00.00 น.
~ครืนนนนนนนนน~ ~ครืนนนนนนนนนนนน~
“อื้อออ…” เสียงครางเบาๆ ดังขึ้นมาจากร่างบางที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ก่อนที่มือของเธอจะเอื้อมขึ้นไปเปิดไฟบริเวณหัวเตียง
ทันทีที่ไฟภายในห้องสว่างร่างบางของชูใจก็ค่อยๆ ขยับมือบางของตัวเองขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงอย่างอ้อยอิ่ง ในขณะที่ดวงตาของเธอยังคงปิดสนิทอยู่
“ชูใจ”
”เบียร์…!” ชูใจเอ่ยถามออกมาด้วยความร้อนใจพร้อมกับดวงตาของเธอเบิกโพรงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงจากปลายสาย เธอมีลางสังหรณ์ว่ากำลังเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นกับเพื่อนรักเธอ
“เกิดอะไรขึ้นเบียร์?”
ปกติแล้ววเพื่อนรักของเธอไม่เคยโทรมาเวลานี้ และคนที่เกรงใจคนอื่น ไม่ค่อยยอมรับความช่วยเหลือจากใครถ้าตัวเองไม่ไหวจริงๆ อย่างฟองเบียร์ไม่มีทางโทรหาเธอในเวลานี้โดยที่ไม่มีเรื่องด่วนอย่างแน่นอน
(ช่วยเราด้วยชู…เรากลัว ฮืออออ…)
“ตอนนี้เบียร์อยู่ที่ไหน?” ร่างบางขยับลุกขึ้นนั่งในทันทีพร้อมกับคิ้วเรียวของชูใจขมวดเข้าหากันอย่างคิดไม่ตก ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามปลายสายออกไปทันทีด้วยความเป็นห่วง ชูใจคิดว่าในตอนนี้เธอควรช่วยเพื่อนเสียก่อน ส่วนรายละเอียดว่ามันเกิดอะไรขึ้นค่อยถามเพื่อนรักทีหลังก็ยังไม่สาย
(ฮืออออ เราอยู่ที่ผับ xx ซอย 4 ปังๆ อือออ รีบมานะชูใจ) ฟองเบียร์เอ่ยบอกกับเพื่อนรักเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว
“มะ ไม่ต้องวางนะ เราจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้” ชูใจเอ่ยบอกกับปลายสายก่อนที่เธอจะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างลนลาน หลังจากที่ชูใจจัดการกับตัวเองเรียบร้อยแล้วเธอจึงรีบวิ่งออกมาจากบ้านทันทีโดยที่เธอไม่ได้บอกกับพี่สาวที่ป่านนี้คงนอนหลับสนิทไปแล้ว
(ปังๆๆ!!…อีเบียร์มึงอยู่ในนี้ใช่ไหม เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะเว้ย) เสียงดังออกมาจากปลายสายทำให้ชูใจรีบเร่งฝีเท้าวิ่งออกไปยังหน้าปากซอยทันที ชูใจพอจะเดาได้ว่าเพื่อนรักของเธอกำลังหลบหนีใครสักคน และดูเหมือนว่ามันคนนั้นจะรู้แล้วว่าฟองเบียร์ซ่อนอยู่ที่ไหน
“อย่าเปิดออกไปนะ เราได้รถแล้วอีก 10 นาทีเราจะถึง…พี่คะ ขับให้ไวกว่านี้ได้ไหมคะ?” ชูใจเอ่ยบอกกับปลายสาย ก่อนจะหันไปบอกกับพี่คนขับรถเเท็กซี่อย่างลนลานด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“นี่พี่ก็เร่งสุดๆ แล้วนะน้อง”
(อย่าให้กูจับมึงได้นะ กูเอามึงตายแน่อีเบียร์) เสียงที่ดังออกมาจากปลายสายทำให้คิ้วเรียวของชูใจกระตุกขึ้นมาอีกครั้ง เธอจำเสียงนี้ได้ดีว่ามันเป็นเสียงของใคร
เจ้าของเสียงต้องเป็น ‘ไอ้บาส’ น้องชายของฟองเบียร์ไม่ผิดอย่างเเน่นอน
“ไม่ต้องกลัวนะเบียร์ ตอนนี้เราถึงแล้วเบียร์อยู่ส่วนไหนของผับ” ชูใจเดินลงจากรถก่อนที่เธอจะมองซ้ายทีขวาทีอย่างประหม่า ซอยนี้เป็นซอยโลกีไม่มีใครไม่รู้จัก ซอยทั้งซอยเต็มสถานบันเทิง และอาบอบนวด ซึ่งมีทั้งนักท่องเที่ยวชายไทยและชาวต่างชาติเดินเที่ยวกันจนเต็มถนน
(เราอยู่ในห้องน้ำหญิงชั้นหนึ่ง)
“เรากำลังไป…” ชูใจสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปยังผับตรงหน้าทันที
หญิงสาวร่างบอกบางที่สวมใส่เพียงเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงช้างขายาวพร้อมกับร้องเท้าแตะหูหนีบช้างดาวคู่ใจ การแต่งกายของชูใจเรียกสายตาให้แขกที่เข้ามาใช้บริการในสถานบันเทิงแห่งนี้หันมามองเธอเธอเป็นตาเดียว เพราะปกติผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาที่นี่มักจะนุ่งน้อยห่มน้อยซึ่งต่างจากชุดที่ชูใจสวมใส่อยู่อย่างเห็นได้ชัด
“…” ขาเรียวของชูใจก้าวเข้ามาภายในผับ เธอมองตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลโดยที่เธอไม่ได้หันไปสนใจสายตาของใครทั้งนั้น คนเดียวที่ต้องสนใจในตอนนี้ก็คือเพื่อนรักของเธอ ชูใจมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังยืนเคาะประตูก่อนที่มือบางของเธอหยิบขวดเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้ามาถือเอาไว้
ปัง! ปัง! ปัง!
“อีเบียร์ออกมาสักทีสิวะ…มึงอย่าทำเป็นไม่เคยไปหน่อยเลย ยอมๆ พวกเสี่ยเขาหน่อยไม่ได้รึไงวะ”
“ไอ้บาส” ชูใจเอ่ยเรียกร่างสูงตรงหน้าเสียงเรียบ
ปึก!!
เพล้ง!!!
“อีชู ใจ...มึง!” บาสหันกลับมามองตามเสียงเรียกก่อนที่ใบหน้าคมเข้มจะมองไปยังหญิงสาวที่มาใหม่ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ แต่เขาไม่ทันได้พูดอะไรออกมาขวดเหล้าในมือของร่างบางก็ฟาดลงที่หัวของชายหนุ่มทันทีโดยที่เขาเองก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
“เบียร์นี่ชูใจเองรีบออกมาเร็ว” ชูใจเอ่ยบอกกับเพื่อนรักอย่างร้อนใจ ในขณะที่สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปยังร่างสูงที่ล้มลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นตรงหน้า มือหนาของมันค่อยๆ ยกมือขึ้นมากุมหัวของตัวเองเอาไว้พร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด
แอ๊ดดดดด!!!
”อีชูใจ…มึงงงง” บาสชี้หน้าชูใจพร้อมกับเรียกร่างบางตรงหน้าอย่างโกรธแค้น
“ชูใจ” เบียร์เปิดประตูออกมาพร้อมกับกระโดดกอดเพื่อนรักของตัวเองเอาไว้ทันทีด้วยความดีใจ
“เรารีบไปกันเถอะ” ชูใจดึงมือเบียร์ให้วิ่งตามเธอออกไป แต่ยังไม่ทันที่สองสาวจะได้ออกไปไหนไกลชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ก็พากันวิ่งมาทางพวกเธอ ไม่ต้องบอกก็พอรู้ว่าชายพวกนี้มีจุดประสงค์อะไร
“จับไว้…อย่าให้พวกมันหนีไปได้เด็ดขาด” บาสตะโกนบอกกับกลุ่มชายฉกรรจ์เสียงดังลั่น เสียงที่ดังขึ้นมานั้นไม่ได้ทำให้ชายร่างบึกบึนพวกนั้นมองมาที่ชูใจและฟองเบียร์เพียงอย่างเดียว แต่หญิงสาวทั้งสองคนที่กำลังวิ่งอยู่ไม่ไกลก็หยุดชะงักและมองไปยังพวกเขาด้วยเช่นกัน
“เบียร์วิ่ง!…” ชูใจดึงมือเพื่อนสาวให้วิ่งตามเธอไปในทันทีที่เห็นว่ากลุ่มชายฉกรรจ์กำลังวิ่งมาทางพวกเธอ
“เราแยกกกันหนีดีกว่า ถ้าไปด้วยกันเราไม่รอดทั้งคู่แน่” เบียร์เอ่ยขึ้นก่อนจะดึงมือของตัวเองออกจากการจับกุมของเพื่อนรัก
“เราไม่อยากทำให้ชูใจเดือดร้อนไปด้วย”
“ไม่… ”
“ไปสิ” ฟองเบียร์ตะคอกชูใจเสียงดังลั่น ก่อนที่เธอจะมองมาที่เพื่อนรักด้วยแล้วตาที่เต็มไปด้วยความเป็นกังวล
“ปลอดภัยแล้วโทรมานะ” แววตาาของหญิงสาวตรงหน้ากดดันให้ชูใจต้องทำตามที่เธอบอกอย่างว่าง่าย
ชูใจออกวิ่งไปทางซ้ายอย่างไม่คิดชีวิตในขณะที่ฟองเบียร์ก็วิ่งออกไปอีกทางเช่นกัน ฟองเบียร์หันกลับไปมองชูใจเพื่อนรักที่กำลังวิ่งไปเป็นระยะๆ ก่อนที่ด้วยตากลมจะเบิกกว้างขึ้นทันทีที่เห็นกลุ่มชายร่างยักษ์จำนวน 3 คนวิ่งตามชูใจไปติดๆ
“คุณสกายไม่สนใจน้องๆ สักคนเหรอครับ” ชายร่างอ้วนท้วมทรงเสี่ยเอ่ยถามหนุ่มหล่อรุ่นราวคราวเดียวกับลูกของเขาออกมาอย่างนุ่มนวล ในขณะที่มือหนายังคงลูบไล้สาวน้อยทั้งสองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ของตัวเองอย่างหลงใหล
“ไม่ล่ะครับ…เชิญคุณธวัชชัยกับเพื่อนๆ ตามสบายครับ วันนี้ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ พอดีผมมีธุระต้องไปจัดการต่อ”
“วันนี้ผมต้องขอขอบคุณคุณสกายมากนะครับ หวังว่ารอบหน้าผมจะมีโอกาสร่วมงานกับคุณสกายอีก”
“ด้วยความยินดีครับ” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนที่เขาจะหันหลังเดินออกไปอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับลูกรักของเทพเจ้าทำให้ชายหนุ่มเป็นจุดสนใจของบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ที่กำลังส่งสายตาเชื้อเชิญมาให้กับเขา
“เฮ้อ!” สกายถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะหยิบแวนตาราคาแพงของเขาขึ้นมาสวมใส่เอาไว้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเจอแบบนี้เขาไม่สามารถห้ามคนอื่นได้เพราะฉะนั้นเขาเลือกที่จะเมินเฉยไม่สนใจใครหน้าไหนน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“ตายเเล้ว!!!…พ่อจ้าแม่จ้าช่วยลูกด้วย“
