Share

๒ อารมณ์แปรปรวน

last update Last Updated: 2025-05-03 15:37:40

เช้าวันรุ่งขึ้นฮั่วซูเม่ยตื่นขึ้นมาด้วยความเกียจคร้านปนเหนื่อยล้าไปทั่วทั้งร่าง นางสวมใส่อาภรณ์สีฉูดฉาดปักลวดลายเล็กน้อยประดับอย่างประณีตอีกทั้งยังรวบเกล้าผมขึ้นเป็นมวยสูงเฉกเช่นกับสตรีออกเรือนแล้ว

ฮั่วซูเม่ยปล่อยให้พวกสาวใช้จัดการได้อย่างตามใจ เพียงแต่การแต่งแต้มใบหน้านั้นนางเป็นคนลงมือจัดการเอง

อารมณ์วันนี้ของนางเบิกบานอย่างเห็นได้ชัด

พวกสาวใช้ที่อยู่บริเวณในห้องนั้นเห็นท่าทางของคุณใหญ่แล้วก็ต่างพากันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยความเกรงกลัว ไม่บ่อยครั้งนักที่จะเห็นคุณหนูใหญ่อารมณ์ดีเช่นนี้

“มีเรื่องยินดีอันใดหรือเจ้าค่ะ” สาวใช้ผู้หญิงใจกล้าเปิดปากถามออกไป

ฮั่วซูเม่นเหลียวมอง “ข้ายิ้มไม่ได้หรือ” นางเอียงคอเลิกคิ้วถามก่อนจะยกมือลูบท้องของตนเอง “หากมารดาอารมณ์ดีบุตรในท้องก็อารมณ์ดีด้วยมิใช่หรือ”

“เจ้าค่ะ!” สาวใช้ผู้นั้นพยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วย ถึงแม้ภายในใจจะรู้แล้วว่าเป็นเรื่องอันใดก็ตาม นางพอปะติดปะต่อได้ว่าคงเป็นเหตุการณ์ที่คุณใหญ่ยกเลิกงานหมั้นหมายจองคุณหนูรองเป็นแน่

แม้ทั้งคู่จะเป็นพี่น้องร่วมบิดากันแล้วอย่างไร

คุณหนูใหญ่ดันเกิดก่อนคุณหนูรองที่มีมารดาเป็นฮูหยินเอกมีผู้ใดบ้างจะพึงพอใจยอมรับเรื่องนี้ได้ อีกทั้งตั้งแต่เด็กยังเป็นนิสัยร้ายกาจคอยกลั่นแกล้งคุณหนูรองอยู่บ่อยครั้งทว่ากับยังมีฮูหยินผู้เฒ่าที่เอ็นดูคอยให้ท้ายอยู่เสมอ

ใบหน้าของฮั่วซูเม่ยเจื่อนด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “วันนี้พวกเจ้าทำได้ดี” นางพลางเบิกลิ้นชักลวงถุง ๆ หนึ่งออกมาก่อนจะวางลงบนโต๊ะ

“เอาไปแบ่งกันเสีย” นางพูดพลางลุกขึ้น

พวกสาวใช้เห็นแล้วก็พลันตาลุกวาวแต่กลับไม่มีผู้ใดใจกล้าหยิบจับแตะต้องถุงเงินนั้นเลย เกรงว่าจะเป็นสิ่งของที่ขโมยมาจากผู้อื่น

ว่ากันตามตรงมารดาของคุณหนูใหญ่หรือฮูหยินรองนั้นเป็นเพียงตระกูลพ่อค้าธรรมดาเท่านั้นมิได้มีฐานะร่ำรวยอันใดและถึงแม้ตอนจากไปจะทิ้งสินเดิมไว้ให้คุณหนูใหญ่แต่นั้นก็เป็นเพียงเศษเงินสำหรับพวกคนรวยเท่านั้น

แต่คุณหนูใหญ่มองดูแล้วกับใช้เงินมือเติบสวนทางกับสิ่งที่เป็นอยู่นัก

ฮั่วซูเม่ยเลิกคิ้วถาม “ไม่เอาหรอกหรือ”

“…..”

“เงินพวกนี้หากพวกเจ้าแบ่งกันแล้วอย่างไรก็มากกว่าเงินทั้งเดือนที่สกุลฮั่วมอบให้อยู่ดี” สายตาของนางปรายมองสาวใช้พวกนี้ที่เอาแต่ก้มหน้ามองเท้า ฮั่วซูเม่ยยกยิ้มมุมปาก “เช่นนั้นก็ออกไปซะ”

“ขอบคุณเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่!”

จู่ ๆ สาวใช้ใจกล้าผู้หนึ่งก็พุ่งเข้ามาคว้าถุงเงินไว้ในมือก่อนจะทำความเคารพแล้วจึงออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วทันที

ฮั่วซูเม่ยได้แต่หัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์

เมื่อก่อนนางใช้ชีวิตอย่างลำบากจริง ๆ ถึงจะมีฐานะเป็นคุณหนูใหญ่แต่กลับไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างที่ควร ซ้ำตอนมารดาจากไปแล้วนางมิต่างกับเป็นภาระของจวนสกุลฮั่ว

ผ่านไปครู่ใหญ่ท้องของนางก็พลันส่งเสียงร้องดังโครกครากเสียแล้ว ฮั่วซูเม่ยเบื่อที่จะกินข้าวผู้เดียวดังนั้นในความคิดของนางจึงออกไปจวนไปประจบพบเจอฮูหยินผู้เฒ่าเสียหน้า

“คุณหนูจะไปที่ใดหรือเจ้าค่ะ”

ฮั่วซูเม่ยก้าวเท้ายังไม่พ้นขอบประตูก็พลันมีสาวใช้ผู้หนึ่งยืนกางแขนขวางทางไว้เสียแล้ว

นางขมวดคิ้วมอง “หลีกไป”

