Share

บทที่ 22 ได้ฤกษ์ทำเครื่องปรุงเสียที

last update Last Updated: 2025-10-31 18:12:23

บทที่ 22 ได้ฤกษ์ทำเครื่องปรุงเสียที

“พี่จินอยู่หรือไม่เจ้าคะ” 

“น้าจินเหมย! เปาเปามาเอาไข่ขอรับ”

“เข้ามาๆ ขายของเป็นอย่างไร” 

“ขายดีมากเจ้าค่ะ วันนี้พี่ไม่ไปเก็บของป่าหรือ”

“ไปมาแล้ว เอาไข่เพิ่มใช่หรือไม่เปาเปา”

“ขอรับ” เปาหลงยิ้มก่อนจะวิ่งไปเล่นกับลูกเจี๊ยบที่เดินเล่นอยู่รอบบ้านของจินเหมย

“เอาสักหนึ่งร้อยห้าสิบฟอง แล้วข้าก็จะให้พี่มาทำเสี่ยวหลงเปาไปขายแทนข้าด้วย ข้าสอนให้เอง” จินเหมยคราแรกก็ลังเลไม่รู้ว่าลี่อิงพูดจริงหรือเพียงล้อนางเล่น แต่พอเห็นว่านางต้องการให้ตนทำ เพราะไม่มีเวลาว่างทำอย่างอื่นจึงเข้าใจ

“อย่างไรข้าก็ยังไม่มีเงินลงทุนมากมายเสียขนาดนั้น”

“ช่วงแรกถือว่าข้าจ้างไปก่อนวันละหนึ่งร้อยอีแปะ”

“มากไปแล้ว ใครเขาจ้างคนงานกันวันละหนึ่งร้อยอีแปะกัน” จินเหมยปฏิเสธเสียงแข็ง การทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการเอาเปรียบลี่อิงสักนิด

“สุดท้ายแล้วการค้าขายนี้อย่างไรข้าก็ต้องเลิกทำ พี่เอาไปทำต่อเถอะ เก็บเงินได้สักหน่อยพี่ค่อยออกเงินทำเองก็ได้ อย่างน้อยๆ กำไรก็วันละสองร้อยอีแปะ” ลี่อิงที่เห็นจินเหมยยังเงียบอยู่จึงพูดต่อ

“พี่ไม่อยากมีเงินไว้ส่งลู่เว่ยไปสำนักศึกษาหรือ” 

       คำพูดนี้จี้จุดจินเหมยได้เป็นอย่างดี การส่งลูกเข้าสำนักศึกษาคือความฝันของพ่อแม่ทุกคน การเป็นชาวบ้านเช่นนี้ หากดินฟ้าไม่เป็นใจแม้เพียงนิด ผลผลิตที่คาดหวังไว้อาจไม่มีให้เห็นเลย ดวงตาของนางไหววูบมองมาที่ลี่อิงอย่างเลื่อมใส หากมีเงินส่วนนี้เข้ามาทุกวันนางย่อมสามารถส่งลูกชายไปเรียนและสอบเป็นขุนนางได้ “ข้าตกลง”

       เมื่อเสิ่นลี่อิงได้ยินเช่นนั้นบทเรียนการทำเสี่ยวหลงเปาที่อร่อยครบรสก็ถือบังเกิดขึ้น ทำให้หน้าที่การรวบรวมไข่ตกไปเป็นของลู่จานแทน ส่วนเปาเปาน้อยก็ชวนลู่เว่ยไปวิ่งเล่นด้วยกัน

       นางที่เหลือบมองเห็นว่าเด็กๆ เล่นกันภายในบริเวณบ้านก็หันมาสอนจินเหมยทำอาหารต่อ “ครานี้มีสิ่งที่พี่ต้องทำเพิ่มในไส้คือน้ำปรุงเห็ดหอม ข้าจะสอนให้” นางต้องสอนให้จินเหมยทำซอสเห็ดหอม เพราะเป็นเครื่องปรุงเดียวที่หาแบบสำเร็จในที่แห่งนี้ไม่ได้ 

