มะขามตอบคนขับรถนั้นแล้ว วิ่งเข้าไปในผับอย่างไวโดยไม่หันมามองข้างหลังเลย
"โอ้โห…นี้บ้านมึงถึงขนาดต้องคัดหน้าตาคนขับรถเลยหรอ ทรงแด๊ดดี้มากเลยมึง แด๊ดดี้ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ แต่ไม่ค่อยมีมารยาทเลยว่ะ กูให้มาช่วยแบกไอรินมันขึ้นรถก็ไม่มา" "คัดหน้าตาอะไรกัน…นี้มึงเมาแล้วหรอถึงขนาดมองลุงพลเป็นแด๊ดดี้อะไรของมึงอะ ฮ่าๆ แล้วมึงไปส่งไอรินมันถึงไหน ลุงพลโทรมาหากูเค้าบอกรอมึงนานล่ะ ไม่มาสักที" "กูไม่ได้เมาสักหน่อย คนขับรถบ้านมึงหล่อจริงๆ" "มึงจะบ้าหรอลุงพลนี้เค้าจะเกษียณแล้วนะ เค้าเคยไปส่งกูที่บ้าน ไม่เชื่อมึงก็ให้ฟ้าใสเปิดรูปให้ดูดิ" ฟ้าใสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดรูปคนขับรถให้มะขามดู มะขามถึงกับสบถคำหยาบออกมา “เหี้ย” แล้วคนที่มาจอดรถตรงนั้นเป็นใครว่ะ แล้วกูปล่อยไอรินไปกับใครก็ไม่รู้อะมึง มันจะเป็นไงบ้างอะ” มะขามเอ่ยตกใจ เสียงโทรศัพท์ดัง "ฮัลโหล…มึงไปจอดรถถึงไหนวะ" "เออโทษทีว่ะวันนี้คงไม่ได้แล้วมีธุระนิดหน่อย…เดี๋ยววันหน้ากูเลี้ยงชดเชยให้" "โอเคเพื่อนค่อยเจอกัน" คุณกรณ์คุยโทรศัพท์กับเพื่อนที่นัดกันมาสังสรรค์ เขากำลังหาที่จอดรถแต่มีเด็กสาวที่ไหนไม่รู้เข้าใจผิดคิดว่าคุณกรณ์เป็นคนขับรถซะได้ คุณกรณ์หลุดขำออกมาจนเด็กสาวเบาะหลังตื่น ไอรินที่รู้สึกตัวแล้วก็ร้องไห้ออกมาทำให้คุณกรณ์ตกใจ "คุณลุงคะ…ฉันไม่อยากกลับบ้านฉันอยากดื่มต่อเดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง ฮืออออTT" "นี่แม่หนูเมาขนาดนี้แล้วยังจะดื่มต่ออีก…แล้วอีกอย่างฉันไม่ได้แก่ที่จะเป็นลุงได้" "นะคะคุณน้า…ช่วยซื้อเครื่องดื่มให้ฉันที" คุณกรณ์แวะซื้อเครื่องดื่มแล้วขับรถพาเด็กสาวที่งอแงไม่อยากกลับบ้านไปยังอ่าวเก็บน้ำเพื่อที่จะสงบสติอารมณ์เธอร้องไห้ตลอดทาง และบ่นรำพึงรำพันอยู่คนเดียวคุณกรณ์รู้สึกเห็นใจเด็กสาวคนนี้จึงอยากช่วยปลอบโยนเธอให้หายจากความเศร้า ณ อ่าวเก็บน้ำ คุณกรณ์เปิดประทุนรถของเขาเพื่อที่จะให้เด็กสาวคนนี้ได้เห็นดาวบนท้องฟ้าท่ามกลางอ่าวเก็บน้ำที่ ล้อมรอบด้วยหุบเขาแสงดวงดาวกระทบกับผิวน้ำทำให้สว่างไสวไปทั่วอ่าวเก็บน้ำนี้ การปลอบโยนของคุณกรณ์ทำให้เด็กสาวรู้สึกผ่อนคลายขึ้นได้ "เป็นไงดีขึ้นบ้างยัง?" "คุณลุงรู้จักที่นี่ได้ไงคะ…สวยมากเลยหนูพึ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก" "นี่แม่หนู…ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันไม่ใช่ลุง" "ล้อเล่นน่ะค่ะ…คุณน้า ฮ่าๆ" ทั้งสองต่างคุยกันอย่างสนุกสนานไอรินเธอได้ระบายความเจ็บปวดในใจที่มีอยู่ทั้งหมดของเธอออกมาให้กับคุณกรณ์ฟัง คุณกรณ์รับบทเป็นผู้ฟังที่ดีช่วยปลอบเธอที่กำลังร้องไห้โดยการเล่นมุกตลกให้เธอฟัง "รู้ไหม…ฉันก็มีเรื่องเครียดเหมือนกันนะแต่เธอคงอาจจะรู้แล้ว" "เรื่องอะไรหรอคะ" ไอริพูดแล้วเอียงหัวพลางทำหน้าสงสัย "ฉันหล่อมากไง…เป็นเรื่องที่เครียดที่สุดเลย" ไอรินกลั้นขำไม่อยู่หลุดขำออกมา ฮ่าๆๆ "คุณน้า…เค้ามีแต่ให้คนอื่นชมนี่ชมตัวเองแบบนี้ก็ได้หรอคะ" "แล้วหล่อจริงไหม?" ไอรินไม่ได้ตอบอะไรคุณกรณ์ทั้งสองต่างสบตากันและกันคุณกรณ์ขยับตัวมานั่งเบาะหลังข้างไอรินมือของเค้ากดปุ่มปิดประทุนรถจากนั้นเค้าค่อยๆ เข้ามาจูบเธอ ไอรินพลางตกใจที่อยู่ๆ เค้าก็เข้ามาจูบเธอริมฝีปากของเค้าทำให้หัวใจฉันเต้นแรงยิ่งกว่าดื่มกาแฟ คุณกรณ์มองหน้าไอรินแล้วพูดว่า "ตกใจหรอฉันขอโทษนะที่ทำให้เธอตกใจถ้าเธอไม่โอเค" ไอรินมองตาของคุณกรณ์แล้วพยักหน้าเพื่อเป็นการตอบตกลงว่าเธอโอเคที่จะทำสิ่งนี้ คุณกรณ์บรรจงจูบไอรินทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มแทบลืมหายใจมือของคุณกรณ์ค่อยๆ ลูบไล้ไปที่ขาของไอรินมืออีกข้างขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อ กระดุมน้อยๆ ค่อยๆ ปลดออกที่ละเม็ดจนเหลือแค่บราลูกไม้สีดำข้างในของไอริน เค้าสอดมือมาปลดตะขอบราของเธอออก จากนั้นเค้าก็สำรวจเรือนร่างของเธอไปทั่วร่างกาย เค้าใช้มือนวดคลึงที่หน้าอกแล้วใช้นิ้วของเค้าวนมาที่หัวเป็นเข็มนาฬิกา ราวกับว่าจะขยี้ให้แหลกคามือ คุณกรณ์ถลกกระโปรงของไอรินขึ้นแล้วค่อยๆ ถอดกางเกงชั้นในของเธอออกอย่างช้าๆ เค้าส่งสายตาหวานเชื่อมให้เธอแล้วบอกเธอว่า "ทำให้หน่อย" จากนั้นเค้าก็ถลกเสื้อของตนเองขึ้นรูดซิปแล้วงัดมันออกมา ผงาดตรงหน้าไอริน เธอค่อยๆกระตุกข้อมือแล้วใช้ปากของเธอทำให้เค้าค่อยๆ ขึ้นลง ขึ้นลงอย่างช้าๆ ดูเหมือนว่าจังหวะของฉันไม่ทันใจเค้านัก เค้าใช้มือเกลี่ยปอยผมที่บดบังใบหน้าของเธอออกแล้วใช้มือกดหัวไอรินขึ้นลง ขึ้นลง เพื่อที่จะคุมจังหวะเอง เสียงครางกระหึ่มอยู่ในลำคอของเค้าทำเธอหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นเค้าก็อุ้มไอรินมานั่งคร่อมบนตักเค้าแยกเรียวขาของเธอออก คุณกรณ์กระซิบชิดใบหูด้วยเสียงแหบพร่าชวนให้ขนกายลุกซู่ว่า "จะเข้าไปแล้วนะถ้าเจ็บก็บอกได้เลย" ไอรินมองผ่านกระจกท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยดวงดาวมันช่างโรแมนติกเสียจริง เค้าถามเธอว่าชอบท่าไหนเธอจึงบอกเค้าว่าตะแคง ไม่ทันไรเค้าจับไอรินนอนลงแล้วตะแคงตามที่บอกเค้าบอกว่าท่านี้ใช่ไหมเธอได้แต่ พยักหน้า คุณกรณ์มองหน้าสาวน้อยแล้วอมยิ้มเล็กน้อย เค้าค่อยๆ เร่งจังหวะ ความจุกเจ็บเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน เธอครวญครางออกมาไม่เป็นภาษา คุณกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงกระสับกระส่าย "ใกล้แล้วนะ" ไม่ทันไรลาวาขาวขุ่นกระจัดกระจายไปทั่วหน้าท้องแบนราบ คุณกรณ์ซุกหน้าลงมาที่หน้าอกของไอริน ทั้งคู่หอบหายใจราวกับว่าวิ่งรอบสนามกันมา… "ไปส่งหนูที่หน้าผับที่เดิมนะคะ" ไอรินพลางบอกชายแปลกหน้าที่อยู่ข้างตัวเธอ "แล้วทำไมไม่ให้ฉันไปส่งที่บ้านของเธอล่ะ" "หนูว่าหนูกลับเองดีกว่าค่ะ" "ถ้างั้นก็ตามใจเธอ" หลังจากที่เสร็จภารกิจการร่วมรักที่เร่าร้อน คุณกรณ์ขับรถไปส่งไอรินที่หน้าผับตามที่เธอบอก ไอรินเธอคิดว่าเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีกว่าที่จะต้องรู้จักบ้านกัน เพราะเธอทั้งเขินและอายที่ไปมีอะไรกับคนที่ไม่รู้จักเป็นครั้งแรก เธอไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดีทำตัวไม่ถูก ไม่กล้ามองหน้าคุณกรณ์ด้วยซ้ำบ้านคุณกิตติโชจน์“กลับมากันแล้วเหรอลูก” เสียงคุณอุไรเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเด็กทั้งสองเดินเข้าบ้านมาพร้อมกันด้วยใบหน้าที่ดูเบิกบาน“หิวมั้ยหนูรินเลิกงานมาเหนื่อยๆ…มาๆ นั่งที่โต๊ะกับแม่ดื่มน้ำก่อนนะเจ้ากรณ์ก็ด้วย”“คิดว่าแม่จะไม่เรียกผมซะแล้วนะครับเนี่ย”“ดูพูดเข้าสิ…วันนี้กลับบ้านเร็วทำไมไม่พาน้องแวะกินอะไรก่อนเข้าบ้านล่ะตากรณ์ต้องให้แม่บอกอยู่เรื่อยเลย”“รินอยากกลับมาทานข้าวพร้อมคุณแม่กับคุณพ่อค่ะ…อร่อยกว่าทานข้างนอกเยอะเลย” น้ำเสียงออดอ้อนกับท่าทีที่น่าเอ็นดูของไอรินพลางตอบเอาใจคุณอุไรที่นั่งอยู่ข้างๆ“ปากหวานจริงๆ เลยเด็กคนนี้แม่หลงเพราะหนูรินน่ารักแบบนี้ไง ฮ่าๆ” คุณอุไรคลี่ยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจที่ลูกสะใภ้คนโปรดช่างเอาอกเอาใจคนแก่อย่างเขาเก่งซะจริง“ผมก็หลงครับคุณแม่ ฮ่าๆ” เสียงอ่อนเสียงหวานของคุณกรณ์เอ่ยขึ้นตามคุณอุไรแม่ของตนพร้อมพลางยิ้มเล็กยิ้มน้อยหันมองหน้าไอริน“งั้นก็รีบๆ มีหลานให้พ่อกับแม่เร็วๆ เข้าสิ ฮ่าๆ” คุณอุไรพูดขึ้นมาเช่นนี้เด็กๆ ทั้งสองจึงหันมองหน้ากันคุณกรณ์จ้องมองไอรินตาเป็นประกายสองแก้มของเธอก็เริ่มแดงก่ำพลางยิ้มเขินๆ รีบเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อบ่ายเบี่ยงก่อนดีกว่า ฮ่าๆ”“
ห้องทำงานคุณกรณ์เขาเดินมาแอบอยู่ข้างหลังประตูเพื่อรอจังหวะที่ไอรินเดินเข้ามาในห้องจะได้แกล้งแมวน้อยของเขาให้ตกใจเล่นและสิ่งที่คาดไว้ก็มาถึงเธอผลักประตูเข้ามาคุณกรณ์เห็นแค่ด้านหลังเธอจากนั้นจึงโผเข้าไปกอดจนอีกฝ่ายเกือบเสียหลักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าไม่ได้มีแค่ไอรินที่เดินเข้ามาแต่ยังมีเลขาของเขาอีกคนที่กำลังยืนจ้องมองดูการกระทำของพวกเขาชนิดที่เรียกได้ว่าอ้าปากค้างสตั้นกันไปเลยสามวิตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นอั้มอึ้งจนพูดไม่ออกทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงหน้าประตูเพราะเห็นทั้งคู่กอดกันเข้าอย่างจังเต็มสองตา“เอ่อออ…ขอโทษค่ะคือดิฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเลยนะคะ” เสียงตกใจของเลขาสาวเอ่ยพร้อมยกแฟ้มเอกสารในมือขึ้นมาปิดบังใบหน้าของตนเองทันที“เห็นอะไรกันคะ? ไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย” ไอรินเอ่ยพร้อมกับท่าทางที่เลิ่กลั่กคุณกรณ์เห็นอย่างนั้นก็แอบขำเธอเบาๆ ในความลนลานของเธอ“ก็อย่างที่เห็นนั้นแหละผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดีมีคนไม่อยากให้บอกคนอื่น” น้ำเสียงจอมทะเล้นของคุณกรณ์เอ่ยอีกทั้งยังขยับก้มหน้าลงมาใกล้ๆ กับใบหน้าของร่างเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าเค้าพร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจหนำซ้ำยังใช้มือทั้งสองข้างของเขาดึ
ณ ร้านเช่าชุดแห่งหนึ่งสามสาว มะขาม ฟ้าใสและปิ่น ช่วยกันเลือกชุดอย่างตื่นเต้นจับตัวนั้นมาใส่ตัวนี้อยู่ไม่หยุดลองแล้วลองอีกอยู่ตรงหน้ากระจกบานใหญ่ไอรินจากที่ดูตื่นเต้นดีใจช่วยพวกเธอเลือกชุดมาสักพักแล้วแต่เมื่อได้เห็นท่าทีของพวกนางก็ถึงกับขอตัวนั่งพักที่โซฟาก่อนเพราะศึกนี้คงอีกนานเจ้าสาวอย่างเธอแค่ลองชุดเดียวก็เหนื่อยจะแย่แล้วผิดกับเพื่อนๆ ของเธอซะจริงไม่มีทีท่าจะเหนื่อยกันบ้างเลยหรือไงไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนอารมณ์เหมือนกับตอนผู้หญิงแต่งหน้าแล้วอย่ามาเร่งเลย ฮ่าๆ“พวกแกว่าฉันใส่ชุดนี้เป็นไง…สวยมั้ย” เสียงมะขามเอ่ย“สวยมึงเอาชุดนี้เลย” เสียงยัยปิ่นพลางตอบพร้อมชูชุดในมือทั้งสองข้างให้เพื่อนๆ ได้ช่วยเลือก“มึงว่าชุดไหนสวยกว่ากันระหว่างปาดไหล่หรือเกาะอกดี”“กูว่ามึงเอาเกาะอกเลยสวยแซ่บสีฟ้าเข้ากับน้ำทะเล ฮ่าๆ”“พวกเราจะเริ่ดเกินเจ้าสาวไม่ได้นะ ฮ่าๆ” ฟ้าใสเอ่ยหัวเราะ“นั้นสิ…ลืมคิดเบาๆ นะพวกมึง ฮ่าๆ”“มึงก็พูดได้สิมะขามมึงได้ผู้แล้วแถมเป็นผู้ใหญ่อบอุ่นที่เอาใจเก่งอีกต่างหาก อิจสุดๆ ไม่รู้แหละกูขอจัดเต็มไว้ก่อน” ว่าแล้วฟ้าใสก็เดินไปเลือกชุดที่ราวเสื้อผ้าเลือกแล้วเลือกอีกเอาจนถูกใจ“เต็มที่
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ร้านเช่าชุดแต่งงานเสียงรถแล่นมาจอดยังบริเวณหน้าร้านเช่าชุดทั้งคู่เดินลงจากรถมาด้วยใบหน้าที่ดูสดใสพลางส่งยิ้มให้กันและกันอย่างมีความสุขร่างเล็กหยุดเดินแหงนดูหุ่นที่สวมใส่ชุดเจ้าสาวผ่านกระจกใสบานใหญ่ที่ตั้งโชว์อยู่ภายในร้านเป็นชุดเดรสสีขาวปาดไหล่ผ้าซีทรูกระโปรงยาวปักด้วยไข่มุกนับร้อยเม็ดสวยสะกดตาจนต้องหยุดมองแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าเธอจะมีวันที่ได้ใส่ชุดเจ้าสาวกับเขาเหมือนกันดีใจจนพูดไม่ออก ไอรินพลางมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่คุณกรณ์จะรีบจูงมือเธอเดินเข้าร้านไปด้วยความตื่นเต้น“ยินดีต้อนรับค่ะ” เสียงพนักงานบริการสาวในร้านเอ่ยพร้อมพยักหน้ารับอย่างนอบน้อม“คุณกรณ์ใช่ไหมคะ…เชิญด้านนี้ได้เลยค่ะ” พนักงานสาวเดินนำพวกเขาทั้งคู่มายังห้องลองชุด VIP พร้อมกับนำชุดที่ทางร้านมีทั้งหมดหลากหลายสไตล์มาให้พวกเขาได้เลือกไม่ว่าจะเป็นชุดไทย ชุดจีนยกน้ำชา ชุดพิธีการต่างๆ เยอะจนเลือกไม่ถูกกันเลยที่เดียว“เดี๋ยวนะคะ…จะให้ลองทั้งหมดนี้เลยเหรอ” เสียงไอรินหันไปถามคุณกรณ์ที่ตอนนี้เขาก็ได้แต่ยืนงงเช่นกันว่าทำไมมันถึงเยอะขนาดนี้“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” เขาพลางตอบเธอด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะสิ้นหวัง
