หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่ร้านอาหารฝรั่งเศส ณลิน และ ปอร์เช่ ก็ไม่ได้เดินทางไปที่อื่นอีก แต่กลับมาที่บ้านของณลินโดยมีปอร์เช่เป็นคนขับรถมาส่ง บรรยากาศภายในรถเต็มไปด้วยความเงียบสงบ แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ณลินเอนศีรษะพิงเบาะรถ ใบหน้าของเธอฉายแววครุ่นคิด ในขณะที่ปอร์เช่มองตรงไปข้างหน้า แต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย
"ริน... เธอโอเคไหม?" ปอร์เช่เอ่ยถามขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ขณะที่รถแล่นเข้าสู่บริเวณหน้าบ้านของเธอ ณลินหันไปมองเขา เธอเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเป็นห่วงอย่างชัดเจน แววตาที่เธอเคยเมินเฉยมาตลอดในชาติที่แล้ว "ฉันไม่เป็นไรค่ะปอร์เช่... แค่... ตกใจนิดหน่อย" เธอตอบ "ฉันขอโทษนะที่ทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้" ปอร์เช่พูดด้วยความรู้สึกผิด ณลินส่ายหน้า "ไม่หรอกค่ะปอร์เช่ มันไม่ใช่ความผิดของคุณเลย... ตรงกันข้าม... ขอบคุณนะคะที่ปกป้องฉัน" เธอพูดด้วยรอยยิ้มจริงใจ ปอร์เช่ยื่นมือมาแตะที่แก้มของเธออย่างอ่อนโยน "ไม่ว่าเมื่อไหร่ฉันก็จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอนะริน... ไม่ว่าเธอจะเลือกฉันหรือไม่ก็ตาม" คำพูดของเขาทำให้หัวใจของณลินอบอุ่นอย่างประหลาด เธอจับมือของเขาไว้แน่น "ฉันเลือกคุณค่ะปอร์เช่... ฉันเลือกคุณแล้ว" ทันใดนั้นเอง รถยนต์คันหรูของ พิม ก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของณลินอย่างกะทันหัน ทำให้ทั้งสองต้องผละออกจากกัน พิมลงจากรถด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ดวงตาของเธอฉายแววความอิจฉาริษยาและความโกรธอย่างชัดเจน เมื่อเห็นณลินและปอร์เช่กำลังจับมือกัน พิมไม่รีรอที่จะเดินตรงเข้ามาหาทั้งคู่ทันที "พี่รินคะ!" พิมเอ่ยเสียงดัง ก่อนจะพุ่งเข้าไปประชิดตัวณลินราวกับจะต้องการแสดงความเป็นเจ้าของพื้นที่ ณลินถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยอัตโนมัติ เธอมองใบหน้าที่แสร้งทำเป็นเป็นห่วงของน้องสาวบุญธรรมด้วยสายตาเรียบเฉย พิมหันไปมองปอร์เช่ด้วยสายตาที่เย็นชา ก่อนจะหันกลับมาที่ณลิน "พี่รินเป็นอะไรไปคะ? ทำไมถึงได้มีท่าทีแปลกๆ แบบนี้? แล้วพี่ปอร์เช่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?" พิมถามรัวเร็ว "ฉันไม่ได้เป็นอะไร... และปอร์เช่ก็แค่มาส่งฉัน" ณลินตอบอย่างใจเย็น "ส่วนท่าทีของฉัน... ฉันว่ามันไม่แปลกหรอกนะ เพราะฉันไม่ได้เป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว" คำพูดของณลินทำให้พิมถึงกับชะงักไปชั่วขณะ เธอจับต้นชนปลายไม่ถูก ก่อนจะตัดสินใจพุ่งเป้าไปที่ปอร์เช่แทน "พี่ปอร์เช่คะ พิมไม่เข้าใจเลย... ทำไมพี่ถึงได้มากับพี่ริน... ทั้งๆ ที่พี่รินก็กำลังคบกับพี่คิมหันต์อยู่" พิมพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะให้ดูน่าสงสารและไร้เดียงสาที่สุด "มันไม่ถูกต้องเลยนะคะที่พี่ทำแบบนี้" ปอร์เช่ไม่ได้ตอบคำถามของพิม เขากลับหันมามองณลินด้วยสายตาที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังรอให้เธอเป็นคนตอบเอง ณลินยิ้มบางๆ ที่มุมปาก เธอรู้ว่าเกมนี้คือการปะทะกันอย่างตรงไปตรงมา "พิม... เธอคงจำไม่ได้สินะว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงฉันได้บอกอะไรไป?" ณลินเริ่มเปิดฉาก พิมหน้าเสียไปเล็กน้อย แต่ก็พยายามยิ้มสู้ "พี่รินหมายถึงอะไรคะ?" "ฉันบอกว่าฉันกับคิมหันต์กำลังจะเลิกกัน... และฉันก็ไม่ได้คบกับเขาอีกต่อไปแล้ว" ณลินพูดอย่างชัดเจนและดังพอที่จะทำให้พิมต้องเจ็บจี๊ด "และที่สำคัญ... ฉันกลับมาเลือกคนที่ฉันควรจะเลือกตั้งนานแล้ว" เธอจับมือของปอร์เช่ขึ้นมาอย่างจงใจ แล้วยิ้มให้เขาอย่างหวานซึ้ง พิมมองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ ความอิจฉาในใจของเธอปะทุขึ้นจนยากที่จะควบคุม เธอเกลียดณลิน เกลียดที่ณลินเกิดมาพร้อมกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอปรารถนา ตั้งแต่ความรักของพ่อแม่บุญธรรม ไปจนถึงความรักของผู้ชายที่ดีอย่างปอร์เช่ "พี่ริน..." พิมพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเสียใจ "พิมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพี่ถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้... พี่รินคนเก่าหายไปไหนแล้วคะ?" ณลินหัวเราะในลำคอ "ณลินคนเก่าตายไปแล้ว... ตายไปพร้อมกับความโง่เขลาและความไว้ใจที่ฉันเคยมีให้คนอย่างเธอและคิมหันต์" คำพูดนั้นทำให้ใบหน้าของพิมซีดเผือดลงทันที เธอรู้ว่าณลินกำลังพูดถึงอะไร แต่เธอไม่ยอมแพ้ง่ายๆ "พี่รินคะ... พี่พูดอะไรออกไป พิมไม่เข้าใจเลยค่ะ..." พิมทำท่าจะร้องไห้ "พิมรักพี่รินเหมือนพี่สาวแท้ๆ นะคะ ทำไมพี่รินถึงได้ใจร้ายกับพิมขนาดนี้" "รักเหรอ?" ณลินหัวเราะเสียงดังกว่าเดิม "ถ้าเธอรักฉันจริง เธอคงไม่คอยทำตัวเป็นเด็กน้อยน่าสงสารต่อหน้าคิมหันต์หรอกพิม... และเธอคงไม่ไปนั่งกินข้าวกับสามีของฉันในวันที่ฉันควรจะได้ฉลองกับเขาหรอก!" ณลินเน้นคำว่า 'สามี' อย่างจงใจ "พี่ริน..." พิมอ้าปากค้างด้วยความตกใจที่ณลินล่วงรู้ความลับนี้ได้ "พี่รินเข้าใจผิดแล้วนะคะ! พิม... พิมไม่มีทางทำแบบนั้นกับพี่รินแน่นอนค่ะ" "โกหก!" ณลินสวนกลับทันควัน "เธอคิดว่าฉันเป็นคนโง่เหรอพิม? ฉันจำได้ดีนะ วันที่ฉันขอให้คิมหันต์มาทานข้าวที่ร้านนั้น เขาปฏิเสธฉันเพราะบอกว่ามีธุระสำคัญ... แต่ธุระสำคัญของเขากลับเป็นการพาเธอไปฉลองเรื่องสอบผ่าน!" ปอร์เช่ที่ยืนฟังอยู่เงียบๆ ยื่นมือมาจับมือของณลินแน่นเพื่อเป็นการปลอบประโลม ณลินหันไปยิ้มให้เขาอย่างซาบซึ้งใจ พิมเห็นการกระทำของปอร์เช่แล้วยิ่งเดือดดาล "พี่ริน! ทำไมพี่ถึงได้เชื่อคนนอกมากกว่าน้องสาวตัวเองคะ!? พี่ปอร์เช่เขาแค่..." "พอได้แล้วพิม!" ณลินตัดบทเสียงดังฟังชัด "ฉันไม่เคยเชื่อในตัวเธออีกต่อไปแล้ว... และจากนี้ไปก็ไม่ต้องมาทำเป็นน้องสาวผู้แสนดีต่อหน้าฉันอีก! ความสัมพันธ์ของเรามันจบไปแล้ว!" น้ำตาของพิมไหลอาบแก้มทันที แต่ณลินรู้ดีว่ามันเป็นน้ำตาที่มาจากความเจ็บใจ ไม่ใช่ความเสียใจ พิมหันไปมองปอร์เช่ด้วยสายตาที่แสดงความขอความเห็นใจ แต่ปอร์เช่ก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ "พิม... พี่รินเขาพูดถูกแล้ว" เสียงทุ้มต่ำของ คิมหันต์ ดังขึ้นจากด้านหลังของพิม ทำให้ทุกคนหันไปมอง คิมหันต์ลงจากรถด้วยสีหน้าที่ยังคงบึ้งตึง ดวงตาของเขาจ้องมองณลินและปอร์เช่ด้วยความโกรธจัด "ริน... เธอไม่มีสิทธิ์มาตัดสินใจเรื่องของเราคนเดียว!" คิมหันต์เดินเข้ามาหาณลินอย่างคุกคาม ปอร์เช่ก้าวเข้ามาขวางทันที "คุณคิมหันต์ครับ... กรุณาอย่าเข้าใกล้คู่หมั้นของผมครับ" "คู่หมั้นงั้นเหรอ!?" คิมหันต์หัวเราะเยาะ "อย่ามาพูดจาตลกหน่อยเลยปอร์เช่! เธอเพิ่งจะถอนหมั้นกับแกไปเมื่อสามปีที่แล้วเองไม่ใช่รึไง!?" "แต่ตอนนี้ผมกับรินกลับมาคบกันแล้วครับ" ปอร์เช่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น "และครั้งนี้... เธอจะไม่มีทางถอนหมั้นกับผมอีกแน่นอน" ณลินยิ้มกว้าง เธอไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อน การที่ได้เห็นผู้ชายสองคนแย่งชิงความเป็นเจ้าของในตัวเธอ ไม่ใช่เพราะเธอต้องการความสำคัญ แต่เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเธอเลือกคนไม่ผิดอีกต่อไปแล้ว "พี่คิมหันต์คะ! พี่ต้องจัดการกับพี่รินให้ได้นะคะ! พี่รินเป็นของพี่นะ!" พิมที่ยืนอยู่ข้างๆ คิมหันต์เอ่ยขึ้นอย่างลนลาน เธอมองณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา ณลินยิ้มเยาะ "พิม... เธอไม่ต้องมาทำเป็นห่วงคิมหันต์หรอก... ฉันว่าเธอควรจะดีใจมากกว่านะที่ฉันยอมยกผู้ชายเฮงซวยแบบนี้ให้เธอ" "ริน!" คิมหันต์ตะคอกขึ้นมาอย่างสุดจะทน เขายื่นมือออกไปจะจับแขนณลิน แต่ปอร์เช่ก็คว้ามือของเขาไว้ก่อน "อย่าแตะต้องเธอครับ... ถ้าคุณไม่อยากมีเรื่อง" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเด็ดขาด "แก! แกกล้าดียังไงมาขวางฉัน!" คิมหันต์กระชากมือกลับ แต่ปอร์เช่ก็ไม่ยอมปล่อย เหตุการณ์เริ่มบานปลาย พิมที่เห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้ามารั้งคิมหันต์ไว้ "พี่คิมหันต์คะ... อย่าเลยนะคะ... พิมไม่อยากให้พี่มีเรื่อง" "พิม... ปล่อยฉัน!" คิมหันต์พยายามสะบัดมือออก แต่พิมก็ไม่ยอมปล่อย ณลินมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสมเพช "เห็นไหมคะปอร์เช่... นี่แหละค่ะชีวิตคู่ที่ฉันเคยปรารถนา" ณลินพูดประชดประชัน "ผู้ชายที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ และมีน้องสาวบุญธรรมที่คอยทำตัวเป็นภรรยาอยู่ตลอดเวลา" คำพูดของณลินทำให้ทั้งคิมหันต์และพิมหน้าชาไปตามๆ กัน ณลินรู้สึกได้ถึงความสะใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอได้แก้แค้นในสิ่งที่เธอเคยได้รับในชาติที่แล้วอย่างสาสม "คิมหันต์... ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกอย่างระหว่างเรามันจบลงแล้ว" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง "ส่วนบริษัทของพี่... ฉันขอให้พี่โชคดีกับมันแล้วกันนะคะ เพราะต่อจากนี้ไป... ฉันจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมันอีกต่อไปแล้ว" คำพูดของณลินทำให้คิมหันต์หน้าซีดเผือดทันที เพราะเขารู้ดีว่าถ้าไม่มีแรงหนุนจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของพ่อณลิน บริษัทของเขาจะไม่มีทางเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ และความฝันของเขาก็จะพังทลายลงในพริบตา "ริน! เธอจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ!" คิมหันต์ตะโกน "ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ?" ณลินยิ้ม "ฉันเป็นอิสระแล้ว