“บ่าวทำเช่นนั้นไม่ได้เจ้าค่ะ”

พอได้ยินถ้อยคำนี้นางเข้าใจความมหายกระจ่างแจ้งทันที “ฮั่วฮูหยินสั่งให้เจ้าเป็นสุนัขจับตามองข้าหรือ”

ประโยคของคุณหนูตรงหน้าทำเอานางเจ็บแสบไม่น้อย “บ่าวมิใช่สุนัขเจ้าค่ะ” สาวใช้ผู้นี้ทำท่าอวดดียกมือเท้าสะเอวเชิดใบหน้ามองเหยียดสตรีตรงหน้า

“คนนิสัยใจคอร้ายกาจเฉกเช่นคุณหนูใหญ่สมควรอยู่ในเรือนไม่พบผู้ใดเลยจะดีกว่า”

“อืม” ฮั่วซูเม่ยขานรับ

“ฮั่วฮูหยินนับว่าเลี้ยงสุนัขตัวนี้ได้ดี”

สตรีผู้นั้นคิดหรือว่าอำนาจเพียงเท่านี้จะจัดการนานได้ เช่นนั้นนางก็คงไม่อยู่รอดมาได้นานเพียงนี้ จากที่เดิมที่อารมณ์ของนางดี ๆ กลับย่ำแย่ลงเล็กน้อย

ใบหน้าของฮั่วซูเม่ยเคร่งขรึมขึ้นทันที พลางเสแสร้งถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เช่นนั้นบุตรชายของเซียนหยางชินอ๋องคงต้องทนหิวโหยตลอดทั้งวันแล้วกระมัง”

 

ครั้งล่าสุดที่ไหวห่าวซีมาเหยียบจวนชินอ๋องคงจะเป็นช่วงเมื่อหนึ่งเดือนก่อนได้ เมื่อสังเกตมองดูรอบ ๆ จวนแล้วเหมือนไม่มีอันใดเปลี่ยนไปมากนักนอกจากอารมณ์ขุ่นมัวของสหายเบื้องหน้า

“ข่าวดีเช่นนี้ปล่อยให้ข้าได้ยินจากปากผู้อื่นได้อย่างไร”

ไหวห่าวซีมีฐานะเป็นผู้ตรวจตราแผ่นดิน เขาจึงออกไปว่าราชการต่างอำเภออยู่บ่อยครั้งและวันนี้พอกลับถึงจวนยังไม่ทันจะได้พักเหนื่อยหายใจแต่กลับได้ยินข่าวหนึ่งแว่วผ่านหูจึงเร่งรีบควบม้ามายังจวนชินอ๋องทันที

“เหตุใดไม่พานางมาให้ข้ารู้จักหน่อยเล่าเซียนหยาง”

ในขณะที่เซียนหยางชินอ๋องนั้นกลับมีสีหน้าอึมครึมไม่สู้ดี ทั่วทั้งตัวแฝงกลิ่นอายสังหารอย่างกระอักกระอ่วน

“ออกไปจากจวนของข้าซะ!” แววตาของเขาแข็งกร้าว

ไม่ต้องเอ่ยปากพูดเขาก็รู้ว่าบุรุษตรงหน้าหมายถึงเรื่องอันใดกัน วันนี้เซียนหยางชินอ๋องเข้าวังหลวงประชุมท้องพระโรงตั้งแต่เช้าตรู่แต่กลับถูกถามคาดคั้นถึงประเด็นเรื่องทำคุณหนูใหญ่จวนสกุลฮั่วตั้งครรภ์แทน

ไหวห่าวซียิ้มกว้างราวกับกำลังยียวนอารมณ์อีกฝ่าย “ดูท่าแล้วเจ้าคงทำคุณหนูจวนฮั่วตั้งครรภ์จริง ๆ”

คราแรกเขาคิดว่าเป็นเพียงข่าวลือจอมปลอมเท่านั้นแต่พอเห็นท่าทางของสหายแล้ว

นี่เป็นเรื่องจริงแน่!

“หึ! บุตรในครรภ์ของนางจะใช่ลูกข้าจริงหรือ” เซียนหยางหันขวับมองสหายตาขวาง

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด

“บางทีอาจเป็นแผนการของคุณสกุลฮั่ว”

“เพ่ย! เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นัก คุณหนูฮั่วหรือจะกล้าเอาชื่อเสียงของตนเองมาเดิมพันกับเจ้า!”

“ทำไมจะไม่ได้เล่า”

เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นหรือช่วงเวลาย้อนกลับไปนั้น เซียนหยางเชื่อว่าสตรีผู้นั้นจงใจโกหกเพื่อหลอกลวงเขาแน่

ไหวห่าวซีกลอกสายตามองบนถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เจ้าเองก็กำลังจะคิดจะตบแต่งคุณหนูรองสกุลฮั่วมิใช่หรอกหรือ…เช่นนั้นหากได้ตบแต่งคนพี่แทนจะเป็นไรไป”

“นางทำงานอยู่หอคณิกา”

“…..”

“ข้าพบเจอนางที่นั่น”

มิใช่ว่าในครรภ์ของนางเป็นบุตรของผู้อื่นหรือ ความสงสัยนี้ทำให้ภายในใจของหยางเซียนชินอ๋องว้าวุ่นไม่สงบนิ่ง เขาอยากจะเร่งไปจวนสกุลฮั่วถามให้รู้เรื่องแน่ชัดทว่าการกระทำเช่นนั้นเสมือนกับยิ่งเป็นการตอกย้ำ

เซียนหยางถอนหายใจฮึดฮัดไม่พอใจอยู่เฮือกใหญ่

“เป็นหญิงคณิกาแล้วอย่างไรกัน ค่ำคืนนั้นมีเพียงเจ้าและนางต่างรู้ดีมิใช่หรือ” ไหวห่าวซีกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

หากเขาจำไม่ผิดสหายตรงหน้าเพียงแต่ต้องการตบแต่งสตรีสกุลฮั่วเพียงเพราะต้องการผลประโยชน์เท่านั้น ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้วเปลี่ยนน้องเป็นพี่นับว่าไม่ขาดทุน

ประโยคนั้นเท่านั้นเซียนหยางพูดไม่ออกทันที

หากในครรภ์นางเป็นบุตรของเขาจริง…จะทำอย่างไรดี

ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ค่ำคืนเดียวแต่ภายหลังจากนั้นเขายังมีความรู้สึกว่ากลิ่นกายของนางยังคงไม่จางหาย

สตรีผู้นั้นมีความหอมมิต่างจากดอกไม้

ซ้ำเขายังเป็นคนแรกของนาง…

ไหวห่าวซีแค่นเสียงเยาะเย้ย “เหอะ! ดูท่าทางของเจ้าแล้ว ข้าสมควรจะต้องเตรียมของรับขวัญหลานผู้แรกเลยหรือไม่”

“กับผีน่ะสิ!”

ในใจของเซียวหยางชินอ๋องยังหวังว่าสตรีผู้นั้นตั้งใจจะยกเลิกงานหมั้นของน้องสาวหรือทำให้คนสกุลฮั่วขายหน้าเท่านั้น

“ข้าจะไปจวนสกุลฮั่ว!”

 

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓ ความโกรธเต็มท้อง

    “ใจเย็น ๆ ก่อนเถอะหลิงเออร์”“จะให้ลูกใจเย็นอย่างไรกันท่านแม่!” ฮั่วหลิงเฟยกระทืบเท้าด้วยความโกรธ ใบหน้าคนงามบิดเบี้ยวไม่สู้ดีเหอฮูหยินเห็นสภาพของบุตรสาวโศกเศร้าเสียใจเช่นนี้แล้ว คนเป็นมารดาเช่นนางปวดใจยิ่งนัก “ถึงอย่างไรเรื่องนี้ย่อมต้องมีทางแก้ไขแน่”“แก้ไขหรือ…” ฮั่วหลิงเฟยหันมามองมารดาผ่านม่านน้ำตา “เรื่องนี้จะแก้ไขได้อย่างไรกัน”เห็นได้ชัดว่าฮั่วซูเม่ยจงใจแย่งชิงวาสนาของนาง!ตั้งแต่เกิดมาฮั่วหลิงเฟยถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามอกตามใจ ขอเพียงเอ่ยปากชี้นิ้วอยากได้อะไรย่อมได้ ภายในใจของนางในตอนนี้ย่อมเต็มไปด้วยความโกรธแค้นทั้งสิ้น“ขอแม่คิดก่อนหลิงเออร์” ฮั่วฮูหยินพลางโอบไหล่บุตรสาวไว้หลวม ๆ ท่าทางของนางราวกับคิดไม่ตกหากเป็นบุตรชายสักตระกูลไม่ว่านางเอ่ยปากญาติฝั่งใดย่อมมีผู้ช่วยเหลือได้แน่ทว่าคนผู้นี้กับมีฐานะเป็นถึงชินอ๋อง นางมองไม่เห็นหนทางเลยฮั่วหลิงเฟยมองมารดานิ่ง ๆ ด้วยความคาดหวังตอนนี้ภายในใจของนางร้อนรุ่มราวกับถูกไฟสุมอยู่ในอก เกรงว่าวาสนาที่นางกำลังตั้งตาเฝ้ารอคอยมาตลอดหลายปีจะถูกช่วงชิงไปในชั่วพริบตาแก้ไขไม่ทันนางโมโหมากจริง ๆแล้วยิ่งแม่สื่อมากมายผู้นั้นเล่นป่าวประกาศไปทั่ว

    Last Updated : 2025-05-03
  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๔ ไม่ปล่อยเอาไว้

    ฮั่วซูเม่ยกะพริบตามองบุรุษตรงหน้าปริบ ๆ โดยไร้ความเกรงกลัวในขณะที่โทสะของเซียนหยางชินอ๋องนั้นเพิ่มขึ้นจนคับอก สายตาคมกริบเพ่งมองสตรีเบื้องหน้าอย่างแข็งกร้าว มุมปากหนาพลันหยักยกขึ้นจากนั้นจึงยกมือขึ้นบีบลำคอนางทันทีอึก!“คิดว่าข้าไม่กล้าสังหารเจ้าหรือ” นัยน์ของเซียนหยางในยามนี้มิต่างจากสัตว์ป่าดุร้ายตนหนึ่งคนที่อวดดีเช่นนี้สมควรถูกสั่งสอนดวงตาจองนางเบิกโพลงกว้างด้วยความตกใจจนสีหน้าซีดเผือดลงทันที และด้วยสัญชาตญาณนางยกมือโอบกอดหน้าท้องของตนเองไว้ทว่ากับมิได้ขัดขืน“……”ฝ่ามือหนายิ่งออกแรงกดบีบมากเรื่อย ๆ เมื่อสตรีผู้นี้ยังเอาแต่จ้องเขม็งไม่ปริปากส่งเสียงวิงวอนเซียนหยางชินอ๋องเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่านางจะอดทนไปได้ถึงเมื่อไหร่ “หึ! ใจกล้าอวดดีไม่น้อย”“เซียนหยางชินอ๋องเพคะ!”“……”เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่เหลียวหลังมาตามเสียงจากนั้นจึงผ่อนแรงลงปล่อยมือออกจากลำคอของนาง“แค่ก ๆ แค่ก!” ทันทีที่เป็นอิสระฮั่วซูเม่ยสำลักน้ำลายสูดอากาศหายใจจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด ทว่าสายตาของยังคงจดจ้องบุรุษตรงหน้าไม่วางตา“เกรงว่าสวรรค์คงยังไม่รับคนบาปเช่นเจ้า”มุมปากของนางยกยิ้มเยาะ “บาปหรือ?...แล้วผู้ที่คิดสังหาร

    Last Updated : 2025-05-04
  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๕ ลงมือจัดการ

    เซียนหยางยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์สตรีผู้นี้ยามนอนหลับช่างไม่ต่างจากเด็กน้อยผู้หนึ่งต่างกันลิบลับกับตอนตื่นขึ้นช่างเป็นสตรีที่ไม่ควรจะเข้าใกล้จริง ๆ“ตายแล้วหรือ!” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างแข็งกร้าวเขาพลางเดินไปตรงหน้าหยุดลงอยู่ข้าง ๆ เตียงจากนั้นจึงโน้มใบหน้าก้มมองใกล้ จู่ ๆ ภายในใจของเซียนหยางชินอ๋องก็รู้สึกพึงพอใจอยู่มากริมฝีปากอวบอิ่มจมูกรั้นจิ้มลิ้มหรือแพขนตางอนยาวนางเป็นตุ๊กตาผ้างั้นหรือ?ฮั่วซูเม่ยหลับสนิท แม้จะมีเสียงรบกวนทว่านางยังคงไม่ตื่นขึ้นมาดูเพียงส่งเสียงสะลึมสะลือราวกับละเมอเท่านั้น “อือ…”“…..”เซียนหยางเบิกตากว้างตัวแข็งทื่อ ก่อนจะฉุดคิดไว้ตอนนี้ตนกำลังทำอันใดอยู่จึงดีดตัวยืนเหยียดหลังตรงพลางกระแอมไอเล็กน้อย “เจ้าไม่คิดจะตื่นจริง ๆ หรือ!”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยดังจากคราวก่อนทว่าไม่ถึงกลับดังเกินไปที่จะปลุกคนทั้งจวนตื่นขึ้นมาได้นางยังคงนอนหลับอย่างสบายใจเรื่องเกิดเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วอายุครรภ์ของนางในตอนนี้อยู่ราว ๆ สักสี่เดือนเศษได้ แต่ทุกวันนี้ฮั่วซูเม่ยกลับมีนิสัยเกียจคร้านยิ่งนั้นเหมือนสตรีที่ใกล้คลอดแล้วยามกินก็กินจนหนังท้องตรึงพอยามหลับก็หลับลึกเสมือนว่าตา

    Last Updated : 2025-05-05
  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๖ ตกหลุมพลางคนเจ้าเล่ห์

    ไม่จู่ ๆ เพราะเหตุใดในยามนี้เขามองนางอยู่ถึงมีภาพเหตุการณ์จากค่ำคืนนั้นทับซ้อนขึ้นมากัน เซียนหยางชินอ๋องไม่พร่ำพูดให้เสียเวลา เขาพลันถอนอาภรณ์กระตุกผ้าคาดเอวออกทันที “ข้ามีเวลาไม่มากนักถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกซะ” !!!! สีหน้าของนางย่ำแย่อย่างเห็นได้ชัด ฮั่วซูเม่ยตกใจไม่คิดว่าวิธีพิสูจน์ของบุรุษผู้หรือจะหมายความว่าเช่นนี้ “ข้าท้องอยู่ตาบอดหรือไรกัน!” น้ำเสียงหวานตะโกนตอบ หัวใจดวงน้อยพลันเต้นกระหน่ำไม่เป็นจังหวะ ทว่าฮั่วซูเม่ยกับนั่งแน่นิ่งอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับหรือลุกหนีจากไป สายตาของนางยังคงจับจ้องการกระทำของบุรุษตรงหน้าไม่วางตา เพียงชั่วพริบตาเท่านั้นเซียนหยางพลันเปลือยเปล่าต่อหน้าสตรีผู้นี้โดนไร้ความเขินอาย “นี่อย่างไรข้ากำลังพิสูจน์” ตุบ!! “เจ้าคนลามก!” สุดท้ายแล้วความอดทนของนางก็ขาดผึงลง ฮั่วซูเม่ยคว้าหมอนโยนกระแทกใส่เซียนหยางด้วยความโมโห “ใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้!” มุมปากหนาหยักยกขึ้นเล็กน้อย ยิ่งเห็นนางเดือดดาลโมโหแทบกระอักเลือดเช่นนี้เซียนหยางยิ่งนึกสนุก “ไฉนคุณหนูฮั่วยังไม่คุ้นชินอีก” เขาพลางก้าวเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้านาง “ค่ำคืนนั้นทั้งข้าและคุณหนูต่างเปลือยเปล่าทั้งคู่มิใช่

    Last Updated : 2025-05-05
  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๗ ข้าจะทำเบาเบา

    “กรี๊ดดดด….!!!”ฮั่วซูเม่ยหวีดร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวดเมื่อจู่ ๆ ก็สัมผัสได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมสอดแทรกเข้ามาในกายนางด้วยความคับแน่น“อ๊าาา….” น้ำเสียงทุ้มครางแหบพร่าเซียนหยางชินอ๋องกัดฟันกรอดด้วยความปวดหนึบแก่นกาย ไฉนเลยจะคิดว่านางถึงยังคับแน่นเพียงนี้คำตอบภายในใจของเขากระจ่างแจ้งแล้วน้ำเสียงหวานสั่นเครือ “หยุ…หยุดก่อน”สองมือของนางออกแรงดันสะโพกของบุรุษผู้นี้เอาไว้ไม่ให้ขยับ ฮั่วซูเม่ยหอบหายใจเฮือกอีกใจหนึ่งก็นึกหวาดกลัวว่าบุตรในครรภ์จะปลอดภัยหรือเซียนหยางเข้าใจว่านางหมายความว่าอย่างไรจึงยังคงแน่นิ่ง“เจ้ารัดข้าแทบหายใจไม่ออก”ภายในโพลงสวาทอุ่นร้อนบีบรัดแก่นกายของเขาแน่นจนแทบตบะแตก เซียนหยางกัดฟันครั้งแล้วครั้งเล่าอดทนรอคอยให้สตรีใต้ร่างปรับตัวได้อีกสักนิดเขาเองก็เกรงว่าหากรุนแรงไปคงกระทบต่อเด็กในครรภ์ใบหน้าคนงามบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเจ็บปวดจนน้ำตาเล็ด ตั้งแต่วันนั้นนางก็ไม่ได้ร่วมรักกับผู้ใดอีกเลยฮั่วซูเม่ยนึกแล้วก็โมโหบุรุษผู้นี้คอยดูเถอะหากโอกาสมาถึงเมื่อไหร่นางเอาคืนแน่!“ข้าจะทำเบา ๆ” น้ำเสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบกระซาบข้างใบหูขาวเนียนหลังจากนั้นจึงขบกัดเล็กน้อยฮั่วซูเม่ยผ

    Last Updated : 2025-05-07
  • วาสนานี้เป็นของข้า   บทนำ

    ฮั่วซูเม่ยเดินมาถึงเรือนส่วนหน้าแล้ว สายตาของนางทอดมองเข้าไปข้างในด้วยความแข็งกร้าว มุมปากหยักยิ้มเยาะเล็กน้อย “หากข้าไม่ได้ยินเสียงของพวกบ่าวรับใช้ซุบซิบนินทาเกรงว่าคงไม่มีผู้ใดปริปากบอกข้ากระมังว่ามีบุรุษมาสู่ขอน้องรองแล้วเสียงหัวเราะที่สะท้อนออกมาอย่างสนุกสนานนั้น ทำให้นางทำใจปล่อยผ่านไปไม่ได้จริง ๆ“พี่ใหญ่!”“ซูเออร์!”การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของฮั่วซูเม่ยทำให้ผู้คนทั่วทั้งเรือนต่างยกมือทาบอกร้องออกมาด้วยความตกใจไม่น้อย เกรงว่านางคงไม่ได้มาที่นี้เพื่ออาละวาดใช่หรือไม่ใบหน้าของฮั่วซูเม่ยระบายยิ้มกว้าง “ไฉนถึงใจราวกับเห็นผีกันเล่า”“เอ่อ…” ภายในใจของฮั่วหลิงเฟยร้อนรนเกรงว่าสตรีตรงหน้านี้กำลังจะอาละวาดก่อเรื่องแน่ “หลิงเออร์คิดว่าพี่ใหญ่คงกำลังพักผ่อนจึงไม่อยากรบกวน”“รบกวนหรือ” ฮั่วซูเม่ยเลิกคิ้วถามกลับดวงตาเมล็ดซิ่งหลุมตาต่ำก้มมองหน้าท้องของต้นเอง “เรื่องยินดีปรีดาเช่นนี้ไม่นับว่าเป็นการรบกวน”นางหาได้ตาบอดหรือโง่งม…เพียงแค่ปรายตามองแวบหนึ่งก็รู้ว่าคนพวกนี้ต้องการจะกีดกันนางให้ออกห่างจากฮั่วหลิงเฟยจวนสกุลฮั่วนับได้ว่าเป็นจวนสกุลขุนนางสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น จนกระทั่งภายหลังที่

    Last Updated : 2025-05-03
  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๑ เหตุการณ์ในวันนั้น

    “ถอยออกไปให้ห่างก่อนที่ข้าจะโมโห”เซียนหยางชินอ๋องเพ่งมองสตรีใต้ร่าง ดวงตาสีดำคมกริบในยามนี้ดูลุ่มลึกยากจะคาดเดาได้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ฤทธิ์ของสุราแรงที่ดื่มเข้านั้นยิ่งทำให้เขาขาดสติ แล้วยิ่งมีสตรีงามอยู่ตรงหน้าอีกเขาเองก็หาใช่ก้อนหินแข็งทื่อ“ดอกไม้งามอยู่ในมือแล้วไฉนถึงต้องปล่อยไปโดยไม่ทันได้สูดดมเล่า” น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยกระซิบข้างใบหูของนาง พร้อมกันโน้มใบหน้าสูดดมความหอมจากซอกคอพอได้ยินประโยคนี้พร้อมกับการกระทำที่ล่วงเกิน ฮั่วซูเม่ยไม่อาจสามารถอดทนใจเย็นได้อีกเลย“เจ้าคนมักมาก!”ตุบ!! ตุบ!นางเองก็พอมีแรงอยู่บ้างจึงทำการทุบตีบุรุษร่างโตตรงหน้าที่คร่อมทาบทับไว้ก่อนที่จะอาศัยจังหวะที่บุรุษผู้นั้นงุนงงลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว“ข้าน่าจะปล่อยให้เจ้าตายอยู่ในนี้ผู้เดียว”สถานที่แห่งนี้แม้ภายนอกบรรยากาศจะหนาวเหน็บเย็นสะท้านเข้ากระดูกแล้วอย่างไร ทว่าภายในกลับร้อนระอุราวกับกำลังถูกแผดเผาให้มอดไหม้นั่นคือโรงเตี๊ยมไป๋ชานและนางคือนายหญิงของที่นี่ทุกอย่างไม่ว่าเรื่องใดล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของนางฮั่วซูเม่ยปรายตามองบุรุษผู้นั้นความเกรี้ยวกราด แม้ภายในห้องจะมืดสนิททว่ายังคงมีแสงจั

