“…” แววตาที่ดุดันของชายหนุ่มตรงหน้าทำให้ชูใจไม่กล้าที่จะปริปากพูดอะไรออกมาเลย หญิงสาวมองสำรวจร่างสูงตรงหน้าอย่างถือวิสาสะ
ชายหนุ่มสวมชุดสูทดูมีภูมิฐาน ผิวกายขาวเนียนละเอียดดูยังไงเขาก็ไม่น่าจะใช่พวกเดียวกันกับกลุ่มชายฉกรรจ์หน้าตาน่ากลัวพวกนั้นที่กำลังวิ่งไล่ตามเธอมา แต่ถึงอย่างนั้นจะให้ชูใจไว้ใจเขาได้ยังไงในเมื่อเธอไม่ได้รู้จักเขาสักหน่อย เขาจะเข้ามาช่วยเธอฟรีๆ โดยไม่หวังอะไรตอบแทนจริงๆ น่ะเหรอ…
“อ่อยดายเเล้วค่ะ…” (ปล่อยได้แล้วค่ะ) ชูใจเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าพร้อมกับพยายามดันอกแกร่งของเขาออกห่างจากร่างบางเธอ ‘สถานการณ์ในตอนนี้ฉันไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น’ ชูใจทำได้แค่บอกกับตัวเอง
“…” ชายหนุ่มยกมือออกจากริมฝีปากสวยได้รูปของหญิงสาวตรงหน้าอย่างว่าง่าย เขามองไปยังร่างบางนิ่งๆ ก่อนที่มุมปากของเขาจะแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย การกระทำของเขาทำให้ชูใจเริ่มไม่ไว้ใจคนตรงหน้า ชูใจรวบรวมความกล้าก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
“ฉันจะออกไปค่ะ”
“แน่ใจเหรอว่าพวกมันไปแล้ว?”
“ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกค่ะ” ชูใจเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“เธอจะออกไปทั้งๆ ที่ไม่รู้งั้นเหรอ? เธอไม่กลัวพวกมันรึไง?” ชายหนุ่มยังคงเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกมาด้วยน้ำเสียงที่ต้องการจะยั่วเย้าเธอ ใบหน้าหล่อคมตามเเบบชายไทยแสยะยิ้มออกมาอย่างต้องการจะยั่วยวนเธอ
“ฉันคิดว่ามันน่าจะปลอดภัยกว่าอยู่ตรงนี้”
“หึหึ…เธอคิดอย่างนั้นเหรอ?”
“นี่คุณ! กรุณาหลบไปด้วยค่ะ หลบไปสิ…” ชูใจเลือกที่จะเดินออกไปอีกทาง แต่เธอก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะมีร่างสูงตรงหน้าขวางทางอยู่ ไม่ว่าเธอจะพยายามพูดกับชายตรงหน้าสักแค่ไหนเขาก็ไม่ยอมขยับออกไปเลยสักนิด หญิงสาวพยายามดันอกแกร่งของร่างสูงตรงหน้าออกไปให้ห่างจากตัวของเธอ…
จุ๊บ!!
“คุณ…อุ๊บ! อื้อออ…” ชูใจยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมาแขนแกร่งของเขาก็รั้งร่างบางเข้าไปแนบชิดกับกายหนาของเขา ก่อนที่ริมฝีปากบางของเธอจะถูกร่างสูงตรงหน้าประกบจูบในทันที ชูใจยืนตัวแข็งเกร็งด้วยความตกใจดวงตาสวยหวานเบิกโพรงขึ้นมาทันที ‘นี่มันคือจูบแรกของเธอเลยนะ’
ปึก! ปึก!
เปลือกตาของชูใจกระพริบถี่ก่อนที่เธอจะได้สติมือบางของหญิงสาวทุบลงที่อกแกร่งของร่างสูงตรงหน้าอย่างแรงเพื่อต้องการจะประท้วงการกระทำของเขา เเรงทุบตีของหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสะทกสะท้านได้เลยแม้แต่น้อย
“อื้อ…”
“…” ตาคมของชายหนุ่มมองไปยังชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คนที่กำลังมองมาที่เขาอย่างตกใจ พวกมันก้มหัวให้เขาก่อนที่จะพากันวิ่งออกไปทางอื่น
“นี่คุณ!!”
