Share

บทที่ 69

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-09-14 15:22:53

ซู่ซินหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยิน

"แต่คุณหนูเจ้าขา จวิ้นหวังจ๋างจื่อของพวกเรา...เอ้อ...ข้าหมายถึงของคุณหนูเจ้าค่ะ”

“พี่ซู่ซิน!”

ซู่ซินกระแอมไอ กลั้นยิ้ม

“คุณหนูเจ้าขา...จนป่านนี้แล้วท่านยังไม่รู้ใจจวิ้นหวังจ๋างจื่ออีกหรือเจ้าคะ นับตั้งแต่กลับเมืองหลวงมา จวิ้นหวังจ๋างจื่อก็สารพัดจะหาข้ออ้างแวะเวียนมาหาท่านไม่ได้หยุด หากท่านไม่ออกเรือน จวิ้นหวังจ๋างจื่อที่ไหนจะยอมรามือ เช่นนี้แล้วคุณหนูจะปล่อยให้จวิ้นหวังจ๋างจื่อคอยตามติดท่านไปอีกกี่ปี?"

เซียงหรงตอบอย่างจริงจัง “อืม...สักสี่สิบปีกระมัง”

ไม่แน่ว่าพอเข้าปีที่สาม จิตใจเขาอาจเปลี่ยนผัน หันไปชอบพอผู้อื่นแล้วก็เป็นได้!

“จวิ้นหวังจ๋างจื่อประกาศต่อหน้าไท่โฮ่ว หวงโฮ่ว และผู้คนมากมายชัดเจนถึงเพียงนั้น คงไม่ยอมรามือจากคุณหนู ซ้ำคงไม่ยอมรอนานถึงเพียงนั้นหรอกเจ้าค่ะ”

เซียงหรงนิ่งงันไปชั่วขณะ ก่อนจะตอบเสียงเบา "ไม่รามือแล้วอย่างไร หากข้าหนีไปบวชชี ต่อให้เป็นจวิ้นหวังจ๋างจื่อก็คงทำอะไรไม่ได้แล้วกระมัง..."

“ท่านว่าเขาจะปล่อยให้ท่านไปบวชชีได้ง่ายๆ หรือเจ้าคะ” ซู่ซินถึงกับกลั้นหัวเราะไม่ไหว “พนันกันได้เลยว่าต่อให้คุณหนูของข้าปลงผมบวชชี จวิ้นหวังจ๋างจื่อก็ต้องหาทางสึกท่านออกมาแต่งให้เขาจนได้!”

“หากข้าปลงผมบวชชีจริง ถึงตอนนั้นจะยังมีความงามอันใดอีก”

“จวิ้นหวังจ๋างจื่ออาจไม่ได้ปักใจต่อท่านเพียงเพราะความงามอย่างเดียวน่ะสิเจ้าคะ” ซู่ซินแย้มยิ้มอ่อนหวาน ขณะเริ่มนวดแขนให้คุณหนูคนงามของตน “กระนั้นก็เถอะ ต่อให้ไม่มีผม คุณหนูของพวกเราที่ไหนจะงดงามน้อยลง”

เซียงหรงส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอก่อนจะถอนหายใจ นางอยากคัดค้าน อยากปฏิเสธสิ่งที่พี่ซู่ซินของนางพูด แต่เมื่อหวนคิดถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหลี่จือหลินและพฤติกรรมทั้งหมดทั้งมวลของเขา นางก็อดคิดไม่ได้ว่าการหมั้นหมายครั้งนี้อาจเป็นกับดักที่ไม่มีวันหลุดพ้น

นี่ตกลงแล้วคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่นะที่แน่ๆ ตอนนี้นางเริ่มจะรู้สึกว่าความสงบในชีวิตนางค่อยๆ ลดน้อยถอยลงทุกทีแล้ว

บรรยากาศยามสายในจวนเฉินกั๋วกงมีแสงแดดอบอุ่นลอดผ่านใบไม้ ส่องลงมาบนลานหินขัดที่ถูกจัดแต่งไว้อย่างงดงาม เซียงหรงนั่งอยู่ที่ศาลาเล็กกลางสวน มือหนึ่งถือพู่กัน อีกมือวางอยู่บนโต๊ะ ซู่ซินยืนอยู่ด้านข้างกำลังฝนหมึกให้นางอย่างตั้งใจ

แต่ก่อนที่โฉมสคราญจะเขียนตัวอักษรลงไป เสียงหัวเราะเบา ๆ ที่ฟังดูราวกับอารมณ์ดีเกินกว่าจะไว้ใจได้พลันดังขึ้นข้างหลัง

"น้องหญิงกำลังทำอะไรหรือ?"

เซียงหรงสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบวางพู่กันและหันไปมอง ก็พบกับร่างสูงในชุดลำลองเรียบง่าย แต่ท่วงท่ากลับดูสง่างามของหลี่จือหลินที่ยืนพิงเสาอยู่ ใบหน้าประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อันเป็นเอกลักษณ์

นางกลอกตา พยายามวางท่าเคร่งขรึม

"ท่านมาที่นี่อีกแล้วหรือ?" นางถามเสียงแข็ง พลางขยับตัวห่างออกไป

"อีกแล้วหรืออะไรกัน" สีหน้าแววตาเขาโศกสลดลงทันตา "หรงเอ๋อร์ นี่เจ้าไม่ยินดีที่เห็นพี่ชายเช่นนั้นหรือ..."

"แล้วผู้ใดพูดว่ายินดีตั้งแต่แรก” นางไม่หลงกลท่าทีเช่นนี้หรอก! “แล้วก็อย่ามาเรียกข้าว่าหรงเอ๋อร์ด้วย ข้าไม่เคยอนุญาตให้ท่านเรียก!"

หลี่จือหลินหัวเราะเบาๆ เขาหยิบกล่องของขวัญขนาดเล็กออกจากแขนเสื้อ ยื่นให้คนงาม "ของขวัญสำหรับคู่หมั้นของข้า"

เซียงหรงมองกล่องนั้นอย่างระแวง แต่ด้วยมารยาท นางก็ยื่นมือออกไปรับ นิ้วมือเรียวยาวของเขาแตะถูกหลังมือนางแผ่วเบา ทำให้เซียงหรงขนลุกซู่

“อ๊ะ!”

นางเกือบสะบัดกล่องนั้นลงด้วยความตกใจ ทว่าชายหนุ่มผู้นี้กลับรวดเร็วกว่านาง เขาคว้าทั้งกล่องเอาไว้ ทั้งยังกุมมือนางไว้แนบแน่น ทาบทับเหนือกล่องนั้น

“ระวังหน่อย...กล่องนี้บอบบาง แตกหักง่ายนัก”

เซียงหรงริมฝีปากสั่นระริก “ทะ...ท่านปล่อยมือข้าสิ!”

"อ้อ...จริงด้วย ข้าลืมไป…ขออภัย” หลี่จือหลินยิ้มกว้าง “กระนั้นก็เถอะ...มือของเจ้าช่างนุ่มนิ่มนวลเนียนดีจริงๆ" เขากล่าวพลางลูบหลังมือนางเบาๆ ราวกับต้องการจดจำว่าผิวเนื้อตรงนั้นนุ่มเนียนละเอียดวิเศษเลิศล้ำเพียงใด “อืม...ผิวสัมผัสช่างดีนัก”

"ปล่อย!" เซียงหรงสะบัดมือหนี หน้าแดงจัดด้วยความโกรธผสมอับอาย "ท่านนี่มัน...” นางพยายามเค้นสมองนึกคำตำหนิที่เจ็บแสบและตรงประเด็นที่สุด “ท่านช่าง...”

“ข้าช่าง?”

“ช่างไร้ยางอายจริงๆ!" นี่เป็นคำพูดที่ไร้มารยาทและรุนแรงที่สุดเท่าที่นางจะนึกได้แล้ว

"ข้าจะไร้ยางอายได้อย่างไร?" หลี่จือหลินทำหน้าซื่อตาใส "ข้าก็เพียงอยากยืนยันว่าเจ้าดูแลตัวเองดีหรือไม่เท่านั้น หากคู่หมั้นของข้ามือลอกเป็นขุย ผู้คนจะกล่าวกันอย่างไร? พวกเขาจะไม่ตำหนิว่าข้าดูแลเจ้าไม่ดีพอหรอกหรือ?”

เซียงหรงอยากจะด่าอีกสักคำ แต่กลับไม่รู้ว่าสมควรด่าอย่างไรแล้ว

"ท่าน...ไปให้พ้นเลย!" นางหยิบพู่กันขึ้นมาข่มขู่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 111

    ตลอดการเดินทางไปยังหมู่บ้านว่อหลงที่มีซู่ซินรออยู่ หลี่จือหลินซื้อรถม้าคันหนึ่งให้นางนั่งอยู่ด้านใน ส่วนตัวเขาขับรถม้าด้านนอก เขาให้เหตุผลว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนั่นก็จริงอยู่นับตั้งแต่มีรถม้า นางก็ไม่เคยต้องนอนบนพื้นหินพื้นหญ้าให้เจ็บหลังปวดเอว หรือคันเนื้อคันตัวเหมือนก่อนหน้านี้หลังจากที่เปิดเผยตัวตนแล้ว หลี่จือหลินปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่ง ไม่ว่านางอยากกินอยากดื่มอะไร เมื่อผ่านเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ก็จะหาซื้อให้นางทุกอย่าง หากเป็นกลางป่ากลางเขา ไม่ว่าจะจับสัตว์ใดได้เขาก็จะแบ่งเนื้อส่วนที่ดีที่สุดให้นาง ปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องเทศต่างๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อให้นางเจริญอาหารยิ่งขึ้น ทั้งยังบ่นพึมพำทุกคืนว่านางผอมลงไม่น้อย ไม่เต็มไม้เต็มมือ...น่าเกลียดที่สุด ปากบอกว่านางผอมเกินไป แต่ใครกันที่คอยจับนางกินทุกคืน!คนเจ้าเล่ห์พรรค์นั้นตั้งใจทำให้นางได้พักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางวันเพื่อรับใช้เขาในเวลากลางคืนชัดๆ!แม้จะรู้เช่นนั้น แต่เซียงหรงก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอ้อมกอดนั้นได้เลยเวลากลางคืนช่างหนาวเหน็บนัก แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 110

    “ตอนที่เจ้ายังเป็นทารก ข้าจำได้ ในตอนนั้นข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต...คำพูดประโยคนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและคำสาบานแรกในชีวิตข้า” หลี่จือหลินพูดพร้อมกับยิ้มจางๆ “ในเทศกาลหยวนเซียวคืนนั้น ตอนที่ข้าซื้อถังหูลู่ให้เจ้า เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มที่เจ้ามอบให้ข้ายามนั้นทั้งงดงามอ่อนโยนและหวานล้ำเพียงใด เพราะจดจำภาพนั้นได้ ข้าจึงไม่เคยยอมแพ้ในสงคราม ทุกครั้งที่เพลี้ยงพล้ำ ข้ามักคิดเสมอว่าจะต้องได้กลับมาเจอเจ้าเพื่อทำตามคำสัญญาสาบานและจะต้องปกป้องรอยยิ้มที่บริสุทธิ์งดงามเช่นนั้นเอาไว้ให้ได้ หรงเอ๋อร์ ข้าออกศึกมากมาย แม้กึ่งหนึ่งเพื่อบ้านเมือง แต่อีกกึ่งหนึ่งล้วนเป็นเพราะแผ่นดินเทียนจินคือบ้านของเจ้า เพราะที่แห่งนี้มีคนที่ข้าต้องการปกป้องเอาไว้อย่างเจ้าอยู่ข้างหลัง”เซียงหรงได้แต่จ้องเขาด้วยความงุนงง นางไม่เคยจำเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย แต่เขากลับเล่าได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้ง…เรื่องสาเหตุที่เขาออกรบและไม่เคยยอมแพ้จนมีชีวิตรอดกลับมาก็ช่าง…เขายังกล่าวต่อไป “หลายปีผ่านไป ข้าคิดว่าเจ้าอาจลืมข้าไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่เคยล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 109

    หลี่จือหลินไม่อยากให้นางตั้งกำแพงในใจอีก ไม่ว่าอย่างไรเขากับนางก็ลงเอยกันไปแล้ว ไม่ว่านางจะยินดีแต่งให้เขาหรือไม่ นางก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วอยู่ดี…ทว่าเขาเองก็ยังอยากให้นางแต่งให้เขาด้วยความยินดี ไม่ใช่ด้วยความไม่เต็มใจเช่นนั้นเขาค่อยๆ ปัดปอยผมที่ล้อมกรอบหน้านางออก บีบนวดเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยจากการร่วมรักเมื่อคืนพลางพูดเบาๆ เมื่อรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยากหนีข้าไปให้ไกลแค่ไหนก็ตาม” หลี่จือหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาคู่คมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเซียงหรงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“จะยังมีอะไรได้ นอกจากความดื้อด้านอยากเอาชนะคะคานของท่าน” นางตอบเสียงแข็ง ลุกขึ้นนั่งหันหน้าหนีราวกับไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีกแต่หลี่จือหลินไม่ได้โกรธ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างนาง แววตาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ไม่รู้เจ้ายังจำถังหูลู่ในเทศกาลหยวนเซียวได้หรือไม่”เซียงหรงขมวดคิ้วทั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 108

    “หรงเอ๋อร์…ชายหญิงร่วมเตียง จะเป็นอันใดกันได้ นอกจากสามีภรรยา” เขาพูดเสียงนุ่ม “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าหากเฉินกั๋วกงได้ทราบ เขาจะไม่บังคับให้เจ้าแต่งงานจริงหรือ ต่อให้เป็นคุณชายใหญ่จวนเจ้าที่เจ้าคิดว่าจะเข้าข้างเจ้าแน่ๆ หากเป็นเรื่องนี้...เชื่อเถิดว่าเขาเองก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้ายอมแต่งให้ข้าเช่นกัน”คนฟังหน้าซีดเผือดลงทุกขณะ ยิ่งเมื่อเอ่ยถึงว่าเขาจะบอกบิดาและพี่ชายนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซียงหรงก็ยิ่งรู้สึกราวกับถูกหลอกขึ้นมาทันทีไม่หรอก...ไม่ได้รู้สึก...นางถูกหลอกจริงๆ นั่นล่ะ!ใบหน้าหวานล้ำเผือดซีด ความเจ็บปวดตรงกึ่งกลางกายราวกับจะส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันความโง่เขลาของนางนางวิ่งวนอ้อมไปทั่ว แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิมราวกับตัวตลก ราวกับสัตว์ที่ติดในกรง ต่อให้นางจะวิ่งไปข้างหน้าเช่นไร ก็มีเพียงกับดักที่รออยู่เท่านั้น“หากเจอท่านกั๋วกงแล้ว ข้าจะรีบปรึกษาว่าเราจะเร่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ยังต้องหาฤกษ์ยาม ต้องดูก่อนว่าท่านพ่อตาต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ อ้อ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 107

    ยามรุ่งอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลอดเข้ามาผ่านปากถ้ำ เสียงนกร้องแว่วดังจากบนยอดไม้ ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ภายในถ้ำเล็กๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะทุอยู่ในใจคนทั้งสองเฉินเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นแปลบไปทั้งร่างเพียงนางขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บและเมื่อยล้าเนื้อตัว รวมถึงความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้นางข่มความเจ็บใจเอาไว้แทบไม่ไหว น้ำตาพลันเอ่อคลอเบ้าอีกครั้งหลี่จือหลินที่นอนตะแคงร่างหันหน้าเข้าหานางกลับอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยความสำนึกผิด แววตาของเขาดูหม่นแสงราวกับแบกรับทุกความผิดบาปบนโลกนี้ไว้ "เจ้าเจ็บมากหรือไม่?" เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเซียงหรงเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขาอีกแม้แต่น้อยนางกัดริมฝีปากแน่น พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แต่เพียงแค่ขยับตัวเพียงนิด กลางกายที่ยังคงทั้งบวมทั้งแดงก็ส่งความเจ็บปวดจนต้องทรุดฮวบลงไปอีกครั้งหลี่จือหลินรีบประคองนางไว้ เขากุมมือนางเบาๆ แต่เซียงหรงกลับสะบั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 106

    หลี่จือหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว ปล่อยนางให้เป็นอิสระ รู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่อก…พอเดาได้ว่ารอยกระบี่ฟันซึ่งได้จากการร่วมต่อสู้กับกลุ่มนักฆ่าที่หานชิงเยว่ส่งมาสังหาร ‘ตงหลิน’ องครักษ์ที่เขาวางตัวให้คอยติดตามคุ้มกัน เฉินเซียงหรงในที่แจ้ง ปริแยกเพราะแรงผลักของนางเมื่อครู่“เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เฉินเซียงหรง” เสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “สำหรับข้า สัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ใช่และไม่มีทางเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัดความสัมพันธ์ แต่เป็นสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อให้เราสองคนผูกพันกันตลอดไป”เซียงหรงบอกอย่างปลดปลง “ท่านต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เรื่องนั้นก็ช่างเถอะ สำหรับข้า ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน หากท่านเพียงอยากได้ร่างกาย ท่านก็เอามันไปเถิด”ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน...อย่างนั้นหรือ?เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ต่อให้ต้องพลีกายให้ชายอื่น นางก็ไม่สนใจแม้จะต้องขึ้นเตียงกับเขา นางก็ยังดื้อด้านไม่ยอมแต่ง!หลี่จือหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status