Masukคฤหาสน์ลิเบอรี
ขณะนี้คาร่ากำลังเฝ้ารอโดมินิกอย่างใจจดใจจ่อ เธอบินมาหาคู่หมั้นหนุ่มที่อเมริกาได้สองวันแล้ว แต่ก็ไม่เห็นแม้เงาของโดมินิก จนคุณนายซาร่า ลิเบอรี มารดาของชายหนุ่ม ต้องโทรไปตามพ่อลูกชายตัวดีให้มาหาว่าที่ลูกสะใภ้ของนางที่บ้าน โดยการออกคำสั่งอย่างเผด็จการ เมื่อมารดาสุดที่รักแต่ทว่าโหดยื่นคำขาดมาแบบนี้มีหรือเพลย์บอยหนุ่มจะไม่ยอมทำตามโดยดุษฎี
ระหว่างที่รออยู่นั้นคาร่าก็ลุกเดินไปเดินมา ชะเง้อชะแง้เฝ้าแต่แลรอคอยจนคอจะยาวไปถึงหน้าประตู บ้างก็วิ่งออกไปหน้าบ้าน ไม่นานก็กลับมานั่งลงแนบข้างมารดาของโดมินิก
“ใจเย็นๆ นะลูกเดี๋ยวพี่เขาก็มาแล้ว” ประมุขของบ้านวัยห้าสิบปลายๆ ที่ยังคงเค้าความสวยสง่าเอาไว้ไม่เสื่อมคลาย เอ่ยเหมือนให้กำลังใจว่าที่สะใภ้ พลางตบเบาๆ บนหลังมือที่กำลังบีบกันแน่น
“ค่ะคุณป้า” เจ้าของดวงหน้ากระจ่างใสรับคำโดยการพยักหน้าน้อยๆ ตอนนี้บอกไม่ได้ว่าคาร่ารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบหน้าคู่หมั้นหนุ่ม หรือหวาดหวั่นว่าเขาจะไม่กลับบ้านกันแน่ ความรู้สึกทั้งสองกำลังดาหน้ากันเข้ามา แต่ไม่รู้ว่าอันไหนมีน้ำหนักมากกว่ากันในเวลานี้
ไม่นานความหวังของคนรอก็เป็นจริง เมื่อมีเสียงรถเคลื่อนตัวมาด้วยความเร็วตามแรงอารมณ์ของเจ้าของ แล้วจอดลงที่มุขของคฤหาสน์หลังงาม
“เสียงรถพี่ดอมมาแล้วค่ะคุณป้า” คนชะเง้อชายตารอคู่หมั้นหนุ่มจนคอจะยาวเป็นยีราฟ หันมาพูดกับว่าที่คุณแม่ของสามีด้วยรอยยิ้มกว้าง
คาร่าเกิดอาการตื่นเต้นดีใจปนประหม่า เพราะไม่ได้เจอหน้าโดมินิกมาเกือบหนึ่งปีแล้ว เธอไปเรียนทางด้านดนตรีที่ประเทศฮังการี จึงไม่มีเวลาบินมาเยี่ยมเยียน ได้แต่โทรศัพท์มาหาเขา แต่ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่ชายหนุ่มจะพูดคุยดีๆ ด้วย หนักเข้าหน่อยเขาก็กดตัดสายทิ้ง ไม่ก็ไม่รับโทรศัพท์ซะเลย พอเรียนจบปุ๊บสาวน้อยก็ทนความคิดถึงไม่ไหว จึงมาหาเขาเพื่อทวงสัญญาที่ผู้ใหญ่ได้ให้ไว้เมื่อสิบปีก่อน ว่าถ้าคาร่าเรียนจบจะให้โดมินิกแต่งงานกับเธอ แต่ดูเหมือนว่าที่เจ้าบ่าวของเธอจะไม่ได้ยินดีกับการจับคลุมถุงชนในครั้งนี้เลยสักนิด
“มาแล้วเหรอพ่อตัวดี” ผู้เป็นแม่จีบปากจีบคอถามไถ่ลูกชายด้วยท่าทางหมั่นไส้ หากนางไม่ใช้ไม้ตายมีหรือพ่อเจ้าประคุณจะรีบบึ่งกลับบ้าน
“หวัดดีครับมัม คิดถึงจังเลยครับ” หนุ่มหล่อมองเมินสาวน้อยแสนสวยที่นั่งยิ้มหวาน แล้วเดินมาสวมกอดมารดาพร้อมทั้งหอมแก้มซ้ายขวาอย่างประจบเอาใจ
“อย่ามัวมาทำปากหวานเอาใจแม่อยู่เลยพ่อตัวดี คนที่แกสมควรจะเอาใจคือคนนี้ต่างหากล่ะ น้องอุตส่าห์มารอตั้งสองวันแล้ว” นางซาร่าขืนตัวออกจากอ้อมกอดของลูกชาย แล้วหันไปสนใจสาวน้อยที่นั่งทำตาแป๋ว
“พี่ดอมหวัดดีค่ะ” คาร่าเห็นเขาไม่สนใจไยดีก็แอบน้อยใจอยู่นิดๆ แต่เธอก็ไม่คิดที่จะย่อท้อ ในเมื่ออยากได้หัวใจเขามาเป็นของตัวเอง เธอก็จะลองตื้อพ่อสุดหล่อจอมหยิ่งดูสักตั้ง คิดได้ดังนั้น คนที่อุตส่าห์บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ จึงทักทายคู่หมั้นหนุ่มไปด้วยรอยยิ้มหวานหยด แต่แล้วก็ต้องทำหน้าสลด เมื่อเขาทำเมินราวกับเธอเป็นอากาศที่ล่องลอยไม่มีตัวตน
“วันนี้อาหารหน้าตาน่าทานทั้งนั้นเลยนะครับ มัมจัดต้อนรับลูกชายสุดหล่อใช่ไหมครับนี่” โดมินิกทำเป็นหูทวนลม ไม่สนใจแม้แต่จะมองหน้าคาร่า แต่หันไปกระเซ้ามารดาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าแทน
“ไม่ใช่ฝีมือแม่หรอกจ๊ะ ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของหนูคาร่าต่างหากล่ะ” ยกความดีความชอบให้ว่าที่ลูกสะใภ้ เอาใจช่วยสาวน้อยผู้น่ารัก เผื่อว่าบางทีจะเรียกคะแนนจากลูกชายใจแข็งของนางได้บ้าง
“ถ้าพี่ดอมชอบ ก็ทานเยอะๆ นะคะ” คาร่าส่งยิ้มหวานให้ชายที่ตัวเองรัก เธอโทรศัพท์มาถามแม่ของเขาว่าเขาชอบทานอะไร ในระหว่างที่เรียนอยู่ที่ฮังการี หากมีเวลาว่างคาร่าก็จะเข้าครัวฝึกปรือทำอาหารที่ว่าที่สามีชอบตลอด จนมั่นใจและกล้าที่จะโชว์ฝีมือให้เขาได้ลิ้มลองในวันนี้
“ถ้าเธอทำฉันไม่กิน เพราะแค่เห็นหน้าคนทำฉันก็เหม็นหืนมากพอแล้ว หากกระเดือกลงไปคงไม่แคล้วต้องไปล้วงคอเอาออก” โดมินิกมองคาร่าอย่างชิงชังรังเกียจ ไม่ชอบให้เธอมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของตน และเหนือสิ่งอื่นใดเขาเกลียดนักล่ะการถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก
“งั้นทานน้ำส้มคั้นนะคะ มาเหนื่อยๆ จะได้สดชื่น” สีหน้าสลดปรากฏให้เห็นเพียงแวบ ก่อนที่มันจะถูกเคลือบไว้ด้วยรอยยิ้ม พร้อมคำคะยั้นคะยอที่ตามมา
เพล้ง!!!
โดมินิกปัดแก้วน้ำส้มล้มคว่ำหกเรี่ยราดอย่างพาลๆ ไม่รู้เพราะอะไร ยิ่งเธอมาทำเป็นประจบเอาใจเขาก็ยิ่งหงุดหงิดอารมณ์เสีย
“ดอม!” ผู้เป็นแม่ปรามลูกชายเสียงแข็งตาเขียว
“ไม่เป็นไรค่ะ เอาแก้วใหม่นะคะ” คาร่าสูดอากาศเข้าปอดเรียกกำลังใจ ยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม แล้วบรรจงรินน้ำส้มลงในแก้วใบใหม่
“บอกว่าไม่กิน ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือยังไงกัน” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดตวาดลั่น ใบหน้าคมถมึงทึง ทั้งที่มารดานั่งอยู่ด้วยทั้งคน โดมินิกก็ไม่คิดจะรักษามารยาท
“โดมินิก!” นางซาร่าตวาดแว้ดด้วยความขุ่นเคือง เป็นที่รู้ดีว่าหากนางเปลี่ยนสรรพนามเรียกขานลูกชายแบบนี้แสดงว่ากำลังไม่พอใจอย่างถึงขีดสุด ส่วนคนที่โดนตัดรอนได้แต่แอบเสียใจ ไม่กล้าที่จะแสดงท่าทางเจ็บปวดออกมาให้เขาได้หัวเราะเยาะและสมเพช
“ผมขอคุยกับเธอซักครู่นะครับมัม” ไม่รอฟังคำอนุญาตจากปากของมารดา พอพูดจบโดมินิกก็ลุกขึ้นแล้วฉุดกระชากลากดึงร่างของคาร่ามาที่สวนหลังบ้านทันที
“ดอมอย่าทำอะไรรุนแรงกับน้องนะลูก” ผู้เป็นแม่ได้แต่ตะโกนไล่หลังมาเตือนสติบุตรชาย ส่วนในใจก็แอบภาวนาว่าโดมินิกจะมองเห็นแก่นแท้ของสาวน้อยผู้น่ารัก เหมือนดังที่นางเห็นมาตลอดตั้งแต่คาร่ายังเป็นเด็ก จนเกิดอาการรักและอ็นดู สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวต้องไปสู่ขอมาเป็นสะใภ้
เห็นร่างบางกำลังจะก้าวขาพ้นประตูบริษัท เขาจะไม่ยอมให้เธอเดินลอยหน้าจากไปโดยที่ยังไม่ได้สั่งสอนและเอาคืน คิดได้ดังนั้น ร่างใหญ่ก็ผุดลุกขึ้น เป็นเหตุให้ลูกน้องคู่ใจลุกตามเจ้านายโดยอัตโนมัติ แฟรงค์กำลังจะก้าวขาตามกลับต้องชะงักเมื่อโดนสายตาดุปรามเอาไว้“เดี๋ยวก่อน” เจ้าของร่างใหญ่วิ่งตามมาทันที่ทางเดินแคบๆ ข้างบริษัท ถือวิสาสะคว้าหมับเข้าที่ข้อมือน้อยของสาวแสบจอมใจไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ตัวเองโดนฉวยข้อมือจากคนเบื้องหลัง ใครกันนะที่บังอาจมากระตุกต่อมน้ำโหขาโหด ไวเท่าความคิด ใบหน้าบึ้งตึงหันขวับกลับมา แล้วจิกตาลงมองมือใหญ่ที่กุมมือเธออยู่ ค่อยๆ เงยหน้ามองเจ้าของมืออย่างมีชั้นเชิง ไม่กระโตกกระตาก แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง แต่ยังไม่ได้พูดอะไรเขาก็โพล่งขึ้นซะก่อน“เธอมาทำอะไรที่นี่ยัยเด็กปากจัด” ลูเซียสเริ่มลงมือคิดบัญชีกับเธอทันที สายตาคมปลาบมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของคนตัวเล็กอย่างเหยียดๆ“อ้าว…นึกว่าใคร ที่แท้ก็คุณเอวยาวนั่นเอง” ไม่น่าเชื่อว่าโลกมันจะกลมได้ขนาดนี้ อยู่ดีๆ ก็นำพาให้เธอได้มาปะทะกับผู้ชายไร้มารยาทอีกหน“ว่าไงคะคุณ ยังอัดอั้นเพราะไม่ได้ปลดปล่อยจากวันนั้นอยู่เหรอ ถึงได้เที่ยวมาระรานคนอื
“หน้าด้านไม่หน้าด้านฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าฉันอยากได้คุณ และต้องเป็นคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่จะมาเป็นทั้งสามีและพ่อของลูกฉัน” บังคับไม่ให้เสียงสั่น พยายามกล้ำกลืนฝืนทนซ่อนความเสียใจไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบตึง“หากเธอยังคิดจะแต่งงานกับฉัน สิ่งที่เธอจะได้จากฉันไม่ใช่ทะเบียนสมรส แต่มันคือความเป็นผัว ที่ฉันจะยัดเยียดให้สาสมกับความร่านของเธอ”โดมินิกกระชากเสียงแข็งตอกใส่หน้าคาร่า แล้วร่างผึ่งผายก็เดินจากไป โดยไม่คิดที่จะสนใจเสียงร้องไห้กระซิกของคนที่โดนทำร้ายจิตใจอย่างแสนสาหัสอยู่เบื้องหลังสามวันหลังจากย้ายมาที่อิตาลี จอมใจก็เพิ่งจะเข้าบริษัทมารายงานตัวกับหัวหน้าแผนก แต่ก็ยังไม่ได้ทำงานอะไร เพราะหน้าที่ของเธอจะต้องผ่านองค์ประชุมให้ท่านประธานและท่านรองประธานพิจารณาเสียก่อน และก็แว่วๆ มาว่าเธอจะได้ร่วมทำงานในโปรเจคใหญ่ ที่มีท่านรองประธานเข้ามาคุมงานอย่างละเอียดโดยตรง เมื่อยังไม่มีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอัน หัวหน้าของเธอจึงบอกให้กลับไปพักผ่อน แล้วค่อยมาเริ่มงานในอาทิตย์หน้า“ไม่มีอะไรทำ งั้นไปหายัยน้ำผึ้งดีกว่า” คนที่กำลังเซ็งจัดพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา แววตาดูสดใสและมีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันตาว่าแล้วมือเรี
“พี่ดอมมีอะไรจะพูดกับคาร่าเหรอคะ หรือทนคิดถึงคาร่าไม่ไหว จนต้องลากออกมาอยู่กันตามลำพังถึงที่นี่” คนถูกลากออกมาเปิดประเด็นสนทนาขึ้นก่อน เพราะทนแรงกดดันจากความอึดอัดไม่ไหว ยิ่งเห็นเขาหันหลังให้และกำหมัดแน่นเธอยิ่งเหมือนจะหายใจไม่ออก“เฮอะ…อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยแม่คุณ แค่ฉันใช้อากาศหายใจร่วมกับเธอเพียงเสี้ยวนาที มันก็น่าสะอิดสะเอียนมากพอแล้ว” โดมินิกใช้วาจาเชือดเฉือนจิตใจคนฟังอย่างร้ายกาจ คาร่าเจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ จนอยากจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้น แต่เธอก็ทำอย่างใจคิดไม่ได้ หัวใจไม่รักดีมันเป็นของเขาซะแล้ว“งั้น…พี่ดอมก็คงลำบากหน่อยนะคะ ที่จะต้องใช้อากาศหายใจร่วมกับคาร่าไปตลอดชีวิต เพราะคาร่าจะเกาะแบบไม่ปล่อยแน่” ทั้งที่เจ็บแปลบในอกกับวาจากระแทกแดกดัน คาร่าก็ยังปั้นหน้ายิ้มหน้าระรื่น ก่อนจะใช้วาจาจัดจ้านโต้ตอบอย่างทัดเทียมกัน“คิดเหรอว่าฉันจะแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอ ฝันสูงไปแล้วมั้งแม่คุณ” โดมินิกเค้นเสียงอย่างขุ่นข้องหมองใจ ไม่รู้ว่าเธอจะอะไรกับเขานัก ทั้งที่เขาออกจะแสดงชัดเจนว่าไม่ต้องการเธอมาเป็นเมีย แต่แม่คุณยังตามตอแยเขาอย่างหน้าด้านๆ ผู้หญิงประเภทนี้หรือที่เขาจะเอามาเป็นแม่ของลูก
คฤหาสน์ลิเบอรีขณะนี้คาร่ากำลังเฝ้ารอโดมินิกอย่างใจจดใจจ่อ เธอบินมาหาคู่หมั้นหนุ่มที่อเมริกาได้สองวันแล้ว แต่ก็ไม่เห็นแม้เงาของโดมินิก จนคุณนายซาร่า ลิเบอรี มารดาของชายหนุ่ม ต้องโทรไปตามพ่อลูกชายตัวดีให้มาหาว่าที่ลูกสะใภ้ของนางที่บ้าน โดยการออกคำสั่งอย่างเผด็จการ เมื่อมารดาสุดที่รักแต่ทว่าโหดยื่นคำขาดมาแบบนี้มีหรือเพลย์บอยหนุ่มจะไม่ยอมทำตามโดยดุษฎีระหว่างที่รออยู่นั้นคาร่าก็ลุกเดินไปเดินมา ชะเง้อชะแง้เฝ้าแต่แลรอคอยจนคอจะยาวไปถึงหน้าประตู บ้างก็วิ่งออกไปหน้าบ้าน ไม่นานก็กลับมานั่งลงแนบข้างมารดาของโดมินิก“ใจเย็นๆ นะลูกเดี๋ยวพี่เขาก็มาแล้ว” ประมุขของบ้านวัยห้าสิบปลายๆ ที่ยังคงเค้าความสวยสง่าเอาไว้ไม่เสื่อมคลาย เอ่ยเหมือนให้กำลังใจว่าที่สะใภ้ พลางตบเบาๆ บนหลังมือที่กำลังบีบกันแน่น“ค่ะคุณป้า” เจ้าของดวงหน้ากระจ่างใสรับคำโดยการพยักหน้าน้อยๆ ตอนนี้บอกไม่ได้ว่าคาร่ารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบหน้าคู่หมั้นหนุ่ม หรือหวาดหวั่นว่าเขาจะไม่กลับบ้านกันแน่ ความรู้สึกทั้งสองกำลังดาหน้ากันเข้ามา แต่ไม่รู้ว่าอันไหนมีน้ำหนักมากกว่ากันในเวลานี้ไม่นานความหวังของคนรอก็เป็นจริง เมื่อมีเสียงรถเคลื่อนตัวมาด้วย
