Masuk“พี่ดอมมีอะไรจะพูดกับคาร่าเหรอคะ หรือทนคิดถึงคาร่าไม่ไหว จนต้องลากออกมาอยู่กันตามลำพังถึงที่นี่” คนถูกลากออกมาเปิดประเด็นสนทนาขึ้นก่อน เพราะทนแรงกดดันจากความอึดอัดไม่ไหว ยิ่งเห็นเขาหันหลังให้และกำหมัดแน่นเธอยิ่งเหมือนจะหายใจไม่ออก
“เฮอะ…อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยแม่คุณ แค่ฉันใช้อากาศหายใจร่วมกับเธอเพียงเสี้ยวนาที มันก็น่าสะอิดสะเอียนมากพอแล้ว” โดมินิกใช้วาจาเชือดเฉือนจิตใจคนฟังอย่างร้ายกาจ คาร่าเจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ จนอยากจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้น แต่เธอก็ทำอย่างใจคิดไม่ได้ หัวใจไม่รักดีมันเป็นของเขาซะแล้ว
“งั้น…พี่ดอมก็คงลำบากหน่อยนะคะ ที่จะต้องใช้อากาศหายใจร่วมกับคาร่าไปตลอดชีวิต เพราะคาร่าจะเกาะแบบไม่ปล่อยแน่” ทั้งที่เจ็บแปลบในอกกับวาจากระแทกแดกดัน คาร่าก็ยังปั้นหน้ายิ้มหน้าระรื่น ก่อนจะใช้วาจาจัดจ้านโต้ตอบอย่างทัดเทียมกัน
“คิดเหรอว่าฉันจะแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอ ฝันสูงไปแล้วมั้งแม่คุณ” โดมินิกเค้นเสียงอย่างขุ่นข้องหมองใจ ไม่รู้ว่าเธอจะอะไรกับเขานัก ทั้งที่เขาออกจะแสดงชัดเจนว่าไม่ต้องการเธอมาเป็นเมีย แต่แม่คุณยังตามตอแยเขาอย่างหน้าด้านๆ ผู้หญิงประเภทนี้หรือที่เขาจะเอามาเป็นแม่ของลูก บอกได้คำเดียวว่าไม่….ฝันไปเถอะ ไม่มีทาง
“ก็เอาซี้…หากพี่ดอมกล้าปฏิเสธคำสั่งของป้าซาร่า” น้ำเสียงแหลมปรี๊ดของคาร่าท้าทายอย่างอวดดี โดยยกเอามารดาของชายหนุ่มขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการเอาชนะในครั้งนี้
“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ยัยผู้หญิงหน้าไม่อาย อยากมีผัวจนตัวสั่น” โดมินิกสาดคำอันแสนน่ารังเกียจใส่คาร่าอย่างไม่คิดจะรักษาความป็นสุภาพบุรุษ
“คาร่าก็อยากรู้เหมือนกัน หากคุณป้ารู้ว่าพี่ดอมกำลังติดแม่สาวเอเชียอยู่ คุณป้าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง” คำพูดที่พรั่งพรูออกมาจากปากรั้นๆ ทำเอาโดมินิกถึงกับควันออกหู คาร่าช่างบังอาจนัก กล้าติดตามเรื่องส่วนตัวของเขา จนถึงขนาดรู้ว่าเขากำลังตามเทียวไล้เทียวขื่อจอมใจอยู่
“แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน คนอย่างเธอมันรนหาที่เองทั้งนั้น” ข่มขู่เสียงเย็น พร้อมใช้สายตาหยามหยันมองไปทั้งสรรพางค์กายของคู่หมั้นสาว
“แล้วถ้าคาร่าไม่เชื่อคำเตือน พี่ดอมจะทำยังไงกับคาร่าไม่ทราบ” ลอยหน้าท้าทายเสือร้ายอย่างไม่หวั่นเกรง เพราะแม่สาวน้อยคิดว่ายังไงตัวเองก็มีคนหนุนหลังอยู่แล้ว
คนไม่ชอบโดนท้าเกิดอาการของขึ้นในบัดดล ชายหนุ่มไม่ได้ตอบโต้ด้วยวาจา แต่เลือกที่จะเอาคืนเธอด้วยการกระทำที่เหนือกว่า เพียงชั่วพริบตาร่างของคนช่างยั่วอารมณ์ก็ปลิวไปปะทะแผงอกกว้าง พร้อมกับวงแขนแกร่งล็อคกายทั้งสองให้เข้าแนบชิดจนหายใจรินรดกัน สีหน้าแตกตื่นทำให้เขาถึงกับแสยะยิ้มที่มุมปาก โดมินิกโฉบริมฝีปากหยักจุมพิตลงทันฑ์ริมฝีปากจิ้มลิ้มอย่างแรง
จงใจบดคลึงกลีบปากสวยอย่างกระแทกกระทั้นจนแทบชอกช้ำ คาร่าระดมกำปั้นน้อยทุบที่ไหล่กว้างพัลวัน แต่ก็ไม่ทำให้เขากระเทือนได้แม้แต่น้อย ชายหนุ่มยังคงตะโบมจูบเธอไม่หยุดหย่อน มือใหญ่ตรึงปลายคางมนที่เอาแต่ส่ายสะบัดให้รับจุมพิตเร่าร้อนได้อย่างถนัดถนี่ จากที่คิดจะลงทัณฑ์กลายเป็นละเลียดเอาความหวานฉ่ำภายในโพรงปากอิ่มอุ่นจนถ้วนทั่ว ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงร่านอย่างเธอจะยังหลงเหลือความหวานอยู่ คาร่าอ่อนระทวยไปกับจุมพิตแรกในชีวิตสาว ยอมแย้มริมฝีปากรับจุมพิตเจนจัดอย่างไม่อาจหักห้ามใจ
“ฮึ…แค่จูบก็ทำเป็นเคลิ้มแล้วเหรอ ร่านดีนี่!” รอยยิ้มหยันผุดขึ้นที่มุมปากสีแดงสด ผลักร่างบางด้วยความแรง จนคาร่าเสียหลักลงไปนั่งจุมปุกอยู่กับพื้น หากมันไม่ใช่หญ้าป่านนี้ก้นของเธอคงจะระบมไปแล้ว
คำด่าทอแบบซึ่งๆ หน้า ทำให้ใบหน้างามชาวาบเหมือนโดนตบฉาดใหญ่ ความโกรธมันบังตาจนเห็นคนร่างสูงใหญ่ตรงหน้าตัวกระจ้อยร่อยเท่ามด หญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้วรี่เข้าหาร่างใหญ่ของคนที่กำลังยืนแสยะยิ้มด้วยความสมเพช ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าหล่อบาดใจอย่างไม่คิดจะออมแรง
เพี๊ยะ!!!
“นี่คือรางวัลของคำพูดสั่วๆ ของคนที่ฉันเคยคิดว่าเป็นผู้ดีแบบคุณ คุณมันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกที่อาศัยอยู่ในสลัม” สรรพนามที่เคยใช้เรียกอย่างสนิทสนมแปรเปลี่ยนไปในทันที คาร่าลดมือลงเปลี่ยนมากำหมัดไว้แนบลำตัว กัดฟันต่อว่าเขาด้วยความแค้นเคืองในท้ายประโยค
“อยากตายนักหรือไง ถึงได้กล้ามาด่าฉันด้วยวาจาสถุลแบบนั้น” ย่างสามขุมเข้าหาร่างที่กำลังสั่นเทิ้มด้วยความโกรธจนเลือดขึ้นหน้า พริบตาเดียวร่างสูงใหญ่ประหนึ่งยักษ์ปักหลั่นก็มายืนค้ำหัวของคาร่า มือหนาจิกลงไปบนไหล่มนโดยไม่คิดจะผ่อนแรง
“ไม่ได้อยากตายหรอกค่ะ ฉันแค่ทนความร้ายกาจของผู้ชายอย่างคุณไม่ไหว ก็เท่านั้นเอง” ทั้งที่เจ็บเจียนน้ำตาเล็ด แต่คาร่าก็ยังสู้อุตส่าห์กัดฟันทนความเจ็บจากแรงมือที่กำลุงขยุ้มหัวไหล่ของตน เงยหน้าเค้นลมหายใจออกมาเป็นคำพูด ตอบโต้กลับอย่างไม่หวั่นเกรง
“ถ้าทนผู้ชายอย่างฉันไม่ไหว ก็ยกเลิกงานแต่งซะสิ เพราะหากเธอยังดันทุรังให้งานแต่งซังกะบ๊วยเกิดขึ้นอีกล่ะก็ เธอจะทรมานยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็นซะอีก” ทุกคำที่โดมินิกเปล่งออกมา มันมีทั้งการท้าทายและออกคำสั่งผสมผสานกันไปในน้ำเสียงกร้าวกระด้างนั้น
“ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันว่าทะเลาะกันแบบนี้ก็ดี เผื่อว่าชีวิตคู่ของเราจะมีสีสันซู่ซ่า จนคนอื่นเขาอิจฉาตาลุกเป็นไฟ” หญิงสาวปฏิเสธเสียงหวานหยด แถมยังปั้นหน้ายิ้มยั่วยวนกวนอารมณ์ จนคนมองต้องบดกรามแล้วบดกรามอีก
ถึงแม้ชายหนุ่มจะดุด่า กระแทกแดกดันด้วยถ้อยคำชวนให้เจ็บปวดหัวใจ คาร่าก็เลือกที่จะอดกลั้น และปั้นหน้ารับอย่างไม่รู้สึกรู้สา เพราะอย่างน้อยในช่วงเวลาที่เขาดุด่าว่ากล่าวและขับไล่ไสส่งอย่างไม่เกรงใจ ความสนใจทั้งหมดของเขาก็ตกอยู่ที่เธอแต่เพียงผู้เดียว
“เฮอะ…ที่แท้ก็อยากมีผัวจนตัวสั่น แต่ไม่มีใครเอา เลยคิดจะมาจับฉัน มันไม่หน้าด้านไปหน่อยเหรอแม่คุณ” รอยหยันปรากฏขึ้นทั้งในดวงตาและริมฝีปาก
ฉาด!!!
นี่เป็นครั้งที่สองที่คาร่ากล้าที่จะตอบแทนวาจาดูแคลนด้วยฝ่ามือของตัวเอง เธอไม่รู้สึกผิดเลยสักนิดที่ใช้วิธีนี้โต้ตอบเขา ความเจ็บจากลูกตบเพียงน้อยนิดที่เขาได้รับจากเธอ มันเทียบกันไม่ได้เลยกับถ้อยคำอันร้ายกาจจากเขาที่สาดซัดใส่อย่างไม่คิดจะผ่อนปรน
