Войтиตอนที่ 9 วาสนาพานพบ
เซี่ยวจ้านพยายามสะบัดนางออกจากแขนข้างซ้ายของเขาแต่ทำอย่างไรก็ไม่มีท่าทีว่าจะสลัดนางหลุดมือของนางเหนียวยิ่งกว่าหนวดปลาหมึกเสียอีก “ปล่อยข้านะ อย่ามาแตะตัวข้าเอาแขนของท่านออกไปจากกายข้าเดี๋ยวนี้” “ไม่ ! ทำไมถึงหวงตัวนักหรือว่าเจ้าต้องการค่าตัวได้วันนี้ข้าจะจ้างเจ้าให้เดินเล่นกับข้าและไปส่งข้าที่เรือน อีกอย่างข้ารู้แล้วว่าเรือนของเจ้าอยู่ที่ใดเจ้าไม่มีทางหนีข้าไปทางใดได้หรอกนะจางเซียวจ้าน และอย่าคิดจะปฏิเสธข้าไม่อย่างนั้นข้าจะใช้อำนาจของข้าบังคับเจ้า” “ฮึ!! แล้วที่ท่านทำอยู่นี่ไม่บังคับหรืออย่างไร ข้ามิได้เต็มใจท่านบังคับขู่เข็ญข้าไม่พอยังจะเอาเบี้ยมาฟาดหน้าข้าอีกราวกับว่าดูถูกข้า นี่หรือที่เรียกว่าถูกชะตาข้า ไม่ต่างจากบุตรขุนนางที่เอาแต่ใจตนเองเมื่ออยากได้ของที่ต้องการก็ใช้อำนาจเพื่อได้มันมาเมื่อไหร่ที่เล่นเสร็จเบื่อก็ขว้างมันทิ้งหรือว่ากำจัดมันไปให้พ้นสายตา ในที่สุดท่านก็เผยให้เห็นว่าท่านเป็นสตรีเช่นไร” เสี่ยวเอ๋อร์เพียงแค่ขู่เขาเท่านั้นเพราะอยากให้เขาเที่ยวเล่นกับนางแต่ไม่คิดเลยว่าชายผู้นี้จะอคติคิดว่านางเป็นสตรีเช่นนั้นไปได้ “เฮ้องั้นบอกมาว่าข้าจะต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะเข้าใจข้า และไม่ผลักไสข้าเสียที” “ออกไปห่าง ๆ และอย่ามาเจอกันอีกนั่นคือความต้องการของข้า” “อะไรกัน เมื่อครู่นายไม่ได้ยินที่พี่สาวของเจ้าบอกหรืออย่างไร รุ่งเช้าเราต้องเจอกันอีกโอ๊ะ...! ดูนั่นสิ สวยงามมากเลย เราไปด้านนู้นกันเถอะ" เสี่ยวเอ๋อร์ยิ้มกว้างปล่อยมือจากแขนของเซียวจ้านเปลี่ยนมาเป็นจับมือของเขาวิ่งไปด้านหน้าเพื่อหนีสาวใช้ของตัวเอง นางอยากอยู่กับเซียวจ้านเพียงลำพังยิ่งเขาไม่สนใจนางยิ่งไม่อยากปล่อยเขาไป หายากจริง ๆ บุรุษที่ไม่หวังตำแหน่งหวังสมบัติของตระกูลนาง เซียวจ้านไม่ทันตั้งตัววิ่งตามเสี่ยวเอ๋อร์ไปเพราะหากไม่ขยับคงเป็นเขาที่ต้องล้มลงกับพื้น พลุที่ปะทุขึ้นบนฟากฟ้าส่องสว่างงดงาม ทุกสายตาจ้องมองเชยชมความงดงามเด็ก ๆ ก็พากันร้องกรี๊ดกร๊าดอย่างสนุกสนาน “พี่เซี่ยวซือเราปล่อยให้พี่เซียวจ้านไปกับสตรีนางนั้นจะดีหรือขอรับ เมื่อครู่ข้าเห็นสีหน้าของพี่เซียวจ้านไม่ได้ชอบใจสักนิด ข้าคิดว่าพี่เซี่ยวซือบังคับเกินไปแล้ว” “เจ้าเลิกเป็นกังวลเกี่ยวกับเซียวจ้านเถอะ ข้าเชื่อว่าเสี่ยวเอ๋อร์จะทำให้พี่รองของเจ้าใจอ่อนแน่ ๆ แม้จะดูเหมือนข้าบังคับแต่ข้าอยากให้เซียวจ้านพบเจอสตรีที่ดีและชอบเขาจริง ๆ นั่นคือภารกิจที่ข้าต้องทำวันหนึ่งที่ข้าต้องจากพวกเจ้าไปจะได้หมดห่วงส่วนเจ้าข้าเองพยายามเก็บเบี้ยอีกไม่นานข้าจะส่งเจ้าร่ำเรียนและจะพยายามส่งเจ้าสอบบัณฑิตให้ได้ เจ้าจะได้เป็นขุนนางรีบตำแหน่งมีหน้ามีตา เมื่อนั้นข้าจะได้หมดห่วงเข้าใจหรือไม่?” ดวงตาของเซียวหลงคลอแดงเมื่อคิดถึงวันที่เซี่ยวซือจะจากไปแม้ว่านางไม่ใช่พี่สาวจริง ๆ แต่ตอนนี้เขาเริ่มผูกพันและชอบสตรีผู้นี้มากกว่าพี่สาวที่อ่อนแอของตนเสียด้วยซ้ำ “อะไรกัน อย่าทำหน้าเช่นนั้นสิวันนี้เจ้าอยากมาเที่ยว เที่ยวเล่นกันให้สนุกเถอะดูนั่นสิ พลุกำลังขึ้นบนท้องฟ้างดงามจริง ๆ ” เซี่ยวซือเห็นสีหน้าของเด็กชายก็พอเดาออกว่าเด็กชายคิดอะไรนางไม่อยากให้วันที่สนุก ๆ กลับกลายเป็นเรื่องเศร้ารีบดันกายของเซียวหลงไปที่สะพานข้ามแม่น้ำเพื่อดูพลุกำลังถูกจุดขึ้นไปส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า ทั้งสองเดินเที่ยวงานอย่างสนุกสนาน ซื้อของกินตามที่เซียวหลงอยากกิน เดินจนเหนื่อยจึงหยุดดูการแสดงเพื่อพักก่อนที่จะพากันกลับเรือน ครั้นนั้นเองเสียงทุ้มต่ำได้เอ่ยขึ้นข้าง ๆ ใบหูของเซี่ยวซือจนนางสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ “เจอกันอีกแล้วโชคชะตาคงนำพาให้เราได้พบกันอีก ” “ใครเขาอยากเจอกัน เซียวหลงเราไปที่อื่นกันเถอะ ข้าไม่อยากดูการแสดง" เซี่ยวซือใบหน้าบูดบึ้งทันทีเมื่อเห็นคนที่นางไม่อยากเจอ “ขอรับท่านพี่” “อะไรกัน ตอนกลางวันเป็นเจ้ามิใช่หรือที่เข้าหาข้า อยากจะจับตัวข้าส่งทางการตอนนี้หนีข้าเสียได้” เขาไม่ยอมแพ้ยังคงเดินตามหลังนางติด ๆ เขารู้แล้วว่านางมีนามว่าอันใดและอยู่ที่ใด ยิ่งเขารู้จักชีวิตของนางก็ยิ่งอยากทำความรู้สึกสตรีที่ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความเป็นอยู่ของน้องชายทั้งสองช่างน่านับถือ “นั่นคงเป็นเพราะข้าดวงซวย ไม่น่าเลยจริง ๆ หากย้อนเวลากลับไปได้ข้าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด อย่าเดินตามมานะข้าไม่อยากอยู่ใกล้ชายบ้ากามเช่นเจ้า” เซี่ยวซือหันขวับกลับมาพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มขรึมสายตาจ้องเขม็งขู่ไม่ให้เขาตามตนเองกับน้องชายกลัวว่าได้เกิดอันตราย จึงรีบจับมือเซียวหลงเดินกึ่งวิ่งหนีเขามาจนกระทั่งเดินมาไกล นางหันหลังไปมองไม่เจอเขาแล้วจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ การกระทำของนางทำให้เซียวหลงไม่เข้าใจ “ท่านพี่เหตุใดท่านต้องวิ่งหนีบุรุษผู้นั้นด้วยเล่า ข้ามองดูไม่เหมือนว่าเขาจะเป็นคนไม่ดีเลยนะขอรับ แถมการแต่งตัวก็เหมือนจะเป็นคนร่ำรวยฐานะดีไม่น้อย