“พี่นำเห็ดหอมมาสับให้ละเอียด จากนั้นสับหัวหอมใหญ่ ขิงแก่ และกระเทียม เราจะนำทุกอย่างมาผัดให้เข้ากัน” จินเหมยดูนางสับวัตถุดิบแต่ละชนิดอย่างตั้งใจ และแบ่งมาลองสับดูบ้าง

“เช่นนี้ใช้ได้หรือไม่ลี่อิง”

“ใช้ได้เจ้าค่ะ ดียิ่ง พี่นำไปผัดให้สีเข้มขึ้นได้เลย” นางให้จินเหมยใส่น้ำมันเล็กน้อยก่อนจะนำหัวหอมกระเทียมและขิงแก่ลงไปผัดก่อน ตามด้วยเห็ดหอมเป็นอย่างสุดท้ายและปิดท้ายด้วยน้ำหนึ่งถ้วย

“ต้องใส่ขิงแก่เสมอนะเจ้าคะ จึงจะทำให้เก็บได้นาน เมื่อเดือดพี่ก็ปรุงรสด้วยเกลือน้ำตาลและซีอิ๊ว จากนั้นพี่ผัดด้วยไฟอ่อนๆ จนน้ำงวดลง เหลือคลุกคลิกก็ถือว่าใช้ได้” เมื่อทำเสร็จนางก็สอนจินเหมยทำไส้หมูต่อ เรื่องการห่อไม่มีปัญหาใดจินเหมยทำได้อยู่แล้ว ลี่อิงเพียงแค่บอกขนาดแป้งปริมาณไส้หมู และก้อนน้ำแกงก็สามารถปล่อยให้จินเหมยทำต่อเองได้ นางจึงขอตัวกลับพร้อมไข่หนึ่งร้อยห้าสิบฟองเพื่อไปเตรียมขายของพรุ่งนี้ 

“ขอบใจเจ้ามากพรุ่งนี้เช้ามืดจะนำไปให้เจ้าดูก่อนว่าเป็นอย่างไร” 

“ได้เจ้าค่ะ ข้าต้องไปแล้ว ลาเท่านี้”

       นางหยุดอยู่หน้าบ้านบ่นพึมพำเบาๆ กับตนเอง “เหมือนข้าจะลืมอะไรสักอย่าง ลืมอะไรไปนะ”

“พี่สาว ลืมปลาไงขอรับ” เปาหลงที่เดินออกมาจากบ้านจินเหมยพร้อมกันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นนางบ่นอุบอิบ ไม่ยอมเข้าบ้านเสียที ทั้งยังบ่นว่าลืมอะไรบางอย่างไปด้วย

“เอ๊ะ จริงสิ พวกเราดักปลาไว้ ไปดูกันเถิด”

.

.

.

       เมื่อมาถึงลำธารก็เจอชะลอมดักปลาของตน เสิ่นลี่อิงจับดูก็พบว่ามีปลาอยู่ด้านในค่อนข้างมาก “เปาเปาเจ้าดูสิ ปลาพยายามจะว่ายออกแต่ทำไม่ได้” นางชี้ให้เปาเปาน้อยดูว่าการทำที่ดักซ้อนไว้เช่นนี้ได้ผลจริง

“พี่สาวเก่ง”

“เจ้าช่วยข้าทำ เจ้าก็เก่ง มาเถอะข้าจะเอาขึ้นมาแล้ว” เสิ่นลี่อิงจับชะลอมยกขึ้นแล้วอุ้มกลับไป เพราะชะลอมนี้มีปลามาติดมามากจึงค่อนข้างหนัก โดยมีเปาเปาจับปลายชะลอมเหมือนกำลังช่วยนางยก นางจึงยิ้มขอบคุณให้เขาไปบางๆ

      เดินกลับมาครู่หนึ่งนางก็มาถึงบ้านในสภาพที่น้ำซึมเปียกอาภรณ์ไปพอสมควร แต่ลี่อิงก็ตัดสินใจไม่เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เพราะอย่างไรก็ต้องนั่งทำปลาต่อ นางไม่อยากซักเสื้อผ้ามากเกินไป

“ทำเครื่องปรุงอย่างไร” ยังไม่ทันที่จะได้นั่งลงที่ครัวหลังบ้านดี เปาหลงก็ถามออกมาอย่างรอไม่ได้เสียแล้ว

