ใช่อาจู นางสั่งให้อาจู ตามนางมาอย่างเงียบ ๆ ยามนี้อาจูน่าจะมาถึงแล้ว
"อาจู" เพียงนางตะโกนขึ้น อาจูก็พลันปรากฏตรงหน้านาง
"พระชายา" อาจูประสานมือคำนับ สายตามองหยางอ๋องที่สลบไป
"เร็วเข้ารีบไปหารถม้ามา ข้าจะนำตัวท่านอ๋องกลับ" หลี่ซินขี่ม้าไม่เป็น อาจูรับคำแล้วก็จากไป จู่ ๆ เจ้าฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมา
หลี่ซินมองหาที่หลบฝน เรือนร้างไม่ไกลจากลำธาร นางประคองหยางอ๋องทุลักทุเล
กว่าจะมาถึงด้านใน นางเหนื่อยแทบตาย ให้คนตัวใหญ่นอนบนกองฟาง ช่างมืดเหลือเกิน นางรีบก่อไฟโชคดีในนี้มีฟืนอยู่ไม่น้อย เรือนนี้เต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่
เสื้อผ้านางก็เปียก ทั้งลมทั้งฝนพัดหน้าต่างเสียงดังสนั่นอย่างน่ากลัว หลี่ซินปิดหน้าต่างและประตูทุกบาน
หยางอ๋องบ่นว่าหนาว นางนั้นรีบมาดูเขา พบว่าเขาเป็นไข้ แย่แล้ว นางถอดผ้าตัวนอกเขาออกเหลือเพียงผ้าขาวบางปกปิดหน้าอกที่ขาวใหญ่ ผิวเขาช่างเนียนละเอียดนัก
"เจ้ามองอันใด" หยางอ๋องแกล้งหลับมองการกระทำของนางทุกฉาก นางนับว่าดีไม่น้อย ที่ยอมก่อกองไฟ อีกทั้งไม่ทำร้ายเขา
หลี่ซินเมื่อถูกจับได้ นางถึงกับพูดไม่ออกเลย อ้ำอึ้งอยู่ได้ หยางอ๋องคิดในใจ มุมปากหนากระตุกยิ้ม
จะตายอยู่แล้วยังมายิ้มอีก นางด่าเขาในใจเช่นกัน
"ข้ารู้สึกว่าจะได้รับพิษไข้" พูดได้ไม่นานหยางอ๋องก็ไอออกมาอย่างแรง หลี่ซินคิดว่าต้องใช้ยาแผนปัจจุบันช่วยเขาเสียแล้ว
"ระวัง!!!" หลี่ซินหันไป แต่ทว่าหยางอ๋องคว้านางเข้ามากอด แขนของนางอ๋องจึงโดนงูฉกเข้าให้
"ท่านอ๋อง"
"โอ๊ย!!! งูกัดข้า" หลี่ซินมองเจ้างูมีพิษมันเลื้อยไปทางประตูแล้วลอดรูเล็ก ๆ ไป
ใบหน้าหยางอ๋องเขียวช้ำ ปากซีดหนาวสั่นเหมือนคนใกล้ตาย ชั่วยามนั้นหยางอ๋องคิดว่าเขาจะตายแล้ว
แต่ทว่านางร้ายที่เขารัก นางดูดพิษงูออกแล้วพ่นทิ้งไปตั้งหลายครั้ง หลี่ซินคิดว่าจะให้เขาตายไม่ได้ นางเป็นหมอโลกอนาคตจะต้องแย่งชีวิตเขาจากพญายมราชให้ได้
เซรุ่มกำจัดพิษงู หลี่ซินหลับตาแล้วนึกถึงกล่องยา แสงวาบขึ้นมาทันที นางลืมตาขึ้นกล่องยาลอยได้ คว้าขวดเซรุ่มเล็ก ๆ พร้อมเข็มฉีดยาออกมา นางฉีดเข้าที่แขนของเขา หยางอ๋องพยายามลืมตา แต่ทว่ามันหนักอึ้งเหลือเกิน เขารู้สึกผ่อนคลายมาก อีกทั้งนางยังให้เขากินยาแก้ไข้สมัยใหม่ด้วย
หลี่ซินกินยาแก้ปากบวมด้วยเช่นกัน นางดูดพิษให้เขามันย่อมต้องส่งผลถึงนาง
