ดวงดาว
ฉันกำลังจัดของอยู่ที่โต๊ะทำงานอยู่ส่วนคุณชัชเองก็นั่งพิมพ์หัวข้อการประชุมในวันพรุ่งให้กับคุณทศอยู่ที่โต๊ะทำงานฝั่งตรงข้าม แต่แล้วจู่ๆ ก็มีพนักงานเดินตรงมาที่ห้องทำงานของคุณทศ พอคุณชัชเห็นก็รีบเบรกเธอทันที "ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าชื่ออะไรครับ" คุณชัชรีบลุกขึ้นออกจากโต๊ะพุ่งตรงมายืนข้างหน้าเธอ "ดิฉันนิรชาค่ะ" เธอตอบ "คุณนิรชามามาจากแผนกไหนครับ" คุณชัชถาม "ดิฉันมาจากแผนกบัญชีค่ะเอาเอกสารเงินเดือนพนักงานมาให้ท่านประธานเซ็นต์รับรอง" เธอตอบ "ครับ รอสักครู่นะครับ" คุณชัชพูดแล้วเดินไปกดโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของเขา "ท่านประธานครับฝ่ายบัญชีนำเอกสารเงินเดือนพนักงานมาให้ท่านประธานครับ/ครับ/ได้ครับ" คุณชัชพูดจบก็วางสายไป "ขอเอกสารด้วยครับเดี๋ยวผมเอาเข้าไปส่งท่านประธานเองครับ ยังไงถ้าท่านประธานเซ็นต์เสร็จแล้วผมจะเอาไปส่งให้ที่แผนกนะครับ" คุณชัชพูดแล้วยื่นมือไปขอแฟ้มเอกสารจากเธอ "ฝากด้วยนะคะ" พูดจบเธอก็เดินออกไป มันอาจเป็นเรื่องปกติของพนักงานที่นี่แต่สำหรับฉันมันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก กับอีแค่ส่งเอกสารยังมีขั้นตอนมากมายที่รู้สึกว่าไม่จำเป็นด้วยซ้ำเลยแต่ก็นั่นแหละฉันก็ทำได้เพียงแค่สงสัยและยแมรับไปว่านี่คือสิ่งที่ฉันต้องทำในอนาคตสินะ "แค่เข้าไปส่งเอกสารเองทำไมต้องเข้มงวดขนาดนี้ด้วย" ฉันพูดคนเดียวเบาๆ โดยไม่ทันสัังเกตเลยว่าคุณชัชเดินมาที่โต๊ะทำงานของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ "คุณดาวช่วยเอาเข้าไปให้ท่านประธานหน่อยนะครับ" คุณชัชพูด "ฮะ! อ๋อ~ทำไมคุณชัชไม่เอาเข้าไปเองละคะ" ฉันถามด้วยความสงสัย "คุณดาวเข้าไปเถอะครับมันเป็นหน้าที่ของเลขาน่ะ ยังไงซะมันก็เป็นสิ่งที่คุณดาวควรจะหัดให้ชิน" คุณชัชพูด ฉันยื่นมาไปรับแฟ้มแล้วพยักหน้าให้คุณชัช "ได้ค่ะ" ฉันตอบ "สู้ๆ นะครับ ท่านประธานน่ะเขาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณดาวคิดหรอก" คุณชัชพูด "ค่ะ" ฉันตอบแล้วเดินไปเคาะประตูห้องทำงานของคุณทศ รอจนเขาอนุญาตฉันจึงเปิดประตูเข้าไปแล้วปิดประตูทันทีเพราะคุณชัชเคยบอกว่าห้ามเปิดประตูห้องของท่านประธานทิ้งไว้เด็ดขาดไม่ว่าจะเข้าไปนานแค่ไหนก็ตามเพราะมันเป็นสิ่งที่ท่านประธานไม่ชอบ "ขออนุญาตค่ะคุณทศดาวเอาเอกสารรับรองเงินเดือนของพนักงานมาให้คุณทศเซ็นต์ให้ค่ะ" ฉันพูด "คุณทศจะให้ดาวรอเอาไปเลยหรือว่ายังไงดีคะ" ฉันถาม "ยังก่อนผมยังไม่ว่างตรวจสอบตอนนี้" คุณทศตอบ "คุณช่วยเดินไปตรงนั้นหน่อย" คุณทศพูดแล้วชี้ไปที่ตู้ล็อกเกอร์ใบใหญ่ที่อยู่ติดมุมห้อง ฉันเดินไปแล้วหันหน้ามามองคุณทศ "ตู้นี้เหรอคะ" ฉันถาม "เปิดตู้แล้วค้นเอาแฟ้มสำเนาเอกสารเงินเดือนพนักงานออกมาที" คุณทศพูด ฉันเปิดตู้แล้วหาแฟ้มตามที่คุณทศสั่ง "เจอแล้วค่ะ" ฉันตอบจากนั้นก็ปิดตู้เดินกลับมาหาคุณทศ "อือ...คุณช่วยตรวจสอบบัญชีเงินเดือนพนักงานของเดือนที่แล้วนำมาเปรียบเทียบกับเดือนนี้ให้ผมหน่อยว่ามีของแผนกไหนเกินหรือต่ำไปไหมดูว่าเงินมันตรงกับยอดสรุปไหม ในนั้นมันจะมีฐานขึ้นเดือนไม่่รวมค่าคอมฯของแต่ละตำแหน่งอยู่ ผมอธิบายตอนนี้ไม่ได้คุณเอาไปให้คุณชัชช่วยดูนะ ตรวจสอบเสร็จถ้ามันถูกต้องคุณค่อยเอามาให้ผมเซ็นต์แต่ถ้าไม่ถูกก็ส่งกลับไปที่แผนกบัญชีได้เลย" คุณทศพูด "ได้ค่ะ" ฉันหยิบเเฟ้มที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วก็ออกจากห้องไป 11:30 น. "คุณดาวครับ" เสียงคุณชัชเรียกฉัน ฉันเงยหน้าขึ้นมาหาคุณชัช "พักก่อนเถอะครับได้เวลาทานข้าวแล้ว" คุณชัชพูด ฉันมองนาฬิกาที่ข้อมือทันทีเพราะส่วนตัวฉันรู้สึกว่ามันเพิ่งจะผ่่นไปไม่นานเอง "จริงด้วยดาวมัวแต่ตรวจเอกสารจับลืมเวลาไปเลยคะ" ฉันตอบ ฉันหยิบที่คั่นหนังสือมาเสียบไว้เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเตรียมตัวจะลงไปทานข้าวแต่พอลุกขึ้นก็หันไปเห็นว่าคุณชัชเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม "คุณชัชไม่ไปทานข้าวหรอคะ" ฉันถามด้วยความสงสัย "อ๋อ~เดี๋ยวผมลงไปทีหลังครับ คุณดาวลงไปก่อนเลยครับ" คุณชัชตอบ "ทำไมละคะ" ฉันถาม "คือปกติถ้าเลย 11 โมงแล้วท่านประธานยังไม่ออกมาแสดงว่าวันนี้ท่านประธานจะทานข้าวที่บริษัทครับ ผมเลยมีหน้าที่จะต้องสั่งข้าวแล้วยกไปให้ท่านก่อนถึงจะสามารถลงไปทานอาหารได้เพราะท่านจะไม่ให้พนักงานคนอื่นหรือคนส่งอาหารเข้าไปส่งถึงห้องทำงานเด็ดขาด ผมเลยต้องเป็นคนสั่งและเอาไปเสิร์ฟให้ท่านประธานเองน่ะครับ" คุณชัชตอบ "อ๋ออย่างนี้นี่เอง" ฉันตอบ คนอะไรเรื่องมากจริง "งั้นคุณชัชลงไปทานข้าวเถอะค่ะดาวจะอยู่เอง" ฉันพูด "โอ้ยไม่เป็นไรเลยครับ คุณดาวลงไปทานเถอะครับเดี๋ยวผมอยู่เองดีกว่า" คุณชัชตอบ "ไม่เป็นไรค่ะ ดาวอย่างลองทำทุกอย่างเองให้เป็นยังไงซะมันก็เป็นหน้าที่ของดาวหนิคะ** ฉันตอบ คุณชัชคิดแปปนึงก่อนที่จะยิ้มให้ฉัน "ก็ได้ครับงั้นคุณดาวรออยู่ตรงนี้นะครับ เดี๋ยวจะมีพี่รปภ.