Mag-log inผ่ามือใหญ่สอดผ่านกลุ่มผมยาวสลวย ประคองท้ายทอยให้ใบหน้าสวยเชิดขึ้น จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปปั้นก็โน้มหน้าลงมาทาบฝีปากหยักบนเรียวปากอวบอิ่มของหญิงสาวตรงหน้า ไม่สนใจว่าเจ้าตัวจะอยู่ในอาการชะงักงันและตกใจกับการกระทำของตนแค่ไหน
ปากหยักขบเม้มแผ่วเบาเหมือนหยอกเย้า ลิ้นร้อนละเลียดชิมความหวานภายในโพรงปากสาวตอนที่เธอเผลอเผยออ้าเพราะตกใจ
กรรวียืนตาค้างตัวแข็งทื่อ ดวงตาคู่สวยสอดประสานกับตาเรียวดุคมของเพื่อนพี่ชายที่กำลังมองตาเธออยู่เหมือนกัน ในขณะที่ยังไม่ผละจูบออกไป หัวใจดวงน้อยถึงกับเต้นระส่ำหวั่นไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ดวงตาคมสีเทาหม่นเป็นประกายลึกล้ำและน่าค้นหาของชายหนุ่มตรงหน้า เป็นสายตาที่เธอไม่สามารถที่จะอ่านออกหรือคาดเดาอะไรจากเขาได้เลย
ถึงการจูบคือสิ่งที่กรรวีคิดจะทำในคราแรก แต่ก็ไม่คิดว่าเรวัตจะเป็นฝ่ายเริ่มทำมันเสียเอง และจูบที่เธอคิดเป็นเพียงแค่การสัมผัสภายนอกปากแตะปาก ไม่ได้ตั้งใจให้เลยเถิดไปถึงขั้นแลกลิ้นกันเนิ่นนานขนาดนี้ นี่มันเกินคาดหมาย
กรรวียืนอึ้งในขณะที่อีกฝ่ายหัวเราะเครือในคอราวกับกำลังพอใจ...
“นี่มึงทำบ้าไรวะ!” สาธิตที่ยืนอึ้งมองอยู่นานก็ทนไม่ไหว กัดฟันกรอดแล้วพุ่งไปกระชากร่างของคนรักเก่าออกมาหมายจะซัดหน้าหล่อเหลาเข้าสักหมัดให้หายโมโหที่ชายหนุ่มมาจูบอดีตแฟนสาวที่เขายังรักอยู่
กระนั้นก็ไม่ทันการ เพราะเมื่อร่างสูงของเรวัตผละออกห่างจากหญิงสาว เขาใช้ความว่องไวตวัดแขนล่ำและกำปั้นหนักฟาดหมัดเข้าใส่ใบหน้าของสาธิตเสียก่อนจนเซถลาล้มหน้าคว่ำไม่เป็นท่า
“อย่าให้กูรู้ว่ามึงมายุ่งวุ่นวายกับหงส์อีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน” เรวัตดุดันจนบรรดาไทยมุงแถวนั้นอดกลัวไปด้วยไม่ได้
การ์ดร่างใหญ่หลายคนเข้ามาเคลียร์พื้นที่และลากสาธิตออกไปตามคำสั่งของเรวัตทันทีโดยที่นานาตามว่าที่สามีไปด้วยไม่ห่าง ไทยมุงก็พากันแยกย้าย เหลือทิ้งไว้แค่เรวัตกับกรรวีที่ยังยืนนิ่งค้างกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่หาย
“จะกลับบ้านเลยไหม เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เรวัตเอ่ยถาม ฝ่ามือใหญ่เลื่อนมาวางบนศีรษะหญิงสาวแล้วโยกเบา ๆ ทำกรรวีหลุดออกจากภวังค์ได้
“ฮะ... คะ?”
“ยังตกใจอยู่เหรอ sn,”
“คะ? อ่อ... ค่ะ” กรรวีมองหน้าเขาแล้วตอบด้วยรอยยิ้มที่พยายามกลบเกลื่อน พยักหน้ารับเบา ๆ ไม่ได้ตกใจเรื่องความรุนแรง แต่ตกใจที่ตัวเองยืนจูบกับเพื่อนพี่ชาย! กระทั่งตอนนี้สัมผัสขนั้นยังคงอยู่บนริมฝีเธอปากเธออยู่เลย
ต่อไปนี้จะมองหน้าพี่เขายังไงติดกันล่ะ กรรวีได้แต่ถามตัวเองในใจ
“สรุปเราจะกลับบ้านเลยไหม พี่จะได้ไปส่ง” เรวัตพูดขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังมองหน้าเธอด้วยท่าทางปกติ น้ำเสียงที่พูดก็ปกติดีไม่มีอะไรเปลี่ยนไป
เขาคงทำไปเพราะแค่อยากช่วยเธอโดยที่ไม่ได้คิดอะไร แล้วเธอจะคิดมากไปทำไมให้รกสมองกัน ถึงจูบนั้นจะดีมากก็ตาม
“ขอบคุณนะคะ แต่ไม่เป็นไรค่ะหงส์ขับรถมา กลับเองดีกว่าค่ะ”
“อืม แล้วเรามากับใคร ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้คนเดียว”
“มากับเพื่อนค่ะ พวกนั้นน่าจะนั่งกันอยู่ที่ตะ... โต๊ะ” กรรวีอธิบายพลางหันสายตาไปยังทิศทางที่เธอเดินมาเพื่อมองหาเพื่อนที่น่าจะรออยู่ที่โต๊ะ แต่ยังไม่ทันที่พูดจบก็สบตากับเพื่อนตัวดีที่ยืนอ้าปากค้างอยู่แบบพอดิบพอดี
‘นะ นี่... พวกมันมายืนตรงนี้กันตั้งแต่เมื่อไหร่ มากันยกแก๊งเลยด้วย อย่าบอกนะว่าเห็นฉากจูบของเธอกับพี่เขาเข้าให้แล้ว’
“เอิ่ม... สวัสดีค่ะ” จูนอาสาเป็นหน่วยกล้าตายทักทายเรวัต
พวกเธอได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นเลยเป็นห่วงกรรวีที่หายไปเข้าห้องน้ำคนเดียวตั้งนาน จึงพากันฝ่าดงผู้คนเข้ามาจนทันเห็นฉากสิบแปดบวกของเพื่อนสาว ตอนแรกก็กะจะเข้ามาช่วย แต่เพื่อนไม่มีทีท่าขัดขืนอะไรเลยได้แค่ปล่อยไปเลยตามเลย แล้วยืนมองกันตาปริบ ๆ
รักเพื่อน อยากให้เพื่อนเจอผู้ชายคนใหม่มาดามหัวใจ
“นี่เพื่อนเราเหรอ” เรวัตพยักหน้ารับพร้อมหันมาถามกรรวี มือหนาเลื่อนจากหัวหญิงสาวมาวางบนไหล่สวยตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ กรรวีพยักหน้าแทนคำตอบแล้วผละตัวออกห่างเขา ขอตัวกลับโต๊ะโดยไม่ลืมขอบคุณเขาอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือ เรวัตจึงแยกย้ายไปไม่คิดเซ้าซี้อะไรต่ออีก
“อยากจะร้องก็ร้องกับพี่นะ อย่าแอบร้องไห้คนเดียว แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ร้องหรอก” แม้จะรู้ว่าเธอเสียใจเรื่องมารดาทว่าก็ไม่ได้อยากเห็นน้ำตาของคาริสานัก เวลาเธอเศร้า ลูกรับรู้ได้ ฮันน่าจะมีความสุขได้อย่างไร“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วสวมกอดเขากลับคืนเช่นกัน จากนั้นเรียวปากหยักก็เริ่มซุกซน ขบเม้มซอกคอหอมละมุนและลาดไหล่จนคนบนหน้าตักต้องย่นคอหนี“นี่! เวลาแบบนี้ยังจะหื่นได้อีก”ฮาซีฟหัวเราะ คนที่ว่าเขาหื่นแต่กลับบดสะโพกลงบนตักเขาจนไอ้เจ้านั่นมันแข็งขืนสู้ ปวดไปหมดจนทนไม่ไหว“เขาว่ากันว่า เวลาเครียดมาก ๆ ต้องมีเซ็กซ์นะ จะช่วยให้ผ่อนคลาย”“ข้ออ้างเถอะค่ะ ว้าย!” หญิงสาวหวีดร้องเมื่อร่างของเธอถูกพลิกกลับไปนอนส่วนเขาขึ้นมาคร่อมอย่างฉับพลันฮาซีฟกดจูบจากเนิบช้าเปลี่ยนเป็นดุดันตามอารมณ์กระสันซ่าน ทำคาริสาหายใจแทบไม่ออก กว่าเขาจะปล่อยเรียวลิ้นออกจากโพรงปากหวานเธอก็แทบจะขาดอากาศหายใจ เข้าใจแล้วว่าตอนที่ท้องอยู่ทำไมเขาถึงไม่ยอมกระทำทั้งที่เธอเคยเสนอตัวให้ด้วยซ้ำ เพราะแรงเขาเยอะมาก ทั้งดุดันแถมยังหื่นจัด ครั้งเดียวไม่เคยพอ“อ๊ะ! อย่าเพิ่งค่ะ” เมื่อสองขาเรียวโดนเขาอ้าออกกว้าง ร่างสูงแทรกเอวสอบมาอย
หากเขารู้สักนิดว่าผู้หญิงตรงหน้าใจไม้ไส้ระกำขนาดไหน เขาคงไม่ทุ่มทั้งกายใจและให้ทุกอย่าง คงไม่เอามาเป็นแม่ของลูกด้วยซ้ำ เคยคิดมาตลอดว่าที่คริสติน่าทำแบบนั้นกับเรวัตเพราะเธอไม่ได้รักไม่ได้ผูกพัน หากทว่าวันนี้เขาประจักษ์แก่สายตาแล้วว่า ขนาดคาริสาที่เลี้ยงมากับมือ ผูกพันกันมานานเธอยังไม่ได้รักมากไปกว่าความสุขสบายของตัวเองด้วยซ้ำ“หม่ามี้ขา ริสาขอโทษนะ” คาริสาร้องไห้ เธอรู้สึกผิดในทุกวันที่ช่วยอะไรมารดาไม่ได้มากกว่านี้ ที่ฮาซีฟไปขอร้องท่านหมัดซอลีแล้วท่านยอมให้เท่านี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว บิดาเธอบอกว่าบางครั้งมารดาเธอก็ต้องยอมรับผลจากการกระทำของตนบ้าง ชดใช้กรรมแค่นี้ยังถือว่าโชคดีมากด้วยซ้ำและแม้คาริสาจะรู้สึกผิดต่อมารดาและเป็นห่วงท่านแค่ไหน ในเมื่อเธอทำอะไรไม่ได้ในหน้าที่ของลูก เธอจึงหันมาโฟกัสหน้าที่ของแม่ คาริสายังต้องดูแลฮันน่าแม่ที่ไม่มีความสุขจะเลี้ยงลูกให้มีความสุขได้อย่างไร แม้จะทุกข์เธอก็ทำได้แค่เก็บกดไว้ส่วนลึกในใจ แต่วันนี้หัวใจเธอแหลกสลายอีกครั้งเมื่อมารดามาว่าร้ายกันเมื่อไม่ได้ดั่งใจคริสติน่ายิ่งอาละวาดหนักเหมือนคนบ้า ด่ากราดแม้กระทั่งหลานในไส้ หนูน้อยฮันน่าที่ได้ยินเสียงพวกนั้