“ลองไปทำงานที่บริษัทผมดูไหม เผื่อมันจะเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับคุณบ้าง” คนไม่อยากจากสาวที่ตัวเองแอบปลื้มชักชวนด้วยท่าทางกระตือรือร้น เพียงหวังว่าข้อเสนอของตน จะสามารถเหนี่ยวรั้งสาวเอเชียร่างเล็กแต่ใจใหญ่ให้อยู่ทำงานที่อเมริกาต่อไปอีก“โอ๊ย…อย่าเลยค่ะ ฉันไม่อยากทำให้งานคุณเสียหาย ยัยจอมคนนี้ยิ่งมือบอนอยู่ด้วยสิ” จอมใจเข้าใจในคำพูดของอีกฝ่ายในทันที ว่าเขาอยากจะให้เธอเปลี่ยนใจอยู่ที่นี่ต่อไป จึงตอบกลับอย่างติดตลก เพื่อดับความตึงเครียดที่กำลังก่อตัวขึ้นลูกย่อมๆ“เฮ้อ…งั้นเราก็คงต้องไกลกันจริงๆ แล้วสินะ” ระบายลมหายใจออกมาแรงๆ โดมินิกรู้ดีว่าหากจอมใจได้ลั่นวาจาหรือตัดสินใจไปแล้ว ไม่มีทางที่เธอจะล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ แน่ ฉะนั้นสิ่งที่เขาพอทำได้ในตอนนี้คือยอมรับในการตัดสินใจของเธอ ปล่อยเธอไปก่อน แต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดมือไปอย่างเด็ดขาด“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะค่ะ” จอมใจพูดโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา แสร้งทำทีเป็นสนใจอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า จนเขาอดที่จะน้อยใจไม่ได้ ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยเลยสักครั้งที่หญิงสาวจะแสดงให้เขารู้ว่า เธอยอมแง้มหัวใจดวงแกร่งเปิดรับเขาบ้างแล้ว“ผมจะพยายามหาเวลา
โรงแรมแกรนด์ โอเปร่า ย่านบอร์ดเวย์ มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาท่ามกลางความเจริญของเมืองที่ดาษดื่นไปด้วยตึกระฟ้า ยังมีโรงแรมเก่าแก่ทว่าโอ่อ่าและหรูหรา ซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยเก่าและสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ถูกจัดให้อยู่ในอันดับหนึ่งในสิบของโรงแรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าและนักท่องเที่ยว จากนิตยสารแนะนำที่กิน ที่เที่ยวและที่พักชั้นนำของโลก โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ ใจกลางกรุงนิวยอร์กซิตี้ มหานครเอกและเมืองที่เจริญที่สุดในโลก แค่ชื่อของโรงแรมก็บ่งบอกและการันตีได้เป็นอย่างดีแล้วว่า เป็นสถานที่จัดแสดงโอเปร่าขึ้นชื่อของอเมริกา บางคนเรียกที่นี่ว่าโอเปร่าเฮาส์ ซึ่งโอเปร่าเฮาส์ที่ว่านี้หาใช่โรงอุปรากรที่ซิดนีย์ ของประเทศออสเตรเลียแต่อย่างใด การแสดงโอเปร่าของทางโรงแรมแกรนด์ โอเปร่า จัดขึ้นเพื่อต้อนรับแขกที่เข้าพักโรงแรมและผู้ที่ชื่นชอบศิลปะการแสดงแขนงนี้จากทั่วทุกมุมโลก จะมีให้ชมกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ของทุกอาทิตย์ ทุกรอบที่มีการแสดงบัตรจะถูกขายจนหมดเกลี้ยง ฉะนั้นโอเปร่าจึงถือเป็นตัวชูโรงของโรงแรมชื่อดังแห่งนี้ วันนี้เป็นต้นสัปดาห์จึงไม่มีการจัดแสดงโอเปร่า ท