เห็นหรือไม่ขอรับตอนนี้ท่านรู้สึกเช่นเดียวกับพี่รองหรือยังหากไม่ชอบใจก็ไม่อยากอยู่ใกล้ชิด” โป้ก !! เสียงมือของเซี่ยวซือโขกลงที่ศีรษะของเซียวหลงเพื่อทำโทษที่เขาบังอาจต่อว่าพี่สาว “นั่นเพราะเจ้าไม่รู้ต่างหากเล่า มันต่างกันกับเซียวจ้าน ชายผู้นั้นเป็นชายวิตถารแอบดูสตรีเปลืองผ้าอาบน้ำตอนกลางวันที่ข้าให้เจ้ายืนคอยอยู่ตรงถนนในหมู่บ้านจำได้หรือไม่ ! เจ้าไม่เห็นสายตาของเขาเมื่อครู่หรือไงกันน่ากลัวเสียจนข้าขนลุกซู่ไปหมด เรากลับเรือนกันเถอะข้าไม่อยากอยู่แล้วกลัวว่าจะเจอเขาอีก” “ข้าเจ็บนะขอรับ ผู้ใดจะรู้ละก็ท่านพี่ไม่เล่าให้ข้าฟังนี่น่า อีกอย่างข้าก็ยังคิดว่าเขาเป็นคนดีนะขอรับ” “เจ้านี่อ่อนต่อโลกเสียจริง คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจดังนั้นห้ามเชื่อใจผู้ใดเด็ดขาดเข้าใจหรือไม่? ” “ขอรับ ๆ แต่ว่าก่อนกลับข้าขอกินถังหูลู่ได้หรือไม่ขอรับ ร้านอยู่ตรงนั้นพอดี” เซียวหลงพยักหน้ารับรู้คำสอนของพี่สาวก่อนที่สายตาจะมองไปเห็นขนมถังหูลู่ที่อยู่ตรงหน้า “ได้สิอย่างนั้นเราไปซื้อถังหูลู่แล้วกลับเรือนกันเถอะ ส่วนเซียวจ้านตอนนี้เขาเติบโตมากพอที่จะดูแลตนเองได้คงไม่ต้องเป็นห่วง” “ขอรับ” ทั้งสองเดินไปข้างหน้า ครานั้นเองเซี่ยวซือเห็นหญิงชราคนหนึ่งจับมือกับหลานสาวตัวน้อยแต่งกายมอมแมมไม่ต่างจากพวกนางเมื่อก่อน กำลังยืนจ้องมองไปยังร้านถังหูลู่และผู้คนที่มาซื้อกินอย่างเอร็ดอร่อย สายตาของหญิงชรามองหลานสาวเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตาที่ไม่อาจจะซื้อขนมนั่นให้หลานสาวได้ เด็กน้อยเองก็เข้าใจว่าท่านยายไม่มีเบี้ยมากพอที่ซื้อได้ ข้าวยังอดมื้อกินมื้อบางวันได้กินเพียงแค่หมั่นโถวแข็ง ๆ ที่ชาวบ้านโยนทิ้งเท่านั้น “ท่านยายเรากลับเรือนกันเถอะเจ้าค่ะ” "ยายผู้นี้ขอโทษนะชิงชิงที่ไม่สามารถซื้อขนมให้เจ้าได้ เป็นเพราะความยากจนของตระกูลเราแท้ ๆ และความผิดของยายเองที่เลี้ยงเจ้ามาอย่างดีไม่ได้" “ผู้ใดบอกกันเจ้าคะ ท่านยายของข้าดูแลข้าดีที่สุดเพียงพาข้ามาเที่ยวค่ำคืนนี้ข้าก็ดีใจมากแล้วเจ้าค่ะ ” เด็กน้อยหันไปมองถังหูลู่อีกคราก่อนจะก้มหน้าลงต่ำกลืนน้ำลายอึกหนึ่งจับมือหญิงชราเดินหันหลังไป บทสนทนาทั้งหมดเซี่ยวซือกับเซียวหลงได้ยินก็พากันมองหน้ากัน เหมือนพวกเขาเมื่อก่อนไม่มีผิด เซี่ยวซือจึงรีบเดินไปซื้อขนมถังหูลู่จำนวนสี่ไม้แบ่งกับเซียวหลงคนละส่วนอีกสองไม้นางรีบเดินตามหลังเด็กหญิงกับหญิงชราไปติด ๆ เพื่อนำขนมให้เด็กหญิงได้กิน สิ่งนี้นางไม่ได้ทำเพื่อต้องการคะแนนแต่ทว่านางเข้าใจความรู้สึกของทั้งสองเป็นอย่างดีต่างหากตอนที่ 43 ใจอ่อนตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว เซียวจ้านเห็นสีหน้าแววตาของเหวินโม่หลานแม้เขาไม่ได้แสดงออกมามากนักแต่ก็ปกปิดเซียวจ้านมิได้ว่าเขาเศร้าและเสียใจเพียงใดคนที่ฟื้นคืนกลับมามิใช่สตรีที่เขารัก หลังจากคุยกับเซี่ยวซือเสร็จเซียวจ้านให้พี่สาวนอนพักผ่อนก่อนที่ตนจะเดินออกมาที่หน้าเรือนเห็นโม่หลานจ้องมองไปยังเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอย“ท่านจะทำอย่างไรต่อไปขอรับ ข้าเข้าใจความรู้สึกท่านดี ข้าเองก็ไม่ต่างจากท่านสักนิดแม้ว่าคนที่กลับมาจะเป็นพี่สาวตัวจริงของข้าแต่ข้าก็อยากให้พี่สาวคนนั้นกลับมาเช่นเดียวกัน เฮ้อ ! ชีวิตคนเราช่างน่าเศร้านะขอรับ มาให้พบเจอผูกพันและจากลาแม้ว่าจะจากลากันเมื่อไหร่ก็ต้องถึงคงวันจากลาอยู่ดี อากาศเย็น ๆ อย่างนี้เราไปดื่มสุราให้ร่างกายอบอุ่นกันเถอะขอรับ” “นั่นสินะ มาให้ผูกพันและยังไม่ได้ร่ำลาด้วยซ้ำ เอาสิข้าเองก็อยากดื่มสุราเช่นเดียวกัน” ทั้งสองเดินทางไปที่โรงเตี๊ยมในหมู่บ้านดื่มสุรากันอย่างเศร้าใจเมื่อเริ่มเมาทั้งสองก็เอ่ยถึงเซี่ยวซือด้วยความคิดถึง“เฮ้อ ! ข้าคิดว่าเมาแล้วจะเลิกคิดถึงแต่ไม่เลย ยิ่งข้าดื่มเข้าไปมากเท่าไหร่ข้ายิ่งเห็นใบหน้าของนางชัดเจน ข้าคิดถึงเจ้าเหล
ตอนที่ 42 ท่านพี่ตัวจริง“ท่านพี่ไม่ใช่คนของโลกนี้ ท่านพี่มาจากที่อื่นขอรับ ” เซียวจ้านได้เล่าเรื่องทั้งหมดของเซี่ยวซือให้โม่หลานได้รับรู้ ตอนนี้เขารู้ความจริงหมดทุกอย่างราวกับโลกหยุดหมุน มองไปทางใดเคว้งคว้างไปหมด อากาศที่หนาวเหน็บยังหนาวไม่เท่าหัวใจของเขายามนี้ หวนย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านมาและจำคำถามที่นางถามเขาออกมาได้ ว่าวันหนึ่งนางไม่เหมือนเดิมเขาจะยังรักอยู่มั้ย ตอนนี้สติของโม่หลานไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาเดินผ่าหิมะที่ตกลงมาอย่างโหมกระหน่ำ ไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมายเพราะยอมรับความจริงไม่ได้เขาเสียใจปวดร้าวทั้งหัวใจ ไม่ใช่แต่เขารักนางไม่ได้แต่เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่านางคือใครและอยู่ที่ใด สู้ตายจากกันไปยังดีกว่ารู้ความจริงเรื่องนี้ “ทำไม ทำไมต้องเกิดเรื่องบ้า ๆ นี่ขึ้นด้วย จริงสิตอนนี้ข้าจะมาเสียใจจนไม่ได้สติเช่นนี้ไม่ได้ ข้าจะต้องตามหาหมอที่เก่งที่สุด ใช่แล้วหมอหลวงต้องรักษานางได้แน่ ๆ ” เมื่อคิดได้อย่างนั้นโม่หลานรีบเดินทางกลับเรือนของเขาเพื่อให้เจิงหลงไปตามหมอหลวงที่วังหลวงมารักษาเซี่ยวซือ ตอนนั้นเองเขาได้พบกับลี่เหมยเอ๋อที่กำลังมาหาเขาที่เรือนพอดี นางไม่ใช่คู่หมั้
