“นอนกับฉันจนกว่าฉันจะเบื่อเธอ” เขาพูดด้วยสีหน้าท่าทางที่พึงพอใจ
ส่วนฉันนึกขยะแขยงผู้ชายคนนี้เต็มทน ทำไมถึงได้เป็นคนน่ารังเกียจขนาดนี้ ฉันผลักอกแกร่งเพื่อออกห่างคนตัวสูงที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อ “พี่จะบ้าไปแล้วเหรอ เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีก เราทั้งคู่ควรหยุดเรื่องทุเรศนี้ หยุดทำเรื่องที่จะทำให้มิ้มเสียใจได้แล้ว แค่ครั้งเดียวเบลล์ก็รังเกียจ”
“อย่าพูด อย่ามองพี่ด้วยสายตาแบบนั้น เพราะเมื่อคืนเบลล์ครางดังยิ่งกว่าอะไร หรือจะบอกว่าเมาเหรอ หึ ใครจะเชื่อว่าแค่เมา” เขาดึงฉันกลับเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง รอบนี้เขาโน้มใบหน้ามาแนบแก้ม ปลายจมูกถูไถที่แก้มฉัน
“หยุดพูดเบลล์ไม่ได้อยากฟัง” ยกมือปิดหูทั้งสองข้างไว้ กัดริมฝีปากตัวเองเพื่อห้ามความรู้สึกไม่ให้ร้องไห้ แต่น้ำตาก็ยังไหล ฉันมันเลว ฉันทรยศเพื่อน ทั้งที่เป็นเพื่อนที่แสนดีเพื่อนที่คอยช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรมิ้มคอยช่วยทุกอย่าง แต่ฉันมาทำแบบนี้
ฉันเอาผัวเพื่อน ฉันกลายเป็นคนชั่ว เป็นผู้หญิงทุเรศ ใครบ้างจะเห็นใจ ไม่หรอก ไม่มีใครเห็นใจเห็นค่าคนที่แย่งของคนอื่น
“เฮ้อ ดูเป็นนางเอกจัง ทั้งที่เราก็เลวด้วยกันทั้งคู่ ตอนทำก็ช่วยกันร้อง ตอนนี้จะมาเสียใจทำไมครับ” เมื่อพูดจบพี่กองทัพแสยะยิ้ม รอยยิ้มเหยียดหยัน เขาขยับห่างจากฉัน ปล่อยให้ฉันยืนร้องไห้ เขาตัดสินว่าฉันเลวจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ฉันไม่ได้อยากให้มันเกิด ฉันไม่น่าเมาเลย
ใช่แล้ว ที่เกิดขึ้นไปแล้วก้ช่างมัน ขอแค่ไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นอีกก็พอ คิดได้ดังนั้นฉันก็เดินมาหยิบเสื้อผ้าที่หล่นตามพื้นขึ้นมาใส่พร้อมกับบอกพี่กองทัพด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เบลล์จะไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เบลล์ขอให้ทุกอย่างมันจบตรงนี้ เรามาลืมเรื่องพวกนี้กันนะคะ”
“หึหึ” เสียงหัวเราะของพี่กองทัพดัง “อยากเป็นนางเอกหนังโป๊ก็ลองดู”
เขายกยิ้มด้วยใบหน้าสะใจ มือชูโทรศัพท์ที่กำลังแสดงภาพเคลื่อนไหว เมื่อมองชัด ๆ จึงได้เห็นว่าในคลิปมีฉันและเขากำลังร่วมรักกัน
โคตรเลว
ผู้ชายคนนี้สารเลวที่สุด ทำไมทำแบบนี้กับฉัน
“พี่ต้องการอะไรคะพี่กองทัพ ในเมื่อพี่เป็นผัวของเพื่อนหนูและหนูเป็นเพื่อนของเมียพี่ พี่ทำแบบนี้ทำไม”
“แต่ตอนนี้หนูเป็นเมียพี่ ถ้าไม่อยากให้มิ้มรู้ก็ยอมทำตามที่พี่บอกซะ” ผู้ชายอย่างพี่กองทัพไม่น่าพูดคำเหล่านี้ออกมาด้วยซ้ำ เลวทรามต่ำช้าที่สุด มิ้มคบกับผู้ชายคนนี้ได้ยังไงนานขนาดนี้ มิ้มไม่รู้เลยเหรอว่าเขาเลว
“นานเท่าไหร่คะ” แล้วฉันก็ยอมเพราะกลัวจะกลายเป็นนางเอกหนังผู้ใหญ่และกลัวมากที่สุดคือกลัวมิ้มรู้แล้วมิ้มจะเสียใจ กลัวมิ้มจะผิดหวังในตัวฉัน
พี่กองทัพยิ้มร้าย ๆ อีกครั้งแล้วรั้งข้อมือฉันให้ล้มตัวลงไปนอนที่ฟูก เขาคร่อมฉันอย่างรวดเร็ว โน้มใบหน้าวางที่ซอกคอสูดดมเบา ๆ ชวนขนลุก “จนกว่าพี่จะเบื่อร่างกายสวย ๆ นี้ไง แต่คงนานหน่อยนะเพราะพี่รู้สึกติดใจ”
“...” ฉันกำลังเจอกับเรื่องอะไรอยู่แล้วที่ตัดสินใจแบบนี้ถูกหรือผิดกันแน่
“ขอลองตอนไม่เมาหน่อยนะ อยากรู้ว่าจะอร่อยเหมือนตอนเมาไหม” เขาพูดพลางถอดเสื้อฉันออกทีละนิด ฉันนอนนิ่งปล่อยให้เขาทำตามใจ ในเมื่อขัดไม่ได้ก็นอนร้องไห้เงียบ ๆ
มือใหญ่บีบคลึงสองเต้าที่ไม่มีใครเคยได้เชยชม คนรักของเพื่อนบีบสองเต้าฉันเข้าหากัน ริมฝีปากครอบที่หัวจุกใบลิ้นกระดกขึ้นลงหยอกเย้ายอดอก อารมณ์กำลังครอบงำ ร่างกายกำลังต้องการการปรนเปรอและคนรักของเพื่อนกำลังเล้าโลมให้ฉันมีอารมณ์เรื่องอย่างว่าเป็นอย่างมาก...
“ต่อไปย้ายมาอยู่ที่นี่นะ” เขาจัดแจงใส่กางเกงหลังจากกิจกรรมบนเตียงเสร็จสิ้น เรื่องที่เขาสั่ง ไม่คิดจะถามความเห็นส่วนตัวของฉันสักคำ
“เบลล์มาไม่ได้หรอกค่ะ” ปฏิเสธตรง ๆ
“ตามใจอยากให้เพื่อนรู้ อยากเป็นนางเอกหนังโป๊ก็แล้วแต่” พี่กองทัพกำลังขู่ด้วยใบหน้าที่ไม่ไร้ความรู้สึกผิด
“ไหนมิ้มบอกพี่จะไปเมืองนอกพร้อมมิ้ม ทำไมถึงอยู่ที่นี่ได้” มิ้มเล่าให้ฟังว่าพี่กองทัพจะเดินทางไปกับเธอแล้วทำไมเขามาอยู่ที่นี่กับฉัน
“เรื่องของพี่กับมิ้ม พี่คิดว่าเบลล์ไม่ควรยุ่ง มันไม่ใช่เรื่องเบลล์” จะบอกว่าอย่าเสือกอะไรแบบนั้นใช่ไหม
“ต่อไปเบลล์จะไม่ถามค่ะ” จะว่าน้อยใจไหมก็ไม่เชิง แต่เสียใจมากกว่าที่เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้
“เอาเป็นว่าย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่วันนี้นะ” ฉันพยักหน้ารับรู้ เขาจึงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดตู้หยิบเสื้อยืดแบรนด์หนึ่งมาสวมใส่ “เดี๋ยวพี่จะไปข้างนอก เบลล์ออกไปแล้วก็หยิบคีย์การ์ดไปด้วย”
ฉันพยักหน้าอีกครั้งและด่าตัวเองในใจซ้ำ ๆ
‘สารเลวเป็นชู้กับคนรักของเพื่อน!’
ทั้งสองยังไม่แต่งงานกัน แต่ความสัมพันธ์ไม่ต่างกับสามีภรรยา
พี่กองทัพเดินเข้ามาประชิดตัว แขนโอบเอวฉันไว้ ใบหน้าแนบแก้ม สูดดมหนึ่งที “อย่าทำหน้าเศร้าพี่ไม่ชอบ คิดง่าย ๆ ว่าเราแค่สนุกกันไม่นานก็จบ”
“เบลล์ไม่ได้เห็นแก่ได้แบบพี่”
“แต่ตอนนี้เบลล์กำลังเป็น จะหนีก็ได้นะพี่ไม่ว่า เอาไงดีครับ” เขายกยิ้มมุมปากเปรียบดังผู้ชนะ อืม เขาชนะแล้ว
“เบลล์ไม่ยอมให้มิ้มรู้เรื่องนี้เด็ดขาดค่ะ” กัดฟันพูดอย่างคับแค้นใจ ไม่มีทางที่มิ้มจะรู้เรื่องนี้ ฉันต้องจบมันให้เร็วที่สุด ต้องทำให้เขาเบื่อเร็ว ๆ ทุกอย่างจะได้จบแล้วจากนั้นฉันก็คงหายไปเงียบ ๆ ใครจะกล้าสู้หน้าเพื่อนจริงไหม
“งั้นพี่กลับมาคงได้เจอเบลล์” พี่กองทัพยิ้มอย่างพอใจแล้วเดินออกจากห้อง ปล่อยฉันให้รับมือและทำใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ฉันสงสัยนะว่าเรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง เริ่มจากตรงไหน ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้ฉันจำอะไรไม่ได้สักอย่าง คิดให้ตายก็คิดไม่ออก สาบานเลยว่าฉันจะไม่แตะต้องมันอีกตลอดชีวิต
ครืด ครืด (สายเข้า: มิ้ม)
ฉันตั้งสติสักพักก่อนจะรับสายเพื่อนรักที่คนรักของเธอเพิ่งจะเดินออกไปจากห้องเมื่อครู่ “แกถึงหรือยัง ขอโทษนะฉันตื่นไม่ทัน ไม่ได้โกรธกันใช่ไหมมิ้ม”
(เบลล์แกอยู่ไหน ถึงบ้านปลอดภัยไหม ฉันห่วงแกมากรู้ปะ) น้ำเสียงมิ้มดูเป็นกังวล
“ฉันอยู่บ้าน ไม่รู้เหมือนกันว่ามาถึงบ้านได้ไง ตื่นมาฉันก็นอนอยู่บ้านแล้ว ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปส่ง ฉันเป็นเพื่อนที่แย่มากจริง ๆ ฉันคิดถึงแกนะมิ้ม อยู่ทางโน้นดูแลตัวเองดี ๆ ด้วย ฉันรักแก เป็นห่วงแกนะ” ยิ่งนึกถึงความเลวที่เพิ่งจะทำไปน้ำตาก็ไหลออกมา ฉันละอายใจ ละอายใจเกินกว่าจะหน้าด้านเป็นเพื่อนของมิ้มต่อ
(แกจะดึงดราม่าให้ฉันร้องไห้ตามแกใช่ไหมเบลล์ อย่าดราม่าเดี๋ยวฉันก็กลับไปหาแกแล้ว แกน่ะต้องเป็นเพื่อนเจ้าสาวของฉัน ฉันรักแกนะแล้วจะรีบกลับไปกอด แค่นี้ก่อนนะแก รู้ว่าแกถึงบ้านอย่างปลอดภัยฉันก็หายห่วงแล้ว)
“อืม ดูแลตัวเองด้วย ฉันรักและเป็นห่วงแกมาก”
(จ้า แกก็เช่นกันนะ)
มิ้มกดวางสาย ตัวฉันทรุดนั่งกับพื้นแล้วร้องไห้อย่างคนสิ้นหวัง เมื่อร้องจนเหนื่อยฉันจึงเดินเปลือยเข้ามาในห้องน้ำเปิดน้ำใส่อ่างแล้วลงไปนอนแช่ ขนาดห้องน้ำยังใหญ่กว่าห้องนอนฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะพี่กองทัพ ชาตินี้ทั้งชาติฉันคงไม่มีปัญญาได้มาอยู่ที่แบบนี้
‘ขอโทษนะมิ้ม ฉันปิดเรื่องนี้เพราะไม่อยากให้แกเสียใจ เพราะฉันรู้ว่าแกรักเขามาก’ ฉันหลับตาและเอ่ยขอโทษในใจ พี่กองทัพสำหรับมิ้มคือเทพบุตร มิ้มเล่าถึงพี่กองทัพเสมอว่าดีแสนดี ให้พูดออกไปยังไงมิ้มก็คงไม่เชื่อฉันและคงจะเกลียดฉันมากด้วย
“แม่เบลล์ขา” เสียงประตูห้องน้ำดังจากนั้นก็มีเสียงเล็ก ๆ ที่ฉันไม่ได้ยินมาเกือบเดือนดังขึ้น ฉันหันไปมองภาพตรงหน้า ลูกสาวของฉัน ลูกสาวของฉันจริง ๆ ด้วย หมูน้อยส่งยิ้มมาให้ฉัน พี่กองปราบลุกไปอุ้มลูกสาวมานั่งที่เตียง ความดีใจเพิ่มขึ้นทวีคูณรู้ว่าตัวฉันท้องความดีใจก็มีมากมายแล้ว ทว่าลูกสาวสุดที่รักตื่นมายิ้มให้ฉันยิ่งดีใจ ในที่สุดหมูน้อยของแม่ก็กลับมา“หมูน้อยของแม่” โน้มตัวลูกสาวลงมากอด ดีใจที่สุดเลย ฉันทั้งกอดทั้งหอมซ้ำ ๆ เพราะความคิดถึงที่สะสมมาเนิ่นนาน “แม่คิดถึงหนูมากเหลือเกิน”“แม่เบลล์ร้องไห้ทำไมคะ ไม่ร้องนะคะ แม่เบลล์กำลังมีน้องคุณหมอบอกว่าห้ามแม่เบลล์เศร้า” มือเล็กปาดน้ำตาที่อาบสองแก้มฉัน น่ารักเหลือเกินลูกสาวของฉัน หมูน้อยน่ารักที่สุด“แม่รักหมูน้อยมากนะลูก คิดถึงหนูสุดหัวใจเลย” ฉันโอบลูกสาวไว้ในอ้อมอก คือดีใจ ดีใจเหลือเกินที่เราได้กอดกันอีกครั้ง“ต้องรักพ่อด้วยนะครับแม่เบลล์ หมูน้อย” พี่กองปราบขยับเข้ามากอดฉันและหมูน้อย เราสามคนมองหน้าและส่งยิ้มให้กัน ในที่สุดฉันก็มีความสุขเสียที ในที่สุดครอบครัวของเราก็เป็นครอบครัวหลายเดือนผ่านไป...“พ่อปราบดูแลแม่เบลล์ดี ๆ นะคะ แล้วหมูน้อยจ
“หมอครับช่วยเมียผมด้วย” ผมตะโกนจนสุดเสียง สิ่งที่ผมกำลังประสบเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมาย ลูกสาวเพียงคนเดียวหยุดหายใจ หัวใจของผมก็แทบจะหยุดเต้นตาม แต่นี่เมียสุดที่รักจู่ ๆ ก็มาเป็นลมหมดสติในอ้อมกอดของผม ผมทำอะไรไม่ถูกเลย ไร้เรี่ยวแรงเหมือนโลกของผมมันค่อยมืดลงเรื่อย ๆ หมอและพยาบาลรีบเข้ามาให้การช่วยเหลือเบลล์ ส่วนคนที่เหลือกำลังตรวจเช็กอาการหมูน้อยที่ลืมตาตื่นเดี๋ยวนะ! ลืมตาตื่น เฮ้ย ลูกสาวของผมฟื้นแล้ว เธอปลอดภัยแล้ว ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ส่งลูกสาวของผมกลับมาให้เป็นแสงสว่างในชีวิตผม“ลูกสาวของคุณฟื้นแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ส่วนภรรยาของคุณหมอจะดูแลอย่างเต็มที่ ขอตัวครับ” หมอหนุ่มหมอเจ้าของไข้ของหมูน้อยบอกกับผม จากนั้นไม่นานก็มีรถมาเข็นเบลล์ไป“เป็นยังไงบ้างครับคนเก่ง” ผมถามลูกสาวตัวน้อยที่กำลังมองมาทางผมตาปริบ ๆ ผมเลือกที่จะอยู่ดูอาการของลูกสาวก่อนแล้วค่อยไปหาเบลล์ ผมเชื่อว่าถ้าเบลล์รู้ว่าลูกของเราฟื้นแล้วเธอต้องอยากให้ผมทำแบบนี้เหมือนกัน“พ่อปราบ” น้ำเสียงแหบพร่าพยายามเปล่งเรียกชื่อของผม รอยยิ้มบาง ๆ ของหมูน้อยทำให้ผมยิ้มได้อย่างสุขใจ ลูกสาวที่ผมเฝ้ารอให้เธอตื่นขึ้นมาหาวันน