“ใจร้อนจริงเด็กคนนี้” นางนั่งลงก่อนจะตอบคำถามเขา “วันนี้เราจะมาทำน้ำปลา ขั้นแรกก็ต้องเตรียมปลา” 

       เสิ่นลี่อิงนำถังมาวางรอไว้ นางใส่น้ำแข็งจากในมิติลงไป จากนั้นค่อยนำปลาในชะลอมออกมาวางบนน้ำแข็ง “รอปลาตายสนิทพวกเราค่อยเริ่ม” นางวางปลาทิ้งไว้ และลุกไปต้มน้ำให้เดือดเพื่อมาเทใส่ไหที่จะใช้หมักน้ำปลา 

“ใส่น้ำร้อนลงไปฆ่าเชื้อเช่นนี้” เมื่อทำเรียบร้อย ปลาทั้งหมดก็นิ่งพร้อมให้นางจัดการต่อ ลี่อิงหยิบปลาขึ้นมาทีละตัวเริ่มผ่าเอาเครื่องในออกไป

“เอาออกทำไม” เปาหลงมองอย่างสงสัย

“ไส้ปลาจะทำให้น้ำปลาเน่า กินไม่อร่อย” 

“ขอรับ” เขานั่งดูไปเรื่อยๆ รอให้นางคว้านไส้ปลาออกจนหมด เมื่อเห็นว่าลี่อิงนำปลามาล้างแล้ว เด็กน้อยจึงมาช่วย แม้จะมีท่าทางขยะแขยงอยู่บ้าง แต่เปาเปาก็ทำไปโดยไม่ปริปากบ่น

“เก่งมาก สะอาดดีแล้ว ครานี้เราจะมาหมักเกลือกัน” เสิ่นลี่อิงหยิบไหที่แช่น้ำร้อนไว้เทน้ำออกใช้ผ้าสะอาดเช็ดจนแห้ง

       เสิ่นลี่อิงนำเกลือที่ต้มกันเองออกมาแบ่งไว้ นางยัดเกลือลงในท้องปลาจนเต็มแล้วให้เปาหลงทำตาม ทั้งสองยัดเกลือในท้องปลาจนครบทุกตัว แล้วเรียงใส่ไหไว้ ขั้นสุดท้ายโรยเกลือปิดไว้หนาๆ เสิ่นลี่อิงนำผ้าปิดปากไหใช้เชือกรัดให้เรียบร้อยและคลุมด้วยผ้าสีทึบอีกชั้นสำหรับบังแดดไว้

“เท่านี้หรือ” เปาหลงที่ยังไม่เข้าใจว่าปลาเป็นตัวกับเกลือเม็ดจะกลายเป็นน้ำปลาได้อย่างไรก็เอ่ยถาม

“ไม่ใช่ เราต้องรอให้เกลือกับปลามีน้ำออกมาก่อน จากนั้นก็ต้องกรองน้ำที่ได้ไปต้มประมาณสองเค่อ ปรุงรสด้วยน้ำตาล แล้วนำไปกรองให้ใสจึงจะใช้ได้”

“นานแค่ไหนจึงจะมีน้ำหรือ”

“รอเจ้าครบสามหนาวพวกเราค่อยมาเปิดดู ถ้ายังไม่มีน้ำก็ต้องรออีกหน่อย” เท่านั้นเสิ่นลี่อิงก็ย้ายไหหมักน้ำปลาเข้าไปไว้ในมิติรอครบหกเดือนจึงจะมาเปิดดูอีกครั้ง

       เสิ่นลี่อิงพาเปาหลงไปอาบน้ำหลังหมักปลาเสร็จ วันนี้เปาหลงขอลองอาบน้ำด้วยตนเอง นางจึงนั่งเฝ้าเด็กน้อยเฉยๆ และคอยชี้หากมีส่วนใดที่ยังล้างฟองออกไม่หมดเท่านั้น ลี่อิงภาคภูมิใจในตัวเปาหลงนัก เด็กน้อยหัดทำหลายสิ่งด้วยตัวเองจนคล่องแคล่ว ควบคุมมือในการกินข้าวได้ไม่หกเลอะอย่างเดิม สามารถแต่งตัวเองได้ และวันนี้ยังขออาบน้ำเองอีก

ต้องแบบนี้สิเปาเปา!

       สำหรับนางการฝึกให้เปาหลงช่วยเหลือตัวเองได้เป็นเรื่องสำคัญ หากตัดปริมาณบ่าวที่ต้องมาดูแลช่วยเหลือออกไปได้มาก โอกาสที่จะใช้ลอบทำร้ายเปาหลงย่อมน้อยลง เมื่อยังจับตัวผู้กระทำไม่ได้ มีแต่จะต้องป้องกันไว้ 

       เปาเปาออกไปแต่งตัว หยิบขนมปังที่นางอบเอาไว้มาทานเอง และไปนั่งฝึกคัดลายมือจากตำราที่ได้มาใหม่อย่างเรียบร้อย เสิ่นลี่อิงที่เห็นว่าเด็กน้อยจัดการตนเองได้ จึงปล่อยเขาทำไปตามใจ 

       ส่วนตัวนางก็อาบน้ำชำระร่างกายบ้าง ลี่อิงรู้สึกเหม็นคาวปลาไปทั้งตัว การลวงไส้ปลาออกทำให้กลิ่นติดมือจนต้องเอาเลม่อนมาถูมือดับคาวลง แต่เมื่อขัดถูจนหนังตัวแทบจะถลอกนางก็ยอมแพ้ เพราะอย่างไรก็คงต้องปล่อยให้กลิ่นนี้จางหายไปเอง 

       เสิ่นลี่อิงออกมาก็พบว่าเปาเปาหลับคาโต๊ะ บนกระดาษพึ่งจะคัดอักษรไปได้เพียงหน้าเดียว “ไปนอนดีๆ เถิดเปาเปา” นางช้อนตัวเด็กน้อยที่ทำหลายสิ่งจนอ่อนเพลียให้มานอนบนเตียง แล้วนางก็ไปทำงานอื่นต่อ

       เริ่มต้นจากการไปดูเพิงเห็ดเพราะนางไม่ได้จำเป็นต้องมาตรวจดูเห็ดหลายวันแล้ว จากเดิมที่ต้องมาฉีดน้ำทุกวันเช้าเย็น แต่เมื่อหาเครื่องพ่นไอน้ำแบบใส่ถ่านเจอในมิติ นางก็ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้มันแทน เมื่อเลื่อนแผ่นไม้บางที่นางไว้ใช้บังแดดออก และยกตะเกียงส่องดูถังไม้เพาะเห็ดดูก็พบว่า…

รวย รวย รวยเละ!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทพิเศษ 17 ต้องช่วยเหลือนาง

    บทพิเศษ 17 ต้องช่วยเหลือนาง เวลาของความสุขผันผ่านไปรวดเร็วเพียงชั่วกระพริบตา ชินอ๋องและพระชายาอยู่ในวัยใกล้ฝั่งเสียแล้ว บุตรล้วนเติบใหญ่ให้ได้ภาคภูมิใจมีครอบครัว และหลานมากมายให้ชื่นใจ ส่วนตนและฮูหยินคู่ใจก็ใช้เวลาส่วนใหญ่นึกย้อนถึงวันเวลาเก่าๆ แต่การหวนย้อนคิดเหล่านี้ ทำให้ชินอ๋องนึกถึงภาพฝันที่เคยอยู่เป็นเพื่อนยามค่ำคืนเสมอมา ตู้หนิงหลงในวัยชรากลับมาฝันถึงแม่นางผู้หนึ่งมาติดต่อกันหลายคืนแล้ว ความฝันนี้เป็นฝันเช่นเดียวกับยามเยาว์วัย เขามักจะฝันเห็นนางยิ้มหัวเราะ บางคราก็โกรธเกรี้ยว สลับกับการไปช่วยเหลือผู้คนที่ตกอยู่ในอันตรายร่วมกับแม่นางผู้นั้น เหตุการณ์ในฝันนั้นไม่ค่อยปะติดปะต่อกันนัก แต่สุดท้ายก็มักจะจบลงเช่นเดิมคือ เขาและนางไปช่วยดับไฟสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อขึ้นไปด้านบน แม่นางผู้นั้นจะตกลงในหลุม จากนั้นเขาก็จะตกลงมาเช่นกัน แต่ร่างของชินอ๋องในฝันนั้น จะถูกโลหะแท่งใหญ่ปักทะลุอก กระอักเลือดออกมาคำโต จนแม่นางผู้นั้นกรีดร้องออกมาคล้ายดวงใจแตกสลาย ทว่าครานี้ฝันกลับไม่เป็นเช่นนั้น ภาพที่ปรากฏยังคล้ายเดิม เพียงแต่ไม่มีร่างที่สมควรจะเป็นตัวของเขาอยู่ในฝันนั้น