เขาขึ้นมาส่งอาหารให้ส่วนเรื่องเงินผมจัดการให้เรียบร้อยแล้วครับ" คุณชัชพูด "เอ่อ! แล้วก็อีกอย่างถ้าข้าวมาแล้วคุณดาวต้องเวฟอีกครั้งเพื่อให้อาหารร้อนนะครับ จัดใส่จานให้เรียบร้อนยกไปเสิร์ฟพร้อมน้ำดื่มให้ตู้เย็น 1 ขวดนะครับ ของใช้ทุกอย่างอยู่ในห้องกาแฟคุณดาวสามารถใช้ได้ทั้งหมดเลย" คุณชัชพูด "ได้ค่ะ" ฉันตอบ "งั้นผมลงไปก่อนนะครับ" คุณชัชพูด "ค่ะ" ฉันตอบ 10 นาทีต่อมา "ขอโทษนะครับคุณชัชวาลอยู่ไหมครับ" พี่รปภ.ถาม "ส่งอาหารใช่ไหมคะ" ฉันถาม "ใช่ครับ" เขาตอบ "ดาวจัดการเองค่ะ" ฉันพูด "เอ่อ~" เขามองซ้ายมองขวาเหมือนกำลังลังเลอยู่ คงเป็นเพราะปกติคุณชัชเป็นคนดูแลเรื่องนี้เองมั้งยิ่งพอเป็นอาหารของคุณยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ "งั้น...งั้นผมฝากด้วยนะครับ" เขาพูดพร้อมยื่นถุงอาหารมาให้ฉันจากนั้นก็เดินออกไป ฉันเดินเข้ามาในห้องการแฟจัดอาหารลงจานแล้วนำไปเวฟให้ร้อนตามที่คุณชัชสั่งไว้ จากนั้นก็จัดใส่ถาดยกไปที่ห้องของคุณทศทันที ฉันวางถาดไว้บนโต๊ะของฉันแล้วเคาะประตู "ใคร" เสียงคุณทศถาม "ดาวเองค่ะ" ฉันตอบ "เข้ามา" ฉันเปิดประตูหยิบถาดอาหารเดินมาวางบนโต๊ะกระจกใสหน้าโซฟาแล้วรีบเดินกลับไปปิดประตูห้องทันที "อาหารกลางวันค่ะคุณทศ" ฉันพูด "โอเค ขอบใจมาก" คุณทศพูดแล้วพับจอโน๊ตบุ๊คลงครึ่งนึงก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟา "งั้นดาวขอตัวก่อนนะคะไว้เดี๋ยวตอนบ่ายดาวจะเข้ามาเก็บจานให้ทีหลัง" ฉันพูด คุณทศพยักหน้าตอบฉันจึงเดินออกไป จบไปอีกงานเกิดเป็นเขานี่มันสบายจริงๆ จะกินยังมีคนเอามาให้ถึงที่1 สัปดาห์ต่อมาฉัันยังคงมาทำงานตามปกติเหมือนทุกวันแต่ที่ดูจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็คือการทำงานของฉันดูราบลื่นขึ้นมากและได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อยๆ แถมพนักงานหลายๆ คนก็เริ่มให้ความการเคารพฉันในฐานะเลขาของคุณทศบ้างแล้วจากที่ตอนแรกดูจะตึงๆ และไม่ชอบฉันอย่างเห็นได้ชัด"คุณดาวหลังจากที่ทีมการตลาดได้โฆษณาออกไปผลตอบรับของโครงการหมู่บ้านที่พัทยาเป็นยังบ้าง" คุณทศถาม"ดีมากเลยค่ะคุณทศ ตอนนี้ลูกค้ากำลังให้ความสนใจโครงการของเราเป็นอย่างมากแล้วก็มีสปอนเซอร์รายใหญ่ติดต่อมาหลายบริษัทเลยค่ะ" "งั้นก็ดีแล้ว คุณไปทำงานต่อเถอะ" คุณทศพูดจบฉันก็เดินออกจากห้องทำงานของเขาแล้วมานั่งทำงานของตัวเองต่อเหมือนเดิม พอใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันฉันก็กดสั่งอาหารมาไว้ให้เขาตามปกติก่อนจะลงไปทานมื้อกลางวันของตัวเองที่โรงอาหารโรงอาหารทุกคนนั่งทานอาหารกลางวันและพูดคุยกันถึงปัญหาต่างๆ ในแต่ละวันกันอย่างสนุกสนานมีทั้งเรื่องรถติดบ้าง ทะเลาะกับสามีบ้าง มีปัญหาหากับเพื่อนร่วมงานบ้าง"น้องดาวเย็นนี้ว่างไหมจ๊ะ" พี่เจนถามก็ว่างนะคะพี่เจน พอดีดาวไม่ได้มีงานด่วนอะไรด้วย" ฉันตอบงั้นน้องดาวไปกับพวกเราไหม" พี่เจนถาม"พวกพี
"อะไรนะ!!" เสียงของอนุวัฒน์ดังขึ้นเมื่อลูกน้องคนสนิทมารายงานข่าวเรื่องที่ดิน ที่เขาเคยยื่นขอเสนอไปแต่ก็ถูกตัดหน้าไปก่อนอย่างหน้าเสียดาย"คึ...คือคุณลดาเธอบอกว่าเธอนำที่ดินไปลงทุนกับบริษัท KTK แล้วครับ" ดนัยตอบ (ลูกน้องของอนุวัฒน์)"เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อเราติดต่อพูดคุยกับคุณลดาไว้ตั้งแต่หลายเดือนแล้วนิว่าเราจะขอซื้อที่ดินตรงนั้นของเธอด้วยเงินสด ทำไมเธอถึงยังปฎิเสธเราได้อีก นี่แกประสานงานยังไงกันแน่ว่ะ" อนุวัฒน์ถามด้วยความโมโห"คือผมทำตามที่คุณอนุวัฒน์สั่งจริงๆ นะครับแต่ผมทราบมาว่าคุณทศราชผู้บริหารคนใหม่ของทางบริษัท KTK ได้ยื่นขอเสนอให้คุณลดาเป็นหุ้นส่วนโครงการใหม่ที่ทางบริษัทนั่นกำลังจะทำขึ้นในอีกไม่ช้าแถมยังให้เปอร์เซ็นที่สูงอีกด้วย เธอก็เลยเกิดลังเลกับข้อเสนอของเราแล้วตกลงเซ็นต์สัญญากับทางนู้นครับ" ดนัยตอบ อนุวัฒน์รู้สึกโกรธยิ่งขึ้นอีกเมื่อรู้ว่าเด็กรุ่นใหม่ที่พึ่งจะก้าวเข้าวงการของธุรกิจอย่างทศราชมาชิงตัดหน้าเขาไป เขาติดต่อกับคุณลดามาเป็นเวลานานมากกว่าคุณลดาจะยอมเปิดใจอ่านสัญญาซื้อขายกับเขา เสียทั้งเงินทั้งเวลทไปก็ไม่ใช้น้อยเพื่อซื้อใจฝั่งนั้นแต่กลับมารู้ทีหลังว่าสิ่งที่เ
ฉันค่อยๆ นั่งลงตามที่คุณทศสั่ง"คุณทศจะไม่กลับบริษัทหรอคะ" ฉันถาม"ผมหิวข้าวน่ะ" คุณทศตอบ ฉันตกใจรีบยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาทันทีถึงได้รู้ว่านี่มันเลยเวลาอาหารกลางวันของคุณทศมานานแล้ว"โอ้! จริงด้วย ดาวขอโทษนะคะที่ไม่ได้สั่งอาหารกลางวันมาให้คุณทศ" ฉันพูด"เราอยู่กันที่ร้านอาหารนะไม่ใช่บริษัท