สหรัฐอเมริกา
“ข่าวเด็ดสดๆใหม่ๆค่ะคุณผู้ชม! ประธานแห่ง K กรุ๊ป ผู้ที่เพิ่งก้าวขึ้นรับตำแหน่งได้เพียงหนึ่งปี กลับสามารถสร้างอิทธิพลในแวดวงธุรกิจได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ประเด็นร้อนที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องอิทธิพลของคุณปอร์เช่นะคะ แต่เป็นเรื่องของหัวใจค่ะ! ใช่แล้วค่ะ ภาพหลุดของคุณปอร์เช่กับซูเปอร์สตาร์ชื่อดังหน้าใหม่อย่างคุณกอบัว กำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล! หลายคนกำลังลุ้นกันว่า หรือทั้งคู่จะแอบคบหากันอยู่จริงๆ!?” หญิงสาวผู้หนึ่งนั่งฟังข่าวจากอีกซีกโลกผ่านไอแพดในมือ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แววตาทั้งคมและเย็นชาราวกับรู้อะไรมากกว่าที่ใครคิด “หึ…คบกันงั้นเหรอ…น่าสนใจดีนี่” “คุณหนูเล็กคะ คุณท่านให้มาตามให้ไปรับประทานของว่างค่ะ” เสียงของสาวใช้ดังขึ้นจากหน้าห้อง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเพียงเล็กน้อยก่อนตะโกนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เดี๋ยวเจสลงไปค่ะ” ⸻ ด้านล่างคฤหาสน์ “มาเร็วสิหลานรัก ย่าทำของโปรดไว้ให้เพียบเลยนะจ๊ะ” มาเดลิน ผู้เป็นย่าเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม ขณะหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร เจสสิก้ารีบเดินตรงไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยของว่างหน้าตาน่ารับประทาน และนั่งลงโดยไม่รอช้า ระหว่างที่กำลังรับประทาน เธอก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนไม่ได้เตรียมใจจะพูดมันมาก่อน “ย่าคะ…เจสเรียนจบแล้ว เจสคิดว่า…คงถึงเวลาต้องกลับไทย…” “อื้ม…ย่าก็กำลังจะพูดเรื่องนี้อยู่พอดีเลย” “คะ?” หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ย่าจะให้ อเล็กซ์ กลับไปกับหนู…ในฐานะคู่หมั้น” “อะ…อเล็กซ์!?” คนฟังถึงกับเบิกตากว้าง แทบจะวางช้อนในมือลงไม่ทัน และในจังหวะนั้นเอง ประตูห้องก็ค่อยๆเปิดออก “ใช่จ้ะ นั่นไง…มาพอดีเลย” ชายร่างสูงที่คุ้นเคยก้าวเข้ามาภายในห้อง สีหน้าเรียบเฉยแต่แฝงไว้ด้วยบางอย่างที่ลึกล้ำ ทำเอาเจสสิก้าเงียบกริบ…ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นใบหน้าของเขาอีกครั้ง “สวัสดีครับคุณย่า” “จ้ะ นั่งก่อนสิจ๊ะ” “ขอบคุณครับ” อเล็กซ์ทรุดนั่งลงตรงข้ามกับเจสสิก้า เธอยังคงจ้องเขาโดยไม่กระพริบตา แทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าด้วยซํ้า “อ…อเล็กซ์…” เสียงของเธอแผ่วเบา ราวกับลมหายใจหลุดจากปากโดยไม่ตั้งใจ ภายในใจปั่นป่วนราวพายุหมุน เธอควรจะดีใจ…หรือเจ็บปวดกันแน่? ผู้ชายที่เธอเคยรักหมดหัวใจ…ผู้ชายที่ ตาย ไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน…ตอนนี้เขากลับมานั่งอยู่ตรงหน้าเธออย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง? “ครับ…ผมเอง” เขาตอบพร้อมยิ้มจางๆ ดวงตาไม่ละไปจากเธอ “หลานไม่ต้องตกใจหรอกจ้ะ อเล็กซ์ยังไม่ตาย…ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่พวกเราต้องปิดไว้จริงๆ” “นาย…โกหกฉันงั้นเหรอ?” เจสสิก้าพูดแทรกขึ้น เสียงสั่นเครือ เธอผลุนผลันลุกขึ้นและรีบเดินออกจากห้องทันทีโดยไม่เหลียวหลัง อเล็กซ์เหมือนจะลุกตาม แต่ก็ชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นสายตาของมาเดลิน “ไปเถอะจ้ะ” หญิงชราพยักหน้าให้เขาอย่างอ่อนโยน อเล็กซ์ไม่รอช้า รีบก้าวตามหญิงสาวออกไปทันที ⸻ สวนหลังบ้าน “พี่!” เสียงของเขาตะโกนเรียกดังลั่นขณะที่หญิงสาวยังคงเดินเร็วไม่หยุดฝีเท้า ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเขาสักนิด “พี่เจส!! ฟังผมก่อน!” อเล็กซ์เร่งฝีเท้าก่อนจะคว้าข้อมือเล็กไว้ได้ในที่สุด “ปล่อย!” เสียงเย็นชาที่เปล่งออกมา ทำเอาหัวใจคนฟังเหมือนถูกแช่แข็งในทันที นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินน้ำเสียงนี้จากเธอ…น้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึกเช่นนี้ไม่เคยมีอยู่ในความทรงจำของเขาเลย “พี่…ฟังผมก่อน—” “ฉันไม่ฟัง! นายไม่มีอะไรที่ฉันอยากฟังอีกแล้ว! ทุกอย่างมันก็ชัดเจนไม่ใช่เหรอ! นายหลอกฉัน…นายโกหกฉัน…นายโกหกทั้งโลกว่านายตายแล้ว! นายรู้ไหมว่าฉันต้องเจ็บปวดแค่ไหนกับการเสียคนที่ฉันรักที่สุดไป!? แล้ววันนี้…แล้วทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น!?” คนตัวเล็กระเบิดความรู้สึกที่เก็บกดไว้ออกมาทั้งหมด น้ำตาคลอเอ่อเต็มเบ้าตา อารมณ์ปะทุจนยากจะควบคุม อเล็กซ์ไม่พูดอะไร เขารู้ดีว่าคนตรงหน้าเขาต้องเจ็บปวดมากแค่ไหน สิ่งที่เขาทำ…ไม่มีคำแก้ตัวไหนจะสมเหตุสมผลพอ เขาดึงเธอเข้ามากอดแน่น “ฮึก…ฮือ…” ร่างเล็กสะอื้นร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย มือเล็กกอดตอบกลับไป ทั้งที่ใจยังเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ความคิดถึงที่อัดแน่นในใจ กลับปฏิเสธอ้อมกอดนี้ไม่ได้เลย “ผมขอโทษ…” เขาพูดแผ่วเบา เสียงอ่อนโยนจนหัวใจเธอสั่นไหว เธอกอดเขาแน่นขึ้น เหมือนกลัวว่าแค่ปล่อยมือ ชายตรงหน้าจะหายไปอีกครั้ง “ฮึก…ทำไม…ทำไมถึงต้องโกหก…” “ผมทำทุกอย่าง…เพื่อพี่” “เพื่อฉันตรงไหน!? นายรู้ไหมว่าฉันต้องผ่านอะไรบ้าง!?” “พ่อผม…บังคับให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน ถ้าผมไม่ทำ เขาขู่ว่าจะทำร้ายพี่…รวมถึงแม่ผมด้วย ผมไม่มีทางเลือก…ผมจึงแต่งเรื่องว่าผมตาย เพื่อให้พี่ลืมผมซะ เพื่อให้พี่ปลอดภัย ฮึก…ตอนนั้นผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ว่าผมจะสามารถกลับมาหาพี่ได้อีกไหม…” “แล้วนายจะกลับมาทำไม…ฉันแทบลืมนายไปหมดแล้ว…” “พี่โกหก…พี่ไม่เคยลืมผมได้หรอก ถึงแม้พี่จะมีคนใหม่…” “……” เธอเงียบ เถียงอะไรไม่ออกเลย เพราะสิ่งที่เขาพูดคือความจริงความจริงที่เธอเองก็ไม่อยากยอมรับ แม้จะไม่ได้รู้สึกเหมือนคนรักกันเหมือนเดิม แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความทรงจำดีๆที่เคยมีร่วมกันเธอไม่เคยลืมมันได้เลย… “ต่อให้พี่จะไม่ได้รักผมแล้ว…ผมก็จะพยายามทำให้พี่กลับมารักผมอีกครั้ง เพราะตอนนี้…พี่คือคู่หมั้นของผม” “ฉันไปเป็นคู่หมั้นนายตอนไหนกัน!?” “เรื่องนั้น…ผมว่าพี่ไปถามคุณย่าพี่ดีกว่าครับ“สหรัฐอเมริกา “ข่าวเด็ดสดๆใหม่ๆค่ะคุณผู้ชม! ประธานแห่ง K กรุ๊ป ผู้ที่เพิ่งก้าวขึ้นรับตำแหน่งได้เพียงหนึ่งปี กลับสามารถสร้างอิทธิพลในแวดวงธุรกิจได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ประเด็นร้อนที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องอิทธิพลของคุณปอร์เช่นะคะ แต่เป็นเรื่องของหัวใจค่ะ! ใช่แล้วค่ะ ภาพหลุดของคุณปอร์เช่กับซูเปอร์สตาร์ชื่อดังหน้าใหม่อย่างคุณกอบัว กำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล! หลายคนกำลังลุ้นกันว่า หรือทั้งคู่จะแอบคบหากันอยู่จริงๆ!?” หญิงสาวผู้หนึ่งนั่งฟังข่าวจากอีกซีกโลกผ่านไอแพดในมือ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แววตาทั้งคมและเย็นชาราวกับรู้อะไรมากกว่าที่ใครคิด “หึ…คบกันงั้นเหรอ…น่าสนใจดีนี่” “คุณหนูเล็กคะ คุณท่านให้มาตามให้ไปรับประทานของว่างค่ะ” เสียงของสาวใช้ดังขึ้นจากหน้าห้อง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเพียงเล็กน้อยก่อนตะโกนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เดี๋ยวเจสลงไปค่ะ” ⸻ ด้านล่างคฤหาสน์ “มาเร็วสิหลานรัก ย่าทำของโปรดไว้ให้เพียบเลยนะจ๊ะ” มาเดลิน ผู้เป็นย่าเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม ขณะหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร เจสสิก้ารีบเดินตรงไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยของว่างหน้าตาน่ารับ
ประเทศสหรัฐอเมริกา เสียงเบรกของรถหรูดังขึ้นเบาๆ หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ เอี๊ยด~ รถยนต์คันงามจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าคฤหาสน์สุดหรู ก่อนที่ประตูหน้าจะเปิดออกพร้อมร่างสูงในชุดสูทดำของบอดี้การ์ดคนสนิท เขาก้าวเท้าไปยังประตูหลังด้วยท่วงท่าสง่างามและมั่นคง ก่อนจะเปิดมันออกอย่างสุภาพเพื่อรับหญิงสาวคนสำคัญ ขาเรียวยาวของหญิงสาวเหยียบลงจากรถทีละข้างอย่างเรียบหรูร่างของเธอปรากฏพร้อมกับเสื้อผ้าสุดหรูดูมีระดับ และทันทีที่คนตัวเล็กก้าวลงมาเต็มตัว ชายชุดดำก็ก้มศีรษะทำความเคารพด้วยความนอบน้อม “หลานรักของย่า~~~” เสียงหญิงชราเอ่ยขึ้นอย่างเปี่ยมสุข รอยยิ้มอบอุ่นของท่านปรากฏอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์ ผู้เป็นย่ายืนกางแขนออกพร้อมต้อนรับหลานสาวที่ตนรักสุดหัวใจ “คุณย่า!!” หญิงสาวร้องเรียกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ร่างเล็กรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดร่างอันอบอุ่นของย่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทั้งสองสวมกอดกันแน่นราวกับโลกนี้มีกันแค่สองคน “คิดถึงที่สุดเลยหลานรักของย่า” “หนูก็คิดถึงคุณย่ามากกกกเลยค่ะ” เสียงใสๆ ที่แฝงด้วยความน่ารักของหญิงสาวทำเอาผู้สูงวัยยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกายไปด้วยความรักและความคิดถึง ทั้งสองเดินเคี
“ทำไมไม่ยิ้มหน่อยวะไอ้ปอร์เช่” “นั่นดิ กูเห็นมึงเหม่อตั้งนานละ” เสียงเพื่อนสองคนดังขึ้นติดกัน คล้ายจะดึงสติชายหนุ่มให้กลับมาจากภวังค์ แต่ปอร์เช่ก็ยังคงนั่งเงียบ สีหน้าเรียบนิ่งจนเกือบจะดูเย็นชา ดวงตาเขาไม่หยุดเหลือบมองไปทั่วบริเวณคล้ายกำลังตามหาใครบางคน ทว่า…ไม่ว่าจะมองเท่าไรก็ไม่เห็นเธอคนนั้นเลย “…..” ไม่มีคำตอบ ไม่มีคำอธิบาย มีแค่ความเงียบที่แผ่ซ่านไปทั่วโต๊ะ จนเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยเริ่มรู้สึกอึดอัดแทน “อ่อ กูรู้ละ…” “เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก มึงจะคิดมากทำไม น้องเจสเขาอาจจะติดธุระอยู่ก็ได้” เซนเซพูดพลางตบบ่าเบา ๆ เหมือนจะปลอบใจ แต่ปอร์เช่กลับไม่แม้แต่จะหันมามอง ริมฝีปากเม้มแน่นเล็กน้อยเหมือนกำลังพยายามสะกดกลั้นบางอย่างไว้ ทันใดนั้น เขาก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ คว้าโทรศัพท์ในมือแน่น ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร “เอ้า! มึงจะไปไหนวะ!” เสียงเพื่อนร้องตามหลัง แต่ชายหนุ่มไม่ได้หยุดเดิน เขากดโทรศัพท์หาหมายเลขเดิมอีกครั้ง รอสาย แต่ก็เหมือนเดิม หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้… มือที่ถือโทรศัพท์เริ่มสั่นเล็กน้อย เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เสียงบรรยากาศงานด้านหลังก็ดูจะค่อยๆ เ
ซ่า… ซ่า… ซ่า… เสียงเนื้อที่กำลังถูกผัดอยู่ในกระทะดังต่อเนื่องในห้องครัวของคอนโดสุดหรู หญิงสาวร่างบางกำลังยืนเตรียมอาหารเช้าด้วยท่าทีคล่องแคล่ว ขณะที่แสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านโปร่งบางเข้ามาอาบตัวเธอเบาๆ ฟุ่บ… แขนแกร่งวงใหญ่เข้ามารัดรอบเอวเธอจากด้านหลัง พร้อมกับใบหน้าคมที่ซุกลงมาตรงซอกคอขาวอย่างออดอ้อน “หอมจัง ที่รักทำอะไรครับ” เสียงทุ้มแหบเอ่ยถามพลางสูดกลิ่นหอมจากผิวเนียนตรงลำคอ “ที่รัก หนูทำอาหารอยู่นะคะ อย่าเพิ่งกวนสิ” “ก็พี่คิดถึงนี่นา” เขาไม่ฟังเลยสักนิด มือยังคงกอดแน่นราวกับไม่อยากให้เธอขยับไปไหน ร่างสูงเอาแต่แนบชิดจนหญิงสาวต้องถอนหายใจนิดๆ อย่างเอ็นดู “อีกไม่กี่วันก็วันรับปริญญาแล้ว พี่อยากได้อะไรคะ?” “พี่อยากได้หนู” “หนูบ้านหรือหนูนาคะ?” “ที่รักอ่ะ!” หญิงสาวหลุดหัวเราะออกมากับสีหน้าและน้ำเสียงแบบเด็กน้อยสามขวบของเขา ใบหน้าที่เคยเคร่งขรึมกลายเป็นออดอ้อนราวกับแมวที่อ้อนเจ้าของ เพราะรู้ว่าเขาจะไม่มีวันหยุดกวนหากยังยืนอยู่แบบนี้ ร่างเล็กจึงยื่นมือไปปิดเตาแก๊ส และหันกลับมาเผชิญหน้า— !!! แต่ไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงก็พุ่งเข้าประกบริมฝีปากนุ่มอย่างรวดเร็ว พร
“อย่าคิดว่ากูต่อยยัยนั่นเพราะมันว่ามึงล่ะ กูทำเพราะหมั่นไส้มันเฉยๆ” “กูก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนี่ มึงจะรีบแก้ตัวทำไม” ได้ยินแบบนั้น กอบัวเงียบลงทันที ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาแล้วเดินออกจากตรงนั้น ปล่อยให้เจสยืนอยู่ลำพังโดยไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติม ไม่นาน เจสสิก้าก็เดินออกจากคาเฟ่โดยไม่มองกลับหลัง เธอเดินเรื่อยๆ ไปตามทางเท้าที่ทอดยาวราวกับปล่อยให้มันพาไปตามความรู้สึก หัวใจที่ปั่นป่วนทำให้เธอต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ความสงบในความโดดเดี่ยวนั้นก็จบลง เมื่อจู่ๆก็มีใครบางคนเดินเข้ามาทักเธออย่างไม่คาดฝัน “มีเรื่องไม่สบายใจอยู่หรอครับ” เสียงนั้น…เสียงที่คุ้นหูอย่างบอกไม่ถูก ใครกัน? เธอหันกลับไปมองต้นเสียง และพบกับชายหนุ่มร่างสูงในชุดแต่งกายสไตล์ผู้ชายจีนทันสมัย แต่ใบหน้าของเขากลับมองไม่เห็นชัดเจน เพราะหมวกสีดำกับแมสสีขาวที่บดบังใบหน้าทั้งหมด เขาเดินเข้ามาเคียงข้างเธออย่างใจเย็น หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม “นายเป็นใคร?” “พี่ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกครับ รู้แค่ว่า…ตอนที่เราเจอกันครั้งล่าสุด พี่ก็อยู่ในสภาพแบบนี้…แต่เพิ่มเติมคือกลิ่นควันบุหรี่” “อ้อ…นายคือเด็กคนนั
“พี่ยอมรับว่าพี่เคยชอบกอบัวจริงๆ แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว… ตอนนั้นพี่ยังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าความรักมันคืออะไร แต่ตั้งแต่ที่พี่ได้เจอเจส…พี่พูดได้เลยว่า นอกจากแม่แล้ว พี่ไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนมากขนาดนี้เลย”เสียงของปอร์เช่เอ่ยขึ้นช้าๆ แววตาเขาสงบนิ่งขณะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเหนือหัว ดวงดาวนับพันดวงลอยอยู่กลางความมืด เสียงลมหอบเบาๆ พัดผ่านเส้นผมของคนทั้งคู่ที่นั่งอยู่บนดาดฟ้าสูง ทำให้บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเงียบสงบและอบอุ่นเจสนั่งอยู่ข้างๆ มองเขาเงียบๆ ดวงตาของเธอสะท้อนแสงดาว และบางอย่างในใจเธอก็เริ่มชัดเจนขึ้น เธอยิ้มบางๆ ออกมาอย่างอ่อนโยน…ยิ้มที่แฝงด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งโล่งใจ ทั้งเศร้า ทั้งอบอุ่นและเสียใจไปพร้อมๆกัน หากย้อนเวลากลับไปได้ เธอคงไม่หนี ไม่หลบหน้าปอร์เช่อย่างที่เคยทำ เธอควรจะฟังเขาตั้งแต่แรก“ทีนี้หนูเข้าใจแล้วใช่มั้ย?” เขาหันมาถามเสียงนุ่ม“เข้าใจแล้ว~” เจสตอบกลับด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย ดวงตาเธอมองเขาอย่างแน่นิ่ง เหมือนคนที่เพิ่งยอมรับความจริงบางอย่างได้อย่างเต็มหัวใจ“เจส…” เขาเรียกชื่อเธออีกครั้ง คราวนี้สายตาเขาจริงจังขึ้น เหมือนกำลังจะพูดอะไรที่สำคัญแต่ก่อนที่เข