เพียะ!!!
ชูใจตะคอกเรียกร่างสูงตรงหน้าเสียงดังลั่นทันทีที่เธอเป็นอิสระ ก่อนที่มือบางจะตบลงที่แก้มขาวเนียนของเขาอย่างแรงจนใบหน้าหล่อเหลาหันไปอีกทางตามแรงกระแทก
“ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าฉัน…” ชายหนุ่มจับไหล่มนของหญิงสาวตรงหน้าไว้เเน่น ใบหน้าหล่อเหลายังคงแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มถึงจะเป็นรอยยิ้มที่ดูน่ากลัวก็ตาม
“กะ ก็คุณลวนลามฉันก่อน” ชูใจเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว ร่างบางค่อยๆ ขยับถอยห่างจากร่างสูงจนแผ่นหลังของเธอชนเข้ากับกำเเพงอย่างจัง
“อ๊ะ!” ชูใจรู้ดีว่าตัวเองหมดทางจะหนีแล้วเธอจึงมองไปยังร่างสูงตรงหน้าอย่างกับคนที่หมดหนทางจะสู้
“ฉันชักอยากจะรู้จักเธอให้มากกว่านี้แล้วสิสาวน้อย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับค่อยๆ ขยับเข้ามาหาร่างบางตรงหน้า มือหนาข้างหนึ่งดันกำแพงเอาไว้ส่วนอีกข้างลูบลงที่แก้มขาวเนียนของหญิงสาวตรงหน้าอย่างทะนุถนอม
“…” ชูใจยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่แขนเรียวจะถูกยกขึ้นมาคล้องรอบลำคอแกร่งของชายหนุ่มตรงหน้าเอาไว้
การกระทำที่เปลี่ยนไปของหญิงสาวสร้างความประหลาดใจให้กับชายหนุ่มอยู่มาก แต่ตามประสาผู้ชายอย่างสกายถ้าผู้หญิงเสนอให้...เขาก็แค่สนอง และถ้ายิ่งเป็นสาวสวยอย่างหญิงสาวตรงหน้าด้วยแล้วเขาไม่มีทางปฏิเสธเธอเด็ดขาด
ปึก!!
“อะ โอ้ยยยย เธอ!!!” ชายหนุ่มยกยิ้มดีใจอยู่ได้ไม่นาน เขาก็ต้องร้องออกมาเสียงหลงด้วยความเจ็บปวดที่เจ้าโลกของเขาโดนหัวเข่าน้อยๆ ของหญิงสาวตรงหน้ากระแทกเข้าใส่เต็มแรง
ร่างสูงทรุดตัวนั่งคลุกเข่าลงตรงหน้าของหญิงสาว พร้อมกับมือหนาทั้งสองข้างของเขากำเจ้าโลกของตัวเองเอาไว้แน่นด้วยความปวดร้าวและจุกในเวลาเดียวกัน
“แต่ฉันไม่ได้อยากรู้จักนาย”
“เธอทะ ทำกับผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอแบบนี้รึไง ห๊ะ!!”
“โอ๊ะ! ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉันไว้ หวังว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีก…ลาก่อนค่ะ” ชูใจหยุดเดินก่อนที่เธอจะหันกลับมามองชายหนุ่มอีกครั้ง เธอเอ่ยบอกกับเขาเสียงอ่อนพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับเขา ก่อนที่ร่างบางจะเดินจากไปโดยที่เธอไม่ลืมที่จะยกมือขึ้นมาไหว้ชายหนุ่มที่น่าจะมีอายุมากกว่าหลายปีอย่างนอบน้อมตามมารยาทหญิงไทยใจงาม
“ฝากไว้ก่อนเถอะยัยตัวเเสบ…”
วันต่อมา…
“เฮ้ออออ!!”
“เป็นอะไรเหรอเรา? พี่เห็นน้องนั่งถอนหายใจแบบนี้มาตั้งเเต่เช้าแล้วนะ”
“ฮึก…”
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึป่าว?” ตะวันเอ่ยถามน้องสาวออกมาด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับมือบางของเธอลูบลงที่หัวน้อยๆ ของหญิงสาวตรงหน้าอย่างอ่อนโยน
“น้องยังไม่ได้ที่ฝึกงานเลยอะพี่ตะวัน” ชูใจตอบคำถามของพี่สาวออกมาเสียงอ่อน พร้อมกับกอดร่างบางตรงหน้าอย่างอ้อนๆ
“หืมมมม พี่มั่นใจว่าน้องของพี่เป็นคนเก่งต้องมีบริษัทดีๆ สนใจในความสามารถของน้องอย่างแน่นอน”
“ระหว่างรอบริษัทติดต่อกลับมาอยากกินอะไรไหม เดี๋ยวพี่ไปทำมาให้กิน” ตะวันเอ่ยบอกกับน้องสาวอย่างอ่อนโยน
“น้องอยากกินซี่โครงหมูทอดกระเทียมค่ะ”
“เดี๋ยวพี่ไปทำมาให้กิน…ยิ้มหน่อยค่า” ตะวันเอ่ยบอกกับชูใจพร้อมกับบีบแก้มนุ่มนิ่มของร่างบางตรงหน้าเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“ยิ้มแล้วค่า”
ชูใจมองตามหลังพี่สาวที่เธอเข้าครัวไปจนลับตา ก่อนที่เธอจะนอนฟุบหน้าลงกับโซฟาอีกครั้งอย่างหมดแรง ถึงจะพยายามไม่คิดมากแต่มันก็ไม่ง่ายเอาเสียเลย
“ข้าวราดซี่โครงหมูทอดกระเทียมมาเเล้วจ้า”
ใช้เวลาไม่นานข้าวราดซี่โครงหมูทอดกระเทียมก็ถูกวางลงตรงหน้าของชูใจ กลิ่นหอมของมันชวนให้หญิงสาวที่กำลังนอนฟุบหน้าลงกับโซฟาเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนที่ใบหน้าสวยหวานจะยกยิ้มขึ้นมาทันที
“ขอบคุณมากนะจ๊ะ น้องรักพี่ตะวันที่สุดเลย”
“จ้า...พี่ก็รักน้อง ทานเยอะๆ นะเดี๋ยวพี่ไปเตรียมเค้กก่อน”
“ถ้าเฮคตื่นเดี๋ยวน้องดูให้เองจ๊ะ”
“…” ตะวันพยักหน้าให้กับน้องสาวเล็กน้อยก่อนที่เธอจะแยกตัวออกไปทำขนมยังห้องครัวที่อยู่่ไม่ไกล
“อืมมมม…อร่อยที่สุด” ชูใจกินข้าวหมูทอดตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย ในขณะที่มือบางยังคงเลื่อนอ่านข่าวในโทรศัพท์ตรงหน้าไปด้วย…
“อร่อยก็กินเยอะๆ” เสียงพี่สาวของเธอตะโกนออกมาจากในห้องครัวที่อยู่ไม่ไกล
“จ้า...”
วันต่อมา...Café of Love (coffee and bakery) “พี่ตะวันพาเฮคเตอร์กลับบ้านก่อนก็ได้นะจ๊ะ เดี๋ยวพี่ต้องไปซื้อของทำหมูกระทะด้วยนี่...”“ส่วนร้านไม่ต้องห่วงเดี๋ยวน้องเก็บร้านให้เองจ้ะ” ฉันเอ่ยบอกกับพี่สาวคนสวยออกไปเสียงอ่อน ฉันยื่นซองใส่เงินที่เราขายได้ในวันนี้ให้กับร่างบางตรงหน้า พร้อมกับส่งยิ้มให้กับเธออย่างมีความสุข“ขอบคุณจ๊ะ”วันนี้มีลูกค้าเข้าร้านตลอดทั้งวันถึงจะรู้สึกเหนื่อย แต่พอเห็นจำนวนเงินที่ได้ฉันก็หายเหนื่อยแล้วตั้งแต่บริษัท เคพี พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ปติดต่อฉันมา ฉันก็รู้สึกว่าภูเขาที่มันเคยวางอยู่บนอกของฉันถูกยกออกไปแล้ว ฉันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก“พี่อยู่ช่วยน้องก่อนดีกว่าเราจะได้กลับพร้อมกัน”“วันนี้เรามีปาร์ตี้หมูกระทะกันนะจ๊ะ ถ้าพี่ตะวันไม่ไปเตรียมสถานที่ตอนนี้พี่ธีร์กับเด็กๆ กลับมาคงจะหิวแย่...ทำความสะอาดแค่นี้เองน้องทำได้สบายอยู่แล้วค่ะ” ฉันยกเหตุผลร้อยแปดขึ้นมาอธิบายให้กับร่างบางตรงหน้าของเธอได้ฟัง วันนี้เรามีนัดกินหมูกระทะกันที่บ้านสวน เพื่อตอนรับพี่ธีร์เพื่อนของพี่ตะวันและยังเป็นเจ้าของบ้านสวนที่พวกเรากำลังเช่าอยู่ในขณะนี้ เขาพึ่งจะกลับมาจากการไปทำงานที่ต่างประเทศซ
[ชูใจ] ~ครืนนนนนนนนนน~ ~ครืนนนนนนนนนนน~“ใบหม่อนวีดีโอคอลมาเหรอ?”(นี่ชูใจ! เธอนี่มันจริงๆ เลยนะ) เสียงของใบหม่อนพูดแทรกขึ้นมาทันทีที่ฉันกดรับสาย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันโดนเพื่อนรักตะคอกใส่แบบนี้ ในบรรดาพวกเธอ 3 คนใบหม่อนถือว่าเป็นคนที่ใจเย็นที่สุดในกลุ่ม ถ้าฉันเดาไม่ผิดเธอคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วอย่างแน่นอน“อะ เอ่อ...นี่ใบหม่อนอยู่กับฟองเบียร์เหรอ” ฉันเอ่ยถามปลายสายออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ เวลาใบหม่อนโกรธเธอดูน่ากลัวราวกับคนละคนกับใบหม่อนที่ฉันรู้จัก แต่ฉันก็เข้าใจเธอเป็นอย่างดีที่เธอต้องเอ็ดฉันกับฟองเบียร์แบบนี้ก็เพราะเธอเป็นห่วงพวกเรา(ถ้าเราไม่คาดคั้นเอาความจากเบียร์เราก็คงไม่รู้ว่าเมื่อคืนเพื่อนรักของเราทั้งสองคนไปทำอะไรกันมา)“อะ เอ่อ”(ทำไมพวกเธอต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกันขนาดนั้นด้วย) ใบหม่อนพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ สลับกับมองมาที่ฉันด้วยสายตาดุดันกว่าทุกครั้ง“อะ เอ่อคือว่า...”(เดี๋ยวเราเล่าเอง) ฟองเบียร์ที่นั่งอยู่ข้างกายของใบหม่อนพูดขึ้น พร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆ มาให้กับฉัน ฉันจึงทำได้เพียงพยักหน้าให้กับเธอเล็กน้อย และนั่งเงียบๆ สงบปากสงบคำเอาไ
“…” แววตาที่ดุดันของชายหนุ่มตรงหน้าทำให้ชูใจไม่กล้าที่จะปริปากพูดอะไรออกมาเลย หญิงสาวมองสำรวจร่างสูงตรงหน้าอย่างถือวิสาสะชายหนุ่มสวมชุดสูทดูมีภูมิฐาน ผิวกายขาวเนียนละเอียดดูยังไงเขาก็ไม่น่าจะใช่พวกเดียวกันกับกลุ่มชายฉกรรจ์หน้าตาน่ากลัวพวกนั้นที่กำลังวิ่งไล่ตามเธอมา แต่ถึงอย่างนั้นจะให้ชูใจไว้ใจเขาได้ยังไงในเมื่อเธอไม่ได้รู้จักเขาสักหน่อย เขาจะเข้ามาช่วยเธอฟรีๆ โดยไม่หวังอะไรตอบแทนจริงๆ น่ะเหรอ…“อ่อยดายเเล้วค่ะ…” (ปล่อยได้แล้วค่ะ) ชูใจเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าพร้อมกับพยายามดันอกแกร่งของเขาออกห่างจากร่างบางเธอ ‘สถานการณ์ในตอนนี้ฉันไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น’ ชูใจทำได้แค่บอกกับตัวเอง“…” ชายหนุ่มยกมือออกจากริมฝีปากสวยได้รูปของหญิงสาวตรงหน้าอย่างว่าง่าย เขามองไปยังร่างบางนิ่งๆ ก่อนที่มุมปากของเขาจะแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย การกระทำของเขาทำให้ชูใจเริ่มไม่ไว้ใจคนตรงหน้า ชูใจรวบรวมความกล้าก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้“ฉันจะออกไปค่ะ”“แน่ใจเหรอว่าพวกมันไปแล้ว?”“ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกค่ะ” ชูใจเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ“เธอจะออกไปทั
