Masuk“ลองไปทำงานที่บริษัทผมดูไหม เผื่อมันจะเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับคุณบ้าง” คนไม่อยากจากสาวที่ตัวเองแอบปลื้มชักชวนด้วยท่าทางกระตือรือร้น เพียงหวังว่าข้อเสนอของตน จะสามารถเหนี่ยวรั้งสาวเอเชียร่างเล็กแต่ใจใหญ่ให้อยู่ทำงานที่อเมริกาต่อไปอีก
“โอ๊ย…อย่าเลยค่ะ ฉันไม่อยากทำให้งานคุณเสียหาย ยัยจอมคนนี้ยิ่งมือบอนอยู่ด้วยสิ” จอมใจเข้าใจในคำพูดของอีกฝ่ายในทันที ว่าเขาอยากจะให้เธอเปลี่ยนใจอยู่ที่นี่ต่อไป จึงตอบกลับอย่างติดตลก เพื่อดับความตึงเครียดที่กำลังก่อตัวขึ้นลูกย่อมๆ
“เฮ้อ…งั้นเราก็คงต้องไกลกันจริงๆ แล้วสินะ” ระบายลมหายใจออกมาแรงๆ โดมินิกรู้ดีว่าหากจอมใจได้ลั่นวาจาหรือตัดสินใจไปแล้ว ไม่มีทางที่เธอจะล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ แน่ ฉะนั้นสิ่งที่เขาพอทำได้ในตอนนี้คือยอมรับในการตัดสินใจของเธอ ปล่อยเธอไปก่อน แต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดมือไปอย่างเด็ดขาด
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะค่ะ” จอมใจพูดโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา แสร้งทำทีเป็นสนใจอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า จนเขาอดที่จะน้อยใจไม่ได้ ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยเลยสักครั้งที่หญิงสาวจะแสดงให้เขารู้ว่า เธอยอมแง้มหัวใจดวงแกร่งเปิดรับเขาบ้างแล้ว
“ผมจะพยายามหาเวลาไปหาคุณบ่อยๆ แล้วกันนะ” น้ำเสียงของมหาเศรษฐีหนุ่มฟังดูจริงจังและจริงใจ โดมินิกรู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อยที่จอมใจจะย้ายไปทำงานที่อิตาลี อยู่ไกลหูไกลตาเขากลัวเหลือเกินว่าจะมีผู้ชายคนอื่นมาฉกตัวเธอไปซะก่อน
“ไม่ต้องให้ความสำคัญกับเพื่อนอย่างฉันขนาดนั้นก็ได้ค่ะ หากคิดถึงแค่โทรไปก็พอ” จอมใจไม่ได้ตัดรอนเลยซะทีเดียว แต่ก็พยายามตอกย้ำสถานะของทั้งสองให้อีกฝ่ายได้พึงระลึก เขาจะได้ไม่ต้องปักใจกับเธอมาก การรักษาระยะห่างเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย
“จอม ผม…”
ตี๊ด…ตี๊ด…ตี๊ด
ทั้งสองยังไม่ได้พูดอะไรกันมากไปกว่านั้น เสียงโทรศัพท์ของโดมินิกก็กรีดร้องขึ้นมารบกวนซะก่อน ทำให้วาจาที่ชายหนุ่มตั้งใจจะพรั่งพรูออกมาให้เธอได้รับรู้จากใจถูกพับเก็บไว้
มือเรียวหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างกระเป๋าสตางค์บนโต๊ะอาหารขึ้นมาดู เพียงเห็นชื่อของคนที่โทรมาโชว์หราอยู่ที่หน้าจอมือถือราคาแพง โดมินิกก็ต้องระบายลมหายใจออกมายืดยาว ทำเป็นเพิกเฉยปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้นอีกซักพัก ก่อนจะทำใจได้ถึงกดรับสายของมารดา
“ฮัลโหล หวัดดีครับมัม โทรหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ” เพลย์บอยหนุ่มรับสายเสียงเนือยๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายโทรมาด้วยเรื่องใด
“พ่อตัวดี ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน แม่ขอสั่งให้แกกลับบ้านก่อนที่คู่หมั้นแกจะมาถึง” เสียงสั่งการโดยผู้กุมอำนาจสูงสุดของบ้านลิเบอรีดังมาตามสาย โดมินิกเผลอยกมือขึ้นกุมขมับ ความเจ้ากี้เจ้าการของมารดาทำให้เขาอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก
“แต่ผมติดธุระอยู่นะครับมัม” ทำเสียงกระซิบกระซาบกรอกลงไปในสาย โกหกมารดาคำโต เพราะถ้าหากเขาบอกความจริงมีหวังโดนคุณนายซาร่าบ่นจนหูชาแน่ พักหลังมานี้มารดายิ่งคอยเข้ามายุ่มย่ามกับชีวิตส่วนตัว จนเขาแทบจะกระดิกตัวไปไหนไม่ได้
“โยนมันทิ้งไปก่อนไอ้ธุระอะไรของแก แล้วก็รีบกลับมาต้อนรับหนูคาร่าเดี๋ยวนี้” สั่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด จากนั้นคุณนายใหญ่แห่งตระกูลลิเบอรีก็ตัดสายไป
“บ้าเอ๊ย…มันจะอะไรกันนักหนาวะกับผู้หญิงคนนี้” โดมินิกหลุดสบถออกมาอย่างไม่อาจยั้งใจ คิดถึงคู่หมั้นสาวทีไรมันพลอยทำให้เขาหงุดหงิดอารมณ์เสียอยู่ร่ำไป ผู้หญิงอะไรขี้วีน ขี้เหวี่ยงและเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ เท่านั้นไม่พอ เธอยังอายุน้อยกว่าเขาเกือบเป็นรอบ ไม่รู้ว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงได้จับคู่เขากับยัยเด็กนั่น
“มีอะไรหรือเปล่าคะดอม หน้าเครียดเชียว” จอมใจเห็นอีกฝ่ายเกิดอาการโมโหจนหน้าดำหน้าแดง จึงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอกครับจอม แม่ผมแค่โทรมาตามให้กลับบ้าน” ตอบแบบไม่ทุกข์ร้อนอะไร ใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนมาฉาบด้วยรอยยิ้ม เขาไม่อยากจะทำตามบัญชาของมารดาในตอนนี้ ยังอยากจะอยู่กับผู้หญิงที่ตนแอบมีใจให้นานกว่านี้ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองถึงจะได้พบหน้ากันอีก
“งั้นก็กลับเถอะค่ะ อย่าขัดใจท่านเลย ฉันอิ่มพอดี” จอมใจบอกชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม รวบช้อนแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่มรวดเดียวหมด
“จอม…แล้วผมจะไปเยี่ยมจอมที่อิตาลีนะ” สายตาคมปลาบจ้องใบหน้างามไม่คลาดคลา เขาไม่ได้แค่พูดแต่เขาจะทำให้ได้อย่างที่พูดจริงๆ
โดมินิกเอื้อมไปฉวยมือบางของจอมใจมากระชับไว้ในอุ้งมือใหญ่ แล้วมองสบตาสื่อความหมายที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด เขาอยากจะขอคบกับเธออย่างจริงจังและเปิดเผย แต่ติดตรงที่ว่าตนยังสลัดคู่หมั้นที่ได้มาด้วยความไม่เต็มใจให้หลุดไปจากคอ จึงได้แต่แอบซ่อนความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อหญิงสาวเอาไว้ก่อน แต่อีกไม่นานหรอกเขาจะดำรงตำแหน่งคนโสด ไร้พันธะผูกพัน แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง โดมินิกจะยืดอกเดินเข้าไปจีบจอมใจได้อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ใช่ห่วงหน้าพะวงหลังอย่างเช่นในตอนนี้
“ค่ะ” จอมใจค่อยๆ ดึงมือออกมาจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย พร้อมกันนั้นก็รับคำเบาๆ เพราะไม่อยากให้เขาเสียใจ จึงเลือกที่จะถนอมน้ำใจในฐานะเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง ด้วยคำพูดที่คนฟังใจชื้น