เห็นร่างบางกำลังจะก้าวขาพ้นประตูบริษัท เขาจะไม่ยอมให้เธอเดินลอยหน้าจากไปโดยที่ยังไม่ได้สั่งสอนและเอาคืน คิดได้ดังนั้น ร่างใหญ่ก็ผุดลุกขึ้น เป็นเหตุให้ลูกน้องคู่ใจลุกตามเจ้านายโดยอัตโนมัติ แฟรงค์กำลังจะก้าวขาตามกลับต้องชะงักเมื่อโดนสายตาดุปรามเอาไว้“เดี๋ยวก่อน” เจ้าของร่างใหญ่วิ่งตามมาทันที่ทางเดินแคบๆ ข้างบริษัท ถือวิสาสะคว้าหมับเข้าที่ข้อมือน้อยของสาวแสบจอมใจไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ตัวเองโดนฉวยข้อมือจากคนเบื้องหลัง ใครกันนะที่บังอาจมากระตุกต่อมน้ำโหขาโหด ไวเท่าความคิด ใบหน้าบึ้งตึงหันขวับกลับมา แล้วจิกตาลงมองมือใหญ่ที่กุมมือเธออยู่ ค่อยๆ เงยหน้ามองเจ้าของมืออย่างมีชั้นเชิง ไม่กระโตกกระตาก แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง แต่ยังไม่ได้พูดอะไรเขาก็โพล่งขึ้นซะก่อน“เธอมาทำอะไรที่นี่ยัยเด็กปากจัด” ลูเซียสเริ่มลงมือคิดบัญชีกับเธอทันที สายตาคมปลาบมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของคนตัวเล็กอย่างเหยียดๆ“อ้าว…นึกว่าใคร ที่แท้ก็คุณเอวยาวนั่นเอง” ไม่น่าเชื่อว่าโลกมันจะกลมได้ขนาดนี้ อยู่ดีๆ ก็นำพาให้เธอได้มาปะทะกับผู้ชายไร้มารยาทอีกหน“ว่าไงคะคุณ ยังอัดอั้นเพราะไม่ได้ปลดปล่อยจากวันนั้นอยู่เหรอ ถึงได้เที่ยวมาระรานคนอื
“หน้าด้านไม่หน้าด้านฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าฉันอยากได้คุณ และต้องเป็นคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่จะมาเป็นทั้งสามีและพ่อของลูกฉัน” บังคับไม่ให้เสียงสั่น พยายามกล้ำกลืนฝืนทนซ่อนความเสียใจไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบตึง“หากเธอยังคิดจะแต่งงานกับฉัน สิ่งที่เธอจะได้จากฉันไม่ใช่ทะเบียนสมรส แต่มันคือความเป็นผัว ที่ฉันจะยัดเยียดให้สาสมกับความร่านของเธอ”โดมินิกกระชากเสียงแข็งตอกใส่หน้าคาร่า แล้วร่างผึ่งผายก็เดินจากไป โดยไม่คิดที่จะสนใจเสียงร้องไห้กระซิกของคนที่โดนทำร้ายจิตใจอย่างแสนสาหัสอยู่เบื้องหลังสามวันหลังจากย้ายมาที่อิตาลี จอมใจก็เพิ่งจะเข้าบริษัทมารายงานตัวกับหัวหน้าแผนก แต่ก็ยังไม่ได้ทำงานอะไร เพราะหน้าที่ของเธอจะต้องผ่านองค์ประชุมให้ท่านประธานและท่านรองประธานพิจารณาเสียก่อน และก็แว่วๆ มาว่าเธอจะได้ร่วมทำงานในโปรเจคใหญ่ ที่มีท่านรองประธานเข้ามาคุมงานอย่างละเอียดโดยตรง เมื่อยังไม่มีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอัน หัวหน้าของเธอจึงบอกให้กลับไปพักผ่อน แล้วค่อยมาเริ่มงานในอาทิตย์หน้า“ไม่มีอะไรทำ งั้นไปหายัยน้ำผึ้งดีกว่า” คนที่กำลังเซ็งจัดพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา แววตาดูสดใสและมีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันตาว่าแล้วมือเรี
“พี่ดอมมีอะไรจะพูดกับคาร่าเหรอคะ หรือทนคิดถึงคาร่าไม่ไหว จนต้องลากออกมาอยู่กันตามลำพังถึงที่นี่” คนถูกลากออกมาเปิดประเด็นสนทนาขึ้นก่อน เพราะทนแรงกดดันจากความอึดอัดไม่ไหว ยิ่งเห็นเขาหันหลังให้และกำหมัดแน่นเธอยิ่งเหมือนจะหายใจไม่ออก“เฮอะ…อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยแม่คุณ แค่ฉันใช้อากาศหายใจร่วมกับเธอเพียงเสี้ยวนาที มันก็น่าสะอิดสะเอียนมากพอแล้ว” โดมินิกใช้วาจาเชือดเฉือนจิตใจคนฟังอย่างร้ายกาจ คาร่าเจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ จนอยากจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้น แต่เธอก็ทำอย่างใจคิดไม่ได้ หัวใจไม่รักดีมันเป็นของเขาซะแล้ว“งั้น…พี่ดอมก็คงลำบากหน่อยนะคะ ที่จะต้องใช้อากาศหายใจร่วมกับคาร่าไปตลอดชีวิต เพราะคาร่าจะเกาะแบบไม่ปล่อยแน่” ทั้งที่เจ็บแปลบในอกกับวาจากระแทกแดกดัน คาร่าก็ยังปั้นหน้ายิ้มหน้าระรื่น ก่อนจะใช้วาจาจัดจ้านโต้ตอบอย่างทัดเทียมกัน“คิดเหรอว่าฉันจะแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอ ฝันสูงไปแล้วมั้งแม่คุณ” โดมินิกเค้นเสียงอย่างขุ่นข้องหมองใจ ไม่รู้ว่าเธอจะอะไรกับเขานัก ทั้งที่เขาออกจะแสดงชัดเจนว่าไม่ต้องการเธอมาเป็นเมีย แต่แม่คุณยังตามตอแยเขาอย่างหน้าด้านๆ ผู้หญิงประเภทนี้หรือที่เขาจะเอามาเป็นแม่ของลูก
คฤหาสน์ลิเบอรีขณะนี้คาร่ากำลังเฝ้ารอโดมินิกอย่างใจจดใจจ่อ เธอบินมาหาคู่หมั้นหนุ่มที่อเมริกาได้สองวันแล้ว แต่ก็ไม่เห็นแม้เงาของโดมินิก จนคุณนายซาร่า ลิเบอรี มารดาของชายหนุ่ม ต้องโทรไปตามพ่อลูกชายตัวดีให้มาหาว่าที่ลูกสะใภ้ของนางที่บ้าน โดยการออกคำสั่งอย่างเผด็จการ เมื่อมารดาสุดที่รักแต่ทว่าโหดยื่นคำขาดมาแบบนี้มีหรือเพลย์บอยหนุ่มจะไม่ยอมทำตามโดยดุษฎีระหว่างที่รออยู่นั้นคาร่าก็ลุกเดินไปเดินมา ชะเง้อชะแง้เฝ้าแต่แลรอคอยจนคอจะยาวไปถึงหน้าประตู บ้างก็วิ่งออกไปหน้าบ้าน ไม่นานก็กลับมานั่งลงแนบข้างมารดาของโดมินิก“ใจเย็นๆ นะลูกเดี๋ยวพี่เขาก็มาแล้ว” ประมุขของบ้านวัยห้าสิบปลายๆ ที่ยังคงเค้าความสวยสง่าเอาไว้ไม่เสื่อมคลาย เอ่ยเหมือนให้กำลังใจว่าที่สะใภ้ พลางตบเบาๆ บนหลังมือที่กำลังบีบกันแน่น“ค่ะคุณป้า” เจ้าของดวงหน้ากระจ่างใสรับคำโดยการพยักหน้าน้อยๆ ตอนนี้บอกไม่ได้ว่าคาร่ารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบหน้าคู่หมั้นหนุ่ม หรือหวาดหวั่นว่าเขาจะไม่กลับบ้านกันแน่ ความรู้สึกทั้งสองกำลังดาหน้ากันเข้ามา แต่ไม่รู้ว่าอันไหนมีน้ำหนักมากกว่ากันในเวลานี้ไม่นานความหวังของคนรอก็เป็นจริง เมื่อมีเสียงรถเคลื่อนตัวมาด้วย
