แม้หลี่ซินจะป่วยแต่หยางอ๋องจะให้นางไปงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดของฟูเหิงครบรอบหกสิบปีของเขา หยางอ๋องบังคับให้นางแต่งหน้าอย่างงดงามเพื่อปกปิดใบหน้าที่ซีดเซียวของนาง อีกทั้งให้นางสวมชุดที่ทำจากผ้าต่วนชั้นดี ที่ชิงไทเฮามอบให้เขา
หยางอ๋องมองนางในชุดสีชมพูลายหงส์เหินฟ้า ปักด้วยดิ้นทองทั้งผืน เยี่ยงนี้หน่อยถึงจะสมเป็นชายาเอกหยางอ๋อง นับแต่นางฟื้นมา เขาก็มิได้เห็นนางสวมผ้าสีฉูดฉาดอีกเลย วันนี้นางแต่งกายไปจวนนายอำเภอนับว่ามีสีสันไม่น้อย
อีกทั้งม้วนผมเป็นทรงสตรีที่ออกเรือนยิ่งทำให้นางงดงามมากกว่าเดิม ปิ่นหงส์คาบมุกห้าเม็ดห้อยพู่ระย้าลงมาเสียงกระทบกันกรุงกริ่ง ช่างเหมาะสมกับคนงามของเขาเสียจริง
"มองอันใด" หลี่ซินใบหน้าบึ้งใส่หยางอ๋อง ช่วงนี้นางรู้สึกอ่อนเพลียมาก อยากจะนอนให้มาก แต่หยางอ๋องลากตัวนางมาจวนนายอำเภอเพื่อเป็นไม้กันหมาจากฟูเหยาแน่ ๆ
"มองคนงามของข้า" มุมปากหนายิ้มให้นางด้วยความรักที่เต็มเปี่ยม
คนบ้า !!!
ในใจของหลี่ซินทั้งรักทั้งเกลียดหยางอ๋อง ประการแรก เขาคือคนทำให้ร่างกายนี้อ่อนแอ ประการที่สอง หยางอ๋องรับปากกับนางว่าจะไม่ล่วงเกินนาง ทำให้นางเห็นเขาเป็นคนมีมโนธรรมอยู่บ้าง
อีกทั้งหยางอ๋องรับปากเสร็จจากเรื่องนายอำเภอ เขาจะพานางไปหาหมอเทวดา ในเมื่อยาแผนปัจจุบันใช้ไม่ได้ผล ลองยาของหมอเทวดาแล้วกัน
"เข้าไปในงาน เจ้าอย่าห่างจากข้าเป็นอันขาด"
"ข้ารับปาก"
เมื่อถึงจวนนายอำเภอฟูเหิง หยางอ๋องอุ้มคนงามลงจากรถม้าแล้วเดินเข้าไปในงาน ทุกคนต่างมองชายาเอกหยางอ๋องที่เล่าลือว่านางคือคนช่วยชาวเมืองจินจนหายจากไข้ป่า
ข้ารับใช้พาทั้งสองไปที่ห้องโถงจัดงานเลี้ยง ห้องโถงนั้นมิได้แบ่งแยกชายหญิง แต่ให้นั่งรวมกัน กับสามีภรรยา ส่วนมากที่นายอำเภอชวนมาเป็นพ่อค้าพาณิชย์เสียมากกว่า
นายอำเภอฟูเหิงรูปร่างอ้วน ไขมันพอกที่คางเป็นชั้น ๆ อย่างน่าเกลียดราวกับหมูตอนเสียมากกว่าในเรื่องพระถังซัมจั๋ง ช่างเหมือนจริง ๆ
"คำนับท่านอ๋องกับพระชายา เชิญพวกท่านตามสบาย"
"ของขวัญ ข้าให้คนนำมาแล้ว" อาหวังรีบส่งให้ข้ารับใช้นายอำเภอทันที
"ขอบคุณท่านอ๋อง หนานอ๋องเล่า" สายตานายอำเภอมองหาหนานอ๋อง
"หนานอ๋องป่วยหนักมามิได้"
"ขอรับ เชิญตามสบาย" ท่าทางของนายอำเภอช่างเป็นมิตร แต่ทว่าภายในใจดั่งอสรพิษร้าย
หลี่ซินนั่งข้างหยางอ๋อง นางรับรู้สายตาของใครคนหนึ่งมองนางด้วยความไม่พอใจ นั่นก็คือฟูเหยานั่นเอง นางนั่งฝั่งตรงข้าม
วันนี้งานวันครบรอบวันเกิดครบหกสิบปีของบิดา ฟูเหยาจึงแต่งกายงดงามเป็นพิเศษ นางสวมอาภรณ์สีแดงลายวิหคชมจันทร์ปักด้วยดิ้นทองทั้งชุด อีกทั้งสวมปิ่นมุกเช่นกัน นางแต่งกายงดงามเช่นนี้ เพื่อให้หยางอ๋องเห็นนางอยู่ในสายตาบ้าง