    Last Updated : 2025-05-03

Latest chapter

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๗ ข้าจะทำเบาเบา

    “กรี๊ดดดด….!!!”ฮั่วซูเม่ยหวีดร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวดเมื่อจู่ ๆ ก็สัมผัสได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมสอดแทรกเข้ามาในกายนางด้วยความคับแน่น“อ๊าาา….” น้ำเสียงทุ้มครางแหบพร่าเซียนหยางชินอ๋องกัดฟันกรอดด้วยความปวดหนึบแก่นกาย ไฉนเลยจะคิดว่านางถึงยังคับแน่นเพียงนี้คำตอบภายในใจของเขากระจ่างแจ้งแล้วน้ำเสียงหวานสั่นเครือ “หยุ…หยุดก่อน”สองมือของนางออกแรงดันสะโพกของบุรุษผู้นี้เอาไว้ไม่ให้ขยับ ฮั่วซูเม่ยหอบหายใจเฮือกอีกใจหนึ่งก็นึกหวาดกลัวว่าบุตรในครรภ์จะปลอดภัยหรือเซียนหยางเข้าใจว่านางหมายความว่าอย่างไรจึงยังคงแน่นิ่ง“เจ้ารัดข้าแทบหายใจไม่ออก”ภายในโพลงสวาทอุ่นร้อนบีบรัดแก่นกายของเขาแน่นจนแทบตบะแตก เซียนหยางกัดฟันครั้งแล้วครั้งเล่าอดทนรอคอยให้สตรีใต้ร่างปรับตัวได้อีกสักนิดเขาเองก็เกรงว่าหากรุนแรงไปคงกระทบต่อเด็กในครรภ์ใบหน้าคนงามบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเจ็บปวดจนน้ำตาเล็ด ตั้งแต่วันนั้นนางก็ไม่ได้ร่วมรักกับผู้ใดอีกเลยฮั่วซูเม่ยนึกแล้วก็โมโหบุรุษผู้นี้คอยดูเถอะหากโอกาสมาถึงเมื่อไหร่นางเอาคืนแน่!“ข้าจะทำเบา ๆ” น้ำเสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบกระซาบข้างใบหูขาวเนียนหลังจากนั้นจึงขบกัดเล็กน้อยฮั่วซูเม่ยผ

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๖ ตกหลุมพลางคนเจ้าเล่ห์

    ไม่จู่ ๆ เพราะเหตุใดในยามนี้เขามองนางอยู่ถึงมีภาพเหตุการณ์จากค่ำคืนนั้นทับซ้อนขึ้นมากัน เซียนหยางชินอ๋องไม่พร่ำพูดให้เสียเวลา เขาพลันถอนอาภรณ์กระตุกผ้าคาดเอวออกทันที “ข้ามีเวลาไม่มากนักถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกซะ” !!!! สีหน้าของนางย่ำแย่อย่างเห็นได้ชัด ฮั่วซูเม่ยตกใจไม่คิดว่าวิธีพิสูจน์ของบุรุษผู้หรือจะหมายความว่าเช่นนี้ “ข้าท้องอยู่ตาบอดหรือไรกัน!” น้ำเสียงหวานตะโกนตอบ หัวใจดวงน้อยพลันเต้นกระหน่ำไม่เป็นจังหวะ ทว่าฮั่วซูเม่ยกับนั่งแน่นิ่งอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับหรือลุกหนีจากไป สายตาของนางยังคงจับจ้องการกระทำของบุรุษตรงหน้าไม่วางตา เพียงชั่วพริบตาเท่านั้นเซียนหยางพลันเปลือยเปล่าต่อหน้าสตรีผู้นี้โดนไร้ความเขินอาย “นี่อย่างไรข้ากำลังพิสูจน์” ตุบ!! “เจ้าคนลามก!” สุดท้ายแล้วความอดทนของนางก็ขาดผึงลง ฮั่วซูเม่ยคว้าหมอนโยนกระแทกใส่เซียนหยางด้วยความโมโห “ใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้!” มุมปากหนาหยักยกขึ้นเล็กน้อย ยิ่งเห็นนางเดือดดาลโมโหแทบกระอักเลือดเช่นนี้เซียนหยางยิ่งนึกสนุก “ไฉนคุณหนูฮั่วยังไม่คุ้นชินอีก” เขาพลางก้าวเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้านาง “ค่ำคืนนั้นทั้งข้าและคุณหนูต่างเปลือยเปล่าทั้งคู่มิใช่

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๕ ลงมือจัดการ

    เซียนหยางยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์สตรีผู้นี้ยามนอนหลับช่างไม่ต่างจากเด็กน้อยผู้หนึ่งต่างกันลิบลับกับตอนตื่นขึ้นช่างเป็นสตรีที่ไม่ควรจะเข้าใกล้จริง ๆ“ตายแล้วหรือ!” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างแข็งกร้าวเขาพลางเดินไปตรงหน้าหยุดลงอยู่ข้าง ๆ เตียงจากนั้นจึงโน้มใบหน้าก้มมองใกล้ จู่ ๆ ภายในใจของเซียนหยางชินอ๋องก็รู้สึกพึงพอใจอยู่มากริมฝีปากอวบอิ่มจมูกรั้นจิ้มลิ้มหรือแพขนตางอนยาวนางเป็นตุ๊กตาผ้างั้นหรือ?ฮั่วซูเม่ยหลับสนิท แม้จะมีเสียงรบกวนทว่านางยังคงไม่ตื่นขึ้นมาดูเพียงส่งเสียงสะลึมสะลือราวกับละเมอเท่านั้น “อือ…”“…..”เซียนหยางเบิกตากว้างตัวแข็งทื่อ ก่อนจะฉุดคิดไว้ตอนนี้ตนกำลังทำอันใดอยู่จึงดีดตัวยืนเหยียดหลังตรงพลางกระแอมไอเล็กน้อย “เจ้าไม่คิดจะตื่นจริง ๆ หรือ!”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยดังจากคราวก่อนทว่าไม่ถึงกลับดังเกินไปที่จะปลุกคนทั้งจวนตื่นขึ้นมาได้นางยังคงนอนหลับอย่างสบายใจเรื่องเกิดเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วอายุครรภ์ของนางในตอนนี้อยู่ราว ๆ สักสี่เดือนเศษได้ แต่ทุกวันนี้ฮั่วซูเม่ยกลับมีนิสัยเกียจคร้านยิ่งนั้นเหมือนสตรีที่ใกล้คลอดแล้วยามกินก็กินจนหนังท้องตรึงพอยามหลับก็หลับลึกเสมือนว่าตา

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๔ ไม่ปล่อยเอาไว้

    ฮั่วซูเม่ยกะพริบตามองบุรุษตรงหน้าปริบ ๆ โดยไร้ความเกรงกลัวในขณะที่โทสะของเซียนหยางชินอ๋องนั้นเพิ่มขึ้นจนคับอก สายตาคมกริบเพ่งมองสตรีเบื้องหน้าอย่างแข็งกร้าว มุมปากหนาพลันหยักยกขึ้นจากนั้นจึงยกมือขึ้นบีบลำคอนางทันทีอึก!“คิดว่าข้าไม่กล้าสังหารเจ้าหรือ” นัยน์ของเซียนหยางในยามนี้มิต่างจากสัตว์ป่าดุร้ายตนหนึ่งคนที่อวดดีเช่นนี้สมควรถูกสั่งสอนดวงตาจองนางเบิกโพลงกว้างด้วยความตกใจจนสีหน้าซีดเผือดลงทันที และด้วยสัญชาตญาณนางยกมือโอบกอดหน้าท้องของตนเองไว้ทว่ากับมิได้ขัดขืน“……”ฝ่ามือหนายิ่งออกแรงกดบีบมากเรื่อย ๆ เมื่อสตรีผู้นี้ยังเอาแต่จ้องเขม็งไม่ปริปากส่งเสียงวิงวอนเซียนหยางชินอ๋องเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่านางจะอดทนไปได้ถึงเมื่อไหร่ “หึ! ใจกล้าอวดดีไม่น้อย”“เซียนหยางชินอ๋องเพคะ!”“……”เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่เหลียวหลังมาตามเสียงจากนั้นจึงผ่อนแรงลงปล่อยมือออกจากลำคอของนาง“แค่ก ๆ แค่ก!” ทันทีที่เป็นอิสระฮั่วซูเม่ยสำลักน้ำลายสูดอากาศหายใจจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด ทว่าสายตาของยังคงจดจ้องบุรุษตรงหน้าไม่วางตา“เกรงว่าสวรรค์คงยังไม่รับคนบาปเช่นเจ้า”มุมปากของนางยกยิ้มเยาะ “บาปหรือ?...แล้วผู้ที่คิดสังหาร

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓ ความโกรธเต็มท้อง

    “ใจเย็น ๆ ก่อนเถอะหลิงเออร์”“จะให้ลูกใจเย็นอย่างไรกันท่านแม่!” ฮั่วหลิงเฟยกระทืบเท้าด้วยความโกรธ ใบหน้าคนงามบิดเบี้ยวไม่สู้ดีเหอฮูหยินเห็นสภาพของบุตรสาวโศกเศร้าเสียใจเช่นนี้แล้ว คนเป็นมารดาเช่นนางปวดใจยิ่งนัก “ถึงอย่างไรเรื่องนี้ย่อมต้องมีทางแก้ไขแน่”“แก้ไขหรือ…” ฮั่วหลิงเฟยหันมามองมารดาผ่านม่านน้ำตา “เรื่องนี้จะแก้ไขได้อย่างไรกัน”เห็นได้ชัดว่าฮั่วซูเม่ยจงใจแย่งชิงวาสนาของนาง!ตั้งแต่เกิดมาฮั่วหลิงเฟยถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามอกตามใจ ขอเพียงเอ่ยปากชี้นิ้วอยากได้อะไรย่อมได้ ภายในใจของนางในตอนนี้ย่อมเต็มไปด้วยความโกรธแค้นทั้งสิ้น“ขอแม่คิดก่อนหลิงเออร์” ฮั่วฮูหยินพลางโอบไหล่บุตรสาวไว้หลวม ๆ ท่าทางของนางราวกับคิดไม่ตกหากเป็นบุตรชายสักตระกูลไม่ว่านางเอ่ยปากญาติฝั่งใดย่อมมีผู้ช่วยเหลือได้แน่ทว่าคนผู้นี้กับมีฐานะเป็นถึงชินอ๋อง นางมองไม่เห็นหนทางเลยฮั่วหลิงเฟยมองมารดานิ่ง ๆ ด้วยความคาดหวังตอนนี้ภายในใจของนางร้อนรุ่มราวกับถูกไฟสุมอยู่ในอก เกรงว่าวาสนาที่นางกำลังตั้งตาเฝ้ารอคอยมาตลอดหลายปีจะถูกช่วงชิงไปในชั่วพริบตาแก้ไขไม่ทันนางโมโหมากจริง ๆแล้วยิ่งแม่สื่อมากมายผู้นั้นเล่นป่าวประกาศไปทั่ว

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๒ อารมณ์แปรปรวน

    เช้าวันรุ่งขึ้นฮั่วซูเม่ยตื่นขึ้นมาด้วยความเกียจคร้านปนเหนื่อยล้าไปทั่วทั้งร่าง นางสวมใส่อาภรณ์สีฉูดฉาดปักลวดลายเล็กน้อยประดับอย่างประณีตอีกทั้งยังรวบเกล้าผมขึ้นเป็นมวยสูงเฉกเช่นกับสตรีออกเรือนแล้วฮั่วซูเม่ยปล่อยให้พวกสาวใช้จัดการได้อย่างตามใจ เพียงแต่การแต่งแต้มใบหน้านั้นนางเป็นคนลงมือจัดการเองอารมณ์วันนี้ของนางเบิกบานอย่างเห็นได้ชัดพวกสาวใช้ที่อยู่บริเวณในห้องนั้นเห็นท่าทางของคุณใหญ่แล้วก็ต่างพากันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยความเกรงกลัว ไม่บ่อยครั้งนักที่จะเห็นคุณหนูใหญ่อารมณ์ดีเช่นนี้“มีเรื่องยินดีอันใดหรือเจ้าค่ะ” สาวใช้ผู้หญิงใจกล้าเปิดปากถามออกไปฮั่วซูเม่นเหลียวมอง “ข้ายิ้มไม่ได้หรือ” นางเอียงคอเลิกคิ้วถามก่อนจะยกมือลูบท้องของตนเอง “หากมารดาอารมณ์ดีบุตรในท้องก็อารมณ์ดีด้วยมิใช่หรือ”“เจ้าค่ะ!” สาวใช้ผู้นั้นพยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วย ถึงแม้ภายในใจจะรู้แล้วว่าเป็นเรื่องอันใดก็ตาม นางพอปะติดปะต่อได้ว่าคงเป็นเหตุการณ์ที่คุณใหญ่ยกเลิกงานหมั้นหมายจองคุณหนูรองเป็นแน่แม้ทั้งคู่จะเป็นพี่น้องร่วมบิดากันแล้วอย่างไรคุณหนูใหญ่ดันเกิดก่อนคุณหนูรองที่มีมารดาเป็นฮูหยินเอกมีผู้ใดบ้างจะพึงพอใจยอมรั

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๑ เหตุการณ์ในวันนั้น

    “ถอยออกไปให้ห่างก่อนที่ข้าจะโมโห”เซียนหยางชินอ๋องเพ่งมองสตรีใต้ร่าง ดวงตาสีดำคมกริบในยามนี้ดูลุ่มลึกยากจะคาดเดาได้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ฤทธิ์ของสุราแรงที่ดื่มเข้านั้นยิ่งทำให้เขาขาดสติ แล้วยิ่งมีสตรีงามอยู่ตรงหน้าอีกเขาเองก็หาใช่ก้อนหินแข็งทื่อ“ดอกไม้งามอยู่ในมือแล้วไฉนถึงต้องปล่อยไปโดยไม่ทันได้สูดดมเล่า” น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยกระซิบข้างใบหูของนาง พร้อมกันโน้มใบหน้าสูดดมความหอมจากซอกคอพอได้ยินประโยคนี้พร้อมกับการกระทำที่ล่วงเกิน ฮั่วซูเม่ยไม่อาจสามารถอดทนใจเย็นได้อีกเลย“เจ้าคนมักมาก!”ตุบ!! ตุบ!นางเองก็พอมีแรงอยู่บ้างจึงทำการทุบตีบุรุษร่างโตตรงหน้าที่คร่อมทาบทับไว้ก่อนที่จะอาศัยจังหวะที่บุรุษผู้นั้นงุนงงลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว“ข้าน่าจะปล่อยให้เจ้าตายอยู่ในนี้ผู้เดียว”สถานที่แห่งนี้แม้ภายนอกบรรยากาศจะหนาวเหน็บเย็นสะท้านเข้ากระดูกแล้วอย่างไร ทว่าภายในกลับร้อนระอุราวกับกำลังถูกแผดเผาให้มอดไหม้นั่นคือโรงเตี๊ยมไป๋ชานและนางคือนายหญิงของที่นี่ทุกอย่างไม่ว่าเรื่องใดล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของนางฮั่วซูเม่ยปรายตามองบุรุษผู้นั้นความเกรี้ยวกราด แม้ภายในห้องจะมืดสนิททว่ายังคงมีแสงจั

  • วาสนานี้เป็นของข้า   บทนำ

    ฮั่วซูเม่ยเดินมาถึงเรือนส่วนหน้าแล้ว สายตาของนางทอดมองเข้าไปข้างในด้วยความแข็งกร้าว มุมปากหยักยิ้มเยาะเล็กน้อย “หากข้าไม่ได้ยินเสียงของพวกบ่าวรับใช้ซุบซิบนินทาเกรงว่าคงไม่มีผู้ใดปริปากบอกข้ากระมังว่ามีบุรุษมาสู่ขอน้องรองแล้วเสียงหัวเราะที่สะท้อนออกมาอย่างสนุกสนานนั้น ทำให้นางทำใจปล่อยผ่านไปไม่ได้จริง ๆ“พี่ใหญ่!”“ซูเออร์!”การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของฮั่วซูเม่ยทำให้ผู้คนทั่วทั้งเรือนต่างยกมือทาบอกร้องออกมาด้วยความตกใจไม่น้อย เกรงว่านางคงไม่ได้มาที่นี้เพื่ออาละวาดใช่หรือไม่ใบหน้าของฮั่วซูเม่ยระบายยิ้มกว้าง “ไฉนถึงใจราวกับเห็นผีกันเล่า”“เอ่อ…” ภายในใจของฮั่วหลิงเฟยร้อนรนเกรงว่าสตรีตรงหน้านี้กำลังจะอาละวาดก่อเรื่องแน่ “หลิงเออร์คิดว่าพี่ใหญ่คงกำลังพักผ่อนจึงไม่อยากรบกวน”“รบกวนหรือ” ฮั่วซูเม่ยเลิกคิ้วถามกลับดวงตาเมล็ดซิ่งหลุมตาต่ำก้มมองหน้าท้องของต้นเอง “เรื่องยินดีปรีดาเช่นนี้ไม่นับว่าเป็นการรบกวน”นางหาได้ตาบอดหรือโง่งม…เพียงแค่ปรายตามองแวบหนึ่งก็รู้ว่าคนพวกนี้ต้องการจะกีดกันนางให้ออกห่างจากฮั่วหลิงเฟยจวนสกุลฮั่วนับได้ว่าเป็นจวนสกุลขุนนางสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น จนกระทั่งภายหลังที่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status