หลังจากเรื่องราวที่แสนจะวุ่นวายจบลง ชาวเมืองจินต่างหายจากโรคภัยที่เกิดขึ้น หลี่ซินนั่งอยู่ในเรือนสายตามองนอกหน้าต่าง จู่ ๆ นางเกิดไอเป็นเลือดขึ้นมา
"พระชายา ท่านเป็นอันใดเพคะ" อีอีเห็นแล้วตกใจไม่น้อยเลือดเต็มกระโถน หลี่ซินหวนคิดหรือว่า ร่างกายนี้โดนพิษที่หยางอ๋องวางไว้แต่แรก มันจะเพิ่งมาออกอาการ แต่นางก็กินยาต้านไว้แล้วมิใช่รึ
หลี่ซินไล่อีอีไปเคี่ยวยามาให้นาง คล้อยหลังอีอี กล่องยาปรากฏขึ้นมา นางรีบคว้ายาบำรุงร่างกายออกมากิน หญิงสาวรู้สึกดีขึ้น
ข่าวนี้ทราบไปถึงหูหยางอ๋องที่อ่านตำราให้ห้องหนังสือ เพราะสาวใช้ที่นำน้ำแกงมาให้เขาเล่าว่าอีอีกำลังเคี่ยวยาให้พระชายาอยู่ นางอาเจียนเป็นเลือดรึ หยางอ๋องรู้สึกผิดขึ้นมา เขารีบสาวเท้าไปหานางที่เรือน
ทันทีที่ก้าวเข้ามาพบว่านางนอนหลับที่ตั่งยาว อีอีเห็นหยางอ๋องเข้ามา สาวใช้ค่อย ๆ เดินออกไปจากเรือนอย่างช้า ๆ
ใบหน้างามไร้เลือดฝาด ผมยาวสยายลงมาอย่างงดงาม ภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นกำยานยาสมุนไพร
หยางอ๋องรู้สึกผิดในคืนแต่งงานเขาทิ้งนางรีบมาที่เมืองจิน เหตุเพราะเมื่อก่อนนางเป็นสตรีที่น่ารังเกียจ ยามนี้นางได้เปลี่ยนไปมาก เอ็นดูรักใคร่สองแฝดด้วยความรักอย่างจริงใจ
เขาอุตส่าห์ได้ยามาจากหมอเทวดา ยามนั้นเวลาโรงครัวทำอาหาร เขากำชับให้แม่ครัวใส่ยาลูกกลอนบำรุงร่างกายในอาหารของนางตลอด เหตุใดอาการของนางถึงไม่ดีขึ้นเล่า
หรือเขาต้องไปตามหาหมอเทวดาท่านนั้น เขาจับกุมนายอำเภอได้ก่อน จะพานางออกไปตามหาหมอเทวดาท่านนั้น
มือหนาใหญ่สัมผัสที่แก้มงาม ริมฝีปากหนาประทับที่หน้าผากนูน หลี่ซินพลันลืมตาขึ้นมา
"ท่าน..." หลี่ซินไออย่างแรง
"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง" น้ำเสียงและเเววตาแสดงออกมาถึงความห่วงใยนางอย่างชัดเจน เพราะเขามิใช่รึ ทำให้ร่างกายนี้อ่อนแอ
"ข้ายังไม่ตายง่าย ๆ หรอกนะ ถ้ามิเพราะท่านใจร้ายวางยาข้า ร่างกายของข้าจะอ่อนแอรึ" หลี่ซินหวนคิดแล้วปวดใจ เหตุใดนางต้องมาหลงรักคนแบบนี้ด้วยเล่า
คนเลือดเย็นที่คิดสังหารภรรยาของตัวเอง
หัวใจหยางอ๋องได้ยินนางพูดเช่นนี้ มันทำให้เขารู้สึกปวดใจไม่น้อยกับการกระทำของตัวเองในอดีตที่ผ่านมา
"เจ้าอยู่ข้างใน คงจะรู้สึกอึดอัด ข้าจะพาเจ้าไปที่แห่งหนึ่ง"
นางยังไม่ได้ตอบตกลงจะไปรึไม่ไป เจ้าคนบ้าอุ้มนางไว้เสียแล้ว พานางเดินออกมานอกเรือน
"เตรียมรถม้า" สั่งการอาหวังลงไป
ภายในรถม้าอันวิจิตร หยางอ๋องนวดศีรษะให้นาง หลี่ซินถึงกับตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าคนบ้าจะมานวดให้นาง
"เจ้ารู้สึกดีรึไม่"
"ไม่ต้องมาเอาใจข้า"
"เมื่อไปถึงสถานที่แห่งหนึ่ง เจ้าจะรู้สึกชอบ เพราะช่วงนี้ เจ้าป่วยอยู่แต่ในเรือน อาจจะทำให้เจ้าไม่สบายหนักขึ้นกว่าเดิม"
หยางอ๋องมองคนงามทำเมินไม่สนใจเขา นางหลับอย่างสบาย มือหนาใหญ่ค่อย ๆ คลึงศีรษะของนางอย่างอ่อนโยน นับจากนี้ต่อไปเขาจะดีต่อนางให้มาก
นางหลับไปแล้ว หยางอ๋องจึงกอดนางอย่างอ่อนโยน กลัวนางจะตื่น
อาหวังหยุดรถม้าเมื่อถึงที่หมายแล้วรีบรายงานเจ้านายทันที
ชายหนุ่มอุ้มหลี่ซินลงจากรถม้า หลี่ซินรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายความหอมและอากาศที่เย็นจัด กระนั้นนางจึงลืมตาขึ้นมา
พบว่าต้นดอกท้อสีชมพูบานสะพรั่งอย่างงดงาม ภายใต้หมอกจาง ๆ
"วางข้าลงเถอะ" นางเดินเองได้ หลี่ซินย่างกรายไปรับกับลมหนาวที่พัดมา บรรยากาศที่นี่สดชื่นยิ่งนัก
"ชอบรึไม่" น้ำเสียงอ่อนโยนกระซิบถามนาง
"ก็ดี"
หยางอ๋องโอบกอดนางจากด้านหลัง ส่วนหลี่ซินไม่ได้ว่าอันใจ นางให้เขากอดอยู่เนิ่นนาน...
ยามค่ำคืนนั้น หลี่ซินก็ยังไอไม่หาย หยางอ๋องก็คอยดูแลนางทั้งคืน เขามิได้ทำการล่วงเกินนางเหมือนอย่างที่ผ่านมา...
ในยามเช้าหยางอ๋องลงมือทำข้าวต้มปลาให้นางเอง เป็นลือทั้งจวน มิน่าเชื่อว่าหยางอ๋องจะใส่ใจพระชายาถึงเพียงนี้
หลี่ซินมองชามข้าวต้มปลาตรงหน้า เจ้าคนเถื่อนสำนึกผิดเคี่ยวข้าวต้มให้นาง เกรงว่านางจะอยู่กับเขาได้ไม่นานล่ะสิ
"เรียนท่านอ๋อง พระชายา คุณหนูฟูเหยาขอเข้าพบขอรับ" อาหวังเดินเข้ามารายงาน
หยางอ๋องกับหลี่ซินพลันสบตากัน ฟูเหยาจะมาทำไม คืนนี้หยางอ๋องจะจับตัวนายอำเภออยู่ แต่รอดูว่ามีเรื่องอันใด
"ให้นางเข้ามา"
ไม่นานนักฟูเหยาในอาภรณ์งดงาม สีแดงลายบุปผาเบ่งบานรับแสงสุริยัน บุปผาถูกปักด้วยความประณีต
จึงทำให้มันดูมีชีวิตชีวายิ่งนัก เมื่อคนมองมาที่อาภรณ์ของนาง ใบหน้างามเต็มไปด้วยเครื่องประทินโฉมที่หนาเตอะ ผมด้านบนม้วนขึ้นประดับด้วยปิ่นมุกอย่างงดงาม ผมด้านล่างปล่อยสยายลงมาราวกับสายธาร หยางอ๋องเห็นแล้วคล้ายหลี่ซินคนเดิมไม่ผิดเพี้ยน
"คารวะท่านอ๋อง พระชายาเพคะ" นางยอบกายคำนับอย่างงดงาม
หลี่ซินคิดในใจสตรีผู้นี้มาแปลก ๆ ต้องมีอันใดไม่ชอบมาพากลแน่นอน
"เจ้ามีอันใดก็ว่ามาเถอะ"
"ท่านพ่อให้ข้านำเทียบเชิญมามอบให้ท่านเพคะ วันคล้ายวันเกิดบิดาอีกไม่กี่วันข้างหน้า" ฟูเหยาส่งเทียบเชิญให้หยางอ๋อง
แต่อาหวังเป็นคนรับเทียบเชิญแทนเจ้านาย
"หมดธุระแล้วกลับสิ" คำนี้ทำให้ฟูเหยาถึงกลับไปไม่เป็นเมื่อหยางอ๋องออกปากไล่นาง ทำให้นางรีบสะบัดตูดกลับอย่างไว
หลี่ซินถึงกับยิ้มไม่หุบ ท่านอ๋องปากร้ายยิ่งนัก กล้าไล่บุปผา
"นางชอบท่าน ท่านไม่รับนางเป็นอนุเล่า ข้าคงใกล้ตายแล้ว"
"ไม่ เจ้าต้องไม่เป็นอันใด รอเสร็จเรื่องนี้ ข้าจะพาเจ้าไปหาหมอเทวดา"
"ท่านอย่าลืมสิ ข้าก็เป็นหมอเช่นกัน แต่ไม่สามารถรักษาตัวเองได้" รอยยิ้มของนางเป็นการยิ้มเยาะเย้ยเขา
หลี่ซินคิดว่าไม่มีประโยชน์อันใดหรอก แม้นางตายจากโลกใบนี้ อาจจะไปโผล่ที่โลกเดิมก็ได้
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล