ความจริงทั้งหมดรถขับเข้ามาถึงเพียงหน้าหมู่บ้านในเวลาตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว หญิงสาวที่มองเห็นแค่ป้ายชื่อหน้าหน้าหมู่บ้าน น้ำตาก็ไหลออกมาอีกทันทีร่างสูงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นั้น ละทิ้งทุกอย่างที่ทำไว้ทันที เอื้อมมือขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน และลูบศีรษะเพื่อปลอบประโลมเธอ“เอยยังมีพี่ มีครอบครัวของพี่อยู่นะ พี่จะอยู่กับเอยกับลูกนะครับ” เสียงนุ่มเอ่ยบอก พร้อมกับกุมมือของเธอเอาไว้ เพื่อเป็นคำมั่นสัญญา“...” หญิงสาวไม่เอ่ยตอบกลับใด ๆ แต่กลับร้องไห้ออกมาอย่างหนักกว่าเดิม“ไปหาแม่อรกันนะ เข้มแข็งนะครับคนดีของดีของพี่ แม่อรท่านไปสบายแล้ว” มือหนาเช็ดน้ำตาให้เธอ แล้วจึงพากันลงจากรถ เมื่อรถมาจอดที่บ้านของเธอแล้ว และตอนนี้ก็มีผู้คนมากมายช่วยกันจัดเตรียมทุกอย่างให้เป็นอย่างดี“เอื้อย...พี่เพชร” (พี่...พี่เพชร) ออมสินเห็นทั้งสองคนลงมาจากรถ ก็รีบวิ่งเข้าไปสวมกอดพี่สาวทันที“เบา ๆ หน่อยออมสินพี่เอยท้องอยู่ มากอดพี่แทนก็ได้” พงศกรเอ่ยบอก เพราะน้องชายที่ยังไม่รู้อะไร พุ่งเข้ามาสวมกอดพี่สาวอย่างแรง จนเธอเกือบจะเซล้ม ดีที่มีร่างสูงของพงศกรคอยประคองกอดเอวเธอเอาไว้“ไม่เอาหรอก”“ไปไหว้แม่อรกันนะ” เส
สูญเสีย“หนูเอย...” นิษฐาที่เข้ามาถึงภายในบ้าน เรียกหญิงสาวขึ้นมาทันที และรีบเข้าไปดูหญิงสาวที่หลับสนิทอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก“แม่...ไอ้นัย” พงศกรหันไปมองตามเสียงคนที่พึ่งจะเดินเข้ามาภายในบ้าน“น้องเป็นอะไร...โทรตามหมอหรือยัง” นิษฐาถามลูกชายออกไปทันที เพราะรู้สึกเป็นกังวลที่เห็นเธอเป็นแบบนี้“...” พงศกรเอาแต่ส่ายหน้ารับ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นไรต่อ และก็ไม่รู้ด้วยว่าอาการของหญิงสาวเป็นคืออะไร เอาแต่นั่งลงกุมมือที่เย็นเฉียบของเธอไว้แน่นไม่ยอมห่าง“ตาเพชรไปเอาผ้าชุบน้ำมา ตานัยโทรตามหมอณัฐให้อาด่วนเลย และโทรบอกคนในบ้านให้รีบกลับกันเข้ามาด้วย” นิษฐาหันไปสั่งทางลูกชาย และเพื่อนของลูกชายด้วย“มาแล้วครับคุณแม่” พงศกรเดินถือกะละมังใส่น้ำพร้อมกับผ้าผืนเล็กกลับมาที่เดิม“เช็ดหน้าให้น้อง เอายาดมให้น้องดมด้วย แม่จะโทรบอกคุณพ่อกับน้อง ๆ ก่อน” นิษฐาเอ่ยบอกลูกชายอย่างใจเย็น และเดินออกไปโทรศัพท์หาสามีและลูกของเธอให้รีบกลับบ้านกันโดยด่วนพงศกรทำตามที่แม่บอกเอาไว้ทุกอย่าง อย่างตั้งใจบรรจงเช็ดหน้าให้เธออย่างเบามือที่สุด เพราะไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อน“แม่...” เสียงเอ่ยเรียกแม่ออกมาอย่างแผ่วเบาจากหญิง
