공유

บทที่ 2

작가: Karawek House
last update 최신 업데이트: 2025-08-15 04:32:08

“เป็นอะไรไป ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ก็เห็นว่าปากกล้าอยู่ได้ตั้งเป็นนาน ไฉนตอนนี้องค์หญิงรองผู้เก่งกาจ กลับหวาดกลัวขึ้นมาเสียแล้วเล่า” เขาเอ่ยกึ่งเยาะ

เพราะไม่รู้จะตอบอย่างไร หนิงซินเลือกใช้ความเงียบเป็นคำตอบ

แม่ทัพเฮยเซ่อเย่ว์สาวเท้าเข้าหา นางก้าวขาถอยหนี

ยิ่งแววตาเขาดูสนุกมากขึ้นทุกที นางก็ยิ่งหายใจลำบากยิ่งขึ้น

“หึ องค์หญิงศักดิ์สิทธิ์แคว้นป๋ายก็กลัวเป็นเสียด้วย” เขาก้าวขาเร็วขึ้น ทั้งน้ำเสียงและแววตาคุกคามทำเอาหนิงซินเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

หนิงซินกัดริมฝีปากตัวเองแน่น พยายามตั้งสติ

ไม่ทันที่นางจะได้พูดอะไร เพียงเห็นนางเหลียวมองทางออกที่อยู่ไม่ไกล บุรุษผู้นี้ก็คล้ายจะหมดความอดทนเฉียบพลัน

“ข้าจะไม่เล่นไล่จับกับเจ้า หนิงซิน” บอกเพียงเท่านั้น แม่ทัพใหญ่ก็คว้าข้อมือนาง แม่นยำเหมือนอสรพิษฉกกัด

ร่างบอบบางโดนโยนลงบนฟูกในชั่วอึดใจนั้น

ก่อนที่หนิงซินจะได้ทันหวีดร้อง ร่างสูงใหญ่ก็โถมทับลงมา ตรึงข้อมือที่ยังโดนมัดไว้ของนางขึ้นเหนือหัว แล้วกดริมฝีปากแข็งกระด้างลงปิดปากนางอย่างไม่ปรานีปราศรัย

“อึ...อื้อ!”

จู่ๆ...จู่ๆ ก็ถูกทำแบบนี้...!

หนิงซินทั้งตกใจทั้งหวาดกลัวจนประคองสติเอาไว้ไม่ไหว ร่างเล็กๆ ดิ้นขลุกโดยอัตโนมัติ คิดแต่ว่าจะต้องดิ้นรนให้หลุดจากการกระทำอันหยาบคายต่ำช้านี้ให้ได้ ไม่รู้ตัวสักนิดว่าการโต้ตอบนั้นกลับยิ่งทำให้ร่างกายนุ่มละมุนหอมละไมบดเบียดเสียดสีกับร่างกายที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงแกร่งกร้าวราวเหล็กกล้า

“ฮึก...ฮื้อ...อื้อ...” หนิงซินแทบลืมไปแล้วว่าต้องหายใจอย่างไร

ไหนจะปัญหาเรื่องสรีระ

ร่างกายที่แตกต่างกันนี้ รวมถึงไรหนวดอันแข็งกระด้างบนใบหน้าของคนผู้นี้ ทำให้นางทั้งอึดอัดไม่สบายตัว ทั้งเจ็บแสบที่ริมฝีปากและใบหน้าบริเวณที่ถูกไรหนวดนั่นครูดเนื้อถูไถอย่างไร้ปรานีเป็นที่สุด

นางพยายามผลักเขาออก

“ปละ...ปล่อย...!” พูดได้เท่านั้น ริมฝีปากนางก็โดนครอบครองอีกหน

องค์หญิงที่ได้รับคำพยากรณ์ว่าเป็นที่รักของเทพเซียน จนได้รับความรักสูงสุดจากคนทั่วหล้าอย่างนาง นับตั้งแต่แรกคลอดก็ได้รับการทะนุถนอมจากผู้คน ถูกประคองเอาไว้บนฝ่ามือราวกับไข่มุกอันล้ำค่า แม้แต่เสื้อผ้าเนื้อแข็งสักหน่อยก็ยังไม่เคยได้สัมผัส ยามนี้กลับต้องถูกไรหนวดแข็งๆ เช่นนี้ครูดเนื้อหนังทำร้าย นาง...นางไม่เคยรู้มาก่อนว่าการถูกของแข็งครูดผิวจะเจ็บแสบเช่นนี้ ไม่ถูก...นางไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเส้นขนของสิ่งมีชีวิตเองก็ใช้เป็นอาวุธได้ด้วย!

“...อย่า...” ถูกบดริมฝีปากปล้นจูบหยาบคายและรุนแรงเช่นนี้...ตอนนี้นางแทบจะหายใจไม่ทันแล้ว!

คนไม่เคยคิดร้ายต่อผู้ใด จะอย่างไรก็ไม่ทำร้ายใครทั้งนั้น

แม้จะตกใจและหวาดกลัวแค่ไหน นางกลับมิได้ทุบตีหรือจิกข่วนทำร้ายเขาสักนิด ที่นางทำก็มีเพียงพยายามดิ้นรน ดุนดัน แล้วก็เบี่ยงหน้าหลบการกระทำหยาบคายนั้นไปมา

แม้รู้ดีว่ายิ่งขัดขืนเช่นนี้ก็จะยิ่งถูกไรหนวดนั่นครูดผิวทำร้าย ทว่านางไม่อาจทอดกายปล่อยให้บุรุษผู้หนึ่งกระทำย่ำยีเอาตามใจเช่นนี้ ไม่มีวัน!

ราวกับอีกฝ่ายจะเกรงว่า ถ้านางขาดใจตายไปเสียก่อนเช่นนี้ ตนจะได้ทรมานสตรีตัวเล็กๆ ไม่หนำใจ...เขาเริ่มเปลี่ยนวิธีการ

ตอนนี้เขาไม่เพียงบดริมฝีปากปิดปากนางไว้ แต่ยังขบกัดริมฝีปากนาง เลียไล้เล็มลิ้มชิมรสชาติความหวาดหวั่นสั่นเทิ้มบนใบหน้า กกหู และลำคอขาวผ่อง

หนิงซินพยายามเบี่ยงหน้าหลบสัมผัสอันน่ารังเกียจนั่นและร้องห้าม แต่ทุกครั้งที่เปล่งเสียงออกมาได้สักคำครึ่งคำ ริมฝีปากบางๆ ก็โดนครอบครองวนซ้ำจนนางแทบจะไร้สิ้นเรี่ยวแรงต่อต้าน

จังหวะนี้เอง จู่ๆ นางก็รู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมอุ่นร้อนบางอย่างที่รุกล้ำลอดผ่านริมฝีปากเข้ามา นางพยายามใช้สิ่งเดียวที่มีอย่างลิ้นของตนเองดันสิ่งแปลกปลอมส่วนนั้นออกไป คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายกลับไม่เพียงไม่สะทกสะท้าน ยังครางฮืออย่างพึงพอใจ ก่อนจะถอนริมฝีปากออกแล้วขบกัดริมฝีปากนางอย่างไรสาเหตุ

ครั้งนี้มันไม่ใช่การขบเม้มแค่พอให้เจ็บระบมเท่านั้น แต่มันเป็นการขบกัดที่รุนแรง...รุนแรงมากพอที่จะทำให้นางสัมผัสได้ว่ามีของเหลวเย็นๆ ไหลออกมาจากบริเวณนั้น

“อึก...” หนิงซินเจ็บจนน้ำตาเล็ด ไม่นานนักก็รู้สึกได้ถึงรสคาวของ...เลือด?

“อย่าบังอาจมายั่วยวนข้า” เขาบอกเสียงลอดไรฟัน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 7

    นางจะไม่ยอมอดทนต่อการกระทำอันต่ำทรามไร้มารยาทนี้อีกต่อไปแล้ว! นางไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว!หนิงซินพยายามขยับตัวดิ้น คาดไม่ถึงว่าท่าทีนั้นจะทำให้อีกฝ่ายครางเสียงทุ้มต่ำในลำคอ บางสิ่งที่ค้างคาอยู่ในตัวนางขยายใหญ่ขึ้นจนคับแน่นไปกันใหญ่“เจ้าคิดว่านี่คือสิ่งที่ข้าต้องการ?” เขาถามเสียงแหบห้าวราวกับราชสีห์ที่เพิ่งตื่นจากการหลับใหลน้ำเสียงที่เป็นเช่นนี้...จะว่าฟังดูสบายๆ ก็ให้ความรู้สึกว่าสบายๆ จะว่าให้ความรู้สึกว่าน่าหวาดกลัวก็ให้ความรู้สึกว่าน่าหวาดกลัว ทั้งฟังดูน่าเกรงขามทั้งชวนให้ขนลุกได้อย่างน่าพิศวงถึงกระนั้นก็เถอะ ท่าทีเช่นนี้ค่อนข้างแตกต่างจากท่าทีก่อนที่ทั้งเขาและนางจะ...ร่วมหมอนนอนเคียงกันสักเล็กน้อย คล้ายกับว่ามันมีสัดส่วนของการหยอกเย้าอย่างนึกสนุกปะปนอยู่ในนั้น แต่จะด้วยในฐานะนางบำเรอหรือสัตว์เลี้ยงนั้น...นางไม่อาจและไม่อยากคาดเดาเห็นนางนิ่งเงียบ แม่ทัพทมิฬบีบคาง บังคับให้นางผินหน้ามาสบตาชั่วอึดใจนั้น ความน้อยเนื้อต่ำใจและความอัปยศอดสูสมเพชเวทนาตนเองเหลือจะกล่าว และความรู้สึกกล่าวโทษฝ่ายที่ทำให้ตนเองต้องรู้สึกเช่นนี้อย่างละส่วน ขับให้หนิงซินจ้องตอบด้วยสีหน้าเฉยชาอย่างที่สุด“นี

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 6

    การลงทัณฑ์อันเร่าร้อนรุนแรง ปลุกเร้าความรู้สึกบางอย่างที่ซุกซ่อนในใจ ทำให้หนิงซินรู้สึกอัปยศอดสูถึงขีดสุดยามนี้นางทั้งรังเกียจชิงชังตนเอง ทั้งรู้สึกผิด ทั้งยังรู้สึกว่าตนเองแปดเปื้อน หมดคุณค่า จิตใจถูกทำให้บิดเบี้ยววิปลาสเกินเยียวยา หมดสิ้นความภาคภูมิใจในตนเอง เกียรติยศและความสง่างามในฐานะองค์หญิงศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงศักดิ์ของแคว้นป๋ายล้วนถูกย่ำยีจนไม่เหลือซากภายในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วยามบุรุษต่ำช้าผู้นี้ราวกับหมาป่าอดอยากหิวโซคลุ้มคลั่งตัวหนึ่งก็ไม่ปาน นับตั้งแต่เริ่มลงมือกับนาง เขาก็ลงมืออย่างไม่ยั้งมือไว้ไมตรี กระทำย่ำยีกับนางเอาตามใจทั้งคว่ำและหงาย ใช้นางบำบัดความใคร่ บำเรอกาม ปฏิบัติต่อนางเสมือนหนึ่งหญิงคณิกา หลังจากเสร็จสิ้นสุขสม ก็ไม่ใส่ใจแม้แต่จะดึงผ้าสักชิ้นมาปกปิดร่างกายทั้งเขาและนาง ทั้งยังไม่สนใจว่าหลังจากเพิ่งผ่านพ้นเสร็จสิ้นกิจกามอันยาวนานกันไปหนหนึ่ง นางจะเจ็บปวดบอบช้ำถึงเพียงไหน กลับจับนางพลิกคว่ำซุกไซ้สูดดมซอกคอ สอดแทรกความเป็นชายที่ยังแข็งเกร็งเข้ามาจนสุดลำ กอดรั้งร่างนางที่ไร้แรงจะต้านทานขัดขืนไว้แน่นหนที่สองนี้ เขาไม่ได้เคลื่อนไหวรุนแรงเหมือนหนแรก กลับสอดใส่ค้างคา

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 5

    ไม่...ไม่นะ...นี่นาง...นางกำลังคล้อยตามโจรขืนใจผู้นี้!ไม่ ไม่ ไม่ ไม่! ไม่มีวัน! นางต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆเรื่องน่าอัปยศเช่นนี้ ความรู้สึกโสมมเช่นนี้!“เอามัน...ฮึก...! เอามันออกไป...!” หนิงซินร้องเสียงแหบพร่าตอนนี้นางแทบจะไม่มีเสียงห้ามแล้ว แต่หากไม่ห้าม...นาง...นางรู้สึกว่า...นางคิดว่านางสมควรต้องห้าม!ถูกแล้ว นางสมควรต้องพยายามยุติเหตุการณ์อันน่าอัปยศและไม่ถูกต้องนี้ ต้องต่อต้านสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และไม่สมควรคล้อยตามความรู้สึกอันสกปรกไร้ยางอายเช่นนี้!ต่อให้นางไม่ใช่สตรีศักดิ์สิทธิ์ที่สมควรครองพรหมจรรย์แต่ก็ยังเป็นองค์หญิงรองที่ถือกำเนิดจากครรภ์พระราชชายาแห่งผู้ปกครองแคว้นป๋าย และต่อให้นางไม่ใช่องค์หญิงผู้หนึ่งของแคว้นป๋าย นางก็ยังเป็นสตรีผู้หนึ่งใต้หล้านี้จะมีสตรีดีๆ ใดที่เป็นเช่นนี้...ยังไม่ทันแต่งงานเข้าพิธี โดนบุรุษผู้หนึ่งข่มเหงรังแก กลับหลงคล้อยตาม เผลอปล่อยตัวปล่อยใจ ปล่อยให้ผู้อื่นเสพสุขจากร่างกายตนโดยง่าย กระทำตัวไร้ยางอายและไร้ค่าเช่นนี้!นาง...ไม่อาจปล่อยให้เป็นเช่นนี้!ราวกับล่วงรู้ว่านางกำลังคิดอะไร คนด้านบนแค่นหัวเราะอย่างสาแก่ใจ ก่อนขยับอีกนิ้วที่ว่างอยู่ปัดเ

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 4

    เขาใช้มือข้างหนึ่งกดร่างนางไว้ เพียงใช้มืออีกข้างกระชากแรงหน่อย ชุดผ้าเนื้อดีสีนวลตาบนกายนาง ถึงกับหลุดขาดวิ่นคามือ!“อ๊ะ!!! ต่ำช้า ท่านมันต่ำช้าที่สุด!” หนิงซินตกใจกลัวจนแทบไม่รู้ตัวแล้วว่าพูดอะไรออกมา“อ้อ ข้าต่ำช้า!” คราวนี้เขาแค่นหัวเราะ ก่อนกดศีรษะลงไซ้แก้ม กราม ซอกคอ ไล่ลงมาจนถึงเนินอกอิ่ม แล้วกระชากเสื้อตัวยาวที่สวมเอาไว้อย่างหลวมๆ ของตัวเองทิ้งอย่างรวดเร็วหนิงซินโกรธจนลืมกลัวไปแล้ว“เป็นแค่แม่ทัพผู้หนึ่ง ไม่ทันถวายรายงานต่อต้าอ๋องของตนก็กล้าแตะต้ององค์หญิงศักดิ์สิทธิ์ที่เดินทางมาเป็นทูตสงคราม หัวของแม่ทัพใหญ่อย่างท่าน ยังสมควรมีอยู่หรือไม่!”แม่ทัพเฮยเซ่อเย่ว์ไม่แยแสสักนิด“นั่นต้องดูว่ายังมีผู้ใดมีความสามาถมากพอจะบั่นคอข้าได้หรือไม่!”เขาฉีกกระชากชุดนางซ้ำ เผยให้เห็นเรือนร่างส่วนที่ยังคงถูกปกปิดไว้แทบทั้งหมดทันทีหนิงซินสะอื้นค้าง รู้แน่แล้วว่าคงขัดขืนคนตรงหน้าไม่ได้ แต่ไม่อยากโอนอ่อนผ่อนตาม นางพยายามดิ้นรนสุดกำลัง หารู้ไม่ว่าการกระทำนั้นทำให้ส่วนกลมกลึงกลางหน้าอกกระเพื่อมไหว ดึงดูดให้ผู้ที่แท้ที่จริงแล้วก็เพียงอยากกลั่นแกล้งรังแกหยามเกียรตินาง บังเกิดความปรารถนาอย่างรุนแรงจ

