วัชรมัยเคยทิ้งไผท ทิ้งลูก แล้ววันนี้กลับมาร้องขอความเป็นแม่อีกครั้ง ไผทจะไม่มีวันให้อภัย!
View More“พ่อ...แม่ปราบเมื่อไรจะทำหน้าที่นางฟ้าเสร็จฮะ”
ในรถเอสยูวีคันโตเกิดอุณหภูมิลดฮวบกะทันหัน วิเชียรที่นั่งข้างคนขับเหลือบตาดูเด็กชายผู้นั่งคนเดียวที่เบาะหลัง สลับกับเจ้านายผู้นั่งหลังพวงมาลัย เห็นแล้ว มือกำพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
“ปราบอยากเจอแม่”
เจ้าตัวน้อยอมลมจนแก้มพอง
“ทุกคนมีหน้าหน้าที่ต้องทำ แม่...ก็มีหน้าที่ของเขา”
ผู้เป็นพ่อตอบเสียงต่ำ ๆ ตามองไปยังถนน ทว่าร่างใหญ่โตแผ่รังสีอึมครึมชวนอึดอัดออกมา
วิเชียรกลืนน้ำลายลงคอดังอึก เมื่อเรื่องต้องห้ามถูกเอ่ยออกจากผู้เป็นนายน้อยของบ้าน
“พ่อช่วยบอกแม่ทำงานเสร็จเร็ว ๆ ได้ไหมฮะ ปราบคิดถึง”
บรรยากาศน่าจะเศร้ากว่านี้ ถ้าคนนั่งเบาะหลังจะไม่พูดเสร็จแล้วล้วงมือหยิบโดนัทเคลือบช็อกโกแลตจากถุงออกมาเคี้ยวหงุบ ๆ หงับ ๆ
“อืม...”
ไผทรับคำ เมื่อเห็นความสนใจของเด็กชายเบี่ยงเบนไปที่ของกิน บรรยากาศกดดันค่อยผ่อนคลายลงมาหน่อย ลูกน้องอย่างวิเชียรถึงกับเป่าปากโล่งอกไปด้วย
“เกลไม่ชอบกินบร็อคโคลี่”
สกลกันต์กินขนมพร้อมเล่าเรื่องในโรงเรียนไปเรื่อย เหมือนทุก ๆ วันยามผู้เป็นบิดาขับรถมารับจากโรงเรียนอนุบาล
“อืม...”
ไผทตอบรับลูก แสดงความเอาใจใส่ เรื่องพวกนี้เขาอ่านมามากแล้วจากหนังสือจิตวิทยาการเลี้ยงเด็ก คิดว่าตัวเองรับมือลูกได้ดีประมาณหนึ่ง
“เพราะบร็อคโคลี่ขมไม่อร่อย”
“อืม...”
สงสัยมื้อเย็นเขาต้องสั่งยายพุด แม่ครัวประจำบ้านให้งดทำกับข้าวที่มีส่วนประกอบเป็นเจ้าผักเขียว ๆ นี่สักอาทิตย์
“แต่เกลบอก แม่เกลมีเวทมนตร์ทำให้บร็อคโคลี่อร่อย”
ไผทเหยียบเบรกเอี๊ยด สีแดงขึ้นบนสัญญาณไฟจราจรที่สี่แยกพอดี ในรถอุณหภูมิลดต่ำอีกแล้ว แต่กระนั้นวิเชียรก็มีเหงื่อผุดขึ้นหน้าผาก
“ปราบไม่ชอบมะเขือเทศ แม่เป็นนางฟ้า ต้องมีเวทมนตร์ทำให้มะเขือเทศอร่อยแน่ ๆ เลย ปราบอยากเจอแม่”
ตาคมเข้มที่ได้ต้นแบบมาจากไผทมีไฟลุกโชน แสดงความมุ่งมั่น แต่แก้มกลมยังมีเศษช็อกโกแลตเปื้อนอยู่เลย
“เป็นลูกผู้ชาย อย่าคิดเล็กคิดน้อย เอาชนะผู้หญิงด้วยเรื่องเล็กน้อยแบบนี้สิ”
ผู้เป็นพ่อจับไต๋ได้ คงไม่พ้นโดนเพื่อนขิงมาแน่ ๆ
“ก็เกลบอกว่าคนกินผักได้เท่นี่นา ดีนกินผักได้หมด เกลบอกว่าเท่มาก ปราบกินผักทุกอย่างได้เหมือนกัน”
ผู้ใหญ่สองคนถึงกับอมยิ้ม เมื่อได้ฟังเรื่องว้าวุ่นของวัยรุ่นฟันน้ำนม
“...ยกเว้นมะเขือเทศ มันไม่อร่อยจริง ๆ นะฮะพ่อ แต่ปราบอยากเท่ไง”
โดนัทหมดชิ้น เจ้าตัวขยำถุงที่ใส่เสียเป็นก้อนกลม บ่งบอกความขัดอารมณ์เป็นอย่างมาก
“งั้นเดี๋ยวพ่อจะให้ยายพุดทำเมนูมะเขือเทศเยอะ ๆ ปราบจะได้ฝึกกินไว้”
ไฟเขียวกะพริบขึ้น พร้อมอารมณ์ของไผทที่ดีขึ้นมาก เมื่อหาทางออกของวิกฤติประจำวันกับเจ้าลูกชายตัวดีได้
“อึ๊ย...ยายพุดชอบทำมะเขือเทศผัดไข่เละ ๆ ไม่อร่อย” สกลกันต์เบ้หน้า
“งั้นซุปไก่ใส่มะเขือเทศล่ะ เอาไหม”
วิเชียรเป็นคนพยักหน้าเสียเอง เจ้าซุปนี่บีบมะนาว ใส่น้ำปลา บุบพริกขี้หนูใส่เสียหน่อย มันคือกับแกล้มเหล้าแซ่บ ๆ ดี ๆ นี่เอง นึกถึงแล้วเปรี้ยวปาก
“เช็ดน้ำลายด้วยไอ้เชียร กูถามลูกกู มึงไม่ต้องทำท่าอยากกินขนาดนั้น”
ลูกน้องหัวเราะแหะ ๆ ที่เจ้านายรู้ทัน
“ใส่สปาเกตตีด้วยนะ ปราบชอบ”
“ได้ แวะห้างกันหน่อย จะได้ซื้อของไปให้ยายพุดทำให้”
แม่ครัวถนัดทำอาหารไทย เมนูฝรั่งไผทเคยซื้อหนังสือไปให้เหมือนกัน แต่ยายพุดบอกอ่านไม่รู้เรื่อง จำไม่ได้ว่าอะไรเป็นอะไร
ขนาดมักกะโรนีที่ใส่ในซุปไก่ ยายพุดยังเรียกผิดเป็นสปาเกตตี เลยพลอยทำให้สกลกันต์เรียกผิดไปด้วยจนถึงทุกวันนี้
เมนูฝรั่งที่ลูกชายได้กินมาจากการเห็นในยูทูปบ้าง เห็นเพื่อนกินบ้าง ที่โรงเรียนมีให้กินบ้าง
“ซื้อชีสวัวหัวเราะด้วยนะพ่อ ดีนกับเกลบอกว่าอร่อย”
ไผทผงกศีรษะให้ ก่อนเลี้ยวรถเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าหรูที่สุดในจังหวัด เพื่อซื้อของให้ลูกชายคนเดียวอย่างตามใจ
เหมือนทุกครั้งที่มีประเด็นเรื่องแม่ของเจ้าตัวผุดขึ้นมา
“ไง...แก”
ศรัญญาทักทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวเดินหน้าบานกลับเข้ามาในร้านคาเฟ่
“เขาน่ารักมากเลย”
วัชรมัยเปี่ยมสุขจนยิ้มตาหยี เพื่อนเอาน้ำเปล่าใส่มะนาวฝานมาเสิร์ฟ เธอเลือกนั่งห้องพิเศษของร้าน ที่ศรัญญาเอาไว้ให้ลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรืออยากเช่าไว้ประชุมขนาดเล็ก
“ลูกของฉัน หน้าเหมือนพ่ออย่างกับก๊อบปี้วาง โตไปคงหล่อน่าดู”
พอนึกถึงอีกคน ใบหน้าชื่นมื่นของวัชรมัยก็เจื่อนลง
“ฉันมันเลวจริง ๆ นะเก๋ ที่ทิ้งลูก ไม่เคยมาดูดำดูดีเขาเลย เสียดายจริง ๆ”
ในตาร้อนผ่าว น้ำใส ๆ เริ่มเอ่อ
“อย่าคิดมากสิแก เดี๋ยวอาการจะยิ่งแย่”
ศรัญญามองหาทิชชู ก่อนวิ่งไปคว้าที่อยู่นอกห้องประชุมมายื่นให้
“ฉันเป็นแม่ที่เลวจริง ๆ”
น้ำตากลิ้งเผาะไหลอาบแก้ม เมื่อนึกถึงการกระทำที่ผ่านมาของตัวเอง
“ถ้าลูกรู้ต้องเกลียดฉันแน่ ๆ”
เด็กชายแก้มกลมใส ตาคมกริบ ตัวนิดเดียว เล็กไปเสียทุกส่วน วัชรมัยอยากยื่นมือไปสัมผัส แต่ความผิดบาปที่เกาะกินจิตใจทำให้เธอทำได้เพียงตัวแข็งทื่อ ยืนนิ่งงันมองเด็กชาย
ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสเข้าใกล้ได้เพียงถึงขนาดนี้
“ฉันจะทำยังไงดีเก๋”
ศรัญญามองเพื่อนแล้วถอนหายใจ สภาพวัชรมัยเหมือนวันนั้น วันที่เธอไปส่งเพื่อนขึ้นรถไปกรุงเทพฯ วัชรมัยตัวสั่น ร้องไห้น้ำตาท่วม
เวลาห้าปีเปลี่ยนเด็กคนหนึ่งให้โตขึ้น แต่เพื่อนยังอ่อนไหวเหมือนเดิม
...เหมือนวันที่ยังเป็นเพียงเด็กสาวเพิ่งคลอดลูกวัชรมัยในวัยยี่สิบห้าปี ราวกับกลับเป็นสาวอายุยี่สิบ
“ใจร่ม ๆ ไว้แก อย่าคิดมาก เดี๋ยวอาการทรุด”
เพื่อนที่จากที่นี่ไปดังนกปีกหัก มีเพียงข่าวคราวส่งมาบอกสบายดี ศรัญญาพลอยดีใจด้วย ก่อนกลับมาเจอกันอีกเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมความจริงอันหนักอึ้ง
“กรรมตามฉันทันแล้วแก”
เสียงสะอื้นไห้ดังทั่วห้อง ศรัญญาสงสารในชะตากรรมของอีกคนจนต้องโอบประคองปลอบ
“ฉันทำผิด...ทำบาปกับลูกเหลือเกิน”
สุดท้ายเด็กชายที่เธอปล่อยมือ ยื่นสิทธิ์ให้คนอื่น วันนี้กลับเป็นเธอที่อาลัยเขากว่าใคร อยากกอด อยากหอม
อยากได้ยินเสียงเล็ก ๆ นั้น เรียกว่า...แม่
“ฉันมันคนเห็นแก่ตัว”
ศรัญญาลูบหลังเพื่อนเหมือนเคย ปลอบกันตั้งแต่วันแรกที่เจอจนกระทั่งวันนี้
“สมแล้วที่ฉันได้รับกรรม”
วัชรมัยเป็นคนเลว สมแล้วที่ตกอยู่ในสถานการณ์ร้ายในชีวิตเช่นนี้
พักนี้มักมีข่าวลือเกี่ยวกับนายหัวไผทกับเมียแปลก ๆ อย่างเช่นเขาเลี้ยงเมียอด ๆ อยาก ๆ ไม่ค่อยยอมให้กินเนื้อสัตว์ ผู้เห็นเหตุการณ์คนที่หนึ่งเล่าว่า“วันก่อนฉันไปซูเปอร์มาร์เก็ต นายหัวอ่ะนะ พอเห็นเมียหยิบไส้กรอกเยอรมันกับแฮมสเปนใส่รถเข็นปุ๊บก็หยิบออกปั๊บ เมียหน้าบึ้งหน้างอบอกว่าอยากกินเท่าไรก็ไม่ให้กิน”ผู้เล่าจีบปากจีบคอทำตาเล็กตาน้อยสมใจ เมื่อในกลุ่มเม้าท์เงียบกัน ท่าทางตั้งใจฟังมาก“แต่พอลูกอ้อนเท่านั้นแหละ รีบหยิบกลับมาใส่ทันที”“ว่าแล้ว...นายหัวยอมรับกลับมาเป็นเมียแค่อยากให้กลับมาเป็นแม่ของลูก อยากแค่ให้ครอบครัวสมบูรณ์”คนตั้งใจฟังตบเข่าฉาด“ใช่ ๆ นายหัวน่ะขี้เหนียว ตอนไปรับลูกฉันเคยได้ยินว่าเมียบอกอยากไปกินข้าวนอกบ้าน แกดุเมียใหญ่ว่าไม่ต้องไป ให้กินที่บ้านน่ะดีแล้ว อยากกินอะไรก็ทำกิน”ผู้ปกครองนักเรียนอนุบาลท่านหนึ่งรีบเสริม“ใช่ ๆ ฉันเคยเจอที่ร้านคาเฟ่น้องเก๋ นายหัวไม่ให้เงินเมียใช้สักบาท อยากกินอะไรก็ต้องแบมือขอผัว”“เมียที่ผัวไม่รักชัด ๆ”เสียงถอดถอนหายใจ แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้ม ตาสั่นระริก“แต่แกก็ไม่มีใครนอกจากเมียนี่”สาวนางหนึ่งรีบใส่ไฟ“ที่ไม่ยอมมีใครเพราะนายหัวเห็นแก่ลูก ทำตั
การประชุมสมาชิกหอการค้าจังหวัด เริ่มต้นอย่างน่าเบื่อ นักการเมืองท้องถิ่นขึ้นมาพล่ามไร้สาระขายฝันเพื่อหาเสียง ก่อนนายกสมาคมจะกลับมาครองไมค์ได้เข้าสู่ช่วงการประชุมที่แท้จริงหลัก ๆ เป็นการพูดถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจของภาคและจังหวัดนายกสมาคมไม่ใช่คนหัวโบราณ แต่ยังกลัวนักธุรกิจรุ่นเดียวกันตามไม่ทัน จึงมีทั้งคลิปพรีเซนเทชั่น ทั้งกราฟให้ดูไม่ใช่การประชุมที่แย่นักในสายตาไผท ช่วงพักเบรกนักธุรกิจแยกนั่งคุยเป็นกลุ่ม ๆ เขายังเลือกนั่งกับเถ้าแก่ฮงและหนุ่มสถาปนิกเถ้าแก่ฮงวิดีโอคอลกับหลาน ๆ ของลูกอีกคนที่อยู่ในอเมริกา เสียงสองเสียงสามแสดงความเป็นอากงใจดีเรียกรอยยิ้มจากสมาชิกร่วมโต๊ะได้“ลูกเฮียนี่เก่งจริง ๆ ได้เรียนต่อถึงเมืองนอกเมืองนา แถมยังได้เมียฝรั่ง มีหลานลูกครึ่งน่ารัก”ผู้พูดเป็นเจ้าสัวภัตตาคารอาหารจีนขึ้นชื่อของจังหวัด“มันกระตือรือร้นของมันเอง ใครจะไปคิดล่ะว่าแค่เรียนถ่ายรูปก๊อกแก๊ก ๆ เผลอแป๊บเดียวมันได้ทุนเรียนต่อเมืองนอก เรียนจบมันบอกได้ทำงานในฮอลลีวูด ผมก็ไม่รู้อะไรหรอก รู้จักแต่ชอว์บราเธอร์หนังฮ่องกง ฮาร์ตมันพาเข้าโรงไปดูหนังพี่มันถ่ายภาพ ถึงรู้ว่ามันเก่ง ทำงานดี นี่หลานก็บอกพ่อมันไปถ
“แม่คร้าบ...พ่อเหมือนหมีแพนด้าเลย”สกลกันต์ชี้ไปยังใต้ตาบิดาที่สีคล้ำ บ่งบอกอาการอดนอน มื้อเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มกุ้งฝีมือไผท“หรือว่าตาพ่อเลอะร่า ๆ เหมือนแม่เกล”นิ้วป้อมชี้ นึกถึงสภาพหน้าแม่เพื่อนที่เคยเห็นตอนเปียกฝน เกลบอกเปื้อนอะไรสักอย่างชื่อร่า ๆ“มาสคาร่าหรือเปล่าครับ”วัชรมัยรินน้ำส้มผสมน้ำสับปะรด เอาใจลูกและเขาที่ส่งบรรยากาศมาคุอึมครึม“พ่อเขาไม่ได้ใช้มาสคาร่าหรอก”“แต่ตาพ่อดำเหมือนแพนด้า” เจ้าตัวย้ำ ขมวดคิ้วจ้องเขม็ง“กังฟูแพนด้า”สกลกันต์ไม่ได้ชอบเจ้าฮีโร่อ้วนตุ้ยนุ้ยนี่นะ แค่ตอนเด็ก ๆ บิดากับวิเชียรเปิดให้ดูบ่อย แถมฟัดแก้มนุ่มนิ่มจนแดงเขาชอบฮีโร่ตัวสูงปราดเปรียวปีนป่ายเก่งแล้วก็มีชุดเท่ ๆ อย่างสไปเดอร์แมนมากกว่า“กินข้าวไป อย่าพูดมากเดี๋ยวไปโรงเรียนสาย”บิดาตักกุ้งยัดปากช่างจ้อ เมื่อลิ้นสัมผัสกุ้งเนื้อเด้ง รสหวานกระจายทั่วปาก สกลกันต์กลับมาสนใจการเคี้ยวอาหารทันทีไผทจ้องเขม็งมายังเธอ ส่งสายตาข่มขู่ ขุ่นเคืองอารมณ์ค้างคาเรื่องเมื่อคืน วัชรมัยแกล้งไม่สนใจ ยกน้ำส้มขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์“เตเต้ปราบไปโรงเรียนก่อนนะ เป็นเด็กดีอยู่เฝ้าบ้าน ถ้ามีขโมยมาก็กัดตูดไล่มันลงทะเลเลย”ลูกพ
เพราะวัชรมัยมัวแต่มุ่งมั่นกับตำมะขาม สามีจึงทำไก่ทอดเกลือ กับต้มกระดูกหมูผักกาดดองให้“ไหนพี่ป้องไม่ให้กินโปรเซสเซ่นฟูดส์ไง”เธอหมายถึงอาหารแปรรูป ที่รวมของหมักดองด้วย“ผักดองมีพรีไบโอติกส์ ดีต่อลำไล้”ไผทซื้อหนังสือเกี่ยวกับการดูแลคนเป็นโรคมะเร็งมาหลายเล่ม เขาอ่านซ้ำจนจำขึ้นใจ ต้องการจะดูแลเธอให้ดีที่สุด“หมูที่ใช้ก็เป็นหมูคุโรบุตะ เจ้าของเลี้ยงแบบปล่อย มันจะไม่เครียด ไม่เพิ่มสารก่อมะเร็ง”เพิ่งรู้ว่ามีการเลี้ยงหมูให้ไม่เครียดด้วย วัชรมัยเคยได้ยินแต่การเลี้ยงวัวทะนุถนอมแบบฟาร์มญี่ปุ่น เปิดเพลงให้ฟัง มีนวดตัว ให้วัวกินเบียร์ สร้างอารมณ์วัวให้ดี เพื่อกลายเป็นเนื้อคุณภาพเยี่ยมกิโลกรัมละเป็นหมื่นไผทไปหาเนื้อหมูพวกนี้มาจากไหน“มิ้งรู้สึกตัวเองเป็นภาระพี่ป้องจัง”เธอรำพึงพลางตักตำมะขามเข้าปาก รสคล้ายกับที่วารีเคยทำ ความเศร้าเพราะคิดว่าตนช่างอ่อนแอเหลือเกินกลับมาเกาะกุมในอกโดยพลัน“พี่เป็นผัวเธอนะ เมียตัวแค่นี้ดูแลได้สบายมาก”มือสีเข้มตักไก่ทอดใส่จานเธอ“กินเยอะ ๆ จะได้มีเนื้อมีหนัง ตอนกอดจะได้นุ่มนิ่ม เต็มไม้เต็มมือ”สายตาคมวับวาวพราว วัชรมัยรู้ได้ทันที นายหัวไม่หยุดแค่กอดอย่างเดียวแน่“ห
ไผทรีบพาเมียออกจากตลาดนัด ก่อนที่เธอจะหาอะไรมาเป็นงานทำมากกว่านี้ วัชรมัยหยิบเครื่องประดับทำจากกะลามะพร้าวมาชื่นชม สมองคิดจะมิกซ์แอนด์แมทกับชุด หรือออกแบบเครื่องประดับแบบไหนดีถ้าผสมกับสตอรี่เรื่องความยั่งยืน เป็นของธรรมชาติผลิตจากชุมชน ไม่มีการใช้ส่วนไหนจากสัตว์ยิ่งน่าสนใจ มันขายได้ในต่างประเทศ หรือจะชิมลางแตกแบรนด์เล็ก ๆ ขายแต่ทางออนไลน์ดีสมองการค้าวัชรมัยคิดไปเรื่อย กระทั่งรถคันโตหยุดที่สวน เธอหันซ้ายหันขวา โน่นก็คนงาน นั่นก็ต้นปาล์ม ภูเขาสีเขียวห่างอยู่ลิบ ๆ มีหมอกยามเช้าคลอเคลียคลุมวิวสวยดีอยู่หรอก แต่เขาเอาเธอมาทำไม“มิ้งขอกลับบ้านได้ไหมคะ”“อยู่นี่แหละ ใกล้ตาฉัน เกิดล้มไปจะยุ่ง ป้านิดลาไปเยี่ยมญาติ ไม่มีใครดูเธอ อยู่นี่ดูแลได้ดีกว่า”ไผทประกาศบอกคนสนิทถึงอาการป่วยของวัชรมัย ไม่ทันไรก็รู้กันทั้งสวน เขาขี้เกียจหาต้นตอว่าใครปูดข่าว ดีเสียอีกจะได้มีคนเพิ่มช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลเธอให้“อยู่ในรถ ฉันจะติดเครื่องไว้ให้”แอร์เย็นก็จริง แต่วัชรมัยนั่งนิ่งนาน ๆ ชักเบื่อ มองออกไปเห็นต้นมะขามแผ่กิ่งก้านแตกใบในสวน มันคงอยู่มานานเพราะมีกิ่งห้อยย้อยจนต้องเอาไม้มาค้ำไม่ไห้ต้นล้มฝักดิบสีน้ำตาลอ
“แม่คร๊าบ มีโฮมเลสมานอนในสนามบ้านเราด้วย”ไผทหยีตาขึ้นเพราะเสียงแจ้ว ๆ นอกเต็นท์มีแสงสว่างลอดเข้ามา“ไม่ใช่โฮมเลสครับ”วัชรมัยปรามเจ้าตัวกลม ที่เดินเข้าไปเกาะเต็นท์สนามสีเขียวเข้ม เมื่อคืนเธอนอนกอดลูกสบายมาก สดชื่นอารมณ์ดีจนลงมาทำมื้อเช้า ปล่อยสกลกันต์นอนต่อแป๊บเดียว ไม่คิดลูกจะตื่นเร็วขนาดนี้“ก็เขาไม่มีบ้านไม่ใช่เหรอ ถึงนอนเต็นท์”ปากเล็กยู่ยืนยันความคิดตัวเอง“เหมือนข่าวโฮมเลสในทีวีที่ปราบเคยดูในโรงอาหาร”“พ่อไม่ใช่โฮมเลส”เต็นท์เปิดมาพร้อมหน้าตึง ๆ ของคนนอนไม่พอ มือสางผมผมสีดำยุ่งตกระหน้าผาก ไผทขมวดคิ้ว เมื่อเห็นแม่กับลูกใส่ชุดนอนหมีน้อยเข้ากัน ...