เรื่องที่ไม่คาดคิดบ้านเรืองพาณิชยากุล“กลับมากันแล้วหรือคะ...” เสียงนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อพบว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นคือใคร“อะ เอย!” พงศกรอ้าปากค้างทันที ที่หันมาพบว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใครร่างสูงเมื่อตั้งสติได้ รีบรวบรวมความกล้า ขยับตัวเข้าไปใกล้หญิงสาวทันที หมายจะเข้าไปสวมกอดเธออย่างแสนคิดถึง“ออกไป” หญิงสาวเอ่ยปากไล่เสียงดังขึ้นมาทันที“เอย คุยกันก่อนครับที่รัก” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้น และพยายามจะเข้าไปใกล้ ๆ เธออีกครั้ง“อย่ามาเรียกฉันแบบนี้” หญิงสาวสั่งห้าม พร้อมกับพยายามที่จะถอยหนี เมื่อร่างสูงจะเข้ามาใกล้เธอ“เอย” ร่างสูงรวบรวมความกล้า ย่างก้าวเข้าหาอีกครั้งอย่างช้าๆ“บอกให้ออกไปยังไงละ ไม่ได้ยินเหรอไง” เสียงตวาดดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง“จะให้พี่ออกไปไหนละ ก็นี้มันบ้านพี่นะ” พงศกรเอ่ยขึ้นบอกทันทีเพราะเขาเข้าใจเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ของแม่และเพื่อนเขาทันที ที่พยายามจะสื่ออะไร ที่แท้ก็อยากให้เขามาปรับความเข้าใจกันนี้เอง ไอ้เพื่อนนัยปิดบังกันสะนานเลยนะ“...” ปรียาภัทรนิ่งเงียบทันที“ที่นี่คือบ้านคุณพ่อคุณแม่พี่เอง พ่อพงษ์แม่นิษ” พงศกรเอ่ยบอกความจร
เจอหน้ากันอีกครั้งหนึ่งเดือนต่อมาปรียาภัทรยังคงอยู่ที่บ้านเรืองพาณิชยากุลเช่นเคย เพราะนิษฐาขอเอาไว้ ไม่ให้หญิงสาวไปไหนเพราะกำลังท้องอยู่ หากหญิงสาวไม่มีใคร เธอพร้อมที่จะรับหญิงสาวมาเป็นบุตรบุญธรรมอีกคน และตอนนี้อาการแพ้ท้องของเธอก็หนักเอาการ แถมจะรุนแรงขึ้นอีกเสียด้วยนิษฐาเลยขอให้เธออยู่ที่นี่ไปก่อน จนกว่าอาการแพ้ท้องจะหายดี เพราะทั้งสภาพร่างกายและจิตใจตอนนี้ของเธอ ช่างน่าเป็นห่วงเสียเหลือเกิน ทานอะไรก็ไม่ได้ นอกจากผลไม้เปรี้ยว ๆ เธอไม่อยากพบปะหน้ากับผู้คน นิษฐาจะพาไปโรงพยาบาลเพราะสงสาร แต่ปรียาภัทรก็ไม่ยอมไปเลยนิษฐาจึงให้หมอเข้ามาตรวจ และดูอาการของเธอที่บ้านแทน โดยให้นายแพทย์ณัฐพงษ์เป็นจัดแจงหาหมอและยาที่ดีที่สุดมาให้ส่วนเจ้าลูกชายตัวดีก็หายหัวไป ไม่ยอมติดต่อใครกลับมาเลย ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง แถมงานที่บริษัทก็ไม่ยอมเข้าไปทำเลย ทุกวันนี้จึงเป็นหน้าที่ของพัฒน์พงษ์เข้าไปบริหารแทน และให้ลูกชายคนเล็กอย่างพจีพัฒน์กับลูกสะใภ้อย่างพีรดาไปช่วยดูงาน เพราะไม่อยากให้ลูกคนเล็กทราบเรื่องนี้ ส่วนลูกคนเล็กไม่ต้องพูดถึงเลย ติดเที่ยวติดเพื่อน ปาร์ตี้ไปวัน ๆ สักวันเธอจะหาคนมาควบคุมความประพฤติ“ต
ความบังเอิญ ที่ถูกลิขิตไว้บ้านเรืองพาณิชยากุล“ลัดดาทำความสะอาดห้องเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” นิษฐาถามแม่บ้านคนสนิทขึ้นมาทันที เมื่อเข้ามาถึงภายในบ้าน เพราะได้สั่งการไว้ตั้งแต่ที่อยู่โรงพยาบาลแล้ว“เรียบร้อยแล้วคะคุณนาย”“อื้ม...ขอบใจมาก พากันไปพักผ่อนเถอะ” นิษฐาพยักหน้ารับ และเอ่ยบอกให้ทุกคนไปพักผ่อนทันที เพราะนี่เวลาก็ล่วงเลยมาจนเข้าสู่วันใหม่แล้ว“ป่ะหนูเอยขึ้นไปพักผ่อนกันนะ” นิษฐาหันมาบอกหญิงสาวที่พาเข้ามาด้วย“ที่พักคนสวนหรือแม่บ้านว่างไหมคะ หนูนอนที่นั่นก็ได้” ปรียาภัทรแย้งขึ้นมาทันที เพราะรู้สึกเกรงใจเจ้าของบ้าน“ไปนอนห้องรับแขกดีกว่าจ๊ะ คนท้องต้องนอนที่สบายนะ จะได้นอนเต็มอิ่ม” นิษฐาพยายามยกเหตุผลขึ้นมาอ้าง“ไปเถอะหนูเอยไม่ต้องเกรงใจนะ ลูกบ้านนี้เขาไม่ค่อยอยู่บ้านกันหรอก” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงลังเล พัฒน์พงษ์ที่เดินเข้ามาตามหลัง จึงช่วยพูดอีกทีหญิงสาวจึงต้องเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะปฏิเสธไปก็ถือว่าไม่ให้เกียรติพวกท่าน แถมเธอก็ไม่มีที่ไปอีก เอาไว้ฟ้าสว่างหรือเช้ากว่านี้ค่อยหาทางก็แล้วกันนะ“หนูเอยนอนห้องนี้นะ เสื้อผ้าของใช้ในห้อง หนูใช้ได้เต็มที่เลยนะ คิดเสีย
หายไปคอนโดมิเนียม(พงศกร)“กว่าจะยอมให้กูมาหาที่คอนโดได้ ก็ตอนที่เมียหนีหายไปแล้ว เป็นไงละปากเก่งดีนัก สุดท้ายก็ลำบากกูอีก” อัศนัยโพล้งขึ้นมาทันที ที่ได้เข้ามาภายในคอนโดฯของเพื่อนเป็นครั้งแรก“...มึงอยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะ กูไม่มีอารมณ์จะมาเถียงกับมึงแล้ว เมียกูหายไปทั้งคน” พงศกรเดินไปทิ้งตัวลงกับโซฟาอย่างคนหมดแรงทันทีอัศนัยได้ภาพมาจากทางร้าน และมาเปิดให้พงศกรไล่ดูเหตุการณ์ตามเวลาที่เกิดเรื่อง ทั้งคู่ตั้งใจนั่งอยู่ดูภาพจากกล้องวงจนปิดอยู่นานก็นานกลับไม่พบเส้นทางที่หญิงสาวไปเลย เพราะภาพจับได้เพียงแค่บริเวณรอบๆ ร้าน“หายไปแบบไร้ร่องรอย...เฮ้อ แล้วมึงจะเอายังไงต่อวะ” อัศนัยส่ายหน้าทันที เมื่อดูภาพเหตุการณ์ทั้งหมดจบ แล้วหันมาถามคนข้าง ๆ“พรุ่งนี้จะไปตามหา เริ่มจากเพื่อนเธอก่อน ถ้าไม่เจอจะกลับไปตามที่บ้านเผื่อเธอหนีกลับไปที่บ้าน” พงศกรเอ่ยขึ้นบอก ตามความคิดที่เขาคิดเอาไว้“กูว่าน้องเขาไม่กลับไปบ้านหรอกว่ะ” อัศนัยพูดออกมาอย่างมั่นใจ“...” พงศกรหันไปมองหน้า แต่ไม่พูดอะไรเสียงโทรศัพท์ของพงศกรดังขึ้นมาอยู่หลายสาย และก็ตัดไปเอง เพราะเขาไม่ยอมรับสาย อัศนัยจึงหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นพ่อของพ.ศกรน