Masukเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เทพพนันจางหยูซินเริ่มแสดงฝีมือจนได้ เขาทำเงินจำนวนมากมายมหาศาลจากการเล่นพนัน จนกระทั่งเด็กรับใช้ที่ดูแลโต๊ะการพนันเริ่มเหงื่อเย็นซึมออกมาจากใบหน้า พวกเขาพยายามทุกวิธีที่จะพลิกสถานการณ์ แต่เทพพนันยังคงเป็นผู้ชนะไม่ว่าจะเป็นการพลิกไพ่หรือการหมุนลูกเต๋า ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลของการเดิมพันได้เลย
เทพพนันชนะการเดิมพันครั้งแล้วครั้งเล่าก็สะท้อนให้เห็นถึงฝีมือที่เหนือกว่า จนในที่สุด เด็กรับใช้ไม่สามารถอดทนต่อสถานการณ์นี้ได้อีกต่อไป เขาจึงตัดสินใจเชิญเทพพนันไปยังโต๊ะที่ใหญ่ขึ้น เพื่อที่จะหวังว่าจะชดเชยส่วนที่เสียไปและควบคุมสถานการณ์ได้
"นายน้อยหวังเฉิน ข้าเกรงว่าโต๊ะเดิมพันขนาดเล็กเช่นนี้คงไม่คู่ควรกับฝีมือของท่าน" เด็กรับใช้กล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพและเคารพ "เชิญท่านไปนั่งโต๊ะระดับกลางดีกว่า ข้าจะให้ท่านได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่"
เทพพนันหันมายิ้มเล็กน้อย และตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าก็พูดจายกยอข้าเกินไปนัก วันนี้ตัวข้าก็แค่โชคดีเดิมพันไปมั่วๆ เท่านั้นเอง" เขาพูดด้วยท่าทางที่แสดงถึงความร่าเริง
"เอาเถอะ เจ้าจะให้ข้านั่งตรงไหน ข้าก็จะไปนั่ง" เทพพนันกล่าวอย่างสบายๆ ก่อนที่จะย้ายไปยังโต๊ะเดิมพันระดับกลางที่มีการเล่นที่มีอัตราเดิมพันสูงขึ้น และการดูแลที่ดีกว่าเดิม
โต๊ะใหม่ที่เทพพนันย้ายไปนั้นเต็มไปด้วยนักเดิมพันที่มีอำนาจและฐานะ พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นนักพนันที่มีประสบการณ์และกล้าเสี่ยง นั่นทำให้บรรยากาศในโต๊ะการพนันมีความเข้มข้นยิ่งขึ้น ขณะที่เทพพนันเริ่มแสดงฝีมือที่แท้จริงออกมา นักเดิมพันที่อยู่รอบข้างเริ่มได้ยินเสียงดังจากการชนะอย่างต่อเนื่อง
เยี่ยจิงหลินมองสถานการณ์จากข้างหลังด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ นางรู้ดีว่าแผนการของเธอกำลังดำเนินไปอย่างที่คาดไว้ ไม่มีอะไรที่น่ากังวล ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เยี่ยจิงหลินก็ส่งสัญญาณให้เทพพนันถอยออกจากการเดิมพัน
เทพพนันยิ้มรับเข้าใจและกล่าวด้วยท่าทางร่าเริง "ฮ่าฮ่า วันนี้ข้าทำเงินได้ไม่น้อยเลย งั้นข้าขอตัวกลับก่อน" น้ำเสียงของเขายังคงเต็มไปด้วยความมั่นใจและอารมณ์ดี
เด็กรับใช้พยายามห้ามเทพพนัน "เอ่อ... แต่ว่า... คุณชายไม่สนใจที่จะเล่นต่ออีกสักหน่อยเหรอ? ตัวท่านกำลังดวงขึ้นเลย" เขากล่าวออกมาเสียงเบา พยายามให้เทพพนันยอมเล่นต่อเพื่อหวังจะเอาคืนจากการสูญเสีย
เทพพนันหันมายิ้มอย่างสบายๆ "ไม่ล่ะ... วันนี้ข้าเหนื่อยมากแล้ว ไว้วันหน้าข้าจะเข้ามาเที่ยวเล่นใหม่" เขาพูดอย่างไม่มีความลังเลและลุกขึ้นจากโต๊ะ ก่อนจะเดินออกไปจากบ่อนการพนันด้วยท่าทางมั่นใจ