ฝนห่าใหญ่กับลมพายุยังคงไม่หยุด หยางอ๋องบ่นว่าหนาว หลี่ซินกอดเขาไว้ทั้งคืน เขาช่วยนาง นางก็ดีใจมาก แต่นางก็ยังไม่อภัยให้เขาหลอกนะ ทุกอย่างต้องใช้เวลา
ยามเช้าของวันถัดมา ฝนห่าใหญ่ก็ยังไม่หยุดตกอีก หยางอ๋องลืมตาขึ้นมาพบว่า เขาโดนปลดผ้าออกหมด ใบหน้าเขาซุกกับทรวงอกงาม มิน่าเล่ากลิ่นหอมไปในความฝัน
"กรี๊ด!!!" หลี่ซินกรีดร้อง เมื่อเห็นหยางอ๋องดมหน้าอกนาง
"เจ้ามายั่วข้าเอง"
นางรีบหาผ้ามาคลุม
"ข้าช่วยท่านนะเมื่อคืน"
เมื่อคืนเขาทั้งเป็นไข้ อีกทั้งยังโดนงูฉก เหตุใดตื่นมายังไม่เป็นอันใด หยางอ๋องใช้สายตามองนางอย่างแปลกประหลาด
"บอกมานะ เจ้ามียาวิเศษใช่รึไม่" เขาจะจับผิดนาง
"ข้าช่วยท่าน คำขอบคุณยังไม่มี ท่านยังจะจับผิดข้าอีก"
"ข้าช่วยเจ้านะ เมื่อคืน ป่านนี้งูกัดเจ้าตายไปแล้ว"
"เอาล่ะ ถือว่าหายกันแล้วกัน"
"ท่านอ๋อง พระชายาพวกข้ามาแล้ว" เสียงตะโกนอยู่หน้าเรือน ทำให้ทั้งสองรีบสวมอาภรณ์แล้วเดินออกไป พบว่าอาจูพาอาหวังนำรถมาม้า อาจูรายงานว่าเมื่อคืนฝนตกหนัก ทำให้นำรถมาม้าอย่างอยากลำบาก อีกทั้งดินถล่มอีกด้วย อยากแก่การสัญจรยิ่งนัก หลี่ซินเข้าใจ
ทั้งสองนั่งในรถม้าคนละมุม หยางอ๋องไม่คิดว่า เพียงคืนเดียวเขาจะหายไว ขนาดนี้ ยาของนางวิเศษจริง ๆ
"กลับไป ข้าจะนำยาตัวใหม่ไปช่วยชาวบ้าน"
"ดียิ่งนัก" ความมีน้ำใจของนาง ทำให้หยางอ๋องมีใจให้นางมากกว่าเดิม แบบที่เขาไม่รู้ตัว
"ขอบคุณ" เป็นประโยคที่แสนจะเบาหวิว แต่หลี่ซินได้ยินเต็มสองหู ทำให้นางยิ้มปริ่มขึ้นมาเล็กน้อย
"ท่านว่าอันใด"
"เปล่า" เขาก็หันหน้าไปทางอื่น หลี่ซินคิดในใจพ่อคนปากแข็ง
ในยามที่นางกลับมาถึงจวน ทั้งสองคนต่างแยกย้าย หยางอ๋องรู้ต้นตอของการเป็นไข้หวัดใหญ่แล้ว สั่งชาวบ้านมิให้ใช้น้ำ ถ้าจะใช้ต้องต้มน้ำให้อุ่นเสียก่อนเพื่อจะได้ละลายพิษ
ส่วนนายอำเภอฟูเหิงกับบุตรสาวอย่างฟูเหยา มิได้นิ่งนอนใจ ทำทีเป็นเปิดโรงทานที่หน้าจวน แจกข้าวให้กับผู้ป่วย ชาวบ้านต่างสรรเสริญว่านายอำเภอช่างเป็นคนดีเสียจริง มิเสียแรง คุ้มกับภาษีที่ชาวบ้านเสียไปยิ่งนัก
หยางอ๋องฟังหนานอ๋องเล่าเรื่องนายอำเภอฟูเหิงมือเขากำแน่น รอรักษาชาวเมืองจินให้หายดีก่อน ต่อไปถึงจะจัดการกับนายอำเภออย่างสาสม
หลี่ซินในยามนี้ นางตัดสินใจรักษาชาวบ้านด้วยตัวเองโดยการนำยาสีขาวแผนปัจจุบันไปมอบให้ชาวบ้านคนละเม็ด เพียงไม่นานไข้ยุทธภพต่างลดลง เรื่องนี้ทำให้หยางอ๋องและหนานอ๋องต่างชื่นชมนาง ว่านางคือหมอเทวดาคนใหม่ของใต้หล้านี้
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล