เจียงหวานหว่านนั่งลงไปบนเก้าอี้ ยกกาน้ำชาเพื่อรินชาจอกหนึ่งให้ตัวเองดื่ม"ชารสชาติไม่เลว"เฉาหยูเฟิ่งกัดฟันพูด "อย่าคิดนะว่าได้เข้ามาอยู่ในจวนเจียงแล้ว ทุกอย่างจะราบรื่น ข้าต่างหากที่เป็นเจียงฮูหยิน!"เจียงหวานหว่านเลิกคิ้ว"อ่อ หรือเจ้าคิดว่าท่านพ่อจะยอมสละอนาคตขุนนางเพื่อเจ้ากัน!"เฉาหยูเฟิ่งเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ก็ใจหายวาบ นายท่านให้ความสำคัญกับอำนาจและตำแหน่งของเขาเป็นที่สุด ไม่มีทางยอมเสียสละเพื่อใครแน่เจียงหวานหว่านหลุบตามองต่ำ บีบไปที่หัวคิ้วตัวเอง "แย่งครอบครัวของคนอื่น ผิดครรลองครองธรรม!""เจ้าต้องการอะไรกันแน่"เจียงหวานหว่านยกมุมปากขึ้น "เงินไง ดูแลจวนเจียงมาตั้งนานหลายปี ตักตวงผลประโยชน์ไปไม่รู้แล้วตั้งเท่าไร สมควรคายออกมาบ้างแล้ว""บังอาจ! พูดเหลวไหลอะไรของเจ้า!"เจียงหวานหว่านใช้ฝาแก้วชาเขี่ยใบชาในถ้วยเล่น "หอหยางชุน ปีหนึ่งมีกำไรตั้งสองหมื่นสองเหลียง แต่เจ้าบอกกับท่านพ่อว่าปีหนึ่งได้กำไรเพียงแค่สามพันเหลียง!"เมื่อเฉาหยูเฟิ่งได้ยินที่เจียงหวานหว่านพูด สีหน้าก็ซีดเผือด"พูดจาเหลวไหล โกหกทั้งนั้น"นังแพศยาน้อยนี่รู้ได้ยังไงว่าหอหยางชุนเป็นกิจการของจวนเจียงนะ อี
วันต่อมา เจียงหวานหว่านไปที่จวนอ๋องซีทหารองค์รักษ์เดินนำเจียงหวานหว่านเข้าไปในจวนอ๋องเจียงหวานหว่านรู้จักคนคนนี้ เขาคือเซี่ยงหรง องค์รักษ์คู่กายของหรงซีเซี่ยงหรงเดินนำอยู่ข้างหน้า เจียงหวานหว่านเดินตามอยู่ข้างหลังจู่ๆ ข้างหน้าก็มีเสียงกระทบกันของโลหะ เป็นเสียงการใช้อาวุธปะทะกันเซี่ยงหรงสีหน้าเปลี่ยนไป ทิ้งเจียงหวานหว่านที่เดินตามอยู่ข้างหลังไว้ แล้วรีบจากไปอย่างรวดเร็วทำไมในเวลากลางวันจวนอ๋องถึงเกิดเสียงครึกโครมขนาดนี้ได้ เจียงหวานหว่านรู้สึกว่ามันแปลกประหลาด สองมือยกชายกระโปรงขึ้นแล้วรีบวิ่งไปดูทันทีเมื่อนางมาถึงอย่างเหนื่อยหอบ เหล่าองค์รักษ์ในจวนอ๋องต่างก็กำลังต่อสู้กับคนชุดดำปิดหน้าอยู่เจียงหวานหว่านมองแว๊บเดียวก็เห็นเงาร่างของหรงซี มีหลายคนกำลังล้อมวงโจมตีเขาอยู่ไอสังหารแผ่ซ่านออกจากตัวเขา ราวกับยมฑูตจากนรก ฆ่าได้อย่างเด็ดขาดคนชุดดำดูก็รู้ว่าเป็นนักฆ่าที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีนางเพียงต่อสู้ได้เล็กน้อย ต่อกรกับพวกนักเลงก็พอไหว ถ้าจะไปสู้กับคนชุดดำ นั่นก็จะไม่ประมาณตนเกินไปถึงแม้จะเป็นห่วงหรงซี อยากที่จะช่วยเขา แต่ก็ไม่กล้าผลีผลาม กลัวจะกลายเป็นตัวถ่วงหรงซีเปล่
หรงซียกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นๆ"ปรมาจารย์หมอเซียนเสียชีวิตไปแล้ว หลุมศพก็อยู่ที่บนเขาเชียนอัน!"หรงซีสีหน้าเคร่งขรึม"ในเมื่อเจ้าก็รู้ว่าปรมาจารย์หมอเซียนเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ก็ยังกล้าหลอกข้าให้ช่วยเจ้าอีก กล้าหาญเกินไปแล้วนะ"เจียงหวานหว่านสีหน้าเรียบสงบ"มิกล้าหลอกท่านอ๋อง ถึงแม้ปรมาจารย์หมอเซียนจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ประกาศแจกรางวัลข้าจะขอรับไว้เอง!""หึ ช่างกล้าพูด!"เจียงหวานหว่านพูดอย่างช้าๆ ชัดๆ"ข้าคือผู้สืบทอดวิชาของปรมาจารย์หมอเซียน!"หรงซีมองเจียงหวานหว่านอย่างประเมินตั้งแต่หัวจรดเท้าวันที่กลับจวนเจียง นางเห็นประกาศแจกรางวัลที่แปะไว้หน้าประตูเมือง ก็นึกขึ้นได้ว่าในร่างของหรงซีถูกพิษกู่ตั้งแต่วินาทีที่ได้พบกับหรงซี นางก็อยากจะช่วยเขาถอนพิษแล้ว แต่กลัวว่าจะกระทันหันเกินไป ทำให้เขาเกิดคิดสงสัยการอาศัยอำนาจเขาให้ได้กลับจวนเจียง ก็เป็นเรื่องจำเป็นในสถานการณ์นั้นเท่านั้นเจียงหวานหว่านพูดในสิ่งที่ทำให้ตกใจยิ่งกว่า "มากสุดก็ครึ่งปี หากท่านอ๋องไม่ถอนพิษกู่ในร่างกาย จะต้องตายแน่นอน"รอยยิ้มของหรงซียิ่งเย็นยะเยือกขึ้นไปอีกบนประกาศแจกรางวัล รางวัลคือที่อยู่ของหออ
ในตอนนี้เจียงอวิ้นเองก็รู้สึกได้ว่ามันแปลก ไม่เห็นท่านแม่เลยกระซิบพูดอะไรบางอย่างกับชิวจวี๋สาวใช้คนสนิทชิวจวี๋ถอยหลังไปสองก้าว อาศัยจังหวะที่ไม่มีใครเห็นแอบวิ่งเข้าประตูหลังไปเจียงป๋อเหนียนฉีกยิ้มออกมา "นางป่วยน่ะ ท่านแม่อย่าไปโทษนางเลย!"ฮูหยินใหญ่เจียงไม่พอใจ ช่างบอบบาง อ่อนแอเสียเหลือเกิน"ท่านย่า ด้านนอกอากาศหนาว เดี๋ยวจะไม่สบายเอา เข้าไปในบ้านก่อนเถอะค่ะ"แม่ของนางชอบเอาใจท่านย่าตอนอยู่ต่อหน้าท่านพ่อที่สุด เกรงว่าน่าจะป่วยจริงเจียงป๋อเหนียนกับเจียงอวิ้นช่วยกับประคองซ้ายขวา พาฮูหยินใหญ่เจียงเข้าไปในจวนฮูหยินใหญ่เจียงเพิ่งเข้ามาในเรือนก็เห็นเฉาหยูเฟิ่งแล้วนางยืนอยู่หน้าห้องนอนของฮูหยินใหญ่เจียง คุกเข่าคารวะฮูหยินใหญ่เจียง"นางเฉา เจ้ามาทำอะไรที่นี่ อีกทั้งใบหน้าของเจ้าไปโดนอะไรมา"ฮูหยินใหญ่เจียงมองแค่แว๊บเดียวก็เห็นว่าใบหน้าของเฉาหยูเฟิ่งปูดบวมอย่างหนัก บนนั้นยังมีรอยฝ่ามือเด่นชัด"ท่านแม่ เป็นอะไรไปคะ ใครตบตีท่านจนเป็นเช่นนี้!"เจียงอวิ้นร้อนใจจนน้ำตาไหลออกมา รีบเดินขึ้นไปจับมือของเฉาหยูเฟิ่งเฉาหยูเฟิ่งกลั้นน้ำตาเอาไว้ บอกกล่าวเรื่องที่เจียงหวานหว่านเข้าจวนตบต
พูดถึงเจียงจิ่นหนิง เฉาหยูเฟิ่งก็รู้สึกโมโหขึ้นมา เจียงจิ่นหนิงสู้ไม่ได้กระทั่งเด็กคนหนึ่งเฉาหยูเฟิ่งสะบัดเสียงอย่างไม่พอใจ "มีอะไรให้เยี่ยม เสียแรงที่ข้าดูแลเขาดีมาตลอด คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนไร้ค่าไม่ได้เรื่องคนหนึ่ง"เจียงอวิ้นยิ้มอย่างอ่อนโยนไม่ได้เรื่องก็ส่วนไม่ได้เรื่อง ใช้เขามาต่อกรกับนางหลิ่ว เหมาะสมที่สุดแล้ว!เฉาหยูเฟิ่งได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกว่าเจียงอวิ้นพูดจามีเหตุผล"ลูกที่นางหลิ่วคลอดเอง เรียกข้าว่าแม่ ช่างสะใจเหลือเกิน"เจียงอวิ้นยิ้มกว้าง"ท่านแม่ ท่านใจร้อนเกินไปแล้ว!"หลังออกจากเรือนเฉาหยูเฟิ่งไป เจียงอวิ้นก็ไปเยี่ยมเจียงจิ่นหนิงทำให้เจียงจิ่นหนิงซึ้งใจจนน้ำมูกน้ำตาไหล อวิ้นเออร์ดีเหลือเกิน รู้จักเป็นห่วงเป็นใยเขาหลังจากเจียงอวิ้นออกไป เจียงจิ่นหนิงก็รีบร้อนไปที่เรือนของฮูหยินใหญ่เจียงทันที……หลิ่วซู่กำลังพูดคุยอยู่กับสือหลิ่วสองคน คนของเรือนฮูหยินใหญ่เจียงก็มาเอาตัวหลิ่วซู่ไปทันทีโดยไม่บอกกล่าวอะไรทั้งสิ้นสือหลิ่วเป็นห่วงอยากจะตามหลิ่วซู่ไปด้วย แต่ก็ถูกกันเอาไว้ ทำเอานางร้อนรนไปหมดฮูหยินเป็นคนใจอ่อน ถ้าถูกคนรังแกจะทำยังไง!ถ้าหากคุณหนูอยู่ก็ดีสิ ใช่แ
เจียงจิ่นหนิงเดินกะเผลกเข้ามาในห้องของฮูหยินใหญ่เจียง"ท่านย่า มีคนมารังแกหลานรักของย่า ท่านต้องทวงความยุติธรรมให้ข้านะ!"ฮูหยินใหญ่เจียงมองไปแล้วก็ตกใจเจียงจิ่นหนิงใบหน้าซีกหนึ่งเขียวซีกหนึ่งม่วง แถมยังเดินกะเผลกหลิ่วซู่มองที่เจียงจิ่นหนิง เดินขึ้นหน้าไปโดยไม่รู้ตัวเจียงจิ่นหนิงไม่สนใจการมีตัวตนอยู่ของหลิ่วซู่ วิ่งไปร้องไห้ต่อหน้าของฮูหยินใหญ่เจียงฮูหยินใหญ่เจียงรู้สึกสงสารเป็นอย่างมาก"หลานรักของย่า ใครมันทำหลานย่าเป็นแบบนี้!"เจียงจิ่นหนิงชี้ไปที่รอยแผลบนใบหน้า พูดออกมาอย่างน่าสงสาร"ท่านย่า เจียงหวานหว่านเป็นคนตี นางไม่เพียงตีข้า แถมยังตีท่านแม่อีกด้วย!"เมื่อหลิ่วซู่ได้ยินเจียงจิ่นหนิงเรียกเฉาหยูเฟิ่งว่าท่านแม่ สองมือกำหมัดแน่นสายตาของฮูหยินใหญ่เจียงเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ "เจ้าบอกว่าน้องสาวเจ้าตีเจ้าจนมีสภาพเช่นนี้เหรอ!"เจียงจิ่นหนิงพยักหน้าอย่างแรง"คนในจวนต่างก็เห็นกันหมด"ฮูหยินใหญ่เจียงโมโห เดิมคิดว่าเจียงหวานหว่านกลับมาโกรธแค้นนางเฉา จึงลงมือทำร้ายคิดไม่ถึงว่านางจะลงมือโหดร้ายกับพี่ชายตัวเองได้ขนาดนี้เจียงจิ่นหนิงเป็นน้องชายคนเล็กสุดของบ้าน นางรักดั่
การที่หนิงเกอเออร์ถูกทำร้าย นางเองก็ปวดใจ แต่การที่เขาเรียกคนอื่นว่าแม่ ก็เหมือนกับการเอามีดมาแทงเข้าที่กลางใจของนาง เจ็บปวดจนไม่อาจหายใจได้ฮูหยินใหญ่เจียงโมโหจนควันแทบจะออกหู มีแม่ยังไงก็มีลูกสาวอย่างนั้นจริงๆ"ดูท่านิสัยของหวานเจี่ยเออร์ล้วนเป็นเจ้าที่คอยให้ท้ายจึงเป็นเช่นนี้!"หลิ่วซู่ไม่ตอบอะไรมุมปากเจียงหวานหว่านยกขึ้นเป็นยิ้มน้อยๆ พูดอย่างขำขันว่า "ท่านย่า นางเฉาขัดขวางการกลับจวนของนายหญิงของบ้าน ไม่สมควรถูกตบหรือ พี่ห้าอกตัญญู ทำให้วงศ์ตระกูลต้องขายหน้า ไม่สมควรโดนตีหรือ!""เจ้าพูดเหลวไหลอะไร นังเด็ก..."เจียงจิ่นหนิงเตรียมจะอ้าปากต่อว่าแต่สายตาที่ดุร้ายของเจียงหวานหว่าน ทำให้เขาไม่กล้าพูดออกไป จนถึงตอนนี้เขายังเจ็บอยู่เลย"หวานเจี่ยเออร์ เจ้าตบตีคนในครอบครัวที่หน้าประตูจวนเจียง คนภายนอกจะนินทาจวนเจียงว่าอย่างไร ขายหน้าทั้งตระกูลนะ!"เจียงหวานหว่านมองไปที่เจียงจิ่นหนิงอย่างเหยียดหยาม"ท่านย่าคะ ทำตามคำยุยงของนางเฉากีดกันไม่ให้แม่แท้ๆ กลับจวน ถือเป็นการอกตัญญู ไม่เคารพแม่แท้ๆ ด่าว่าแม่แท้ๆ ยิ่งอกตัญญู! ขอถามหน่อย คนสารเลวเช่นนี้ไม่ควรโดนตีหรือ!"ฮูหยินใหญ่เจียงพยายา
หลิ่วซู่อยากที่จะลุยขึ้นไปเจรจา แต่ก็ถูกเจียงหวานหว่านดึงห้ามไว้ก่อนเจียงหวานหว่านพูดกับหลิ่วซู่ด้วยเสียงเบาๆ ว่า "ท่านแม่ ไม่เป็นไร ท่านไม่ต้องเป็นห่วง!"ให้นางไปคุกเข่าที่ศาลบรรพชน ฝันไปเถอะ แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องชนกับยายแก่นี่โดยตรงเจียงจิ่นหนิงร้องคร่ำครวญตลอดทาง ถึงปากจะร้องว่าเจ็บ แต่ในใจก็แอบซะใจ ในที่สุดก็จัดการนังเด็กบ้าเจียงหวานหว่านได้สักทีหลิ่วซู่กลับเรือนเหมยพร้อมกับสือหลิ่วด้วยความกังวล แต่เจียงหวานหว่านกลับถูกจับไปขังที่ศาลบรรพชนเจียงหวานหว่านเพิ่งจะก้าวเข้าไปในศาลบรรพชน ประตูข้างหลังนางก็ปิดลงในทันทีมองไปรอบๆ แล้วเจียงหวานหว่านก็นั่งลงบนเบาะที่ใช้สำหรับคุกเข่า"คุณหนูหกเจ้าคะ ฮูหยินใหญ่บอกให้ท่านคุกเข่า ไม่ใช่นั่งลงเจ้าค่ะ"เสียงเนิบๆ ดังขึ้นมาจากหน้าประตู เจียงหวานหว่านยิ้มเย็น ดูท่าจะยังมีคนจับตาดูนางอยู่สินะราวกับไม่ได้ยิน เจียงหวานหว่านเอาเบาะสามอันมาวางชิดกันจากนั้นก็นอนลงด้านนอกประตูได้ยินเสียงคนพูดคุยกันลอยมา"ช่างสมแล้วที่มาจากบ้านนอก โทรมแค่ไหนก็ไม่หวั่น!""ก็ใช่น่ะสิ บังอาจมีเรื่องกับฮูหยินใหญ่ สมน้ำหน้าแล้ว!""ช่างเถอะๆ คนก็ถูกขังอยู่ข้าง