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 3

    “อย่าบังอาจมายั่วยวนข้า” เขาบอกเสียงลอดไรฟันวัดจากความเย็นที่เคลื่อนลงจากมุมปากอย่างเชื่องช้า กับคราบน้ำสีแดงข้นบนริมฝีปากที่คนตรงหน้าเพิ่งจะตวัดลิ้นกลืนกินอย่างไม่รู้สึกรู้สา เดาว่าริมฝีปากนางในตอนนี้คงถูกบุรุษใจทรามตรงหน้าขบกัดจนเป็นแผล เลือดสดๆ กำลังหลั่งรินออกมาแล้วจริงๆ“จริงสิ...ข้าเคยบอกเอาไว้ว่าจะทำให้เจ้าร้องขอความตาย...” เขาบอกเสียงแหบแห้งเย็นชาทว่าทรงอำนาจดุจพญามัจจุราชจากปรภพ พลางใช้สายตาโลมไล้ใบหน้าและลำคออันขาวผ่องรอบหนึ่ง จากนั้นก็จ้องลึกลงในตานาง แย้มรอยยิ้มอันเหี้ยมเกรียมน่าหวาดหวั่นที่ทำให้หนิงซินถึงกับสั่นเทิ้มไปทั้งวิญญาณ หวาดผวาจนน้ำตาคลอเบ้าในชั่วขณะที่หนิงซินคิดว่าเรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว แม่ทัพเฮยเซ่อเย่ว์ก็ตวาดใส่นางเสียงดังลั่น “ร้องสิ! หากไม่ร้องไห้อ้อนวอนหรือโวยวาย ก็จงใช้วิธีการที่เจ้าใช้ยั่วยวนปั่นหัวผู้คนให้รบราฆ่ากันตาย ให้ผู้ชนะอย่างข้าได้ดูชมเป็นขวัญตาสักครั้ง! นารีล่มเมืองหรือจะมีดีแค่นี้!” หนิงซินเม้มริมฝีปากแน่น เนื้อตัวสั่นเทาไปหมด แม้แต่ประโยคร้องขอความเห็นใจก็ยังพูดไม่ออกแม้เพียงครึ่งคำยังไม่ต้องเอ่ยถึงการโดนตวาดใส่ซึ่งๆ หน้าเช่นนี้...องค์หญิง

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 2

    “เป็นอะไรไป ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ก็เห็นว่าปากกล้าอยู่ได้ตั้งเป็นนาน ไฉนตอนนี้องค์หญิงรองผู้เก่งกาจ กลับหวาดกลัวขึ้นมาเสียแล้วเล่า” เขาเอ่ยกึ่งเยาะเพราะไม่รู้จะตอบอย่างไร หนิงซินเลือกใช้ความเงียบเป็นคำตอบแม่ทัพเฮยเซ่อเย่ว์สาวเท้าเข้าหา นางก้าวขาถอยหนียิ่งแววตาเขาดูสนุกมากขึ้นทุกที นางก็ยิ่งหายใจลำบากยิ่งขึ้น“หึ องค์หญิงศักดิ์สิทธิ์แคว้นป๋ายก็กลัวเป็นเสียด้วย” เขาก้าวขาเร็วขึ้น ทั้งน้ำเสียงและแววตาคุกคามทำเอาหนิงซินเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่หนิงซินกัดริมฝีปากตัวเองแน่น พยายามตั้งสติไม่ทันที่นางจะได้พูดอะไร เพียงเห็นนางเหลียวมองทางออกที่อยู่ไม่ไกล บุรุษผู้นี้ก็คล้ายจะหมดความอดทนเฉียบพลัน“ข้าจะไม่เล่นไล่จับกับเจ้า หนิงซิน” บอกเพียงเท่านั้น แม่ทัพใหญ่ก็คว้าข้อมือนาง แม่นยำเหมือนอสรพิษฉกกัดร่างบอบบางโดนโยนลงบนฟูกในชั่วอึดใจนั้นก่อนที่หนิงซินจะได้ทันหวีดร้อง ร่างสูงใหญ่ก็โถมทับลงมา ตรึงข้อมือที่ยังโดนมัดไว้ของนางขึ้นเหนือหัว แล้วกดริมฝีปากแข็งกระด้างลงปิดปากนางอย่างไม่ปรานีปราศรัย“อึ...อื้อ!”จู่ๆ...จู่ๆ ก็ถูกทำแบบนี้...!หนิงซินทั้งตกใจทั้งหวาดกลัวจนประคองสติเอาไว้ไม่ไหว ร่างเล็กๆ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status