แล้วชุดเขาล่ะแม่งเอ๊ย! ไม่ยุติธรรมสักนิด ปรกติไผทไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย ทว่าตั้งแต่มีเมียนี่เขาเหมือนโดนลูกทิ้ง กลายเป็นหมาหัวเน่า เป็นคนนอกโดยสมบูรณ์แบ่งแยกกันชัดเจนก็เสื้อทีมนี่แหละ มีเขาแตกต่างอยู่คนเดียว“ทำไมพ่อมานอนเต็นท์ล่ะ”สกลกันต์เคยไปกางเต็นท์เที่ยวป่าชมธรรมชาติกับบิดาครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว จำได้ว่าสนุกมาก ...หมายถึงขี่หลังบิดาสนุก“อยากเปลี่ยนบรรยากาศ”เขาสลัดศีรษะไล่ความง่วงงุน“หลับสบายไหมคะพี่ป้อง”ไผทหงุดหงิดกับรอยยิ้
กฎสองข้อที่ไผทจำขึ้นใจหนึ่ง ห้ามทำให้สกลกันต์โกรธ มิเช่นนั้นเขาอาจเสียทรัพย์ง้อ ต้องซื้อทั้งขนมและของเล่น เจ้าลูกชายแก้มป่องเรียกร้องเอากับพ่ออย่างเขาไม่เกรงใจบางทีถึงขนาดไผทคิด ถ้าสกลกันต์ไม่เกิดเป็นลูกเขา คนที่จะเลี้ยงเจ้าตัวแสบได้คงต้องมีเงินถุงเงินถังระดับชีคเจ้าของบ่อน้ำมันสอง ข้อนี้สำคัญกว่าข้อแรก อย่าทำให้วัชรมัยโกรธ มิเช่นนั้นเขาจะทรมานทั้งกายและใจ ชนิดจำขึ้นใจไม่มีวันลืมตัวอย่างคือเหตุการณ์ย้อนไปยังวันลงจากเครื่องบิน เขาและเธอไปรับลูก โดยมีวิเชียรเป็นสารถีวัชรมัยซื้อของฝากมากมาย ทั้งที่หิ้วมาเองได้ ทั้งต้องรอส่งมาจากกรุงเทพฯ ไหนจะรอโหลดจากท้องเครื่องบินอีกพ่อแม่ที่เป็นคนงานในสวนเห็นเด็ก ๆ ได้ของฝากก็ยิ้มกันแก้มปริ พอรู้ว่ามาจากวัชรมัยก็สรรเสริญกันใหญ่ตอนเย็นยังมีกินเลี้ยงงานวันเกิดเตเต้ สกลกันต์ส่งสายตาเว้าวอนเมื่อเห็นเค้กวาดรูปหน้าสัตว์เลี้ยงตัวโปรด“เตเต้เป็นหมากินเค้กไม่ได้หรอก เดี๋ยวฟันผุ หมาแปรงฟันไม่ได้”เด็กชายเกิดอาหารหวงของกิน ส่วนเจ้าของวันเกิดร้องหงิง ๆ เหมือนรู้กำลังจะโดนขโมยเค้ก“กินได้สิครับ แม่ถามร้านที่ทำแล้ว”วัชรมัยไม่ได้ถามเอง ให้นิคกี้เป็นถาม เธอคิด
การกลับมาอยู่สวนปาล์มอีกครั้ง ทำให้วัชรมัยรู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่ ผู้คนเป็นมิตรขึ้น มีลูกชายน่ารัก และที่สำคัญสามี...