ถึงคุณจะสั่งอะไรมาให้ผมผมก็กินไม่ได้อยู่แล้วป่ะ" คุณทศตอบ"ดาวขอโทษค่ะ" ฉันมัวแต่ลนจนทำขายหน้าคุณทศอีกแล้ว"อยู่กับผม คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรที่ไม่ได้ทำผิด เข้าใจไหม! ได้ยินทีไรล่ะรู้สึกหงุดหงิดทุกที" คุณทศพูด"ขอโท- " ฉันกำลังจะเผลอพูดคำนั้นออกมาอีกครั้งแล้วแต่ก็เจอเข้ากับสายตาที่มองมาอย่างดุๆ ก็เลยชะงักไปก่อน"เอ่อ~...รับทราบค่ะ" ฉันตอบ"แล้วนี่คุณไม่หิวหรือไง" คุณทศถาม"ดาวว่าจะกลับไปทานที่บริษัทค่ะ" ฉันตอบ"นี่มันจะบ่ายสองแล้วกว่าจะไปถึงบริษัทก็เกือบเลิกงานพอดี ผมทนไม่ไหวหรอกนะ" คุณทศตอบแล้วยกมือเรียกให้พนักงานมารับออร์เดอร์"คุณอยากกินอะไรก็สั่งเลยนะเดี๋ยวผมเลี้ยงเอง" คุณทศพูดแล้วลงไปดูเมนูอาหาร ฉันรับเมนูจากพนักงานมาเปิดดูก็ถึงกับอึ้งไปเลย ไม่รู้ทำไมอาหารทุกอย่างมันถึงได้แพงขนาดนี้ ราคาอาหาร
ฉันกับคุณทศมาถึงร้านได้ประมาณ 30 นาที แล้ว ฉันนั่งอยู่ข้างๆคุณทศได้แต่เงียบไม่กล้าพูดอะไร คุณทศสั่งน้ำผมไม้มาให้ฉันระหว่างที่นั่งรออยู่ ฉันก็เห็นว่ามีผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่งเดินตรงมาที่โต๊ะของพวกเราเมื่อพวกเขาเดินมาถึงคุณทศกับฉันก็รีบยืนขึ้นทันที "สวัสดีค่ะคุณทศราชรอนานไหมคะ" คุณลดาถาม "สวัสดีครับคุณลดา คุณเอกภพ รอไม่นานเลยครับพวกเราเองก็พึ่งมาถึงเหมือนกัน เชิญนั่งก่อนสิครับ" คุณทศพูดด้วยคำสุภาพน้ำเสียงทุ้มน่าฟังสุดๆ แต่เดี๋ยวนะรอไม่นานอะไรละนี่มันตั้งครึ่งชั่วโมงเลยนะ"คุณลดากับคุณเอกภพสั่งอะไรก่อนดีไหมครับ" "ไม่ดีกว่าครับพวกเราทานมาแล้ว" "เอ่อ! นี่คือคุณดวงดาวเลขาของผมครับ" ฉันรีบก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพและกล่าวแนะนำตัวอย่างมีมารยาท "งั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ" พอคุณทศเริ่มพูดฉันก็หยิบแผนโครงการออกมาส่งให้คุณลดากับคุณเอกภพทันที "โครงการนี้คาดว่าจะเปิดพร้อมเข้าอาศัยประมาณสิ้นปีนี้ครับ จะมีบ้านทั้งโครงการทั้งหมด 25 หลังใหญ่ 10 หลังและบ้านขนาดกลาง 15 หลังครับ ทางเราคาดการงบของโครงการประมาณไว้ไม่เกินหนึ่งพันล้านบาทครับ ตอนนี้จากการคำนวณของทางบริษัทบ้านหลังใหญ่เราจะได้กำไร
ฉันมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าและตอนนี้ก็กำลังนั่งคุณทศอยู่ที่ล็อบบี้ ฉันคิดมาตลอดทางว่าฉันจะทำทุกอย่างที่คุณชัชเคยทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ผิดต่อความตั้งใจของเขา พอรถของคุณทศมาจอดที่ประตูหน้าบริษัทฉันก็รีบเดินไปรอรับเขา ตอนแรกฉันกะว่าจะช่วยเปิดประตูรถให้แต่ก็เข้าไปไม่ทันพี่รปภ.ที่ยืนรออยู่ ฉันเลยได้แต่ยืนมองดูด้วยความเสียดาย ทันทีที่คุณทศลงจากรถฉันก็ยื่นมืือไปขอกระเป๋าและเอกสารในมือเขาทันที คุณทศมองหน้าฉันแปปนึงก่อนที่จะส่งของทั้งหมดมาให้ ฉันรับมันแล้วเดินตามหลังคุณทศไปติดๆ ฉันเห็นคุณทศเหล่มองมาที่ฉันหลายครั้งสงสัยคงยังไม่ชินละมั้ง พอประตูลิฟต์เปิดออกฉันก็รีบเดินตามเข้าไปจนเผลอชนเข้ากับหลังของเขาจังๆ "ขอโทษค่ะ" ฉันพูดแล้วรีบถอยตัวหนีทันที"เอกสารที่ให้เตรียมพร้อมหรือยัง" คุณทศถาม"เรียบร้อยแล้วค่ะ" ฉันตอบ ฉันพูดจบคุณทศเดินออกไปเลย เขาเป็นคนที่เดินเร็วมากไม่รู้ว่าเป็นเพราะขายาวด้วยหรือเปล่าทำเอาฉันที่สับแทบตายก็ยังตามไม่ทันบวกกับมีรองเท้าส้นสูงด้วยแล้วนี่ยิ่งไปกันใหญ่"เดี๋ยวคุณเข้าไปคุยกับผมในห้องด้วยนะ" คุณทศพูดแล้วเปิดประตูเข้าไปห้อง ฉันวางของของคุณทศลงบนโต๊ะทำงานของตัวเองแล้วเดินอ้อมไป
หลังจากเลิกงานฉันก็ออกมานั่งรอแท็กซี่อยู่ที่หน้าบริษัท"ไปไหนครับ" พี่คนขับถาม"ไปตลาดคุ้มฟ้าค่ะ" ฉันตอบ "ได้ครับ" เค้าตอบฉันแล้วกดมิเตอร์ทันที พอมาถึงตลาดฉันก็รีบหยิบเงินส่งให้พี่คนขับแล้วลงจากรถเพื่อไปหาแม่กับป้าน้อยในตลาด ปกติหนึ่งวันของบ้านเราช่วงเช้้าแม่กับป้าน้อยจะทำขนมออกมาขายด้วยกัน พอสายๆ หน่อยคนเริ่มซาแล้วป้าน้อยก็จะเดินไปซื้อพวกของสดในตลาดเพื่อมาเตรียมไว้ทำพวกข้าวแกงมาขายตอนเย็น โชคดีที่ตลาดที่นี่ติดกับโรงงาน โรงเรียน วัดและก็ศาลเจ้าเลยทำให้มีคนเดินพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าเป็นวันพระพวกเราก็จะทำขนมและกับข้าวถุงมาแต่เช้าเลย ถึงอย่างนั้นก็ยังขายหมดเร็วมาก ส่วนตอนเย็นก็จะเน้นขายไปที่พนักงานโรงงานที่เลิกค่ำๆ หน่อยเพราะตลาดคุ้มฟ้าของเราจะเปิดตั้งแต่ตี 5 ครึ่งถึง 3 ทุ่มเลย ฉันเดินเข้าที่แผงของเราก็เห็นคนกำลังมาต่อคิวซื้อกับข้าวของเราเต็มเลย แม่ฉันจะคอยหยิบกับข้าวใส่ถุง รับเงินทอนเงินส่วนป้าน้อยก็ตักกับข้าวใส่ถุงมัดยางวางใส่ถาดไว้ให้แม่ ตอนนี้ทั้งสองคนดูยุ่งมากเลยฉันก็เลยรีบเข้าไปช่วยทันที"มาเลยจ้าๆ อร่อยทุกอย่างเลยนะคะ" ฉันพูดพร้อมกับเอากระเป๋าไปวางไว้ข้างหลังแผง "อ้าว เล