ให้ไป เราบอกชื่อแล้ว นายต้องบอกชื่อตัวเองด้วย”เขาไม่ได้อยากรู้ชื่ออีกฝ่ายเสียหน่อย มาร์กัสจะกลับไปนั่งที่จึงผลักเธอไปโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ปอฝ้ายล้มลง“โอ๊ย!!” เธอร้องดังลั่น คนทำตกใจรีบก้มลงถาม“เจ็บตรงไหนไหม” พอจะจับแขนเธอก็สะบัดออกแล้วลุกหนี มาร์กัสเลยได้แต่ขอโทษและบอกชื่อตนเ
แอนนามองรูปถ่ายในมือ มาร์คัสเกิดหลังมาร์กัสสองปี พวกเขาเติบโตไล่ ๆ กันมาเหมือนฝาแฝด แต่นิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงมาร์กัสที่ถูกเลี้ยงมาโดยมาดามคารีนาเป็นคนสุขุมแต่ร้ายลึก ส่วนมาร์กัสที่เติบโตมาโดยฝีมือของพ่อเขานิสัยเหมือนต้นแบบไม่มีผิดท่าทีของมาร์กัสห่างเหินขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอไปเยี่ยมเขาที่ฝรั่งเศส จนเธอเริ่มกลัวว่าต่อไปอาจเกิดเรื่องบางอย่างเธอมองเจด้าที่ตอนนี้อายุครบสิบขวบกำลังชวนมาร์คัสเล่นซ่อนแอบ ส่วนมาร์กัสนั่งมองนิ่ง ๆ อยู่บนเก้าอี้ แอนนาเดินเข้าไปนั่งกับลูกมาร์กัสหันมองมารดาแล้วตัวแข็งขึ้นมาเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าเขากำลังขยับหนี แอนนาขยับตามจนตัวเขาติดที่วางแขน“ทำไมถึงไม่อยากอยู่ใกล้แม่”แววตาเขาเหมือนมีคำพูด แต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ “โกรธแม่ใช่ไหมที่ยกหนูให้ย่าเลี้ยง”มาร์กัสตอบแค่ประโยคเดียว “แม่ไม่รักผมใช่ไหม”เป็นเธอเองที่จุกจนพูดไม่ออก “ไม่ว่าลูกคนไหนแม่ก็รักเท่ากัน ยิ่งลูกที่แม่ต้องจำใจยกให้คนอื่นเลี้ยงก็ยิ่งรักและคิดถึง แม่รู้ว่าลูกน้อยใจ ที่เจด้าและมาร์คัสได้อยู่กับแม่”เธอจับแขนลูกชาย มาร์กัสดึงแขนออก เธอจึงเปลี่ยนเป็นโอบกอดจนเขาจมอยู่ในอก“ผมไม่ไ
แอนนาเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้ม ยกปากออกจากท่อนเอ็นจากนั้นก็ก้มลงดูดกลืนลูกไข่ด้านล่างสองลูกไปมา ยิ่งกระตุ้นเร่งเร้าให้เขาปรารถนาในตัวเธอมากขึ้นจึงจับเธอลุกขึ้นแล้วให้คุกเข่ากับโซฟา จากนั้นก็จับท่อนเอ็นอัดลงไป “อ๊ะ คุณใจร้อนไปแล้ว”“สำหรับคุณ ผมไม่เคยมีคำว่าใจเย็น” พูดจบเอวหนาก็กระแทกเร็วและแรง แอนนาเกาะขอบโซฟายึดตัวเองให้แน่นเพราะเกรงว่าจะทรุดลงไป แต่ยิ่งเกาะก็ยิ่งกระแทกแรงจนกระทั่งเธอเสร็จไปอีกรอบเขาจึงยกตัวเธอขึ้นมาอีกรอบท่าอุ้มแตง!! “คุณไหว?”มาร์โกส่ายหน้า “คุณดูถูกผมมากไปแล้ว” ท่อนแขนใหญ่ยกเธอ ได้สบายจากนั้นก็สอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปแล้วเริ่มขยับ แอนนาเกาะคอเขาไว้ให้มั่นจากนั้นก็ส่งเสียงตอบรับความรุนแรงที่มากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่เธอกล้าไปดูถูกเขาเสียงป๊าบ ๆ ดังไปทั่วห้อง เขาก็ยิ่งยกยิ้มเหมือนเสือร้าย จากโซฟารับแขกก็เลื่อนมายังโต๊ะอาหาร จากนั้นมือเขาก็กวาดแจกันบนโต๊ะ แอนนาไหวตัวทันรีบถือมันขึ้น“อันนี้ฉันเพิ่งซื้อมาจากฝรั่งเศส” เขาไม่เสียดายแต่เธอเสียดาย คนหวงของก็ถือเอาไว้ เขาก็ดึงมันมาวางไว้บนตัวเธอจากนั้นก็สั่ง“ถ้าคุณเสียดายก็อย่าขยับ เพราะไม่งั้นมันจะแตก” จากนั้นเขาก็ถอดท่อนเอ