“ตื่นมาทำไม นอนต่ออีกก็ได้ เพิ่งตีห้าครึ่งเอง”ไผทผินหลังมองเธอ เขาผมยุ่งปรกหน้าผาก เปลือยท่อนบนอวดผิวสีทองแดงแน่น ๆ คาดผ้ากันเปื้อนลายช้างสีน้ำเงินที่เธอซื้อให้จากสนามบิน“เมื่อคืนมิ้งหลับคาอกพี่เลยนะ”วัชรมัยแก้มแดง เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ไผทไม่ได้มอบบทรักที่ดุดัน แต่การย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ แสดงความคลั่งไคล้ในเรือนกายก็ทำเธอเพลีย ชัทดาวน์สติตัวเองกลางอากาศตื่นมาพร้อมอาการเมื่อยตัว และรอยตราสีกุหลาบบนผิวนวล“มิ้งอยากตื่นมาทำข้าวเช้าให้สามีกับลูกกินบ้างสิคะ”ร่างผอมบางเคลื่อนมาใกล้ พยายามลบภาพนายหัวผู้โซฮอตปรอทแตกเมื่อคืน มือขาวจับท่อนแขนสีทองแดง เมียงมองอาหารในกระทะ“ออมเล็ตเหรอคะ”ที่เห็นคือไข่สีเหลืองนวลรูปพระจันทร์ครึ่งป่องกลาง กลิ่นเนยถูกความร้อนทำเอาน้ำลายสอ“ไม่ได้กินนานแล้ว”ตั้งแต่กลับมาสวน อาหารสำเร็จรูปประเภทไส้กรอก แฮม เบคอน รวมถึงอาหารแช่แข็ง กลายเป็นของที่ไผทห้ามไม่ให้มีในครัวนี้เด็ดขาด ให้เหตุผลว่าต้องดูแลสุขภาพเธออย่างเคร่งครัดเขาเลือกแต่อาหารดีมีประโยชน์ใ
“แกร่ก...”บุรินทร์มองลอดแว่น เมื่อเห็นคนเข้ามาในห้องตรวจไม่ใช่คนไข้อย่างที่เคย“มิ้ง...จะหายไหม”ผู้ยืนอยู่คือหนุ่มล่ำบึ้กตัวสูงผิวสีทองแดง แพทย์หนุ่มเห็นความหวาดหวั่นในดวงตาคม แม้จะดำล้ำลึกราวกับทะเลในคืนเดือนมืด แต่เจือไปด้วยความแปรปรวน เหมือนความหวาดหวั่นของเจ้าตัวในยามนี้“ผมอยากได้ความมั่นใจ เธอสำคัญกับผมมาก”สองหนุ่มประเมินกัน สมองแต่ละฝ่ายต่างเต็มไปด้วยความคิดวุ่นวาย“ในฐานะหมอ ผมมองว่ามะเร็งเป็นการทำงานผิดปรกติของเซลล์ร่างกาย เกิดจากความแปรปรวนในการใช้ชีวิตประจำวัน แบบใช้มากไปหรือน้อยไป”“เอาสรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ไหมหมอ ผมแค่ชาวสวน ไม่ได้มีความรู้อะไรมาก”บุรินทร์อมยิ้ม ถ่อมตัวว่าเป็นแค่ชาวสวน แต่คนตรงหน้าเขานี่มาดบ่งบอกเป็นเจ้าของสวนชัด ๆ บารมีเจ้านายคนแผ่ข่มเข้มจัด“มิ้งสำคัญกับผม...กับลูก” เสียงห้าวเริ่มเครือ บ่งบอกความห่วงหาสุดหัวใจ“มิ้งเป็นมะเร็งระยะที่สอง ถึงจะลุกลาม แต่ถ้าจากข้อมูลงานวิจัยเมืองนอกรายงานว่ามีสิทธิ์จะหาย แต่ต้องดูแลตัวเองดี ๆ ไม่อย่างนั้นจะกลับมาเป็นอีก”แพทย์ยอมการันตีการรักษา เพราะเห็นวัชรมัยเป็นรุ่นน้องผู้น่ารัก ไม่ได้หวังสินบนจากชุดสูทที่เธอจะตัดให้แ
Comments