ชายหนุ่มหยุดชะงักไปทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของหญิงสาวที่มีใบหน้าสวยหวานจับใจ เธอร้องตะโกนดังขึ้นมาแต่ไกลไม่มีใครที่อยู่บริเวณนี้ไม่ได้ยินเสียงเธอ
ร่างบางที่กำลังวิ่งผ่านหน้าของเขาไป สกายมองภาพของหญิงสาวที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปตามเส้นทางตรงหน้าด้วยความสงสัยว่าเธอวิ่งหนีอะไรมา ก่อนที่คำตอบของเขาจะวิ่งตามเธอมาติดๆ
“…” สกายยกยิ้มออกมาพร้อมกับเกาจมูกคมสันได้รูปสวยของตัวเองเบาๆ อย่างกำลังใช้ความคิด ก่อนที่ขายาวจะก้าวเดินออกไปอย่างช้าๆ
“ยังตามมาอีกเหรอเนี่ย?” ชูใจหันไปมองด้านหลังก่อนที่ร่างบางจะมองไปยังทางสามแยกตรงหน้าอย่างคิดไม่ตก เธอไม่เคยมาที่ซอยนี้มาก่อนเธอจึงไม่รู้ว่าในสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้เธอควรจะไปทางไหนดี
“ทางนี้แล้วกัน…ว๊ายยยยย!!” ชูใจพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเลี้ยวไปทางซ้ายมือ แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับเธออยู่ๆ ร่างบางของชูใจก็ถูกดึงอย่างแรงเข้าไปหลบอยู่บริเวณซอกตึกที่ทั้งมืดทั้งเปลี่ยว
“อื้ออออ” ชูใจร้องออกมาด้วยความตกใจ ดวงตากลมเบิกโพรงพร้อมกับมองไปยังชายร่างสูงใหญ่ตรงหน้าอย่างหวาดกลัว หญิงสาวพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการจับกุมของเขา แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามเท่าไหร่ก็ไม่สามารถสู้แรงของชายหนุ่มได้เลย
“ชู่!!” ชายหนุ่มมองไปยังหญิงสาวตรงหน้าพร้อมกับส่งสัญญาณให้เธอเงียบปากลงเสีย...
วันต่อมา...Café of Love (coffee and bakery) “พี่ตะวันพาเฮคเตอร์กลับบ้านก่อนก็ได้นะจ๊ะ เดี๋ยวพี่ต้องไปซื้อของทำหมูกระทะด้วยนี่...”“ส่วนร้านไม่ต้องห่วงเดี๋ยวน้องเก็บร้านให้เองจ้ะ” ฉันเอ่ยบอกกับพี่สาวคนสวยออกไปเสียงอ่อน ฉันยื่นซองใส่เงินที่เราขายได้ในวันนี้ให้กับร่างบางตรงหน้า พร้อมกับส่งยิ้มให้กับเธออย่างมีความสุข“ขอบคุณจ๊ะ”วันนี้มีลูกค้าเข้าร้านตลอดทั้งวันถึงจะรู้สึกเหนื่อย แต่พอเห็นจำนวนเงินที่ได้ฉันก็หายเหนื่อยแล้วตั้งแต่บริษัท เคพี พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ปติดต่อฉันมา ฉันก็รู้สึกว่าภูเขาที่มันเคยวางอยู่บนอกของฉันถูกยกออกไปแล้ว ฉันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก“พี่อยู่ช่วยน้องก่อนดีกว่าเราจะได้กลับพร้อมกัน”“วันนี้เรามีปาร์ตี้หมูกระทะกันนะจ๊ะ ถ้าพี่ตะวันไม่ไปเตรียมสถานที่ตอนนี้พี่ธีร์กับเด็กๆ กลับมาคงจะหิวแย่...ทำความสะอาดแค่นี้เองน้องทำได้สบายอยู่แล้วค่ะ” ฉันยกเหตุผลร้อยแปดขึ้นมาอธิบายให้กับร่างบางตรงหน้าของเธอได้ฟัง วันนี้เรามีนัดกินหมูกระทะกันที่บ้านสวน เพื่อตอนรับพี่ธีร์เพื่อนของพี่ตะวันและยังเป็นเจ้าของบ้านสวนที่พวกเรากำลังเช่าอยู่ในขณะนี้ เขาพึ่งจะกลับมาจากการไปทำงานที่ต่างประเทศซ
[ชูใจ] ~ครืนนนนนนนนนน~ ~ครืนนนนนนนนนนน~“ใบหม่อนวีดีโอคอลมาเหรอ?”(นี่ชูใจ! เธอนี่มันจริงๆ เลยนะ) เสียงของใบหม่อนพูดแทรกขึ้นมาทันทีที่ฉันกดรับสาย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันโดนเพื่อนรักตะคอกใส่แบบนี้ ในบรรดาพวกเธอ 3 คนใบหม่อนถือว่าเป็นคนที่ใจเย็นที่สุดในกลุ่ม ถ้าฉันเดาไม่ผิดเธอคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วอย่างแน่นอน“อะ เอ่อ...นี่ใบหม่อนอยู่กับฟองเบียร์เหรอ” ฉันเอ่ยถามปลายสายออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ เวลาใบหม่อนโกรธเธอดูน่ากลัวราวกับคนละคนกับใบหม่อนที่ฉันรู้จัก แต่ฉันก็เข้าใจเธอเป็นอย่างดีที่เธอต้องเอ็ดฉันกับฟองเบียร์แบบนี้ก็เพราะเธอเป็นห่วงพวกเรา(ถ้าเราไม่คาดคั้นเอาความจากเบียร์เราก็คงไม่รู้ว่าเมื่อคืนเพื่อนรักของเราทั้งสองคนไปทำอะไรกันมา)“อะ เอ่อ”(ทำไมพวกเธอต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกันขนาดนั้นด้วย) ใบหม่อนพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ สลับกับมองมาที่ฉันด้วยสายตาดุดันกว่าทุกครั้ง“อะ เอ่อคือว่า...”(เดี๋ยวเราเล่าเอง) ฟองเบียร์ที่นั่งอยู่ข้างกายของใบหม่อนพูดขึ้น พร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆ มาให้กับฉัน ฉันจึงทำได้เพียงพยักหน้าให้กับเธอเล็กน้อย และนั่งเงียบๆ สงบปากสงบคำเอาไ
“…” แววตาที่ดุดันของชายหนุ่มตรงหน้าทำให้ชูใจไม่กล้าที่จะปริปากพูดอะไรออกมาเลย หญิงสาวมองสำรวจร่างสูงตรงหน้าอย่างถือวิสาสะชายหนุ่มสวมชุดสูทดูมีภูมิฐาน ผิวกายขาวเนียนละเอียดดูยังไงเขาก็ไม่น่าจะใช่พวกเดียวกันกับกลุ่มชายฉกรรจ์หน้าตาน่ากลัวพวกนั้นที่กำลังวิ่งไล่ตามเธอมา แต่ถึงอย่างนั้นจะให้ชูใจไว้ใจเขาได้ยังไงในเมื่อเธอไม่ได้รู้จักเขาสักหน่อย เขาจะเข้ามาช่วยเธอฟรีๆ โดยไม่หวังอะไรตอบแทนจริงๆ น่ะเหรอ…“อ่อยดายเเล้วค่ะ…” (ปล่อยได้แล้วค่ะ) ชูใจเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าพร้อมกับพยายามดันอกแกร่งของเขาออกห่างจากร่างบางเธอ ‘สถานการณ์ในตอนนี้ฉันไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น’ ชูใจทำได้แค่บอกกับตัวเอง“…” ชายหนุ่มยกมือออกจากริมฝีปากสวยได้รูปของหญิงสาวตรงหน้าอย่างว่าง่าย เขามองไปยังร่างบางนิ่งๆ ก่อนที่มุมปากของเขาจะแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย การกระทำของเขาทำให้ชูใจเริ่มไม่ไว้ใจคนตรงหน้า ชูใจรวบรวมความกล้าก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้“ฉันจะออกไปค่ะ”“แน่ใจเหรอว่าพวกมันไปแล้ว?”“ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกค่ะ” ชูใจเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ“เธอจะออกไปทั
00.00 น.~ครืนนนนนนนนน~ ~ครืนนนนนนนนนนนน~“อื้อออ…” เสียงครางเบาๆ ดังขึ้นมาจากร่างบางที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ก่อนที่มือของเธอจะเอื้อมขึ้นไปเปิดไฟบริเวณหัวเตียงทันทีที่ไฟภายในห้องสว่างร่างบางของชูใจก็ค่อยๆ ขยับมือบางของตัวเองขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงอย่างอ้อยอิ่ง ในขณะที่ดวงตาของเธอยังคงปิดสนิทอยู่“ชูใจ””เบียร์…!” ชูใจเอ่ยถามออกมาด้วยความร้อนใจพร้อมกับดวงตาของเธอเบิกโพรงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงจากปลายสาย เธอมีลางสังหรณ์ว่ากำลังเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นกับเพื่อนรักเธอ“เกิดอะไรขึ้นเบียร์?”ปกติแล้ววเพื่อนรักของเธอไม่เคยโทรมาเวลานี้ และคนที่เกรงใจคนอื่น ไม่ค่อยยอมรับความช่วยเหลือจากใครถ้าตัวเองไม่ไหวจริงๆ อย่างฟองเบียร์ไม่มีทางโทรหาเธอในเวลานี้โดยที่ไม่มีเรื่องด่วนอย่างแน่นอน(ช่วยเราด้วยชู…เรากลัว ฮืออออ…)“ตอนนี้เบียร์อยู่ที่ไหน?” ร่างบางขยับลุกขึ้นนั่งในทันทีพร้อมกับคิ้วเรียวของชูใจขมวดเข้าหากันอย่างคิดไม่ตก ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามปลายสายออกไปทันทีด้วยความเป็นห่วง ชูใจคิดว่าในตอนนี้เธอควรช่วยเพื่อนเสียก่อน ส่วนรายละเอียดว่ามันเกิดอะไรขึ้นค่อยถามเ
มหาวิทยาลัยวันสอบวันสุดท้ายของเหล่านักศึกษามหาวิทยาลัย ทุกคนต่างมาที่นี่เพื่อตามล่าหาความฝันของตัวเองในเมืองหลวงแห่งนี้ หลังสอบเสร็จนักศึกษาหลายๆ คนต่างก็เตรียมตัวกลับภูมิลำเนาของตัวเองบางส่วนก็เตรียมตัวออกไปปาร์ตี้เพื่อฉลองหลังสอบเสร็จกับเพื่อนๆ ทำให้ช่วงเย็นในรั้วมหาวิทยาลัยดูเงียบเหงาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพอมีนักศึกษาบางส่วนที่ยังคงนั่งจับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนบริเวณลานกิจกรรมใต้อาคารเรียนรวม“เฮ้ออออ…!!!”“นี่ชูใจ…ยังไม่มีบริษัทติดต่อกลับมาอีกเหรอ?” ใบหม่อนเอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง พวกเธอต่างรู้ดีในยุคที่ข้าวยากหมากแพ้เเบบนี้จะหางานทำสักที่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย“ยังเลยอะ…” ชูใจพึมพำออกมาเสียงหงอย พร้อมกับซบหน้าลงกับไหล่มนของเพื่อนรักอย่างอ้อนๆ“ลองหาที่ใหม่ดูดีไหมเดี๋ยวเราช่วย” ใบหม่อนลูบลงที่หัวน้อยๆ ของเพื่อนสาวเบาๆ พร้อมกับเอ่ยบอกกับหญิงสาวเสียงใสอย่างที่เธอชอบทำมาตลอด“อือ…เราก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ชูใจส่งยิ้มหวานให้กับเพื่อนสาวก่อนที่เธอตอบกลับไป“หม่อนเชื่อว่าคนเก่งอย่างชูใจต้องได้งา