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทพิเศษ 16 เผยเรื่องน่าอาย

    บทพิเศษ 16 เผยเรื่องน่าอาย ตู้หนิงหลงผู้เป็นถึงชินอ๋องกำลังรอดักเรียกบุตรชายผู้เป็นรุ่ยอ๋อง เพราะยามกลับมาถึงจวนทีไร ก็มาในสภาพคลุกเคล้าไปด้วยฝุ่นผงทุกวัน ทั้งยังมีข่าวคราวหนาหูเกี่ยวกับว่าที่รุ่ยหวางเฟยให้ได้ยินนั่นอีก แต่เมื่อจะเรียกมาสอบถามกลับหลบหนีหายไปทุกครั้ง จนผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินรองจากฮ่องเต้ต้องมายืนพิงกำแพงจวน รอบุตรชายกลับมาด้วยตนเอง“เปาหลง” ชินอ๋องเอ่ยเรียก ตั้งมั่นว่าครานี้ต้องรู้เรื่องราวให้ได้ อ๋องน้อยผู้นี้บิดพลิ้วหนีคนที่สั่งให้มาตาม ปิดโอกาสสืบความใดไปเสียหมด“ท่านพ่อ! เหตุใดมาอยู่ตรงนี้ ข้าตกใจหมด” เปาเปาที่แม้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เมื่อยามอยู่กับบิดาและมารดาเลี้ยง ก็กลับไปมีท่าทีเป็นเด็กเล็กๆ ไปทุกครา“ตามพ่อมา” หนิงหลงไม่ลื่นไหลไปกับบทสนทนาที่พยายามจะนอกเรื่องหาทางหลีกหนี เมื่อกล่าวจบก็พยักหน้าให้ทหารหิ้วปีกมุ่งไปที่ห้องหนังสือ“ท่านพ่อ ทำเช่นนี้ไม่ได้ ไม่รักษาภาพพจน์ข้าบ้างหรือ บุตรชายของท่านเป็นถึงรุ่ยอ๋องเชียวนะ” เปาหลงโวยวายเมื่อถูกลากเข้าจวน และยกทั้งร่างมาวางไว้ในเรือนกลางของผู้เป็นพ่อ... เปาหลงที่หันมองหาทางหนีทีไล่ ถอนหายใจอย่า

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทพิเศษ 15 รุกล้ำในชุดแดง

    บทพิเศษ 15 รุกล้ำในชุดแดงวันมงคลของเสิ่นลี่อิงและองค์ชายเก้าเกิดขึ้นในวันที่ถัดมาจากวันที่ครบพันปีหนึ่งวันพอดิบพอดี เมื่อเซียนลี่บอกให้ตู้หนิงหลงผู้นี้รอไปพันปี เขาก็ทำเช่นนั้นตามข้อตกลงแต่องค์ชายผู้นี้ก็ยังคงไม่ยอมรับต่อหน้าคนรักอยู่ดีว่าการตัดสินใจให้เป็นคนรักกันไปพันปีของนางเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว หากขืนยอมรับไปเขาได้รับคำย้ำเตือนไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่แน่ ว่าทำอันใดก็ให้เชื่อนางจึงจะออกมาดีตู้หนิงหลงกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังห้องหอด้วยใจระทึก เขาถูกพี่ชายทั้งหลายล้อเลียนว่าเป็นเด็กแก่แดดแต่งงานตัดหน้าทุกคน และถูกบังคับให้กินเหล้าหลายจอกจนทรงตัวแทบไม่อยู่&nbs

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทพิเศษ 14 เป็นคนรักกันไปพันปี

    บทพิเศษ 14 เป็นคนรักกันไปพันปีเมื่ออยู่ต่อหน้าเทียนจวินองค์ชายเก้าตู้หนิงหลงทำอย่างที่ลั่นวาจาไว้ เขากล่าวต่อหน้าผู้คนทั้งท้องพระโรงว่าต้องการสมรสพระราชทานให้เสิ่นลี่อิง มาเป็นพระชายาเอกในองค์ชายเก้า แรกเริ่มนางก็คิดหวังว่าอาจมีองค์เทพที่กล่าววาจาคัดค้านว่าเซียนเล็กๆ เช่นนาง แม้จะผลคะแนนแซงหน้าบุตรหลานชาวสวรรค์แต่กำเนิด แต่ที่มาไร้ความสูงส่งเช่นนี้ก็ไม่ใคร่ว่าจะเหมาะสมแต่ทว่าเรื่องนี้ก็ผิดความคาดหมายของเสิ่นลี่อิง เพราะนอกจากจะไม่มีใครคัดค้านแล้ว ยังเห็นดีเห็นงามว่าควรมีเซียนตัวเล็กตัวน้อยแต่งเข้าราชวงศ์ในตำแหน่งใหญ่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเผ่าสวรรค์นั้นไม่คิดรังเกียจแบ่งแยกผู้ใดเอ้า! จะมาใช้ข้าเป็นโครงการป

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทพิเศษ 13 ภารกิจจบการศึกษา

    บทพิเศษ 13 ภารกิจจบการศึกษาเสิ่นลี่อิงที่ตื่นขึ้นมาแต่เช้าในวันที่ต้องไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย สองวันก่อนท่านอาจารย์ให้ทั้งสามสุ่มเลือกภารกิจที่พวกตนต้องรับผิดชอบ โดยที่จะไม่มีอาจารย์ท่านใดคอยช่วยเหลือนาง หนิงหลง และหลิวหยาง หากไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายจนถึงตายไม่แน่ว่าทั้งสามโชคดีหรือร้าย เพราะภารกิจที่สุ่มได้มานั้นเป็นสัตว์อสูรที่มีผู้พบเห็นน้อยมาก ความรู้เกี่ยวกับสัตว์อสูรชนิดนี้มีเพียงหนึ่งบรรทัด ความอันตรายไม่แน่ชัดนัก เป้าหมายคือการจับเป็นเพื่อนำมาศึกษาหากให้ไปกำจัดอสูรร้ายคงง่ายกว่าเพราะทำจากระยะไกลได้“พี่สาววันนี้มีพี่หานมารอท่านด้วยอีกคน รีบออกมาเถิด องค์ชายเก้าดูกระวนกระวายใจ

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทพิเศษ 12 ม้ามืด

    บทพิเศษ 12 ม้ามืดฟ้าสดใสเปล่งประกายครึ่งปีที่ผ่านมาองค์ชายเก้ามันหาเรื่องราวให้ได้มาอยู่ใกล้เสิ่นลี่อิง หากนางรำคาญก็จะเปลี่ยนเป้าหมายไปตีสนิทเปาหลงแทน อ้างความเป็นพ่อลูกในภพมนุษย์จึงทำให้รู้สึกอยากสนิทด้วย“นี่วังของท่านไม่มีท้อให้กินหรือ เหตุใดต้องมาแย่งของเซียนเล็กๆ อย่างข้ากับพี่สาวด้วย” เปาหลงที่เห็นองค์ชายตู้หนิงหลงกินอย่างอิ่มเอมก็อดจิกกัดออกไปไม่ได้“วันนี้เป็นวันสอบทฤษฎี ข้าก็ต้องมาสอดส่องว่าคู่แข่งของข้าทำสิ่งใด” หนิงหลงยักไหล่คล้ายว่าตนไม่ได้ทำอันใดแปลกประหลาด“อย่างไรอันดับหนึ่งสองและสามก็ย่อมได้ไปสอบปฏิบัติเพื่อโอกาสที่จะจบการศึกษาเร็วกว่าเพื่อนในรุ่นครึ่งปีอยู่แล้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status