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตู“เดี๋ยวรินทำธุระเสร็จจะรีบลงไปนะคะ” เธอพลางตอบคนหน้าประตูเพราะคิดว่าคงเป็นป้าแม่บ้านที่คุณอุไรให้มาตามเธอลงไปทานข้าวซึ่งก็ไม่มีเสียงป้าแม่บ้านตอบกลับมามีแต่เสียงเคาะประตูอยู่ไม่หยุดมิหนำซ้ำยังเคาะเร่งเป็นจังหวะอีกด้วย จนเธอต้องเดินไปเปิดประตูทั้งที่ยังใส่ชุดคลุมอาบน้ำสีขาวพร้อมกับปล่อยผมยาวที่เปียกชุ่ม“เล่นเป็นเด็กไปได้” ไอรินพูดพึมพำให้กับการกระทำที่ดูเหมือนเด็กเช่นนี้ทำเอาเธอก็อดอมยิ้มไม่ได้โตแค่ตัวอย่างที่คุณอุไรว่าไว้ไม่มีผิด ฮ่าๆ เธอพอจะเดาได้แล้วล่ะว่าเป็นใครที่ชอบแกล้งเธอในบ้านหลังนี้เห็นทีคงมีแค่คุณกรณ์คู่หมั้นของเธอสินะ ไอรินเพียงแค่หมุนลูกบิด ทันทีที่เสียงดัง แกร๊ก คุณกรณ์ก็รีบผลักประตูเข้ามาในห้องเธออย่างรวดเร็วอีกทั้งยังโผกอดไอรินจากด้านหลังอีกด้วยกลิ่นหอมสบู่อ่อนๆ จากตัวเธอทำเอาจมูกโด่งของคนพี่เริ่มทำงานคลอเคลียไปที่ข้างหูของเธอทีละนิด~“ทำไมไม่รีบไปอาบน้ำที่ห้องตัวเองล่ะคะ…คุณพ่อคุณแม่รอทานข้าวอยู่น้าา” น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยถาม“พี่คิดถึงรินไม่เห็นหน้าแล้วใจจะขาด”“เวอร์อีกแล้วนะคะเนี่ย…ปล่อยรินได้แล้วค่ะ”“อยากนอนกอดทุกคืนเลย…แล้วทำไมไม่เก็บของ
เสียงโทรศัพท์ดัง“มีอะไรอีกวะไอ้ยุ!!!” เสียงเข้มของคุณกรณ์พลางขึ้นเมื่อกดรับสายอีกครั้ง“กูลืมบอกมึง…ว่าตอนนี้ครีมไปหามึงที่หัวหินแล้ว”“มึงว่าไงนะ!!!…แล้วมึงไม่รีบบอกกูให้เร็วกว่านี้วะ” เสียงตกใจเอ่ย“ก็กูลืมมมไงเพื่อน…กูกดโทรหามึงแล้วแต่สายมึงไม่ว่าง”“แม่กูโทรมาเทศน์กูซะยาว…แล้วใครบอกครีมวะว่ากูกลับมาที่นี้อีกไอ้เคนเหรอ!!! อย่าบอกนะว่าเป็นมึง”“เฮ้ยๆ มึงอย่ามาโทษกูครั้งนี้ไม่ใช่กูโว้ย!!! ไอ้เคนก็ไม่หน้าใช่ป่านนี้มันคงไปม่อสาวอยู่ไหนสักที่ไม่มาสนใจเรื่องของมึงหรอก…แต่ว่าเรื่องแค่นี้สืบดูคงไม่ยากเกินกำลังครีมหลอกว่ะ”“เออ งั้นแค่นี้กูรีบไปดูรินก่อนเดี๋ยวบังเอิญเจอกันกูจบเห่แน่”“เออๆ กูเอาใจช่วยมึงวะเพื่อน” เสียงปลายสายกดวางคุณกรณ์วางโทรศัพท์ลงบนเตียงนอนแล้วรีบเปิดประตูห้องพักหยิบรองเท้ามาใส่ผิดๆ ถูกๆ ใส่ยากใส่เย็นไม่ทันใจขว้างมันทิ้งซะเลยรีบร้อนจนต้องเดินเท้าเปล่าออกมาจากห้องพัก เขามุ่งตรงมายังชายหาดด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนกวาดสายตามองหาแฟนเด็กของเขาไปทั่วหาดเห็นไอรินกำลังเดินกลับเข้ามาพอดีจึงรีบเดินดุ่มๆ ไปหาเธอ“ทำไมตื่นแล้วไม่ปลุกพี่มาเดินเล่นด้วยกันล่ะเดินคนเดียวจะสนุกได้ไง” ทันทีท