ร่างสูงเคลื่อนตัวมาใกล้ร่างเล็กเรื่อย ๆ จนเธอต้องถอยหนีพลางหลับตาปี๋ไปด้วย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนเกิดเสียงดังไปถึงหูของเขา อลันกระตุกยิ้มเบา ๆ ก่อนจะถอยหลังห่างออกไป
เมื่อรู้สึกว่าเขาห่างออกไปแล้วเธอจึงลืมตาขึ้นช้า ๆ ก่อนจะจัดระเบียบตัวเองให้เข้าที่ ใบหน้าสวยก้มลงต่ำพลางเหลือบมองนาฬิกาข้อมือพบว่าเลยเวลาหกโมงครึ่งมาแล้ว พลอยไพลินลอบถอนหายใจออกมา เบา ๆ เมื่อรู้ว่าตัวเองไปทำงานสายอีกแล้ว
“ออกไปได้แล้ว” เขาพูดเสียงเรียบ
หญิงสาวเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ หรือเขาแค่ต้องการแกล้งเธอเท่านั้น หากเป็นอย่างที่เธอคิดเขาคงเป็นบุคคลที่ใจร้ายมาก ๆ อย่างที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน
ขาเรียวก้าวออกมาจากห้องช้า ๆ เพราะกลัวเสียมารยาท แต่เมื่อพบพ้นอาณาเขตของเขาแล้วเธอจึงรีบวิ่งทันที แม้จะรู้อยู่แล้วว่าต้องสายแต่คงจะดีกว่าหากไม่สายมาก
“พลอย จะรีบวิ่งไปไหน เดี๋ยวก็ล้มหรอก” มารดาของเธอเอ่ยทัก
“คือ...พลอยสายมากแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ คุณลุงสวัสดีค่ะ คุณแม่คะ พลอยไปนะคะ” เธอเอ่ยอย่างร้อนรน
“ไปไงล่ะหนูพลอย?”
“รถโดยสารค่ะ”
“พลอยลูก ตั้งสติก่อน เดี๋ยววันนี้ขอให้ลุงสมหมายไปส่ง มากินข้าวมา” มารดาของเธอปรามเมื่อเห็นท่าทีของลูกสาว ร่างเล็กหยุดปฏิกิริยาร้อนรน เธอคงต้องขอร้องให้ลุงสมหมายไปส่งจริง ๆ นั่นแหละ แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและจะเป็นครั้งสุดท้าย
“ค่ะ”
หลังจากที่เธอหย่อนก้นลงเก้าอี้ได้เพียงชั่วครู่ ร่างสูงที่แสนจะคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้น ใบหน้าสวยหลบลงต่ำไม่กล้าสบตา เขาเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามเธอและจงใจใช้สายตามองจ้องเธอตลอดเวลา
“อลัน...เดือนหน้ามีงานที่อิตาลี เรื่องบริษัทที่นั่นพ่ออยากให้ลูกไปเคลียร์ด้วยตัวเองได้หรือเปล่า?”
“อ่า...ผมลืมสนิทเลย ครับผมจะไป”
“ขอบใจมากไอ้ลูกชาย อยากไปกับพี่เขาไหมลูก? ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยเลย” พ่อของเขาพูดจบก่อนจะหันไปคุยกับลูกสาวคนเล็ก
“เดือนหน้าหนูสอบเสร็จและเรียนซัมเมอร์ต่อค่ะ คงไม่ว่าง” เอวาตอบพ่อแค่นั้นพร้อมกับตักอาหารเช้าเข้าปาก
“ผมไปคนเดียวได้ครับ” เขาพูดเสียงเรียบ
“พ่อเป็นห่วง ไม่อยากให้ไปคนเดียว เอาหนูพลอยไปช่วยดีไหม? หนูพลอยเดือนหน้าว่างหรือเปล่า?”
ประโยคที่ประมุขของบ้านเอ่ยขึ้นทำให้เธอไปไม่เป็น ทำไมวันเวลามันช่างเหมาะเจาะเป็นใจเช่นนี้ เดือนหน้ามหาลัยของเธอปิดนั่นหมายความว่าเธอว่าง เพราะนอกจากงานสอนหนังสือแล้วนั้นก็ไม่มีงานอะไรอีกหากไม่นับรวมงานบ้านที่ทำประจำ
เธอสบตาเขาอย่างประหม่า หากตอบตกลงเขาจะว่าอย่างไร และหากไม่ตอบตกลงมันจะเกิดอะไรขึ้น
“ดีครับ” ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากหลังพูดจบ
“ดีเลย หนูพลอยว่างใช่ไหมลูก?”
“ชะ...ใช่ค่ะ ว่างค่ะ”
“ฮ่า ๆ ดี ๆ พ่อค่อยหายห่วงหน่อย”
บทสนทนานั้นจบก็ไร้การพูดคุยใด ๆ เธอหันมองนาฬิกาอีกครั้งก่อนจะพบว่ามันเป็นเวลาเจ็ดโมงกว่าแล้ว
“ผมขอตัวนะครับ / พลอยขอตัวนะคะ”
ทั้งสองหันมองหน้ากันอัตโนมัติ หลังจากที่เขาและเธอเอ่ยประโยคขอตัวพร้อมกัน ให้มันได้อย่างนี้สิพลอยไพลิน
“อลัน หากไม่รีบมากให้หนูพลอยติดรถไปด้วยได้ไหมล่ะ?” พ่อของเขาถาม
“ผมรีบครับ” ชายหนุ่มเดินออกไปทันทีหลังพูดจบ
พลอยไพลินลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ดีใจที่ไม่ได้ร่วมทางกับเขา เพราะหากเป็นเช่นนั้นเธอคงจะอึดอัดเอามาก ๆ แต่อีกใจก็แอบเสียใจแลกน้อยเพราะพลาดโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้เขาตามความเรียกร้องของหัวใจ
“งั้นพลอยขอตัวนะคะ คุณลุงคุณแม่สวัสดีค่ะ” หญิงสาวเอ่ยลาตามมารยาท พร้อมกับเดินออกมา
เมื่อมาถึงหน้าบ้านพบว่ารถของเขายังไม่ได้ขับออกไป เธอจึงเลี่ยงตัวออกมาอีกทางเพื่อตามหาลุงสมหมายที่จะขอให้ขับรถไปส่ง
“ไปกับฉัน” อลันพูดออกมาเสียงเรียบและไม่ดังมาก เหมือนกับว่าเขาไม่ได้ใส่ใจคำพูดด้วยซ้ำ
“คุณอลันพูดกับพลอยเหรอคะ?” ร่างบางถามเพื่อความแน่ใจ
“ขึ้นรถ!” เขาตอบกลับเสียงดังจนพลอยสะดุ้ง
“.....”
ขาเรียวรีบเดินไปที่รถเขา โดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าเหตุใดต้องทำแบบนั้น กลัวเขาโกรธงั้นเหรอ
บรรยากาศบนรถเต็มไปด้วยความเงียบและแสนจะอึดอัด เธออยากจะหายไปจากรถให้รู้แล้วรู้รอด เขาไม่แม้แต่จะสนใจเธอเลยสักนิด
“เดือนหน้าฉันจะพาวิเวียนไปด้วย หวังว่าคงจะไม่ว่าอะไร” เสียงเข้มของชายหนุ่มดังทำลายความเงียบ
“ถ้าอย่างนั้น พลอยไม่ไปได้ไหมคะ?” ร่างเล็กกลั้นใจถามออกไป เพราะที่คุณลุงให้เธอไปก็เพียงกลัวว่าเขาจะเหงา แต่นี่เขามีแฟนไปเป็นเพื่อนแล้วเธอก็คงไม่จำเป็น
“เธอมีหน้าที่ที่ต้องทำทุกคืนไม่ใช่เหรอ?”
“อ๋อ...ค่ะ”
สุดท้ายเธอก็มีค่าแค่นี้สินะ ไม่ต่างอะไรจากสิ่งของที่มีเพื่อสนองความใคร่ของเขา ใบหน้าสวยมองเลื่อนลอยออกไปนอกหน้าต่าง แม้เธออยากจะหลุดออกจากบ่วงกรรมนี้มากเพียงใด แต่อีกใจกลับต่อต้านความคิดอย่างหนัก เฮ้อ...
“เดี๋ยวคุณอลันส่งพลอยตรงปากทางก็ได้ค่ะ จะได้ไม่เสียเวลาเลี้ยวเข้าไป”
“อืม”
ชายหนุ่มตอบกลับสั้นๆ เป็นเวลาเดียวกับที่พวกเขาถึงที่หมายพอดี อลันจอดรถหน้าปากทางตามคำบอกของพลอยไพลิน หญิงสาวเอ่ยขอบคุณเขาก่อนจะลงมาจากรถ
“พลอย”
เสียงเรียกที่ดังเป็นเหตุให้เขายังไม่เคลื่อนตัวรถไปไหน สายตาคมมองคนตัวเล็กที่ยิ้มให้กับผู้ชายที่เรียกเธอ ขาเรียวก้าวเดินไปหาเขาคนนั้นทันทีและขึ้นรถไป
“เหอะ!...นัดผู้ชายไว้ก็ไม่บอก” อลันสบถออกมาลั่นรถ ก่อนจะเคลื่อนตัวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
ร่างเล็กที่บังเอิญเจอรุ่นพี่คนสนิทและขึ้นรถเขามาถึงกับถอนหายใจ หากไม่ได้เจอโนอาห์เธอคงต้องหารถเข้ามหาวิทยาลัยให้วุ่นแน่นอน
“พี่โนอาห์มาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?”
“พี่เอาหนังสือมาให้อธิการบดีเซ็นและก็มาสอนเด็กด้วย”
“ห๊า...จริงเหรอคะ พี่จะมาสอนที่นี่เหรอคะ?” ใบหน้าสวยขึ้นเครื่องหมายคำถาม
“ใช่ พี่ถูกย้ายมาชั่วคราวน่ะ”
“หืม...ดีใจจัง จะได้มีเพื่อนสักที”
พลอยไพลินระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง เธอดีใจที่ได้พบผู้ชายคนนี้ที่นี่ อย่างน้อยก็มีเพื่อนคุยและเพื่อนนั่งกินข้าวไม่นั่งเหงาคนเดียวอีกต่อไป
“เย็นนี้ว่างไหม? ไปฉลองกัน”
“งั้นหลังเลิกงานไปทานข้าวเย็นกันดีไหมคะ?”
“ครับผม”
“แล้วนี่ยังสอนวิชาเดิมหรือเปล่า?”
“ใช่ค่ะ”
“อ๋อครับ แต่เดี๋ยวพี่ต้องไปที่ตึกอธิการก่อนเข้าสอน พลอยจะให้พี่ไปส่งตรงไหน?”