เด็กรับใช้รีบวิ่งขึ้นไปที่ชั้นสูงสุดของบ่อนการพนันอย่างรวดเร็ว ใจของเขาเต้นรัวด้วยความตกใจ ก่อนที่เขาจะวิ่งไปยังห้องขององค์ชายฟู่ซิวเหิง บุตรชายคนโตของท่านอ๋องฟู่หยางเซิน เขาได้รับหน้าที่ที่สำคัญให้ดูแลสถานที่แห่งนี้หลังจากที่ท่านพ่อของเขาไม่อยู่เพราะมัวเพลิดเพลินไปกับอำนาจภายในวังหลวงแต่สถานที่แห่งนี้ก็ไม่สามารถที่จะทอดทิ้งไปได้เพราะมันคือสถานที่ที่ทำเงินที่สำคัญดังนั้นแล้วบุตรชายที่ได้รับหน้าที่ดูแลสถานที่แห่งนี้จะต้องเป็นบุตรชายที่ท่านอ๋องรู้สึกไว้วางใจมากที่สุด
“ขออภัยครับ องค์ชายฟู่ซิวเหิง ข้าคิดว่าท่านควรทราบเรื่องด่วน!” เด็กรับใช้รายงานเสียงสั่นเครือด้วยความรีบร้อน
ฟู่ซิวเหิงที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวบนเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ สงบนิ่งและสบาย มือของเขายกขึ้นขยี้ศีรษะเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ก่อนจะหยุดจากการพิจารณางานบนโต๊ะไม้ที่เต็มไปด้วยเอกสารต่างๆ เขาจ้องมองเด็กรับใช้ที่ยืนอยู่ตรงหน้า จากนั้นถามด้วยน้ำเสียงที่คุมอารมณ์ได้ดีอย่างสมบูรณ์
“มีอะไร?”
เด็กรับใช้ที่ยืนอยู่กลางห้องเดินเข้าไปใกล้ ฟูมฟายด้วยความตื่นเต้น “มีคุณชายคนหนึ่งเข้ามาเล่นในบ่อนของเรา เขาชนะเดิมพันและได้ทองคำไปมากกว่า 10 หีบขอรับ!”
เมื่อฟู่ซิวเหิงได้ยินดังนั้น เขาหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาเริ่มแหลมคมขึ้น ร่างกายของเขาเริ่มตึงเครียดไปกับความโกรธที่รวดเร็วและหนักหน่วง เหงื่อเย็นซึมออกจากหน้าผาก ก่อนที่เขาจะคำรามออกมาอย่างรุนแรง
“10 หีบทองคำ?!” เสียงของเขาดังก้องไปทั่วห้อง เสียงแหลมทุ้มสะท้านไปทั่วห้อง หน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธจนมือทุบโต๊ะไม้ดังสนั่น
“ใครมันกล้าทำเช่นนี้?!” ฟู่ซิวเหิงตะโกนเสียงดังก้อง คำพูดแสดงถึงความโกรธที่แท้จริงในตัวเขา
เด็กรับใช้ที่ยืนอยู่ตะกุกตะกักรีบตอบ “มันคือคุณชายหวังเฉินขอรับ ข้างตัวมันมีลูกน้องติดตามมาด้วย 4-5 คน และข้างกายยังมีหญิงสาวรับใช้อีกหนึ่งคน แม้ว่านางจะสวมผ้าปิดบังใบหน้า แต่จากที่ข้าสังเกตแล้วใบหน้าของนางงดงามไม่น้อยเลยขอรับ”
“หึ...” ฟู่ซิวเหิงกัดฟันแน่น การควบคุมอารมณ์ของเขาเริ่มลำบาก สายตาของเขากลายเป็นแข็งกร้าว “ส่งคนจากตำหนักอสรพิษไปจัดการพวกมันซะ อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้! ข้าต้องการทรัพย์สมบัติคืน!” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
เขาหยุดไปเล็กน้อย ก่อนจะเสริมเสียงต่ำและดุดัน “ผู้ชาย...เชิญสังหารพวกมันให้หมด ส่วนสาวงามที่เจ้าว่าข้าจะส่งนางไปหอนางโลม...ให้ได้รับรู้ถึงรสชาติของการตกต่ำ”
น้ำเสียงของฟู่ซิวเหิงนั้นไม่อ่อนข้อ เขาสั่งการด้วยความเด็ดขาด ทุกคำที่กล่าวออกมาล้วนแต่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและไร้ความเมตตา ทุกสิ่งในสายตาของเขาคือเครื่องมือที่ต้องใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง
"จัดการให้เสร็จเรียบร้อยในคืนนี้" เขากล่าวสั่งก่อนจะหันกลับไปที่โต๊ะไม้เพื่อกลับมาจัดการเอกสารที่ยังค้างอยู่ เสียงของเขาดูเยือกเย็นและเด็ดขาด พร้อมกับความรู้สึกที่ว่าทุกอย่างเป็นแผนของเขาที่จะควบคุมทุกสิ่งให้เป็นไปตามที่ต้องการ