ตอนที่ 41 ข้าไม่ต้องการเช่นนี้ หลังจากที่ลี่เหมยเอ๋อกลับไปเซี่ยวซือกลับห้องคิดทบทวนทุกอย่างและเสียใจที่ตนเองรักคนที่มีเจ้าของ นางไม่อยากให้เขามาตกต่ำอยู่กับนางที่นี่หากสตรีนางนั้นเอ่ยความจริง นางจะเป็นคนเดินออกไปจากโม่หลานเอง ก๊อก ๆ เสียงประตูดังขึ้นอีกครั้ง เซี่ยวซือหันขวับไปมอง พบสาวใช้คนเดิมเดินเข้ามา“มีอะไรอีกอย่างนั้นหรือ ? หรือว่าสตรีคนเมื่อครู่นี้นางกลับมา”“มิใช่เจ้าค่ะ มีคุณชายตัวน้อยมาที่นี่บอกว่าเขาคือคุณชายน้อยจางเซียวหลงเจ้าค่ะ”เซียวซือได้ยินลุกขึ้นพรวดวิ่งออกไปหาน้องชายทันที ไม่คิดเลยว่าเขาจะกลับมาเร็วขนาดนี้ แต่ก้มาในช่วงที่นางต้องการเช่นเดียวกัน “เซียวหลงเจ้ากลับมาไม่เห็นแจ้งข้าล่วงหน้า ข้าจะได้ไปรับเจ้า”“ข้าอยากเดินทางกลับมาด้วยตนเองขอรับ ก่อนมาที่นี่ข้าไปหาพี่เซียวจ้านมาแล้ว ที่นี่กว้างใหญ่จริง ๆ ขอรับ ”“เจ้าไปแจ้งพ่อครัวทำซุปร้อน ๆ มาต้อนรับคุณชายน้อยจางเซียวหลงและให้สาวใช้ไปจัดเตรียมห้องให้เขาด้วย” “เจ้าค่ะคุณหนู” สาวใช้ก้มโค้งรับคำสั่งของเจ้านาย“เจ้าเดินทางมาคงหนาวมาก ๆ สินะนั่งลงตรงนี้ก่อนเดี๋ยวข้าจะไปเอาผ้าห่มมาห่มกายให้เจ้าจะได้คลายความหนาว”
ตอนที่ 40 มีพบต้องมีจาก“เจ้าจะเศร้าทำไมกัน ข้าไม่ได้ต้องบอกเจ้าแล้วให้เจ้าเศร้าแบบนี้เสียหน่อย ที่ข้ามาวันนี้มิใช่ว่าข้ามาลา เพียงแต่ข้าคิดถึงเจ้าท่านนั้น แต่ถึงแม้ว่าข้าจะไปในวันใด ตอนนี้ข้าก็หมดห่วงแล้ว เซียวจ้านมีครอบครัวที่ดี ส่วนเจ้าก็ได้เรียนมีความรู้ติดตัว ดีไม่ใช่หรือหากวันใดข้าจากพวกเจ้าไปพี่สาวตัวจริงของพวกเจ้าก็กลับมา ” เซียวหลงกัดริมฝีปากกอดเซี่ยวซือแน่นน้ำตาไหลรินอาบแก้มใจหายอย่างบอกไม่ถูก “แม้ว่าข้าจะรักพี่สาวของข้า แต่ท่านก็เป็นพี่สาวของข้าเช่นเดียวกัน ข้ารักท่านนะขอรับ”“เด็กน้อยเจ้านี่นะยังขี้แยไม่เลิกจริง ๆ หากวันหนึ่งข้าจากไปจริง ๆ พวกเจ้าอย่าโศกเศร้าเสียใจเลยให้คิดถึงวันเวลาที่เรามีความทรงจำดี ๆ ต่อกัน และจำคำสอนของข้าเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาหรือหนทางเอาตัวรอด ข้าเชื่อพวกเจ้าจะเติบโตและใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี” เซี่ยวซือลูบศีรษะของเซียวหลงเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มแสนเศร้ามิใช่นางไม่เสียใจและเสียดายหากต้องกลับไปจริง ๆ แต่นี่เป็นสิ่งที่นางไม่สามารถเลือกได้เลย เซียวจ้านเห็นเช่นนั้นเข้าไปกอดทั้งสองกลมเกรียว พูดคุยกันอยู่พักใหญ่จนถึงเวลาแยกจาก เซี่ยวซือไม่ลืม