“อ๋อ...งั้นหน้าตึกวิทย์ก็ได้ค่ะ”
“โอเคครับ”
“ขอบคุณพี่โนอาห์มากนะคะที่มาส่ง ไว้เจอกันตอนเย็นนะคะ”
“ตอนเที่ยงก็เจอ เดี๋ยวพี่โทรหานะ”
“ได้ค่ะ”
ช่วงเวลาพักเที่ยงที่แสนวุ่นวายในรั้วมหาลัย พลอยไพลินเลือกที่จะหามุมสงบนั่งทานข้าวกล่องที่พึ่งซื้อมาจากโรงอาหาร เธอยังไม่มีเพื่อนมากนักจึงปลีกตัวมานั่งคนเดียว สถานที่แห่งนี้เป็นมหาลัยเล็ก ๆ มีนักศึกษาเพียงห้าพันคนเท่านั้น
***
ดวงตากลมโตมองสถานที่บันเทิงเบื้องหน้าด้วยหัวใจเต้นรัว เธอรู้สึกประหม่าอย่างที่สุดเนื่องจากไม่เคยมาเที่ยวสถานที่แบบนี้มาก่อนในชีวิต พลอยไพลินอยู่ในชุดกางเกงยีนสีเข้มทรงสกินนี่ ท่อนบนสวมเสื้อยืดสีเทาพอดีตัว ผมยาวสลวยถูกปล่อยตามธรรมชาติ ใบหน้าหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบาเพื่อเสริมความมั่นใจ“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะน้องพลอย เข้าไปข้างในเถอะ ข้าวบอกว่าจองโต๊ะไว้ให้แล้ว”“โอเคค่ะ”หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งเรียกความมั่นใจ เธอก้าวตามร่างสูงของโนอาห์ไปติด ๆ เพราะกลัวคลาดกัน บรรยากาศด้านในชวนให้กระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มทำให้เธออึดอัด ผู้คนมากมายต่างโชว์ลวดลายโยกย้ายส่ายเอวเข้ากับจังหวะดนตรี สาวสวยหลายคนปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ชายหนุ่มสัมผัสตามอำเภอใจ โดยที่หล่อนไม่ได้ขัดขืน เธอไม่ชอบสถานที่แบบนี้เป็นที่สุด“พลอยทางนี้ ๆ”ร่างเล็กหันไปตามเสียงเรียกที่ได้ยินไม่ถนัดนัก เธอเห็นเพื่อนที่นั่งรออยู่พอดีจึงเดินไปหารวงข้าวอย่างไว“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ?” รวงข้าวเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าของพลอยไพลิน“เราไม่เคยมาที่แบบนี้น่ะ เลยประหม่านิดหน่อย”“อ๋อ...ใจเย็นนะ ผ่อนคลายเลย ส
บทเพลงรักที่แสนทรมานหัวใจผ่านพ้นไปอย่างยาวนานสำหรับพลอยไพลิน ไร้ซึ่งเสียงสนทนาหรือแม้กระทั่งเสียงปลอบโยนสำหรับหญิงสาว เขาตักตวงความสุขความหอมหวานจากร่างเล็กจนพอใจ ก่อนจะลุกขึ้นแต่งตัวแล้วเดินออกไปจากห้องหยดน้ำตาสีใสไหลอาบแก้มนวลด้วยความอึดอัด เธออยากจะออกไปจากจุดนี้เหลือเกิน ติดแต่ว่าหัวใจมันยังเรียกร้องที่จะมีเขาอยู่เคียงข้าง แม้จะเศร้าที่ต้องแอบขโมยอ้อมกอดจากคนอื่น แต่กลับมีความสุขที่ได้กอดเขา แม้จะเศร้าที่ต้องคอยลอบมองรอยยิ้มที่เขายิ้มให้คนอื่น แต่กลับมีความสุขที่ได้เห็นมัน หากเลือกได้จริง ๆ เธอก็คงยอมกลายเป็นคนเลวแบบนี้ขอเพียงแค่ได้อยู่ใกล้เขาก็พอร่างเล็กลุกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เธอสะบัดความช้ำออกจากหัวใจโดยปล่อยให้สายน้ำชำระล้างมันให้หมดสิ้น หลังจากอาบน้ำเสร็จหญิงสาวก็พาร่างของตัวเองกลับมานอนที่เดิมจนเคลิ้มหลับไป***เช้าวันใหม่ที่ไม่สดใสนะสำหรับเธอ พลอยไพลินตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชิน เธอลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงมาด้านล่างเครื่องปรุงอาหารเช้าสำหรับตัวเธอเองและพวกเขาตุบ!“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”ด้วยความเพลิดเพลินกับการทำอาหาร ทำให้เธอไม่ทันได้สังเกตผู้มาใหม่ หญิงสาวร่างเล
รถคันหรูของอลันจอดสนิทที่ลานจอดรถวีไอพีห้างดังของประเทศ พลอยไพลินลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างโล่งอก ตลอดเวลาบนรถเธออึดอัดจวนอาเจียนเพราะความมวนท้อง เขาทั้งคู่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน ไม่สิ...เธอคือส่วนเกิน และหากเป็นเช่นนี้แล้วเขาจะพาเธอมาด้วยทำไม“คุณอลันคะ...” หญิงสาวเอ่ยเรียกเขาด้วยความประหม่า“?” เขาไม่ได้ขานรับเพียงแค่หันมามองหน้าเธอนิ่ง ๆ“พลอยขออนุญาตไปเดินแยกได้ไหมคะ?” หลังจากถามคำถามออกไปเธอก็เม้มปากสนิทรอลุ้นคำตอบ“ที่ให้มาด้วยเพราะเธอต้องถือของให้วิเวียน ไม่ได้ให้เดินเที่ยว เข้าใจนะ!”วาจาประกาศิตกล่าวจบเขาก็เดินจูงมือคนรักนำไปทันที หญิงสาวมองตามด้วยความรู้สึกน้อยใจ ประโยคที่เขาเอ่ยบอกเธอเมื่อครู่ชัดเจนจนไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่ม ขาเรียวจึงเดินตามไปอย่างไม่รีรอเพียงเวลาไม่นานมือเล็กก็เต็มไปด้วยข้าวของมากมายจนล้นมือ เธอรู้สึกว่าของมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่คนรักของเขาก็ไม่ได้ซื้อของเพิ่ม นั่นอาจเป็นเพราะว่าแขนของเธอเริ่มล้าตามกาลเวลา ดวงตากลมมองร่างสูงของสามีทางพฤตินัยอย่างเว้าวอน หวังไว้ว่าเขาจะมีน้ำใจช่วยเหลือเธอสักนิด แต่เปล่าเลย...เปล่าประโยชน์ เพราะเขาไม่ได้เ
ครืด~ ครืด~~เสียงเรียกเข้าของมือถือรุ่นทั่วไปดังขึ้นเรียกความสนใจจากหญิงสาวได้เป็นอย่างดี เธอหยิบมือถือขึ้นมาดูพบว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นนักก่อนจะกดรับสาย“สวัสดีค่ะ” เสียงใสกรอกไปตามสายอย่างใจเย็น(อยู่ไหน?)“คุณอลันเหรอคะ?”(ใช่ ถามว่าอยู่ไหน?)“อยู่ที่มหาลัยค่ะ”(เย็นนี้ไปห้างกับฉัน)“เย็นนี้เหรอคะ?” เธอทวนคำของเขาเสียงสูง(ใช่ ทำไม?)“ปะ...เปล่า ๆ ค่ะ”(เดี๋ยวฉันไปรับตอนสี่โมงเย็น)“ค่ะ”เขาก็ตัดสายทิ้งไปแล้วจริง ๆ เธอมีนัดฉลองกับโนอาห์รุ่นพี่คนสนิท แต่เธอก็ไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธบุคคลสำคัญอย่างคุณอลัน ตัวเธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรเธอถึงไปกลัวเขามากขนาดนี้“เฮ้อ...” พลอยไพลินถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ“พลอย”“พี่โนอาห์ มานั่งก่อนสิคะ”“เป็นไรหรือเปล่า? ทำไมหน้าดูซีด ๆ”“เปล่าหรอกค่ะ”“พลอย...นี่อาจารย์รวงข้าว” ร่างสูงนั่งลงโดยไม่ลืมแนะนำผู้หญิงอีกคนที่มากับเขาให้เธอรู้จักด้วย“สวัสดีค่ะคุณรวงข้าว” หญิงสาวทักทายเสียงหวาน“สวัสดีค่ะ เอ่อ...เรียกข้าวเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” หล่อนยิ้มเต็มใบหน้าจนตาหยี“ข้าว...นี่พลอยไพลินนะ”“เรียกว่าพลอยอย่างเดียวก็พอค่ะ”“ไม่ต้องเกร็งนะพลอย เราน่าจะรุ่น
ร่างสูงเคลื่อนตัวมาใกล้ร่างเล็กเรื่อย ๆ จนเธอต้องถอยหนีพลางหลับตาปี๋ไปด้วย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนเกิดเสียงดังไปถึงหูของเขา อลันกระตุกยิ้มเบา ๆ ก่อนจะถอยหลังห่างออกไปเมื่อรู้สึกว่าเขาห่างออกไปแล้วเธอจึงลืมตาขึ้นช้า ๆ ก่อนจะจัดระเบียบตัวเองให้เข้าที่ ใบหน้าสวยก้มลงต่ำพลางเหลือบมองนาฬิกาข้อมือพบว่าเลยเวลาหกโมงครึ่งมาแล้ว พลอยไพลินลอบถอนหายใจออกมา เบา ๆ เมื่อรู้ว่าตัวเองไปทำงานสายอีกแล้ว“ออกไปได้แล้ว” เขาพูดเสียงเรียบหญิงสาวเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ หรือเขาแค่ต้องการแกล้งเธอเท่านั้น หากเป็นอย่างที่เธอคิดเขาคงเป็นบุคคลที่ใจร้ายมาก ๆ อย่างที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อนขาเรียวก้าวออกมาจากห้องช้า ๆ เพราะกลัวเสียมารยาท แต่เมื่อพบพ้นอาณาเขตของเขาแล้วเธอจึงรีบวิ่งทันที แม้จะรู้อยู่แล้วว่าต้องสายแต่คงจะดีกว่าหากไม่สายมาก“พลอย จะรีบวิ่งไปไหน เดี๋ยวก็ล้มหรอก” มารดาของเธอเอ่ยทัก“คือ...พลอยสายมากแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ คุณลุงสวัสดีค่ะ คุณแม่คะ พลอยไปนะคะ” เธอเอ่ยอย่างร้อนรน“ไปไงล่ะหนูพลอย?”“รถโดยสารค่ะ”“พลอยลูก ตั้งสติก่อน เดี๋ยววันนี้ขอให้ลุงสมหมายไปส่ง มากินข้าวมา” มารดาของเธอปรามเมื่อเห็นท่าทีของ
เช้าวันใหม่อากาศสดใสรับฤดูใบไม้ผลิ หากแต่จิตใจของหญิงสาวไม่ได้สดใสไปด้วยเลยแม้แต่น้อย วันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ที่เธอต้องรีบตื่นเช้ากว่าปกติเพราะเธอขยับที่ทำงานไปไกลและเส้นทางลำบากกว่าเดิม พลอยไพลินตื่นในเวลาตีสามครึ่ง ทั้งที่พึ่งได้นอนไปตอนตีหนึ่งกว่าเพราะถูกรบกวนจากลูกชายเจ้าของบ้านเธอจัดการเก็บพับที่นอนให้เข้าที่ก่อนจะเดินไปอาบน้ำชำระร่างกาย ความอ่อนเพลียบวกกับการพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นเหตุให้เธอเซถลาไปตามทางระหว่างเดินไปเข้าห้องน้ำ หญิงสาวหยุดนิ่งพร้อมกับหายใจเข้าปอดลึกเพื่อตั้งสติมือเรียวยกขึ้นอังหน้าผากเมื่อรู้สึกถึงอาการที่ไม่ค่อยดีนัก ไอร้อนที่แผ่ทั่วร่างกายทำให้เธอไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าเธอป่วยหรือเปล่า แต่มีเวลาคิดไม่นานนักเธอจำเป็นต้องรีบไปอาบน้ำเพราะหากช้ากว่านี้อาจทำให้เข้างานสายได้ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลังจากพลอยไพลินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ขาเรียวก้าวไวไปเปิดประตูเพราะกลัวคนมาใหม่จะรอนานแม้จะไม่รู้ว่าเป็นใครก็ตาม บานประตูเปิดออกเผยให้เห็นผู้เป็นแม่ทำให้เธอโล่งใจขึ้น“เสร็จแล้วเหรอลูก เพิ่งจะตีห้าเองนะทำไมตื่นไวจัง?”“ค่ะ พลอยกลัวไปทำงานสายน่ะค่ะ”“มา...แม่ทำผมให้”