แต่หยางอ๋องกลับไม่มองนางเลยด้วยซ้ำ เพราะนังสารเลวหลี่ซินคนเดียว ถ้าไม่มีนางแพศยาบางที หยางอ๋องอาจจะให้โอกาสนางบ้าง เหตุใดมันถึงไม่โดนคนของบิดาขายไปเสีย รอดมาทำไมเล่า
ยิ่งคิดใบหน้างามก็ขุ่นมัวหมองอย่างไม่น่าดู มืองามกระดกเหล้าเข้าปาก อย่างไรเสียคืนนี้หยางอ๋องต้องเป็นของนาง
"ท่านทำให้นางหลงเสียแล้ว" หลี่ซินเอ่ยขึ้น ท่ามกลางนางรำร่ายรำอย่างงดงาม
"ข้าไม่สนใจนาง ประเดี๋ยวเจ้าทำตัวขอกลับก่อน คืนนี้ข้าจะจัดการนายอำเภอให้ได้"
"ข้ารู้แล้ว"
งานเลี้ยงยังดำเนินต่อไปอย่างเรื่อย ๆ แขกเหรื่อต่างอวยพรให้นายอำเภอฟูเหิงอายุยืน หลี่ซินได้ยินเข้า ในใจคิดว่า คงจะอายุสั้นเร็ว ๆ นี้ล่ะ
จู่ ๆ หยางอ๋องก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมา หรือว่านายอำเภอฟูเหิงจะรู้ตัว ก็เลยจะชิงลงมือสังหารเขาก่อนจากนั้นความโกลาหลก็เข้ามา เพราะมีชายชุดดำนับสิบยิ่งธนูเข้ามาในงานเลี้ยง
ผู้คนต่างวิ่งหนี ส่งเสียงร้องอย่างหวาดกลัว หยางอ๋องไม่คิดว่า นายอำเภอจะทำเช่นนี้ มันไหวตัวทัน
เขาโอบหลี่ซินไว้ พานางวิ่งไปอีกทางหนึ่ง องครักษ์เงาอย่าง อี้ชาง อี้โจ อาจู ต่างปรากฏตัวช่วยเหลือเจ้านายทั้งสอง
หยางอ๋องยิงพลุขึ้นฟ้าส่งสัญญาณให้หนานอ๋อง รีบปรากฏตัวก่อนเวลาที่นัดหมาย ยามนี้จวนในอำเภอเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น
ผู้คนต่างพากันหนีตายอย่างอลหม่าน เสียงกระบี่ต่อสู้กันดังขึ้น กลิ่นคาวเลือดทั่วจวน
"ตามจับนายอำเภอให้ได้" หยางอ๋องบอกกับเหล่าทหารม้าที่มาถึง
"ท่านพ่อ ปล่อยข้า ข้าจะไปหาหยางอ๋อง" ฟูเหยานางไม่รู้ว่าบิดาคิดจะหนี นางให้สาวใช้ใส่ยาปลุกกำหนัดในสุราแล้ว
"เจ้าบ้าไปแล้วรึ ยามนี้ เจ้าและข้าต้องรีบหนี มิเช่นนั้นพวกเราจะโดนเสียบหัวประจาน เพราะหยางอ๋องรู้ความจริงแล้วว่าพวกเราคือคนวางยาไข้พิษชาวบ้าน อีกทั้งร่วมมือกับพ่อค้าต่างแคว้น เรื่องนี้กว่าข้าจะสืบได้หมดเบี้ยไปเยอะ เร็วเข้าขึ้นรถม้า"
"ท่านพ่อ พวกเราจะไปไหน ข้ากลัว" ฟูเหยาโดนบิดาลากขึ้นรถม้า นางเกิดมาอย่างสุขสบาย นางกลัวความลำบากยิ่งนัก
รถม้ามุ่งหน้าไปทางประตูเมือง นายอำเภอฟูเหิงเป็นคนฉลาด หลายวันมานี้เขาเกือบจะเชื่อแล้วเชียว ว่าคนพวกนั้นตายหมด ที่แท้เป็นแผนการหยางอ๋องล่อให้เขาตายใจ วันเกิดครั้ง ฟูเหิงทบทวนดีแล้วต้องหนีไปจากเมืองจิน เพื่อไปอาศัยใบบุญแคว้นฉู่ อีกทั้งยามนี่ฝูอ๋องต้องสละเขาทิ้ง เพราะเขาทำงานให้ฝูอ๋องไม่สำเร็จ
อยู่ก็ตาย ไม่อยู่ก็ตาย หากเขาเป็นอันใด ใครจะดูแลบุตรสาวที่น่ารักของเขาอย่างฟูเหยาเล่า ถ้าเขาไม่โลภมากเชื่อฝูอ๋องจุดจบนายอำเภอเยี่ยงเขาจะต้องหนีจากบ้านเมืองตัวเองทำไม
"ท่านพ่อ ข้ากลัว" ฟูเหยากลัวจนร้องไห้ไม่หยุด
"มือสังหารพวกนั้น จะต้องถ่วงเวลาไว้" เขาจ้างพวกนั้นมาไม่ต่ำกว่าร้อยตำลึง สำนักมือปราบของแคว้นฉู่ ค่างวดย่อมแพงธรรมดา ทำงานข้ามดินแดน
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล