เมื่อทั้งสองคน จับจ่ายซื้อของครบแล้ว หยางหลงบังคับเกวียนวัวกำลังจะกลับหมู่บ้านป่าหมอกเนี่ยหลิงนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองจะซื้อเกวียนวัวเพิ่ม เพราะถ้านางกลับบ้านเดิมหลายวันที่บ้านสามีจะไม่มีเกวียนวัวใช้เผื่อมีเหตุเร่งด่วนจะได้ไม่ลำบากมาก จึงได้เรียกหยางหลงให้หยุดเกวียนก่อน
“ท่านพี่ ท่านพี่เจ้าคะ เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ”
“หือ มีอะไรหรือน้องหญิงเจ้าลืมซื้ออะไรหรือไม่”
“ใช่เจ้าค่ะท่านพี่ข้าลืมซื้อเกวียนวัว เจ้าค่ะ”
“จะซื้ออีกหรือเราก็มีแล้วนี่ ”
“ใช่เจ้าค่ะท่านพี่อีกสองวันเราจะกลับบ้าน ท่านพ่อท่านแม่ข้า เราก็ต้องเอาเกวียนไปด้วย ในระหว่างที่เราไม่อยู่ ข้ากลัวว่า ที่บ้าน จะไม่มีเกวียนใช้หากเกิดเหตุอะไรขึ้นเจ้าค่ะ ข้าเลยคิดว่าจะซื้อเพิ่มไปเลย”
“เอาตามที่น้องหญิงว่าก็แล้วกัน ดีเหมือนกัน ขากลับก็ทิ้งไว้ให้ท่านพ่อตาใช้ ใจจริงพี่ก็อยากให้ท่านพ่อตาย้ายมาอยู่ด้วยกันเสียที่นี่ ไหนๆเราก็ซื้อที่ดินเพิ่ม แล้วสร้างบ้านให้ท่านพ่อตาท่านแม่ยาย และน้องชายเจ้าไปด้วยจะได้ไม่ต้องคอยเป็นห่วง"
“เจ้าค่ะท่านพี่ กลับไปเที่ยวนี้ข้าจะคุยกับท่านพ่อดู ขอบคุณท่านพี่มากเจ้าค่ะ ที่คิดแทนข้า”
“เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะน้องหญิง น้องอย่าลืมหากพี่ไม่ได้น้องหญิงช่วยไว้หนนั้น พี่คงตายอยู่กลางป่าแล้ว จะมีพี่เช่นทุกวันนี้หรือ”
หยางหลงพูดพลางมองหน้า เนี่ยหลิงด้วยสายตาหวานเยิ้ม ทำให้นางหน้าร้อนผ่าวแก้มแดงระเรื่อ นางหลบสายตาของสามีที่จ้องมองนาง เมื่อเขาเห็นภรรยาอายพลางหลบสายตาก็หัวเราะทันที
“น้องหญิงไม่ต้องอายแล้วลูกสามแล้ว”
“ท่านพี่ท่านพูดอะไรข้าไม่ได้หน้าหนาเช่นท่าน”
“พี่หน้าหนาแค่กับน้องหญิงเท่านั้นแหละ”
“ท่านพี่พูดอะไรก็ไม่รู้ไปตลาดค้าสัตว์ก่อนเถอะเจ้าค่ะ”
“ได้” หยางหลงบังคับเกวียนไปที่ตลาดค้าสัตว์ทันที เมื่อไปถึงจึงให้เนี่ยหลิงไปเลือกดู วัวก่อน หยางหลงนำเกวียนไปหาที่จอดก่อนจะกลับมาช่วยผู้เป็นภรรยาเลือกเกวียนและวัว เมื่อนางลงจากเกวียนก็ตรงเข้าไปร้านแรกทันที เพราะไม่มีเวลามากนักเกรงว่าจะกลับค่ำมืดเสียก่อน
“เชิญ ขอรับแม่นาง ไม่ทราบว่าท่านต้องการ ม้า ลา หรือวัวขอรับ เชิญแม่นางเลือกดูก่อน” พนักงานประจำร้านตรงเข้ามาพูดคุยกับเนี่ยหลิงทันทีที่นางสาวเท้าเข้าไปถึงหน้าร้าน
“ข้าขอเดินดูก่อนได้หรือไม่ ”
“ได้ขอรับ เชิญทางด้านนี้ขอรับ”
เนี่ยหลิงเดินดูไปเรื่อยๆยังไม่ถูกใจวัว ตัวไหนนางเดินผ่านมาที่ส่วนของลาเดินดูแต่ละคอก จนมาถึงคอกสุดท้ายมีลาสีเทา สองตัวอยู่ ท่าทางแข็งแรงนางจึงได้เอ่ยถามกับพนักงานขาย ถึงราคาของลาทันที
"ข้า สนใจลาสองตัวนี้ ราคาเท่าไหร่เจ้าคะ
“โอ้ แม่นางตาถึงมาก นี่เป็นลา หนุ่มที่แข็งแรงมาก ตัวละ 40 ตำลึงทองขอรับ”
“ข้าเอา ทั้งสองตัว ท่านมีเทียมเกวียนด้วยหรือไม่”
“มีขอรับ เชิญแม่นางทางด้านนี้”
เนี่ยหลิงเดินตามพนักงานเพื่อไปดูเทียมเกวียนพอดีกับที่ หยางหลงเดินมาถึงจึงได้เอ่ยปากถามผู้เป็นภรรยาทันที
“น้องหญิง เลือกวัว ได้แล้วหรือ”
“เจ้าค่ะท่านพี่แต่ไม่ใช่วัว ข้าซื้อลาเจ้าค่ะสองตัว” ว่าพลางชี้มือให้หยางหลงดูลาที่ตัวเองเลือกไว้
“ท่านพี่ไปช่วยข้าเลือกเทียมเกวียนหน่อยเจ้าค่ะ”
“ได้”
ทั้งสองเดินตามพนักงาน ไปฝั่งของเทียมเกวียน ทันทีที่เดินไปถึง เนี่ยหลิงกวาดสายตามองทันทีนางอยากได้เกวียนขนาดใหญ่เวลาบรรทุกของจะได้ใส่ได้เยอะๆ และนั่งไม่เบียดกันจนเกินไป
“แม่นางต้องการเทียมเกวียนขนาดไหน ขอรับ ” พนักงานเอ่ยถามเนี่ยหลิงทันที ที่เดินมาถึง
“ข้าต้องการเทียมเกวียนขนาดใหญ่ ไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่ เจ้าคะ”
“เทียมเกวียนขนาดใหญ่ 10 เหรียญทองขอรับ”
“ตกลง ท่านช่วยเทียมเกวียนเข้ากับลาให้ข้าได้หรือไม่”
“ได้ขอรับแม่นาง ลาสองตัว และเทียมเกวียนทั้งหมด 90 ตำลึงทองขอรับ”
นางจัดการจ่ายเงินและเดินออกไปรอให้พนักงาน นำลาเข้าเทียมกับเกวียน ก่อนนางจะนึกได้ว่า มากันสองคนกับสามี แล้วจะทำยังไง สงสัยนางต้องหัดบังคับเกวียนเองเสียแล้ว หรือไม่ก็ให้พนักงานที่ร้านนำไปส่งให้ ต้องลองถาม ที่ร้านดูก่อนว่าไปส่งให้ได้หรือไม่
“ท่านพี่ข้าลืมว่า ข้ายังบังคับเกวียนไม่เป็น ท่านลองถามที่ร้านหน่อยเถอะว่าสามารถไปส่งให้ได้หรือไม่”
“ได้น้องหญิง พี่จะจัดการให้” หยางหลงเดินเข้าไปในร้านพี่สอบถามกับทางร้านว่าสามารถนำ เกวียนเทียมลาไปส่งให้ได้หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่า สามารถนำไปส่งให้ได้ หยางหลงจึง จ่ายเงินให้พนักงานที่จะนำเกวียนไปส่ง เป็นเงิน 2 ตำลึงเงินเพื่อเป็นสินน้ำใจ
“น้องหญิง ทางร้านสามารถไปส่งให้ได้ งั้นก็รอไปพร้อมกันเลยเจ้าค่ะท่านพี่”
