Share

กฎของท่านประธาน

Author: Plearn9
last update Last Updated: 2025-06-24 16:20:16

ดวงดาว Part

ฉันมองไปทางประตูที่ถูกเปิดออกแว๊บแรกที่เห็นเขาเดินเข้ามาฉันยอมรับว่าตกใจมาก ฉันไม่เคยคิดเลยว่าบริษัทใหญ่โตที่ประสบความสำเร็จมากขนาดนี้จะมาจากมือของผู้บริหารที่ยังหนุ่มยังแน่นขนาดนี้ ก่อนที่ฉันจะมาสมัครงานที่นี่นั้นฉันก็ได้ลองหาข้อมูลของบริษัทนี้มาแล้วเหมือนกันนะแต่ว่ารูปของประธานบริษัทในเว็บไซต์มันไม่ใช่เขาหนิ ฉันมองเขาแบบนั้นอยู่นานเพราะฉันรู้สึกแปลกใจมาก ไม่คิดเลยว่าคนเรามันจะเพอร์เฟคได้ขนาดนี้ เขาทั้งสูง ทั้งหล่อแถมยังร่ำรวยติดอันดับของประเทศด้วยไม่รู้เลยว่าชาติที่แล้วเจาทำบุญด้วยอะไร

"ทิชชู่หน่อยไหม" เสียงทุ้มต่ำที่มีเสน่ห์ของเขาทำให้ฉันหลุดออกจากพะวัง ตายจริงในใจเขาต้องคิดว่าฉันทำตัวไม่เหมาะสมแน่เลย

"คะ?"

"ก็คุณมองผมจนตาเยิ้มหมดละ คงไม่ได้กำลังสนใจผมอยู่ใช่ไหม" คำตอบของเขาทำเอาฉันแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี นี่ฉันจ้องเขาขนาดนั้นเลยหรอเนี่ยแต่ว่าคนอะไรหลงตัวเองจัง เขาแสยะยิ้มใส่ฉันทีนึงแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานฉันเลยรีบเดินตามเขาไป

"สวัสดีค่ะ" ฉันรีบพูดเพื่อจะแนะนำตัวให้เขารู้จัก เขาเองก็เงยหน้าขึ้นมามองฉันทันที

"ดิฉันชื่อดวงดาว ขจรวิทย์ ค่ะท่านประธานจะเรียกว่าดาวเฉย ๆ ก็ได้นะคะดิฉันมาทำงานที่นี่เป็นวันแรกค่ะ ขอบคุณที่เลือกดิฉันนะคะดิฉันจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดค่ะ"

"ไม่ต้องพิธีรีตองขนาดนั้นก็ได้แล้วก็คุยกัันแบบธรรมดาเถอะไม่ต้องมาดิชงดิฉันอะไรผมไม่ได้หัวโบราณขนาดนั้นและในเมื่อผมเลือกคุณแล้วผมก็หวังว่าคุณจะทำได้งานให้ผมอย่างเต็มที่เหมือนที่คุณพูดก็นะ"

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"ขออนุญาตครับท่านประธาน" เสียงผู้ชายคนนึงตะโกน

"เข้ามา" ท่าทางสุภาพเรียบร้อยแต่งตัวสะอาดสะอ้านดูจากหน้าตาแล้วคนนี้อายุน่าจะพอ ๆ กับฉันนะ

"กาแฟครับท่านประธาน" เขาพูดแล้วเดินเอาถ้วยกาแฟมาวางบนโต๊ะของท่านประธาน

"นี่คุณชัชนะเป็นคนสนิทของผม ถ้าคุณมีอะไรสงสัยก็ถามเขาได้เลยตอนนี้เขาทำหน้าที่รักษาการแทนคุณอยู่...คุณชัชเดี๋ยววันนี้คุณส่งมอบงานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเอกสาร ตารางนัด ตารางประชุมรวมถึงสัญญาเงินกู้ของพวกลูกหนี้ที่ผมต้องเซ็นต์ในวันนี้ให้กับ..." ท่านประธานหันหน้ามามองฉันด้วยสายตาแปลกๆ