ตอนที่39 กลับเรือน สองเท้าหยุดชะงักไม่กล้าจะเดินต่อทุกอย่างเบื้องหน้าราวกับความฝันจนคิดถึงน้อง ๆ ทั้งสองหากสองคนนั้นมาด้วยคงดีใจไม่น้อย“ตกใจสินะ ไม่ต้องเกร็งต่อจากนี้ทุกคนที่นี่ล้วนเป็นสาวใช้ของเจ้า ไม่ว่าเจ้าต้องการอันใดเพียงแค่เรียกใช้พวกนางทุกคนก็ทำให้เจ้าทุกอย่าง มาเถอะข้าจะพาเจ้าเดินดูรอบ ๆ เรือน ส่วนพวกเจ้าไปทำงานของพวกเจ้าได้แล้ว ต่อจากนี้ต้องดูแลคุณหนูจางเซี่ยวซือให้เป็นอย่างดี หากผู้ใดไม่เชื่อฟังข้าจะจัดการอย่างไร้ความปราณีและความเมตตา“ขอรับ/เจ้าค่ะ” ทุกคนต่างแยกย้าย โม่หลานพาเซี่ยวซือเดินรอบ ๆ เรือน เรือนหลังนี้กว้างใหญ่เกินไปสำหรับนาง แม้จะมีสาวใช้มากมาย จู่ ๆ นางกลับใจหายขึ้นมา“เป็นอะไรไปทำไมสีหน้าถึงดูไม่ดีเช่นนั้น”“ข้าแค่คิดว่าที่นี่กว้างใหญ่เกินไปสำหรับข้า ไม่ว่าจะมองไปที่ใดข้าไม่คุ้นชินเลยสักนิด ”“ที่นี่คือบ้านของเจ้า เจ้าคือเจ้าของที่นี่ ข้าเข้าใจว่าเจ้าอาจจะเหงาเพราะไม่มีน้องชายมาอยู่ด้วย แต่ไม่นานเกินรอข้าจะมาอยู่ที่นี่กับเจ้าแน่ ๆ เอาไว้รอให้ข้าสะสางเรื่องของข้าเสร็จเมื่อไหร่ เรามาแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่นี่มีบุตรสัก 3-4 คนเจ้าจะได้ไม่เหงา ดีหรื
ตอนที่ 38 เปิดใจเรือนของเซี่ยวซือ ตื่นเช้ามาวันนี้นางเตรียมอาหารสำหรับสามคนเสร็จแล้วกำลังเดินไปที่ร้านขายของหน้าเรือน ตอนนั้นเองเห็นเสี่ยวเอ๋อร์นางปัดกวาดเช็ดถูร้านอย่างขมักขะเม้นจนนางแปลกใจ “เสี่ยวเอ๋อร์เจ้าทำงานพวกนี้เป็นด้วยอย่างนั้นหรือ ไม่เห็นต้องทำเลยข้ามิได้บังคับให้เจ้าต้องทำงานเสียหน่อย ตอนนี้เจ้าคอยดูแลเซียวจ้านก็พอแล้ว”“ข้าไม่อยากให้ตนเองเป็นภาระให้พี่เซี่ยวซือเจ้าคะ แม้ว่าข้าไม่เคยทำงานแต่ก็ใช่ว่าจะเรียนรู้มิได้ จะให้ข้านั่งกินนอนกินเหมือนตอนเป็นคุณหนูมู่เสี่ยวเอ๋อร์ได้อย่างไร”“เช่นนั้นก็ดี จริงสิข้ามีเรื่องหนึ่งจะบอกเจ้ากับเซียวจ้าน หลังจากที่เหวินโม่หลานกลับมาเขาจะพาเราทุกคนเดินทางไปที่เรือนตระกูลจาง พวกของใช้ทุกอย่างคงต้องขนไปด้วย คิดแล้วก็ใจหายข้าไม่อยากทิ้งที่นี่ไปเลย ที่นี่คือเรือนที่ข้ารักและผูกพัน ไหนจะแม่ไก่เต็มเล้าไหนจะผักที่กำลังเติบโต อีกอย่างร้านค้าของข้าที่เปิดอยู่ที่นี่กำลังไปได้ด้วยดีแถมยังมีอีกคนที่ข้าเป็นห่วงคือชิงชิงกับท่านยายของนาง หากเราเดินทางไปอยู่ที่เรือนตระกูลจางอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งนางคงกลับไปใช้ชีวิตอด ๆ อยาก ๆ เช่นเดิม ข้าไม่อยากจะทิ้งนางไปเ







