นางกำนัลยกมือขึ้นกอดอก ก้มหน้ามองอย่างดูแคลน “เธอก็พูดไปเรื่อย พวกเราต่างก็มาจากยุคสมัยใหม่เหมือนกัน เรื่องฆ่าคนอะไรนั่น ใครจะทำใจได้ง่ายขนาดนั้น”
ฉินเจียวเยี่ยน “แล้วเธอจับฉันมาเพราะอะไรกันแน่”
อีกฝ่ายยังคงนิ่งเงียบ “...”
“เอางี้นะ ในฐานะที่เราทั้งคู่ก็หลุดเข้ามาในนิยายเรื่องนี้ เรามาคุยกันแบบเปิดอกเลยได้ไหม?” ฉินเจียวเยี่ยนเอ่ยขึ้น “เรามาหาทางที่พวกเราทั้งคู่จะมีชีวิตที่ดีด้วยกันดีไหม?”
นางกำนัลนิ่งไปอย่างใช้ความคิด ก่อนจะพยักหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน “ก็ได้ ฉันเองก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน”
“งั้นคำถามแรก เธอคือใคร?”
นางกำนัลไม่ตอบ แต่ล้วงมือเข้าไปในแขนเสื้อ แล้วหยิบกระดาษเช็ดเครื่องสำอางออกมาเช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้า
ฉินเจียวเยี่ยนเบิกตากว้าง “นี่ เธอมีกระดาษเช็ดเครื่องสำอางด้วยเหรอ?”
“ก็มีน่ะสิ” คำพูดดังขึ้น แม้ว่า นางกำนัลจะยังเช็ดหน้าไม่เสร็จ ปล่อยให้ฉินเจียวเยี่ยนรอคอยอย่างอดทน จนกระทั่งใบหน้านั้นสะอาดหมดจด
“เสี
ฉินเจียวเยี่ยนก้มหน้ามองต่ำไปที่หลี่ชิงหง ซึ่งนั่งหมดท่าอยู่บนพื้นเย็น ความหวาดกลัวที่มีต่อเซียวชิงเฟิงยังคงฉายแววเด่นชัดในดวงตาเอาเถอะ จะกลัวก็ไม่แปลก ท่าทางของเฟิงอ๋องก็สมกับที่เป็นแม่ทัพหน้ากากเหล็กนั่นแหละนะคิ้วของเซียวชิงเฟิงขมวดมุ่น นี่ เขาทำให้นางกลัวไปด้วยหรือนี่?“ละ แล้วเธอจะเอายังไง? ฉันก็เล่าให้ฟังไปหมดแล้ว” หลี่ชิงหงแผดเสียงออกมาเมื่อครู่ เธอตกใจกลัวแทบตาย พระเอกของเรื่องนี่ โหดใช่ย่อยหลี่ชิงหงลืมไปเสียสนิทว่า เซียวชิงเฟิง คือ คนในยุคโบราณการฆ่าคนไม่ใช่เรื่องยาก ที่นี่ใช้ดาบจริงที่คมกริบ แตกต่างจากดาบปลอมพลาสติกเหมือนในกองถ่ายละครอาจจะเป็นเพราะเธออยู่กับฉินเยี่ยนฟาง นางเอกผู้ใจดีในจวนซ่านเต๋อโหวที่มีอำนาจเพียงแต่เปลือก ไม่ได้ซ่องสุมกำลังใด ๆ เป็นขุนนางที่สะอาดหมดจด จึงทำให้หลี่ชิงหงรู้สึกเหมือนได้ใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน เพียงแต่ลดสถานะทางสังคมลงก็เท่านั้นแต่พอมาวันนี้ วันที่ได้เจอแม่ทัพที่ออกรบในสงครามขึ้นมาจริง ๆ รังสีอำมหิตแผ่ซ่าน จนคนธรรมดาแบบเธอตกใจจนขวัญอ่อน ไม่มีเรี่
“เมื่อได้เวลา ฉันก็จะไปตามทุกคนมาเจอสภาพเฟิงอ๋องกับฉินเยี่ยนฟาง” หลี่ชิงหงยกยิ้ม “ถึงเวลานั้น เฟิงอ๋องก็ต้องรับฉินเยี่ยนฟางเป็นพระชายารองอย่างแน่นอน”ฉินเจียวเยี่ยนเลิกคิ้วอย่างท้าทาย “เธอมั่นใจได้ยังไงว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่เธอว่า?”หลี่ชิงหงหรี่ตา “เธอหมายความว่ายังไง?”“หลี่ชิงหง เธอเองก็อยู่ในกองละครตั้งแต่ต้นจนจบไม่ใช่เหรอ?” ฉินเจียวเยี่ยนเอียงคอถามด้วยดวงตาเปล่งประกาย เมื่อเจอช่องโหว่ของแผนการร้ายของคนตรงหน้าได้ “เธอไม่รู้หรือไง ว่า เฟิงอ๋องมีวิทยายุทธ์นะ กำยานแค่นั้น ปลุกเร้าเขาไม่ขึ้นหรอก”“ทำไม? ของเขาใช้การไม่ได้หรือไง?”ฉินเจียวเยี่ยนกลอกตามองบนใช้การไม่ได้อะไรล่ะ? ใช้การไม่หยุดหย่อนต่างหาก!!“ถ้ากำยานนั้นใช้การได้ คืนวันเกิดซ่านเต๋อโหว เฟิงอ๋องจะหนีไปได้หรือไง?”หลี่ชิงหง “!!!”บัดซบ!! เธอลืมไปเสียสนิทต้องบอกก่อนว่า เธออยู่ในกองละคร ตั้งแต่เริ่มเรื่องก็จริง แต่ด้วยความจำย
ฉินเจียวเยี่ยน “...”“ทำไมเธอถึงมองฉันอย่างนั้นล่ะ?” หลี่ชิงหงย้อนถาม “ลองเธอมาเป็นสาวใช้ของนางเอกแบบฉันไหมล่ะ? ชีวิตสาวใช้ บทเจ้านายจะตีตาย ก็ตายได้ง่าย ๆ โดยไม่รู้ตัว ยิ่งถ้าได้รู้ว่า ในอนาคต ฉินเยี่ยนฟางจะได้เป็นฮองเฮาแล้วด้วย เป็นเธอ เธอจะไม่ทำหรือไง”“จ้า จ้า แม่คนเก่ง” ฉินเจียวเยี่ยนฝืนชม “เล่าต่อสิ”หลังจากนั้น หลี่ชิงหงจึงสังเกตฉินเจียวเยี่ยนเป็นพิเศษ เพราะช่วงเวลาหนึ่งปีที่เธออยู่ที่นี่ ทำให้ได้เห็นพฤติกรรมเลวร้าย เอาแต่ใจ โง่เขลา ไร้คุณธรรมอย่างสิ้นเชิงของคุณหนูรองแห่งจวนโหวคนนี้เมื่อย้อนคิดถึงวันที่ไปเดินชมเทศกาล ที่ฉินเจียวเยี่ยนมาชวนฉินเยี่ยนฟางไปเที่ยวงานอย่างเป็นมิตร ทุกอย่างก็ยิ่งทำให้หลี่ชิงหงมั่นใจว่า ฉินเจียวเยี่ยนคือคนที่ข้ามมิติมาดังนั้น หลี่ชิงหงจึงจัดการฉินเจียวเยี่ยนตามเนื้อหาของละคร เริ่มจากปล่อยข่าวลือ สร้างความเสียหายให้แก่ฉินเจียวเยี่ยน หวังใจให้เซียวชิงเฟิงยกเลิกการสู่ขอนี่ซะแต่กลับกลายเป็นว่า เซียวชิงเฟิงมาถึงจวน เพื่อยืนยันการสู่ขอ พร้อมผลการตรวจดวง
“เรื่องอะไรล่ะ?” หลี่ชิงหงถามเสียงเบา“เริ่มตั้งแต่ที่เธอข้ามมิติมาเลย”หลี่ชิงหงจึงได้เริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่ต้น...หลี่ชิงหงที่กำลังนั่งดูพวกเธอถ่ายละครในฉากสุดท้ายที่ผู้กำกับกวงกำหนดไว้ เป็นฉากที่ฉินเจียวเยี่ยนกำลังผลัดตกน้ำตามบท เพียงเธอกะพริบตา เธอก็ลืมตามาเห็นเรือนฉางเอ๋อของฉินเยี่ยนฟางฉินเยี่ยนฟางที่กำลังนั่งปักผ้าอยู่บนเก้าอี้ในเรือนเอ่ยเรียกขึ้น ‘เสี่ยวหง’เมื่อเห็นว่า เธอยังไม่ขยับ ฉินเยี่ยนฟางจึงเอ่ยเรียกอีกครั้ง ‘เสี่ยวหง...’หลี่ชิงหงที่กำลังมึนงง กลับถูกเสี่ยวชิงตีไหล่เบา ๆ เป็นการเรียกสติ ‘คุณหนูเรียกแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เข้าไปเล่า?’หลี่ชิงหงก้มหน้าเสื้อผ้าและผิวพรรณของตัวเอง จึงได้รับรู้ว่า ตัวตนตอนนี้ มันไม่ใช่ของเธอ ยิ่งเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในเรือน ได้เห็นเงาตัวเองบนกระจกก็ยิ่งรู้ได้อย่างชัดเจนว่า เธอได้ข้ามมิติมาเป็นสาวใช้ของฉินเยี่ยนฟางเสียแล้วสาเหตุที่เธอไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร ก็เป็นเพราะละครเรื่องนี้เองก็เป็นเรื่องของตัวเอกที่ข้ามมิติมาเช่นกัน นอกจา
ซวยแล้ว...เป็นใครไม่เป็น ดันมาเป็นยัยฉินเจียวเยี่ยน หลี่ชิงหงนึกในใจเมื่อครั้งที่เธอยังเป็นช่างแต่งหน้าชั้นแนวหน้าที่มีอายุน้อยที่สุด ทำให้หลี่ชิงหงมีความหยิ่งผยองเป็นอย่างมาก ด้วยคิวจองแต่งหน้ากับเธอในงานต่าง ๆ นั้นยาวเป็นหางว่าวแต่เพราะเธอดันติดหนี้บุญคุณที่ผู้กำกับกวงเคยให้ความช่วยเหลือในการผลักดันเธอ เมื่อครั้งที่หลี่ชิงหงยังเป็นช่างแต่งหน้ามือใหม่จนก้าวกระโดดเป็นช่างแต่งหน้าแนวหน้า มีชื่อเสียงโด่งดังแต่ใครจะไปเชื่อว่า วันหนึ่ง ชีวิตของหลี่ชิงหงและผู้กำกับกวงกลับสวนทางกันในวันที่หลี่ชิงหงได้เติบโตและเฉิดฉายในวงการช่างแต่งหน้า ผู้กำกับกวงกลับถูกแย่งบทละครสำคัญ ๆ ไป อีกทั้งยังมีผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรงที่มาพร้อมเทคนิคการถ่ายทำแบบใหม่ ๆ ไม่นานก็ไม่มีใครเอ่ยถึงผู้กำกับกวงอีกเลยแต่เพราะความรักในอาชีพตรงหน้า ผู้กำกับกวงจึงเลือกมาทำละครสั้นในแพลตฟอร์มออนไลน์แทน แม้จะไม่ได้โด่งดัง แต่ก็พอประกอบอาชีพหาเงินเลี้ยงชีวิตได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้น ในละครบางเรื่อง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เขาจึงได้ติดต่อหลี่ชิงหงอีกครั้งหลี่ชิงหงจึงต้องมารับหน้าท
นางกำนัลยกมือขึ้นกอดอก ก้มหน้ามองอย่างดูแคลน “เธอก็พูดไปเรื่อย พวกเราต่างก็มาจากยุคสมัยใหม่เหมือนกัน เรื่องฆ่าคนอะไรนั่น ใครจะทำใจได้ง่ายขนาดนั้น”ฉินเจียวเยี่ยน “แล้วเธอจับฉันมาเพราะอะไรกันแน่”อีกฝ่ายยังคงนิ่งเงียบ “...”“เอางี้นะ ในฐานะที่เราทั้งคู่ก็หลุดเข้ามาในนิยายเรื่องนี้ เรามาคุยกันแบบเปิดอกเลยได้ไหม?” ฉินเจียวเยี่ยนเอ่ยขึ้น “เรามาหาทางที่พวกเราทั้งคู่จะมีชีวิตที่ดีด้วยกันดีไหม?”นางกำนัลนิ่งไปอย่างใช้ความคิด ก่อนจะพยักหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน “ก็ได้ ฉันเองก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน”“งั้นคำถามแรก เธอคือใคร?”นางกำนัลไม่ตอบ แต่ล้วงมือเข้าไปในแขนเสื้อ แล้วหยิบกระดาษเช็ดเครื่องสำอางออกมาเช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าฉินเจียวเยี่ยนเบิกตากว้าง “นี่ เธอมีกระดาษเช็ดเครื่องสำอางด้วยเหรอ?”“ก็มีน่ะสิ” คำพูดดังขึ้น แม้ว่า นางกำนัลจะยังเช็ดหน้าไม่เสร็จ ปล่อยให้ฉินเจียวเยี่ยนรอคอยอย่างอดทน จนกระทั่งใบหน้านั้นสะอาดหมดจด“เสี