"คุณเลขาคนใหม่ของผมด้วย" ท่านประธานพูดต่อหลังจากมองหน้าฉันอยู่แปปนึงด้วยน้ำเสียงนิ่งทุ้ม ทำเอาฉันรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวเลยสายตาเมื่อกี้ของเขาที่มองมาที่ฉันมันดูทีเล่นทีจริงมากไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกไม่ชอบมาพากลเท่าไหร่ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเขาต้องการอะไรหรืออยากจะทดสอบอะไรกับฉันกันแน่

"ได้ครับท่านประธาน"

"คุณออกไปก่อนเถอะผมมีอะไรจะคุยกับเธอสักหน่อย"

"ครับท่านประธาน" คุณชัชตอบแล้วก็เดินออกไป

"คุณนั่งลงก่อนสิ" ฉันเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเขา

"คุณอายุเท่าไหร่"

"24 ค่ะ" ฉันตอบออกไปแม้ในใจจะรู้สึกงง ๆ อยู่ว่าเขาถามทำไมเพราะตอนนี้ในมือของเขาเองก็กำลังเปิดอ่านเรซูเม่ของฉันอยู่แท้ ๆ 

"คุณมีกระดาษกับปากกาไหม"

"เอ่อ...มีค่ะ" ฉันตอบแล้วฉันเปิดกระเป๋าหยิบกระดาษโพสอิทกับปากกาขึ้นมา เขามองแล้วก็พยักหน้าให้ฉันทีนึงเหมือนพอใจมาก

"ข้อที่ 1 ผมต้องดื่มกาแฟทุกวัน วันละ 2 แก้วซึ่งแก้วแรกผมจะดื่มก่อนเริ่มงานดังนั้นคุณมีหน้าที่นำกาแฟมาเสิร์ฟให้ผมก่อนที่ผมเริ่มงานและห้ามเสิร์ฟช้าเกิน 10 นาทีหลังจากที่ผมมาถึงโต๊ะทำงานแล้ว โดยกาแฟแก้วแรกที่ผมจะดื่มคืออเมริกาโน่ร้อนเท่านั้นส่วนกาแฟแก้วที่สองที่ผมจะดื่มมีส่วนผสมคือ Espresso 2 ช็อต น้ำตาล 1 ช้อนชาและนมสด 1 ออนซ์ใส่น้ำแข็งแค่ครึ่งแก้วพร้อมด้วยโครนัทคัสตาร์ดครีมราดซอสเบอร์รี่จากร้าน xxx ต้องเสิร์ฟพร้อมกันตอนบ่ายโมงตรง คุณจะออกไปซื้อเองหรือกดสั่งเอาก็ได้แล้วแต่คุณเลยเดี๋ยวผมจะให้เงินไว้เป็นรายสัปดาห์ก็แล้วกันแต่จำไว้ด้วยว่าเรื่องส่วนผสมกาแฟของผมคุณห้ามพลาดเด็ดขาดและกาแฟทั้งสองแก้วนี้คุณจะต้องเป็นคนชงเองที่ห้องกาแฟของบริษัทเท่านั้น ใช้ห้องกาแฟของชั้นนี้แหละปกติมีแค่ผมกับคุณชัชใช้กันแค่สองคนถ้าคุณอยากดื่มอยากทานอะไรก็ไปใช้ได้เลย ทานได้ทุกอย่างไม่ต้องเกรงใจเดี๋ยวจะมีคนคอยไปเติมของเอง" ฉันพยักหน้าตอบรับและรีบจดให้ทันตามที่เขาพูด

"ข้อที่ 2 ทุกครั้งที่มีคนขึ้นมาหาผมคุณจะต้องถามเขาว่าเขาชื่ออะไร มาจากแผนกไหนแล้วมีธุระอะไรกับผมเพื่อนำเข้ามารายงานผมในห้องก่อนเสมอและผมจะเป็นคนบอกเองว่าให้เข้ามาได้หรือไม่

ข้อที่ 3 เวลาของผมมีค่ามากห้ามคุณสายหรือขาดโดยที่ไม่ได้ผมบอกล่วงหน้ายกเว้นกรณีที่คุณมีเรื่องฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้นที่ผมจะสามารถอนุโลมให้ได้" เขาจ้องหน้าฉันอยู่ฉันตลอดเวลาเลยฉันรู้สึกได้แม้ว่าฉันจะไม่ได้เงยขึ้นมาเลยก็ตาม

"คุณมีแฟนหรือยัง" อยู่ดีๆ ท่านประธานก็ถามขึ้นมาเฉยเลย

"ฮะ? เอ่อ ยังค่ะ"

"ดีมาก เพราะกฏข้อที่ 4  ของผมคือผมไม่อนุญาตให้พนักงานคนสนิทมีแฟน"

"คะ?" ฉันอุทานออกมาด้วยความสงสัย

"อะไรนะคะ? " ฉันถามย้ำอีกครั้งเพื่อเช็คให้แน่ใจว่าเขาพูดแบบนั้นจริงไหมเพราะนั่นมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับงานของฉันเลยหนิทำไมฉันถึงไม่สามารมีแฟนได้

"ก็...อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละงานของผมมีเยอะมากเนื่องจากผมพึ่งมารับช่วงต่อจากคุณพ่อได้แค่ 2 เดือนกว่า ๆ ดังนั้นมันผมเลยต้องใช้เวลาทุ่มเทกับมันมากหน่อย...ถ้าคุณมีแฟนตอนนีิผมกลัวว่าคุณจะไม่ค่อยมีสมาธิกับการทำงานเพราะถ้าคุณมีแฟนแล้วคุณก็คงต้องเอาเวลา สมาธิส่วนใหญ่ไปจดจ่อกับแฟนคุณแล้วถ้าเกิดวันนึงคุณหมด Passion กับการทำงานแล้วเพราะอยากไปใช้ชีวิตกับแฟน อยากแต่งงานมีลูกมีครอบครัวด้วยกันขึ้นมาถึงตอนนั้นคนที่เดือดร้อนก็ไม่ใช่ใครแต่เป็นผมเนี่ยแหละที่จะต้องหาคนมาทำงานแทนคุณ แล้วกว่าผมจะฝึกให้เขาทำงานได้เก่ง ๆ มันก็ใช้เวลาค่อนข้างนานใช่ไหมล่ะ...ผมหวังว่าคุณคงเข้าใจผมนะ...เพราะงั้นผมขอจะเวลาคุณแค่ 2 ปีให้งานผมมันอยู่ตัวก่อนแล้วหลังจากนั้นก็...ก็ค่อยแล้วแต่คุณเลย" ตอนนี้คิ้วฉันแทบจะผูกติดกันอยู่แล้วถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจตรรกะของเขาเท่าไรืแต่ก็คงต้องตอบไปว่าเข้าใจแหละ

"ค่ะ..." ฉันตอบพร้อมกับพยักหน้ารับทราบ

"แล้วสรุปคุณไม่มีแฟนจริง ๆ เหรอ

"จริงค่ะ แต่ท่านประธานไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอกนะคะเพราะดาวแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ค่ะ ดาวจะไม่มีทางให้เรื่องพวกนี้มีผลกระทบต่อการทำงานของดาวแน่นอน"

"ก็ดีขอให้คุณตั้งใจทำงานละส่วนพวกกฏเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหลือคุณชัชเขาจะเป็นคนบอกคุณเอง...คุณออกไปได้ละ"

"คะ? ค่ะท่านประธาน"

"เดี๋ยว!" ฉันจึงหยุดแล้วนั่งลงเหมือนเดิม

"ท่านประธานมีอะไรหรือเปล่าคะ"

"งานแรกที่ผมจะให้คุณทำก็คือ...ผมขอสั่งให้คุณเลิกเรียกผมว่าท่านประธานตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป" ฉันมองเขาด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงเรียกท่านประธานไม่ได้ก็ในเมื่อเมื่อกี้คุณชัชยังเรียกเขาว่าท่านประธานอยู่เลย

"คือ...มันฟังดูแก่เกินไปน่ะ ผมอายุแค่ 28 เองนะคุณเรียกผมแบบนั้นผมว่าไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่" มันจะไม่เหมาะได้ไงก็เขาเป็นประธานบริษัทจริงๆ หนิมันไม่เห็นดูแก่ตรงไหนเลยอีกอย่างมันดูมีอำนาจดูมีบารมีมากกว่าซะอีก

"แต่...ทุกคนที่นี่ก็เรียกท่านประธานว่าท่านประธานไม่ใช่เหรอคะ"

"ก็พวกเขาชินกันหมดแล้วไง เขาเรียกแบบนั้นมาตั้งแต่สมัยที่พ่อผมบริหารแล้วจะให้แก้ตอนนี้ก็คงยาก"

"แล้วจะให้ดาวเรียกท่านประธานว่าอะไรละคะ" 

"ทศ...ผมชื่อทศราช" เขามองจ้องมาที่ฉันก่อนจะตอบ

"ได้ค่ะ...คุณทศ"

"งั้นดาวขอตัวก่อนนะคะ" ฉันพูดแล้วลุกขึ้นก้มหัวให้เขาทีนึงก่อนจะเดินออกจากห้องนี้ไป ออกมาเห็นคุณชัชกำลังจัดแฟ้มเอกสารกองโตอยู่

"อ้าว~ คุณเลขามาพอดีเลยครับ" เขายกเอกสารแล้วเดินมาวางไว้ที่โต๊ะฝั่งขวา

"นี่ครับเอกสารที่ท่านประธานบอก คุณเลขาลองอ่านดูนะครับ" เขาพูดเอียงตัวไปหยิบแฟ้มที่เหลือมาวางไว้รวมกัน

"ส่วนนี่คือตารางงานประชุมกับตารางนัดลูกค้าของท่านประธานครับ คุณเลขาดูตารางแล้วจัดเอกสารตามนี้เลยนะครับ"

"ได้ค่ะ นี่โต๊ะทำงานของดาวหรอคะ"

"ใช่แล้วครับ"

"ขอบคุณมากนะคะ"

"คุณเลขาต้องจัดให้ตรงและถูกต้องนะครับห้ามผิด! ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยไม่งั้นท่านประธานจะโกรธคุณเลขามาก ๆ ท่านประธานเป็นคนที่เกลียดการมีข้อผิดพลาดที่สุดเลย" คุณชัชพูดย้ำด้วยสีหน้าจริงจังสุดๆ

"เข้าใจแล้วค่ะ...เอ่อ...คุณชัชเรียกดาวว่าดาวเฉย ๆ ก็ได้นะคะต้องทำงานด้วยกันแบบนี้เรียกคุณเลขาฟังดูห่างเหินยังไงไม่รู้"

"อ๋อ...ได้ครับคุณดาว" คุณชัชตอบด้วยหน้าตายิ้มแย้ม ฉันส่งยิ้มไปให้คุณชัชคืน เขาดูใจดีมากๆ เลยแบบนี้น่าจะทำงานด้วยกันไม่ยาก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ประธานจอมเจ้าเล่ห์   วันวาเลนไทน์

    1 สัปดาห์ต่อมา ฉัันยังคงมาทำงานตามปกติเหมือนทุกวันแต่ที่ดูจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็คือการทำงานของฉันดูราบลื่นขึ้นมากและได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อย ๆ แถมพนักงานหลายๆ คนก็เริ่มให้ความการเคารพฉันในฐานะเลขาของคุณทศบ้างแล้วจากที่ตอนแรกดูจะตึง ๆ และไม่ชอบฉันอย่างเห็นได้ชัด "คุณดาวหลังจากที่ทีมการตลาดได้โฆษณาออกไปผลตอบรับของโครงการหมู่บ้านที่พัทยาเป็นยังบ้าง" คุณ "ดีมากเลยค่ะคุณทศตอนนี้ลูกค้ากำลังให้ความสนใจโครงการของเราเป็นอย่างมากแล้วก็มีสปอนเซอร์รายใหญ่ติดต่อมาหลายบริษัทเลยค่ะ" "งั้นก็ดีแล้ว คุณไปทำงานต่อเถอะ" ฉันก็เดินออกจากห้องทำงานของเขาแล้วมานั่งทำงานของตัวเองต่อเหมือนเดิม พอใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันฉันก็กดสั่งอาหารมาไว้ให้เขาตามปกติก่อนจะลงไปทานมื้อกลางวันของตัวเองที่โรงอาหาร โรงอาหาร ทุกคนนั่งทานอาหารกลางวันและพูดคุยกันถึงปัญหาต่างๆ ในแต่ละวันกันอย่างสนุกสนานมีทั้งเรื่องรถติดบ้าง ทะเลาะกับสามีบ้าง มีปัญหาหากับเพื่อนร่วมงานบ้าง "น้องดาวเย็นนี้ว่างไหมจ๊ะ" "ก็ว่างนะคะพี่เจนพอดีดาวไม่ได้มีงานด่วนอะไรด้วย" งั้นน้องดาวไปกับพวกเราไหม" พี่เจนถาม "พวกพี่จะไปไหนกันหรอคะ"