เขาหยิบเจลหล่อลื่นมาบีบใส่ร่องก้นของเธอแล้วลูบนิ้วถูไถ มุมปากยกยิ้มเหมือนเสือที่กำลังจะตะครุบเหยื่อ ไม่นานนิ้วที่เปียกลื่นก็สอดใส่เข้ามาเช่นเดียวกับท่อนเอ็น“อ๊ะ” แอนนาทรุดลงกับเบาะ แทบจะทรงตัวไม่อยู่แต่เขาก็ยกเอวเธอแล้วเร่งขยับเอวเธอไม่เสร็จตอนนี้ก็เรียกว่าแปลกแล้ว เธอเสร็จไปถึงห้าครั้งหลังจากเขาโยกอยู่เป็นชั่วโมง มาร์โกอุ้มเธอไปที่เตียงนอนจากนั้นก็ยังไม่วายอัดดันท่อนเอ็นเข้ามาอีก“ยกขาขึ้นอีก”ขาเธอแทบจะชี้ฟ้าก็ยังจะให้ยกอีก เขาจะเล่นกายกรรมหรือไง ดูท่าเธอไม่น่าจะรอด แต่แล้วเขาก็ลุกขึ้นสอดใส่ท่อนเอ็นก่อนจะโยกตัว“โอ๊ะ!!!” แอนนาร้องออกมาเพราะท่านี้ทำให้กระแทกลึกไปถึงมดลูก เธอร้องดังเท่าไร เขาก็ยิ่งกดกระแทกลงมา กลายเป็นว่ากว่าจะจบบทรักในห้องแดงเธอก็เสร็จไปอีกหลายรอบ ส่วนเขาเสร็จไปสามครั้ง ถ้ายังไม่ท้องอีกก็ไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้วหนึ่งเดือนต่อมา แอนนายกที่ตรวจครรภ์ขึ้นมามองใกล้ ๆ ก่อนจะวางลง คนตรงหน้ายักไหล่“เห็นไหมผมพูดถูก” เธอยอมแล้วจริง ๆ หนึ่งปีที่ผ่านมาเพราะเราเลี้ยงลูกกันเองเลยทำให้มีเวลาส่วนตัวน้อยลง แต่เขาก็ไม่เคยนอกลู่นอกทาง ยังคงรักษาสัญญาอย่างดีพอมาร์กัสถูกพาตัวไป
สรุปเธอให้เขาเข้ามาเพื่อปลอบเธอหรือเธอปลอบเขากันแน่ สุดท้ายเลยต้องพยายามอดกลั้นไม่ร้องจนถึงขีดสุดก็ถูกเข็นเข้าห้องคลอดตอนอยู่ข้างนอกว่าวุ่นวายแล้ว มาเจอตอนเห็นเลือดเธอเขายิ่งตกใจ พอหมอถือมีดจะกรีดด้านล่างมาร์โกก็มองเขม่น หมอจึงต้องอธิบาย“ผมต้องกรีดเปิดให้หัวเด็กออกมาครับ” แม้แต่หมอยังเกรงใจ คิดเอาเถอะ ก็เขาเล่นพกปืนเข้ามาด้วยแอนนาเบ่งลูก เรียกพลังเบ่งได้สองครั้งลูกก็ออกมา คงเพราะกลัวพ่อจะฆ่าหมอเสียก่อนเป็นแน่ เด็กน้อยร้องไห้เสียงดังลั่นห้อง หมอรับเด็กมาวางบนหน้าท้องเธอเพราะเธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ตอนนี้พอเห็นลูกมีไข่ใบใหญ่จึงทำให้เขาฉีกยิ้มยิ่งกว่าเดิม“เป็นผู้ชาย”“ครับเป็นผู้ชาย” หมอมองพ่อของเด็กแล้วก็บ่นในใจ คิดว่าอนาคตต้องลำบากแน่“เชิญคุณพ่อออกไปด้านนอกก่อนนะครับ เดี๋ยวพยาบาลจะทำความสะอาดคุณแม่แล้วพาไปห้องพักฟื้น”มาร์โกพยักหน้าเดินตามรถเข็นเด็กไปนอกห้องคลอด ลูกน้องเขารีบกรูเข้ามาดูเจ้านายอีกคน “ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ”“ผู้ชาย” ปากมาร์โกจะฉีกถึงหูแล้ว พอมาถึงห้องเด็กแรกเกิด พยาบาลก็ไม่ให้เขาเข้าไปเลยได้แต่มองอยู่นอกกระจก แอนนาเหมือนจะออกมาแล้วเช่นกันจึงห