ทันทีที่พนักงาน ขับเกวียนออกมา ทั้งสองบอกให้ขับไปรอที่หน้าประตูเมืองทันที เมื่อนัดแนะกันเสร็จแล้ว จึงเดินไปที่ฝากเกวียน เพื่อกลับบ้านทันที เมื่อมาถึงประตูเมือง พนักงาน ได้มาจอดเกวียนรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อหยางหลงบังคับเกวียนมาถึง จึงได้ออกเดินทางไปหมู่บ้านป่าหมอกทันที ระหว่างทางเกวียนสองคันขับตามกันมาแต่ไม่ได้เร่งรีบมากนักด้านหลัง เกวียน มีพนักงานขี่ม้าตามมา อีกหนึ่งคน เพื่อที่จะได้ รับพนักงานคนที่ขับเกวียนมาส่ง กลับเข้าเมืองให้ทันเวลา ก่อนที่ประตูเมืองจะปิด
“ท่านพี่ เจ้าคะ วันพรุ่งนี้ น้องว่าจะไปล่าสัตว์เพิ่ม แต่น้องจะเข้าไปในป่าหมอกทมิฬที่อยู่ถัดไปด้านขวาของหมู่บ้านเจ้าค่ะ ท่านพี่คิดเห็นเช่นไรเจ้าคะ ข้าอยากเตรียมของไปบ้านเดิมมากหน่อย"
“มันจะดีหรือน้องหญิง ป่าหมอกทมิฬอันตรายมากนะ ไม่มีใครในหมู่บ้านเคยเข้าไป”
“เราเข้าไปแค่ป่าด้านนอกเท่านั้นเจ้าค่ะท่านพี่ ข้าแค่อยากสำรวจดูเท่านั้น จะไม่เข้าไปลึกแน่นอน เจ้าค่ะ”
“แต่พี่ยังกังวล กลัวว่าจะเจอเข้ากับสัตว์วิญญาณ น่ะน้องหญิง” หยางหลงเอ่ยออกมา สีหน้าวิตกกังวลเป็นอย่างมาก
“ถ้าเช่นนั้น เอาไว้พวกเราฝึกปราณได้แล้ว ค่อยเข้าไปก็ได้เจ้าค่ะ ถ้าท่านพี่ กังวล”
“ขอบใจน้องหญิงมาก ที่เข้าใจพี่ พี่เป็นห่วง พี่เองก็ยังอ่อนแอ ไม่สามารถจะดูแลน้องหญิงได้ ถ้าหากว่า พบเจอกับสัตว์วิญญาณ
เวลาผ่านไปไม่นาน เกวียนทั้งสองก็วิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน และตรงเข้าไปท้ายหมู่บ้านอันเป็นบ้านสกุลหนิงทันที เพราะเสียเวลาเลือกเกวียนไปพอสมควร ทำให้กลับมาถึง ก็เกือบจะถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว พนักงานร้าน เมื่อส่งเกวียนถึงบ้านแล้วก็ขอตัวกลับทันที
หยางหลง นำวัว สองตัวเข้าไปผูกในคอก และเดินย้อนออกมา นำลาอีก สองตัว ไปผูกที่คอกข้างๆกัน ดีที่ให้ช่างทำคอกไว้เพิ่ม เพราะตอนแรกเขาซื้อวัว มาเป็นตัวผู้และตัวเมีย ถ้าหากว่ามันมีลูก เขากลัวว่า คอกวัวจะไม่พอ จึงได้ให้ช่างทำเพิ่มไว้ จัดการหาน้ำและหญ้า ให้ทั้งสี่ ตัวเรียบร้อยแล้วก็เดินไปขนของทั้งหมดที่ซื้อมาเข้าไปเก็บไว้ในห้องโถงบ้านก่อน จะเอาไว้ที่เกวียนก็กลัวจะมีคนมาขโมย
เกือบได้เวลาอาหารเย็น น้องชายทั้งสองแบกฟืนลงจากเขา ท่านพ่อและหลานๆ ก็กลับมาจากการสำรวจที่ดินที่ซื้อมาเพิ่มวันนี้ ท่านแม่และน้องเล็กทำอาหารอยู่ในครัว น้องรองกับน้องสาม เอาฟืนไปเก็บที่โรงเก็บฟืนเสร็จก็ไปอาบน้ำ เพื่อรอกินข้าวเย็น ท่านพ่อเองก็เช่นกัน พาหลานๆแยกตัวไปอาบน้ำทันที เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วทุกคนมารวมกันที่ห้องโถง เพื่อร่วมกันกินอาหาร และพูดคุยกันอย่างมีความสุข