“คุณหนูตื่นแล้วค่ะ” พี่เลี้ยงอุ้มสาวน้อยฮันน่าวัยแปดเดือนเข้ามาคนเป็นตารีบหยุดทุกคำหยาบคาย ฮาซีฟจะลุกไปอุ้มลูกแต่โอภาสก็รีบแซงหน้ารับหนูน้อยฮันน่ามาอุ้มแนบอกอย่างไว“หลานตาตื่นแล้วเหรอคะ ยิ้มเก่งมากเลย หนูนอนเต็มอิ่มก็ตื่นมาอารมณ์ดีไม่งอแงเลยใช่ไหม” คนเป็นตาที่เคยพูดภาษาพ่อขุนรามจนติดปากเปลี่ยนเป็นพูดเสียงสองเสียงสามกับหลานแบบฉับพลันหนูน้อยฮันน่าก็ยิ้มน่ารัก ทำปากเหมือนอยากจะพูดสนทนากับผู้ใหญ่จนน้ำลายเลอะเปรอะเปื้อนไปหมด ซ้ำยังยกนิ้วป้อม ๆ จิ้มหูจิ้มตา แหย่จมูกคุณตาแล้วหัวเราะคิกคักชอบใจ เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มเอ็นดูจากทุกคนในบ้านได้เป็นอย่างดีทุกวันนี้บ้านหลังนี้อบอุ่นและสดใสขึ้นมากตั้งแต่คาริสาและหนูน้อยฮันน่าอยู่บ้านท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นของครอบครัวที่สามีอ้อนภรรยาที่กำลังปอกผลไม้ให้หลังจากช็อปเสื้อผ้าออนไลน์เสร็จแล้ว และคุณตาที่ทั้งกอดทั้งหอมหลานสาวสุดที่รัก เล่นจั๊กจี้กันจนเด็กน้อยหัวเราะลั่น มีบริวารห้อมล้อมคอยปรนนิบัติรับใช้ ทว่าอยู่ ๆ บรรยากาศดี ๆ เหล่านั้นก็โดนขัดขึ้นเมื่อมีผู้มาใหม่เดินเข้ามา“มีความสุขกันจังเลยนะ!” เสียงคริสติน่าดังกังวาน บ่งบอกได้ชัดถึงความเดือดดาล
“กูไม่ได้ทำ” เรวัตตอบเสียงราบเรียบ สายตาคู่คมมั่นคงบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาพูดความจริง ฮาซีฟเชื่อสนิทใจเพราะคนอย่างเรวัต หากบอกว่าไม่ ก็คือไม่ และตั้งแต่ผ่านเหตุการณ์เกือบตายครั้งนั้นทำให้เรวัตตกตะกอนความคิดได้หลายอย่าง เขาจึงไม่คิดเอาความและตามอาฆาตคริสติน่าอีกต่อไปตอนนี้เรวัตเองแค่อยากมีชีวิตอยู่เพื่อผู้หญิงที่เขารักและเธอก็รักเขามากเช่นกัน เพื่อบิดา เพื่องาน และเพื่อครอบครัวที่รัก แต่คนที่ไม่ยอมรามือคือหมัดซอลีพ่อของเรวัตต่างหาก“งั้นถ้าผมไปขอป๊ะลี จะได้ไหม” ฮาซีฟเอ่ยถามอย่างหนักใจ“กูก็ไม่รู้” เรวัตตอบตามตรง บิดาเขาไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาเหยียบหัวได้ง่าย ๆ ยิ่งกับคนที่สั่งฆ่าลูกตัวเองอย่างเหี้ยมโหดได้ขนาดนั้น ใครมันจะไปอยากให้อภัย“แบเร... ช่วยผมหน่อยได้ไหม”“ทำไม?”“เพื่อริสา” ได้ยินชื่อหญิงสาวเรวัตก็ชะงักงัน เขาติดค้างคาริสาหลายอย่าง ใจลึก ๆ อยากจะชดใช้ให้บ้าง ทว่าจะให้ไปเจอหน้ากันแล้วขอโทษเธอก็กระดากอาย ที่ผ่านมาเขาทำได้แค่ยกหุ้นหลายเปอร์เซ็นต์ และเงินก้อนใหญ่ให้ฮาซีฟเอาไปใช้เพื่อดูแลคาริสา และหลานของเขา และเตรียมจะโอนหุ้นให้ในชื่อหลานบางส่วนเพราะหากให้คาริสาโดยตรงเธอคงไม่อยาก
“ครับ พี่เอง ถึงบอกไงว่ารักริสามานาน”คาริสายิ้มกว้างสองแก้มแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เธอมุดหน้าลงกับแผงอกเขาแล้วกอดไว้แน่น“ไปอาบน้ำกันไหม” อยู่ ๆ ชายหนุ่มก็เอ่ยเสียงทุ้มพร่า เพราะคาริสากำลังนั่งกอดเขาอยู่บนตักแกร่ง ลำพังแค่ได้กลิ่นหญิงสาวเขาก็แทบตบะแตกอยู่แล้ว นี่เธอยิ่งเบียด กอด ซุกไซ้ใครล่ะจะทนไหว“ริสาอาบน้ำแล้ว” คาริสาเงยหน้าขึ้นมามอง ตอบเขาหน้าซื่อตาใส แล้วก็ต้องหรี่ตาเมื่อใบหน้าหล่อคมมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นประปราย กับความแข็งขืนด้านล่างที่กำลังเบียดชิดก้น หญิงสาวรับรู้ได้ทันทีว่าเขาอยากสื่อความหมายว่าอะไร“ครับ งั้นลุกนะ พี่ขอไปอาบน้ำก่อน” ฮาซีฟยกร่างบอบบางไปวางบนเตียง เขารีบลุกเดินตัวงอตรงเข้าไปในห้องน้ำเพราะท่อนลำกลางกายมันดื้อ ประท้วงจะออกมาเสียให้ได้หญิงสาวหัวเราะขำเบา ๆ เอ็นดูชายหนุ่มที่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังพยายามข่มกลั้นอารมณ์ทุกอย่าง เพียงเพื่อให้เกียรติเธอ ไม่อยากฝืนใจเธอ แม้ตัวเองจะลำบากแค่ไหนก็ตาม คาริสาลุกเดินตามเขาเข้าไปในห้องน้ำ“ให้ริสาช่วยอาบไหม” ถามเขาเสียงหวานหยด นัยน์ตาคู่สวยมองชายหนุ่มที่กำลังจะถอดเสื้อหวานหยาดเยิ้ม สองมือเรียวบางก็ค่อย ๆ ปลดกระดุมชุดนอนซาตินแขนย
คืนนั้นโอภาสอนุญาตให้ฮาซีฟได้พักในบ้าน แต่ทว่าต้องนอนคนละห้องกัน ชายวัยกลางคนนึกสงสารหลาน คงจะติดอ้อมอกของพ่อมาก เพราะทันทีที่ฮาซีฟได้อุ้มหนูน้อยฮันน่าก็หยุดร้องจากที่งอแงมาตลอดหลายวันคาริสาให้คนหาข้าวหาปลาให้ชายหนุ่มรับประทาน พร้อมทั้งเสื้อผ้าชุดใหม่ ตามด้วยยาและชุดอุปกรณ์ทำแผล ใบหน้าหล่อเหลามีรอยฟกช้ำจากการโดนตบด้วยปืน และการโดนบิดาของเธอเหยียบขยี้ซ้ำๆ จนเป็นรอยถลอกปอกเปิก พื้นคอนกรีตร้อน ๆ หน้าบ้านก็ทำแก้มอีกข้างเป็นรอยไหม้ หากฮาซีฟก็ไม่บ่นสักคำ“ทำแผลก่อนนะ” คาริสาเอ่ยหลังจากที่ชายหนุ่มวางลูกน้อยที่หลับสนิทลงเตียงเด็กแล้วก่อนหน้านี้ฮาซีฟทำเพียงแค่ล้างหน้าล้างมือให้สะอาด ใช้น้ำเปล่าล้างแผลขจัดสิ่งสกปรก เพราะลูกสาวร้อง เขาอยากรีบไปอุ้มเลยยังไม่ทันได้ทำแผลจริงจัง“ดึกแล้ว ทำไมไม่พักผ่อน พี่ทำเองก็ได้” ชายหนุ่มจะคว้ากล่องอุปกรณ์ทำแผลมาจัดการเอง ทว่าคาริสาไม่ยอม เธอกอดกล่องไว้แน่น แววตาคู่สวยมองเขาจริงจัง“ริสาจะทำให้” หญิงสาวรั้นจะทำเองเขาจึงไม่ขัด นั่งลงข้างเตียงแล้วยื่นหน้าให้หญิงสาวที่นั่งข้างกันทำแผลและทายาแก้ฟกช้ำให้“พรุ่งนี้ไปโรงพยาบาลกันนะ เอกซเรย์ดูหน่อยว่ามีกระดูกร้าวแตกหั