  • ประธานจอมเจ้าเล่ห์   ศัตรูของ KTK

    "อะไรนะ!!" เสียงของอนุวัฒน์ดังขึ้นเมื่อลูกน้องคนสนิทมารายงานข่าวเรื่องที่ดิน ที่เขาเคยยื่นขอเสนอไปแต่ก็ถูกตัดหน้าไปก่อนอย่างหน้าเสียดาย"คึ...คือคุณลดาเธอบอกว่าเธอนำที่ดินไปลงทุนกับบริษัท KTK แล้วครับ" ดนัยตอบ (ลูกน้องของอนุวัฒน์)"เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อเราติดต่อพูดคุยกับคุณลดาไว้ตั้งแต่หลายเดือนแล้วนิว่าเราจะขอซื้อที่ดินตรงนั้นของเธอด้วยเงินสด ทำไมเธอถึงยังปฎิเสธเราได้อีก นี่แกประสานงานยังไงกันแน่ว่ะ" อนุวัฒน์ถามด้วยความโมโห"คือผมทำตามที่คุณอนุวัฒน์สั่งจริงๆ นะครับแต่ผมทราบมาว่าคุณทศราชผู้บริหารคนใหม่ของทางบริษัท KTK ได้ยื่นขอเสนอให้คุณลดาเป็นหุ้นส่วนโครงการใหม่ที่ทางบริษัทนั่นกำลังจะทำขึ้นในอีกไม่ช้าแถมยังให้เปอร์เซ็นที่สูงอีกด้วย เธอก็เลยเกิดลังเลกับข้อเสนอของเราแล้วตกลงเซ็นต์สัญญากับทางนู้นครับ" ดนัยตอบ อนุวัฒน์รู้สึกโกรธยิ่งขึ้นอีกเมื่อรู้ว่าเด็กรุ่นใหม่ที่พึ่งจะก้าวเข้าวงการของธุรกิจอย่างทศราชมาชิงตัดหน้าเขาไป เขาติดต่อกับคุณลดามาเป็นเวลานานมากกว่าคุณลดาจะยอมเปิดใจอ่านสัญญาซื้อขายกับเขา เสียทั้งเงินทั้งเวลทไปก็ไม่ใช้น้อยเพื่อซื้อใจฝั่งนั้นแต่กลับมารู้ทีหลังว่าสิ่งที่เ

  • ประธานจอมเจ้าเล่ห์   ทานข้าวกับท่านประธาน

    ฉันค่อย ๆ นั่งลงตามที่คุณทศสั่ง "คุณทศจะไม่กลับบริษัทหรอคะ" "ผมหิวข้าวน่ะ" ฉันตกใจรีบยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาทันทีถึงได้รู้ว่านี่มันเลยเวลาอาหารกลางวันของคุณทศมานานแล้ว "โอ้! จริงด้วย ดาวขอโทษนะคะที่ไม่ได้สั่งอาหารกลางวันมาให้คุณทศ" "เราอยู่กันที่ร้านอาหารนะไม่ใช่บริษัทถึงคุณจะสั่งอะไรมาให้ผมผมก็กินไม่ได้อยู่แล้วป่ะ" "ดาวขอโทษค่ะ" ฉันมัวแต่ลนจนทำขายหน้าคุณทศอีกแล้ว "อยู่กับผมคุณไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรที่ไม่ได้ทำผิด เข้าใจไหม! ได้ยินทีไรล่ะรู้สึกหงุดหงิดทุกที" "ขอโท- " ฉันกำลังจะเผลอพูดคำนั้นออกมาอีกครั้งแล้วแต่ก็เจอเข้ากับสายตาที่มองมาอย่างดุๆ ก็เลยชะงักไปก่อน "เอ่อ~ รับทราบค่ะ" "แล้วนี่คุณไม่หิวหรือไง" คุณทศถาม "ดาวว่าจะกลับไปทานที่บริษัทค่ะ" "นี่มันจะบ่ายสองแล้วกว่าจะไปถึงบริษัทก็เกือบเลิกงานพอดี ผมทนหิวขนาดนั้รไม่ไหวหรอกนะ" คุณทศตอบแล้วยกมือเรียกให้พนักงานมารับออร์เดอร์ "คุณอยากกินอะไรก็สั่งเลยนะเดี๋ยวผมเลี้ยงเอง" คุณทศพูดแล้วลงไปดูเมนูอาหาร ฉันรับเมนูจากพนักงานมาเปิดดูก็ถึงกับอึ้งไปเลยไม่รู้ทำไมอาหารทุกอย่างมันถึงได้แพงขนาดนี้ ราคาอาหารต่อจานโหดแบบนี้ฉันสามารถใช้เป็น

  • ประธานจอมเจ้าเล่ห์   ดีลธุรกิจ

    ฉันกับคุณทศมาถึงร้านได้ประมาณ 30 นาที แล้ว ฉันได้แต่นั่งเงียบไม่กล้าพูดอะไรเพราะเห็นว่าคุณทศกำลังดูอะไรในโทรศัพท์ไม่รู้สีหน้าจริงจังแต่ระหว่างนั้นคุณทศเขาก็ได้สั่งน้ำผลไม้มาให้ฉันด้วยนะ ไม่นานก็มีผู้หญิงผู้ชายคู่หนึ่งเดินตรงมาที่โต๊ะของพวกเราเมื่อพวกเขาเดินมาถึงคุณทศกับฉันก็รีบยืนขึ้นทักทายทันที "สวัสดีค่ะคุณทศราชรอนานไหมคะ" "สวัสดีครับคุณลดา คุณเอกภพรอไม่นานเลยครับพวกเราเองก็พึ่งมาถึงเหมือนกัน เชิญนั่งก่อนสิครับ" คุณทศพูดด้วยคำสุภาพน้ำเสียงทุ้มน่าฟังสุด ๆ แต่เดี๋ยวนะรอไม่นานอะไรละนี่มันตั้งครึ่งชั่วโมงเลยนะ "คุณลดากับคุณเอกภพสั่งอะไรก่อนดีไหมครับ" "ไม่ดีกว่าครับพวกเราทานมาแล้ว" "เอ่อ! นี่คือคุณดวงดาวเลขาของผมครับ" ฉันรีบก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพและกล่าวแนะนำตัวอย่างมีมารยาท "งั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ" พอคุณทศเริ่มพูดฉันก็หยิบแผนโครงการออกมาส่งให้คุณลดากับคุณเอกภพทันที "โครงการนี้คาดว่าจะเปิดพร้อมเข้าอาศัยประมาณสิ้นปีนี้ครับ จะมีบ้านทั้งหมด 25 หลังแบ่งเป็นหลังใหญ่ 10 หลังและบ้านขนาดกลาง 15 หลังครับ ทางเราคาดการงบของโครงการประมาณไว้ไม่เกินหนึ่งพันล้านบาทครับ ตอนนี้จากก

