LOGIN"ก็ได้ค่ะ" หลังจากที่คิดอยู่นานมิราจึงเอ่ยตอบเขาไป น้ำเสียงเบา ยังมีความกังวลและหวั่นกลัวอยู่ไม่หาย แต่เพราะเธอรักเขา เธอจึงยอมที่จะเป็นของเขา
ด้านวายุได้ยินเช่นนั้นจึงระบายยิ้มออกมาทันที และไม่มัวรอช้า มือหนาข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมาจับท้ายทอยเล็กแล้วดันขึ้นเล็กน้อย พร้อมๆกับโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงไปใช้ปากหนากดจูบปากบางทันทีอย่างนุ่มนวล
"อื้อ" มิราครางอยู่ในลำคอ มือบางทั้งสองข้างกำเสื้อยืดของอีกคนบริเวณเอวสอบเอาไว้แน่น รู้สึกตื่นเต้นและประหม่าในเวลาเดียวกัน
"อืม~" วายุแทรกลิ้นเข้าไปในโพลงปากบางแล้วตวัดดูดดันลิ้นเล็กที่เริ่มตอบสนองเขาอย่างเงอะงะ แต่เขากลับชอบมากกับความไม่ประสีประสาของเด็กสาว
จากนั้นมือหนาสองข้างเลื่อนลงไปช้อนก้นกลมมนอุ้มกระเตงเด็กสาวขึ้นมาโดยที่ยังไม่ได้ผละจูบออก ขาเรียวเล็กจึงตวัดเกี่ยวเอวสอบทันทีอัตโนมัติพร้อมๆกับสองแขนเรียวเล็กตวัดคล้องลำคอหนาเอาไว้ทันทีเช่นกัน ถึงจะตกใจกับการกระทำของคนตัวโต แต่กระนั้นเธอก็ยังจูบตอบเขากลับอย่างไม่ยอมแพ้
จากนั้นคนตัวโตก็อุ้มกระเตงเด็กสาวไปยังเตียงนอนขนาดห้าฟุต ค่อยๆวางร่างบางลงบนที่นอนนุ่มอย่างเบามือ โดยมีเขาคร่อมร่างของเธอเอาไว้ ก่อนจะผละจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง
"หลังจากนี้ ถ้าหนูเสียวก็ครางออกมานะครับไม่ต้องอาย หรือถ้าหนูเจ็บก็บอกพี่นะครับพี่จะได้ทำเบาๆ" เขาเอ่ยบอกเด็กสาวน้ำเสียงอ่อนโยนปนแหบพร่า พลางมือหนาข้างหนึ่งลูบศีรษะเล็กไปด้วยอย่างทะนุถนอมและหลงใหลคนใต้ร่างเป็นที่สุด
"ค่ะ ละ แล้วมันเจ็บมากไหมคะ" มิราพยักหน้าตอบ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปแบบนั้นเพราะนึกหวั่นกลัวไม่หาย
"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับพี่ไม่ใช่ผู้หญิง" คำตอบเหมือนจะดูกวนๆแต่เขากลับพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยพูดต่อน้ำเสียงอ่อนโยนเช่นเดิม
"ถ้าหนูเจ็บก็แค่บอกพี่ มีพี่อยู่ตรงนี้หนูไม่ต้องกลัวนะครับ"
"ค่ะ" มิราพยักหน้าตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกกับคำพูดอ่อนโยนของคนบนร่าง
จากนั้นคนตัวโตจึงหยัดกายขึ้นโดยที่ยังคร่อมร่างบางเอาไว้ มือหนาทั้งสองข้างเลื่อนมาปลดกระดุมชุดนอนผ้าซาตินสีชมพูอ่อนของเด็กสาวตั้งแต่เม็ดแรกจนสุดเม็ดสุดท้ายแล้วค่อยๆถอดชุดนอนออกจากร่างบางอย่างใจเย็นโดยมีเจ้าตัวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ลมหายใจของเขาเริ่มติดขัดขึ้นมาทันทีที่เห็นเนินอกอวบอิ่มโผล่พ้นเสื้อชั้นในลูกไม้สีขาวออกมา ก่อนจะไม่รอช้าสอดมือหนาเข้าใต้แผ่นหลังบางแล้วปลดตะขอบราเซียร์ตัวสวยออกทันที
กึก
พรึ่บ!
สองเต้าอวบอิ่มดีดเด้งเมื่อเป็นอิสระจากบราเซียร์ มือหนาจึงดึงบราเซียร์ออกไปให้พ้นสายตาแล้วโยนทิ้งลงข้างเตียงอย่างไม่ใยดี ขณะดวงตาคู่คมจับจ้องมองสองเต้าอวบอิ่มไม่ละสายตา มันช่างใหญ่โตเกินตัวเจ้าของมันเสียจริง เขามองสองเต้าตรงหน้าอย่างหลงใหล ผิวเนื้อบริเวณรอบเต้าขาวเนียนละเอียดไร้ที่ติราวกับผิวเด็ก ยอดอกเม็ดเล็กสีชมพูอ่อนดูน่ารักน่าลิ้มลอง จนเขาต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
อึก~
ไม่รอช้าโน้มตัวลงไปซุกใบหน้าหล่อเหลาเข้าหาอกอวบอิ่มแล้วอ้าปากงับยอดประทุมถันทันที พร้อมๆกับส่งมือหนาทั้งสองข้างบีบขย้ำทั้งสองเต้าอย่างไม่ให้น้อยหน้ากัน
"อื้อ พี่วายุ อ๊ะ" มิราครางเสียงกระเส่า รู้สึกเสียวซ่านวูบวาบไปทั้งร่างกับสัมผัสแปลกใหม่ที่คนตัวโตมอบให้ โดยเฉพาะจุดยอดอกที่เขากำลังดูดเลียอยู่ เธอรู้สึกดีและเสียวไปหมดอย่างบอกไม่ถูก มือบางสองข้างเลื่อนมาขย้ำกลุ่มผมดกดำของคนตัวโตหนักเบาตามกามารมณ์ที่เขานำพา
"อืม~" ยิ่งได้ยินเสียงครางหวานๆ วายุก็ยิ่งรังแกสองเต้าอวบอิ่มหนักขึ้น เขาดูดเลียตวัดลิ้นรัวๆบนยอดประทุมถันอย่างตะกละตะกลามละคนหื่นกระหาย ทำสลับกันไปมาทั้งสองเต้า ข้างที่ว่างจากปากและลิ้นก็ส่งมือหนาบีบขย้ำอย่างมันมือเพื่อไม่ให้น้อยหน้ากัน จนคนใต้ร่างแทบดิ้นพล่านกับสัมผัสที่เขามอบให้
และเมื่อรังแกสองเต้าจนพอใจแล้ว เขาจึงผละใบหน้าออกจากอกอวบอิ่ม เปลี่ยนมาจูบซับดูดเลียผิวเนื้อขาวเนียนหอมๆตรงซอกคอแทน เขาซุกไซ้ขบเม็มดูดผิวเนื้อตามซอกคอของเด็กสาวสลับไปมาทั้งสองข้างอย่างเร่าร้อน ขณะที่สองมือหนาบีบขย้ำสองเต้าอวบอิ่มไปด้วยอย่างมันมือ สลับกับบีบบี้และสะกิดยอดประทุมถันอย่างหยอกเย้าเจ้าของมัน ถึงเขาจะดูหิวโหยและหื่นกระหายในตัวเด็กสาว แต่กระนั้นเขาก็ยังคงความอ่อนโยนเอาไว้ในทุกๆสัมผัส จากนั้นก็ลากกึ่งปากกึ่งจมูกจูบซับลงมาหาอกอวบอิ่มแล้วรังแกสองเต้าอวบอิ่มอีกครั้งอย่างตะกละตะกลาม ราวกับเด็กทารกที่หิวโหยนมจากเต้าของแม่ยังไงยังงั้น
"อื้อ พะ พี่วายุคะ" มิราครางเรียกเสียงกระเส่า พลางดันไหลแกร่งเบาๆ คนตัวโตจึงผละใบหน้าขึ้นมาขานรับทันที
"ครับ"
"น้องรู้สึกแปลกๆตรงนี้ค่ะ มันเปียกๆด้วย" ด้วยความไร้เดียงสา มิราจึงเอ่ยบอกอย่างไม่นึกอาย เธอไม่พูดเปล่ามือบางข้างหนึ่งเลื่อนลงไปวางทาบบนใจกลางความเป็นสาวของตัวเองด้วย มองคนตัวโตบนร่างดวงตาสั่นระริก
วายุได้ยินเช่นนั้นจึงหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดูกับความไร้เดียงสาของเด็กสาว ก่อนที่มือหนาข้างหนึ่งจะเลื่อนลงไปหาใจกลางความเป็นสาวของเธอโดยที่ดวงตาคู่คมจับจ้องมองดวงหน้าน่ารักของเด็กสาวไม่ละสายตา เขาปัดมือบางที่จับความเป็นสาวของตัวเองออกเบาๆแล้วสอดมือหนาของตัวเองเข้าไปในกางเกงชั้นในตัวจิ๋วของเธอ ก่อนจะบีบขย้ำเนินเนื้ออวบอูมเบาๆประหนึ่งหยอกเย้าเจ้าของมัน ทำเอาเด็กสาวสะดุ้งกับสัมผัสของเขา เห็นแบบนั้นเขานึกชอบใจ อยากที่จะแกล้งเธอต่อ
"ตรงนี้ใช่ไหมครับ อืม เปียกจริงด้วย แฉะหมดแล้ว" เขาพูดพลางกรีดกรายนิ้วใหญ่บดขยี้ตามร่องกลีบกุหลาบเบาๆ ซึ่งตอนนี้น้ำสวาทที่เด็กสาวปลดปล่อยออกมาตามกามารมณ์ของเธอมันแฉะเต็มนิ้วมือของเขาไปหมด
"อื้อ พี่วายุอย่าแกล้งน้อง" ขาเรียวเล็กหนีบเข้าหากันอัตโนมัติตามสัญชาตญาณเมื่อมีสิ่งรุกล้ำเข้ามา ขณะที่ใบหน้าน่ารักหันมองไปอีกทางด้วยความเขินอาย
"หึ พี่ไม่แกล้งแล้วก็ได้ แต่พี่จะเอาจริงแล้วนะ" พูดจบวายุก็ดึงมือหนาออกจากกางเกงชั้นในตัวจิ๋วของเด็กสาวที่แทบจะปิดความเป็นสาวของเธอไม่มิด ก่อนจะหยัดกายขึ้นแล้วเกี่ยวรั้งแพนตี้ตัวจิ๋วลงมา ดึงออกทางขาเรียวเล็กด้วยความร่วมมือจากเจ้าของมันแล้วโยนทิ้งลงข้างเตียงอย่างไม่ใยดี
จากนั้นก็จับขาเรียวเล็กอ้าออกกว้างเป็นรูปตัวเอ็มโดยที่สายตาไม่ละไปจากใจกลางความเป็นสาวของเธอเลย เนินเนื้ออวบอูมขาวผ่องเนียนละเอียดไร้เส้นขนปกคลุม ติ่งเกสรเล็กๆสีชมพูสด รูรักที่ปิดสนิท เห็นแบบนั้นทำให้ความหวงแหนวิ่งกรูเข้ามาเกาะกินใจแกร่งของเขาทันที เขาเหลือบมองหน้าเด็กสาวที่กำลังมองเขาอยู่เหมือนกัน ดวงตากลมโตของเธอสั่นระริกซึ่งมันไม่ได้ดูหน้าสงสารเลย แต่มันกลับดูเซ็กซี่ในสายตาเขา ยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของเขามากขึ้นไปอีก
ไม่มัวรอช้าโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงไปจูบซับสลับลากลิ้นเลียตั้งแต่เรียวขาอ่อนจนมาหยุดอยู่ที่ความเป็นสาวอันบริสุทธิ์ ก่อนจะจูบหนักๆบนเนินเนื้ออวบอูมหนึ่งครั้ง จากนั้นก็แลบลิ้นออกมาตวัดเลียตามร่องกลีบกุหลาบงามทันทีอย่างหลงใหล ซึ่งเขาไม่เคยก้มหัวทำแบบนี้ให้คู่นอนคนไหนมาก่อน แต่กับเด็กสาวเขาอยากทำให้เธอมีความสุขและอยากสัมผัสทุกส่วนของร่างกายเธอ เพื่อตรีตราจองว่าเธอเป็นของเขาแค่คนเดียว
"อื้อ พี่วายุ อ๊ะ อา~" มิราถึงกับครางเสียงหลงด้วยความเสียวซ่านกับสัมผัสแปลกใหม่ที่อีกคนมอบให้ มือบางสองข้างเลื่อนมาขย้ำดึงทึ้งกลุ่มผมดกดำของเขาหนักเบาสลับกันไป พลางดันสะโพกขึ้นสู้ปากและลิ้นของเขาอย่างห้ามไม่ได้ตามกามารมณ์และสัมผัสที่เขานำพา แต่บางทีก็ถดถอย บางทีก็ดันเข้าหา ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจความรู้สึกนี้เหมือนกัน แต่ทุกสัมผัสที่เขามอบให้มันเป็นอะไรที่ดีมากและเธอก็ชอบมากเลยทีเดียว
"อืม~" วายุครางกระเส่าด้วยความพอใจในรสชาติของความเป็นสาวอันบริสุทธิ์ของเด็กน้อย มันช่างหอมหวานทำให้เขามัวเมาจนไม่อยากผละปากออกจากความเป็นสาวของเธอเลย แต่กระนั้นก็ต้องอดใจไว้เพราะเขาอยากให้ครั้งแรกของเด็กสาวสุขสมด้วยเจ้าลูกชายของเขามากกว่าที่จะเสร็จกับลิ้นเขา เอาไว้ครั้งหน้าเขาจะให้เธอเสร็จกับปากเขาก็ยังได้
จากนั้นเขาจึงผละปากและลิ้นออกจากกุหลาบงามอย่างอ้อยอิ่งและแสนเสียดาย ก่อนจะหยัดกายขึ้นแล้วย่างกายแกร่งลงจากเตียงมาปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของตัวเองทั้งบนและล่าง ทั้งตัวนอกตัวในอย่างใจเย็น กระทั่งร่างกายกำยำดูดีไปทุกส่วนเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆปกปิด โดยมีเด็กสาวนอนมองการกระทำของเขาอยู่ตลอดอย่างไม่ละสายตา ทันทีที่เธอเห็นแก่นกายขนาดใหญ่เกินมาตรฐานชายไทยไปมากของเขา ดวงตากลมโตก็เบิกโพลงขึ้นมาพร้อมกับสบถในใจทันทีว่า
(โห~ ใหญ่จัง) เธอจ้องมองความเป็นชายของเขาไม่ละสายตาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและหวั่นกลัวในเวลาเดียวกัน
ด้านวายุที่มองอยู่นึกขำกับสีหน้าของเด็กสาวที่มองเขาอยู่บนเตียง เธอดูตกใจกับการที่เห็นลูกชายของเขาราวกับมันเป็นอะไรที่อรรสจันอย่างนั้น แต่ทว่าต่อให้เธอจะทำหน้าเหวอเธอก็ยังน่ารักอยู่ดี และยิ่งน่าเอ็นดูเข้าไปใหญ่สำหรับเขา
(เด็กอะไร น่ารักน่าเอาชะมัด) เขาพูดขึ้นมาในใจ ก่อนจะไม่รอช้าย่างกายแกร่งเปลือยเปล่าขึ้นเตียง พาตัวเองไปนั่งอยู่ในอาณัติหว่างขาเรียวเล็กขาวเนียนของเด็กสาว แล้วเอ่ยถามเธอไป
"พร้อมไหมครับ"
(ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง)"พี่วายุเป็นไงบ้างพี่" เมื่อคนเป็นนายและพี่ชายออกไปจากห้องนี้แล้ว ภีมก็รีบพุ่งตัวเข้าไปหารุ่นพี่อย่างไว แล้วช่วยประคองกายแกร่งของรุ่นพี่ให้ลุกขึ้นนั่ง "กู โอเค" วายุตอบรุ่นน้องด้วยน้ำเสียงเบาหวิว แทบจะไม่มีแรงพูด ร่างกายไร้เรี่ยวแรง สมองยังปวดหนึบด้วยฤทธิ์ยา "อดทนอีกนิดนะพี่ เดี๋ยวยาก็หมดฤทธิ์แล้ว" ภีมไม่สามารถช่วยอะไรรุ่นพี่ได้เลย เขาทำได้แค่บอกให้รุ่นพี่อดทน เพราะยาชนิดนี้ไม่มียาแก้หรือยาต้านใดๆ สุดแล้วแต่ร่างกายและความอดทนของคนที่ได้รับยานี้เข้าไปว่าจะอดทนต่อฤทธิ์ของมันได้หรือไม่"มึงอย่าปากสว่างไปบอกหนูมิล่ะ กูไม่อยากให้เมียกูต้องเป็นห่วง" วายุไม่ได้สนใจคำพูดของรุ่นน้องแต่อย่างใด เขาเลือกที่จะเอ่ยประหนึ่งเป็นคำสั่งกับรุ่นน้องแทนขณะที่ใบหน้ายังคงเหยเกด้วยความเจ็บปวด มือหนาข้างหนึ่งกุมขมับเอาไว้ มือหนาอีกข้างวางค้ำยันลงบนพื้นเพื่อเป็นหลักให้ตัวเอง"โธ่พี่ ผมไม่บอกคุณหนูหรอกหน่า อีกอย่างพี่ห่วงตัวเองก่อนเถอะ สภาพพี่ตอนนี้ดูไม่ได้เลย" ภีมรู้ดีว่าเรื่องไหนควรพูดไม่ควรพูด แต่รุ่นพี่ของเขานี่สิ ห่วงแต่คุณหนูตัวน้อยทั้งที่สภาพตัวเองตอนนี้แย่มากแทบดูไม่ได
(ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง)ภายในห้องใต้ดินหรือห้องเชือดผัวะ!ทันทีที่วายุโผล่หน้าเข้ามาในห้องเชือด เดชาก็ปล่อยหมัดหนักๆใส่ใบหน้าข้างขวาของวายุเต็มแรง จนใบหน้าหันไปตามแรงหมัดพร้อมกับเซไปด้านหลังจนเกือบเสียหลักล้มลงไป แต่ไม่ทันที่จะได้ตั้งหลักดี หมัดที่สองก็ตามมาใส่ใบหน้าอีกข้างเต็มแรงผัวะ!ใบหน้าของวายุหันไปตามแรงหมัดเกือบจะเสียหลักล้มลงไปอีกครั้งแต่ก็ทรงตัวเอาไว้ได้ ก่อนจะใช้หลังมือปาดน้ำคาวสีแดงที่ซึมออกมาตรงมุมปากทั้งสองข้างออกลวงๆ แล้วมองไปยังผู้เป็นนายนิ่งๆ โดยไม่พูดหรือไม่คิดจะตอบโต้กลับไป เขายอมให้ผู้เป็นนายกระทำแต่โดยดี"สองหมัดนี้แค่น้ำจิ้ม หลังจากนี้มึงเตรียมตัวรับบททดสอบของกูให้ได้ก็แล้วกันไอ้วายุ หึ" เดชาพูดด้วยน้ำเสียงกดต่ำ พูดจบก็กระตุกยิ้มร้ายเย้ยหยันคนเป็นลูกน้องที่เลี้ยงไม่เชื่อง"ผมพร้อมครับ" วายุพูดสวนไปทันทีด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ต่างจากใบหน้า เขายังคงใจเย็น ไม่ได้มีความเกรงกลัวผู้เป็นเจ้านายและสิ่งที่ตัวเองกำลังจะเผชิญเลยแม้แต่น้อย"อวดเก่ง! ถ้ามึงพร้อมมากขนาดนี้กูก็พร้อมจัดให้มึงแบบชุดใหญ่ จัดให้แบบสมเกียรติคนเก่งอยากมึง" เดชาไม่เคยเจอใครที่กล้าหือกับเขาแ
ก๊อกๆๆๆๆ!!!!แต่แล้วเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นด้วยฝีมือของคนนอกห้องที่กระหน่ำเคาะไม่หยุด ทำให้เด็กสาวเจ้าของห้องสะดุ้งผวาโผเข้ากอดคนตัวโตเอาไว้แน่นด้วยความตกใจ และนึกหวั่นกลัวขึ้นมา เพราะตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในห้องแค่คนเดียว หากใครมาเห็นเข้าคงแย่ก๊อกๆๆๆๆๆ!!!!"ยัยหนูเปิดประตูให้พ่อเดี๋ยวนี้!"เสียงเคาะประตูรัวๆดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงทุ้มดังกังวานของผู้เป็นพ่อ ทำให้เธอยิ่งตกใจและหวั่นกลัวหนักกว่าเดิม"พี่วายุคุณพ่อกลับมาแล้วทำยังไงดีคะ ถ้าคุณพ่อเห็นพี่วายุอยู่กับน้องแบบนี้คุณพ่อต้องไม่ปล่อยพี่วายุไปแน่ น้องกลัวค่ะ" มิราพูดด้วยความร้อนรน น้ำเสียงสั่นไปหมด ไม่คิดว่าคนเป็นพ่อจะกลับมาไวขนาดนี้ทั้งที่บอกเธอว่าจะกลับพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เธออยู่ไม่สุขนั่งไม่ติดเลยทีเดียวเพราะกลัวว่าผู้เป็นพ่อจะทำอะไรคนรักของเธอ พลางหันไปมองทางประตูที่ตอนนี้ผู้เป็นพ่อกำลังกระหน่ำเคาะเรียกเธอไม่หยุด เธอแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้วเพราะไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ในตอนนี้"หนูใจเย็นๆนะครับ มีพี่อยู่ตรงนี้หนูไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น มันถึงเวลาแล้วที่นายจะต้องรู้เรื่องของเราสักที" บอกกับเด็กสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"อ้าวพี่ หายไปไหนมาตั้งนาน" ภีมเอ่ยทักทันทีเมื่อเห็นรุ่นพี่กำลังเดินมาทางเขาวายุไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับมองหาเด็กสาวที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้อย่างที่เขาคิดไว้ หรือเธอคงอาจจะเสียใจและวิ่งขึ้นห้องนอนของเธอไปแล้ว เช่นนั้นก็ดี ดีกว่าที่เธอมานั่งอยู่กับไอ้หน้าตี๋"ตัวเล็กไปเข้าห้องน้ำนานจัง เดี๋ยวฉันไปตามดีกว่า" พูดจบมาตินก็ตั้งท่าจะลุกขึ้น แต่ทว่าวายุก็ดันกดไหล่ของมาตินให้นั่งลงเช่นเดิม ก่อนจะเอ่ยพูดออกไปน้ำเสียงแข็ง ใบหน้าเรียบนิ่ง"ไม่ต้องไปตามหรอก คุณหนูบอกว่าง่วง เลยขอตัวขึ้นห้องไปนอนแล้ว ส่วนคุณก็กลับบ้านไปได้แล้ว""นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน ฉันจะไปดูตัวเล็ก" มาตินปัดมือของวายุออกจากไหล่ตัวเอง ขณะมองหน้าวายุอย่างไม่พอใจที่บังอาจมาสั่งเขา แถมท่าทางก็ยังกำแหง ดูไม่ให้เกียรติและไม่เกรงใจเขาเลยด้านภีมเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพูดแทรกสถานการณ์ตรงหน้า"เอ่อ ผมว่าคุณมาตินกลับไปก่อนดีกว่านะครับ คุณหนูหลับไปแล้วคงไม่มีประโยชน์ถ้าคุณจะขึ้นไปหาคุณหนูตอนนี้ อีกอย่างมันก็ไม่เหมาะสมที่คุณจะขึ้นไปหาคุณหนูบนห้องด้วย"พรึ่บ!สิ้นเสียงของภีม มาตินก็ลุกพรวดขึ้นมาแล้วพูดสวนกลับภีมอย่างไม่พอใจ"ไม่เหมาะสมยังไง อีกไม่นาน
บริเวณสวนหย่อมข้างบ้านหลังจากมื้ออาหารเช้าจบลง มิราก็พาแขกที่ไม่ได้รับเชิญมานั่งเล่นบริเวณสวนหย่อมข้างบ้าน แต่กลับไม่มีบอดี้การ์ดคนของใจตามเธอมาด้วย ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน หลังจากที่ทานข้าวเสร็จเธอก็ไม่เห็นเขาอีกเลย ตอนนี้ก็ได้แต่หันซ้ายหันขวา ชะเง้อมองหาคนรักจนคอยาวเป็นยีราฟแล้ว"มีอะไรรึเปล่าครับ มองหาใครอยู่เหรอ" มาตินเอ่ยถามเพราะท่าทางของคนตัวเล็กทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ด้านมิราถึงกับชะงักกับคำถามของอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยตอบเขาไปด้วยอาการเลิ่กลั่กเล็กน้อย"ปะ เปล่าค่ะ ไม่ได้มองหาใคร"ด้านมาตินได้ยินเช่นนั้นก็เลือกที่จะไม่ถามเซ้าซี้อะไรอีก ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยพูดต่อ"พี่มาตินนั่งตรงนี้ไปก่อนนะคะ มิราขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน พี่ภีมฝากดูแลพี่มาตินด้วยนะคะเดี๋ยวน้องมิมา" พูดจบมิราก็ดันตัวลุกขึ้นเดินจ้ำอ้าวเข้าไปในบ้านทันที ทิ้งให้มาตินได้แต่มองตามหลังอย่างนึกสงสัยกับท่าทางที่ผิดปกติของเธอ แต่ไม่ใช่กับบอดี้การ์ดคนสนิทอย่างภีม เพราะภีมรู้ดีว่าคุณหนูตัวน้อยเป็นอะไร...ซึ่งภีมก็ได้รู้แล้วว่ารุ่นพี่ของเขากับเด็กสาวมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจนไปถึงขั้นผัวเมียกันแล้ว และที่เขารู้ได้นั้นก็เพราะเมื่
ในเวลาหกโมงเช้ามิราเปิดประตูออกมาจากห้องนอนของตัวเอง ก็เห็นคนเป็นพ่อเหมือนกำลังจะเดินทางไปไหน เพราะเธอเหลือบไปเห็นกระเป๋าลากใบใหญ่ที่บอดี้การ์ดคนสนิทของพ่อเธอกำลังถืออยู่ เธอจึงเอ่ยถามคนเป็นพ่อไป"นั่นคุณพ่อจะไปไหนแต่เช้าคะ"เดชาหยุดชะงักเท้าแล้วหันมาตอบคำถามของลูกสาว"พ่อต้องไปคุยงานที่ต่างจังหวัด หนูอยู่บ้านก็อย่าดื้ออย่าซนนะลูก ถ้าจะออกไปข้างนอกก็ให้ไอ้ภีมกับไอ้วายุมันพาไป แต่ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าออกไปไหน เข้าใจไหมครับ""ค่ะ แล้วคุณพ่อจะไปกี่วันคะ" ซึ่งคนเป็นพ่อก็มักจะไปคุยงานต่างจังหวัดแบบนี้อยู่บ่อยๆจนมิราชินไปเสียแล้ว เธอเลยไม่ได้กังวลอะไรกับการที่ต้องอยู่บ้านคนเดียวโดยไม่มีผู้เป็นพ่ออยู่ด้วย"ถ้าไม่มีปัญหาอะไร พรุ่งนี้พ่อก็น่าจะกลับแล้วครับ"สิ้นคำตอบของคนเป็นพ่อ มิราก็พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเข้าไปกอดเอวสอบของพ่ออย่างออดอ้อน โดยที่คนเป็นพ่อก็กอดตอบลูกสาวของตนทันที"เดินทางปลอดภัยนะคะคุณพ่อสุดหล่อของหนู เอ๊ะ ว่าแต่คราวนี้จะหิ้วสาวๆกลับมาด้วยรึเปล่าคะเนี้ย" เอ่ยแซวคนเป็นพ่อไปอย่างนั้น ทั้งที่รู้ดีว่าคนเป็นพ่อไม่มีทางพาผู้หญิงเข้าบ้านแน่นอน อย่างมากก็พาไปโรงแรมหรือที่ไหนก็แล้วแต่ที่ไม่