00.00 น.~ครืนนนนนนนนน~ ~ครืนนนนนนนนนนนน~“อื้อออ…” เสียงครางเบาๆ ดังขึ้นมาจากร่างบางที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ก่อนที่มือของเธอจะเอื้อมขึ้นไปเปิดไฟบริเวณหัวเตียงทันทีที่ไฟภายในห้องสว่างร่างบางของชูใจก็ค่อยๆ ขยับมือบางของตัวเองขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงอย่างอ้อยอิ่ง ในขณะที่ดวงตาของเธอยังคงปิดสนิทอยู่“ชูใจ””เบียร์…!” ชูใจเอ่ยถามออกมาด้วยความร้อนใจพร้อมกับดวงตาของเธอเบิกโพรงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงจากปลายสาย เธอมีลางสังหรณ์ว่ากำลังเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นกับเพื่อนรักเธอ“เกิดอะไรขึ้นเบียร์?”ปกติแล้ววเพื่อนรักของเธอไม่เคยโทรมาเวลานี้ และคนที่เกรงใจคนอื่น ไม่ค่อยยอมรับความช่วยเหลือจากใครถ้าตัวเองไม่ไหวจริงๆ อย่างฟองเบียร์ไม่มีทางโทรหาเธอในเวลานี้โดยที่ไม่มีเรื่องด่วนอย่างแน่นอน(ช่วยเราด้วยชู…เรากลัว ฮืออออ…)“ตอนนี้เบียร์อยู่ที่ไหน?” ร่างบางขยับลุกขึ้นนั่งในทันทีพร้อมกับคิ้วเรียวของชูใจขมวดเข้าหากันอย่างคิดไม่ตก ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามปลายสายออกไปทันทีด้วยความเป็นห่วง ชูใจคิดว่าในตอนนี้เธอควรช่วยเพื่อนเสียก่อน ส่วนรายละเอียดว่ามันเกิดอะไรขึ้นค่อยถามเ
มหาวิทยาลัยวันสอบวันสุดท้ายของเหล่านักศึกษามหาวิทยาลัย ทุกคนต่างมาที่นี่เพื่อตามล่าหาความฝันของตัวเองในเมืองหลวงแห่งนี้ หลังสอบเสร็จนักศึกษาหลายๆ คนต่างก็เตรียมตัวกลับภูมิลำเนาของตัวเองบางส่วนก็เตรียมตัวออกไปปาร์ตี้เพื่อฉลองหลังสอบเสร็จกับเพื่อนๆ ทำให้ช่วงเย็นในรั้วมหาวิทยาลัยดูเงียบเหงาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพอมีนักศึกษาบางส่วนที่ยังคงนั่งจับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนบริเวณลานกิจกรรมใต้อาคารเรียนรวม“เฮ้ออออ…!!!”“นี่ชูใจ…ยังไม่มีบริษัทติดต่อกลับมาอีกเหรอ?” ใบหม่อนเอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง พวกเธอต่างรู้ดีในยุคที่ข้าวยากหมากแพ้เเบบนี้จะหางานทำสักที่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย“ยังเลยอะ…” ชูใจพึมพำออกมาเสียงหงอย พร้อมกับซบหน้าลงกับไหล่มนของเพื่อนรักอย่างอ้อนๆ“ลองหาที่ใหม่ดูดีไหมเดี๋ยวเราช่วย” ใบหม่อนลูบลงที่หัวน้อยๆ ของเพื่อนสาวเบาๆ พร้อมกับเอ่ยบอกกับหญิงสาวเสียงใสอย่างที่เธอชอบทำมาตลอด“อือ…เราก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ชูใจส่งยิ้มหวานให้กับเพื่อนสาวก่อนที่เธอตอบกลับไป“หม่อนเชื่อว่าคนเก่งอย่างชูใจต้องได้งา