  • ประธานจอมเจ้าเล่ห์   บนรถ

    ฉันมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าและตอนนี้ก็กำลังนั่งคุณทศอยู่ที่ล็อบบี้ ฉันคิดมาตลอดทางว่าฉันจะทำทุกอย่างที่คุณชัชเคยทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ผิดต่อความตั้งใจของเขา พอรถของคุณทศมาจอดที่หน้าประตูบริษัทฉันก็รีบเดินไปรอรับเขาทันที ตอนแรกฉันกะว่าจะช่วยเปิดประตูรถให้ด้วยแต่ก็เข้าไปไม่ทันพี่รปภ.ที่ยืนรออยู่ ฉันเลยได้แต่ยืนมองดูด้วยความเสียดายและหลังจากที่คุณทศลงมาจากรถฉันก็ยื่นมืือไปขอกระเป๋าและเอกสารในมือเขาทันที คุณทศมองหน้าฉันแป๊ปนึงก่อนที่จะส่งของทั้งหมดมาให้ ฉันรับมันแล้วเดินตามหลังคุณทศไปติดทๆ ฉันเห็นคุณทศเหล่มองมาที่ฉันหลายครั้งสงสัยคงยังไม่ชินละมั้ง พอประตูลิฟต์เปิดออกฉันก็รีบเดินตามเข้าไปจนเผลอชนเข้ากับหลังของเขาจัง ๆ "ขอโทษค่ะ" ฉันพูดแล้วรีบถอยตัวหนีทันที "เอกสารที่ให้เตรียมพร้อมหรือยัง" "เรียบร้อยแล้วค่ะ" เขาเป็นคนที่เดินเร็วมากไม่รู้ว่าเป็นเพราะขายาวด้วยหรือเปล่าทำเอาฉันที่สับแทบตายก็ยังตามไม่ทันบวกกับมีรองเท้าส้นสูงด้วยแล้วนี่ยิ่งไปกันใหญ่เลย "เดี๋ยวคุณเข้าไปคุยกับผมในห้องด้วยนะ" คุณทศพูดแล้วเปิดประตูเข้าไปห้องให้ฉันเดินเข้าไปก่อน เขาคงเห็นว่าฉันถือของมาเยอะเลยไม่สะดวกเปิดประตู

  • ประธานจอมเจ้าเล่ห์   หนึ่งวันของดวงดาว

    หลังจากเลิกงานฉันก็ออกมานั่งรอแท็กซี่อยู่ที่หน้าบริษัท "ไปไหนครับ" พี่คนขับถาม "ไปตลาดคุ้มฟ้าค่ะ" "ได้ครับ" เค้ากดมิเตอร์ทันทีก่อนจะขับรถออกไปพอมาถึงตลาดฉันก็รีบหยิบเงินส่งให้พี่คนขับแล้วลงจากรถเพื่อไปหาแม่กับป้าน้อย ปกติหนึ่งวันของบ้านเรานั้นช่วงเช้าแม่กับป้าน้อยจะทำขนมออกมาขายด้วยกันที่ตลาด พอเริ่มสาย ๆ หน่อยคนก็จะซาแล้วป้าน้อยก็จะเดินไปซื้อพวกของสด วัตถุดิบต่าง ๆ ในตลาดเพื่อมาเตรียมทำกับข้าวไว้ขายตอนเย็นต่อเป็นพวกข้าวแกงถุง โชคดีที่ตลาดที่นี่ทำเลดีอยู่ตรงกลางระหว่างโรงงาน โรงเรียน วัดและก็ศาลเจ้าเลยทำให้มีคนเดินพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าเป็นวันพระหรือเทศกาลต่าง ๆ นะก็จะยิ่งขายดี ตอนเช้าส่วนใหญ่บ้านเราจะทำเป็นพวกขนมหวานขนมไทยแต่อาจจะมีพวกเค้กกับของหวานอื่นบ้างสลับกันไปมาส่วนช่วงเย็นก็จะเน้นขายพวกกับข้าวถุงซะส่วนใหญ่นอกจากจะมีขนมเหลือจากตอนเช้าบ้างที่จะเขาออกมาขายด้วยแต่รับรองไม่มีขนมค้างคืนแน่นอน ช่วงตอนเย็นกับข้าวร้านเราขายดีมากไม่เคยเหลือเลยสักวันเพราะทั้งถูกและอร่อยๆด้รับการการันตีจากลูกค้าตลอดโดยกลุ่มเป้าหมายหลักของเราจะเน้นไปที่พนักงานโรงงานที่เลิกเพิ่งเลิกงานกัน ช่วง 5-6

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status