กฎเหล็กของบ่อนการพนันแห่งนี้ชัดเจนและไร้ความปรานี หากเล่นจนหมดตัว ก็สามารถกลับบ้านไปได้โดยไม่ต้องห่วงอะไร แต่ถ้าหากโชคดีจนเกินไป วันนั้นอาจกลายเป็นวันสุดท้ายของชีวิต ไม่เพียงแต่สิ้นชีวิตแต่อาจสิ้นทรัพย์สินด้วย การเดิมพันในบ่อนแห่งนี้ไม่มีที่ยืนให้กับผู้โชคดีที่เกินไป ในช่วงเวลานี้ นักฆ่าจากทั่วทั้งตำหนักอสรพิษกำลังเคลื่อนไหว เป้าหมายของพวกเขาชัดเจนดับลมหายใจของคุณชายหวังเฉิน
การปะทะที่ดุเดือดระหว่างกองกำลังทั้งสองกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ในขณะที่การเคลื่อนไหวนี้กำลังดำเนินไปอย่างราบรื่นนั้น ฟู่ซิวเหิง องค์ชายผู้มีอำนาจสูงสุดในตำหนักอสรพิษกลับไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่นั้นล้วนแล้วแต่เดินไปตามแผนการของสตรีนางหนึ่งทั้งสิ้นนางเพียงแค่ต้องการที่จะกระชากเขาให้ออกมาจากในที่มืดก็เท่านั้น
หลังจากที่สะสางทุกเรื่องราวในเมืองหลวงจนเสร็จสิ้น เยี่ยจิงหลินก็ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านไท่ผิงชุน ที่นั่น… คือสถานที่ที่มีความหมายกับนางมากที่สุดเมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ บรรยากาศรอบตัวแตกต่างจากเมืองหลวงโดยสิ้นเชิงไม่มีเสียงของขุนนางที่คอยแย่งชิงอำนาจ ไม่มีแววตาแห่งความโลภ ไม่มีเสียงกระซิบของคนที่พยายามคิดคดหักหลังที่นี่มีเพียงสายลมอ่อนๆ อากาศที่สดชื่น และผู้คนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะ แห้งแล้งและทุรกันดารแต่สำหรับเยี่ยจิงหลินที่นี่คือบ้าน เมื่อเดินเข้าสู่เรือนของตนเอง นางกลับต้องแปลกใจเมื่อพบว่า หลิวฉางหยาง กำลังพักอาศัยอยู่ที่นี่! เยี่ยจิงหลินหันไปมองมารดาของตนซูหลินด้วยความสงสัยก่อนที่แม่ของนางจะ เผยรอยยิ้มออกมาอย่างเขินอาย"ลูก… แม่ตัดสินใจแล้วว่าแม่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง" หลิวฉางหยางไม่ใช่แค่คนรู้จัก แต่เขาเป็นคนที่ ยืนเคียงข้างและคอยดูแลแม่ของนางเสมอมาในวันที่ชีวิตของซูหลินลำบากเขาอยู่เคียงข้างนางโดยไม่ทอดทิ้งและตอนนี้แม่ของเยี่ยจิงหลินก็ได้ตัดสินใจเปิดใจให้กับความรักอีกครั้งเยี่ยจิงหลินเมื่อเห็นแม่ของตนมีความสุข นางย่อมดีใจอย่างที่สุด"แ
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม...ด้วย ฝีมือการรักษาของหมอเทวดาหลานซือหมิง ในที่สุด ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนก็ฟื้นคืนสติอีกครั้ง!แม้ว่าพระองค์ยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะกลับมาแข็งแรงเต็มที่ แต่สิ่งที่พระองค์ได้รับรู้หลังจากฟื้นคืนสติมันทำให้หัวใจของพระองค์สั่นสะท้านยิ่งกว่าพิษร้ายที่เคยกัดกินร่างกายเสียอีก!"คนที่วางยาข้า... คือน้องชายของข้าเอง!?" ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนตื่นตระหนกเมื่อรับรู้ถึงความจริง อ๋องฟู่หยางเซิน ผู้ที่เขาเคยมอบความไว้วางใจ... กลับเป็นผู้ที่คิดจะฆ่าเขาเอง!สิ่งที่ทำให้พระองค์สะท้านใจไปมากกว่านั้นคือ..."ผู้ที่ช่วยข้ากลับเป็นบุตรสาวของแม่ทัพซุนเทา... บิดาของนางคือผู้ที่ข้าเคยหวาดระแวงเพราะคำยุยงของราชครูกู่เทียนหลง!" พระองค์หวาดระแวงแม่ทัพซุนเทาเพราะคำพูดของราชครูที่คอยปั่นหัวสุดท้าย... พระองค์ก็ต้องสูญเสียทั้งคู่ไปหลังจากนั้นไม่นานความเดือดดาลก็ปะทุขึ้น!"ข้าจะไม่มีวันให้อภัยมัน!" ดวงตาของฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียน ฉายแววของความโกรธแค้นแม้ว่าอ๋องฟู่หยางเซินจะไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ แล้ว แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพของคนที่ไร้สติ เหม่อลอย ไม่รู้เรื่องราวใดๆแต่ความผิดที่เขาก่อขึ้นมันเกินกว่าที
การตายขององค์ชายฟู่ซิวเหิง… เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เยี่ยจิงหลินไม่ได้คิดจะหยุดเพียงแค่ปลิดชีพองค์ชาย แต่นางกำลังจะทำให้ตระกูลของอ๋องฟู่หยางเซินล่มสลายไปทั้งสายเลือด! ก่อนที่นางจะลงมือ เยี่ยจิงหลินส่งคนของนางออกไปสืบข่าวเกี่ยวกับบุตรชายของอ๋องฟู่หยางเซินทุกคนพวกมันทุกคนล้วนชั่วช้า ไม่ได้ต่างไปจากฟู่ซิวเหิงเลยแม้แต่น้อยพวกมันฉ้อโกง ฉุดคร่าหญิงสาว กดขี่ชาวบ้าน ใช้อำนาจอย่างอำมหิต...ทุกสิ่งที่ได้รับรายงานมามีแต่สิ่งที่ทำให้นางยิ่งแน่ใจว่าพวกมันสมควรจะถูกกำจัดจนหมด!เมื่อแผนการถูกวางไว้อย่างรัดกุม ค่ำคืนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจาก คืนแห่งนรกที่แท้จริงสำหรับท่านอ๋องแม้ว่าตัวของเขานั้นไม่มีสติเป็นของตัวเองแล้วก็ตาม"ลอบสังหารพร้อมกันในคืนเดียว อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว"นางออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด! เหล่ามือสังหารในเงามืด เคลื่อนไหวอย่างไร้เสียง แต่ละคนได้รับเป้าหมายของตนเอง ไม่มีความผิดพลาด ไม่มีความลังเล มีเพียงจุดจบของเครือญาติแห่งอ๋องฟู่หยางเซินเท่านั้นที่รออยู่!เสียงกรีดร้องแห่งความตื่นตระหนก ดังขึ้นจากคฤหาสน์หลายแห่งของบุตรชายท่านอ๋อง"ไม่นะ! ปล่อยข้าไป! ข้าให้เงินเจ้าได้!""อย่า! ข้ายอมแ
เยี่ยจิงหลินยืนอยู่กลางโถงสุราที่ถูกย้อมไปด้วยเลือด นางจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างพึงพอใจ ฟู่ซิวเหิง องค์ชายผู้เคยหยิ่งทะนงบัดนี้กำลังสั่นสะท้านไม่ต่างจากลูกนกที่ถูกขังไว้ในกรงแห่งความตาย!นางกวาดสายตามองเหล่าขุนนางและองครักษ์ที่เหลือรอด บางคนยังยืนตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว บางคนคุกเข่าลงร้องขอชีวิต น้ำตานองหน้า แต่มันไร้ประโยชน์!ใบหน้าของเยี่ยจิงหลินยังคงเรียบนิ่ง… ก่อนที่ริมฝีปากของนางจะคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา"จงดับลมหายใจของพวกมันให้หมดซะ... อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว"คำสั่งของนางเยือกเย็นราวกับเป็นเสียงแห่งมัจจุราช เงามรณะเคลื่อนไหวทันที!เสียงดาบกระทบกับเนื้อ เสียงเลือดสาดกระเซ็น เสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นระลอก ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ เงียบลงไปทีละน้อย ฟู่ซิวเหิงจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่สั่นไหว เขาเห็นขุนนางที่เคยประจบสอพลอตนเองถูกเชือดไปทีละคน…เขาเห็นองครักษ์ของตนเองล้มลงโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะชักดาบขึ้นมาต่อสู้!"ไม่… ไม่…"ร่างของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว สิ่งที่เขาเคยภาคภูมิใจ อำนาจ ความเย่อหยิ่ง ความทะเยอทะยานล้วนมลายหายไปจนหมดสิ้นและเมื่อความหวาดกลัวพุ่งถึงขีดสุด…"ท่านพ่อ! ช่วยข
ภายใน หอสุรา ที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง พลันเกิดความเปลี่ยนแปลงในพริบตาเดียว!ฟู่ซิวเหิง และเหล่าขุนนางยังคงกำลังดื่มด่ำกับความสุขจากอำนาจใหม่ของตนเอง เสียงจอกสุรากระทบกัน เสียงหัวเราะยังคงดังไปทั่วทั้งห้องโถง ทุกคนกำลังหลงระเริงอยู่ใน ภาพมายาของชัยชนะแต่แล้ว…"พรึ่บ!"เปลวไฟทุกดวงภายในห้องโถงพลันดับมอดลงอย่างกะทันหัน!ทั้งห้องตกอยู่ใน ความมืดมิดอันสมบูรณ์แบบ ไม่มีแสงไฟแม้แต่ดวงเดียว มีเพียงเงามืดอันน่าหวาดกลัว ที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบเชียบเสียงของแขกภายในงานเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบกระซาบ ความตื่นตระหนกเริ่มแพร่กระจายออกไปในหมู่ผู้ร่วมงาน"มันเกิดอะไรขึ้น?!""มีใครไปจุดไฟเร็วเข้า!"เสียงตะโกนดังขึ้นจากมุมห้อง น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก!แต่ไม่มีคำตอบไม่มีใครขยับท่ามกลางความเงียบงันและความมืดมิด…"อ๊ากกกกก!!!"เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดังก้องไปทั่วห้องโถง!หนึ่งในแขกของงานถูกปลิดชีพอย่างไร้ความปรานี!เงามัจจุราชที่คืบคลานฟู่ซิวเหิงเบิกตากว้าง เขาหันมองไปรอบๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงความมืดสนิท!"ใครอยู่ตรงนั้น?! ออกมาเดี๋
ความจริงที่โหดร้ายกำลังกลืนกินหัวใจของท่านอ๋องฟู่หยางเซินอย่างช้าๆบุตรชายที่เขารักและไว้วางใจที่สุดกลับกลายเป็นผู้ที่กำลังผลักไสเขาไปสู่ความตาย!ร่างกายของท่านอ๋องที่อ่อนแรงอยู่แล้ว กลับยิ่งทรุดหนักลงกว่าเดิม ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากยอมรับความจริง ความรู้สึกเจ็บปวดและความสิ้นหวังได้กัดกินจิตใจของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ความเศร้าโศกที่ค่อยๆ กัดกินหัวใจของเขา ทำให้พิษร้ายที่แฝงอยู่ในร่างแทรกซึมลึกลงไปในทุกอณูของร่างกาย!หัวใจที่แตกสลาย…ร่างกายที่อ่อนแอ…ความเจ็บปวดจากพิษร้ายที่คืบคลานเข้าสู่กระแสโลหิต…ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังบั่นทอน ชีวิตของอ๋องฟู่หยางเซิน ไปทีละนิดจากชายผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยปกครองอำนาจเหนือผู้อื่น บัดนี้กลับต้อง นอนอยู่บนเตียงอย่างคนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ดวงตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยพลังและความเย่อหยิ่ง กลับกลายเป็นสายตาที่เหม่อลอย…เขารู้ดีว่า ตนเองกำลังจะตายแต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่ใช่ความตาย...แต่เป็นการตายด้วยน้ำมือของบุตรชายที่เขารักที่สุด!ความคิดสุดท้ายที่วนเวียนอยู่ในหัวของเขาคือ..."นี่หรือคือผลตอบแทนของข้า...?""นี่หรือคือจุดจบของอ๋องฟู่หยางเซิน?""ข้าเลี้ยงดูอสูรกายขึ้นมาเองแท้ๆ…"