“เดินทางปลอดภัยนะครับ” เจ้าของร่างผึ่งผายลุกขึ้นเต็มความสูงกว่าร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตร แล้วฉวยโอกาสกอดร่างบางไว้แนบอก สาวแสบได้แต่ยืนแข็งทื่อให้ชายหนุ่มโอบกอดจนพอใจ
จากนั้นทั้งสองก็โบกมืออำลา จอมใจรู้สึกโล่งอกขึ้นมาเป็นกอง ได้แต่แอบหวังอยู่ในใจลึกๆ ว่าการตัดสินใจย้ายไปทำงานที่อิตาลีของตัวเองในครั้งนี้ จะทำให้โดมินิกตัดใจจากเธอได้บ้างไม่มากก็น้อย เพราะสิ่งที่เธอจะให้กับเขาได้มีเพียงความรักและความห่วงใยในฐานะเพื่อน หาใช่คนรักไม่
เห็นร่างบางกำลังจะก้าวขาพ้นประตูบริษัท เขาจะไม่ยอมให้เธอเดินลอยหน้าจากไปโดยที่ยังไม่ได้สั่งสอนและเอาคืน คิดได้ดังนั้น ร่างใหญ่ก็ผุดลุกขึ้น เป็นเหตุให้ลูกน้องคู่ใจลุกตามเจ้านายโดยอัตโนมัติ แฟรงค์กำลังจะก้าวขาตามกลับต้องชะงักเมื่อโดนสายตาดุปรามเอาไว้“เดี๋ยวก่อน” เจ้าของร่างใหญ่วิ่งตามมาทันที่ทางเดินแคบๆ ข้างบริษัท ถือวิสาสะคว้าหมับเข้าที่ข้อมือน้อยของสาวแสบจอมใจไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ตัวเองโดนฉวยข้อมือจากคนเบื้องหลัง ใครกันนะที่บังอาจมากระตุกต่อมน้ำโหขาโหด ไวเท่าความคิด ใบหน้าบึ้งตึงหันขวับกลับมา แล้วจิกตาลงมองมือใหญ่ที่กุมมือเธออยู่ ค่อยๆ เงยหน้ามองเจ้าของมืออย่างมีชั้นเชิง ไม่กระโตกกระตาก แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง แต่ยังไม่ได้พูดอะไรเขาก็โพล่งขึ้นซะก่อน“เธอมาทำอะไรที่นี่ยัยเด็กปากจัด” ลูเซียสเริ่มลงมือคิดบัญชีกับเธอทันที สายตาคมปลาบมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของคนตัวเล็กอย่างเหยียดๆ“อ้าว…นึกว่าใคร ที่แท้ก็คุณเอวยาวนั่นเอง” ไม่น่าเชื่อว่าโลกมันจะกลมได้ขนาดนี้ อยู่ดีๆ ก็นำพาให้เธอได้มาปะทะกับผู้ชายไร้มารยาทอีกหน“ว่าไงคะคุณ ยังอัดอั้นเพราะไม่ได้ปลดปล่อยจากวันนั้นอยู่เหรอ ถึงได้เที่ยวมาระรานคนอื
“หน้าด้านไม่หน้าด้านฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าฉันอยากได้คุณ และต้องเป็นคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่จะมาเป็นทั้งสามีและพ่อของลูกฉัน” บังคับไม่ให้เสียงสั่น พยายามกล้ำกลืนฝืนทนซ่อนความเสียใจไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบตึง“หากเธอยังคิดจะแต่งงานกับฉัน สิ่งที่เธอจะได้จากฉันไม่ใช่ทะเบียนสมรส แต่มันคือความเป็นผัว ที่ฉันจะยัดเยียดให้สาสมกับความร่านของเธอ”โดมินิกกระชากเสียงแข็งตอกใส่หน้าคาร่า แล้วร่างผึ่งผายก็เดินจากไป โดยไม่คิดที่จะสนใจเสียงร้องไห้กระซิกของคนที่โดนทำร้ายจิตใจอย่างแสนสาหัสอยู่เบื้องหลังสามวันหลังจากย้ายมาที่อิตาลี จอมใจก็เพิ่งจะเข้าบริษัทมารายงานตัวกับหัวหน้าแผนก แต่ก็ยังไม่ได้ทำงานอะไร เพราะหน้าที่ของเธอจะต้องผ่านองค์ประชุมให้ท่านประธานและท่านรองประธานพิจารณาเสียก่อน และก็แว่วๆ มาว่าเธอจะได้ร่วมทำงานในโปรเจคใหญ่ ที่มีท่านรองประธานเข้ามาคุมงานอย่างละเอียดโดยตรง เมื่อยังไม่มีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอัน หัวหน้าของเธอจึงบอกให้กลับไปพักผ่อน แล้วค่อยมาเริ่มงานในอาทิตย์หน้า“ไม่มีอะไรทำ งั้นไปหายัยน้ำผึ้งดีกว่า” คนที่กำลังเซ็งจัดพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา แววตาดูสดใสและมีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันตาว่าแล้วมือเรี
“พี่ดอมมีอะไรจะพูดกับคาร่าเหรอคะ หรือทนคิดถึงคาร่าไม่ไหว จนต้องลากออกมาอยู่กันตามลำพังถึงที่นี่” คนถูกลากออกมาเปิดประเด็นสนทนาขึ้นก่อน เพราะทนแรงกดดันจากความอึดอัดไม่ไหว ยิ่งเห็นเขาหันหลังให้และกำหมัดแน่นเธอยิ่งเหมือนจะหายใจไม่ออก“เฮอะ…อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยแม่คุณ แค่ฉันใช้อากาศหายใจร่วมกับเธอเพียงเสี้ยวนาที มันก็น่าสะอิดสะเอียนมากพอแล้ว” โดมินิกใช้วาจาเชือดเฉือนจิตใจคนฟังอย่างร้ายกาจ คาร่าเจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ จนอยากจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้น แต่เธอก็ทำอย่างใจคิดไม่ได้ หัวใจไม่รักดีมันเป็นของเขาซะแล้ว“งั้น…พี่ดอมก็คงลำบากหน่อยนะคะ ที่จะต้องใช้อากาศหายใจร่วมกับคาร่าไปตลอดชีวิต เพราะคาร่าจะเกาะแบบไม่ปล่อยแน่” ทั้งที่เจ็บแปลบในอกกับวาจากระแทกแดกดัน คาร่าก็ยังปั้นหน้ายิ้มหน้าระรื่น ก่อนจะใช้วาจาจัดจ้านโต้ตอบอย่างทัดเทียมกัน“คิดเหรอว่าฉันจะแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอ ฝันสูงไปแล้วมั้งแม่คุณ” โดมินิกเค้นเสียงอย่างขุ่นข้องหมองใจ ไม่รู้ว่าเธอจะอะไรกับเขานัก ทั้งที่เขาออกจะแสดงชัดเจนว่าไม่ต้องการเธอมาเป็นเมีย แต่แม่คุณยังตามตอแยเขาอย่างหน้าด้านๆ ผู้หญิงประเภทนี้หรือที่เขาจะเอามาเป็นแม่ของลูก
คฤหาสน์ลิเบอรีขณะนี้คาร่ากำลังเฝ้ารอโดมินิกอย่างใจจดใจจ่อ เธอบินมาหาคู่หมั้นหนุ่มที่อเมริกาได้สองวันแล้ว แต่ก็ไม่เห็นแม้เงาของโดมินิก จนคุณนายซาร่า ลิเบอรี มารดาของชายหนุ่ม ต้องโทรไปตามพ่อลูกชายตัวดีให้มาหาว่าที่ลูกสะใภ้ของนางที่บ้าน โดยการออกคำสั่งอย่างเผด็จการ เมื่อมารดาสุดที่รักแต่ทว่าโหดยื่นคำขาดมาแบบนี้มีหรือเพลย์บอยหนุ่มจะไม่ยอมทำตามโดยดุษฎีระหว่างที่รออยู่นั้นคาร่าก็ลุกเดินไปเดินมา ชะเง้อชะแง้เฝ้าแต่แลรอคอยจนคอจะยาวไปถึงหน้าประตู บ้างก็วิ่งออกไปหน้าบ้าน ไม่นานก็กลับมานั่งลงแนบข้างมารดาของโดมินิก“ใจเย็นๆ นะลูกเดี๋ยวพี่เขาก็มาแล้ว” ประมุขของบ้านวัยห้าสิบปลายๆ ที่ยังคงเค้าความสวยสง่าเอาไว้ไม่เสื่อมคลาย เอ่ยเหมือนให้กำลังใจว่าที่สะใภ้ พลางตบเบาๆ บนหลังมือที่กำลังบีบกันแน่น“ค่ะคุณป้า” เจ้าของดวงหน้ากระจ่างใสรับคำโดยการพยักหน้าน้อยๆ ตอนนี้บอกไม่ได้ว่าคาร่ารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบหน้าคู่หมั้นหนุ่ม หรือหวาดหวั่นว่าเขาจะไม่กลับบ้านกันแน่ ความรู้สึกทั้งสองกำลังดาหน้ากันเข้ามา แต่ไม่รู้ว่าอันไหนมีน้ำหนักมากกว่ากันในเวลานี้ไม่นานความหวังของคนรอก็เป็นจริง เมื่อมีเสียงรถเคลื่อนตัวมาด้วย