“ลองไปทำงานที่บริษัทผมดูไหม เผื่อมันจะเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับคุณบ้าง” คนไม่อยากจากสาวที่ตัวเองแอบปลื้มชักชวนด้วยท่าทางกระตือรือร้น เพียงหวังว่าข้อเสนอของตน จะสามารถเหนี่ยวรั้งสาวเอเชียร่างเล็กแต่ใจใหญ่ให้อยู่ทำงานที่อเมริกาต่อไปอีก“โอ๊ย…อย่าเลยค่ะ ฉันไม่อยากทำให้งานคุณเสียหาย ยัยจอมคนนี้ยิ่งมือบอนอยู่ด้วยสิ” จอมใจเข้าใจในคำพูดของอีกฝ่ายในทันที ว่าเขาอยากจะให้เธอเปลี่ยนใจอยู่ที่นี่ต่อไป จึงตอบกลับอย่างติดตลก เพื่อดับความตึงเครียดที่กำลังก่อตัวขึ้นลูกย่อมๆ“เฮ้อ…งั้นเราก็คงต้องไกลกันจริงๆ แล้วสินะ” ระบายลมหายใจออกมาแรงๆ โดมินิกรู้ดีว่าหากจอมใจได้ลั่นวาจาหรือตัดสินใจไปแล้ว ไม่มีทางที่เธอจะล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ แน่ ฉะนั้นสิ่งที่เขาพอทำได้ในตอนนี้คือยอมรับในการตัดสินใจของเธอ ปล่อยเธอไปก่อน แต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดมือไปอย่างเด็ดขาด“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะค่ะ” จอมใจพูดโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา แสร้งทำทีเป็นสนใจอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า จนเขาอดที่จะน้อยใจไม่ได้ ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยเลยสักครั้งที่หญิงสาวจะแสดงให้เขารู้ว่า เธอยอมแง้มหัวใจดวงแกร่งเปิดรับเขาบ้างแล้ว“ผมจะพยายามหาเวลา
โรงแรมแกรนด์ โอเปร่า ย่านบอร์ดเวย์ มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาท่ามกลางความเจริญของเมืองที่ดาษดื่นไปด้วยตึกระฟ้า ยังมีโรงแรมเก่าแก่ทว่าโอ่อ่าและหรูหรา ซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยเก่าและสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ถูกจัดให้อยู่ในอันดับหนึ่งในสิบของโรงแรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าและนักท่องเที่ยว จากนิตยสารแนะนำที่กิน ที่เที่ยวและที่พักชั้นนำของโลก โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ ใจกลางกรุงนิวยอร์กซิตี้ มหานครเอกและเมืองที่เจริญที่สุดในโลก แค่ชื่อของโรงแรมก็บ่งบอกและการันตีได้เป็นอย่างดีแล้วว่า เป็นสถานที่จัดแสดงโอเปร่าขึ้นชื่อของอเมริกา บางคนเรียกที่นี่ว่าโอเปร่าเฮาส์ ซึ่งโอเปร่าเฮาส์ที่ว่านี้หาใช่โรงอุปรากรที่ซิดนีย์ ของประเทศออสเตรเลียแต่อย่างใด การแสดงโอเปร่าของทางโรงแรมแกรนด์ โอเปร่า จัดขึ้นเพื่อต้อนรับแขกที่เข้าพักโรงแรมและผู้ที่ชื่นชอบศิลปะการแสดงแขนงนี้จากทั่วทุกมุมโลก จะมีให้ชมกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ของทุกอาทิตย์ ทุกรอบที่มีการแสดงบัตรจะถูกขายจนหมดเกลี้ยง ฉะนั้นโอเปร่าจึงถือเป็นตัวชูโรงของโรงแรมชื่อดังแห่งนี้ วันนี้เป็นต้นสัปดาห์จึงไม่มีการจัดแสดงโอเปร่า ท