“สุขสันต์วันเกิดนะครับลูกสาวของพ่อ หนูรู้ไหมพ่อดีใจมากนะที่เราเกิดวันเดียวกัน ตื่นมาเป็นของขวัญวันเกิดให้พ่อสิครับคนเก่ง พ่อกับแม่คิดถึงหนูมากเลย” พี่กองปราบพูดคุยกับลูกสาวที่หลับใหลอยู่บนเตียงผู้ป่วยมานานเกือบเดือน วันนี้เป็นวันเกิดของหมูน้อยและเป็นวันเกิดของพี่กองปราบพี่กองทัพด้วย“อย่ามีน้ำตาสิคะคุณพ่อคนเก่ง วันนี้วันดีห้ามร้องไห้” ฉันเดินมาแตะเบา ๆ ที่ไหล่ของพี่กองปราบเมื่อเสียงเขาสั่นเครือ“แต่หนูร้องแล้วนะตอนนี้” พี่กองปราบพูดพร้อมยื่นนิ้วมือมาปาดน้ำตาให้ฉัน ไม่ได้เรื่องเลยฉัน อยากจะปลอบเขาแต่ตัวเองร้องก่อนอีก“ก็เบลล์คิดถึงลูก อยากกอด อยากหอมตอนลูกตื่น อยากได้ยินเสียง อยากให้ลูกลุกขึ้นมาอ้อน ลุกขึ้นมาบอกรัก ลุกมาถามนั่นนี่” พร่ำบอกขณะที่พ่อของลูกโอบเอวฉันไว้ คือเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ไหม ต่อให้หมอบอกว่าลูกของฉันปลอดภัยดี ทว่าไม่อยากจะเชื่อเพราะถ้าปลอดภัยจริงลูกสาวของฉันต้องฟื้นขึ้นมาสิ“อย่าร้องสิเบลล์ พี่จะร้องตามแล้วนะ” เขาทำให้ยิ้มทั้งน้ำตาด้วยใบหน้าอ้อน ๆ“วันนี้ที่บ้านของพี่นัดกันไปทำบุญไม่ใช่เหรอคะ” ฉุกคิดขึ้นมาได้จึงเอ่ยถามเพราะพี่กองปราบต้องไปทำบุญกับครอบครัว คุณหญิงมณีโทร
“เบลล์จะไม่ถามพี่หน่อยเหรอ” เพราะทนกับความเงียบไม่ไหวจึงต้องเป็นคนเอ่ยปากถาม ก็เมียของผมเล่นเงียบไม่พูดไม่จา เธอนั่งกินข้าวเงียบ ๆ ไม่มองไม่ถามผมสักคำ ทำเอาคนที่มีความผิดติดตัวอย่างผมถึงกับร้อนรนทนไม่ได้ต้องเป็นฝ่ายพูดฝ่ายถาม“ถามเรื่องอะไรคะ” เบลล์ยังคงก้มหน้าก้มตาตักข้าวเข้าปากไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อ ๆ ของผมสักนิดโอเคครับ ผมก็รู้ว่าผมผิดที่ตะคอกใส่เธอในวันนั้น ซึ่งมาทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่แปลกที่เธอจะเอ่ยปากถามเพื่อสร้างความเชื่อใจในตัวผม เพราะแซนมันส่งรูปของผมกับมันช่วงเวลาหลังจากที่มันปัดโทรศัพท์มือถือของผมทิ้งมาให้เบลล์ดู ถ้าผมรู้ ผมคงเลือกที่จะอธิบายมากกว่าพูดจาตะคอกถากถางแบบนั้น เพราะสิ่งที่ผมทำลงไปทำให้เบลล์คิดมาก ทำให้เบลล์เสียใจ“ก็ทุกเรื่องที่เบลล์กำลังรู้สึกไม่ดี”“ถามได้ด้วยเหรอคะ” ใบหน้านิ่งเฉยเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม เออ เบลล์แม่งกำลังย้อน ผมก็เข้าใจแหละ“เบลล์” ผมเรียกและมองด้วยสายตาที่รู้สึกผิด“ไม่เอาหรอกค่ะ ไม่อยากเสียความรู้สึกอีก” พูดจบก็ลุกจากเก้าอี้ หยิบจานข้าวของตัวเองไปเก็บ ปล่อยให้ผมนั่งกินข้าวคนเดียว แทบจะกินไม่ลงเพราะจุกคำพูดของเมีย ผมรู้เรื่
ฉันกดวางสายพี่กองปราบแล้วปิดเครื่องทันที ฉันผิดมากใช่ไหมที่ถามไปแบบนั้นเพราะอยากจะรู้ความจริง ฉันแค่ไม่อยากเป็นคนโง่มันผิดมากหรือไง แค่ต้องการฟังจากปากของพี่กองปราบ อยากได้ยินจากเขา แค่เพียงเขาตอบกลับมาว่า ‘ไม่ใช่ พี่กับผู้หญิงคนนั้นเป็นเพียงเพื่อนกัน’ ฉันก็พร้อมจะเชื่อเขา แต่ก็ไม่เป็นแบบนั้น พี่กองปราบไม่ตอบแล้วเลือกที่จะโวยวายใส่ด้วยเมื่อเขาแสดงอาการแบบนี้ ฉันจึงจำใจต้องเชื่อรูปที่ส่งมาให้ฉันใช่ไหม ทั้งที่พยายามบอกตัวเองว่าเข้าใจผิดรูปที่ส่งมาให้เป็นรูปที่พ่อของลูกยืนให้ผู้หญิงที่เขาบอกกับฉันว่าเป็นแค่เพื่อนหอมแก้มกอดคอ แบบนี้แค่เพื่อนจริงเหรอ ผิดมากหรือไงที่ฉันจะถามเอาความจริง ทำไมต้องตะคอกกันด้วยเบลล์ต้องเชื่อใช่ไหมว่าเขาเป็นแค่เพื่อนของพี่ แต่ว่า เพื่อนที่ไหนเขาทำกันแบบนี้ นี่มันเกิดเพื่อนแล้ว นั่งร้องไห้ในมุมมืดที่โซฟา ไม่อยากจะให้ลูกสาวที่หลับใหลรับรู้ว่าพ่อกับแม่มีปัญหากัน ถึงแม้เธอจะหลับแต่ฉันเชื่อว่าเธอต้องรับรู้เช้าวันต่อมา...“อาการโดยรวมของน้องคงที่นะครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เราทำได้แค่รอน้องตื่น”“ค่ะ” ฉันตอบหมอเพียงแค่นั้น เพราะหมอพูดประโยคนี้จนฉันชินชา แต่ก็ยังดีท
“มึงทำอะไรของมึง” ถามด้วยความไม่พอใจเมื่อโทรศัพท์ในมือของผมตกลงไปในอ่างน้ำพุโดยฝีมือของเพื่อนที่มันเคยบอกว่ารักผมมากเกินกว่าเพื่อนและตอนนี้มันยังเป็นหลานสาวของบริษัทที่ต้องเซ็นสัญญาร่วมกัน ทว่าสัญญายังไม่ได้เซ็น“นั่นเหรอเมียมึง”“เออ มึงจะทำไม แล้วมึงมีสิทธิ์อะไรมาปัดโทรศัพท์กูทิ้ง” ผมคว้าแขนของแซนแล้วบีบเน้นแรง ๆ ระบายความโมโห ใจอยากจะทำมากกว่านี้ แต่เพราะมันเป็นหลานคุณนิพล ผมถึงต้องใจเย็น“สิทธิ์ที่กูเป็นหลานสาวของคนที่จะทำให้บริษัทมึงก้าวหน้ากว่าตอนนี้ไงปราบ มึงลืมแล้วเหรอ” ผู้หญิงตรงหน้าแสยะยิ้มที่เหนือกว่าผมเคยคิดว่าแซนเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ผมไม่คิดแบบนั้นแล้วเพราะแซนมันดึงเวลาไม่ยอมให้ลุงของมันเซ็นสัญญา ทั้งที่คุณนิพลลุงแท้ ๆ ของมันจะเซ็นตั้งแต่เมื่อวันก่อน แต่ด้วยความที่แซนมันเป็นหลานสาวคนเดียวและคุณนิพลไม่มีลูก การตามใจจึงเกิดขึ้น แซนมันก็โตเป็นผู้ใหญ่แต่ทำไมมันกลับแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ได้ ผมโคตรจะโมโหแต่ก็ต้องเก็บกดไว้ให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี“มึงต้องการอะไร” ผมว่าผมเริ่มจะเกลียดมันมากขึ้นเรื่อย ๆแซนยิ้มก่อนจะยกแขนขึ้นมาคล้องที่คอผม “กูก็ต้องการมึงไงป