“ลองไปทำงานที่บริษัทผมดูไหม เผื่อมันจะเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับคุณบ้าง” คนไม่อยากจากสาวที่ตัวเองแอบปลื้มชักชวนด้วยท่าทางกระตือรือร้น เพียงหวังว่าข้อเสนอของตน จะสามารถเหนี่ยวรั้งสาวเอเชียร่างเล็กแต่ใจใหญ่ให้อยู่ทำงานที่อเมริกาต่อไปอีก“โอ๊ย…อย่าเลยค่ะ ฉันไม่อยากทำให้งานคุณเสียหาย ยัยจอมคนนี้ยิ่งมือบอนอยู่ด้วยสิ” จอมใจเข้าใจในคำพูดของอีกฝ่ายในทันที ว่าเขาอยากจะให้เธอเปลี่ยนใจอยู่ที่นี่ต่อไป จึงตอบกลับอย่างติดตลก เพื่อดับความตึงเครียดที่กำลังก่อตัวขึ้นลูกย่อมๆ“เฮ้อ…งั้นเราก็คงต้องไกลกันจริงๆ แล้วสินะ” ระบายลมหายใจออกมาแรงๆ โดมินิกรู้ดีว่าหากจอมใจได้ลั่นวาจาหรือตัดสินใจไปแล้ว ไม่มีทางที่เธอจะล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ แน่ ฉะนั้นสิ่งที่เขาพอทำได้ในตอนนี้คือยอมรับในการตัดสินใจของเธอ ปล่อยเธอไปก่อน แต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดมือไปอย่างเด็ดขาด“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะค่ะ” จอมใจพูดโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา แสร้งทำทีเป็นสนใจอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า จนเขาอดที่จะน้อยใจไม่ได้ ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยเลยสักครั้งที่หญิงสาวจะแสดงให้เขารู้ว่า เธอยอมแง้มหัวใจดวงแกร่งเปิดรับเขาบ้างแล้ว“ผมจะพยายามหาเวลา
โรงแรมแกรนด์ โอเปร่า ย่านบอร์ดเวย์ มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาท่ามกลางความเจริญของเมืองที่ดาษดื่นไปด้วยตึกระฟ้า ยังมีโรงแรมเก่าแก่ทว่าโอ่อ่าและหรูหรา ซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยเก่าและสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ถูกจัดให้อยู่ในอันดับหนึ่งในสิบของโรงแรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าและนักท่องเที่ยว จากนิตยสารแนะนำที่กิน ที่เที่ยวและที่พักชั้นนำของโลก โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ ใจกลางกรุงนิวยอร์กซิตี้ มหานครเอกและเมืองที่เจริญที่สุดในโลก แค่ชื่อของโรงแรมก็บ่งบอกและการันตีได้เป็นอย่างดีแล้วว่า เป็นสถานที่จัดแสดงโอเปร่าขึ้นชื่อของอเมริกา บางคนเรียกที่นี่ว่าโอเปร่าเฮาส์ ซึ่งโอเปร่าเฮาส์ที่ว่านี้หาใช่โรงอุปรากรที่ซิดนีย์ ของประเทศออสเตรเลียแต่อย่างใด การแสดงโอเปร่าของทางโรงแรมแกรนด์ โอเปร่า จัดขึ้นเพื่อต้อนรับแขกที่เข้าพักโรงแรมและผู้ที่ชื่นชอบศิลปะการแสดงแขนงนี้จากทั่วทุกมุมโลก จะมีให้ชมกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ของทุกอาทิตย์ ทุกรอบที่มีการแสดงบัตรจะถูกขายจนหมดเกลี้ยง ฉะนั้นโอเปร่าจึงถือเป็นตัวชูโรงของโรงแรมชื่อดังแห่งนี้ วันนี้เป็นต้นสัปดาห์จึงไม่มีการจัดแสดงโอเปร่า ท