และฉันก็มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจทุกอย่างในชีวิตของฉัน... และฉันก็จะเลือกคนที่จะดูแลฉันอย่างแท้จริง... ไม่ใช่คนที่คอยแต่จะหลอกลวงฉันไปวันๆ" เธอหันไปมองปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเชื่อมั่น ปอร์เช่ส่งยิ้มอ่อนโยนกลับมาให้เธอ ก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามาโอบกอดณลินไว้แน่น "ไปเถอะค่ะปอร์เช่... เราไม่ต้องสนใจคนพวกนี้แล้ว" ณลินพึมพำ "ครับ... เราไปกันเถอะครับ" ปอร์เช่พยักหน้า ก่อนจะพาณลินเดินตรงเข้าไปในบ้านอย่างไม่แยแส ปล่อยให้คิมหันต์และพิมยืนอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ความอับอาย และความพ่ายแพ้ข่าวการจับกุม คิมหันต์ และเครือข่ายมาเฟียที่นำโดย เฮียเกา แพร่สะพัดไปทั่วทั้งวงการธุรกิจและสังคมออนไลน์ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ทุกหน้าหนังสือพิมพ์และทุกสำนักข่าวต่างพาดหัวข่าวใหญ่ถึงจุดจบของชายผู้บ้าคลั่งที่พยายามทำร้าย ณลินและ ปอร์เช่ ณลินและปอร์เช่ที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านของพวกเขามองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความโล่งอก ความดีใจ และความเศร้าในสิ่งที่เกิดขึ้น"ในที่สุด...เขาก็ได้รับผลกรรมในสิ่งที่เขาทำลงไปแล้วนะคะ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ใช่ครับ...ริน...แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันจบลงแบบนี้เลย"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ณลินมองไปที่ปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "คุณรู้สึกสงสารเขาเหรอคะ?""ผมไม่ได้สงสารเขาหรอก...ผมแค่รู้สึกเสียใจ...เสียใจที่คนคนหนึ่ง...ต้องจมอยู่กับความแค้นและความอิจฉาริษยาจนชีวิตของเขาต้องพังทลายลงไปแบบนี้" ปอร์เช่พูดพร้อมกับมองไปที่ณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน "ริน...ผมไม่อยากให้เราเป็นเหมือนเขา...เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะครั
ควันไฟสีดำลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งโกดังร้างที่ตอนนี้กลายเป็นสนามรบไปแล้ว เสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและร่างของลูกน้องที่นอนจมกองเลือด ปอร์เช่ ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มือของเขากำปืนไว้แน่น ราวกับจะส่งความแค้นทั้งหมดไปที่ คิมหันต์ และ เฮียเกา"ปอร์เช่! แกยังไม่ตายงั้นเหรอ!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ผมไม่ได้ตายหรอกครับ...คุณคิมหันต์...ผมแค่แกล้งทำเป็นตาย...เพื่อที่จะได้ล่อให้แกออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ปอร์เช่พูดเลยแม้แต่น้อย"โกหก! แกกำลังโกหกฉัน!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงในขณะนั้นเอง เฮียเกา ก็เดินเข้ามาหาปอร์เช่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "แกมันเลว! เลวที่สุด!"ปอร์เช่หัวเราะในลำคอ "ผมไม่ได้เลวหรอกครับ...เฮียเกา...ผมแค่ทำให้พวกคุณได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้นเอง"คำพูดของปอร์เช่ทำให้เฮียเกาถึงกับเงียบไป เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะสิ่งที่ปอร์เช่พูดคื
ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ ที่โรงพยาบาลจนอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว ในขณะที่ปอร์เช่กำลังวางแผนการที่ซับซ้อนเพื่อที่จะจัดการกับ คิมหันต์ และ เฮียเกา ให้สิ้นซากในค่ำคืนหนึ่ง ปอร์เช่ได้ให้ลูกน้องที่ปลอมตัวเป็นหมอพาเขาไปยังที่ซ่อนของพวกตัวร้าย ลูกน้องของปอร์เช่ได้สลับตัวเขาและปลอมตัวเป็นปอร์เช่ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างแนบเนียน ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้ปอร์เช่กำลังจะไปที่ไหนรถยนต์คันหรูของปอร์เช่ได้ขับมาจอดที่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง ชายในชุดสูทสีดำจำนวนหนึ่งได้เดินออกมาจากรถแล้วเปิดประตูรถให้ปอร์เช่ ปอร์เช่เดินออกมาจากรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"แกแน่ใจนะว่าพวกมันอยู่ที่นี่?" ปอร์เช่ถามชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่สุดชายคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย "แน่ใจครับ...บอส...พวกมันอยู่ที่นี่กันหมดเลย"ปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ดี...เราไปจัดการพวกมันกันเถอะ"ปอร์เช่และลูกน้องของเขาเดินเข้าไปในโกดังร้างแห่งนั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาเดินผ่านโกดังไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะไปที่ไหนในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ และ เฮียเกา กำลังนั่งดื่มเบียร
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้
เช้าวันรุ่งขึ้น ณลินตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของปอร์เช่ เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกได้ถึงความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ ณลินเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่กำลังหลับอย่างสงบ เธอรู้สึกได้ถึงความรักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"คุณตื่นแล้วเหรอคะ?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมตื่นมานานแล้ว...ผมแค่อยากมองหน้าเธอในตอนที่เธอกำลังหลับ"ณลินกอดเขาไว้แน่น "ฉันมีความสุขมากเลยค่ะปอร์เช่""ผมเองก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ...ริน" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก "ริน...ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดี "เรื่องอะไรคะ?""ผมจะให้ลูกน้องของผมปล่อยข่าวออกไปว่าอาการของผมแย่ลง...และผมก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน" ปอร์เช่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ผมจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้คิมหันต์กับเฮียเกาออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ได้"ปอร์เช่! คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ! มันอันตรายเกินไป!" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ผมรู้ครับ..
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาตลอดทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธ